แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย จี๊ดจ๊าด เมื่อ 2016-1-11 09:07
ส่งท้ายปีเก่า เสียงพลุในวัด คืนนั้นเป็นวันที่31 ธันวาคม 2558 ปีเก่า จะเริ่มพุทธศักราชขึ้นปีใหม่ 2559 ซึ่งเป็นประจำของทุกปีที่อ.เจน กับคุณรุ้ง ไม่เคยพลาดค่ะ คืนนี้เราจะไปสวดมนต์ข้ามปีกันค่ะพี่ ซึ่งคืนนั้นก็จะมีน้องเก่ง และจี๊ดรวมอาจารย์ด้วยเป็น 4 คน ทุกคนเดินทางไปวัดกันตั้งแต่3 ทุ่ม ระหว่างนั้นก็นั่งฟังพระเทศน์กันอยู่นั้น แหมกำลังเพลินในเรื่องราวของบุญกุศลอยู่ก็ต้องตกใจ สะดุ้งโหยงเพราะเสียงของพลุและเสียงประทัดดังมากค่ะ ดังมาเป็นระยะทำให้ทุกคนในที่นั้น ต่างก็พากันสะดุ้งตามเสียงนั้นไปด้วย พระท่านเทศน์ไปสะดุ้งไป ก็คงไม่ต่างกับผู้คนที่นั่งอยู่ที่วัด นั้นหรอกค่ะกลุ่มพวกที่จุดพลุและประทัดเขาคงจะสนุกสนานกันมากโดยไม่ได้รู้เลยว่ากำลัง สร้างกรรมอย่างไม่รู้ตัวความสนุกเพียงชั่วประเดี๋ยวคงติดกรรมหนักหนานี้ไปอีกตราบเท่านาน จะอะไรสะอีกเล่าค่ะ เอาเป็นว่าแค่อาจารย์ คุณรุ้ง จี๊ด และน้องเก่ง รวม 4 คน นี้ ได้ตั้งอกตั้งใจ กันเต็มเปี่ยมว่าวันนี้แหละเราจะไปโกยบุญกันเต็มที่อุตส่าห์มาสวดมนต์ข้ามปีสร้างบุญกุศล กันทั้งทีเราไม่คุยกันเลยค่ะ  
อ.เจน พูดว่าการฟังเทศน์จากพระภิกษุสงฆ์นั้นเราก็ได้อานิสงส์บุญจากการฟังนั้นด้วยค่ะ ถ้ามานั่งคุยกันเหมือนกับคุยแข่งกับพระสงฆ์เราก็จะได้รับกรรมนั้นด้วยเพราะผลของกรรม นั้นละเอียดอ่อนมาก ผลกรรมนั้นจะแตกต่างกันออกไปไม่ใช่ว่าจะเป็นเหมือนกันทุกคน ยกตัวอย่างเช่น พระสงฆ์กำลังเทศน์ธรรมมะอยู่คนก็คุยไม่ฟังท่านประมาณว่านานนาน จะมาเจอกันทีก็คุยกันซะพนมมือไปอย่างนั้นแหละเมื่อไหร่พระจะเทศน์จบคิดกันไปต่าง ๆ นา ๆ แบบว่าพระก็เทศน์ไปคนก็คุยกันไป กรรมนั้นละเอียดอ่อนอย่างไร บางทีในภพนี้ ชาตินี้เลยเราสังเกตได้ค่ะว่าบุคคลนั้นไม่ว่าจะพูดสิ่งใดก็ไม่มีคนรับฟังและไม่เชื่อถือไม่มี คนนับหน้าถือตา เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าไม่เชื่อลองสังเกตดูสิค่ะ จี๊ดได้มองไปเบื้องหน้าเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ต่างก็นั่งสะดุ้งกันโหยงๆ และหันมากระซิบกระซาบ กันว่า โอ้ยหนวกหู ฉันตกใจหมดแล้ว ใครนะมันจุดพลุเสียงดังฉันล่ะใจสั่นไปหมดจี๊ดก็คิด ในใจคนนี่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเล้ยว่าผลกรรมที่ทำนั้นอาจจะทำให้เราเป็นคนที่ขี้ตกใจง่าย เป็นคนวิตกกังวล และเป็นอะไรก็ได้เมื่อกรรมนั้นมาส่งผลค่ะ แต่ก็นั่งไปนาน ๆ เข้าก็เริ่มชิน โดยแยกประสาทการรับฟังโดยการตั้งจิตรับฟังแต่เสียงตามสายที่พระสงฆ์ท่านกำลังเทศน์ และไม่เอาจิตไปจดจ่อกับเสียงพลุค่ะ บาปกรรมจริง ๆที่ทำให้คนมาวัดต้องมานั่งแยกจิต แทนที่จะมีจิตที่สงบในการเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมแต่ อ.เจน และคุณรุ้ง เคยสอนเรื่องการ ฝึกจิตและไม่เอาจิตไปคิดตำหนิใครให้จิตตกให้มองเป็นธรรมมะก็ไม่ได้โกรธเคืองใจอะไร เพียงแต่มาเล่าสู่กันฟังเพื่อท่านผู้ท่านเคยทำอย่างนี้ขออย่าได้ทำเด็ดขาดเป็นการสร้างกรรมค่ะ พวกคนที่จุดพลุจุดประทัดก็คงคิดว่าไม่ได้ทำให้เดือนร้อนสักหน่อย อยู่ห่างจากวัดตั้งไกล เทศกาลฉันก็สนุกของฉันแต่เสียงมันดังไงค่ะ ซึ่งในทางโลกไม่มีใครมาจัดการพวกเขา เหล่านั้นได้แต่ในทางธรรมแล้วถือว่าผิดมหันต์นะค่ะ คนผู้นั้นจะต้องติดกรรมไปอีกนานค่ะ เห็นกรรมคนอื่น เมื่อพระสงฆ์เทศนาธรรมเสร็จสิ้นแล้วท่านก็ให้สาธุชนทั้งหลาย กรวดน้ำที่ได้สดับรับฟังพระเทศนาธรรมเสร็จแล้วท่านประกาศให้ทุกคนรอเวลา สวดมนต์ข้ามปีในลำดับต่อไป พระท่านก็ประกาศให้ใครก็ได้ที่นั่งอยู่ด้านล่างให้ขึ้นมา ในโบสถ์ยังมีที่ว่างอยู่จี๊ดได้ยินดังนั้นก็หันไปมองอาจารย์ว่าจะขึ้นไปกันไหม แต่ในใจ จี๊ดน่ะอยากขึ้นมากเลยค่ะเพราะจำได้ว่า อ.เจนเคยบอกว่าในโบสถ์นี้มีพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธิ์นานครั้งทางวัดจึงจะเปิดโบสถ์สักครั้งพระท่านก็ประกาศอยู่นานไม่มีผู้ใด ขึ้นไปบนโบสถ์เลย จนกระทั่งพระท่านพูดว่าอย่ากลัวพระเลยโยมขอให้ขึ้นมา จี๊ดลุกขึ้นยืนชักชวน .เจน คุณรุ้ง และน้องเก่งไปกันเถอะค่ะอยากขึ้นค่ะ แต่เมื่อเข้าไป ปรากฏว่า ไม่มีใครเลย มีเก้าอี้วางไว้เพียง8 ตัว มีครอบครัวหนึ่งนั่งไป 3 ตัว อีก 1 ตัว เป็นของเด็กคนหนึ่ง และของเราทั้ง 4คน พอดิบพอดีอะไรจะพอดีขนาดนั้นก็ยังคง รอเวลาอยู่เราก็นั่งมองพระพุทธรูปภายในโบสถ์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังและสายตาก็ ไปปะทะกับผู้ชายวันหนุ่มคนหนึ่งลักษณะท่าทางไม่เหมือนใคร หน้าตาคล้ายคนที่ หน้าตาเป็นดาวน์ซินโดรมรูปร่างอ้วน ผิวสีดำ หัวโกร๋นโล้นเตียน แหมเขาก็ยังอุตส่าห์ ถือสมุดสวดมนต์ที่ทางวัดแจกให้มาด้วย1 เล่ม พร้อมกับน้ำเปล่าขวด 1 ลิตร เตรียม พร้อมมาก คงเผื่อว่าสวดมนต์แล้วคอแห้งมั้ง จี๊ดก็นั่งมองและพิจารณาว่า เออ หนอ คนอย่างนี้ก็รู้จักเข้าวัดกับเขาด้วยมองไปมองมา เอ แล้วเขาอ่านหนังสือออกหรือเปล่าน้า เอ หรืออ่านไม่ได้ ก็มองดูพฤติกรรมเขาตลอดแต่ก็อดขำไม่ได้เพราะ ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำ การสวดมนต์ข้ามปีปรากฏว่าน้ำขวดลิตรนั้นชายคนนี้ดื่มไปเสียจนหมดแล้ว
ด้วยนิสัยอยากรู้เสียเหลือเกินของจี๊ดจึงหันไปทาง อ.เจน แล้วกำลังจะตั้งคำถาม อ.เจน ก็ยิ้ม ๆ แล้วพูดขึ้นว่าพี่อยาก จะรู้อะไรหนูรู้นะ จี๊ดก็พูดขึ้นว่า ก็นั่นแหละค่ะมันเป็นเรื่องที่ อยากรู้มากๆ ค่ะ ว่าชายคนนี้เขาไปทำกรรมใดมาถึงเป็นแบบนี้ ซึ่ง อ.เจน พูดว่า ชายคนนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ไม่ไปไหนไกลจากวัดนี้เด็ดขาดภายในจิตใจก็อยากจะอยู่กับวัด เขารู้เรื่องหมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานบุญ เออจริงสินะ จี๊ดเคย เห็นชายคนนี้หลายครั้ง ไม่ว่าจะแห่บวชนาคบวชพระ เขาก็จะมา ฟ้อนรำชม้ายชม้อยสายตาอยู่ที่ด่านหน้าเชียวค่ะสามารถ เต้นและร้องเพลงดัง ๆ ได้หมด รู้เรื่องค่ะ และชอบพูดว่า ฉันก็เป็นหญิงคนหนึ่งที่สวยมากนะย่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็นชาย แต่ อ.เจน บอกว่าเขาตัวเป็นชายใจเป็นหญิงเพราะทำกรรมมา ผิดศีลข้อ 3 ทีนี้หัวจี๊ดเข้าไปชิด อ.เจนเลยค่ะ อาจารย์เล่าต่อค่ะอยากรู้เขาทำอะไร ผิดมาค่ะอาจารย์
น่าสงสาร ที่น่าสงสารเพราะว่าชายคนนี้มีลักษณะเฉพาะโกนผมหมด ทั้งหัว อ้วนท้วม ผิวดำปิดปี๋ หน้าตาเหมือนเด็กที่เป็นดาวน์ ประสาทการ รับรู้ไม่เหมือนคนปกติทั่วไปให้นึกถึงภาพของแม่ชีโกนผมอ้วนดำมีพุง แบบคนอ้วนแบบนั้นค่ะ น้องเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ แต่สำคัญอยู่ที่ว่า เขารู้เรื่องที่เกี่ยวกับวัดนี้มีงานบุญอะไรรู้หมดทุกอย่างค่ะว่าวัดนี้มีงาน บุญใดก็จะแต่งตัวมาตามกิจกรรมงานบุญนั้นเลย เช่น งานสวดมนต์ข้ามปี ใส่ชุดสีขาว งานทอดกฐินใส่เสื้อผ้าลายดอกสีฉูดฉาดปะแป้งหน้าขาว มาเลยค่ะและถ้าเป็นงานบวชก็จะแต่งตัวมารำหน้านาคถึงแม้จะอ้วน แต่ก็รำได้อ้อนช้อยสวยงามมากค่ะ
อ.เจน จึงเล่าว่า ผู้ชายคนนี้ในอดีตชาติที่นานแสนนานมาแล้วค่ะ ได้เคยเป็นแม่ชีที่วัดแห่งนี้ ทำผิดด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายภายในวัดในเรื่องของกฏแห่งกรรมแล้วผู้มีศีลย่อมรู้กฏ แห่งกรรมดีกรรมชั่วมากกว่าบุคคลคนธรรมดาที่ไม่ได้ศึกษาธรรมมะซึ่งถือว่าเป็นการกระทำ ความผิดอย่างมหันต์ เหมือนกับคนที่รู้กฎหมายแต่ทำผิดเสียเองนั่นแหละค่ะครั้นแม่ชีคนนี้ ตายไปก็ไปตกอยู่ในนรกขุมลึกหลายขุม เกิดเป็นเปรต อสูรกาย ฯลฯอยู่นานแสนนานต้อง ทุกข์ทรมานมาก และได้มาเกิดในโลกมนุษย์แต่เกิดเป็นหมาอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้ แต่กลับกลาย เป็นหมาขี้เรือนสุดแสนจะทรมานค่ะ   
ขี้เรือน มีลักษณะอาการ คือจะคันที่ขอบใบหูทั้งสองข้าง คันที่ศอกข้อขาทั้งหมด และรุกรามไปทั่วทั่งลำตัว จะมีอาการคันขั้นรุนแรงและรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผิวจะเป็นผื่นแดงและจาก การเถือกเกลือกกลิ้งจากอาการคันจนเป็นบาดแผลเหวอะหวะผิวหนังก็จะถลอกปอกเปิก แผลผลิแตกมีเลือดไหลออกมาเป็นที่น่าสมเพชเวทนาและเป็นที่น่ารังเกียจยิ่งนักต่อสายตา ผู้พบเห็นค่ะบางคนก็รู้สึกสงสารอยากช่วยเหลือดูแลให้มันหายจากโรคที่เป็นอยู่นั้นค่ะ เกิดเป็นคนชาตินี้ ในชาติปัจจุบันนี้ก็เกิดมาเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นหญิงเหมือนคนไม่สม ประกอบ มีลักษณะชั่ว อ้วนดำอัปลักษณ์นอกจากนี้ยังมีเศษของกรรมติดมาตามด้วยนั่น ก็คือที่ตามตัวในร่มผ้าจะเป็นโรคกลากเกลื้อนคันอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ยาทาให้บรรเทาอาการคันค่ะ จี๊ดสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่มีงานบุญที่วัดแห่งนี้ ผู้ชายคนนี้ก็จะมานั่งแต้ปะแป้งหน้าขาวโพลนอยู่ ที่ด่านหน้าของงานทุกครั้งเลยทีเดียวไม่เคยพลาดงานบุญกุศลแต่มาแบบไม่มีสติสตางค์อะไร กับเขาหรอกค่ะ พบเห็นเค้าบ่อยแต่ไม่รู้เรื่องกรรมของเขาเลยค่ะมารู้ก็วันนั้นเลยค่ะกรรมแท้ ๆ ค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ ทำอย่างใดก็ต้องได้อย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากนี้แน่แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสัญญากรรมของเขาเองค่ะ เรื่องของกรรมนั้นละเอียดอ่อนมากโชคดีที่จี๊ดได้ติดตาม อ.เจน จึงได้มีโอกาสเรียนรู้ในเรื่องของกรรมขอบอกว่ากลัวจริง ๆ ค่ะ บางครั้งก็อดที่จะสงสาร ไม่ได้และบางครั้งก็ต้องปลงให้ตกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ดังนั้นขออย่าได้สร้าง กรรมกันอีกเลยค่ะ มันบาปรู้มั้ย อ.เจนมักพูดเสมอว่า หากว่าเรารู้ว่าตนเองนั้นยังตัดขาดตัวกิเลสไม่ได้ทั้งหมดก็อย่าออกบวช เพราะอ.เจน ได้ไปเห็นขุมนรกที่ทั้งพระสงฆ์และแม่ชีทำผิดศีลและตกนรกมาแล้วน่ากลัว เหลือเกินค่ะคำว่ากิเลส มีมากมายหลายประการไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมาณ ไม่ว่าจะเป็น ความรัก โลภโกรธ หลง และ ความอยากที่จะกินอาหารรสอร่อยถูกปาก อยากมีเสื้อผ้า สวยงาม อยากบำรุงประทินผิวพรรณให้สวยงามฯลฯ
จี๊ดจ๊าด
|