ร่วมอนุโมทนาบุญทริปเสบียงสวรรค์ 88 หล่อพระพุทธโอสถทิพย์ เชื่อมทางบุญ

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน  ญาณทิพย์  ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญกับอาจารย์เจน ญาณทิพย์ โดยดิฉันเป็นผู้นำบุญของคณะเสบียงสวรรค์ที่ได้เป็นบุญที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและเป็นมหาบุญกุศลที่หาทำได้ยากแต่คณะเสบียงสวรรค์ของเราได้ทำเรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 ดิฉันได้นำปัจจัยของทุกท่านผู้ร่วมบุญกันมาในทริปบุญที่ 88 นี้ ไปทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเป็นเจ้าภาพสร้างสะพานปล่อยปลา  กิจกรรมร่วมกันทาสีรอบกำแพงโบสถ์ และรอบกำแพงวัดทั้งหมด และที่สำคัญเป็นมหาบุญกุศลก็เป็นพิธีหล่อพระพุทธโอสถทิพย์ ดิฉันมีความปลื้มปิติใจและประทับใจมากที่ได้นำเงินของทุกท่านไปทำบุญด้วยกันจนสำเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดีค่ะ
วัดที่ 1
คณะเสบียงสวรรค์ได้เดินทางมาถึงวัด ระหว่างเดินเข้าถึงศาลาเอนกประสงค์ ดิฉันก็ได้เห็นชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับและได้ใส่ชุดผ้าไทยพื้นเมืองเพื่อเตรียมรำอวยพรต้อนรับคณะเสบียงสวรรค์ จึงทำให้ดิฉันมีความประทับใจมากที่ได้เห็นถึงความสุข และความตื่นเต้นของชาวบ้านที่ได้เห็นคณะเดินทางมาจากกรุงเทพ ฯ ที่มากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างก็มีความตื่นตาตื่นใจ ดิฉันรู้ได้ค่ะ
การทำบุญครั้งนี้ได้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือในส่วนแรกเป็นการทอดผ้าป่าสามัคคีเป็นเจ้าภาพสร้างสะพาน โดยดิฉันได้บรรยายธรรมให้ความรู้ในเรื่องของการทำบุญก่อนค่ะ และหลังจากบรรยายธรรมแล้วก็ทำพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี และในการทอดผ้าป่าสามัคคีนี้เป็นเรื่องที่น่าปิติยินดีที่ได้ยอดปัจจัยเงินมากกว่าหนึ่งล้านบาทค่ะ ทั้งนี้ ได้มีสิ่งศักสิทธิ์ และ ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วของทุกท่านผู้ร่วมบุญ ต่างก็มารอรับบุญกุศลกันเป็นจำนวนมาก มากันล้นหลาม ซึ่งอยู่อีกมิติหนึ่งที่ดิฉันเห็นได้นั้นทุกดวงวิญญาณเหล่านั้น ต่างก็ได้รับอานิสงส์บุญชื่นชมยินดีปรีดาด้วยแสงแห่งบุญที่ได้รับกันอย่างถ้วนหน้าค่ะ และแต่ละดวงวิญญาณที่ได้รับบุญของทุกท่านนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้ที่มีจิตที่มุ่งมั่นเพียงใดค่ะ
เจ้าอาวาสท่านเป็นพระที่เรียนปริยัติธรรมเก่ง แต่ท่านยังไม่เคยเห็นผู้คนจำนวนมากถึงเพียงนี้มาทำบุญที่วัด ท่านปิติมากจนพูดไม่ออก น้ำตาท่านแทบจะไหล ดิฉันรับรู้ได้ค่ะ ซึ่งเจ้าอาวาสเองท่านไม่เคยคิดว่าจะมีผู้คนที่มาทำบุญด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จะมีมากมายเพียงนี้ค่ะ



รับประทานอาหารมื้อกลางวัน โดยโรงทานของชาวบ้านได้นำอาหารคาว อาหารหวาน และผลไม้หลายชนิด รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงรสมาอร่อยน่ารับประทาน ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมายเหลือเกินค่ะ รับประทานเท่าไหร่ก็ยังไม่ครบเลยค่ะ นั่นแสดงถึงความตั้งใจของชาวบ้านที่จะให้คณะบุญของเราได้รับประทานให้อิ่มและอร่อยค่ะ ในการนี้ดิฉันก็ได้นำข้าวกล่องเป็นอาหารชั้นเลิศ น้ำส้มลูก นำไปแจกให้กับลูกทัวร์ทุกท่านด้วยค่ะ
หลังจากถวายผ้าป่าสามัคคีแล้ว งานบุญของพวกเรายังไม่เสร็จนะ



ส่วนที่สอง พิธีหล่อพระพุทธโอสถทิพย์ หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วทุกท่านก็เข้าปะรำพิธีด้วยการนั่งกันอย่างเป็นระเบียบภายในเต้นท์ที่ทางวัดจัดไว้ให้ โดยนั่งล้อมปะรำพิธี โดยดิฉันได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป ถวายสังฆทานยา ที่จัดเป็นชุดขันโตกยาจัดไว้สวยงาม พร้อมปัจจัยพระอันดับทั้ง 9 รูป รวมทั้ง ถวายชุดสังฆทานตระกร้ายา พร้อมปัจจัย โดยนำถวายพระนั่งปรก 4 รูป ที่ประกอบพิธีหล่อพระค่ะ ซึ่งพระนั่งปรกท่านนั่งประจำอยู่ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งเป็นพระที่เป็นเจ้าอาวาสที่เป็นพระผู้ใหญ่ที่มีความสำคัญในอำเภอนั้น ๆ โดยดิฉันได้นิมนต์มาประกอบในพิธีการหล่อพระพุทธรูปในครั้งนี้ค่ะ สำหรับชุดยารักษาโรคที่ดิฉันจัดมานี้เป็นเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบุญบริจาคกันมาทั้งสิ้น และชุดยานี้เป็นยารักษาโรคชุดสามัญประจำบ้านที่ดิฉันคัดสรรมาแล้วว่าเป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ จึงได้เลือกยาที่จำเป็นและพิถีพิถันในการจัดหามาทุกขั้นตอนค่ะ อาทิเช่น ยาทาผิวแก้ผื่นคัน ยาแก้ปวดเมื่อย ยาแก้ไข้หวัด ยาล้างตา ยาล้างแผล ยาดม เป็นต้นค่ะ
ดิฉันได้นำกล่าวถวายสังฆทาน และมีการกรวดน้ำอีกครั้งหนึ่งค่ะ



พิธีหล่อพระพุทธรูปดังกล่าวนี้ ดิฉันได้นำทองเหลืองที่เป็นรูปร่างสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลาช่อน เต่า ช้าง กัมตุ้ง (เงินจีน) ทองแท่ง 9 แท่ง นำไปหลอมให้กลายเป็นน้ำทองเหลืองค่ะ ซึ่งในระยะไกลทุกท่านอาจเห็นไม่ชัดเจนก็สามารถไปดูในรูปภาพที่ได้ลงไปแล้วนี้ค่ะ ในการนี้ดิฉันได้ถอดแหวนทองคำลงไปด้วยค่ะ
เหตุผลที่ไม่ได้แจ้งให้ทุกท่านนำแผ่นทองเหลืองหรือทองคำนำมาหล่อในพิธีหล่อพระนั้นก็เพื่อมีเจตนาดี เพราะทุกคนก็จะมุ่งแต่จะนำทองคำมาหล่อ ทำให้ลืมบุญอื่นที่ต้องทำและมีอานิสงส์บุญมากด้วยเช่นกันค่ะ เพื่อให้ทุกท่านได้ทำบุญที่หลากหลายและเน้นที่วัตถุทานมากกว่า เนื่องจากเงินที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมานี้ดิฉันได้นำไปซื้อทองเหลืองตามที่กล่าวมาแล้วนี้ค่ะ



ตอนที่เททองเหลืองลงในกระบวยที่ 1 ดิฉันได้มองขึ้นไปที่ท้องฟ้า ได้เห็นท้องฟ้าเป็นสายรุ้งและสังเกตเห็นว่า ที่บนท้องฟ้านั้นมีรูปร่างของคนปรากฏให้เห็น และก็ได้เพ่งมองไปอีกครั้งก็ได้เห็นด้วยตาเนื้อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นนี้มีปรากฏช่วงลำตัวแบบเต็มองค์ สวมใส่ชุดโจงกระเบน ผิวสองสี ในท่านั่งสมาธิ แต่ไม่เห็นพระเศียร ครั้งแรกที่ได้เห็นก็รู้สึกตกใจมาก ปิติใจมากที่ได้เห็นนั่นเป็นเพราะบุญของเรานั้นยิ่งใหญ่ทำให้ท่านองค์นี้ได้เสด็จมา และดิฉันรู้ได้ในญาณวิถีว่า ท่านคือองค์อัมรินทร์เทวาธิราช หรือองค์อินทร์ นั่นเองท่านได้มาอนุโมทนาบุญกับพวกเราค่ะ หลังจากนั้นมีพระสุริยเทพได้มาให้แสงสว่างทำให้เกิดแสงแดดอ่อน ๆ ทำให้กำแพงวัดที่ชุ่มชื้นจากฝนตกนั้นกลับแห้ง จึงทำให้พื้นผิวกำแพงสามารถทาสีได้ค่ะ



หลังจากนั้นได้ทำพิธีบวงสรวง ตอนที่บวงสรวงดิฉันตั้งมั่นในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และมีความตั้งใจมากเพราะก่อนที่จะถึงวันงานพิธีนี้ ดิฉันได้สวดมนต์ทำสมาธิอยู่เป็นนิจ มิได้ขาด ด้วยการถือศีลปฏิบัติธรรมที่บ้าน เพื่อให้งานบุญที่จะทำนั้นบริสุทธิ์ไม่มีอุปสรรคสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะเป็นบุญใหญ่ที่อาจทำให้เจ้ากรรมนายเวรและหมู่มารจะได้ช่องมาขัดขวาง ดังนั้น ดิฉันเป็นผู้นำบุญจึงต้องตั้งมั่นให้จิตเป็นกุศลเสียก่อนค่ะ ระหว่างประกอบพิธีบวงสรวงก็ได้มีเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมากท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญ เพราะดิฉันได้อัญเชิญเทพหลายองค์ และในการนี้มีองค์พระพิรุณด้วยค่ะ ก่อนมากรมอุตุเตือนเรื่องฝนตกแต่ดิฉันได้ตั้งใจและกำหนดวันเดินทางมาทำบุญแล้ว และมีความเชื่อมั่นว่าทำได้และทำสำเร็จด้วยบุญที่เราตั้งใจค่ะ จึงคิดเสียว่าอะไรจะเกิดก็ให้เกิด และเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตาเปิดทางให้อย่างแน่นอนค่ะ



ดิฉันภูมิใจและดีใจมากที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ช่วยให้พิธีหล่อพระไม่มีอุปสรรคใด ๆ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยค่ะ ถึงแม้ว่าในครั้งแรก พอได้ประกอบพิธีบวงสรวงเสร็จ ฝนเกิดตกลงมาและสักพักเท่านั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้มีความวิตกกังวลอะไรแม้แต่น้อยค่ะ
หลังจากพิธีหล่อพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดิฉันได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทาสี เมื่อมาถึงก็พบว่าทุกคนกำลังทาสีกันด้วยความตั้งใจเต็มทุกจุด ไม่มีที่จะแทรกไปได้ ดังนั้น ดิฉันจึงได้ไปทาสีที่ซุ้มเสมาแทนค่ะ แต่อย่างไรก็ตามดิฉันก็ได้นำทุกท่านอธิษฐานตัดกรรมที่ได้ทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบาค่ะ
การทาสีรอบกำแพงวัด และกำแพงรอบโบสถ์ ดิฉันรู้ดีว่า ทุกท่านมีความตั้งใจมาร่วมกันทาสีจนมีความสวยงดงาม กำแพงที่ไม่มีความสวยงามนั้น บัดนี้ มีความงดงามสะอาดตาแล้วค่ะ



ดิฉันมีความประทับใจมากที่ทุกท่านได้ให้ความร่วมมือในการสร้างบุญกุศลด้วยความสงบเรียบร้อย และมีความสามัคคีพร้อมใจกันทำบุญที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันนี้โดยไม่มีขาดตกบกพร่องถึงแม้ว่าผู้คนจำนวนนับร้อยแต่ก็ได้ทำบุญกันอย่างมีความสุขค่ะ ในการนี้จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคปัจจัยร่วมบุญกันมา ไม่ว่าจะเป็นท่านที่เดินทางร่วมกันมา หรือท่านที่ไม่ได้ร่วมเดินทางมาทำบุญ แต่ได้โอนปัจจัยเงินร่วมบุญกันมาจนทำให้งานบุญทริป 88 นี้ สำเร็จตามเจตนาบุญที่ตั้งใจค่ะ


วัดที่ 2
ดิฉันได้นำทุกท่านไปกราบไหว้รูปปั้นอดีตพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งด้วยการเดินเวียนทักษิณา และสักการะบูชาท่านด้วยพานพุ่มดอกบัว 1 คู่ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับคณะเสบียงสวรรค์และผู้ร่วมบุญทุกท่าน และให้ทุกท่านได้ทำบุญที่วัดแห่งนี้ตามอัธยาศัยจนถึงเวลาเดินทางกลับบ้านกันค่ะ โดยก่อนที่จะเดินทางกลับนั้น ไม่ได้มีวี่แววว่าจะมีฝนตก แต่ในญาณวิถีของดิฉันรู้ได้ว่า จะมีฝนตกหนัก จึงได้หันไปสั่งให้ลูกศิษย์เอาร่มติดตัวมาด้วย ตอนที่ลงจากรถไปกราบไหว้หลวงปู่ ลูกศิษย์ก็นำร่มมา แต่แล้วก็คิดว่าไม่เห็นว่าจะมีฝนตกอะไรก็ให้เพื่อนเอาร่มกลับไปเก็บ และปรากฏว่า ทุกคนต่างพากันขึ้นรถบัสแล้ว เหลือเพียงแต่ดิฉันกับลูกศิษย์เพียงไม่กี่คนที่กำลังจะเดินกลับ ต้องผจญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและทุกคนต่างก็เปียกปอนกันทุกคนเพราะต้องเดินกลับทั้งที่ไม่มีร่มค่ะ แต่ด้วยความสุขในบุญกุศลยังประทับจิตประทับใจอยู่ ก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้หรอกค่ะ เพียงแต่นำมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นค่ะ

ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งนะคะ ที่ได้ร่วมบุญกันมาด้วยศรัทธาในบุญกุศลเพราะบุญนี้ใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่มจริง ๆ นะคะ ดิฉันขออำนวยอวยพรให้ทุกท่านผู้ร่วมบุญกับอาจารย์เจน ญาณทิพย์ จงมีแต่ความสุข ความเจริญ โดยเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบเข้าสู่พระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าด้วยเทอญ

อาจารย์เจน ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

จี๊ดจ๊าดมาแล้วค่ะ วันนี้จี๊ดมาขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์เจน  ญาณทิพย์ พี่รุ้ง ทีมงานทุกคนและผู้ร่วมบุญกับอาจารย์เจน ญาณทิพย์ทุกท่านที่งานบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ สำหรับบุญเสบียงสวรรค์ ทริป 88 วันที่ 26 มิถุนายน 2565 และ ด้วยบุญที่ยิ่งใหญ่นี้มากมายแบบเต็มกำลัง เต็มพิกัดเชียวค่ะ ส่วนตัวจี๊ดเองมีความภูมิใจมากที่ได้ทำบุญกับอาจารย์เจนที่คิดถึงแต่เรื่องของบุญกุศล คิดถึงแต่ว่า มีบุญอะไรที่ทำแล้วที่จะได้รับอานิสงส์บุญมาก และมีบุญอะไรที่จะให้ผู้ร่วมบริจาคทุกท่านได้รับบุญกุศลอย่างเต็มที่ และมหาบุญกุศลในครั้งนี้ก็อิ่มบุญกันอย่างถ้วนหน้าค่ะ คณะเสบียงสวรรค์ของเราครั้งนี้ได้ทำบุญที่สำเร็จต้องตามประสงค์ของเจตนาบุญแล้ว คือการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างสะพานที่ยื่นออกไปในบ่อใหญ่ เพื่อใช้เป็นสาธารณะกุศล อาทิเช่น ปล่อยปลา นั่งเล่น นั่งสมาธิโดยรอบบ่อใหญ่ เป็นบุญที่เป็นกุศลทั้งนั้นค่ะ และการทาสีกำแพงรอบวัด และกำแพงรอบโบสถ์ เพื่อให้วัดมีความสวยงามมองไปแล้วสะอาดสบายตา ผู้คนจะได้เข้ามาทำบุญแล้วก็มีความสุขที่ได้มองได้เห็นวัดแห่งนี้น่ามองน่าเข้าไปทำบุญค่ะ และบุญสำคัญที่เป็นไฮไลน์ของงานก็เป็นพิธีหล่อพระพุทธรูป ที่ชื่อว่า พระพุทธโอสถทิพย์ ที่มีลักษณะงดงามมีโถยาอยู่ที่ฝ่ามือที่หน้าตักพระพุทธรูป ความสำคัญนี้เพื่อตั้งประดิษฐานไว้อยู่ที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เพื่อใช้เป็นจุดศูนย์รวมที่ทางวัดจะได้ใช้เป็นลานธรรม เป็นลานที่พระสงฆ์ท่านได้ใช้เป็นสถานที่สอนธรรมมะให้กับชาวบ้านค่ะ ที่จี๊ดบรรยายบุญที่ทำมานี้ มันเปี่ยมล้นไปด้วยบุญที่ประทับจิตประทับใจเป็นที่สุดและเชื่อว่าทุกท่านผู้ร่วมบุญก็คงจะปิติใจและสุขใจในบุญกุศลที่ได้ทำสำเร็จแล้วนี้นะคะ



ก่อนออกเดินทางก็มีอาหารมื้อเช้า ไข่ตานีกับน้ำยำอร่อยมาก และผัดกระเพราหมูกรอบ น้ำดื่ม ขนมอบกรอบตูเล่ แค่นี้ก็พอที่จะทำให้ทุกคนอิ่มหลับสบายใจกันแล้ว เพราะต่างก็ตื่นเต้นที่จะมาทำบุญ ไม่ได้นอนหลับกันสนิทใจหรอกค่ะ ก็เป็นเพราะกลัวจะตกรถมาไม่ทันค่ะ
บริการสุขาเคลื่อนที่ ครั้งนี้มี 2 จุด ที่จุดแรกด้านหน้าห้าง และจุดสองที่ด้านหลังห้างค่ะ เพื่อผู้คนจำนวนมากต้องได้รับความสะดวกสบายจากการเดินทาง เนื่องจากจะต้องเดินทางไกลและทุกคนก็รับประทานกันอิ่มเป็นธรรมดาค่ะ ซึ่งอาจารย์เข้าใจดีในเรื่องนี้ ก็จึงสั่งรถสุขามาบริการเพิ่มเติมอีกหนึ่งคัน จึงแบ่งจุดสุขาเป็น 2 จุดค่ะ



ในความประทับใจนี้มีมากมายเหลือเกินค่ะ ตั้งแต่ขบวนรถทัวร์ทยอยมาจอดที่หน้าวัดและทุกคนก็เดินกันเข้าวัด ได้มีชาวบ้านมาคอยให้การต้อนรับ โดยมีนางรำ อายุกว่า 50 ปีขึ้น พวกนางทั้งหลายใส่เสื้อคอกลมแขนกระบอก สีม่วง สวมผ้าซิ่น เกล้าผม พร้อมฟ้อนรำ ยืนให้การต้อนรับกันเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มนะคะ จี๊ดหันไปมองทุกคนแล้วก็ชื่นใจค่ะ ที่พวกชาวบ้านเค้าตื่นเต้นดีใจที่คณะเสบียงสวรรค์ 800 คน เดินผ่านหน้าพวกเขาไปยังศาลาที่รับรองคณะบุญของเรา และที่ภายในและภายนอกศาลาก็มีเก้าอี้จัดวางไว้ให้นั่ง แม้จะเบียดเสียดกันไปหน่อยก็เพราะจำนวนผู้เดินทางมีมากมายจนล้นออกมานอกศาลา แต่เชื่อหรือไม่ทุกคนที่มาในงานบุญนี้ ก็ไม่ได้จ๊อกแจ๊กจอแจ ไม่ได้เม้ามอยกันให้หนวกหูรำคาญใจอะไรเลยค่ะ ทุกคนน่ารักมาก ให้ความร่วมมือในบุญของอาจารย์เจน ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ชื่นชมของคณะสงฆ์แทบทุกวัดค่ะ ว่า คณะเสบียงสวรรค์ของอาจารย์เจน ญาณทิพย์นี้ดีมาก เพราะทางวัดนั้น ๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยพบเจอ เพราะส่วนมากคนมักจะคุยแข่งกับพระ แต่คณะบุญของเราเยี่ยมจริง ๆ มีความสามัคคีร่วมใจกันดีมากค่ะ จี๊ดว่าดีนะคะ เพียงวันเดียวมาทำบุญด้วยกันต้องทำให้เต็มกำลังเต็มที่ แล้วไปคุยกันที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่วันเดียวนี้ต้องตั้งใจทำบุญให้มากที่สุดค่ะ สาธุจริง ๆ ค่ะ



เรื่องที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือที่วัดแห่งแรกนี้ทุกท่านได้โอนปัจจัยร่วมบริจาคกันมาและที่ได้มาต่อยอดบุญกันที่วัด จนทำให้ได้ยอดปัจจัยเงินมากกว่าล้านบาทค่ะ จี๊ดคิดนะคะ ว่าเงินจำนวนนี้คงเพียงพอที่ทางวัดจะได้นำไปใช้ในส่วนที่ทางวัดตั้งใจจะทำนุบำรุงวัดในอันดับต่อไปค่ะ ซึ่งยอดเงินที่ได้นั้นทุกท่านได้เป็นผู้มีส่วนในบุญกุศลนี้ที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาค่ะ ในการนี้ จี๊ดรู้สึกภูมิใจแทนอาจารย์เจนที่เป็นผู้นำบุญได้นำพาผู้คนมาทำบุญที่ยิ่งใหญ่สุด ๆ อ่ะค่ะ



หลังจากที่ได้ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นคณะเสบียงสวรรค์ก็พากันไปชมและชิมอาหารมื้อกลางวันด้วยกัน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเลือกรับประทานอะไรเพราะมีโรงทานอาหารต่าง ๆ มากมาย ดังนี้ค่ะ



โรงทานอาจารย์เจน โดยอาจารย์เจนได้สั่งข้าวกล่องจากร้านที่มีชื่อในถิ่นนั้น และขอบอกว่าเป็นอาหารชั้นเลิศ ราคาค่อนข้างแพงแต่เป็นอาหารอร่อย คุณภาพดี สะอาด และน้ำส้มลูก ความอร่อยนี้ได้รับครบทุกท่านค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับทุกท่านจะรับประทานกันไหวมั้ยเอ่ยค่ะ นอกจากนี้ยังมี  น้ำส้มขวดอีกจำนวนหนึ่งที่ลูกศิษย์อาจารย์เจนได้นำมาร่วมสนับสนุนโรงทานกับอาจารย์เจนด้วยค่ะ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ถึงแม้ว่า จะมีโรงทานของวัดที่ทางวัดได้แจ้งมายังอาจารย์แล้ว แต่อาจารย์ก็ไม่ประมาทในเรื่องนี้ เพราะงานบุญ ของอาจารย์นั้นไม่ต้องห่วงเลยกินกันจุก ๆ ค่ะ ตอนนี้บางคนก็ปรับรูปแบบการแต่งตัวเป็นการสวมใส่กางเกงขอบเอวยางยืดกันแล้วนะคะ งานบุญอาจารย์เจนไม่เคยคิดคำนึงในเรื่องการประหยัดเงินค่าใช้จ่ายและไม่เสียดาย เพียงต้องการให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยและมีความสุขในการทำบุญด้วยค่ะ และยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ
ตามมาที่เต๊นท์นะคะ ช่วงบ่ายแก่ ๆ อาจารย์ได้สั่งหมูปิ้ง 1,000 กว่าไม้ จากร้านอร่อย สั่งมาปิ้งกันร้อน ๆ ที่วัดเพื่อแจกจ่ายให้กับทุกท่านได้รับประทานกันค่ะ มีเฉาก๊วยเย็นให้รับประทานกันให้ชื่นใจหลังจากที่ทาสีกันมาร้อน ๆ มีน้ำอัดลมต่าง ๆ น้ำสปอนเซอร์ แต่เชื่อหรือไม่ ทุกท่านตั้งใจทาสีกันแบบไม่เสร็จ ไม่กินค่ะ



โรงทานน้ำดื่มของลูกศิษย์  ก็มีเจ้าประจำคือ คุณเดชาธรและครอบครัวที่มีศรัทธาในบุญเสบียงสวรรค์ ได้นำน้ำดื่ม อาทิเช่น น้ำเก็กฮวย ชาเขียวมะนาว เป็นต้น ได้นำน้ำดื่มดังกล่าวมาแจกให้กับทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยและแก้กระหายคลายร้อนจากการทาสี จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ศรัทธาแรงกล้าในบุญกุศลจริง ๆ นะคะ

โรงทานชาวบ้าน  อาหารที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงต้อนรับ อาทิเช่น ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยมาก ๆ มีข้าวหม้อ แกงหม้ออาหารคาวหลายอย่าง ส่วนอาหารหวาน เป็นพวกขนมหวานเย็นชื่นใจ และมีไอศครีม พร้อมทั้งมีผลไม้จากสวนอีกด้วยค่ะ คืออาหารเยอะแยะจนอธิบายไม่ถูกเลยค่ะ

จี๊ดเดินมากับคุณรุ้งมุ่งไปที่กำแพงรอบวัด และกำแพงรอบโบสถ์ เมื่อเดินมาถึง อืมมมม ทุกคนเก่งและว่องไวมากจริง ๆ ค่ะ เค้าทาสีกันจะไม่มีพื้นที่ให้เราทาสีกันแล้วค่ะ  ซึ่งจี๊ดประทับใจมากที่ได้เห็นพลังบุญที่เกิดจากความสามัคคีล้วน ๆ ค่ะ



มายังที่ปะรำพิธีหล่อพระ ตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เริ่มมีเมฆมาบดบังท้องฟ้า ที่ปะรำพิธีช่างเขาก็ก่อสุมไฟที่หุ่นขี้ผึ้ง เพื่อเตรียมหล่อพระแล้วค่ะ ผู้คนกว่า 800 คนนั่งล้อมรอบปะรำพิธี ทุกคนนั่งภายในเต๊นท์สีขาวที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ค่ะ คุณรุ้งเดินมาก่อนเพื่อจัดเตรียมทองเหลืองที่จัดหามาอย่างดี ก็มีทองเหลืองที่มีรูปร่างรูปแบบต่าง ๆ ที่หาซื้อมา เช่น ปลาช่อน เต่า ช้าง กิมตุ้ง (บางคนอาจไม่รู้จักคือเป็นแบบเหรียญเงินของจีนแหละค่ะ) และมีทองแท่ง 9 แท่ง ก็ตามรูปภาพที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นค่ะ ตัวสัตว์ต่าง ๆ ตัวใหญ่หนา น้ำหนักมากจำเป็นต้องหล่อหลอมไปก่อนค่ะ เมื่ออาจารย์มาถึงสถานที่ ๆ ทางวัดจัดไว้ให้ก็ได้นิมนต์พระอันดับ 9 รูป และพระนั่งปรก 4 รูป ต่อจากนั้นก็ได้นำถวายสังฆทานชุดยาสามัญประจำบ้าน (ชุดยาใส่พานขันโตก) สำหรับพระ 9 รูป และถวายสังฆทานชุดยาสามัญประจำบ้าน (ชุดยาใส่ตะกร้าถักสาน) รวมทั้งถวายปัจจัยที่เป็นเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาค่ะ ด้วยบุญแห่งสังฆทานนี้เพื่อเป็นการเบิกฤกษ์ชัยในการทำพิธีบวงสรวงก่อนทำการหล่อพระค่ะ

จี๊ดแหงนมองไปที่ท้องฟ้าแล้วก็คิดไปว่า ถ้าฝนตกจะทำยังไงในกองไฟที่สุมหุ่นแบบขี้ผึ้งอยู่นั้นก็กำลังลุกโชน ไฟจะดับเพราะฝนมั้ยหนอ ก็คิดไปเรื่อย แล้วคิดต่องานทาสีจะทำกันได้มั้ยหนอ ก็คิดต่อไปอีก ตอนที่นั่งคิด ๆ อยู่นั้นก็ได้เห็นก้อนเมฆเคลื่อนเข้ามาปกคลุมเต็มท้องฟ้า แต่พออาจารย์ทำพิธีบวงสรวงเสร็จท้องฟ้าก็เปิดสว่าง ก้อนเมฆก็เคลื่อนออกไป หลังจากนั้นฝนก็เทลงมาห่าใหญ่พักหนึ่ง แล้วก็สงบลง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งทำการหล่อพระต่อไปในการนี้ก็เป็นโอกาสทองของผู้ที่มาร่วมงานจะนำทองคำติดตัวมา อาจารย์อนุญาตให้นำทองมาร่วมได้คนละเล็กน้อยก็ได้เท่านั้นล่ะ ซึ่งมีหลายคนที่ยอมเสียสละทองติดตัวมา ต่างก็วิ่งพรูกันเข้ามาที่ปะรำพิธี เพื่อยื่นทองคำส่งให้กับมือของอาจารย์ ให้เป็นตัวแทนหย่อนทองลงในกระบวย ที่มีความร้อนของไฟที่ร้อนและกำลังลุกแดงฉานที่กลางปะรำพิธีค่ะ

เรื่องที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ก็คือหลังจากการหล่อพระได้สำเร็จ โดยฝนที่ตกนั้น ซาไปโดยเร็วจนน่าประหลาดใจค่ะ ส่วนทางด้านอาจารย์ก็เล่าให้จี๊ดฟังภายหลังว่า ที่บนท้องฟ้านั้นมีคนโทน้ำที่จ่อรอเทน้ำฝนลงมา มากกว่า 10 คนโท ที่เบื้องบนท่านรอเวลาที่จะเทน้ำฝนลงมาและท่านได้ยับยั้งไว้ เมื่อพิธีบวงสรวงเสร็จคนโทก็เทลงมาสู่พิธีหล่อพระเพียงพักเดียว ฝนก็หยุดหาย คือฝนหยุดหายเป็นปลิดทิ้งแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก่อนหน้านี้ค่ะ

งานบุญเสบียงสวรรค์ของอาจารย์เจนและเป็นบุญใหญ่หล่อพระพุทธโอสถทิพย์นี้ แม้แต่เบื้องบนยังสะเทือนเลื่อนลั่น แซ่ซ้องไปถึงองค์อินทร์จนท่านเสด็จมาอนุโมทนาบุญกับงานบุญหล่อพระนี้ด้วยค่ะ จี๊ดงี้ตื่นเต้นเหมือนกันนะคะ ซึ่งตามที่อาจารย์เจนได้เล่าให้ทุกท่านรับฟังกันไปแล้วนั้น จี๊ดก็เป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นและได้อยู่ใกล้ๆ กับอาจารย์ตอนนั้นด้วยที่อาจารย์พูดว่า องค์อินทร์ท่านเสด็จมาตอนนั้นจี๊ดรับฟังไว้ แต่ก็อยากรู้ต่อค่ะ จึงได้สอบถามอาจารย์อีกครั้งให้ละเอียดลึกลงไป ก็ด้วยความอยากรู้อ่ะค่ะ และจากการซักถามอาจารย์แล้ว อาจารย์เจนเล่าให้ฟังว่า ระหว่างนั้นได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าได้เห็นองค์อินทร์ท่านเสด็จมาในท่านั่งสมาธิ ท่านมาเต็มองค์ แต่ไม่เห็นพระเศียรของท่าน และจี๊ดก็อยากรู้ต่อจึงถามอาจารย์ไปว่า อาจารย์คะ ท่านมาองค์เดียวหรือคะอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ได้อธิบายว่า องค์อินทร์ท่านมาก็ต้องมีบริวารตามมาด้วย แต่เท่าที่อาจารย์เห็นนี้ ก็รู้สึกปิติใจมากแล้ว ถือว่าโชคดีแล้วที่ได้เห็นเพราะท่านมาปรากฏให้เห็นอย่างนี้ย่อมแสดงว่า บุญของคณะเสบียงสวรรค์นั้นมากมายเหลือเกิน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นขั้นเป็นตอนของเรื่องราวเหมือนการจัดฉากหนังสักเรื่องหนึ่ง เพราะเมื่อฝนหยุดตก ทุกคนก็ได้ไปทำงานที่ตั้งใจต่อจนสำเร็จ นั่นก็คือ การหล่อพระพุทธรูป การทาสีกำแพงวัดและกำแพงรอบโบสถ์ ซึ่งคงจะไม่มีใครได้สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ แต่จี๊ดก็อยากจะให้ทุกท่านที่ร่วมงานกันในวันนั้น ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ว่าจริงหรือไม่ แล้วใครจะคิดล่ะว่า เราจะได้หล่อพระสำเร็จเพราะฝนตกหนัก และจะได้ทาสีกำแพงกันมั้ย เพราะฝนตกหนัก ซึ่งก็คงจะมีใครหลายคนที่คิดและลุ้น ๆ กันอยู่นะคะ เมื่อการหล่อพระเรียบร้อยแล้ว ฝนหยุดตกแล้ว พวกเราก็ไปทาสีเป็นอันดับต่อไปค่ะ

ทุกคนมุ่งหน้าไปที่กำแพงรอบวัดและที่กำแพงรอบโบสถ์นั้น และทุกคนก็มุ่งที่จะทาสีกัน จนลืมกันไปแล้วว่าก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา เพราะปกติแล้วที่พื้นผิวกำแพงจะต้องเปียกชื้น ทาสีไม่ได้แน่นอนค่ะ แต่ก็เหมือนกับที่อาจารย์พูดให้ฟังไปแล้วว่า พระสุริยะเทพหรือพระอาทิตย์ท่านได้ส่องแสงสว่างร้อนหลังฝนตก ทำให้กำแพงที่ชื้นนั้นแห้งได้ภายในเวลาไม่นานนักค่ะ จึงทำให้ทุกคนสามารถทาสีได้ไม่ต้องรออะไรเลยค่ะ เนื่องจากสีเป็นสีที่มีคุณภาพดีที่สุดและราคาแพงก็คงทน มันคุ้มนะคะ

วัดที่ 2
เดินทางต่อไปยังวัดที่ 2 อาจารย์ได้นำผู้ร่วมบุญไปทักษิณาและนำกราบสักการะบูชารูปปั้นหลวงปู่พระเกจิอาจารย์ด้วยพานพุ่มดอกบัว 1 คู่ ซึ่งอาจารย์ได้จัดพานดอกบัวสีขาวที่งดงามสมควรแก่การสักการะบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ หลังจากนั้นทุกคนก็ได้ทำบุญกันตามอัธยาศัยกันที่วัดแห่งนี้ค่ะ
ที่วัดแห่งนี้มีบรรยากาศที่ดีนะคะ ทุกคนมีความสุขมาก ต่างก็ทักทายและถ่ายรูปด้วยกันอย่างมีความสุข สักพักหนึ่งฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ แต่ตอนนี้คงเหลือแต่อาจารย์ พี่รุ้ง และลูกศิษย์ไม่กี่คนที่เปียกปอนกันทุกคนพอมาถึงรถทัวร์ก็หนาวน่าดูชมเชียวค่ะ

แต่ขำดีนะคะที่อาจารย์เล่าว่า รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าฝนจะตกหนัก จึงให้ลูกศิษย์เอาร่มมาด้วย แต่ลูกศิษย์กลับเอาร่มไปเก็บไว้ เพราะไม่มีใครเชื่อและไม่เห็นว่ามีท่าทีว่าฝนจะตก และแล้วฝนก็ตกลงมาจริง ๆ ค่ะ แหมอย่างกับตาเห็นเชียว เอ้ยไม่ใช่สิ อาจารย์มีตาทิพย์ หูทิพย์ และยังมีญาณหยั่งรู้อีกด้วยสิคะ

ข้อคิดสะกิดใจ บุญกุศลนั้นทำกันไปเถอะค่ะ ตัวเรานั้นก็ไม่รู้หรอกค่ะว่า ทำบุญแล้วดีอย่างไร ทำบุญแล้วได้อะไรบ้าง แต่การทำความดีนั้นก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถึงแม้ว่าในวันนี้ยังไม่รู้อะไร แต่วันข้างหน้าเราก็ไม่รู้ได้นะคะ อย่าหยุดยั้งการสร้างบุญสะสมเสบียงบุญกันต่อไปนะคะ

จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่น่าประทับใจมากค่ะ ที่ได้ยอดเงินเป็นจำนวนมากกว่าล้านบาท ซึ่งนี่ก็ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทาสี ค่าซื้อถังสี สิ่งของที่เหลือเหล่านี้ถวายวัดจนหมดสิ้น และยังมีเงินถวายวัดอีกสองหมื่นกว่าบาทที่เป็นค่าขายแปรงทาสี ค่าขันใช้แล้ว โดยทีมงานได้นำขันที่ทุกท่านใช้แล้วนั้นเก็บมาขัดล้างใหม่และนำมาขายค่ะ ซึ่งเงินทั้งหมดนำถวายวัด นอกจากนี้คณะเสบียงสวรรค์ยังได้เรี่ยไรเงินถวายวัดเป็นค่าชำระหนี้สงฆ์อีกจำนวนมาก คือไม่ได้นับอ่ะค่ะ  แต่ว่าเงินเต็มขันเลยค่ะ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญด้วยค่ะ เป็นบุญกุศลที่ถวายแล้วถวายอีกค่ะ
จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เอก3

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ