สวัสดีค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทั้งท่านผู้บริจาคปัจจัยร่วมสร้างสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ อาจารย์เจน ญาณทิพย์ และท่านผู้ได้มีโอกาสมาร่วมปฏิบัติธรรม ในระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม 2560 โดยมีผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมจำนวนทั้งสิ้น 65 คน ซึ่งรวมเจ้าหน้าที่ทีมงานและจิต อาสาบางส่วนค่ะ ขอบอกว่า ปลื้มใจปลื้มจิตแทนทุกท่านมาก ๆ ทีเดียวเชียวค่ะ เพราะทุกท่านได้รับ อานิสงส์แห่งบุญที่ทำแล้วค่ะ กว่าจะถึงวันนี้ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณฯ แห่งนี้ จี๊ดเข้าใจดีค่ะบางท่านก็คิดไป ต่าง ๆ นา ๆ เมื่อไหร่น้าจะได้เห็นสำนักปฏิบัติธรรมฯ เป็นรูปเป็นร่าง และเมื่อเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ต่างคนต่างก็รอเวลาเปิดสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งทุกท่านก็ได้รอคอยเวลานี้มานานแสนนานรอจนเกือบจะ ลืมกันไปแล้วว่าจะได้มีการเปิดปฏิบัติธรรมกันได้เมื่อไหร่ แต่มาบัดนี้ บุญได้สำเร็จแล้วค่ะ เมื่อ อ.เจน ได้ทำการเปิดสำนักฯ เพื่อปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 1 นี้ค่ะ ซึ่งจี๊ดเชื่อว่า ทุกท่านผู้บริจาคก็ดีใจปิติใจ และอนุโมทนาบุญตามไปด้วยอย่างแท้จริงนะค่ะ แต่เมื่อถึงเวลาที่รอคอยแต่ก็ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติธรรม ได้ทั้งหมดที่ประสงค์เข้ามาปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ จี๊ดขอให้ทุกท่านอย่าได้เสียอกเสียใจ หรือจิตตกไปเลยนะค่ะที่ท่านไม่สามารถมาปฏิบัติธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมฯ ได้ ซึ่ง อ.เจน มีความจำเป็นในการรับผู้เข้าปฏิบัติธรรมโดยรับในจำนวนที่จำกัดค่ะ สาเหตุเนื่องมาจากสถานที่รองรับไม่เพียงพอ แต่เพื่อความยุติธรรมของทุกท่านที่มีความประสงค์ จะมาปฏิบัติธรรม อ.เจน จึงต้องมีกติกาให้มีการโทรศัพท์จองเข้ารับการปฏิบัติธรรมค่ะ ซึ่งถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ การเตรียมงาน ก่อนวันเดินทาง อ.เจน ได้แบ่งคณะเดินทาง 3 คณะค่ะ ซึ่งคณะฯ ที่ 1 และ 2 เดินทางวันศุกร์ที่ 11 ส.ค.60 คณะฯที่ 1 นำโดย อ.เจน คุณรุ้ง และจิตอาสาบางส่วนที่ลาหยุดงานร่วมเดินทางกันไปแต่เช้ามืด พร้อมขนสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้นำทางไปก่อนคณะฯ ที่ 2 คณะนี้หยุดงานไม่ได้จึงออกเดินทาง ตามหลังไปในตอนเย็นประมาณหนึ่งทุ่มออกเดินทางค่ะ ซึ่งจี๊ดก็อยู่ในคณะนี้แหละค่ะ ถ้าจะพูดไป คณะฯที่ 1 เหนื่อยมากกว่ามากเพราะออกเดินทางไปก่อนได้ก่อนค่ะ คือ ได้ไปทำงานก่อนค่ะ เพราะมีงานต้องทำอีกหลายสิ่งหลายประการ อาทิเช่น ขัดล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดเรือนต่าง ๆ ติดตั้งพัดลมนับ 10 ตัว ล้างถ้วยชามจิปาถะค่ะ กระจอกข่าวเล่าว่า ไปถึงก็ไม่ได้พักทำงานกักนซะจนถึงเวลาที่คณะฯที่ 2 ตามมาสมทบ ตอนนั้นก็เวลาประมาณตี 1 กว่า ๆ จี๊ดไปถึงก็เห็นสภาพแล้วเรียกว่าเดินกันไม่เป็นเลยทีเดียวค่ะเพราะเมื่อยล้ากันมาก แต่งานก็ยังไม่จบคงต้องช่วยกันต่อไป และก็สำเร็จเรียบร้อยประมาณตี 4 กว่า ๆ แล้วทุกคนก็กล่าวราตรีสวัส เข้านอนหลับพักผ่อนค่ะ ส่วนคณะฯ ที่ 3 ออกเดินทางเช้าตี 5 ของวันเสาร์ที่ 12 ส.ค.60 เป็นคณะเดินทางโดยรถบัสค่ะ ทุกคนที่ประจำอยู่ที่สำนักฯ แล้ว รอคณะฯ ที่ 3 ตามมาสมทบ เพราะเช้านี้ อ.เจน ได้นิมานต์พระสงฆ์ 5 รูป เพื่อถวายภัตตาหาร และสังฆทาน พวกเราก็รอร้อรอเมื่อไหร่รถบัสจะมาถึงประมาณเกือบเที่ยงวัน แต่ก็ได้มาทันเวลาพอดีเห็นข่าวแว่วว่ารถขับช้ามากค่ะบุญจัดสรรมาทันเวลาก็ดีแล้วค่ะ โรงทาน มีแม่ครัวมาทำอาหารได้รับประทานค่ะ มีผู้ใจบุญท่านหนึ่งได้เห็นว่า อ.เจน ทำจริงปฏิบัติจริงจึงขอรับเป็นเจ้าภาพโรงทานสำหรับผู้ปฏิบัติทั้ง 3 วัน จี๊ดขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ เพราะถ้าไม่มีผู้บริจาคในส่วนนี้คงจะลำบากกันมากเพราะค่าอาหารการกินและค่าจ้างแม่ครัวใน แต่ละวันแต่ละมื้อมีค่าใช้จ่ายมากประมาณ 3-4 หมื่นบาทค่ะ ท่านผู้บริจาคนี้ อ.เจน บอกว่า จะไม่อดอยากทุกภพชาติไปค่ะ และจี๊ดก็เห็นว่า ผู้ปฏิบัติทุกคนได้อนุโมทนาบุญและสวดมนต์ ให้พรกับผู้ทำทานนี้ทุกครั้งที่จะทำการรับประทานอาหาร แม้แต่จี๊ดเองไม่ได้เป็นผู้บริจาคยังอด ที่จะตื้นตันใจไม่ได้ค่ะ ซึ้งใจมากค่ะ แต่ยังไม่รู้ว่า ในโอกาสต่อไปจะมีผู้ใจบุญมาช่วยสนับสนุน ในเรื่องอาหารอีกหรือไม่ค่ะ หากท่านใดประสงค์จะเป็นเจ้าภาพในส่วนนี้แม้ไม่มีกำลังทรัพย์มาก ก็สามารถช่วยกันได้สามารถร่วมบริจาคเป็นกองทุนสำรองไว้ด้วยได้นะค่ะ สาธุค่ะ กิจกรรมบุญ. วันแรก ที่ผู้ปฏิบัติเดินทางมาถึงพระสงฆ์ท่านรอคณะครบทั้งหมดแล้วเริ่มพิธีถวายสังฆทาน และเริ่มพิธีการรับศีล 8 เป็นลำดับถัดไปค่ะ เมื่อพระสงฆ์กลับแล้ว อ.เจน ก็ปฐมนิเทศน์เพื่อ ให้เข้าใจตรงกันว่าเราจะปฏิบัติกันอย่างไรและมีระเบียบการใดบ้างและให้กลับไปพักผ่อน และ อ.เจน แจ้งให้ผู้ปฏิบัติ ทราบว่า การปฏิบัติของ อ.เจน เป็นไปตามธรรมชาติไม่ตึงมากไม่หย่อนมาก แต่จำเน้นในเรื่องการปฏิบัติให้ถูกต้องและนำกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้านได้ค่ะ หลังจากนั้นก็นัดให้มาพร้อมกันอีกครั้งสวดมนต์ทำวัตรเย็นและเริ่มปฏิบัติธรรมค่ะ เช้าวันใหม่ทุกคนมาพร้อมกันตามเวลาที่กำหนดสวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ และเดินจงกรม อ.เจน สอนละเอียดมากจนผู้ปฏิบัติเข้าใจ แต่ อ.เจน ไม่ได้สอนเพียงอย่างเดียวนะค่ะ แต่ อ.เจน ใช้ญาณวิถีเข้าไปดูด้วยว่า ใครติดขัดอะไร อ.เจน ก็จะบอกค่ะ แม้จะมีเวลาไม่มากเพียง 3 วันของการปฏิบัติ แต่จี๊ดเชื่อว่าทุกคนได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างเต็มกำลังเลยทีเดียวค่ะ วันที่ 2 อ.เจน ไม่ได้ให้ทุกคนมุ่งแต่การปฏิบัติเพียงอย่างเดียวแต่ อ.เจน ได้ให้ทุกคนช่วยกันสร้าง บุญกุศลอื่นด้วยค่ะในวันแรกหลังจากปฏิบัติธรรมช่วงเช้าทุกคนพักผ่อนได้ แต่ในยามว่างพักผ่อนนั้น อ.เจน เห็นว่า ควรสร้างบุญกุศลจึงได้เกณฑ์กำลังพลไปที่วัดแห่งหนึ่งใกล้ ๆ สำนักฯ ทุกคนนั่งรถกะบะไปกันเป็นขบวนเป็นกองทัพบุญชุดสีขาวชาวบ้านเขาก็มองกันใหญ่ ที่วัดแห่งนี้มีหลวงตาอาศัยอยู่รูปเดียวทุกวันท่านจะมากวาดใบไม้จนสะอาดท่านบอกว่า คนที่นี่ไม่สนใจไม่ทำบุญแต่เวลาตายก็มาวัด หลวงตาเล่าว่า ฉันก็อยู่คนเดียวคนตายมา ฉันก็เผาด้วยตนเอง สำหรับการเผานั้นใช้แบบโบราณค่อนข้างลำบากใช้ถ่านเผาก็เหนื่อยหน่อย เพราะต้องคอยมาเขี่ยฟืน ทุกคนคงอยากจะถามว่า เด็กวัดกับสัปเหร่อเขาไม่ช่วยเหลือหรือไง จี๊ดก็ขอตอบว่า ที่วัดนี้มีหลวงตารูปเดียวค่ะ ทำกิจของสงฆ์ด้วยความอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย ถ้ามีศพมาวัดท่านก็สวดศพให้ และเผาให้ด้วยตนเองค่ะเรียกว่า เบ็ดเสร็จทุกอย่างค่ะ แต่ท่านก็ชื่นชมคณะบุญของเราท่านบอกว่า อยากให้คนที่นี่เป็นอย่างนี้บ้าง อนุโมทนาสาธุนะโยม พวกเราช่วยกันกวาดใบไม้กองกันเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกกลุ่มหนึ่งก็ไปขัดล้างห้องน้ำให้วัด ปรากฏว่า เครื่องขัดล้างน้ำยาล้างไม่มีก็บึ่งรถไปที่สำนักฯ ไปขนวัสดุอุปกรณ์การขัดล้างมาช่วยเหลือ วัดค่ะนอกจากนี้ไม้กวาดวัดก็ไม่มีมีก็ 2-3 ด้าม เราก็ไปขนมาช่วยกันค่ะ อ.เจน กับจี๊ด และน้องผู้ชาย 2 คน มาช่วยกันกวาดเมรุเผาศพ และย้ายไปที่สถูปเจดีย์เก็บกระดูกที่คนเขาสร้างไว้ให้ญาติที่ตายไปแล้ว แต่อนิจจาแม้คนที่ตายไปแล้วยังโดนขโมยข้าวของที่เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวนั่นคะถ้าเป็นโกฎ ใส่กระดูกที่เป็นทองเหลืองก็จะโดนทุบเอาไป แต่ก็ไปเดือดร้อนที่เขาไม่เป็นทองเหลือง คือถูกทุบสถูปเจดีย์ไปเกือบทุกอันเพราะต้องคัดเลือกไงค่ะ กรรมจริง ๆ ค่ะ และเมื่อ อ.เจน เห็นว่า ช่วยเหลือทางวัดพอสมควรก็แบ่งกำลังพลกลับฐานค่ะ ไปทำงานที่สำนักฯ บ้างโดยช่วยกันขัดล้างห้องน้ำ โรงทาน ให้เรียบร้อยค่ะ วันที่ 3 วันนี้เป็นวันที่ทุกคนช่วยกันแลลสู้ตายค่ะ หลังจากการปฏิบัติช่วงเช้าหินมาส่งงาน นี้ได้ทำบุญกันอีกแล้วค่ะ เพราะได้ใช้หยาดเหงื่อแรงกายด้วยสองมือและพลังล้วน ๆ ค่ะ เนื่องจากท่อระบายน้ำนอกสำนักฯ จะต้องเทปูนและทำให้ดีแข็งแรงและเรียบร้อย จึงเป็นโอกาสอันดีเลยค่ะที่ทุกคนจะได้ช่วยกัน จี๊ดชื่อชมมากทุกคนช่วยกันรวมทั้ง อ.เจน คุณรุ้ง และผู้ร่วมบุญทำงานกันอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยจริง ๆ ใครมีหน้าที่ตักหินก็ตัก ใครมีหน้าที่ผสมปูนก็ทำไป ช่วยกันกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงในชุดขาวปฏิบัติธรรมเป็นภาพที่หาดู ได้ยากมากสำหรับผู้ปฏิบัตินะค่ะ อ.เจน บอกว่า ไม่มีใครรู้ได้ว่าการทำบุญเช่นนี้ได้อานิสงส์บุญ มากเพียงใดและสามารถตัดกรรมที่ตนเองได้กระทำมาด้วยค่ะ นี่เป็นเคล็ดลับเลยไม่ว่า จะหยิบจอบโกยหิน หรือยกบุ้งกี๋ที่เต็มไปด้วยหินกรวดสามารถตัดกรรมได้ทันทีและทุกครั้ง หากเราเคยทำกรรมใดไว้เราย่อมรู้อยู่แก่ใจก็อธิษฐานไปเลยค่ะขอตัดกรรมนั้นด้วยบุญที่ กำลังแบกหินกรวดอยู่นี่แหละค่ะ จี๊ดถือว่ารุ่นนี้มาทำบุญปฏิบัติธรรมทั้งทีได้ทำงานหนักผ่อนกรรมตนเอง ได้ด้วยดีมากค่ะ ส่วนจี๊ดและน้องจิตอาสาไม่ได้ไปขนหินกับเขาเพราะได้รับมอบหมายให้ทาสีประตู ให้สวยงามเพราะสีหลุดลอกและไม้กระดานแตกค่ะ แต่สายตาก็หันไปมองโอโหงานหนักอยากทำจัง เอาน่าตรงนี้ก็ได้บุญเหมือนกันแค่คิดในใจ ตกตอนเย็นได้เรื่องเลยได้ขนหลังจากที่ทุกคนลาศีล กลับกันไปแล้วได้โกยหินกลบแหล่งน้ำแฉะค่ะ อ.เจน บอกเทวดาท่านอยากได้บุญพี่จี๊ดคิดใช่มั้ยค่ะ ว่าอยากทำได้ทำสมใจแล้ว อ.เจน ก็มาช่วยด้วยเพื่อให้งานเสร็จค่ะ ความประทับใจของผู้ปฏิบัติ จากการสองถามของทีมงานถึงความรู้สึกของผู้ปฏิบัติธรรมตลอดสามวันนี้ ส่วนใหญ่ประทับใจที่ได้มาถือศีล ได้ใกล้ชิดกับ อ.เจน ได้เรียนรู้การเดินจงกรม และการนั่งสมาธิ รวมทั้งอิ่มใจสุขใจที่ได้ใช้แรงกายช่วยกันสร้างถนน ยกหิน ได้ไปช่วยเหลือวัด และได้ช่วยเหลือสำนักทุกภาคส่วนค่ะ และมีน้องคนหนึ่งเขาบอกกว่า ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเทปูนทำถนนมาก่อน ทั้ง ๆ ที่พ่อผมมีฝีมือในการก่อสร้าง ผมไม่เคยช่วยพ่อทำงานเลย แต่เมื่อได้มาทำงานนี้ด้วยตนเองก็รู้สึกภูมิใจมากค่ะ ตอนที่ อ.เจน สอบอารมณ์ ผู้ปฏิบัติรายหนึ่งได้เห็น อ.เจน เดินมาเป็นแสงสีเหลืองผ่านหน้าไปก็ตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นค่ะ และมีหลายคนต่างก็พูดว่า ได้ยินเสียง อ.เจน บอกบทคำว่า พุทโธ ๆ อยู่ที่ข้าง ๆ หู แต่เมื่อลืมตามา ไม่มีใครอยู่ที่ข้างหูเลย อ.เจน ก็อยู่ห่าง ๆ ค่ะ ซึ่งการปฏิบัติธรรมของ อ.เจน ไม่เหมือนใครตรงที่ อ.เจน มีญาณวิถีค่ะ สามารถทะลุทะลวงรู้ได้ว่าจิตของเราเป็นอย่างไรการปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ อ.เจน ก็จะชี้แนะให้ค่ะ มีคุณป้าท่านหนึ่ง เล่าว่า ไปปฏิบัติธรรมที่อื่นมาตลอดระยะเวลา 10 ปีแล้ว แต่ยังไมได้อะไรเท่ากับการได้มาปฏิบัติธรรมกับ อ.เจน ที่สำนักฯ นี้เลยค่ะ คุณป้าบอกว่าตนเองโชคดีมาก และจะได้ไปปฏิบัติตามคำสอนของ อ.เจน ต่อไปค่ะ นี่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะค่ะเพราะ อ.เจน พูดว่า วันนี้เรามาปฏิบัติกัน 60 กว่าคน แต่จะมีผู้ที่นำกลับไปปฏิบัติต่อสัก 1 คนก็ภูมิใจแล้วค่ะ มีหลายคนที่มาปฏิบัติธรรมซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาเลยจึงเกิดอาการเกร็ง แต่เมื่อได้ปฏิบัติจริงรู้สึก ผ่อนคลายและได้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติมากยิ่งขึ้นค่ะ การโทรจองที่แสนยาก. ทุกคนใช้เทคนิคอะไรกันบ้าง 1. อธิษฐานเบิกบุญ. 40%
2. พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์30%
3. รวบรวมเพื่อนรุมกันโทร20%
4. ตั้งใจโทรเอง10%
• สถิติคนโทรมากที่สุด 600 สายค่ะ และเขาสามารถโทรติดนะค่ะ

จี๊ดนับถือ อ.เจน และคุณรุ้ง มากที่สุดเพราะเป็นตัวอย่างที่ดีของความอดทนอดกลั่นที่ได้ ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนมาถึงวันนี้เป็นวัดที่ได้เริ่มปฏิบัติธรรมเป็นครั้งแรก และสามารถทำได้จริงด้วยค่ะ แม้ว่าอาจารย์ทั้งสองจะเหน็ดเหนื่อยมากไม่ได้พักผ่อนนอนหลับ เหมือนกับคนอื่นเขาก็เพราะระลึกเสมอว่าบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้และไม่ได้คิดจะเอาบุญเพียง แต่ผู้เดียวได้มีเจตนานำพาผู้คนไปสร้างบุญกุศลได้อย่างแท้จริง จี๊ดเชื่อว่าทุกคนก็คิดเหมือนกัน กับจี๊ดเพราะอาจารย์ทั้งสองไม่เคยคิดเรื่องหน้าตา ชื่อเสียง คิดถึงแต่บุญค่ะ สุดท้ายนี้จี๊ดขออนุโมทนาบุญกักบทุกท่านอีกครั้งหนึ่งค่ะที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันจนทำให้เป็นบุญสำเร็จทุกประการค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|