แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งตะวัน เมื่อ 2017-3-11 15:41
ทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ 43 ตอน ฉัตรทองศรีมงคลบุญ
 บุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 43 วันอาทิตย์ที่ 12มีนาคม2560 '' ทริป ฉัตรทอง ศรีมงคลบุญ '' สวัสดีค่ะ ดิฉัน อ.เจน ญาณทิพย์ ขอเชิญชวนทุกท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลทั้งหลายได้มาร่วมบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 43 ในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม2560 โดยปกติดิฉันจัดงานบุญช่วงปลายเดือนแต่เนื่องจากมีภารกิจงานบุญเกือบตลอดทั้งเดือนจึงกำหนดวันเป็นวันดังกล่าวนี้ค่ะ คืนก่อนออกเดินทางดิฉันได้นั่งสมาธิกำหนดจิตอธิษฐานขอให้เทวดานำพาไปทำบุญที่เป็นบุญที่ใหญ่มีอานิสงส์บุญมาก โดยขอให้เทวดาชี้ทางให้ดิฉันได้รู้และได้เดินทางไปยังวัดแห่งนั้นด้วยซึ่งดิฉันได้เห็นเป็นภาพในนิมิตพระพุทธรูปสีทองที่มีลักษณะอย่างไรดิฉันจดจำไว้ เมื่อออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นเป็นการเดินทางค่อนข้างไกลและได้พบเจอพระพุทธรูปตามที่เห็นในนิมิตค่ะ ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกที่เราจะได้ทำบุญกันค่ะ
สถานที่แรก ถวายฉัตรใหญ่กลางแจ้ง สถานที่แห่งแรกที่ดิฉันเดินทางมาถึงก็ได้พบเห็นพระพุทธรูปสีทองเหมือนในนิมิตแต่องค์ท่านมีความสมบูรณ์ทุกประการไม่เห็นสิ่งใดที่จะต้องมาทำบุญเลยทำไมเทวดาจึงให้ดิฉันมาที่นี้ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่ขาดหายไปนั้นคือ ฉัตรที่หักชำรุดและกองอยู่กับพื้นจึงได้รู้ว่า เทวดาท่านให้ดิฉันมาทำบุญสิ่งใดที่นี้ค่ะ ซึ่งดิฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ทำการสร้างบุญใหญ่ถวายฉัตรใหญ่และที่สำคัญพระพุทธรูปองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มากสร้างมาอายุ 35 ปีแล้วใต้ฐานพระบรรจุพระอรหันตธาตุ 108 องค์ และทิศที่พระพุทธรูปหันเป็นทิศที่ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่จะมาทำลายพระพุทธศาสนา และการถวายฉัตรหาได้ยากส่วนมากก็จะมีผู้คนถวายกันแล้วและการถวายฉัตรเป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญสูงมากมักจะมีผู้คนมีเจตนาถวายกันค่ะ อานิสงส์บุญถวายฉัตร "ร่ม" หรือ "ฉัตร" เปรียบเสมือนกับการให้ความร่มเย็น ซึ่งการที่ท่านได้มีร่ม ฉัตร ปกคลุมพระพุทธรูปที่อยู่กลางที่แจ้งเพื่อเป็นพระพุทธบูชานั้น ไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใด ท่านจะเป็นผู้ที่ได้รับแต่ความสุขได้เสวยสุขนานัปการ คือ เมื่อยามที่จะต้องหนาวหรือจะต้องร้อนท่านก็จะไม่หนาวไม่ร้อน เมื่อยามที่ต้องมีภัยอันตรายก็จะพ้นเหตุนั้นไปได้ จะเป็นผู้ที่มีอำนาจวาสนาผู้คนรักใคร่ยำเกรง จะเป็นผู้ที่มีมีผิวพรรณดี เป็นผู้มีน้ำใจกว้างขวาง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีจิตใจที่ร่มเย็นเป็นสุขฯลฯ จากที่กล่าวมาแล้วยังมีอานิสงส์บุญอีกมากค่ะ ดังนั้น จึงหาวัดที่ถวายฉัตรยากค่ะ ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสและเป็นบุญใหญ่ที่ดิฉันจะนำพาทุกท่านไปร่วมบุญกันและบุญถวายฉัตรเป็นบุญที่เกี่ยวกับยศตำแห่งหรือธุรกิจที่ต้องขยับขยายกิจการดิฉันจึงขอเชิญชวนบุญนี้ค่ะ
วัดที่สอง ห่มผ้าพระเจดีย์ ดิฉันเดินทางผ่านมาที่วัดแห่งที่สองเหมือนเทวดาดลใจให้เดินไปสำรวจดู จึงพบพระเจดีย์ที่ทรุดโทรมมาก แต่ในญาณวิถีของดิฉันบ่งบอกว่าข้างนอกไม่น่าดูชมแต่ภายในพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ภายในค่ะ และที่สำคัญพระเจดีย์แห่งนี้อยู่มาก่อนสมัยรัชกาลที่ 5แล้วค่ะมีร้อยเป็นร้อยๆปี ซึ่งเจดีย์มีประวัติมากมายดิฉันจำนำทุกท่านอธิษฐานจิตและขอขมากรรมค่ะ ก่อนหน้าที่ดิฉันมาสำรวจได้มีพิธีหล่อรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรมรังสี ดังนั้นดิฉันจึงได้ขออนุญาตทางวัดเพื่อขอห่มพระเจดีย์แห่งนี้ค่ะ เนื่องจากการห่มพระเจดีย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชานั้น เปรียบเสมือนท่านได้ห่มคลุมผ้าไตรจีวรต่อพระพุทธองค์โดยตรง การทำบุญห่มพระเจดีย์เป็นบุญใหญ่ได้อานิสงส์แรงกล้า และหากผู้ใดได้รู้เรื่องนี้แล้ว หากมีโอกาสได้ถวายผ้าห่มพระเจดีย์ ในขณะถวาย ขอให้ท่านกำหนดจิตว่ากำลังถวายผ้าห่มเพื่อเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง ด้วยอานิสงส์บุญนี้ จะทำให้ครอบครัวของท่านเป็นผู้ที่มีรากฐานมั่นคงเสมือนฐานของพระเจดีย์ที่มีฐานมั่นคง ท่านจะมีชื่อเสียง มีปัญญาเฉลียวฉลาดมีสติปัญญาดี สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปด้วยดีชีวิตของท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง และมั่นคงตลอดกาลค่ะ และยังมีอานิสงส์บุญอีกมาก เพราะไม่ว่าจะเกิดภพชาติใดบุญกุศลนี้ก็จะติดตามท่านไปค่ะ การห่มผ้าพระเจดีย์จะสามารถตัดวิบากกรรมเก่าของท่านให้ลดลงได้โดยดิฉันจะเป็นผู้นำตัดกรรมให้กับทุกท่านค่ะ นอกจากนี้ดิฉันเห็นในญาณวิถีว่าสถานที่แห่งนี้เกี่ยวข้องกับเส้นทางเดินทัพเกี่ยวข้องกับทหารและการสู้รบในอดีตชาติจึงรู้สึกดีใจค่ะที่ได้มีโอกาสมาพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ค่ะ
วัดที่สาม ทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างศาลการเปรียญ
สำหรับวัดแห่งที่สามนี้ ดิฉันเข้าไปสำรวจวัดแห่งนี้เพราะต้องการสร้างบุญวิหารทานด้วย ในญาณวิถีของดิฉันให้เข้ามาที่วัดนี้ แต่เมื่อเข้ามาก็ได้เห็นมีการตั้งเสาเอกเหมือนกำลังจะทำการก่อสร้าง ซึ่งได้รับทราบจากท่านเจ้าอาวาสว่าที่วัดกำลังเริ่มสร้างศาลาการเปรียญ เนื่องจากศาลาหลังเดิมที่มีอยู่คับแคบผู้คนที่มาทำบุญที่วัดมีเป็นจำนวนมากแต่ไม่มีสถานที่ไว้รับรองผู้ที่มาทำบุญพอค่ะ ซึ่งเดิมได้ใช้สถานที่เมรุเผาศพต่อหลังคาต่อพื้นทำเป็นศาลายื่นออกมาเพื่อให้ได้รองรับคนทำบุญได้เท่านั้น แต่หลวงพ่อได้เก็บเงินสะสมจากที่มีผู้บริจาคกฐินและผ้าป่าต่างๆ มีเงินสะสมแต่ไม่เพียงพอที่จะสร้างศาลาฯ ที่มีมูลค่ามาก แต่ถ้าหากจะต้องรอเก็บสะสมเงินจนครบย่อมเป็นไปได้ยาก แม้จะไม่มีเงินพอแต่ก็เริ่มสร้างไปก่อนมิเช่นนั้นก็จะไม่ได้สร้าง เนื่องจากนับวันค่าแรงงานค่าสิ่งปลูกสร้างก็ขึ้นราคาอาจจะไม่ได้สร้างเงินที่เก็บสะสม หลวงพ่อจึงตัดสินใจสร้างทั้งที่เงินยังไม่พร้อมคือมีเท่าไหร่ได้เท่านั้นไปก่อนค่ะ แต่ดิฉันได้เห็นในญาณวิถีว่าในอนาคตที่วัดแห่งนี้จะเจริญรุ่งเรืองเพราะได้เห็นแสงสว่างที่วัดแห่งนี้ด้วยค่ะ ดังนั้น คณะบุญของเราอาจจะเป็นคณะที่เป็นผู้เริ่มให้เจ้าอาวาสได้เห็นพลังบุญของคณะบุญเสบียงสวรรค์และมีแรงกายแรงใจก่อสร้างศาลาการเปรียญจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีค่ะ ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้แจ้งจำนวนผู้ร่วมบุญให้แก่ท่านเจ้าอาวาสทราบเพราะไม่ทราบว่าในระยะเวลาที่กระชั้นชิดนี้จะมีจำนวนคนมากน้อยเพียงใด แต่ถ้ามีจำนวนคนมากทางวัดก็ได้ปัจจัยเงินมากค่ะ อานิสงส์การสร้างศาลาการเปรียญ ถวายแด่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนามีอานิสงส์มาก เพราะเป็นบุญสาธารณะเพื่อให้พระสงฆ์ และ ฆราวาส ได้ใช้ประกอบกิจทางศาสนา ด้วยบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายทำบุญกับสวนสาธารณะ หรือที่สาธารณประโยชน์ถ้ามีโอกาสทำบ่อยๆ ก็เปรียบสะเสมือนการสะสมเสบียงบุญของเราค่อย ๆ เต็มให้เต็มจนบุญนั้นล้นออกมาค่ะ เพราะบุญนั้นใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่มค่ะ
ดิฉันขอเชิญชวนทุกท่านได้มาร่วมบุญกับทริปนี้ เพราะในแต่ละบุญในแต่ละวัดมีการทำบุญที่ไม่ซ้ำกันและมีอานิสงส์บุญมากทุกบุญค่ะ การที่ดิฉันตั้งใจจัดสรรมาให้โดยการอธิษฐานจิตให้เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาดลจิตดลใจและช่วยนำพาไปหาบุญนั้น ๆ ดิฉันถือว่าเป็นความกรุณาของเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นะค่ะ เพราะแม้แต่เทวดาท่านก็ยังต้องการบุญกุศลจากพวกเราท่านจึงนำพาไปเมื่อเราเป็นมนุษย์ที่มีโอกาสได้ทำบุญแล้วก็อย่าได้ประมาทกันนะค่ะ และดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่บริจาคและผู้ได้มาร่วมบุญกันในครั้งนี้ค่ะ
อ.เจน ญาณทิพย์
| 
โพสต์เมื่อ 2017-3-3 11:05:33
เพิ่มในรายการโปรด
Facebook
Twitter
Google+
แบ่งปัน
โพสต์เมื่อ 2017-3-11 00:47:54
ลำดับที่ 26 lekjungnarak
เจ้าของ