ประกาศผังที่นั่ง (p.1) แต่ยังเปิดรับบริจาคปัจจัยทริป 72 ตอน เติมบารมี ตามเส้นทางพระอุปคุต

เจนญาณทิพย์

ประกาศผังที่นั่ง (p.1) แต่ยังเปิดรับบริจาคปัจจัยทริป 72 ตอน เติมบารมี ตามเส้นทางพระอุปคุต
(เปิดรับบริจาคปัจจัยทำบุญถึงวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. 62 ค่ะ)






สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ขอเชิญชวนผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 72 โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 16 ตอน "เติมบารมี ตามเส้นทางพระอุปคุต" ในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562 ในเดือนนี้ดิฉันจะมีงานบุญใหญ่อีกงานบุญหนึ่งค่ะ ซึ่งบุญที่ทำดังกล่าวนี้จะเป็นมหากุศลมากค่ะ เพราะดิฉันได้หาวัดที่มีพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึง 2 วัดค่ะ
ก่อนเดินทาง ดิฉันได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ดิฉันเดินทางไปหาวัดทำบุญยังจังหวัดแห่งหนึ่ง โดยขออำนาจแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ดิฉันนับถือทุกพระองค์ได้โปรดดลบันดาลให้ดิฉันได้พบกับวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ในอาวาสเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยพระสงฆ์จะต้องเป็นผู้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและไม่นอกรีดศาสนาสามารถสั่งสอนพระธรรมฯได้อย่างถูกต้องค่ะ ซึ่งในครั้งนี้ดิฉันตั้งใจจะนำพาผู้คนไปทอดผ้าป่าสามัคคีกับวัดที่กำลังเดือดร้อนขาดปัจจัยในการก่อสร้างวิหารทานต่าง ๆ ค่ะ




วัดที่ 1
ดิฉันได้ออกเดินทางจากบ้านมากันตั้งแต่เช้า จนกระทั่งเป็นเวลาที่โพล้เพล้ใกล้จะค่ำมืด จึงได้เดินทางมาพบกับวัดแห่งแรกนี้ค่ะ ซึ่งดิฉันได้พบเจอพระสงฆ์ 2 รูป กำลังกวาดใบไม้อยู่ เลยขออนุญาตท่านเข้าไปดูภายในศาลาการเปรียญเพราะเห็นว่า เคยมีการก่อสร้างค้างไว้ ยังไม่เสร็จค่ะ ดิฉันจึงได้ตรวจด้วยญาณวิถีแล้วรู้ได้ว่า ศาลาหลังนี้ได้สร้างมานานหลายปีแล้วแต่ยังไม่เสร็จ และจากการเดินสำรวจดูบริเวณวัดแล้วได้พบว่า มีศาลาการเปรียญหลังใหญ่พอสมควรที่ชั้นล่างมีการก่อสร้างใหม่ แต่ที่ด้านบนของหลังคาบางส่วนมีสีซีดเก่าและบางส่วนผุพังไปบ้างแล้วจากการที่ได้ทำการก่อสร้างมานาน และในส่วนของคาน บางส่วนดูเก่ามากค่ะ ซึ่งดูเหมือนกับว่ามีส่วนที่ใหม่ และส่วนที่เก่าสลับกันค่ะ จนทำให้คานปูนและเหล็กบางส่วนมีสนิมเกาะกินไปบ้างแล้วค่ะ

เมื่อเดินออกไปจากศาลาฯ ไปได้ไม่ไกลมากนัก ปรากฏว่ามีหินก้อนขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายหินที่อยู่บนยอดเขาคิชกูฏ ดิฉันจึงเดินเข้าไปดู และได้พบกับหินก้อนใหญ่และหินก้อนเล็กหลายลูกทับซ้อนกันอยู่ค่ะ ซึ่งจากสิ่งที่เห็นนั้นทำให้ดิฉันประหลาดใจมากค่ะ เพราะดิฉันไม่ค่อยพบเจอก้อนหินเหล่านี้อยู่ภายในวัดค่ะ ทั้งที่ดิฉันได้เดินทางไปหลายแห่งแล้วก็ยังไม่ค่อยได้พบเห็นก้อนหินแบบนี้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีก้อนหินหลายก้อนที่เป็นก้อนหินธรรมดาไม่น่าสนใจ แต่มีอยู่ก้อนหนึ่งที่ทำให้ดิฉันสนใจและพิจารณาโดยญาณวิถีก้อนหินก้อนนี้ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะเป็นหินรูปบาตรพระของพระอุปคุปต์ค่ะ และที่น่าอัศจรรย์ไปอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือมีล่องรอยของมือประทับอยู่บนหินก้อนนั้นค่ะ เพราะมีลักษณะของมือที่ทาบอยู่บนก้อนหินก้อนนั้นกำลังปิดบาตรอยู่ค่ะ ซึ่งสิ่งที่ดิฉันได้มองเห็นนี้มันเป็นปัจจัตตังที่รู้ได้เฉพาะตนค่ะ ดิฉันรู้ได้ว่า หินก้อนนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง ไม่มีผู้ใดนำมาวางไว้ได้ และที่มหัศจรรย์มากกว่านั้น ที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ทะเลเพียงไม่กี่กิโลค่ะ ซึ่งตามประวัติของพระอุปคุตท่านเคยบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ท้องทะเลหรือสะดือทะเลมาก่อนค่ะ


ดิฉันได้พบกับท่านเจ้าอาวาสท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงได้สอบถามท่านเจ้าอาวาสถึงเรื่องศาลาการเปรียญที่พบเห็นในครั้งแรก โดยท่านเจ้าอาวาสได้เล่าให้ฟังว่าได้สร้างมาแล้วประมาณ 20 กว่าปี และสาเหตุที่สร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาใหม่นั้นเพราะสร้างขึ้นมาทดแทนศาลาไม้หลังเก่า เพราะญาติโยมมาทำบุญกันมากขึ้น ศาลาเก่านั้นทำด้วยไม้เริ่มผุพังแล้ว จากการพูดคุยกับท่านเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระสงฆ์แบบชาวบ้านที่ดูเรียบง่าย พูดจาตรงไปตรงมาค่ะ ดิฉันจึงได้แจ้งความประสงค์ว่า ดิฉันจะนำคณะเสบียงสวรรค์กว่า 500 คนมาร่วมสร้างศาลาการเปรียญหลังนี้ตามกำลังศรัทธา เพื่อศาลาหลังนี้จะได้สร้างสำเร็จในเร็ววันค่ะ
นอกจากนี้ทางวัดกำลังก่อสร้างกองอำนวยการเพื่อให้ญาติโยมมาทำบุญโดยจะมีนำพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วันมาตั้งประดิษฐานไว้ที่กองอำนวยการนี้ ซึ่งจะมีการตั้งตู้ทำบุญต่าง ๆ และตั้งโต๊ะสำหรับประชาสัมพันธ์งานบุญต่าง ๆ ขณะนี้กำลังเริ่มก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วคงเหลือการเทปูนพื้นค่ะ

ในการนี้เป็นเรื่องที่ดีเป็นเรื่องของบุญที่ทุกท่านจะได้ร่วมใช้แรงกายและแรงใจด้วยมือทั้งสองของทุกท่านผู้ร่วมบุญนะค่ะ การที่ดิฉันเดินทางมาที่วัดนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ เพราะยังคงเหลือพื้นฐานรากของกองอำนวยการที่ยังทำไม่เสร็จ คงจะรอให้คณะเสบียงสวรรค์มาช่วยกันในครั้งนี้ค่ะ ดังนั้น ดิฉันจึงสั่งปูนคอนกรีตมาจำนวน 5 คิวเพื่อเทเป็นปฐมฤกษ์ในงานมหากุศลที่คณะเสบียงสวรรค์จะมาช่วยสร้างศาลาการเปรียญของวัดค่ะ

หลวงพ่อก็ยินดีและดีใจที่คนจากกรุงเทพ ฯ จะมาช่วยกันทำงานในครั้งนี้ และดีใจที่คนจำนวนมากจะมาร่วมบุญกันค่ะ
ก่อนลากลับ หลวงพ่อท่านแจ้งว่าพรุ่งนี้วันเข้าพรรษามีงานบุญที่วัดตอน 8.00 น. ซึ่งดิฉันและคณะเดินทางดีใจและยินดีไปร่วมงานทำบุญกับทางวัดค่ะ โดยได้กราบเรียนท่านเจ้าอาวาสไปว่าวันพรุ่งนี้จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมติดกับวัดพอดีค่ะ พรุ่งนี้จะมาทำบุญที่วัดค่ะ และเช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันเข้าพรรษาคณะของเราได้ไปทำบุญถวายภัตตาหารเช้าที่วัด ได้พบกับชาวบ้านจิตใจดียิ้มแย้มและมุ่งมั่นในการทำบุญค่ะ ดิฉันก็ดีใจที่จะได้นำพาทุกท่านมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ค่ะ ซึ่งจากการร่วมทำบุญกับชาวบ้านจึงพบว่าทางวัดยังขาดถาดใบใหญ่เพื่อใช้สำหรับวางถ้วยชามและช้อนเพื่อความสะดวกในการยกถวายถวายพระสงฆ์ค่ะ ที่วัดนี้มีเพียงถาดถึง 10 ใบเท่านั้น ถ้วยชามน้อยมากค่ะ ดิฉันตั้งใจว่าจะนำมาถวายในคราวที่จะมาทอดผ้าป่าฯ ค่ะ

กิจกรรมบุญ
⁃ ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาการเปรียญ
⁃ ร่วมกันเทปูนด้วยแรงกายแรงใจ
⁃ ถวายเทียนพรรษา ขนาด 15 x 150 ( หล่อเอง ) เป็นเทียนของคณะเสบียงสวรรค์
⁃ ถวายเครื่องสังฆทาน





วัดที่ 2
ดิฉันได้เดินทางไปอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งได้พบเจอวัดที่เมื่อมองดูแล้วมีความรู้สึกสบายใจ อยากที่จะเข้าไปที่วัดแห่งนี้ จึงได้ลงจากรถยนต์ออกมาเดินสำรวจดู และเกิดลมเย็นพัดเข้ามาทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว ระหว่างเดินทางผ่านซุ้มวัดเข้ามาเกิดฝนตกลงมาเบา ๆ เป็นละอองฝนทั้ง ๆ ที่แสงแดดร้อนมาก พี่จี๊ดตกใจพูดว่าแปลกจริง แดดแรง ทำไมถึงฝนตก ดิฉันรู้ในญาณวิถีแล้วค่ะจึงพูดกับพี่จี๊ดไปว่า เทวดาดีใจค่ะ หลังจากที่ได้พบเจอหลวงพ่อองค์หนึ่งท่านดูน่าเสื่อมใสมากค่ะ ดิฉันจึงได้แจ้งท่านไปว่าจะมาถวายเทียนพรรษา และถวายเครื่องสังฆทาน ท่านก็ได้ทำการจดบันทึกลงในสมุด ดิฉันเห็นพระสงฆ์องค์นี้ท่านดูมีสง่าราศี ซึ่งรู้ได้ในญาณวิถีว่าท่านเจ้าอาวาสเป็นพระปฏิบัติ เป็นพระนักพัฒนา และเป็นพระนักเทศน์สั่งสอนธรรมะค่ะ

ดิฉันเกิดความเสื่อมใส ศรัทธาพระสงฆ์รูปนี้มากค่ะ จึงสอบถามท่านไปว่าทางวัดกำลังก่อสร้างสิ่งใดอยู่หรือค่ะ ท่านจึงแจ้งว่ากำลังสร้างหอฉัน ดังนั้น ดิฉันจึงแจ้งท่านไปค่ะว่า ดิฉันจะนำผู้คนจำนวนประมาณ 500 คน เป็นคณะบุญเสบียงสวรรค์จากกรุงเทพฯ เพื่อมาทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างหอฉัน ถวายเทียนพรรษา และถวายเครื่องสังฆทานต่าง ๆ และพร้อมกันนี้ดิฉันจึงนิมนต์ท่านเทศน์เรื่องอานิสงส์ในการทำบุญจะได้บุญอย่างไร ท่านเจ้าอาวาสได้อนุโมทนายินดีกับคณะบุญของเราด้วยค่ะ

วันที่เดินทางมาเซอร์เวย์นี้เป็นวันอาสาฬหบูชา โดยวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันเข้าพรรษาค่ะ ในวันนั้นดิฉันได้พบเห็นอุบาสก อุบาสิกา เป็นจำนวนหลายท่านเดินออกมาจากโบสถ์ หลังจากที่ได้สวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดิฉันดีใจค่ะ ที่มาวัดนี้ถูกต้องแล้ว จึงได้แจ้งเรื่องสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดฝนตก ทั้งที่ยังมีแสงแดดที่ร้อนมาก ก่อนที่จะมาพบกับหลวงพ่อ ท่านยิ้มแล้วตอบว่า เทวดาดีใจนะโยม


กิจกรรมบุญ
⁃ ทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างหอฉัน
⁃ ถวายเทียนพรรษา ขนาด 15 x 150 ( หล่อเอง ) เป็นเทียนของคณะเสบียงสวรรค์
- ถวายเครื่องสังฆทานต่าง ๆ


การร่วมบุญ ดังนี้ค่ะ
⁃ กองทุนละ 2,000 บาท
⁃ ตามกำลังศรัทธา


อานิสงส์สร้างวิหารทาน คือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เช่น การสร้างวิหาร ศาลา หอฉัน หอระฆัง ห้องน้ำ เป็นต้น

องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่า  “การถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก” โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า"แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 100 ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว" "แม้การถวายสังฆทาน 100 ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการถวายวิหารทานครั้งเดียว"  

“การทำบุญโดยการสร้างเสนาสนะทาน เพื่อพระสงฆ์หรือญาติโยมที่มาทำบุญได้ใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ศาลา หอฉัน ห้องน้ำ ฯลฯ หากมีผู้ใช้ประโยชน์เมื่อใด คนสร้างก็ได้บุญเมื่อนั้น ได้ไปเรื่อย ๆ ส่งผลไปให้ตลอดเหมือนเงาติดตามตัว จนกว่าสิ่งนั้นจะไม่สามารถใช้การได้หรือผุพังลงไปแล้ว

แม้ว่าเราตายจากโลกนี้ไปแล้ว บุญนั้นก็จะตามไปส่งผลให้เรา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม บุญนั้นเป็นสมบัติของเราผู้สร้างบุญ เป็นสมบัติเฉพาะของคน ๆ นั้น ไม่สามารถที่ใครที่จะสามารถลักขโมยเอาไป ปล้นเอาไป ทำตกหล่นหายไป หรือพินาศจากภัยต่าง ๆ ได้ เหมือนกับทรัพย์ภายนอกทั่วไป และจะยังติดตามเราข้ามภพข้ามชาติไป เราจึงควรสะสมบุญ อันเป็นทรัพย์ภายในเอาไว้ ”

อานิสงส์การถวายเทียนพรรษา  การถวายเทียนพรรษาเป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุต้องจำพรรษาในอาวาสของตน 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้น เมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ส่งผลให้ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงส์ คือ

1. ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
2. ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ
3. ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
4. เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
5. ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
6. เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
7. เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
8. หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน


ดิฉันขอเชิญชวนทุกท่านไปร่วมบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 72 โครงการเคลือบสนิมครั้งที่ 16 ตอน ‘’เติมบารมี ตามเส้นทางพระอุปคุต “ ในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562 ทั้งนี้ ดิฉันจึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญทุกท่านและขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

อาจารย์เจน ญาณทิพย์

Aphicha

นายอภิชา​ สุ่ม​มาตย์​ จอง​ 2 ที่ครับ

รุ้งตะวัน

ต้นฉบับโพสต์โดย Sunshineday เมื่อ 2019-8-3 06:58
ชื่อคุณตาว จอง 2 ที่ ค่ะ

ลงชื่อจองให้แล้วค่ะ สามารถโอนเงินค่าเดินทางได้เลยค่ะ ค่าเดินทางทริป 72 ท่านละ 900 บาทค่ะ หมดเขตการโอนเงินค่าเดินทางวันพุธที่ 14 สิงหาคมค่ะ

Sunshineday

ชื่อคุณตาว จอง 2 ที่ ค่ะ

รุ้งตะวัน

ต้นฉบับโพสต์โดย Patchsaratip เมื่อ 2019-7-30 13:11
จอง​2​ที่ค่ะ​ ภัสสราทิพย์​  บุญศรี

ลงชื่อจองให้แล้วค่ะ สามารถโอนเงินค่าเดินทางได้เลยค่ะ ค่าเดินทางทริป 72 ท่านละ 900 บาทค่ะ หมดเขตการโอนเงินค่าเดินทางวันพุธที่ 14 สิงหาคมค่ะ

รุ้งตะวัน

ต้นฉบับโพสต์โดย sunflower เมื่อ 2019-7-30 12:38
สุนันทา(นุ้ย) จอง 1 ที่ค่ะ / ขอบคุณค่ะ

ลงชื่อจองให้แล้วค่ะ สามารถโอนเงินค่าเดินทางได้เลยค่ะ ค่าเดินทางทริป 72 ท่านละ 900 บาทค่ะ หมดเขตการโอนเงินค่าเดินทางวันพุธที่ 14 สิงหาคมค่ะ

Patchsaratip

จอง​2​ที่ค่ะ​ ภัสสราทิพย์​  บุญศรี

sunflower

สุนันทา(นุ้ย) จอง 1 ที่ค่ะ / ขอบคุณค่ะ

pinpinutt

อ่านเรื่องราวแล้ว อยากให้ถึงวันไปทำบุญเร็วๆ จัง   

รุ้งตะวัน

ต้นฉบับโพสต์โดย Onnarin เมื่อ 2019-7-29 10:10
อรนรินทร์ จอง 2 ที่ค่ะ

ลงชื่อจองให้แล้วค่ะ สามารถโอนเงินค่าเดินทางได้เลยค่ะ ค่าเดินทางทริป 72 ท่านละ 900 บาทค่ะ หมดเขตการโอนเงินค่าเดินทางวันพุธที่ 14 สิงหาคมค่ะ