สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดมาแล้วค่ะ จี๊ดก็จะมาบอกบุญที่อาจารย์เจนได้แจ้งประกาศไปแล้วโดยขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาในบุญกุศลได้มาร่วมบุญด้วยกันกับคณะเสบียงสวรรค์โดยมีผู้นำบุญ คือ อาจารย์เจน ญาณทิพย์ ครั้งที่ 87 ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 จี๊ดว่าคณะเสบียงสวรรค์ของเรานั้นไม่ได้มาพบกันเสียนานพวกเราก็ห่างบุญกุศลกันมานานแสนนานมากเพราะโควิด และครั้งนี้อาจารย์เจนได้จัดงานบุญเสบียงสวรรค์ที่ได้ห่างหน้าหายตากันไปและขอบอกว่าจี๊ดคิดถึงทุกคนนะคะซึ่งจี๊ดก็เชื่อเหลือเกินค่ะว่า ทุกท่านก็คิดถึงงานบุญเสบียงสวรรค์ด้วยเช่นกันนะเจ้าคะอืม ดีจังเลยที่พวกเราจะได้ไปทำบุญที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันอีกแล้วค่ะ
วันนี้จี๊ดจะมาเล่าเหตุการณ์ที่ได้เดินทางไปเซอร์เวย์หาวัดทำบุญและก็จะมาบอกเล่าเพราะดีใจมากที่อาจารย์เจนได้วัดทำบุญแล้วค่ะและคราวนี้พวกเราจะได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันแล้ว ดีใจจังค่ะ คณะเซอร์เวย์นำโดยอาจารย์เจนเป็นหัวหน้าคณะเดินทางออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้ามืด และก็เหมือนกับทุกครั้งที่ไปเซอร์เวย์หาวัดทำบุญคือพวกเรานั่งรถไปเรื่อย ๆ พอขับรถออกจากกรุงเทพฯ ก็ลัดเลาะไปตามทาง โดยไม่รู้ว่าจะไปจังหวัดใดเพราะพวกเราก็ไม่รู้ จี๊ดก็ถามอาจารย์ค่ะ เราจะไปแห่งใดกันนี่ อาจารย์ก็ตอบมาว่าให้เทวดาจัดสรรแล้วกัน หนูก็ไม่รู้ค่ะพี่ อืม ตามนั้นจ้า อาจารย์อ่ะนะ นั่งคุมพลขับไปจี๊ดอ่ะนะหลับไปตื่นมาอีกที เฮ้ย ที่นี่ที่ไหน ครึ่งค่อนวันเข้าไปแล้ว ก็เริ่มมองดูวัดแล้วค่ะโดยขับรถเข้าวัดนั้นออกวัดนี้ก็ยังไม่พบกับวัดที่อาจารย์เห็นว่า ที่วัดนั้น ๆสามารถขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาได้ และวัดนั้นทำบุญอะไรที่ยิ่งใหญ่แต่ตอนนี้เริ่มหิวแล้วอ่ะสิคะ แต่ไม่ว่าจะหิวยังไงก็ต้องกินน้ำลูบท้องเอาค่ะ พวกเราต้องอดทนไม่บ่นเพราะมันลุ้นนะคะถ้าไม่ได้วัดที่อาจารย์เห็นว่าใช่เราก็กินกันไม่ลงค่ะ
บางคนก็คิดกันไปต่าง ๆ นา ๆ อู้ยมันจะสุดโต่งกันไปขนาดนั้นเชียวเรอะ โถ…ถ้าใครไม่เป็นเราก็ไม่รู้นะคะไม่ใช่จะหาวัดทำบุญได้ง่าย เพราะบางวัดก็มีเพียงพอแล้ว ไม่ได้สร้างอะไรแล้วบางวัดก็สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาเป็นไปในความหลง การทำผิด ซึ่งก็ไม่ไหวนะคะ เพราะการที่อาจารย์ได้นำพาผู้คนเข้าวัดเพื่อไม่ให้ผู้คนหลงทางไปทำบุญผิด ๆ ค่ะ มีหลายคนที่ไปวัดหรือไปไหนก็ถูกหลอกให้ซื้อสิ่งของต่าง ๆ ที่เขาบอกว่าซื้อแล้วมันดี จะร่ำรวย จะป้องกันอะไรก็ว่าไป หรือทำพิธีแปลก ๆ ก็ต้องคิดพิจารณากันนะคะคือไม่ต้องมีตาทิพย์ มีแค่ตาถั่วก็ต้องรู้นะคะอาจารย์กับพี่รุ้งเตือนเรื่องนี้ตลอด เรื่องไม่สมควรที่จะนำพาคนไปหลงทางค่ะ พวกเราหิวข้าวกันจริง ๆ ก็เพราะ ตอนเช้าแวะกินก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็กๆ ชามเดียว อาจารย์บอกว่าทานมื้อนี้ มื้อเดียวจนกว่าจะหาวัดทำบุญได้ ให้กินให้เรียบร้อยเราจะยิงยาวเพราะไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีอะไรบ้างค่ะ จนกระทั่งบ่ายละ ก็ได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้องดังโครกครากๆ แต่ก็ลุ้นนะคะ ลุ้นหาวัดให้เจอไม่งั้นไม่อยากกินไรเลยค่ะ เพราะมันเครียด ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ บ่ายมากเย็นมากแล้วจ้า วัดที่ 1 ตอนนั้นก็ทั้งหิวทั้งลุ้น จะเย็นแล้วก็ยังไม่เจอวัดที่จะทำบุญเลยและแล้วก็เห็นอาจารย์ชี้ให้พลขับดูว่าที่ยอดเจดีย์สีขาวนั้น มีความสว่างมาก มีอะไรแปลกๆ ให้ขับรถเข้าไปดู ตอนนั้นฝนตกหนักมากจริง ๆ ค่ะ เมื่อมองฝ่าสายฝนผ่านกระจกรถก็แทบจะมองไม่เห็นทางแต่อาจารย์มีตาทิพย์จึงมองเห็นแสงสว่างสีขาวตรงบริเวณนั้น อาจารย์พูดว่า เหมือนเป็นยอดเจดีย์ให้ขับรถเข้าไปดูค่ะ แต่เมื่อรถเข้ามาถึงวัด เสียงอาจารย์ก็อุทานออกมาว่าดีจังเลยค่ะพี่ พระท่านทำงานกันขณะฝนตก หนูชอบไม่ค่อยได้เห็นภาพความดีนี้เลย สาธุๆ ๆ แล้วอาจารย์ก็ลงจากรถทั้งที่ฝนตกหนัก ไปกราบนมัสการพระสงฆ์รูปนั้นซึ่งในญาณวิถีอาจารย์รู้ได้ว่าท่านเป็นเจ้าอาวาส จึงถามท่านว่า ท่านเป็นเจ้าอาวาสใช่ไหมคะท่านตอบว่าใช่ อาตมาเป็นเจ้าอาวาสเองโยม แต่ท่านก็ดูแปลกใจว่าพวกเราเป็นใคร ถึงได้ฝ่าพายุฝนมาและก็มาถามว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่เพราะพวกเราดีใจแบบไม่เก็บอาการ ดีใจกันจนลืมไปค่ะ ก่อนที่จะพุ่งตัวออกจากรถนั้น อาจารย์และคณะก็วิ่งลงจากรถแบบฝนเปียกหัวก็ไม่สนใจประมาณดีใจสุด สุด โดยอาจารย์หันมาพูดกับพวกเราว่า วัดนี้แหละค่ะ พวกเราได้วัดทำบุญแล้วเห็นมั้ยวัดนี้มีการสร้างวัตถุทานที่มีประโยชน์ด้วยค่ะ และอาจารย์ก็หันไปดูศาลารูปร่างแปลกที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้นพร้อมกล่าวว่า นี่เป็นบุญใหญ่แน่แล้วค่ะ ในตอนนั้นหลวงพ่อท่านก็พูดเชื้อเชิญให้ไปคุยกันที่ศาลาฝนกำลังตกท่านจึงบอกให้พวกเราขึ้นรถหลบฝน แล้วไปที่ศาลานั้นไปคุยกันก่อน ท่านว่างั้นและพวกเราก็ไปตามท่าน ไปด้วยความดีใจมาก ซึ่งในเพลานั้น ก็หกโมงเย็นล่วงเข้าไปแล้วค่ะ เมื่อเข้าไปภายในศาลาที่หลวงพ่อนำพาไปก็ได้รับรู้ว่าท่านกำลังสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานอัฐิธาตุของอดีตเจ้าอาวาส ใคร ๆ ก็เรียกท่านว่าหลวงปู่ ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปหลายปีแล้ว ซึ่งหลวงปู่ท่านเป็นที่เคารพรักนับถือของผู้คนและมีลูกศิษย์มากมายที่คิดจะช่วยกันสร้างมณฑป เพื่อประดิษฐานอัฐิธาตุหลวงปู่อดีตเจ้าอาวาสโดยเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2553 สร้างมาร่วม 10 กว่าปียังไม่แล้วเสร็จ ท่านสร้างไปเรื่อย ๆ รอเงินทอดกฐิน ทอดผ้าป่า และเงินบริจาคจากญาติโยมที่ผ่านไปมาสะสมในแต่ละปี ได้ปัจจัยเงินมาก็สร้างไปเรื่อย ๆ แต่ก็รู้สึกนานมาก โดยท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันท่านได้รับผิดชอบดูแลมานาน ท่านก็อยากให้สร้างเสร็จ การสร้างมณฑปนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ใช้สอยที่เป็นสาธารณะประโยชน์ให้กับผู้คนที่เข้าวัดทำบุญโดยบนชั้นสองประดิษฐานอัฐิธาตุหลวงปู่ที่เป็นอดีตเจ้าอาวาส เพื่อลูกศิษย์ที่เคารพนับถือท่านจะได้มากราบไหว้ระลึกถึงคุณความดี ครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ส่วนที่ชั้นหนึ่งใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและใช้ประกอบกิจการงานบุญต่างๆ ค่ะ
เมื่ออาจารย์ได้รับทราบแล้ว ก็ปิติใจมากที่จะทำบุญกับวัดแห่งนี้ เพราะดูด้วยญาณวิถีแล้ว ในภายภาคหน้ามณฑปแห่งนี้ จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจะเป็นศูนย์แห่งการขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาค่ะ และก็ต้องการให้ผู้ร่วมบุญได้บุญ การใช้แรงกายแรงใจ ด้วยสองมือของทุกคน และรวมถึงคนที่ไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน แต่โอนปัจจัยร่วมบุญกันมาได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน ก็จะได้รับอานิสงส์บุญมากเช่นกันค่ะ ดังนั้น อาจารย์จึงแจ้งแก่หลวงพ่อท่านว่าดิฉันจะนำพาคนมาทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างมณฑปแห่งนี้ และขอให้คณะเดินทางมาทำบุญได้เทปูนที่พื้นมณฑปเพื่อเป็นปฐมฤกษ์โดยใช้ปูนจำนวน 5 คิวหลวงพ่อท่านก็อนุญาตค่ะ
ท่านเจ้าอาวาสท่านดีใจมากยิ่งกว่าเมื่อท่านอนุโมทนาบุญกับอาจารย์แล้วท่านจึงได้เล่าว่า ไม่น่าเชื่อ หรือมีเหตุอัศจรรย์อะไรถึงเป็นแบบนี้เมื่อหลายปีมาแล้วท่านไม่เคยคิดเลยว่าจะทำสิ่งนี้ แต่มาวันนี้ในตอนเช้ามืดก่อนรุ่งสาง ประมาณตี 4 ท่านมีความรู้สึกห่วงใยการสร้างมณฑปขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เคยคิดมาก่อน หรืออยู่ในใจลึก ๆ ที่ยังติดใจท่านอยู่เรื่องการสร้างมณฑปแต่ไม่เคยคิดจะทำสิ่งนี้ นั่นคือ ทุกเช้าพระที่วัดนี้ต้องสวดมนต์ ทำวัตรเช้าตอนตี 4 ท่านเล่าว่า หากพระรูปใดปฏิบัติตามนี้ไม่ได้ก็ต้องไปอยู่วัดอื่นค่ะ ต่อจากนั้นหลวงพ่อท่านก็เล่าอย่างตื่นเต้นและพูดว่าไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ อาตมาตกใจนะ เพราะว่า เมื่อเช้าวันนี้เองเช้านี้ตอนตี 4 จริง ๆซึ่งท่านก็ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเพราะพอดี มีพระพรหมมาประดิษฐานที่วัดและเพิ่งปูกระเบื้องรอบพระพรหมเสร็จอาตมาตื่นสวดมนต์ทำวัตรเช้าเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้อยากจะกราบไหว้พระพรหม ดังนั้นอาตมาจึงเดินมายืนต่อหน้าพระพรหมแล้วจุดธูปและตั้งจิตอธิษฐานด้วยความตั้งใจว่า “ขอบารมีพระพรหมท่านจงช่วยดลบันดาลให้ผู้ที่มีบุญบารมีและมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนามาช่วยกันสร้างมณฑปนี้ให้สำเร็จเพราะสร้างมานานหลายปีแล้ว” หลวงพ่อท่านพูดไม่หยุดปากว่าวันนี้ผู้มีบารมีมาพร้อมกับสายฝนจริง ๆ อยู่ ๆ ก็มาบอกจะมาทอดผ้าป่าสามัคคี ท่านพูดไม่น่าเชื่อเลยซึ่งตอนนั้นท่านก็ไม่รู้จักพวกเรา ท่านจึงบอกว่าอาตมาว่า พรุ่งนี้โยมมาคุยกับผู้ใหญ่บ้านและกรรมการวัดดีกว่าจะได้คุยกัน แต่จริง ๆ แล้วจี๊ดคิดเลยว่า พระก็กลัวคน และคนก็กลัวพระในยุคสมัยนี้หลวงพ่อท่านไม่รู้จักเราเลยไง มันเป็นอย่างนี้ ดังนั้น จึงนัดหมายกันเวลาเก้าโมงเช้าค่ะ พอวันรุ่งขึ้นทุกคนมาตามที่ได้นัดหมายกันไว้กรรมการวัดก็เล่าให้ฟังว่า ได้พูดกับหลวงพ่อไปว่าไม่ได้แจ้งอะไรเลย ใครมาหลอกหรือเปล่าหลวงพ่อท่านก็ไม่รู้จักจึงคุยกันไม่รู้เรื่อง มาวันนี้ได้พบกันแล้วก็ดีใจแทนวัดและอนุโมทนาบุญด้วยแต่ที่กรรมการวัดคุยกับเรานั้น ก็ไม่รู้จักอาจารย์อยู่ดีนั่นแหละค่ะแต่เขาเชื่อใจในบารมีของอาจารย์ที่คุยกันและรู้สึกเคารพนบนอบจากครั้งแรกที่พบกันค่ะ มักมีคำถามว่า การเดินทางไปเซอร์เวย์นั้นไปทำไมให้เหนื่อยไปให้ลำบากกันทำไม ซึ่งจี๊ดขออธิบายให้ท่านเข้าใจได้เลยค่ะ ว่าการเดินทางไปเซอร์เวย์ในแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ ซึ่งเป็นเงินไม่ใช่น้อยไม่ใช่เพียงแต่หาวัดทำบุญอย่างเดียว แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะ เพราะอาจารย์ต้องการให้คนทำบุญอิ่มใจได้บุญแล้วก็ต้องอิ่มท้องไม่อดไม่อยาก ดังนั้น จึงต้องหาร้านอาหารที่สะอาดถูกอนามัยและอร่อยด้วยค่ะซึ่งอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้ทุกท่านได้รับประทานนั้น ทัวร์เสบียงสวรรค์ไม่เคยขาดค่ะถึงแม้ว่า ทางวัดจะจัดเลี้ยงโรงทานต้อนรับให้กับทุกท่าน แต่ก็มีบางวัดที่จัดเลี้ยงมีทั้งดีและมีไม่เพียงพอค่ะซึ่งแล้วแต่ทางวัดจะจัดการค่ะ การมาทำบุญกับอาจารย์เจน ญาณทิพย์ รับรองกางเกงต้องขยายค่ะ ตามที่หลวงพ่อท่านเล่าการอธิษฐานจิตตั้งมั่นให้คนมีบุญมาบารมีมาช่วยเหลือวัดก็ไม่ต่างกับที่อาจารย์เจนได้นั่งสมาธิและอธิษฐานจิต ขอให้ได้วัดที่จะนำพาผู้คนไปทำบุญกับวัดที่สร้างวัตถุทานที่มีอานิสงส์บุญมากด้วยเช่นกัน ต่างก็อธิษฐานตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อค่ะซึ่งจี๊ดก็รู้อยู่แล้วว่าอาจารย์นั่นเอง คือผู้มีบุญคนนั้นค่ะ ในการนี้อาจารย์จะได้ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างมณฑปและร่วมกันเทปูนซีแพค จำนวน 5 คิว เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ ที่บริเวณพื้นมณฑปค่ะจี๊ดจึงขอเชิญชวนทุกท่านได้มาร่วมบุญกันเพราะเป็นบุญที่พวกเราควรทำเป็นอย่างยิ่งและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งหนึ่งค่ะ ที่ได้เล่ามาทั้งหมดนี้จากใจเลยนะคะ มาทำบุญกันเถอะค่ะ ที่อาจารย์พูดนั้นจริงนะคะ “บุญนั้น ใครทำ ใครได้ ใครกินใครอิ่ม” ค่ะ

ข้อคิดสะกิดใจ จงอย่าละเลยในการสร้างบุญกุศลและอย่าคิดว่า การทำบุญก็เหมือนเดิมเป็นบุญที่ทำซ้ำๆ กัน ไม่ทำบุญแบบนี้แล้ว น่าเบื่อ แต่ขอให้เราทุกคนคิดใหม่นะคะว่า บุญที่เราทำนั้นเราเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและเราก็ทำบุญกันแบบไม่ซ้ำวัดเลย แต่ถ้าจะซ้ำวัด ก็เป็นบุญด้วยมิใช่หรือ อาจารย์เป็นคนเห็นบุญและบาปของคนอาจารย์บอกว่า การทำบุญกุศลใดนั้นเราเป็นผู้ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะทำซ้ำแบบเดิมหรืออย่างไร แต่ผู้คนก็ได้ใช้ประโยชน์จากการที่พวกเราได้มีส่วนได้ร่วมสร้างวัตถุทานต่างๆ ให้กับวัดวาอารามต่าง ๆ พวกเราย่อมไม่ต้องลงสู่นรกอบายภูมิหลุมลึกเพราะมันน่ากลัวมากค่ะ พวกเราทุกคนรับประทานอาหารทุกวัน ทุกมื้อไม่เคยขาดเพราะถ้าขาดก็อยู่ไม่ได้ แต่การทำบุญของเรานั้นยังไม่มากพอ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีบุญกุศลติดตัวเอาไว้เลยนะคะดังนั้น เมื่อมีโอกาสแล้วก็อย่าพลาดที่จะกอบโกยเอาบุญกุศลไว้เพียงคนละเล็กคนละน้อยหรือตามกำลังทรัพย์ที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะได้ทำบุญอีกมั้ยเราทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะคะ อาจารย์สอนเสมอว่า จงอย่าประมาทในการใช้ชีวิตและอย่ามุ่งคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ร่ำรวย จะทำมาหากินอะไรจะได้มากกว่าเดิมทำอย่างไรให้ตนสุขสบายที่สุด อาจารย์บอกว่า การทำทาน ถือศีล เจริญภาวนาทำให้เป็นนิจก็จะทำให้เราได้มีสติปัญญาดี สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ติดขัดได้ค่ะ วัดที่ 2 ตามที่ทุกคนก็ได้จัดเต็มกับวัดแรกด้วยการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี และเทปูนด้วยมือทั้งสองของทุกคนแล้ว คือเรียกว่า ทำบุญเต็มพิกัดตลอดทั้งวันแล้วดังนั้น วัดแห่งที่สองนี้ อาจารย์จะนำทุกท่านไปกราบไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูงซึ่งพระองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มีผู้คนมากราบไหว้กันจากทั่วสารทิศค่ะซึ่งสถานที่ของวัดแห่งนี้เป็นแบบสบาย ๆ การที่อาจารย์นำพาทุกท่านมาเยี่ยมเยือนที่วัดนี้เพราะต้องการให้ทุกท่านสบาย ๆ กับบรรยากาศ หลังจากที่ได้ใช้พลังในการทำบุญเทปูนมาแล้วเป็นการพักผ่อนก่อนกลับบ้านกรุงเทพมหานครค่ะ การขอรับบริจาค - กองทุนละ 2,500บาท - ตามกำลังศรัทธา ขอเชิญทุกท่านมาร่วมบุญเสบียงสวรรค์ด้วยกันนะคะจี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่โอนปัจจัยเงินทำบุญร่วมกัน เพื่อให้บุญนั้นเป็นบุญที่สำเร็จถึงแม้ว่า วันนี้จะยังไม่สำเร็จแต่การเทปูนดังกล่าวเป็นการเบิกฤกษ์ที่ดีและในภายหน้าจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในอนาคต ตามที่อาจารย์ได้เห็นค่ะ โดยทุกท่านผู้บริจาคจะได้รับอานิสงส์บุญทุกครั้งที่มีการใช้สถานที่แห่งนี้และบุญนี้จะติดตามท่านไปทุกภพทุกชาติค่ะ อาจารย์บอกว่าบุญจะเป็นอย่างนี้จริง ๆ ค่ะ จี๊ดจ๊าด
|