
สวัสดีค่ะ ดิฉัน อ.เจน ญาณทิพย์ ขอกล่าวอนุโมทนาบุญและขอบคุณให้งานบุญทริป 15 นี้ประสบ
ความสำเร็จลุล่วงไดด้วยดี สุขกาย สุขใจ และอิ่มใจได้บุญกันไปถ้วนหน้าค่ะ บุญที่ดิฉันเป็นผู้นำพา
มิใช่จะได้บุญนั้นไปเสียทั้งหมด แต่บุญนี้ทุกท่านผู้บริจาคและผู้ที่เดินทางไปร่วมบุญนี้ต่างหากที่ได้
บุญตามเจตนาบุญของท่าน ดั่งคำที่ว่า บุญนั้น ใครทำใครได้ใครกินใครอิ่ม ค่ะความประทับใจของดิฉัน สำหรับงานบุญทริป 15 นี้ เป็นเรื่องที่พิเศษเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ เป็นอย่างยิ่งค่ะ ประทับใจแรก ภูมิใจค่ะที่ได้นำพาทุกท่านมาร่วมบุญกันในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีท่านผู้บริจาค ไม่ได้มาด้วยแต่ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งในบุญนี้เช่นกันค่ะ ได้บุญถึง 3 ประการ คือ 1. บุญจากการถวาย สังฆทานพระสงฆ์ 2.บุญจากการถวายสร้อยไข่มุกแด่เจ้าแม่กวนอิม 3.บุญจากเงินส่วนต่างราคาไข่มุกนำมาเข้าสมทบทุนสร้างสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ ซึ่งเป็นบุญที่เราได้ทำร่วมกันอย่างเต็มกำลังประทับใจมากค่ะ

ประทับใจที่สอง ทุกท่านร่วมกันเป็นกำลังใจเป็นแรงใจและเป็นห่วงเป็นใยในการที่ดิฉันปีนบันไดไม้ไผ่ที่อ่อนไหวพอสมควร เพื่อถวายสร้อยไข่มุกที่เรียงร้อยเป็นสร้อยไข่มุที่ยาวมากที่สุด ซึ่งสร้อยไข่มุกนี้ก็ด้วยพลังบุญของทุกท่านที่ได้ร่วมกันบริจาค และดิฉันก็ได้เป็นตัวแทนเรียงร้อยสร้อยไข่มุกเส้นที่ยาวที่สุดในโลกกว่าได้นะค่ะ ค่ะเมื่อนำขึ้นไปถวายแด่เจ้าแม่กวนอิมแล้วสายสร้อยห้อยระย้าลงมาดูแล้วสวยงามเป็นที่น่าประทับใจยิ่งนั้นค่ะ ประทับใจที่สาม เทพเจ้าซินไฉ่เฮี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ท่านเสด็จมาในงานบุญทริป 15 นี้จริง อย่างที่ท่านมานิมิตก่อนเดินทาง 2 วัน โดยพูดว่า “วันนี้เราจะให้เจ้า หนึ่งปึ้ง แล้ววันงานเราจะมา ให้เจ้าอีก เป็น ปึ้ง ปึ้ง” ตอนนั้นดิฉันไม่เข้าใจแต่ก็ดีใจมาก จึงมาเล่าสู้กันฟังในลูกศิษย์ทีมงาน รับฟังว่า การแสดงร่ายรำถวายผลไม้มงคลแด่เทพเจ้าฯ จะต้องทำให้ดีที่สุด เพราะท่านจะเสด็จมา แต่เมื่อถึงวันงานจริง ๆ ดิฉันได้เห็นโดยตาเนื้อว่า ท่านเสด็จมาทั้งองค์พร้อมบริวาร ดิฉันเห็นโดย ตาเนื้อ ไม่ใช่เห็นในตาทิพย์ ท่านเสด็จ 2 ครั้ง ครั้งแรก ตอนที่มีการแสดงร่ายรำถวายผลไม้มงคล ครั้งที่สอง ท่านเสด็จมาตอนที่ดิฉันกล่าวคำ บูชาเทพเจ้า 9 จบ ท่านนั่งอยู่เบื้องหน้า แต่มีเงิน เหมือนเงินจีน เป็น ปึ้ง ๆ สีเทาๆกองอยู่ที่เบื้องเท้าจนถึงเข่าของท่านดิฉันตื่นเต้นและประทับใจมาก เพราะเห็นด้วยตาเนื้อค่ะ นั่นก็แสดงว่า ท่านมาให้โชคลาภต่อผู้ร่วมบุญกว่า 400 คน แต่มิใช่ว่าจะได้ทั้งหมดนะค่ะ อยู่ที่บุญบารมีที่เราสร้างสะสมมาด้วยค่ะ ฉะนั้น อย่าห่างบุญค่ะ และสิ่งดีดีก็จะมาหาเราเองค่ะ ด้วยอานิสงส์บุญที่เราช่วยกันร่วมกันทำนี้ จะสามารถลดผ่อนวิบากกรรมของเราได้ด้วยค่ะ เพราะการทำบุญของเราเป็นคณะใหญ่ผู้ร่วมบุญมากถึง 400 คน ดังนั้น พลังบุญของเราเปรียบ เหมือนสึนามิ ไม่ใช่เพียงน้ำเป็นถัง เป็นบ่อ แต่เป็นสึกนามิ ค่ะ บางคนเข้าใจผิดว่า ไปทำบุญ คนเดียวเงียบ ๆ ดีกว่าไม่น่าลำคราญดี ไม่น่าเบื่อดี นั่นเป็นการเข้าใจผิดมากทีเดียวค่ะ เพราะอานิสงส์ของบุญต่างกัน เหมือนกับกิ่งไม้หวายกิ่งเดียวกับกิ่งไม้หวายที่รวมกันเป็น มัดหวายที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีใครจะมาหักโค่นลงได้ฉันนั้นค่ะ ท่านเทวดาเคยมาบอกกับดิฉันว่า การทำบุญที่เป็นมหาบุญอย่างนี้ สามารถย่นย่อภพชาติได้ถึง 500 ชาติค่ะ กิจกรรมทัวร์บุญ การที่ดิฉันคิดจัดกิจกรรมทัวร์บุญตลอดทุกเดือน มิใช่ว่า ดิฉันจะทำบุญ แบบสนุกสนาน หรือเป็นการหารายได้จากการทำทัวร์บุญ แต่ถ้าทุกท่านจะสังเกตก็จะรู้ได้ว่า ดิฉันมักจะจัดกิจกรรมดีดีมอบให้ทุกท่านไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ที่ได้คัดสรรพิเศษทุกครั้ง ซึ่งราคาของอาหารไม่ใช่ราคาถูกแบบพื้นบ้านซึ่งบางครั้งแทบ จะไม่เงินเหลือมากนัก เงินที่เหลือก็จะเก็บไว้เผื่อทริปต่อไปด้วย เผื่อขาดเผื่อเหลือค่ะ การจัดทริปทัวร์บุญขึ้นมานี้เพื่อมุ่งหวังว่า จะด้นำพาทุกท่านทำบุญอย่างถูกต้องถูกวิธี ให้เป็นไปตามหลักธรรมคำสั่งสอนในแนวทางของพระพุทธศาสนา เพื่อทำเป็นแบบอย่าง ของการทำบุญที่ไม่เป็นโทษเป็นกรรมต่อผู้ทำบุญค่ะ การทำบุญที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่ดิฉันกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะว่า นับวันศาสนาก็จะเสื่อมถอยลง เพราะมนุษย์ไม่มีศีลธรรม มนุษย์มีกิเลส มีความโลภ มีความหลง และ หลงทางค่ะ โดยทำผิด ศีลธรรม ทำบุญที่ผิดวิธี เนื่องจากว่ายังมีผู้ที่ไม่รู้อีกมากถูกชักชวนให้หลงเชื่อ หลงผิด และปลูกฝังความเชื่อที่ผิด ๆ ให้กับเขาค่ะ คนหลงทาง ก็เชื่อเขาไปเสียหมด โดยมิได้ไตร่ตรองอะไรผิดอะไรถูก คนส่วนมากเมื่อมีความทุกข์ แทนที่จะหมั่นปฏิบัติธรรมหาทางพ้นทุกข์ แต่กลับไปหาหมอดูแทน ดิฉันมักจะพูดเสมอว่า ดิฉันสามารถตรวจกรรมเห็นกรรมของท่านได้ และได้ช่วยแนะนำวิธีการแก้ไขให้ท่านได้ แต่เมื่อท่านรู้ถึงกรรมของท่านแล้ว สำนึกแล้ว ก็จะต้องนำคำแนะนำนั้นไปปฏิบัติต่อยอดของ ตนเองค่ะ ไม่มีใครช่วยท่านได้ นอกจากตัวของท่านต้องช่วยตนเองก่อนค่ะ แม้แต่หมอดู หมดเดา ก็ช่วยท่านไม่ได้ และความจริงที่ว่าสุดท้ายหมอดูก็จะให้ท่านไปทำบุญ แต่บางครั้งบุญนั้นท่านก็ไม่ได้ทำด้วยตนเองเสียเพราะหมดดูนำเงินของท่านไปทำให้ค่ะ สู้เราไปทำเองไม่ดีกว่าหรือค่ะ การทำผิดกับที่ธรณีสงฆ์ สิ่งที่ดิฉันเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ และต้องการที่จะบอกเตือน แก่ทุกท่านว่า การไปหาหมอดูเพื่อตรวจดวงชะตาให้เขาทำนายทายทักกันภายในวัดวาอาราม นั้นเป็นสิ่งที่ผิดไม่ใช่เป็นแนวทางของพระพุทธศาสนาเราค่ะ ดิฉันเป็นคนเห็นกรรมค่ะ การกระทำ ดังกล่าว ท่านจะติดหนี้กรรมกับที่ธรณีสงฆ์ คือ วัด โดยติดกรรมทั้งผู้ดูและผู้ถูกดู เพราะยังมี ผู้ที่ไม่รู้อีกมากค่ะ ดิฉันเป็นห่วงจึงอยากจะเตือนว่าเป็นการสร้างกรรมและจะติดหนี้ธรณีสงฆ์ค่ะ ผู้ใจบุญท่านบริจาคทรัพย์สร้างวัด เพื่อต้องการให้เป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ตัวแทนของพระพุทธเจ้า ได้อยู่อาศัย เพื่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและสั่งสอนตามหลักธรรมของพระพุทธองค์ให้ผู้คนมี สติปัญญาสืบสานพระพุทธสาสนาต่อไป แต่ถ้าผู้คนที่เข้าวัดใช้สถานที่ของวัดไปใน ทิศทางที่ผิดเล่า ต่อไปศาสนาจะดำรงคงอยู่ได้ต่อไปได้หรือ น่าเป็นห่วงจริง ๆ ค่ะ ท่านต้องมีความเชื่อในเรื่องบุญกุศล เชื่อเรื่องการสร้างบุญบารมี ด้วยทาน ศีล และเจริภาวนา นี่คือสิ่งที่เรานำติดตัวไปได้ในโลกหลังความตาย บุญที่ท่านได้กระทำจะช่วยลดผ่อนวิบากกรรมของ ท่านได้ แต่ถ้าท่านได้ทำผิดกับที่ธรณีสงฆ์แล้วชีวิตของท่านก็จะตกต่ำลงโดยที่ท่านไม่ต้องไปวิ่งหา หมอดูที่ไหนว่าทำไม ๆ ชีวิตจึงไม่ดีขึ้นเลย ดิฉันขอให้ท่านจดจำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ “ให้อยู่กับปัจจุบัน“ นั่นคือสิ่งที่จริงแท้และแน่นอนค่ะ หากสิ่งที่ดิฉันได้ตักเตือนท่านผู้อ่าน และไปกระทบจิตใจท่านผู้ใด ดิฉันก็ต้องขออโหสิกรรมด้วยค่ะ เพราะเพียงแต่ต้องการเตือนไม่อยากให้ใครได้ผิดกันค่ะ แม้เตือนอย่างเดียวก็ไม่ได้ดิฉันจึงต้องทำ เป็นตัวอย่างในการนำผู้คนไปทำบุญอย่างถูกวิธีและสามารถนำไปปฏิบัติด้วยตนเองได้และสามารถ บอกต่อกับผู้อื่นได้ว่าทำบุญที่ถูกต้องทำเช่นใดค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งค่ะ อ.เจน ญาณทิพย์
|