ความประทับใจบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 40 ตอน “สามัคคีบุญ”วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559
จี๊ดจ๊าดขอมาเล่าบ้างค่ะ อ้อ ก่อนอื่นจี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกคนเลยน้าค่ะทริปนี้จี๊ดชอบใจมากนะค่ะ
นอกจากได้บุญกุศลแล้วยังเกิดความสามัคคีและความสนุกสนานกันในหมู่คณะอีกด้วยค่ะเริ่มจาก เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559 ทุกคนมากันพร้อมไม่ช้ารถออกเดินทางทุกบัสก็สวดมนต์ นำฤกษ์นำชัยก่อนเดินทางเหมือนเช่นทุกครั้งโดยคุณรุ้งกับจี๊ดได้แจ้งแก่ลูกทัวร์ของเราให้รับทราบว่า วันนี้มีบุญใดบ้างและมีกิจกรรมบุญใดบ้าง ซึ่งครั้งนี้บอกช้าก็ไม่ทันการนั่นคือเราทุกคนต้องมีงานทำ ในรถบัสของทุกบัสค่ะ ที่วัดแรกขาดแคลนปัจจัยในการบูรณะศาลาอเนกประสงค์หลังเก่าเป็นวัดที่ยากจน วัดที่สองมีกิจกรรมแห่งความสามัคคีเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเราและวัดที่สามฟังเทศน์ฟังธรรม เสริมสร้างสติปัญญาและสามารถนำไปปฏิบัติต่อที่บ้านได้จี๊ดเห็นสายตาแห่งความตื่นเต้นในบุญ ของทุกคนแล้วอดที่จะปลื้มใจกับทุกคนมั๊กมากค่ะ วัดแรก สร้างบูรณะศาลาเอนกประสงค์หลังเก่า ที่วัดนี้ได้ยอดทอดผ้าป่าสามัคคีมากเชียวค่ะสอง แสนกว่าบาทโดยอาจารย์ได้รับโอนบริจาคหักค่าของใช้สังฆทานแล้วจัดสรรเงินตามความสำคัญ ให้กับวัดที่จำเป็นต้องใช้ปัจจัยเงินค่ะซึ่งวัดแรกนี้จัดสรรไว้มากหน่อยดังนั้นเมื่อมีต่อยอดที่วัดก็จะ ได้ยอดเงินมากเพื่อบุญสำเร็จโดยง่ายค่ะ ทุกคนอาจไม่ได้สังเกตกันนะค่ะเริ่มตั้งแต่เดินขึ้นบันไดไม้เก่ามากซึ่งดูจากเนื้อไม้แล้วเก่าจริงค่ะทางวัด ได้นำเสื่อมาปูทับพื้นกระดาน ซึ่งบัดนี้กลายเป็นรูพรุนตามสภาพความเก่าของเนื้อไม้แต่เพื่อให้ทุกคน ได้นั่งสบายและปิดบังความเก่าให้ดูดีขึ้นมานั่นเองค่ะ หากเปิดเสื่อขึ้นมาก็จะเห็นรอยรูโหว่ของร่อง กระดานที่เก่าแก่และเมื่อแหงนขึ้นไปมองหลังคาก็จะเห็นหลังคาที่ไม่มีฝ้าเพดานอะไรเป็นเพียง กระเบื้องมุงหลังคาไว้เท่านั้นเอง กระเบื้องที่ไม่มีฝ้าจะทำให้เกิดความรู้สึกร้อนอบอ้าวถ้ามี แสงแดดร้อนแรงค่ะ ซึ่งจี๊ดประทับใจค่ะที่ได้เห็นทุกคนยินดีนั่งเบียดเสียดกันท่ามกลางบรรยากาศ ที่ร้อนอยู่ในขณะนั้นและมีบางส่วนที่ยินดีเสียสละนั่งเก้าอี้นอกศาลาฯโดยไม่ขึ้นไปเพราะคงเห็นว่า บนศาลาฯ คงอัดแน่นไปด้วยผู้คนนับร้อยแม้จะมีผู้คนมากมายแต่ทุกคนอยู่กันอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยนาชื่นชมมากค่ะซึ่งอาจารย์มักจะพูดชมไม่ขาดปากในเรื่องนี้ค่ะ ผู้เสียสละหรือผู้ให้ ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตเสมอค่ะ อาจารย์เจนว่าไว้อย่างนั้นค่ะส่วนตัวแล้วจี๊ดมี ความประทับใจในความมีน้ำใจของทุกคนอย่างที่อาจารย์เจนพูดไว้จริงๆ ค่ะ ซึ่งทุกคนก็ช่วย เหลือกันดีแบ่งปันที่นั่งกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเชียวค่ะ “โก๊ะยันตับ” แม้แต่จี๊ดเองจะก้าวเดินรับเงินบริจาคยังแทบไม่มีทางเดินจะก้าวเท้าฝ่าทุกคนไป ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวก็ใช้วิชาตัวเบาไงค่ะ ซึ่งในช่วงที่จี๊ดเดินรับบริจาคปัจจัยเงินอยู่นั้น เพราะต้องรีบและทำเวลานะแต่จี๊ดมักถูกอาจารย์เรียกว่า พี่โก๊ะ และแล้วจี๊ดก็ทำเรื่องโก๊ะๆ จนได้ สมญานาม “โก๊ะยันตับ” ทำให้มีเรื่องโจ๊กเล็กๆ ของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ศาลาฯ ค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นกับใครก็ได้จริงมะ เรื่องมีอยู่ว่า ผู้คนนั่งกันแบบเข่าชิดเข่าแทบไม่มีช่องทางเดิน จึงทำให้จี๊ดต้องพยายามสุดฤทธิ์สุดเดชกับการเดินฝ่าผู้คนในการรับบริจาคปัจจัย ระหว่างที่เดินอยู่นั้นต้องหยุดอยู่กับที่ก็เพราะน้องผู้หญิงคนหนึ่งเอื้อมมือมาจับข้อเท้าของจี๊ด ไว้พยายามจะชี้โบ้ยชี้ใบ้ให้ยกเท้าขึ้นซึ่งทำให้ต้องหยุดชะงักแค่เดินสองขาก็จะแย่แล้วจะให้ยกขา เดียวนี่นะไหนจะต้องเอื้อมมือที่ถือพานรับปัจจัยอีกการทรงตัวย่อมยากลำบากนี่ก็สุดตัวแล้ว แต่น้องคนนี้จะให้ยกขาจึงทำให้จี๊ดต้องหันไปมองและตั้งคำถามทำไมค่ะมาจับข้อเท้าพี่ทำไม แต่ก็ยังยิ้มกับเธออยู่นะค่ะเพราะไม่รู้เจตนาของน้องเค้าทั้งที่ตัวจะล้มหน้าคว่ำอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนตอนนั้นมีหลายสายตาจับจ้องมาที่จี๊ดแบบลุ้นอะไรสักอย่างและทุกคนก็ชี้ไป เท้าของจี๊ดซึ่งจี๊ดก็มองตามและแล้วทุกคนก็พูดพร้อม ๆ กัน แมวค่ะพี่จี๊ด พี่กำลังเหยียบแมวอยู่ค่ะ จี๊ดจึงก้มหน้าไปมองตกใจเลยค่ะ มีแมวลายสามสีตัวหนึ่งกำลังร้อง...เหมี้ยว ๆๆแมวมันเจ็บเดิน ไปไหนไม่ได้ โอ๊ะ ตกใจค่ะ จี๊ดชักเท้าออกโดยเร็วเจ้าแมวตัวนั้นก็กระโดดหนีไปทันที ทำให้ทุกคนยิ้มแบบเกรงใจกับจี๊ดที่ไม่รู้ตัวที่ได้เหยียบแมวเต็มเท้าก็จะแก้ตัวยังไงจึงได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า ขอโทษทีค่ะเป็นคนซุ่มซ่ามอะค่ะ เหล่าเทวดามาอนุโมทนาบุญ ญาติและเจ้ากรรมก็มารับส่วนบุญ อาจารย์เจนเล่าให้ฟังค่ะ มีเหล่าเทวดามากันมากมายมาอนุโมทนาบุญ มีทั้งญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร สัมภเวสีและพวกเปรตทั้งหลาย มารอรับบุญกุศลกันแน่นศาลาเชียวค่ะด้วยอานิสงส์บุญที่พวกเรา ทำกันเป็นหมู่คณะอันยิ่งใหญ่นี้เป็นพลังบุญที่ยิ่งใหญ่จึงทำให้เกิดการรวมตัวของบุญที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่า จะเป็นผู้ใดก็ย่อมต้องการมหาบุญนี้ค่ะซึ่งจี๊ดถือว่าเป็นเรื่องที่คณะบุญของเราภูมิใจในบุญที่เราได้ทำสำเร็จนี้นะค่ะ ศาลาฯ เก่า สร้างตั้งแต่ปี 2508 เจ้าอาวาสท่านเล่าว่าศาลาหลังนี้เก่ามาก ดีใจ และขออนุโมทนาบุญกับคณะบุญด้วย ถ้าคณะบุญของเราไม่มาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างใด เพราะศาลาเก่ามากสร้างตั้งแต่ปี 2508 ถ้าเป็นอายุของคนก็เข้าวัยชราแล้วจริงมั้ยค่ะซึ่งท่าน ก็ชี้ให้ดูกระเบื้องหลังมีรูโหว่หลายรูจี๊ดก็มองตามมีแสงแดดลอดเข้ามาจริงด้วยเจ้าอาวาสท่าน เล่าว่าถ้ามีฝนตกก็ยุ่งกันใหญ่เพราะฝนตกลงมารอยรั่วของหลังคาหลายจุดทำให้เปียกกันไป หมดพระจะประกอบกิจทางศาสนาก็ยังไม่ได้จึงขอขอบใจและอนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเรา ที่ได้มีส่วนช่วยให้ศาลาหลังนี้ได้รับการบูรณะเป็นหลังใหม่เพื่อใช้ได้ทั้งพระสงฆ์และฆาราวาสค่ะ วัดที่สอง ผ้าป่าสามัคคีบุญ ร่วมสร้างพระพุทธสีไสยาสน์ความยาว 209 เมตร แห่ตุง ทักษิณารอบพระเจดีย์500 ยอด เพื่อถวายเป็นพระกุศลให้แก่พ่อหลวง อาจารย์เจนจัดกิจกรรมบุญนี้ ขึ้นมานั้นเพราะได้เห็นในญาณวิถีว่าจะต้องนำผู้คนทำพิธีแห่ตุงเงินตุงทองเดินไปยังพระพุทธสีไสยาสน์องค์ใหญ่ และนำตุงที่มีความยาวถึง 209 เมตรเท่ากับความยาวของพระพุทธสีไสยาสน์ ความยาวนี้มีที่มา ดังนี้ เชือกสายสิญจน์ที่เรียงร้อยตุงและประดับไว้อย่างสวยงามแล้วมีความยาว 15 เมตร x รถบัส 11 คัน = 165 เมตร+ 34 เมตร (ของทีมงาน) รวมทั้งสิ้น 209 เมตรพอดีค่ะ ซึ่งตอนที่ทีมงานนำเชือกมาทดลองทำแล้วก็ไม่ได้วัดนะค่ะเมื่อนำความยาวมาคำนวณแล้วได้ ความยาวเท่ากันพอดีเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากค่ะอาจารย์เห็นพวกเราประหลาดใจในเรื่องนี้ อาจารย์จึงพูดว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะพี่ ความสามัคคีที่สนุกสนานมาก จี๊ดไม่รู้นะค่ะว่าภายในรถบัสของใครสนุกสนานกันบ้างแต่บัสจี๊ดสนุกมากเชียวค่ะ ขอเล่ารถบัสตัวเองเพราะไม่ได้ไปดูที่รถบัสของใครนะค่ะ ตามที่อาจารย์เจนแจ้งแก่ทีมงานว่าเรามีกิจกรรม ความสามัคคีที่ต้องช่วยกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่เฮดได้แจ้งกิจกรรมไปนั้นโดยทุกบัสต้องมีอุปกรณ์เพื่อใช้ปฏิบัติการ ดังนี้ (1) ตุงทอง 8 ตุง + ตุงเงิน 7 ตุง (รวม 15 ตุง แต่ละตุงแต่ละตุงจะมีช่องใส่ธนบัตร (2) เชือกสายสิญจน์ “ใหญ่” (มีความยาว 15 เมตร ใช้เป็นเส้นหลัก) (3) เชือกสายสิญจน์ “เล็ก” จำนวน 1 ม้วน (ใช้ผูกมัดกับสายสิญจน์เส้นหลัก) (4) โบว์ผ้า สีดำ จำนวน 1 ม้วน(ใช้ตกแต่งประดับกับสายสิญจน์เส้นหลัก) (5) คัตเตอร์ จำนวน 1 อัน ทุกคนต้องทำงานกันเป็นทีม และมีการวางแผนที่ดีซึ่งแล้วแต่การจัดการภายในรถบัสตัวเองนะค่ะ เริ่มค่ะ คุณรุ้งกับจี๊ดช่วยกันแนะนำทำสวย โดยแจ้งวัตถุประสงค์ที่อาจารย์ตั้งใจโดยเรี่ยไรเงินปัจจัย ทั้งรถบัสก่อนนำมานับได้เงินปัจจัยเท่าใดเขียนไว้จัดเรียงธนบัตรตามสีสันของธนบัตรพักเก็บไว้ก่อนค่ะ สิ่งของทั้ง 5 อย่างข้างต้น นำไปคิดกันค่ะว่าเราจะตกแต่งให้สวยงามได้อย่างไรตามใจปรารถนา ตามใจทุกคนเลยค่ะ โดยให้ข้อแนะนำด้วยตุงนี้เป็นตุงมงคลเราจะนำสู่สรวงสวรรค์ คือไม่ได้โม้นะค่ะ อยากสวยต้องสละเท่านั้นแหละค่ะ สร้อยมุก กำไรมุก กำไรเงิน สร้อยเงิน กรรไกร ที่เปิดขวด พัดหลากสีปลาเส้นฟิชโช่ พับนกกระดาษด้วยธนบัตรหลากสีใครมีฝีมืดจัดกันมาค่ะ มากันตรึม ยกเว้น สร้อยทอง แหวนทอง แหวนเพชร นะค่ะพูดล้อเล่น พวกเราจัดแต่งประดับกันอย่างสนุกสนาน ช่วยกันคนละไม้คนละมือทุกคนสนุกสนานกันมากเดินกันทั่วบัสเชียวค่ะแล้วเราก็นัดกันว่ามัน เป็นความลับของบัสเรานะอย่าบอกใครและยังมีแผนต่อไปอีกว่าตลอดเส้น 15เมตรนี้ใครต้องการ ความสวยขึ้นสวรรค์ถ้าแวะปั้มเข้าห้องหน้าที่จะถึงเราก็ย่องไปซื้อมาเสริมได้ ..เน้น..เน้น..ความลับนะพวกเรา ทุกคนยิ้มกันใหญ่ไม่พูดจามุ่งหน้าไปหาอุปกรณ์เสริม คุณรุ้งกับจี๊ดทำหน้าเรียบเฉยแบบตีหน้าเนียน ๆ ทักทายอาจารย์ปกติมั๊กมากแต่มันเซ็งเป็ดก็ตรงนี้แหละค่ะ ตรงที่อาจารย์พูดขึ้นว่าพี่แหมหนูยังไม่ได้ จัดตกแต่งตุงของหนูเลยนะ ของพี่จะอะไรมากมายขนาดนั้นมีกระทั่งที่เปิดขวด พัดลม โอ้ย อะไรกันพี่สร้อยมุกหอยสังข์อะไรเยอะแยะเต็มไปหมด โหย..อาจารย์รู้หมดเลยนี่ความลับนะเนี้ย จี๊ดจึงหันไปมองหน้าคุณรุ้ง ซึ่งคุณรุ้งก็ตีหน้าตายพูดไปว่า อะไร ๆ จี๊ดอดไม่ได้จึงพูดอย่าบอกนะว่า อาจารย์ใช้ญาณไปซูมดูที่บัสจี๊ด อาจารย์พูดยิ้ม ๆ จะเหลือหรือค่ะหนูก็ต้องอยากดูของพี่กับพี่รุ้ง ที่ชอบทำอะไรแปลก ๆด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็จริงของอาจารย์นะของเราเหมือนกับพวกลิเกหลงโรง เชียวแต่สวยนะจะบอกให้ แล้วอาจารย์ก็บอกว่าถ้ามีอะไรเหลือแบ่งกันบ้างสิ จี๊ดรีบแนะนำเลย อาจารย์ไปกับเฮียมิตรเจ้าสัวใหญ่นายทุนไปซื้อค่ะ อาจารย์ไปกับคุณมิตรทันทีค่ะ ทุกคนขึ้นรถตกแต่งและเรียงเงินใส่ตุงสักพักถึงวัดที่สองค่ะ เกิดปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ ตั้งขบวนแห่ตุงทักษิณารอบเจดีย์ 500 ยอด และร่วมร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมีและเพลงราชาผู้ทรงธรรม ตอนนั้นจี๊ดน้ำตาไหลเลยค่ะคิดถึงพระองค์ท่านค่ะ ซึ่งในขณะนั้นแดดร้อนมากค่ะหลังจากนั้นทุกคนก็ได้นำตุงทั้ง 11 เส้นมาผูกต่อกันเป็นพลังความสามัคคี และทุกคนก็เดินต่อกันเป็นแถวยาวเพื่อเดินไปที่พระพุทธสีไสยาสน์ฯองค์ใหญ่ค่ะ ซึ่งปาฏิหาริย์มหัศจรรย์มากที่อยู่ดีดีบรรยากาศก็เปลี่ยนจากที่มีแสงแดดอากาศร้อนอบก้าวกลับกลาย เป็นอากาศที่เย็นสบายซึ่งจากการติดตามอาจารย์มากนานเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ซึ่งต่อมาจึงได้รับฟังจากอาจารย์ว่า อาจารย์ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า“ด้วยบุญที่ลูกนำพาผู้คนมาทำบุญ สร้างความสามัคคีและร่วมสร้างพระองค์ใหญ่แห่งนี้ ขอให้เหล่าเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ณ ที่แห่งนี้ที่ท่านได้มาร่วมอนุโมทนาบุญกันในวันนี้จงดลบันดาลทำให้เกิดปาฏิหาริย์เพื่อให้ทุกคน ในที่นี้ได้รู้ได้เห็นเป็นประจักษ์ด้วยตาเนื้อและให้คณะบุญเสบียงสวรรค์ได้รู้ว่าการสร้างบุญบารมีนั้นมีอยู่จริง” ซึ่งอากาศเปลี่ยนไปจริงนะค่ะถ้าจะมีคนสังเกตนะค่ะ เกือบจะเกิดพายุใหญ่ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นยังไม่จบค่ะเมื่อชักรอกตุงขึ้นสวรรค์เรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เดินเข้ามาที่ศาลาฯเจ้าอาวาสท่านรออยู่ภายในศาลาฯ เมื่อพร้อมแล้วซึ่งท่านได้บอกวัตถุประสงค์ การสร้างพระองค์ใหญ่ ระหว่างนั้น เกิดมีฝนตกแต่แดดออกซึ่งอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นไม่ได้ฟังเจ้าอาวาสท่านพูดอะไรได้แต่นั่งภาวนาขออย่าให้เกิดพายุใหญ่โดยบอกกล่าว กับเทพเทวาทั้งหลายที่ต่างก็พุ่งตรงลงมาอย่างรวดเร็วจึงทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นคือท่านไม่ได้ ทะเลาะกันแต่ท่านเสด็จกันมาอย่างรวดเร็วค่ะซึ่งอาจารย์รู้ในญาณวิถีว่าจะทำให้เกิดพายุใหญ่ได้ ดังนั้นจึงขอให้ท่านทั้งหลายเสด็จมาร่วมอนุโมทนาบุญกับคณะบุญเสบียงสวรรค์ในครั้งนี้ขออย่าให้มี พายุใหญ่ขอให้ผ่อนคลายพายุลงอาจารย์นั่งภาวนาอยู่อย่างนั้นจนผ่อนหนักเป็นเบาเพียงแต่ มีฝนตกเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ อาจารย์รู้ได้ในญาณวิถีค่ะ ต่อไปในวันข้างหน้าพระพุทธสีไสยาสน์ฯณ สถานที่แห่งนี้ จะมีผู้คนหลั่งไหลกันมา กราบไหว้บูชา ดังนั้นปัจจัยที่คณะบุญของเราได้มีส่วนในกุศลทอดผ้าป่า ร่วมสร้างพระองค์ใหญ่แห่งนี้อาจารย์บอกว่าไม่ว่าภพใดชาติใดบุญกุศลนี้จะได้ติดตามเราไปเป็น การสร้างบารมีบุญของพวกเราค่ะ จี๊ดรับฟังแล้วก็ชื่นใจสุขใจค่ะซึ่งยอดปัจจัยเงินที่ได้ก็ แสนกว่าบาทเชียวนาไม่น้อยนะค่ะ วัดที่สาม ถวายสังฆทาน และฟังเทศน์กับพระนักเทศน์ ซึ่งท่านมีความสามารถในการเทศน์จริงๆ ค่ะ ฟังแล้วไม่เบื่อค่ะ ท่านได้แนะนำธรรมปฏิบัติทางด้านการทำสมาธิ แต่เชื่อเถอะค่ะบางท่านอาจมี ความรู้สึกสับสนในการที่ตนเองได้ปฏิบัติมาแล้วถูกต้องหรือไม่ซึ่งท่านเคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น การทำสมาธิมีหลายรูปแบบแล้วแต่จริตของแต่ละคนนะค่ะ อาจารย์สอนไว้อย่างนั้นเพราะอาจารย์ เคยพูดเสมอว่าหากการปฏิบัติเริ่มใหม่อยู่เรื่อยเมื่อไหร่จะได้รู้เมื่อไหร่จะได้เห็นเป็นปัจจัตตังดังนั้น ตามที่คุณถนัดเลยค่ะ อาจารย์ต้องการนำพาทุกคนมาชมสถานที่ปฏิบัติธรรมที่โอ่โถงสวยงามและเหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรม เพื่อการเรียนรู้ยังสถานที่วัดต่างๆ และยังได้รับฟังธรรมมะดีดีด้วยค่ะ ความเป็นจริงแล้ว อาจารย์นิมนต์ท่านเทศน์ 1ชั่วโมง แต่ด้วยเพราะเหตุว่าต้องรอเพื่อน ๆ ขึ้นรถกันยังไม่ครบ ซึ่งบางคนก็ยังคงทำบุญที่ทางวัดจัดขึ้นต่อไปอีก ทำให้ต้องขอลดทอนเวลาจาก1 ชั่วโมงเป็น ½ ชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะไม่ว่าคุณจะได้รับฟังเทศน์ใช้เวลามากน้อยเพียงใดก็ไม่ได้เป็นผลเสียหาย เพราะเชื่อว่าคุณก็ต้องได้รับสิ่งดีข้อคิดเพื่อนำไปปฏิบัติไม่มากก็น้อยนะค่ะจี๊ดเห็นว่าพระท่านเข้าใจ และสรุปธรรมมะที่มีประโยชน์ให้กับทุกคนค่ะ ติดกัณฑ์เทศน์ถวายพระสงฆ์ ที่วัดนี้อาจารย์ตั้งใจถวายสังฆทานเพียงอย่างเดียวเพราะ ต้องการให้ทุกคนฟังธรรมมะโดยนิมนต์พระสงฆ์ที่เป็นพระนักเทศน์ได้มาเทศนาธรรมให้แก่ทุกคน ได้รับฟังและนำปฏิบัติ ในการนี้ได้อาจารย์เจนจัดเตรียมเงินติดกัณฑ์เทศน์ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเงินของทุกคนที่ได้โอนปัจจัยร่วมบุญกันมาค่ะ แต่กระนั้นก็มีผู้ที่ต้องการจะร่วมบุญติดกัณฑ์เทศน์ เพิ่มเติมจี๊ดไม่ขัดศรัทธาค่ะจัดไปซึ่งมียอดเงินที่ไม่ได้นับคาดการณ์ด้วยสายตาเป็นเงินหลายหมื่นบาท เพราะเงินอัดแน่นในซองจดหมายสามมัดหนาเป็นปึกเชียวค่ะการที่ไม่ได้นับเงินเพราะนับไม่ทันด้วย เวลาเป็นข้อกำหนดซึ่งต้องรีบทำเวลาเดินทางกลับบ้านค่ะ กลับบ้านดึก การที่อาจารย์เจนจำเป็นต้องมีกำหนดเวลาและความรวดเร็วนั้นไม่ได้เป็นการทำบุญ แบบชะโงกบุญหรือทำบุญเร่งรีบนะค่ะ ส่วนมากอาจารย์ให้โอกาสในการทำบุญแบบสบายๆ เสมอมาค่ะ จนบางครั้งได้มีผู้ร่วมบุญเขียนกระทู้หรือมีข้อแนะนำเพื่อไม่ให้กลับบ้านดึก โดยอาจารย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องนี้เลยค่ะจึงพยายามบริหารเวลาแต่ก็ต้องกลับบ้านดึกตามเวลาเดิมอีกจนได้ค่ะ ดังนั้นเมื่อร่วมหัวจมท้ายกับการทำบุญกับอาจารย์เจนแล้วต้องเต็มที่กันไปเลยนะค่ะยอมให้เลย วันเดียวเองค่ะเพื่อบุญทีคุณสะสมเสบียงเอาไว้นะค่ะ มีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อาทิเช่น การเข้าห้องน้ำปลดทุกข์ การจราจรติดขัด การช้อปปิ้งซื้อของฝากทุกสิ่งอย่างเป็นองค์ประกอบและต้องให้โอกาสเพื่อน ๆ ที่ได้มีโอกาส ได้เดินทางมาต่างจังหวัดทั้งทีนะค่ะ อาจารย์ให้โอกาสแบบสบาย ๆ นะค่ะซึ่งอาจารย์พูดให้จี๊ดฟังว่าหนึ่งเดือนมีงานบุญเพียงครั้งเดียว การที่เราได้มาร่วมบุญกันหากเปรียบเทียบกับการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบุญกุศลทุกคน สามารถกลับบ้านดึกได้ แต่นั่นเราไม่ได้บุญกุศลติดตัวไปเลยค่ะ การทำบุญสร้างกุศลการทำความดีต่าง ๆ เป็นความอิ่มใจสุขใจบุญกุศลทำให้จิตใจเราอิ่มเอิบเมื่อหวนคิดทีไรสุขใจทุกทีค่ะ แต่การท่องเที่ยวสุขใจพักเดียวเฉพาะช่วงที่ไปท่องเที่ยวแล้วเราก็ลืมเลือนแต่บุญกุศลที่เราทำสำเร็จ แล้วนั้นลืมยากนะค่ะและที่สำคัญบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ค่ะ สาธุๆๆๆๆ
จี๊ดจ๊าด
|