สวัสดีค่ะทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกับทริปบุญเสบียงสวรรค์อาจารย์เจนญาณทิพย์ครั้งที่ 26 ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2558 จี๊ดเชื่อว่าทุกท่านจะต้องประทับจิตประทับใจกับบุญที่ทุกท่าน ได้กระทำสำเร็จลงแล้ว เพราะว่าจี๊ดจะเล่าเรื่องตั้งแต่ก่อนที่จะไปงานบุญกันนะค่ะ
รอยพระบาทจำลองคู่ ตามที่ อ.เจน ได้เป็นประธานหล่อรอยพระบาทจำลองคู่ ด้วยตนเองและได้เกิดความมหัศจรรย์เหล่าเทพเทวาต่างก็มาร่วมอนุโมทนาบุญจากภาพที่ปรากฏ เป็นลำแสงสีขาวตามแนวเส้นของสายสิญจน์นั้นแหละค่ะเมื่อรอยพระบาทจำลองคู่นี้มาส่งที่บ้าน ก็เป็นเรื่องใหญ่ค่ะเนื่องจากในวันที่คนงานโรงหล่อ จำนวน 3 คน ได้นำรอยพระบาทส่งให้ถึงบ้าน น้องทีมงาน 2 คน ก็ไปช่วยกันยกรอยพระบาทซึ่งเรื่องนี้รู้จากน้องทีมงานนั่นแหละค่ะเพราะออกไป ซื้อของกับอาจารย์นอกบ้านกลับมาก็เห็นว่า...เละ...แล้ว บาดแผล..นะค่ะไม่ใช่อะไร โดย น้องเล่าให้ฟังว่า น้ำหนักรอยพระบาทนั้นหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ในระหว่างที่ยกรอยพระบาทอยู่นั้น ก็ยังไม่มีเหตุอะไร แต่น้องเขาคิดในใจว่า “โอ้โห...รอยพระบาทนั้นหนักมาก ถ้าหากยกไม่ไหวแล้วหล่นลงมาจะหนักมากขนาดไหนน้า” แค่คิดเท่านั้นนะค่ะ รอยพระบาทนั้นก็เอียงน้ำหนักมาที่น้องเขาเลยค่ะแล้วทุกคนก็หมดแรงรอยพระบาทก็ลงมาที่... หลังเท้าของน้องเขาอย่างจังเป็นรูปดอกบัว3 รู คือ ตามรอยหยักของรอยพระบาทเป็นแผลลึกเลือด เต็มบ้านทุกคนในที่เกิดเหตุก็นำไปรักษาตัวที่คลินิกหมอแถวบ้านวันนั้นเป็นวันอาทิตย์คลินิกปิดเปิดตอนเย็น น้องต้องรอจนกว่าจะตกเย็นค่ำจึงได้รับการรักษางานนี้ คุณรุ้ง ช่วยค่ารักษาไปเบื้องต้นพี่ๆน้องๆ ทีมงานช่วยตามกำลังค่ะสงสารน้องเขามาก แต่น้องมีมอร์เตอร์ไซด์คนเดียวที่ต้องวิ่งซื้อสิ่งของที่ขาดดังนั้น ทำแผลเสร็จแล้วก็ต้องวิ่งซื้อของอีกไปทั้งเดี้ยงๆ ยังงั้นแหละค่ะจี๊ดคิดว่า คืนนี้ต้องระบม ต้องเดินไม่ได้ ต้องอะไรมากมายที่จะคิด ฯลฯ
อ.เจน พูดว่าน้องเขามีเคราะห์อยู่ด้วยการที่น้องเขาต้องประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นการฟาดเคราะห์ แทนที่จะต้องไปพบเจอกับเคราะห์ใหญ่ นี่เป็นบุญใหญ่เขาก็ให้รับไปเลย ซึ่งเรื่องนี้จี๊ดต้องขอเกริ่นให้ฟังจากความเดิมตอนที่แล้วนั้นเพราะว่าอ.เจน เคยเห็นกรรมของน้อง และรู้ล่วงหน้าว่าน้องจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อเกิดอุบัติเหตุหลังหักเป็นเคราะห์หนักมากแต่ใน การทำบุญด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นของน้องอย่างนี้จะส่งผลให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุนั้น แบบค่อยเป็นค่อยไป เรี่ยรินไปเรื่อย ๆจะมีเคราะห์แบบนี้แต่ไม่หนักเป็นการชดใช้กรรมทีละ เล็กทีละน้อยไม่หนักมากค่ะอารมณ์ประมาณมีเคราะห์แบบอยู่ได้..ดีกว่าอยู่อย่างยากลำบากค่ะ และมีโอกาสทำบุญได้ค่ะ โบราณเขาเรียกว่า ฟาดเคราะห์ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกน้องไปยกฉัตร ก็มือเลือดอาบกลับมา อ.เจน พูดว่าเขาต้องได้รับเคราะห์เล็กน้อยอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ดีกว่าไปนอนแบบไม่รู้เรื่องอยู่ที่บ้านสิ่งศักดิ์เขาช่วยไว้แล้วค่ะ
เจ็ดวันเจ็ดคืน ค่ะ อ.เจน คุณรุ้ง และทีมงาน (ที่ว่างจากการงาน)ก็มาช่วยกันติดพลอยสีประดับ ประดารอยพระบาทให้สวยงาม ถึง 7 วัน 7 คืนนะค่ะ ทีมที่มาช่วยกันติดเพชรส่วนมากหลังเลิกงาน ช่วงเย็นเท่านั้นกลับบ้านกันดึกหน่อยขาประจำก็จะมี อ.เจน กับคุณรุ้ง ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ว่างมากนัก ทั้งเจ็บป่วยทั้งงานมารุมเร้า แต่งานนั้นก็สำเร็จจนได้บางคนที่ว่างจากการงานก็ตี 3-ตี4 เลิกทำเช้าพอดี ไม่ง่ายนะค่ะ มีพลอยหลากหลายขนาดมากค่ะต้องดูจังหวะการติด ต้องดูรูปแบบการติด พลอยก็เม็ดเล็กยิบ สำหรับจี๊ดยังไงก็ต้องแว่นตาอย่างเดียวค่ะการติด ประดับพลอยนี้ไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิดค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องฮาฮา พอดีมีฝนตกทุกวันน้อง ทีมงานกลับมาจากเรียนหนังสือก็มีใจมากค่ะขับมอร์เตอร์ไซด์มายืนอยู่หน้าบ้านด้วยสภาพที่ เปียกปอนมาทั้งตัวนี่แหละค่ะน้องเขาตั้งใจจำได้แม่นค่ะทุกคนขำกันมากมายืนตากฝนนิ่งอยู่หน้าบ้าน
เรื่องของกรรม เรื่องมีอยู่ว่าในวันที่ติดพลอยกันอยู่นั้นคุณลุงกับคุณป้าเดินทางกลับมาจาก างประเทศได้แวะมาหาอ.เจน กับ คุณรุ้ง จึงพบว่าทุกคนติดพลอยกันอยู่จึงรับอาสาติด้วย ช่วยกันเพราะยังต้องติดอีกมากกลัวว่าจะไม่ทันป้าแกตั้งจากไม่กลับบ้านค่ะติดพลอยเกือบ เช้าค่ะลุงกับป้าก็กลับบ้านครั้งแรกหลังจากที่ไปเยี่ยมลูกสาวในต่างประเทศเสียนานที่นี้เจ้า พวกแมลงสาบแสนซนก็มาครองบ้านครองเมือง เช้าวันรุ่งขึ้นลุงก็จัดการเล่นไป 4 ศพ และกล้าหาญที่จะไม่เก็บศพนั้นทิ้งไปปล่อยให้มันนอนแอ้งแม้งอยู่อย่างนั้นเมื่อคุณป้ามา พบศพจึงถามคุณลุงพูดอย่างสะใจมากว่า มาอีกเถอะมึ....จะเล่นเสียให้แบนไปเลย คุณป้ามาบ้านอีกครั้งเล่าให้ อ.เจน ฟังอย่างนี้พวกเรานั่งฟังก็คิดว่าโถลุง ปรากฏว่าบ่ายของวันนั้น ลุงป่วยเวียนหัวลุกไม่ขึ้นอ.เจน รู้ได้ว่าเป็นเพราะคุณลุงเพิ่งทำบุญใหญ่ติดพลอยมาแล้วมา ทำกรรมฆ่าแมลงสาบประจวบเหมาะกับกรรมจากในอดีตชาติด้วยจึงส่งผลเร็วทันทีทันใดค่ะ เขาให้รับผลของการกระทำนั้นไปเลยและกรณีนี้ คุณลุงรู้อยู่แล้วแต่ยังทำเจ้ากรรมเขายิ่งแค้นใจมาก ดังนั้น อ.เจนจึงแนะนำทางโทรศัพท์ให้สวดมนต์และนั่งสมาธิ เมื่อคุณลุงได้ทำตามคำแนะนำ แล้วก็ปรากฏว่าหายจากโรคที่เป็นอยู่เป็นปลิดทิ้งเชียวค่ะ ตามที่ อ.เจน เคยพูดไว้ว่าทุกอย่าง ต้องรู้เองและต้องเห็นเองค่ะ พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่ามันเป็นปัจจัตตังค่ะ น้ำตาจะไหล ประทับใจมากตอนที่เรือล่องแม่น้ำมาวกหลับ อ.เจนให้ทุกท่านสวดอิติปิโสฯ ช่วงเรือวกกลับมาน้ำตาไหลออกมาเองตื้นตันใจมากอยู่ ๆน้ำตาไหล ขณะนั้น ไม่ได้เศร้าใจอะไรเลย จึงไป อ.เจน ว่า เป็นเพราะเหตุใด อ.เจนจึงบอกว่า เทวดาที่ปกปักรักษาพี่ท่านมาอนุโมทนาบุญกับ พี่และท่านก็ปลื้มปิติใจด้วยค่ะ จึงทำให้พี่รู้สึกได้อย่างนั้น และในวันนั้นเทวดาที่ปกปักรักษา ทุกคนมากันมากเต็มไปหมด อ.เจน เห็นด้วยตาทิพย์ท่านมาอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ ได้มาร่วมบุญใหญ่นี้ เพราะไม่มีใครทำกันนะค่ะนอกจากทางวัดจัดหามาไว้ที่วัด แต่ทุกท่าน ได้เป็นผู้บริจาคถวายหาที่ไหนไม่ได้จริง ๆค่ะแม้เทวดายังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นต่างลงมาจาก วิมานมาโมทนาบุญกับเราน่าประทับใจมากค่ะ
ผู้ถวายรอยพระบาทจะไม่ตกอบายภูมิ อาจารย์ ได้พูดว่า การถวายรอยพระบาทคู่อย่างนี้ แม้แต่ อ.เจนเองก็ยังไม่เคยทำบุญนี้มาก่อนนี่เป็นครั้งแรก และรอยพระบาทคู่นี้ อ.เจนได้ ประประดับพลอยหลากสีสวยงามทั้งเป็นตัวแทนทุกท่านลงมือทำด้วยตนเองจนงามวิจิตรนี้เ พื่อทุกท่านที่ร่วมบุญกันมาก ซึ่งจะทำกันแบบง่าย ๆ ก็ย่อมได้ไปหาซื้อหรือจ้างเขาประดับพลอย แต่จะดีเท่าเราตั้งใจทำเองเชียวหรือ นั่นเป็นเพราะอ.เจน ได้เป็นผู้ใส่ใจในรายละเอียด ในเรื่องของอานิสงส์ของบุญอย่างแท้จริงค่ะ
อ้อ....ลืมแจ้งให้ทราบว่าท่านผู้บริจาคถวายรอยพระบาทคู่ที่ประดับด้วยพลอยงามวิจิตรนี้ ด้วยจิตที่เลื่อมใสศรัทธาท่านจะไม่เป็นผู้ที่ตกอบายภูมิค่ะ
อ.เจนหูและจมูกเป็นทอง นี่เป็นคำบอกเล่าของผู้ที่ยืนอยู่ที่ด้านหลังอ.เจน ท่านหนึ่ง บอกว่า ระหว่างที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับ อ.เจนช่วงที่รอเรือล่องแม่น้ำมานั้น อ.เจน ก็พูดสอนธรรมมะอยู่ ได้เห็นใบหูและจมูก ของอ.เจนเป็นสีทองเหมือนสีของพระพุทธรูปก็แปลกใจว่าตนเองตาฟาด มองอยู่นานก็เป็นอยู่อย่างนั้นตื่นเต้นที่ได้เห็นจึงมาบอกเล่าให้คุณรุ้งรับทราบค่ะ เมื่อคุณรุ้ง ทราบแล้วจึงนำมาบอกกล่าวแก่ อ.เจน และจี๊ดก็ได้นำมาบอกต่ออีกทีค่ะ น่าปลื้มใจนะค่ะการทำความดีมันดีอย่างนี้นี่เองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจึงให้เห็นว่า อ.เจนผู้นี้มีบุญบารมีมาก ล้นจนเป็นทองข้างใน น่าภูมิใจแทน อ.เจน จริง ๆ ค่ะ
ทาสีกำแพงวัด จากภาพความประทับใจที่เห็นทุกท่านที่มาร่วมบุญกันได้มีการเตรียมตัวเตรียมอาวุธครบมือ (กระบะใส่สี แปลงทาสี หมวกแว่นตา ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ) แสดงถึงมืออาชีพจริงๆ ค่ะ ทุกท่านมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนานกับบุญที่ทำ แหมน่าชื่นใจมากค่ะอ.เจน ฝากบอกว่าประทับใจ มากที่ทุกท่านมีความรักสามัคคีและมีดวงตาเห็นธรรมกันมากค่ะ จี๊ดขอแอบกระซิบบอกว่า การมาทาสีกำแพงวัดเป็นการขัดเกลากิเลสหากกระทำผิดสิ่งใดมา เช่น ทำไม่ดีกับพ่อแม่ ทำผิดต่อทรัพย์ของแผ่นดินมา ฯลฯ นี่เป็นบุญสาธารณประโยชน์ที่ดีที่สุดที่สามารถช่วย ผ่อนกรรมหนักให้เป็นเบาได้ค่ะอ.เจน ว่าอย่างนั้น เพราะ อ.เจน เป็นคนเห็นกรรมจึงรู้ได้ค่ะ
ผีข้างกำแพง จี๊ดจำได้ว่าพี่สาวที่นับถือกันได้วิ่งมาจูงมือให้ไปดูแลคุณป้าอายุประมาณ ๗๐ กว่าปี ท่านเป็นลมค่ะ เมื่อไปถึงจึงทราบว่าท่านมากับลูกสาวและญาติ ท่านอาการดีขึ้นแล้วคุณป้าเล่า ว่ากำลังนั่งทาสีอยู่ดีดีที่ด้านนอกกำแพงแต่สายตาก็พลันไปเห็นสถูปเจดีย์จำนวนมากในใจก็คิดว่า ที่นี่คงมีวิญญาณมากมายจึงทาสีแล้วกำหนดจิตอุทิศบุญที่ได้ทอดผ้าป่าสามัคคีเมื่อเช้านี้ให้กับ สัพพะวิญญาณทั้งหลายเมื่อคิดเช่นนั้น ก็ปรากฏ เงาดำเป็นรูปร่างของผู้หญิงผมยา วพุ่งตรงมาที่ตัวคุณป้าทำให้คุณป้า มึนงง เหมือนคล้ายจะเป็นลม พี่สาวคนนี้อยู่ใกล้ ๆ จึงนำเก้าอี้ไปให้คุณป้าแกนั่ง ซึ่งคุณป้าเล่าต่อไปว่าเมื่อได้สติขึ้นมาก็ได้เห็นผู้หญิงคนนี้มานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า ขอโทษนะ ขอโทษนะแล้วก็หายไป จี๊ด หรือเมื่อได้รับฟังอย่างนี้ก็ไปถามอาจารย์ทันที อาจารย์บอกว่าอายตะนะ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ของเรายังไม่พร้อมการปะทะของวิญญาณ ที่มีพลังมากทำให้ของร่างกายของคุณป้ารับไม่ได้ค่ะ ดังนั้นทางที่ถูกต้องต้องอุทิศบุญขณะที่ ทำบุญสำเร็จแล้วในครั้งแรกที่อุทิศบุญทอดผ้าป่านั้นแล้วไม่ใช่อุทิศบุญไปให้เรื่อย ๆ หากจะให้บุญเขาอีกครั้งต้องเบิกบุญที่ทำมาเมื่อเช้ามาให้เขาค่ะ ดังนี้ ด้วยอำนาจแห่งคุณพระพุทธด้วยอำนาจแห่งคุณพระธรรม และด้วยอำนาจแห่งคุณพระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอเบิกบุญที่ได้ทำเช่นทอดผ้าป่าเมื่อเช้านี้ ขออุทิศให้.....ก็ว่าไปค่ะ ต้องเป็นอย่างนี้ค่ะ
ศาลาเรือนแพ จี๊ดได้เห็นศาลาเรือนแพแล้วก็รู้สึกดีใจและประทับใจที่ทุกท่านได้ร่วมสร้างบุญกุศล
ที่เกี่ยวกับเรือนแพริมน้ำก็น่ะเป็นบุญที่หาทำกันได้ยากยิ่งอีกนั่นแหละ บุญของ อ.เจนนั้นล้วนแล้ว แต่หาทำได้ยากทั้งน้านแล้วเมื่อเรามีโอกาสแล้วจะไม่ทำเชียวหรือค่ะแม้ศาลาเรือนแพจะมีราคา เป็นเรือนแสนแต่ผู้ร่วมบุญก็ช่วยกันจนบุญสำเร็จประทับใจค่ะแหมงานนี้ต้องขอ... ขอด้วยอานิสงส์บุญนี้จงเป็นภารวัติปัจจัยเป็นนิสัยตามส่งให้ทุกท่านผู้บริจาคมีบ้านที่อยู่ อาศัยที่ร่วมเย็นเป็นสุขเหมือนกับแพที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำค่ะ
ห่มผ้าพระพุทธรูป อ.เจน กับคุณรุ้งก็ไปหาซื้อผ้าที่ระยิบระยับแว๊บว๊าบวิจิตรตระการตา ราคาไม่ต้องพูดถึงต้องดีพิเศษสุด จำได้ว่าจี๊ดยืนอยู่ใกล้กับใครก็ไม่รู้เขาก็ชมกันว่า สวยจัง ชอบจัง ดูสิเธอ ผ้าสวยมากเลย เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วก็อดที่ชื่นใจหายเหนื่อยเชียวค่ะ เพราะตัวเองก็มีความรู้สึกดีใจและประทับใจที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกับอาจารย์อย่างเหนียวแน่น ทุกครั้งบุญอย่างนี้ทำบ่อย ๆ ได้นะค่ะเนื่องจากจี๊ดได้ติดตามอาจารย์ทั้งสองไปแห่งหนใด ก็จะมีผ้าห่มพระติดไปด้วยและก็ห่มกันแบบไม่ออกสื่อมาโดยตลอดแม้อาจารย์ยังไม่หยุด ทำบุญเลยเราก็อย่าหยุดทำบุญนั้นนะค่ะ
ถวายฉัตร จำนวน ๒ฉัตร จากที่ได้เคยเล่าว่า อ.เจนได้เข้าไปในพระอุโบสถเก่าแก่โบราณแล้ว พบว่า มีฉัตรชำรุดเสียหายอยู่ 2 ฉัตร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านดลจิตดลใจให้ อ.เจน ถวายฉัตรแต่เมื่อซื้อฉัตรมาแล้ว อาจารย์คิดทันทีว่า ฉัตรที่จะถวายต้องสวยงามที่สุดค่ะซึ่งพลอยก็ยังเหลืออยู่อีกมาก จะว่างไปทำไมกันค่ะ คุณรุ้งจึงสั่งการให้ติดประดับพลอยที่ฉัตรทั้ง 2 ฉัตรซึ่งผลงานที่ออกมานั้น ช่างสวยงามวิจิตรยิ่งนัก ซึ่งความเป็นจริงแล้วแค่ไปซื้อ ๆแล้วนำมาถวายก็จบแต่สำหรับบุญของ อ.เจน ไม่จบค่ะ เพราะทำด้วยความตั้งใจทำด้วยความปราถนาดีให้ทุกท่านได้บุญกันทั่วหน้าค่ะ
จี๊ดประทับใจบุญทุกบุญที่อาจารย์จัดสรรทุกบุญแหละค่ะซึ่งเป็นภาพความประทับใจที่ยาก จะลืมเลือนนะค่ะด้วยอานิสงส์บุญจากการร่วมถวายผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างศาลาเรือนแพริมแม่น้ำ ถวายรอยพระบาทคู่ ทาสีกำแพงวัด ห่มผ้าพระพุทธรูป และบูรณะปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมหลังคา ศาลาเอนกประสงค์ ดังกล่าวนั้น ซาบซึ้งและประทับใจมาก ๆ ค่ะคิดถึงทีไรสุขใจจทุกทีค่ะ
จี๊ดประทับใจที่วัดที่สองตอนไหนรู้มั้ยค่ะ ตอนที่จี๊ดเดินขอรับบริจาคและปากก็บอกทุกคนว่า บุญนี้สร้างหลังคาโบสถ์นะค่ะ ดูสิค่ะ ด้านบนหลังคานั้นเป็นรูพรุนหมดแล้วมีแสงแดดเล็ดลอด ลงมาเห็นมั้ยค่ะแล้วก็ดูพร้อมกับทุกคนในที่นั้นต่างก็ช่วยกันร่วมบุญบริจาคทรัพย์อย่างชนิดที่ ว่ากลัวจะเสียโอกาสบุญนั้นเป็นภาพความประทับใจอย่างสุดซึ้งค่ะ เจ้าอาวาสท่านคงจะปิติสุข ไม่น้อยที่ท่านได้สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้กับพระลูกวัด
ค่ะขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคเลยนะค่ะขอให้ทุกท่านอย่าลืมภาพความประทับใจนั้นเลยทีเดียวค่ะ
แล้วพบกันทริปหน้านะค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|