เริ่มจากเรื่องของอาจารย์เจนก่อนดีกว่านะค่ะ เป็นเรื่องที่จี๊ดคิดว่ารู้สึกสงสารอาจารย์เป็นอย่างมากก็อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะก็อย่างที่รู้รู้กันอยู่ว่า หนึ่งเดือน อ.เจน จะเปิดบ้านตรวจกรรมสักครั้งหนึ่ง คือคนส่วนมากมักจะเข้าใจผิด คิดว่าที่บ้านทำเป็นธุรกิจเหมือนกับใครๆ เขาแต่ไม่ใช่น่ะค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ อ.เจนก็ได้กำหนดกติกาการขอเข้ารับการตรวจกรรมโดยต้องโทรจองทุกวันที่ 3 ของเดือน ผู้ที่รับโทรศัพท์ก็จะเป็นพี่สาว อ.เจน(คุณรุ้ง) หรือไม่ก็เป็นทีมงานที่ได้รับมอบหมาย เมื่อมีสายตอบรับแล้ว ผู้โทรติดก็จะได้รับแจ้งว่าในเดือนนี้ท่านจะได้มา ตรวจกรรมวันที่เท่าไหร่ เวลาใด และการเข้ารับตรวจกรรมก็จะเข้าเป็นกลุ่มนะไม่ได้ดูส่วนตัว การเตรียมตัวก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมา นอกจากเตรียมใจมาเท่านั้น เพราะ อ.เจน ตรวจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายถ้าเป็นคนอื่นเขาหากินทำ เป็นธุรกิจร่ำรวยกันไปนานแล้ว แต่เนื่องจาก อ.เจนได้เห็นกรรมของ ผู้คนมาเป็นจำนวนมาก จึงเข้าใจดีว่าการช่วยเหลือผู้อื่นก็เป็นบุญก็ ไม่ได้หวังอะไรมากคือ ส่วนแรก อ.เจน ได้ทำบุญกับผู้ที่มีความทุกข์คลี่คลายปัญหา ของตนเองไม่ได้ส่วนที่สอง การให้คำแนะนำให้ผู้ที่มาตรวจกรรมไป ทำความดีต่อยอดหรือปรับเปลี่ยนตนเองเสียใหม่ ในทางที่ดี หรือ อาจกลายเป็นผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลต่อไป ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ต่างหากที่ อ.เจน ต้องการ แต่การตรวจกรรมนั้น จะมีพานให้ใส่เงินที่ไม่มีการบังคับแล้วแต่จะให้เนื่องจากในส่วนนี้ อ.เจน ต้องนำไปทำบุญทั้งหมดไม่ได้นำไปใช้จ่ายอะไร สมัยก่อนนั้น อ.เจน ตรวจกรรมทีละคนตรวจกรรมเสร็จเกือบสองยาม ข้าวปลาไม่ได้กินค่ะ บางครั้งถึงกับเป็นลมหน้ามืดไปเลย ก็มีค่ะเพราะ อ.เจน ตรวจกรรมให้กับผู้คนก็ไม่ค่อยจะกินข้าว อ.เจน บอกว่าเกรงใจคนที่มารอตรวจกรรมอยากจะดูกรรมให้เสร็จเรียบร้อยถึงจะ กินข้าวได้สบายใจ แต่คนที่มาตรวจกรรมนี่สิค่ะเขาไม่เกรงใจใครเลยค่ะ จะซักถามอยู่อย่างนั้นวนเวียนอยู่อย่างนั้น เมื่อไหร่จะร่ำรวยเมื่อไหร่ชีวิตจะดีขึ้น ต่อไปชีวิตเขาจะเป็นยังไงบ้าง สารพัดที่จะถามทำให้การตรวจกรรมของแต่ละคน ช่างเนินนานมากค่ะ
   
ต่อมา อ.เจนคิดว่า การตรวจกรรมให้แต่ละคนเขาก็รู้ของเขาอยู่คนเดียว อ.เจนจึงคิดว่าควรจะตรวจกรรมแบบหมู่เป็นกลุ่ม เพื่อให้คนที่มาตรวจกรรม แต่ละคนได้นำเรื่องที่ได้รับฟังกันในกลุ่มนั้นนำมาพิจารณาว่านี่คือผลหรือเหตุ แห่งกรรมและจะไม่อยากสร้างกรรมต่อไปอีก ซึ่งเรื่องราวของทุกคนนั้น อ.เจน ก็ได้ขออนุญาตให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้คนอื่นคนอนุญาตก็จะได้รับอานิสงส์บุญ ด้วยถ้าเขาได้นำเอาเรื่องราวของเราไปเล่าต่อให้คนเชื่อในการทำความดีอย่า ได้ทำผิดอีก
  
นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนกันดูว่าชีวิตของเรานั้นล้วนมีกรรมด้วยกันทุกคนและไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมไปได้ เมื่อรู้แล้ว ควรต้องทำอย่างไรให้ส่งผลถึงการอโหสิกรรมอ.เจน พูดเสมอว่า มนุษย์ทุกคน ที่เกิดมาย่อมมีกรรมติดตัวตามมาและจนทำให้เกิดเป็นความทุกข์นอกเสียจาก ว่าเราได้หาหนทางพ้นทุกข์ได้ด้วยนำหลักคำสอนของพระพุทธองค์มาปฏิบัติตามค่ะ
 
จากที่สังเกตคนส่วนมากมักก็จะคิดถึงแต่เรื่องของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น พูดง่าย ๆ คือคนเราเห็นแก่ตนเองมากกว่าผู้อื่น มียกตัวอย่างหลายเรื่องดังนี้ค่ะ 1.รอการเข้ารับตรวจกรรมนาน มีอยู่ครั้งหนึ่งอ.เจน ตรวจกรรมอยู่ที่ชั้นบน ของบ้าน คนที่อยู่ด้านล่างก็นั่งรอนานรู้สุกหงุดหงิด กับการรอคอยจึงคิดว่า อ.เจน ว่าทำไมนานอย่างนี้ เมื่อไหร่จะเสร็จ รอนานแล้วนะ อ.เจนสามารถรับรู้ได้ว่าเป็นใครที่มีจิตคิดอยู่อย่างนี้ ซึ่ง อ.เจนบอกว่าส่วนมาก จะเป็นอย่างนี้ แต่ป้าคนนี้เขาคิดวนเวียนแบบไม่พอใจมากทำให้มีผลกระทบ ถึงการรับรู้ในญาณของอ.เจน และทำให้ไปรบกวนสมาธิของ อ.เจน ในการดูกรรมของผู้อื่นอยู่ในขณะนั้นจึงได้โทรเรียกพี่สาวให้ขึ้นไปพบแล้วให้ ลงไปบอกป้าที่อยู่ด้านล่างหยุดคิดบ่นอีกเลยขอให้รออยู่อย่างใจเย็นป้าคน นั้นก็ตกใจรู้ได้ยังไงว่าเขากำลังคิดว่าอาจารย์อยู่จริง แต่เมื่อถึงคิวของตนเองก็ใช้เวลาไม่แพ้คนอื่นเลยเพราะป้าแกก็ซักถาม โดยละเอียด อ.เจน จึงสอบถามไปว่า เป็นไงอยากรู้ อะไรอีกมั้ยค่ะและเข้าใจหรือยังว่า ทำไมดิฉันจึงดูกรรมคนอื่นเขาชักช้า เพราะทุกคนก็เป็นเหมือนกับคุณป้านั่นแหละค่ะ 2. อ.เจนเจ็บป่วย บางครั้ง อ.เจนเจ็บป่วยระหว่างตรวจกรรม บางครั้งเสียง ที่จะพูดออกไปก็ไม่มีอยากจะนอนเสียเหลือเกิน ก็ต้องไม่ท้อถอยในการทำความดีค่ะ 3. กินน้อย เป็นเรื่องตลกขำขัน แต่ขำไม่ออกเรื่องมีอยู่ว่า เวลาที่ อ.เจน จะกินอะไรก็แล้วแต่เจ้าไมโลสุนัขแสนรู้ก็จะมานั่งหน้าเศร้าขอกินด้วยทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน อ.เจนกินโจ๊กหมู เจ้าไมโลหิวอะไรมาก็ไม่รู้ร้องขอแต่หมูสับในโจ๊ก อ.เจน ก็ให้ไมโลจนเหลือหมูสับเพียง 2 ชิ้นทีนี่ก็ถึงเวลาต้องเปิดบ้านตรวจกรรมแล้ว หากินเพิ่มไม่ทันแล้วค่ะ จี๊ดเห็นแล้วก็ขำแต่ก็เห็นว่า อ.เจนป่วยด้วยกินน้อยอีกด้วย จึงบอกให้ผู้ที่มารับตรวจกรรมที่บ้านในวันนั้นให้เข้าใจด้วยว่าวันนี้อาจารย์ป่วย และกินโจ๊กหมูไปนิดหน่อยเอง ทุกคนรับฟังนะค่ะแต่ก็รับฟังกันไปอย่างนั้น เมื่อถึงตอนตรวจกรรมทุกคนก็ซักถามแต่เรื่อง ของตนเองวนเวียนตามที่จี๊ดบอกนั่นแหละค่ะ เมื่อไหร่จะร่ำรวย เมื่อไหร่ชีวิตจะดีขึ้น ต่อไปชีวิตเขาจะเป็นยังไงบ้าง จากเองที่กล่าวมานี้เห็นแล้วก็รู้สึกปลงและมองเห็นเป็นธรรมมะ ว่า มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้หนอและสิ่งที่ควรรู้นะค่ะ ถ้า อ.เจน แนะนำให้ไปทำสิ่งใดก็ต้องไปทำก่อนและต้องทำอย่างสม่ำเสมอด้วย ถึงจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ยังไม่ได้กลับ ไปถึงบ้านของตนและปฏิบัติกับมาถามคำถามเมื่อไหร่ๆๆๆ... ซึ่งจี๊ดก็เข้าใจนะ คนมันทุกข์แต่เราก็ทุกข์กับทันมาตั้งนานแล้วนี่นา รอคอยก่อนดีมั้ย และ อ.เจน มักพูดเสมอว่าเมื่อพบเจอดิฉันแล้ว ได้รู้เหตุแห่งกรรมแล้ว ก็ไปปฏิบัติตามที่ดิฉัน แนะนำก่อน ต้องลองทำดูก่อนแล้วคุณจะเห็นว่าบุญนั้นมีจริงค่ะ ผลสรุปของการตรวจกรรมหมู่ได้ผลดีอย่างเกินคาดเพราะคนที่คิดว่าเรื่องของตนนั้น ทุกข์เสียเหลือเกินแต่เมื่อมาพบว่ายังมีเรื่องของคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราอีกอันนี้ เป็นเรื่องดีและก็มีพวกที่ชอบทดสอบ อ.เจน ต่างก็หงายท้องไปตาม ๆ กันว่า อาจารย์รู้ได้ยังไงรู้ลึกขนาดนี้เชียวหรือ ค่ะ รู้ได้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ จากเรื่องที่เล่ามาทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็อย่าได้ถือโทษโกรธกันเลยนะค่ะ เพียงแต่อยากจะบอกกล่าวว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ค่ะ
จี๊ดจ๊าด
 |