แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย จี๊ดจ๊าด เมื่อ 2014-3-6 20:59
เบื้องหลังการแสดง งานบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 9 รอบแรก (มนต์รักลูกทุ่ง) โดย อ.เจน ต้องการให้พวกเราร้องเพลงในหลวงของแผ่นดินก็เพลงตอนเปิดงานนั่นแหละค่ะ โดยให้ทุกคนแต่งตัวตามอาชีพของแต่ละคน พวกเราก็ซ้อมกันอย่างที่เรียกว่าไปไหนไปไหนก็ต้องมีเพลงนี้อยู่ในใจเสมอแต่มาเสียอยู่นิดหนึ่งก็เจ้าคนคุมเครื่องเสียงของรีสอร์ท ทำเสียเรื่องไม่ได้เช็คไมด์ทำให้ช่วงแรกๆ เสียงหอนจนไม่รู้ว่าร้องเพลงอะไร สู้อุตส่าห์ซ้อมเสียดายอยู่นิดนึงค่ะ เรื่อง ขำๆ ฮา ๆ 1. เพลงในหลวงของแผ่นดิน.......เวลารวมตัวซ้อมไม่ค่อยมีกันสักเท่าไหร่ เพราะหน้าที่การงาน...ดังนั้นเมื่อยามว่างก็จะร้องเพลงนี้กัน มีอยู่ครั้งหนึ่ง อ.เจน ขับรถไปสำรวจเส้นทางหาวัดที่จะนำพาคนไปทำบุญกันนี่แหละค่ะก็มีพวกเราทีมงานที่นั่งอยู่ในรถเกือบครบแหละค่ะ ต่างก็ซ้อมร้องเพลงท่อนของใครท่อนของมันตะโกนร้องกันในรถของอ.เจน นั่นแหละ ถึงท่อนของ อ.เจน ก็ต้องร้องด้วยเช่นกัน ปรากฏว่า อารมณ์ยังคงค้างกันอยู่ เมื่อถึงตลาดเมืองระยองที่เราไปแวะกันนั่นแหละค่ะ เราก็เพลียๆ กัน สาเหตุที่เพลียกันก็เพราะว่าอ.เจน นัดสำรวจเส้นทางทำบุญซึ่งดึกมากจำเป็นต้องค้างคืนด้วยชุดเก่าใส่ 2 วัน อดนอนด้วยต่างก็ไม่พูดกันเพราะเพลีย แต่อารมณ์เพลงยังค้างอยู่ อ.เจน ซื้อทุเรียนทอดกรอบ จะเอาไปใส่บาตร ยืนรอแม้ค้าตักใส่ถุงส่วนดิฉันรอซื้อเพื่อไปรับประทานที่บ้าน คุณรุ้ง ก็ยืนเหม่อๆ รออยู่ด้านข้างเพราะอดนอนมาจากเมื่อคืนนอนน้อย สรุปรู้จักกันแต่ไม่คุยกันลักษณะยืนเหม่อกันทุกคน แต่ก็เกิดเหตุเสียจนได้ก็ตอนที่ อยู่ ๆ อ.เจนก็ร้องท่อนของ อ.เจน ขึ้นมา ด้วยเสียงที่ดังมาก ดังนี้ ว่า “แผ่นดินนี้...คือบ้าน....”ดิฉันซึ่งยืนเหม่อๆ อยู่ถัด อ.เจน ก็ร้องต่อพร้อม ๆ กับ อ.เจน ว่า “คือ แดนสวรรค์..แสนสุขใจ.......” เราสองคนลากเสียงกันยาวมากตามเนื้อร้อง..พร้อมๆ กัน แม่ค้า ตักทุเรียนใส่ถุงให้อ.เจน กำลังเงิน 1,000 บาท และจะทอนเงินให้ ยืน งง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยพูดว่า พี่ 2 คน ไม่รู้จักกันทำไมมาร้องเพลงเดียวกันได้ แม่ค้าขำๆๆๆจนลืมทอนเงิน ส่วน อ.เจน ก็อายแม่ค้า ว่า เอ่อ เราร้องไปได้ไงเสียงดังมากแล้วพี่จี๊ดก็มาร้องต่อทำให้เสียงดังมาก ทำให้หัวเราะกันหมด ลืมตัวให้แม่ค้าไปอีก500 บาท คุณรุ้ง ซึ่งยืนขำอยู่ไกล้ ๆ จึงบอกว่า ค่าของ300 บาท ให้ไป 1,500 บาทแล้วแม่ค้าก็มัวขำอยู่ ก็ยิ่งขำอีก...ฮา..กันมากวันนั้น 2. ละครเพลงมนต์รักลูกทุ่ง - เพลงสาวนาคอยคู่(เพลงทำนองแขก)....ในส่วนนี้ พี่จี๊ดต้องซ้อมร้องให้เข้ากับเสียงเพลงและต้องทำท่าด้วยดังนั้น เมื่อนั่งรถเมล์ไปทำงานทุกวัน นั่งฟังเพลงนี้ทุกเช้า แต่มีอยู่วันหนึ่ง เพลินไปหน่อยลืมตัว..ทำท่าในรถเมล์ แหมนั่งด้านหน้าสะด้วย ร้องท่อนนี้เลย พร้อมทำท่าด้วย “มองเหมือมองท้องฟ้ายิ่งพาใจเศร้า” ตัวดิฉันไม่เหม่อมองเปล่ากลับเอื้อมมือขึ้นไปบนอากาศทำท่าซะด้วย เมื่อเอื้อมมือออกไปแล้วสำนึกได้ว่านี่มันรถเมล์ ก็ทำเฉไฉ ทำเป็นเอามือมาดูว่ามันเป็นอะไรต่อจากนั้นนั่งหลับไม่รู้ไม่เห็นมันซะเลย บ้าแล้วเรา - สถานที่ซ้อมไม่มี เนื่องจากสถานที่ที่บ้านอ.เจน มีข้าวของมากมาย ทั้งของบริจาคโรงทานของทำบุญ จนไม่มีที่ทางจะเดิน และบางเรื่องก็ต้องหลบซ่อนอ.เจน เสียอีกเพราะจะเซอร์ไพรส์ อ.เจน จึงไปซ้อมกันที่ลานวัดที่นั่น มีทั้งขบวนการเด็กเล็ก มานั่งดูกันเป็นแถว 10 กว่าคนและยังมีพวกมอร์เตอร์ไซด็รับจ้าง และคนแถวๆนั้นอีก นี่ไม่เท่าไหร่ คนสติไม่ดีแต่รู้เรื่อง มาเต้นด้วยนี่ซิ คอยบอกบทตลอด ซ้อมไม่ออกเลยค่ะ เล่นเสร็จเด็กๆก็ไม่ยอมให้เลิกจะดูอีก ก็วิ่งตามมาดูที่หน้าบ้านอีกค่ะ นี่ก็ไม่เท่าไหร่ยังไม่พอไปที่ไหนดี อ.เจน ก็เห็นว่า พวกเราจะซ้อม อ.เจนจึงอาสาขับรถไปพุทธมณฑลให้พวกเรา แต่มีข้อแม้ อ.เจนต้องไปนั่งสมาธิที่อื่นแล้วค่อยมารับ หรือไปซื้ออาหารให้นักแสดงรับประทาน เมื่อตกลงกันได้ก็ตามนั้นเราก็ไปบ่ายแก่ ๆ จนเย็นจนยามมาไล่ และข่มขู่พวกเราทุกครั้งแต่เราก็ทำตามระเบียบนะค่ะ เขาปิด 6.00 น. เราก็เก็บของแล้ว แต่เขามาไล่ตอน 5โมงครึ่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า จะต้องเคลียหลายอย่างเราก็ไม่เข้าใจนะค่ะ เขาดุมากเราก็ย้ายที่ไปซ้อมกันที่มืดๆ แล้วก็บ้านใครบ้านมัน ซ้อม 2 เสาร์-อาทิตย์ค่ะ ก่อนแสดงค่ะ - ผีมาดูการแสดง เราไปซ้อมกันที่พุทธมณฑล2 ครั้ง ครั้งแรก ผีมาดูอยู่ตรงข้ามกับที่เราแสดง แต่ครั้งที่ 2 มาดูอีก อ.เจนบอกอย่างนั้น แต่ครั้งนี้ ทำให้เพลงที่เราเปิดอยู่ปิดเองถึง 2 ครั้ง ซึ่ง อ.เจนบอกเขามาดูเขาชอบดูการแสดง ดังนั้น อ.เจน จึงนำสวดมนต์อุทิศบุญให้เขาและขอขมาสถานที่ อ.เจน บอกว่า พกวเราไม่ได้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เมื่อ อ.เจนช่วยแนะนำแล้ว ก็สามารถแสดงต่อได้ไม่มีสะดุดค่ะ ณ สถานที่เวทีแสดงจริง ในวันที่ไปติดต่อสถานที่รีสอร์ทเย็นมากจึงต้องค้างคืน เพื่อไม่ให้เสียเวลาคืนนั้นประมาณ 2 ทุ่ม มืดมากๆ ไม่มีแม้แสงไฟ เราก็ไปกันด้วยไฟฉายซ้อมการแสดงบนเวที แต่ปรากฏว่า ที่บนตึกฝั่งตรงข้ามดิฉันเห็นคนยืนอยู่ จ้องมองการแสดงของพวกเราก็คิดว่าคงจะเป็นคนที่พักอยู่เขามาดูไม่คิดไร แต่อยู่ๆ ไฟห้องโน้นเปิดและไฟห้องนี้ปิด สลับกันอยู่อย่างนี้ ก็เริ่มเอ๊ะใจ และชี้ขึ้นไปว่าจะมาดูก็ดูไม่ว่าไร ทำไมต้องแกล้งเปิด ปิดไฟด้วย อ.เจน ไม่พูดอะไร แต่เมื่อกลับมาถึงที่พักอ.เจน บอกว่า อ๋อ พี่ที่บนตึกนั้นน่ะ ผู้หญิงเขาผูกคอตายห้อยต่องแต่งอยู่ค่ะ แหม...มิน่าล่ะดิฉันก็บอกแล้วว่า มันแปลก ๆ แต่ไม่มีใครพูดสักคน แต่ทุกคนก็เร่งรีบที่จะ.พูดว่า..กลับเฮอะๆ - ซ้อมจนปวดหลัง มีหนึ่งในกลุ่มไม่เอ่ยชื่อดีกว่าซ้อมจนเต้นจนเส้นยึดต้องเดินไปนั่งสงบอยู่อย่างเดียวดายค่ะ - เนื่องจากสถานที่ที่บ้านอ.เจน มีข้าวของมากมาย ทั้งของบริจาคโรงทานของทำบุญ จนไม่มีที่ทางจะเดิน และบางเรื่องก็ต้องหลบซ่อนอ.เจน เสียอีก 3. ชุดการแสดงสุดท้าย(น้องเบิร์ด) ช่วงล้อเรียน อ.เจน เทปช่วงนั้น ไม่สามารถเปิดได้ทำให้ผู้ควบคุมต้องข้ามไปคุณรุ้ง บอกว่า ก็ทำเซอร์ไพรส์ อ.เจน จึงไม่ได้ขออนุญาต อ.เจน และครูบาอาจารย์ของอ.เจน ก็ไม่อนุญาตด้วยค่ะ หลังการแสดงพวกเราทดลองนำมาเปิดอีกครั้งก็ติดดีไม่เห็นเป็นไรเป็นเรื่องที่แปลกมากจริงๆ ค่ะ น้องเบิร์ดเก็บตัวมากจำต้องหายหน้าไม่มาให้เห็นหน้าเพราะกลัว อ.เจน จะจับได้ว่าแสดงอะไร แต่ อ.เจนรู้ในวาระจิตแล้วว่า น้องเบิร์ดแสดงเป็นหญิง แต่พวกเราหลอก อ.เจน ว่าน้องเบิร์ดไม่ได้แสดงอะไรพวกเราให้ดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมไม่ได้แสดงอะไร (อ.เจนมาบอกที่หลังว่ารู้แต่แรกแล้ว แต่ไม่อยากรู้มากกว่านี้เพื่อจะได้เซอร์ไพร์สตามที่ลูกศิษย์ต้องการ) 4. ชุดที่ อ.เจน ใส่ในงานคืนนั้นมีที่มา ค่ะ อ.เจนบอกว่าในชีวิตนี้หนูไม่มีอะไรที่เป็นความประทับใจให้ตัวเองเลยหนูอยากร้องเพลงบูชาครูตอนเด็ก ๆ อยากร้องเพลงนี้มาก พวกเราฟังและก็คิด เอออ.เจนก็เป็นครูบาร์อาจารย์ของเรามีอะไรก็ตักเตือนด้วยความเป็นห่วงและยังคอยตักเตือนผู้อื่นให้ทำความดีอ.เจน สมควรที่พวกเราจะบูชาครูอย่างแท้จริงเมื่อได้ดังนั้น ก็นัดกันว่าจะร้องเพลงนี้ให้ อ.เจน โดยไม่บอกให้ อ.เจนได้ล่วงรู้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ได้สนับสนุนให้ อ.เจน ไปซื้อชุดงานกลางคืนโดยอ้างว่า วันเกิดทั้งทีอย่าใส่ชุดเก่าเลยไปซื้อชุดใหม่ให้ดูดีดีหน่อย อ.เจนก็เข้าใจค่ะ อ.เจนไปซื้อชุดแบบเป็นกางเกง แต่เมื่อเตรียมจะจ่ายเงินอยู่แล้ว กลับมีเสียงบอกกับอ.เจน ชุดนี้ไม่ใช่ของเธอ เธอต้องใส่ชุดนี้ อ.เจน หันไปตามเสียง แต่ใจของ อ.เจน ก็คัดค้านเพราะไม่ต้องการใส่กระโปรงเหมือนคุณครูอย่างนี้ไม่ชอบเลย จึงยังคงที่จะชำระเงินชุดที่เลือกแต่ก็มีเสียงให้ไปหยิบชุดนั้น เธอต้องใส่ชุดนี้ เมื่อขัดกับเสียงที่ได้ยินไม่ได้ จึงเดินไปเปลี่ยนชุดก็อย่างที่เห็นในงานคืนนั้นแหละค่ะ แต่เมื่อไปหยิบชุดนั้น อ.เจน ก็ได้ยินเสียงคนหมู่มากร้องเพลง ปาเจรา จริยา โหนติคุฯ.......... ก้องอยูในหูของอ.เจน ซึ่งก็เห็นชุดที่ อ.เจน ใส่ในงานคืนนั้นแหละค่ะ อ.เจนก็อาชุดมาอวดและเล่าถึงที่มาของชุดให้ดิฉันฟังโดยบ่นว่าแปลกใจจึง ทำไมต้องได้ยินเสียงบอกอย่างนี้ดิฉันรับฟังแล้วก็เงียบสงบนิ่งมั๊กๆมากๆ แอบคิดในใจ อะไรกันนี่ ขนาดปิด อ.เจน แล้วยังมีเสียงมาบอกอ.เจน อีก โอ้ย..ดิฉันต้องแอบไปกระซิบบอกต่อกับทีม ซึ่งทุกคนก็ไม่ปริปากบอก อ.เจนด้วยเช่นกัน และไม่เฉลยด้วยค่ะ แล้วอ.เจนก็ได้ยินเสียงเพลงปาเจรา........จากพวกเราจริงๆ ในคืนวันนั้นค่ะ 5. ชุดการแสดงระบำ4 ภาคอ.เจน เล่าให้ฟังว่า ขณะที่นางรำแต่ละคนออกมาร่ายรำอยู่นั้น ปรากฏเห็นภาพของตนเอง เป็นชายร่างสูงใหญ่มีหนวดยาวโค้ง ใส่ผ้าโจงกระเบนแบบคนมียศศักดิ์ชั้นสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ และขาข้างหนึ่งกระดิกตามจังหวะดนตรี และภาพก็เปลี่ยน ไปอีกเรื่อยๆ ในขณะที่นางรำแต่ละนางออกมาร่ายรำค่ะอ.เจน บอกว่า ได้เคยอธิษฐานว่า เราเป็นใครมาก่อนบ้าง เห็นแต่กรรมของคนอื่นแต่กรรมของตนเองไม่เห็นเลยค่ะ ซึ่งภาพที่ อ.เจน เห็นก็ไม่ธรรมดานะค่ะ แต่เป็นอ.เจน จะดีตรงไหนค่ะ ช่วยคนอื่นได้แต่ช่วยตนเองไม่ได้ค่ะ น่าสงสารเหมือนกัน อ.เจนบอกภาพนั้นชัดเจนมากหลายนาทีเชียวค่ะ 6. ชุดการแสงตีขิม ก็เช่นกัน อ.เจน ได้เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งก็ได้นั่งดูวงมโหรีปี่พาทย์แบบนี้มาก่อนอ.เจน จึงพูดขึ้นว่า ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญทุกอย่างมันย้อนภาพมาทำเสมือนซ้ำเดิมเพียงแต่เปลี่ยนที่กาลเวลาเท่านั้นทุกอย่างได้เคยทำมาแล้วทั้งนั้นค่ะ เบื้องหลังของงานเป็นอย่างนี้ค่ะ จบดีกว่าค่ะ พบกันใหม่ ทริปทัวร์บุญ ครั้งที่ 9 รอบ 2 ดีกว่านะค่ะ
|