
สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดมาเล่าเรื่องเหลือเชื่อสุดแสนมหัศจรรย์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะงานนี้ เพราะนี่คือเรื่องราวที่ อ.เจน ได้เล่าให้จี๊ดฟังและจี๊ดก็รับฟังอย่างตื่นเต้น ขอบอกว่าจี๊ดก็พลอยตื่นเต้นตามไปด้วยจริง ๆ ค่ะ เพราะการเซอร์เวย์ในครั้งนี้นะคะ อ.เจน ก็ไม่รู้ว่าจะไปจังหวัดใด แต่ อ.เจน ก็มีอยู่ไว้ในใจแล้วว่า ต้องทำบุญกับวัดที่มีพระอริยะสงฆ์องค์นี้ และไม่น่าเชื่อเมื่อ อ.เจน ให้คุณรุ้งช่วยเลือกจังหวัดในแผนที่ประเทศไทย คุณรุ้งก็ชี้อยู่ที่จังหวัดนี้ที่เป็นจังหวัดที่มีพระอริยะสงฆ์องค์นี้อยู่จริง ๆ ด้วยค่ะ หลังจากนั้น อ.เจน ได้นั่งสมาธิอีกครั้งเพื่อความมั่นใจและได้เห็นภาพตามในนิมิตเห็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจี มีเสียงเทวดาบอกว่าให้พาพ่อแม่มาแล้วจะดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีอย่างไรต้องไปเหยียบสถานที่นั้นจริง และเชื่อหรือไม่ว่า อ.เจน ได้ไปพบสถานที่ที่มีหญ้าสีเขียวจริง ๆ ด้วย เห็นมั้ยละสุดยอดเลยค่ะ วัดที่หนึ่ง ตามเส้นทางที่ อ.เจน เดินทางไปตามหาวัดก็ยิ่งสร้างความมั่นใจของ อ.เจน เข้าไปอีกค่ะ จี๊ดงี้ฟังแล้วตื่นเต้นมาก อ.เจน บอกว่าการเดินทางไปครั้งนี้ไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิดนะคะ อ.เจน ได้ให้ลูกศิษย์ขับรถไปยังจังหวัดนั้น แต่ปรากฏว่า ขับรถวนไปหลายรอบพบเจอแต่วัดที่มีการสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาที่เขาเรียกว่าวัดอลัชชี แทบทั้งสิ้น แต่ อ.เจน ก็หาจนพบเจอ ไม่ท้อใจ เกือบครึ่งวันแล้วผ่าน วัดมาก็หลายวัดก็ไม่ใช่แทบทั้งนั้น แต่ก็ได้ไปพบกับวัดแห่งหนึ่งมีการเตรียมจัดงานของวัดอยู่ มีการทดสอบเครื่องเสียงดังลั่นเชียวค่ะ อ.เจน เห็นอย่างนั้นก็ใคร่จะรู้ว่าวัดนี้เขากำลังทำอะไรกัน ก็จอดรถ ลูกศิษย์เก่งก็เก่งสมชื่อรีบกระโดดลงจากรถทันทีเพื่อจะไปเข้ากราบนมัสการพระสงฆ์ แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เมื่อเกิดมีพายุหมุนมาวนอยู่เฉพาะรถของ อ.เจน มันหมุนอยู่รอบรถ ฝุ่นสีน้ำตาลคล้ายดินสีแดงจากพื้นลอยขึ้นมา และหมุนเป็นลมพายุที่รุนแรงมาก จนน้องเก่งตกใจวิ่งกลับขึ้นมาที่รถ อ.เจนก็ตะโกนให้ปิดรถ เข้ามาในรถก่อน นี่ไม่ใช่พายุหมุนธรรมดา แต่เมื่อ อ.เจน ใช้ญาณวิถีตรวจดูจึงรู้ได้ว่านี่เป็นอิทธิฤทธิ์ของพระอริยะสงฆ์ท่านช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก จี๊ดฟังแล้วอดที่จะตื่นเต้นเสียไม่ได้เสียดายไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากต้องรักษาอาการเจ็บป่วยของตัวเอง ให้หายเสียก่อน เสียดายมากจริง ๆ น้องดาเองยังบอกตื่นเต้นมากไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนค่ะ สักพักลมพายุนั้นหยุดชะงักเฉยเลยค่ะ หลังจากนั้น อ.เจน ได้เห็นรูปปั้นทองเหลืองเป็นพระสงฆ์องค์ใหญ่ สูงเด่นเป็นสง่า น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก ดังนั้น น้องดา น้องเก่ง ก็ลงจากรถไปพร้อมกับอ.เจน ได้เดินไปหาชายชาวบ้านลักษณะแต่งตัวภูมิฐาน จึงสอบถามว่า พระสงฆ์องค์ใหญ่ที่พบเบื้องหน้า อยู่นั้นเป็นใครหรือคะ ชายคนนั้นก็ตอบกลับมา อ.เจน ก็ถามต่อว่าทางวัดกำลังมีโครงการจะ ก่อสร้างทำอะไรบ้างคะ เขาตอบว่ากำลังสร้างแพริมน้ำ แล้วก็ชี้มือไปยังทิศทางนั้น โดยแพ ริมน้ำนี้จะสร้างเพื่อให้ชาวบ้านมาขึ้นท่าแพนี้เพื่อความสะดวก หากมาทางน้ำจะได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในการมาวัดทำบุญค่ะ จี๊ดฟังแล้วปลื้มปิติใจแทนทุกท่านเสียไม่ได้ค่ะที่ อ.เจน จะทำบุญแพให้กับ ทางวัดอีกแล้ว ซึ่ง อ.เจน ก็เดินไปดูท่าแพที่ทางวัดจะสร้าง ซึ่งทางซ้ายมือมีบันไดไม้พาดลงไปในน้ำ และขวามือมีกระชังเลี้ยงปลาซึ่งชาวบ้านกำลังจับปลาอยู่ อ.เจน จึงเห็นว่า หากได้สร้างเรือนแพบริเวณ ตรงนี้ก็จะกลายเป็นเขตอภัยทาน ชาวบ้านก็จะไม่มาดักจับปลาอยู่บริเวณนี้เป็นแน่ จี๊ดฟังแล้วก็อด อนุโมทนาบุญไปกับ อ.เจน ด้วยไม่ได้ค่ะ มันสุขใจค่ะเพราะการฆ่าสัตว์โดยชาวบ้านไม่เข้าใจ คิดว่าเอามาเลี้ยงชีพ แต่นั่นมันเป็นกรรม ๆ จริง ๆ ค่ะ จี๊ดรู้ดี คนที่มาตรวจกรรมกับ อ.เจน ที่เจ็บป่วยนั้น ต่างฆ่าสัตว์ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นค่ะ มันเศร้าใจมากนะคะ เมื่อ อ.เจน คิดแล้วว่าจะทำบุญเรือนแพและปิติใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมากที่จะได้นำพาทุกท่านมา ทำบุญใหญ่นี้ด้วยกัน จึงได้เดินทางไปพบกับพระสงฆ์ที่ยืนและนั่งกันอยู่ 3 รูป จึงได้สอบถามเพราะ เห็นว่าทางวัดกำลังจะสร้างเรือนแพ หลวงพ่อท่านก็อธิบายเพื่อเติมว่า ถูกต้องแล้วโยม ทางวัดมีเจตนาเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ผู้มาทำบุญจะได้เลี้ยงอาหารปลาต่าง ๆ พระสงฆ์จะได้ เปลี่ยนบรรยากาศปฏิบัติธรรม และเพื่อความสะดวกสบายของชาวบ้านที่จะมาทำบุญทางน้ำและทางบกค่ะ จี๊ดก็เห็นว่าเออจริงสินะ และยิ่งวัดนี้มีพระอริยะสงฆ์ที่สุดยอด ขอบอกว่าเมื่อไปถึงทุกท่านก็ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สุดยอดของพระเกจิอาจารย์จริง ๆ ที่กล้าพูดเพราะจี๊ดรู้แล้วไง ขนาดบารมีของท่านทำให้เห็นเหตุการณ์ให้เป็นประจักษ์ต่อสายตาทุกคนแล้วอย่างที่เล่านั่นแหละค่ะ อ.เจน ได้สอบถามถึงงบประมาณการก่อสร้างเรือนแพ 1หลังนี้เป็นเงินเท่าไหร่ ทีนี้พวกชาวบ้าน ที่มานั่งฟังด้วยก็ตอบว่า เฉพาะค่าเรือนแพประมาณ 200,000 กว่าบาท ชาวบ้านบอกว่าวันนี้ ที่เห็นจัดเตรียมเครื่องเสียงกันอยู่นี้เป็นวันแรกที่จะจัดงานเพื่อหาเงินเข้าวัด สร้างเรือนแพ โดยจัดกันแค่วันนี้กับพรุ่งนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้สักกี่มากน้อย เพราะชาวบ้านก็ไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย ได้เท่าไหนก็เท่านั้น เมื่อ อ.เจน รับฟังดังนั้น จึงแจ้งแก่พระสงฆ์ว่าดิฉันจะนำพาคนมาหลายร้อยคน คาดว่าจะได้สร้างเรือนแพให้แก่ทางวัดจนสำเร็จจนได้ พวกชาวบ้านได้ยินดังนั้นต่างก็ดีอกดีใจ กันยกใหญ่ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า มีคนจะมาช่วยสร้างแพ บอกว่าจะรวบรวมเงินมาช่วยทางวัด แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งการที่ อ.เจน ได้แจ้งว่าจะมาช่วยและระบุวันที่แน่นอนคือ วันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค.2560 ก็ปิติใจกันมากค่ะ นอกจากนี้ อ.เจน ได้แจ้งเพิ่มเติมต่อไปว่า จะขอถวายรูปหล่อทำจากเรซิ่นขนาดเท่าองค์จริงของพระอริยะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของวัดนี้ ประดิษฐานไว้ในโบสถ์ เพราะไม่น่าเชื่อว่าที่ตั้งที่ว่างอยู่ตรงกลาง ทางวัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาไม่ให้ว่าง เหมือนกับจะรอตั้งพระพุทธรูปองค์ที่อ.เจน จะนำถวายนั่นเอง มาวันนี้ไม่ต้องสงสัยแล้ว พระสงฆ์ท่านยินดีมากเป็นที่สุดเพราะอะไร ก็เพราะท่านตั้งใจจะตั้ง พระอริยะสงฆ์องค์นี้ แต่ไม่มีปัจจัยเงินเพียงพอ มาวันนี้ อ.เจน มาเติมเต็มด้วยพลังบุญของทุกท่าน ซึ่งเจ้าอาวาส อายุ 87 พรรษา ท่านเดินมาที่หลัง ท่านได้รับทราบเรื่องก็อนุโมทนาบุญ กับคณะบุญของ อ.เจน ด้วยค่ะ จี๊ดหวังว่าทุกท่านจะปลื้มปิติขนลุกและน้ำตาไหลกันเป็นแน่จี๊ดเชื่อค่ะ เชื่อมากจริง ๆ ในมหาบุญกุศลนี้ อดที่จะขนลุกอดที่จะปิติสุขใจแทนทุกท่านไม่ได้ค่ะ ขากลับ อ.เจน ไปกราบสักการะพระองค์ใหญ่ที่ได้พบเห็นครั้งแรก เพราะรู้ว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ และมีอิทธิฤทธิ์มาก อ.เจน จึงคิดว่าจะทำการห่มผ้าพระท่านด้วยค่ะ โดยบอกกล่าวกับท่านว่า วันที่เท่าใดจะนำพาผู้คนมาทำบุญอะไรบ้าง โดยการมาครั้งนี้จะมีผู้คนจำนวนมาก หลังจากนั้น ก็ได้กราบลาท่านกลับ ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นรถ เกิดเห็นไฟประดับงานวัดที่ อยู่หลังเจดีย์ตกลงมา หลอดไฟแตกกระจายแบบไม่มีลมแม้แต่น้อย โดยไม่ทราบสาเหตุ มหัศจรรย์มั้ยเล่าค่ะ คณะที่ไปทั้งหมดหันไปมอง อ.เจน ก็เดินไปดู พอเดินไปดูก็พบเจดีย์ 2 องค์ ทำให้ อ.เจน นึกถึงการห่มผ้าพระเจดีย์ขึ้นมา เพราะพระเจดีย์ทั้งสององค์นั้นศักดิ์สิทธิ์มากภาย ในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่มีอายุเก่าแก่มากนับหลายร้อยปี ทางวัดทาสีใหม่ จึงไม่มีใครรู้ว่า เป็นเจดีย์เก่าแก่ แต่ อ.เจน รู้ในญาณวิถีจึงได้สอบถามพระสงฆ์ ท่านจึงตอบว่า ถูกต้องตามที่โยมได้รู้เห็นนั่นแหละ วัดที่สอง อ.เจน เล่าว่า มาถึงวัดที่สองก็เป็นเวลาที่เย็นโพล้เพล้แล้ว เมื่อมาถึงวัดที่สองแห่งนี้ไม่ พบพระสงฆ์และชาวบ้านเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนรออยู่ในรถ ฝูงหมาก็มาเห่าหอนกันรอบรถ จึงต้องใช้ผู้กล้า อ.เจน จึงส่งผู้กล้าคือ น้องเก่ง ขึ้นไปบนกุฏิพระ เพื่อสอบถามว่า ที่วัดแห่งนี้มีทำบุญใดบ้างครับ คำตอบคือ ทางวัดต้องการทาสีพระอุโบสถ์และกำแพงที่ล้อมรอบพระอุโบสถ์ แต่ยังขาดปัจจัย น้องเก่งจึงขอเบอร์โทรศัพท์จากพระท่านมา แล้วแจ้งแก่ อ.เจน ซึ่ง อ.เจน บอกว่าโบสถ์หลังนี้ สวยงามมากเหมือนสวรรค์บนดินก็ไม่ปาน ถ้าทุกท่านได้มาร่วมบริจาคปัจจัยซื้อสี เพื่อให้ทางวัดได้ทาสีกัน ก็นับว่าเป็นบุญวาสนายิ่งนัก หากจะลงมือทาสีกันเองก็เกรงจะไม่ทันกับเวลานะคะเนื่องจากระยะทาง และอะไรอีกหลายประการ แต่ทุกท่านก็ได้สร้างบุญสร้างกุศลเป็นล้นพ้นกันแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ อ.เจน บอกว่า ผู้ใดก็ตามที่มีเจตนาดีในการทำบุญทาสีพระอุโบสถ์ ทาสีกำแพง แม้จะไม่ได้เป็นผู้ลงมือเอง แต่ด้วยเจตนาบุญท่านได้แล้วค่ะ เพราะทางวัดเขาขาดจริง ๆ และไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใดท่านก็จะได้มีวิมานที่สวยงามวิจิตรตระการตาอย่างแน่นอน ด้วยแรงกำลังศรัทธา ด้วยพลังใฝ่บุญ ด้วยเจตนา และด้วยแรงใจของทุกท่านนับร้อยมา รวมกันเป็นหนึ่งของคณะบุญเสบียงสวรรค์ในครั้งนี้ท่านได้สร้างมหากุศลแล้วนะคะ ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงน้ำจิ้มนะคะ อาจจะมีงอกเงยกว่านี้แล้วแต่ความเหมาะสมที่ อ.เจน จะจัดให้ค่ะ แต่ขอบอกว่า ไม่ไปก็คงเสียดายแย่ แต่ที่จี๊ดต้องการจะบอกก็คือว่า อย่าช้านะคะ หนึ่งเดือนมีงานบุญกะเขาสักครั้ง เรามาร่วมด้วยช่วยกันนะคะ จี๊ดอยากให้การสร้างบุญสร้างกุศล ทั้งสองวัดนี้เป็นบุญที่สำเร็จตามเป้าหมาย และที่ผ่านมางานบุญเสบียงสวรรค์ของ อ.เจน แทบทุกทริปเป็นบุญที่สำเร็จมาแล้วหลายแห่ง ยังมาซึ่งความภาคภูมิใจในบุญกุศลของพวกเรา กันมามากนะคะ หวนคิดทีไรก็สุขใจทุกที หวนคิดทีไรปลื้มใจในบุญค่ะ และสิ่งเหล่านี้ก็จะติดตราตรึงใจไปตราบนานเท่านานเชียวค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่มีใจเป็นกุศลและได้มาร่วมบุญด้วยกันมาก ๆ นะคะ จะได้เป็นบุญแห่งความสำเร็จนะคะ สาธุ สาธุ ค่ะ

|