แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2020-7-24 10:55
ปิดรับบริจาคปัจจัยสร้างเรือนนอนกรนชาย/หญิง สำนักปฏิบัติธรรมฯ

ด้วยดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ มีความประสงค์ที่จะขอเชิญชวนทุกท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลร่วมทำบุญสร้างเรือนนอนกรนชาย/หญิง จำนวน 1 หลัง ณ สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ อาจารย์เจนฯ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ การสร้างเรือนนอนกรนดังกล่าวนี้เป็นโครงการใหม่ค่ะ ซึ่งยังไม่มีสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใดคิดสร้างค่ะ แต่ด้วยเหตุผลของการสร้างเรือนนอนกรนนี้ เป็นเพราะว่าจากการที่ดิฉันได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมยังสถานที่ต่าง ๆ สถานที่ปฏิบัติธรรมเกือบทุกแห่งจะสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้นอนร่วมกัน และเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยค่ะ ส่วนมากภายในเรือนจะทำเป็นห้องนอนที่โล่งและกว้าง ซึ่งสถานที่มีเพียงจำกัด โดยเรือนนอนได้สร้างไว้ให้มีที่พักอาศัยนอนช่วงกลางคืน และช่วงกลางวันก็ไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ที่เหมาะสม ดังนั้นช่วงเวลากลางคืนทุกคนก็จะได้มาอยู่ร่วมกันนอนร่วมกันภายในห้องโถงใหญ่ และในการที่ทุกคนต้องมานอนอยู่ร่วมกันนี้เอง ปัญหาสำคัญจะเป็นเรื่องของการนอนกรนค่ะ สำหรับคนที่นอนกรน บางคนก็ไม่รู้ว่าตนเองนอนกรน ส่วนใหญ่เพื่อนจะมาบอกกล่าวกันเอง และที่เพื่อนมาบอกกล่าวเพราะเพื่อนนอนไม่หลับค่ะ บางรายถึงกับขอไปนอนที่อื่น หรือยอมเสียเงินไปหาซื้อที่นอนที่ไม่มีเสียงกรนมารบกวนค่ะ การนอนกรนเป็นเรื่องที่สุดวิสัย สาเหตุมาจากมีอายุมากขึ้น ตั้งแต่วัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ หรือผู้ที่สุขภาพไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจก็อ่อนแอลงหรือสาเหตุอื่นที่เป็นสาเหตุทำให้มีอาการนอนกรน ซึ่งประเด็นหลักก็คือทำให้เพื่อนที่นอนร่วมกับเรานั้นนอนไม่หลับค่ะ เมื่อเพื่อนที่มาปฏิบัติธรรมด้วยกันนอนไม่หลับ การปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้พัฒนาไปไหนเพราะจะมีแต่ความง่วงเหงาหาวนอนติดนิวรณ์ในการปฏิบัติธรรมค่ะ

ดิฉันจึงคิดโครงการสร้างเรือนนอนกรน สำหรับผู้ชายและผู้หญิง จำนวน 1 เรือนและภายใน 1 เรือนแบ่งออกเป็นห้องนอนชาย ฝั่งหนึ่ง และห้องนอนหญิงฝั่งหนึ่งแบ่งกันนอนกันคนละฝั่งค่ะ
การดำเนินการที่ผ่านมา ดิฉันได้สร้างเรือนต่าง ๆ สำเร็จไปหลายเรือนแล้ว รวมทั้งเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องน้ำ/ห้องสุขา ดิฉันได้รับบริจาคนำเงินมาสร้างจนสำเร็จสวยงามไปจนเรียบร้อยแล้วค่ะและในระหว่างนี้ ดิฉันได้สร้างเรือนนอนหญิงไปได้ 80% (เรือนนี้เป็นเรือนนอนปกตินะค่ะ) ซึ่งใกล้จะทำการเปิดปฏิบัติธรรมได้แล้ว หากเรือนนอนหญิงนี้สร้างเสร็จก็สามารถเปิดปฏิบัติธรรมได้เพราะมีทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ จะมีปัญหาสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือช่วงนี้หน้าแล้งทางสำนักไม่มีน้ำที่จะนำเข้ามาเก็บไว้ในแท้งค์น้ำที่ดิฉันได้รับบริจาคมาซึ่งมีเพียงพอที่จะนำมากักเก็บน้ำเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้ค่ะ จากการตรวจสอบแม้แต่น้ำในบ่อก็แห้งแล้งมาก ไม่มีน้ำในบ่อน้ำเลยค่ะซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ต้องชะลอการเปิดปฏิบัติธรรมออกไปจากที่เคยกำหนดไว้ค่ะ
ตามเจตนาที่ดิฉันมีโครงการสร้างเรือนนอนกรนชายดังกล่าวข้างต้นนั้นเพื่อมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ปฏิบัติที่นอนกรนจะได้ไปอยู่ในเรือนเดียวกันค่ะ
ในงานกฐินปี 2561 ที่ผ่านมาดิฉันได้ทำการเปิดประมูลหีบสมบัติเพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูลนำเข้าสำนักปฏิบัติธรรมเพื่อนำมาเป็นต้นบุญในการสร้างเรือนนอนกรนชาย/หญิงซึ่งได้ปัจจัยเงินมาจำนวนประมาณ 800,000 บาท สำหรับในการก่อสร้างต้องใช้เงินประมาณ 1,800,000บาท ดังนั้นจึงขาดอีกประมาณ 1 ล้านบาท เนื่องจากเรือนนอนหญิงสร้างได้ 80% แล้ว ช่างก่อสร้างก็จะเรียกร้องของานทำ โดยให้เหตุผลว่าทางช่างก่อสร้างจะหมดงานไม่มีงานทำ จำเป็นต้องไปหางานที่อื่นทำไปพราง ๆ ก่อน ดิฉันเห็นว่า ด้วยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างเรือนนอนกรนฯ อยู่ด้วย แล้วได้รับเงินบริจาคจากการประมูลมาด้วยแล้ว แต่ยังขาดปัจจัยเงิน 1 ล้านบาทก็คงต้องรีบดำเนินการให้ต่อเนื่อง มิเช่นนั้นการก่อสร้างก็จะขาดตอน รวมถึงดิฉันไม่ได้จ้างคนเฝ้าสำนักหากมีช่างก่อสร้างอยู่ประจำทำงานต่อไปก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้โดยให้ช่างช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลให้ไปก่อนค่ะ
เพื่อให้เรือนนอนกรนชาย/หญิง สร้างเสร็จได้ทันกับเรือนนอนหญิง (เรือนนอนปกติ) และพร้อมที่จะเปิดปฏิบัติธรรมได้ค่ะ การสร้างเรือนนอนกรนดังกล่าวนี้ดิฉันพูดได้ว่า ไม่มีสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใดเขาทำกันค่ะ แต่ดิฉันคิดโครงการนี้ขึ้นมาเพราะได้เห็นความเป็นจริงในข้อนี้มีหลายคนมากมายที่มักจะบ่นว่านอนไม่หลับเพราะคนที่นอนด้วยกรนเสียงดัง เมื่อคนนอนไม่หลับตลอดทั้งวันก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งใดได้ดีเหมือนกับคนที่ได้นอนอย่างเต็มอิ่มนะค่ะ และยิ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมผู้คนเดินทางไปยังสถานที่ที่ปฏิบัติธรรมก็ต้องการปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพกลับไปด้วย พร้อมนี้การปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้มีเวลามากเพียง2-3 วันต้องกอบโกยประโยชน์แห่งการมาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่งค่ะ
บุญสร้างปะรำมณฑปสถานที่ปฏิบัติธรรม ในสมัยพุทธกาลนายพรานป่าคนหนึ่งล่าสัตว์ป่าเพื่อดำรงชีวิตวันหนึ่งนายพรานคนนี้ได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าซึ่งเข้ามาในป่าเพื่อปลีกวิเวกบำเพ็ญสมณะธรรมเมื่อแรกเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้านายพรานก็เกิดศรัทธาเลื่อมใสอย่างจับจิตจับใจถึงแม้ว่าจะเป็นพรานนักล่า แต่เมื่อเห็นพระก็อยากที่จะทำบุญและยิ่งได้รู้ว่าพระท่านจะมาบำเพ็ญสมณะธรรมในป่าก็คิดที่จะสร้างที่พักอาศัยให้ท่านบำเพ็ญสมณะธรรม เขาจึงรีบไปแสวงหาไม้มา ๔ ท่อนทำเป็นปะรำมณฑปรูปสี่เหลี่ยมเก็บดอกปทุมเป็นจำนวนมากแล้วนำมามุงแทนหลังคากันแดดกันฝน เมื่อนายพรานถวายปะรำแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเจ้าเรียบร้อยแล้วก็เกิดความปลื้มปีติและศรัทธาอยากบวชอยู่กับท่าน นายพรานจึงตัดสินใจเลิกอาชีพพรานป่าแล้วตั้งใจบวช เมื่อนายพรานได้บวชพระแล้วไม่นานก็ป่วยหนัก ครั้นใกล้จะละโลก ท่านรำลึกถึงบุญที่สร้างปะรำมณฑปถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าจิตดวงสุดท้ายของท่านจึงผ่องใสมาก เพราะผูกพันเกาะเกี่ยวในบุญนั้น ท่านจึงได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานทองสวยงามมาก โดยมีทิพย์วิมานในรูปของปะรำโดยรอบ ร้อยโยชน์ก็มารองรับการบังเกิดในเทวโลกของท่านและระหว่างที่ท่านเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ บุญนี้ยังปิดอบาย ทำให้ท่านไม่ตกไปในทุคติภูมิ และบุญสร้างที่ปฏิบัติธรรมนี้ยังส่งผลไปถึงตอนที่ท่านไปบังเกิดในโลกมนุษย์อีกด้วย ครั้นคราใดที่ท่านได้พบกับสภาพอากาศร้อนมาก เพราะแสงแดดที่ร้อนจัดแม้จะร้อนสักเพียงใดหรือว่าได้เห็นพยับแดดพลิ้วไหวคล้ายคลื่นอยู่เบื้องหน้า แสงแดดร้อนนั้นก็มิอาจมากล้ำกรายแผดเผาตัวท่านได้เลย และหากปรารถนาจะข้ามทะเลเพียงแค่อธิษฐานนึกในใจทำทะเลให้เป็นแผ่นดิน ก็สามารถข้ามไปได้อย่างสบาย ในชาติสุดท้ายท่านเกิดเป็นกุลบุตรในตระกูลของเศรษฐีในเมืองสาวัตถีมีชื่อว่า “นันทกะ” ต่อมาท่านมีโอกาสอุปัฏฐาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ฟังธรรมแล้วจึงเกิดศรัทธาออกบวช ท่านเจริญวิปัสสนาจนหมดสิ้นกิเลสอาสวะพร้อมกันนี้ยังได้คุณวิเศษเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญาและแตกฉานในปฏิสัมภิทาญาณอีกด้วย
จากประวัติในพุทธกาลนั้น มีอานิสงส์บุญมากเพียงใดก็ตามแต่สิ่งที่ทุกท่านจะได้ร่วมสร้างด้วยกันเป็นการสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่เป็นการร่วมสร้างเรือนนอนให้กับผู้ปฏิบัติธรรมผู้ที่มาถือศีล 8 ถือศีลบริสุทธิ์ และทุกครั้งที่ผู้ปฏิบัติได้มาพักพิงอาศัย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบุญใดๆ หรือการนั่งสมาธิสวดมนต์ก่อนนอน หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นบุญท่านผู้บริจาคก็จะได้รับอานิสงส์นั้นมิได้ขาดแม้ว่าท่านจะได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วไปเกิดในภพภูมิใดด้วยอานิสงส์บุญนี้ก็จะติดตามท่านไปทุกภพชาติค่ะ และยังรวมถึงญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วของทุกท่านที่ได้อุทิศบุญไปให้นั้นญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วก็ได้อานิสงส์บุญนี้ไปด้วย และสามารถฉุดรั้งจิตวิญญาณของญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปนั้นขึ้นมาจากนรกภูมิทีระดับขึ้นมาได้ค่ะที่ดิฉันสามารถพูดได้เพราะดิฉันรู้ได้ในญาณวิถีว่าเป็นเช่นนั้นค่ะ จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะที่จะได้ร่วมสร้างบุญด้วยกันในโอกาสนี้ค่ะ

อานิสงส์บุญจากการสร้างเรือนนอนฯให้กับสำนักปฏิบัติธรรมย่อมเป็นบุญมาก และบุญนี้จะติดตามไปทุกภพทุกชาติ บุญที่เราทำไว้จะติดตามตัวเราไปเหมือนเงาติดตามตัวเราไปไม่ได้สูญหายไปไหน และจะส่งผลมากมายเกินคาด ค่ะ
ดิฉันจึงบอกบุญเพื่อขอรับบริจาคจากท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญร่วมสร้างเรือนนอนกรนชาย/หญิง ดังนี้ 1. ขอรับบริจาคกองทุนละ 10,000 บาท จำนวน 100 รายชื่อขึ้นไป (ติดชื่อได้แค่ 1 ชื่อ/กองทุนค่ะ โดยให้แจ้งด้วยว่าชื่อที่ติดเป็นชื่อคนเป็น/คนเสียชีวิต มาด้วยนะคะ) โดยดิฉันจะสลักรายชื่อไว้ลงบนแผ่นสแตนเลส 304 เป็นแผ่นสแตนเลสอย่างดีค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ - ท่านที่บริจาคเพื่ออุทิศให้กับคนเป็น ดิฉันจะแกะสลักรายชื่อไว้ที่ฝั่งของเรือนนอนกรนหญิง - ท่านที่บริจาคให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ดิฉันจะแกะสลักรายชื่อไว้ที่ฝั่งของเรือนนอนชาย
2. บริจาคตามกำลังศรัทธา *ปัจจัยส่วนที่เหลือก็จะรวมในส่วนที่ขาดของสำนักปฏิบัติธรรมค่ะ*
สุดท้ายนี้ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลที่จะได้เป็นเจ้าภาพร่วมสร้างเรือนนอนกรนชาย/หญิง และท่านที่บริจาคตามกำลังศรัทธาทุกท่านค่ะ และขอด้วยอานิสงส์บุญนี้ เมื่อถึงคราวที่จะต้องตกทุกข์ได้ยากสักเพียงใด ด้วยผลบุญนี้จะมาช่วยขจัดปัดเป่าให้เบาทุเลาหาย ขอให้ท่านเป็นผู้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมโ ดยขอให้ทุกท่านจงเชื่อและศรัทธาในการสร้างบุญกุศลเพราะทุกท่านต้องมีความเชื่อน้อมใจไปกับบุญกุศลโดยทำบุญด้วยจิตที่เป็นกุศลที่บริสุทธิ์เหล่าเทพเทวาจะพิทักษ์รักษาท่านและด้วยบุญกุศลที่ท่านทำมาก็จะมาช่วยท่านเมื่อยามคับขันได้ค่ะ
อาจารย์เจน ญาณทิพย์
|