สุดท้ายก็แค่โลง
จี๊ดมีความเห็นส่วนตัวนะค่ะสังคมปัจจุบันนี้ทุกคนติด ความรัก โลภ โกรธ หลง
เป็นธรรมดาของสัตว์โลก และหาเหตุผลต่างๆ นา ๆ เพื่อมาสนับสนุนตนเองว่า เออนะ ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพราะไม่ทำก็ไม่ได้สะด้วย จำเป็นจริง ๆ ต้อง ทำสิ่งนั้น ๆ ถามว่า จำเป็นจริง ๆหรือไม่ก็ต้องแยกเป็นกรณีไปค่ะ แต่เชื่อเถอะ ไม่มีใครตักเตือนใครเพราะไม่มีใครอยากเห็นใครเด่นเกินค่ะหรือก็เหมือน หมาหางด้วนก็ให้เพื่อนมีหางด้วนเหมือน ๆ กัน คนส่วนมากที่มาตรวจกรรมที่บ้านอ.เจน ส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่า ถ้าได้มาพบกับ อ.เจน แล้วชีวิตตนเองจะเปลี่ยนไปจะต้องดีขึ้น เพราะอาจารย์มีญาณต้องช่วยได้ แต่ถ้าอาจารย์แนะนำให้กลับไปแก้ไขสิ่งที่เราได้ทำผิดมาให้ถูกส่วนมากไม่ทำหรอกค่ะ ที่พบมากที่สุดก็ความอยากมีอยากความอยากที่ไม่รู้จักพอเพียงนี่แหละค่ะ ไม่เชื่อก็ลองสำรวจตัวเองกันก็ได้ จี๊ดก็เป็นค่ะ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งมันทำให้ จี๊ดต้องมานั่งคิดใหม่ทำใหม่เสียแล้ว่าชีวิตของคนเรานี้ช่างสั้นนัก สุดท้ายแล้ว ก็เหลือเพียงแค่โลงศพตั้งอยู่ที่วัดอย่างโดดเดี่ยว ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าญาติพี่น้อง พวกเขาจะมาช่วงเย็นๆ ที่มีพิธีการทางศาสนาคือนิมนต์พระมาสวดศพ 3 วัน ถึง 7 วันก็ว่ากันไป 
จี๊ดเคยไปงานศพกับ อ.เจนและคุณรุ้ง ระหว่างนั่งรอพระสงฆ์มาเทศให้คนเป็นฟัง จี๊ดก็เห็นเป็นธรรมมะมากที่สุดค่ะ ภาพที่เรา ๆ ได้เห็นกันอยู่เสมอมานั้นก็เริ่มจาก ญาติพี่น้องให้การต้อนรับแขกเหรื่อทั้งที่เป็นญาติและเป็นเพื่อนทุกคนเตรียมจัด หาอาหาร 1 ชุด ใส่ถาด โดยให้ลูกหลานมาเคาะข้างโลงศพ กระซบบอกกล่าว ให้ผู้ตายมากินอาหารในถาดนั้นบางครั้งก็จะมีแมวตัวสีดำกระโดดข้ามไปมา ก็แปลกนะค่ะทำไมต้องเป็นแมวสีดำก็ไม่รู้ นี่เป็นธรรมเนียมวิถีไทย
เคาะฝาโลงเรียกกินข้าว ถามว่า ผู้ตายเขากินได้มั้ย เขามากินไม่ได้เชื่อมั้ยค่ะ จี๊ดก็อดที่จะสงสัยเสียไม่ได้ในเรื่องนี้จึงรู้ค่ะ ว่าเขากินไม่ได้ อ.เจน บอกว่า บุญเท่านั้นที่พวกเขาจะได้รับจากญาติพี่น้องผู้ตาย และถ้ายิ่งเป็นญาติ ในสายเลือดเดียวกันด้วยยิ่งได้มากเช่น พ่อ แม่ ลูก ดังนั้น ต่อให้เคาะ ฝาโลงสักเพียงใดเขาก็ไม่ได้มากิน ผู้ตายก็ได้แต่มองญาติพี่น้องที่รัก ด้วยความสะเทือนในจิตใจว่าตอนนี้ฉันตายแล้ว ฉันกินไม่ได้แล้ว ฉันหิวโหยฉันอยากอิ่ม และหรือผู้ตายยังคิดต่อไปอีกว่า ครั้งที่ฉันยังมี ชีวิตอยู่ทำไมพวกเธอไม่มาดูแลฉันบ้างแต่พอฉันตายไปแล้วพวกเธอ จะมาดูแลฉันทำไม เรื่องนี้ขอให้มองเห็นเป็นธรรมมะจริง ๆ ค่ะ    
รู้ตัวว่าตายเมื่อไหร่ จี๊ดถาม อ.เจน ว่า ผู้ตายเขารู้ตัวมั้ยค่ะว่า เขาได้ตาย ไปแล้ว อ.เจน บอกว่า ประมาณวันที่ 3 ค่ะแล้วก็จริงเสียด้วย จี๊ดให้ อ.เจน มองหาวิญญาณตั้งแต่วันแรกที่ไปงานของคนนี้ อ.เจนบอกว่าเขายังไม่รู้ตัว แต่พอเข้าวันที่ 3 เขามานั่งร้องไห้อยู่ที่ข้างโลงศพตัวเองรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองตาย คราวนี้ล่ะก็จะร้องคร่ำครวญว่า ฉันยังไม่อยากตายๆๆๆ ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงคน ที่เป็นที่รัก เขาจะอยู่อย่างไร และห่วงทรัพย์สินที่หามาได้อีกล่ะ ห่วงไปหมด แต่ไม่ได้ห่วงตนเองเลยว่าเมื่อตายแล้วจะไปที่แห่งใด จี๊ดก็เลยถาม อ.เจน ว่า คนตายเขาจะไปที่แห่งใดค่ะอ.เจน บอกว่า จะมีเจ้าหน้าที่นำพาไปพิจารณา ความดีความชั่ว แล้วเขาจะจัดสรรให้ตามน้ำหนักบุญและกรรมที่ได้กระทำครั้ง ที่มีชีวิตอยู่ค่ะ แต่บางรายยังไม่หมดอายุขัยตายไปก่อนก็จะเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ค่ะ 
สังฆทานเวียน ที่วัดส่วนมากจะจัดเตรียมชุดสังฆทานไว้ให้กับเจ้าภาพเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่วัดมักจะแจ้งว่า ถวายเงินให้กับทางวัดตามเห็นสมควรจะไปหาซื้อมา ทำไมให้ลำบากทางวัดมีอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่า อ.เจนได้เห็นภาพวิญญาณเขาไม่ได้ รับสังฆทานเวียนนั้นเลย แต่วันที่ อ.เจน เป็นเจ้าภาพและได้หาซื้อสังฆทานไปเองนั้น สังฆทานผ้าอาบน้ำฝนก็ได้แปรเปลี่ยนทำให้วิญญาณผู้ตายได้มีเสื้อผ้าใส่สวยงามค่ะ แต่ใช่ว่าผู้ตายนั้นจะมีเสื้อผ้าใหม่ใส่เหมือนกันทุกวันนะค่ะเมื่อบุญกุศลนั้นหมดก็กลับ เปลี่ยนเหมือนเดิมค่ะมางานศพอีกวันวิญญาณผู้ตายก็ได้สังฆทานเวียนก็ไม่มี ชุดใหม่ใส่แล้วค่ะ 
อาราธนาศีล ฟังเทศน์ คนที่มางานสวดพระอภิธรรมศพส่วนมากไม่ค่อยมีใครตั้งใจ อาราธนาศีล 5 ข้อฟังสวดกันหรอกค่ะ แต่ อ.เจน พูดว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากจิตที่ บริสุทธิ์สะอาดไปด้วยศีล ฟังเทศน์ และถวายสังฆทานอานิสงส์บุญจะสามารถส่ง ผลบุญให้กับผู้ตายได้อย่างเต็มเปี่ยมค่ะ การอาราธนาศีลฟังเทศน์ ฟังธรรมในงานศพนี้ มีอานิสงส์ของบุญนะค่ะ ยังมีคนอีกมากที่ไม่เข้าใจนะค่ะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิค่ะเวลาไป งานศพดิฉันก็หนึ่งในนั้นเมื่อสมัยก่อนค่ะ พอได้เข้าวัดในงานศพก็จะเม้าแตกกันยกใหญ่ ก็จะอะไรสะอีกล่ะค่ะ เจอเพื่อเก่าสมัยเรียนสมัยที่ทำงานเก่า ญาติพี่น้องที่ไม่ได้พบเจอ กันนาน ก็มาพบเจอกันที่งานศพนี่แหละค่ะบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่านี่มันงานเลี้ยงรุ่นหรือ งานศพกันแน่บางทียังพูดติดท้ายเลยว่าเสียดายต้องกลับบ้านกันแล้วยังไม่ค่อยได้คุย กันจุใจเลยค่ะและนี่ถ้าเราเป็นผู้ตายบ้างล่ะค่ะเราจะคิดยังไง นี่เศร้ากันหน่อยสิฉันเพิ่งตายไปนะ  
สุดท้ายก็แค่โลง จะโกรธกันไปทำไมเดี๋ยวก็ตายจากกันแล้ว วันนี้ยังดีดีกันอยู่ พรุ่งนี้ตายแล้วเมื่อมีชีวิตอยู่ก็รักกันเถอะค่ะ คุยดีดีกัน รักกัน เพราะพรุ่งนี้เราอาจ จะไม่ได้พูดคุยและรักกันไม่ได้บอกความในใจที่มีความรู้สึกดีดีต่อกัน คนเราจะ โลภกันไปทำไม หาเงินทองมากองตรงหน้ามากมายแค่ได้คุยได้โอ้อวดความ มั่งมีก็เท่านั้นเองค่ะ ในแต่ละมื้อคนเราก็กินแค่อิ่มท้องไม่ใช่หรือเงินทองที่หามา ได้ตายไปก็ไม่ได้ใช้คนข้างหลังข้างกายเอาไปใช้หมดตัวของเราก็เอาไปได้แต่ จิตวิญญาณ ไม่เหลืออะไรเลยถ้ามองเห็นเป็นธรรมมะเห็นกันด้วยตาเนื้อ ที่เรา ไปงานศพก็ได้แต่ปลงว่าคนเรานี้หนอแข่งแย่งชิงดีกันไปทำไมหนอ ที่เบื้องหน้า เรานี้มีแค่โลงศพที่คุ้มกายสังขารผู้วายชน ไม่มีชีวิตไม่มีวิญญาณมีแต่รอวันเผา ให้เสร็จสิ้นเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็ไม่เหลืออะไร เหลือเยงเถ้ากระดูกที่ต้องกลับคืนสู่พื้นดิน 
ข้อคิดสะกิดใจ เมื่อครั้งที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้อยู่อย่างมีคุณค่า อย่าใช้ชีวิต ประมาทอย่าให้เสียแรงที่ได้มีโอกาสเกิดมาเป็นคน จากประสบการที่ได้ติดตาม อ.เจนมานานจี๊ดรู้ซึ่งตรึงใจดีว่าบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้จริง ๆ ค่ะจึงอยากจะ ฝากเตือนเพื่อน พี่น้อง ทั้งหลาย ขอให้หมั่นทำความดี สร้างกุศลด้วยการทำทาน สวดมนต์ ถือศีล เจริญทำแต่ความดี ไม่ทำผิดศีลธรรมเพื่อสะสมเสบียงบุญเป็นบุญ ที่เราเอาไปได้ตายแล้วไม่ต้องห่วงใยอะไรอีกแล้วไม่ต้องไปง้อขอบุญจากใคร เพราะเราได้สะสมเสบียงเอาไว้เต็มกำลังแล้ว นรกและสวรรค์นั้นมีอยู่จริง ถ้าเรามีบุญมากเราก็มีกำลังบุญพอที่จะร้องขอความ เมตตากรุณากับเจ้าหน้าที่ที่มารับตัวเราไปจากโลกหลังความตายโลกนั้นมันน่ากลัวนัก คนที่เขาไปมาแล้วมาเล่าให้ฟังเขาบอกว่าขนาดฟื้นจากความตายมาได้เนื้อตัวยังเจ็บ ขวากหนามที่ต้องฝ่าฟันมาเลยค่ะและเราก็จะไม่กลัวอะไรทั้งนั้นในเมื่อเราทำแต่ความดี เราก็จะสามารถเชิดหน้าชูตาประกาศก้องว่าเราเป็นคนดี คนดีไม่มีวันที่จะพบกับอุปสรรค ทั้งปวงค่ะ ขอเถอะค่ะ อย่ารอบุญกุศลจากผู้ใดเลยแม้แต่ลูกหลาน เพราะว่าทุกคนยังอยู่ ในวังวนของความรัก ความโลภ ความโกรธ และความหลง พวกเขายึดเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้ หนักและเป็นตัวทุกข์ยังหาทางที่จะพ้นทุกข์นั้นไม่ได้เลยแล้วเขาจะมาช่วยเหลืออะไร เราได้เล่า น้อยคนนักที่จะเข้าใจในเรื่องของบุญและกรรม ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันเป็นอย่างนี้ค่ะ พวกญาติพี่น้องเขาจะตื่นเต้นตกใจ เศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเราในช่วงแรก ๆ ที่ตายใหม่ ๆ พวกเขาก็จะทำบุญเลี้ยงพระใส่บาตรไปให้เรา อย่างน้อยเราก็จะได้จาก บรรดาญาติพี่น้องก็สัก 3 วัน 7 วัน 100 วันหรือครบรอบวันตาย หรือทำบุญปีใหม่ไทย ก็เท่านั้น นานวันเข้าเขาก็ลืมเราไปแล้วค่ะ 
ฝากไว้นะค่ะ คนเราจะตายวันใดไม่รู้ แต่วันนี้ทำให้ดีที่สุดอย่ารอเวลาให้ว่างก่อนเพราะ เราไม่มีเวลาว่างหรอกค่ะ อ.เจน พูดเสมอว่าถ้าเรายังมีลมหายใจได้ เราก็มีเวลาทำความดี ได้ด้วยเช่นกันค่ะ จี๊ดจ๊าด
|