จี๊ดจ๊าด มีเรื่องมาเล่าเป็นเรื่องของบุญกุศลที่เราได้รับเลยในภพชาตินี้โดยไม่ต้องรอถึงภพชาติหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ตรงของจี๊ดหากได้พบเจอใครก็ต้องเล่าเรื่องนี้เสมอเพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตรงกับตัวจี๊ดเองและไม่สงสัยค่ะว่าบุญนั้นมีจริงและได้รับผลจริงหรือไม่ ขอเล่าเรื่องของแต่ ละเรื่องไปนะค่ะ บุญจากการใส่บาตรพระ สมัยก่อนหน้าที่จะจี๊ดจะมาพบเจอกับ อ.เจน จี๊ดไม่ศรัทธาบุญจากการใส่บาตรพระเพราะไม่รู้และ ไม่เข้าใจ คิดว่า ในเมื่อตนเองทำความดีด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิและไม่ทำให้ใครต่อใครเดือดร้อน ก็เพียงพอแล้ว ยามว่างจี๊ดก็ไปถือศีล 8 ตามวัดที่เปิดปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิที่บ้านเป็นประจำ โดยไม่ใส่บาตรทำบุญจะใส่บาตรพระก็เฉพาะเป็นวันเกิดเท่านั้นเรียกว่า หนึ่งปีมีครั้งเดียว ซึ่ง อ.เจน ได้เห็นในญาณวิถีว่าจี๊ดเป็นคนชอบนั่งสมาธิแต่ไม่ทำบุญใส่บาตร อ.เจน จึงตักเตือนสั่งสอนว่า พี่จี๊ดต้องทำบุญใส่บาตรบ้างนะค่ะไม่เช่นนั้นจะไม่มีกินจะอดอยากหากละจากโลกนี้ไป พี่จี๊ดต้องหมั่น ใส่บาตรทำสมาธิอย่างเดียวได้ปัญญาแต่ไม่มีกินนะค่ะ จี๊ดก็สงสัยถามไปว่า ก็พี่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทำความดีเฉพาะตนเองก็เพียงพอแล้ว แต่ อ.เจน พูดว่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอค่ะเพราะการทำบุญต้องมี องค์ประกอบครบถ้วน ด้วยการทำทาน (ใส่บาตร/ทำบุญเลี้ยงภัตตาหารพระสงฆ์) สวดมนต์ รักษาศีล และเจริญภาวนาไม่เช่นนั้นพี่จะเป็นคนที่อดอยากทุกชาติไป จี๊ดเป็นคนขี้สงสัยจริง ๆ นะค่ะ จึงซักถามต่อไปอีกว่าก็จี๊ดมักจะพบเห็นพระสงฆ์ยืนอยู่ข้างร้านขายอาหารทุกเช้า บางรูปดูแล้วก็ไม่สำรวม เมื่อเห็นแล้วก็ไม่เกิดความศรัทธาพระสงฆ์และมักจะเลือกทำบุญใส่บาตรพระ และถ้ายิ่งเป็นวันโกณวันพระ ด้วยแล้วนะค่ะผู้คนจะใส่บาตรกันเป็นจำนวนมากเป็นพิเศษจี๊ดก็คิดค่ะว่าพระท่านจะฉันหมดหรือค่ะ สังเกตได้เลยค่ะพระท่านเดินกลับวัดแทบไม่ไหวเชียวค่ะ
อ.เจน จึงได้ตอบข้อสงสัย กรณี การใส่บาตรพระ ขอให้อย่าคิดว่า ตนเองทำดีแล้วไม่ต้องใส่บาตรพระ นั่นไม่ถูกต้อง พี่จี๊ดจะไม่มีกินมีใช้ทุกภพชาติไปเพราะไม่รู้จักคำว่า เป็นผู้เสียสละ ไม่รู้จักการทำทาน ไม่รู้จักทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา การทำบุญใส่บาตรพระเป็นบุญในการทำทาน พระท่านจะได้นำ ข้าวปลาอาหารที่เราใส่บาตรไปหล่อเลี้ยงกายสังขารศึกษาพระธรรมวินัยและเทศนาธรรมให้แก่ ผู้คนที่เข้าวัดฟังธรรมได้ก่อเกิดปัญญา ดังนั้นการทำบุญใส่บาตรพระย่อมเป็นการสร้างบุญกุศล ไม่ควรตำหนิพระสงฆ์ ไม่ว่าพระสงฆ์ท่านจะทำอย่างไร แต่ท่านได้บวชเรียนอยู่ในบวรพระพุทธ ศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีศีลมากกว่าเรา ได้เป็นผู้ประกอบศาสนกิจแห่งสงฆ์ ดังนั้น เราไม่ควรตำหนิ ผู้ใดกระทำกรรมใดไว้ผู้นั้นย่อมได้รับผลกรรมนั้นเราไม่ควรตัดสิน อย่าง อ.เจน เองนั้นเป็นคนเห็นกรรม อ.เจน พูดกับจี๊ดว่าเป็นคนไม่เห็นกรรมก็ไม่เป็นไรแต่คนเห็นกรรม แม้แต่ อ.เจน ได้เห็นกรรมของพระระหว่างที่จะทำการใส่บาตรถ้าจิตตกไม่ทำบุญใส่บาตร อ.เจน ก็จะไม่ได้ทำบุญใส่บาตรและไม่มีกินมีใช้ในภพชาตินี้หรือภพชาติใดเลย แต่ อ.เจนคิดว่า ทำบุญใส่บาตรเพื่อสร้างบุญกุศลและอุทิศบุญให้แก่บุคคลผู้ล่วงลับไปแล้วและเจ้ากรรมนายเวรได้ บุญจากเราจึงกำหนดจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระรูปนี้เป็นตัวแทนแห่งพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ และจ้องมองบาตรพระและชายผ้าเหลืองเป็นที่ตั้งอ.เจน ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่ใส่บาตรหากจะ เลือกพระสงฆ์อยู่ก็ไม่ต้องใส่บาตรทำบุญกันค่ะ อ.เจน พูดว่าแม้ว่าพระรูปนั้นจะมีศีลบกพร่องแต่ ท่านมีศีลมากกว่าเรา เพราะเราเป็นฆราวาสที่มีศีล5 ข้อ และบางคนก็มีศีลไม่ครบถ้วนเสียด้วยนะค่ะ ดังนั้น ทำบุญอย่าคิดมากค่ะเมื่อเราตั้งใจที่จะทำบุญเราก็ได้รับอานิสงส์ของบุญเต็มที่แล้ว ขณะที่ เราใส่บาตรอย่าให้เกิดมโนกรรมด้วยมีจิตคิดสงสัยแต่ต้องทำบุญด้วยความตั้งใจและศรัทธาบุญที่ จะใส่บาตรนั้นให้เป็นผลสำเร็จด้วยอานิสงส์บุญก็จะได้เต็มร้อยค่ะ แสงแห่งบุญ อ.เจน เล่าให้ฟังว่าเคยใช้ญาณดูได้เห็นภาพข้าวและอาหารที่เรานำมาใส่บาตรพระ ได้ลอยผ่านลำแสงที่เป็นมิติอีกมิติหนึ่งผ่านอย่างรวดเร็วเป็นวินาทีและภายในเวลาที่เร็วมากในช่วงนั้น ขอให้กำหนดจิตให้นิ่งค่ะเคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง อ.เจน ได้นำพาผู้ร่วมบุญประมาณ 100 คน ไปทำบุญ เลี้ยงภัตตาหารพระสงฆ์และถวายสังฆทานกับพระสงฆ์ในถ้ำที่อยู่บนภูผาสูงแห่งหนึ่งวันนั้นอากาศ ดีมากเย็นสบายทุกคนอยู่ในอาการสงบ อ.เจน จึงเกิดสมาธิชั่วขณะหนึ่ง จึงต้องการที่จะรู้ว่า ตามที่ได้เคยเห็นของข้าวปลาอาหารที่ลอยผ่านมิติลำแสงไปนั้นต่อจากนั้นแล้วยังไม่เคยเห็นว่าไปไหน จึงใช้ญาณวิถีดู พบว่า ขณะถวายสิ่งของไปแล้วสิ่งของต่างๆ ลอยไปตามลำแสงเป็นเหมือนสะพาน ทอดยาวบนฟ้าและพุ่งเข้าไปในหีบบุญของทุกคน โดยหีบของแต่ละคนล่องลอยอยู่บนวิมาน แต่ละหีบมีลักษณะแตกต่างกันไป บางหีบประดับเพชรสวยงามบางคนเป็นหีบไม่สักทองมีลวดลาย เป็นสีทอง บางหีบมีสีขาวขอบทองมีความสวยงามที่แตกต่างกันแล้วแต่บุญของแต่ละคนที่สะสม กันมาแต่ละหีบมีรายชื่อเจ้าของหีบด้วยค่ะ โดย อ.เจน ได้กำหนดดูหีบของตนเอง คุณรุ้ง ทีมงานบางคน และของจี๊ด ซึ่ง อ.เจน ก็บรรยายหีบของแต่ละคนที่เห็นและจำได้ ส่วนหีบของจี๊ด แปลกมากเขียนชื่อ จริงแล้วยังวงเล็บว่า จี๊ด สะด้วย อ.เจน จึงถามว่า พี่จี๊ดค่ะ โดยปกติทำบุญพี่จี๊ดชอบเขียนชื่อจริงและ วงเล็บชื่อเล่นไปด้วยหรือค่ะจี๊ดซึ่งในขณะนั้น อึ้งกิมกี่อยู่กับคำบอกเล่าของ อ.เจน เพราะในใจก็ติดตาม ไปด้วยว่าเออ เราเป็นคนที่ชอบเขียนชื่อจริงและวงเล็บชื่อเล่นทุกครั้งบนซองทำบุญหรืออะไรก็ตามแต่ ก็มักจะทำแบบนี้จึงตอบไปว่า ใช่ค่ะ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ ไม่น่าเชื่อนะค่ะ แต่อย่างน้อยจี๊ดก็ดีใจนะค่ะ ว่าการทำบุญแล้วมีการสะสมเสบียงบุญจริงสิ่งเหล่านั้นเก็บอยู่บนวิมานและรอเราอยู่ค่ะ ทำไมเขาจึงใส่บาตรพระทุกวันโกณวันพระหรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อ.เจน พูดให้ฟังว่า วันดังกล่าวนั้นเป็นวันสำคัญเพราะเป็นวันที่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว สัมภเวสี เปรต อสูรกาย หรือเจ้ากรรม นายเวร สามารถมารับบุญจากมนุษย์ได้เป็นวันที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อยให้ออกมาได้ ไม่ว่าจะอยู่ ในนรกขุมใดก็มารับบุญจากผู้ที่อุทิศให้พวกเขาได้เมื่อได้รับฟังอย่างนั้น จี๊ดก็ตกใจนะค่ะที่ได้คิดผิด มานาน จริงหรือนี่จี๊ดไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย มิน่าเล่า ปู่ ย่า ตา ยาย แต่ครั้งโบราณเขาจึงได้ทำบุญใน วันสำคัญดังกล่าวนับแต่นั้นมาจี๊ดจะไม่เว้นว่างในการทำบุญทุกวันสำคัญทางศาสนาเลยค่ะ ซึ่งก็มี หลายวัดนะค่ะที่มีกิจกรรมดีดีในการสร้างบุญต่อด้วยการนำข้าวของที่รับถวายจากญาติโยมนำไปจัดสรร บริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ที่ยังขาดแต่อย่างไรก็ตามทำบุญอย่าคิดมากนะค่ะ ดังนั้น ไม่ว่า ทางวัดจะจัดสรร หรือไม่อย่างไรแต่เมื่อเรารู้แล้วก็ต้องโกยบุญของเราก่อนนะค่ะ ทำไมจึงเชื่อว่า ทำบุญแล้วได้รับผลจริงในชาตินี้ ในชาติอื่นจี๊ดไม่รู้หรอกค่ะแต่ในชาตินี้รู้แล้ว ก็ขอเล่าสะหน่อยค่ะตะก่อนตะไร อ.เจน มักพูดเสมอว่า ถ้าเราทำทานกับผู้ใดเราก็จะได้รับผลบุญ นั้นกลับมาแต่การให้นั้นเราต้องไม่หวังผลคืนกลับนะค่ะ การที่จะมอบสิ่งของให้ผู้อื่นนั้นต้อง มีจิตที่บริสุทธิ์เพียงแต่คิดถึงความต้องการของผู้รับว่าเขาขาดตกสิ่งใดเรามีจิตอยากให้เพราะเขาขาด เหมือนกับการไปทำบุญที่วัดที่พิจารณาดูแล้ววัดนั้นยังขาดสิ่งใดที่ต้องทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์ แม้จะมี ส่วนช่วยไปเพิ่มเติมแต่ไม่เต็มได้เพียงบางส่วนเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกันเติมสักวันหนึ่งก็เต็มและ สำเร็จค่ะสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเรามีเจตนาจะมอบให้เพราะเห็นว่า อยากจะให้บุคคลนั้นเขาไม่มี เขายังขาด ด้วยจิตที่ดีที่บริสุทธิ์ก็เป็นบุญกุศลตั้งแต่แรกคิดแล้วค่ะ เพราะการเป็นผู้ให้ดังกล่าว ผู้ให้ ย่อมเป็นผู้อิ่มเอิบใจและเป็นสุขผู้ได้รับก็อิ่มสุขไปด้วยเช่นกันค่ะ เรื่องขำ ๆ นำมาเล่าค่ะ มีครั้งหนึ่ง อ.เจนซื้อแชมพูสระผมให้จี๊ดเพราะเห็นว่าจี๊ดชอบสระผมด้วยแชมพู ที่ทำมาจากสมุนไพร เมื่อพบแชมพูสมุนไพรดูแล้วน่าจะใช้ได้ดี อ.เจน ก็คิดถึงจี๊ดแล้วซื้อมาให้จี๊ด 1 ขวด จี๊ดเป็นผู้รับก็ดีใจและขอบคุณที่ อ.เจน นึกถึง ไม่กี่วัน อ.เจน ก็มาเล่าให้ฟังว่าบุญมีจริงนะพี่ ถ้ารู้อย่างนี้หนูซื้อครีมนวดให้พี่ด้วยก็ดีนะ เสียดายซื้อเพียงแชมพูสระผมไม่ได้ซื้อครีมนวดให้ จี๊ดก็ ถามไปว่าทำไมค่ะ อ.เจน ก็พูดขำ ๆว่า ก็วันนี้มีพี่คนหนึ่งเขานำแชมพูสระผมยี่ห้อดีราคาแพงมาก นำมามอบให้หนูหนูก็คิดว่า เออ บุญมีจริงนะเพิ่งซื้อแชมพูสระผมให้พี่จี๊ดไปเมื่อวันก่อน มาวันนี้ ได้รับแชมพูยี่ห้อดังราคาแพงด้วยค่ะ อ.เจน จึงพูดติดตลกว่า รู้อย่างนี้หนูซื้อครีมนวดให้พี่จี๊ด ด้วยก็ดีนะสิหนูจะได้ครีมนวดอีกขวด จี๊ดก็ถึงตลกขำ อ.เจน แต่ อ.เจน พูดเล่นไปอย่างนั้นเพียง จะให้จี๊ดรู้ว่าบุญนั้นมีจริงเท่านั้นค่ะ ประสบการตรงของจี๊ด หลังจากนั้นผ่านมาหลายปีจี๊ดก็ได้ปฏิบัติตามที่ อ.เจน แนะนำมาโดยตลอด ด้วยการหมั่นทำบุญใส่บาตรพระเกือบจะทุกวันหรือร่วมบุญเลี้ยงภัตตาหารพระร่วมกับ อ.เจนและคุณรุ้ง แล้วแต่โอกาสงานบุญค่ะ จนกระทั่งคุณรุ้ง มักพูดกับจี๊ดเสมอว่า พี่จี๊ดทำบุญจนล้นเช่นทำบุญหลังพระ ล้นมาหน้าพระแล้วตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรนะค่ะแต่ทั้งสองคนนี้เป็นครูอาจารย์พูดก็รับฟังและขอบคุณค่ะ ไม่ได้คิดอะไรว่าสิ่งที่อาจารย์พูดนั้นเป็นจริงค่ะ มีอยู่วันหนึ่ง จี๊ดนั่งรถเมล์สายหนึ่งระหว่างทางได้เหลือบไปเห็นป้ายร้านค้าเขียนว่าร้านขนมลูกชุบ และมีภาพประกอบสวยงามขึ้นป้ายอย่างนี้จะต้องอร่อยแน่ค่ะในใจก็คิดอยากรับประทานขนมลูกชุบร้านนี้มาก แต่ถ้าจะแวะลงไปซื้อก็ไม่ได้ต้องรีบไปทำงาน ถัดจากวันนั้นก็ผ่านตลาดระหว่างที่รถติดอยู่นั้นก็เหลือบไป เห็นร้านผลไม้แม่ค้าแม่ขายเขาก็ปอกลูกพลับสีสดแพ็คไว้สวยงามน่ารับประทานมากลักษณะนี้ต้องหวาน กรอบอร่อยแน่นอนในใจก็คิดอย่างนั้นก็อยากจะโดดลงจากรถไปซื้อมารับประทานแต่ถ้าเช่นนั้นเดินไกล มากถ้าจะย้อนกลับไปซื้อก็ไม่ทันเวลาที่จะต้องเร่งรีบจึงอดเสียดายไม่ได้ว่าไม่ได้รับประทานทั้งสองอย่างเลย แต่เมื่อมาถึงที่ทำงานผู้บังคับบัญชาก็แจ้งว่าให้ไปเป็นตัวแทนหน่วยงานเข้าร่วมงานแถลงข่าว โดยมีรัฐมนตรีว่าการฯ เป็นประธานต้องไปในวันนี้เมื่อได้รับคำสั่ง เขาก็มีอาหาร ชา กาแฟ ไว้เลี้ยงรับรอง ผู้ที่เข้ามาร่วมงานจี๊ดก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้น ไม่ได้สนใจอาหารว่างที่บริกรนำมาเสริฟในงานเลี้ยงนี้เลย เพราะ ส่วนมากมักจะเป็นพวกขนมคุกกี้ขนมเค้ก จี๊ดรับประทานไม่ได้ค่ะเป็นคนที่เหม็นกลิ่นนมเนยมาก ในขณะ ที่ยืนอยู่นั้นก็มีบริกรหญิงคนหนึ่งนำถาดอาหารมาเสริฟโดยกระซิบว่า พี่ค่ะ รับประทานขนมลูกชุบหน่อยนะค่ะ เจ้านี้อร่อยมากและลูกพลับรับไปด้วยนะค่ะ พร้อมซักถามว่าจะรับชาหรือกาแฟ นำมาเสริฟพร้อมจี๊ดอึ้งค่ะ ยอมรับว่า อึ้งมาก ก็เป็นของที่เราอยากจะรับประทานมากที่สุดเลยทั้งสองอย่างรู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ นะค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา อ.เจน มักพูดเสมอว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ ทุกวันนี้จี๊ดไม่อดไม่อยากในเรื่องของอาหารการกินเลยค่ะเพราะผู้บริหารมักจะให้จี๊ดไปเป็นผู้แทนเข้าร่วมงาน ต่าง ๆ ที่ส่วนมาไปเปิดงานตามโรงแรม5 ดาว และมีการเลี้ยงรับรองอาหารการกินมิได้ขาด ซึ่ง อ.เจน บอกว่า เป็นบุญของพี่แต่เชื่อหรือไม่ว่าจี๊ดรับประทานไปอย่างนั้นแหละค่ะเพราะอะไรที่มากเกินไปก็มากไปนะค่ะ แต่เป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไปได้ค่ะซึ่ง อ.เจน กับคุณรุ้ง จึงพูดให้จี๊ดคิดได้ค่ะ อาจารย์ทั้งสองพูดว่า พี่จี๊ดจำไม่ได้หรือค่ะพี่มักจะถวายสังฆทานบาตรพระ เพราะบาตรพระนั่นพระสงฆ์ท่านนำไปรับบาตรจาก ญาติโยมเช่น ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ด้วยอานิสงส์บุญนั้นพี่ก็ต้องได้รับสิค่ะ พี่เห็นได้ด้วยตาเนื้อหรือยังค่ะ บุญที่พี่ทำนั้นทำจนล้นออกมาพี่ก็ได้รับในชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อ ๆ ไป เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเพียงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวจี๊ดเองและยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นอย่างนี้ แต่ถ้าจะนำมาเล่าก็ยาวมากนะค่ะจบยากสะด้วยสิค่ะ ดังนั้น จงเชื่อเถอะค่ะว่าบุญนั้นมีจริง
จี๊ดจ๊าด
|