จี๊ดจ๊าด ขอมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะค่ะเอาแบบละเอียดละอี้กันเลยค่ะ

ทริปบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ ๒๗ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ที่จะถึงนี้ในเร็ววันนี้ บางท่านก็อาจจะสงสัยว่า เอ ทำไม ครั้งนี้ กระชั้นชิดจนเกินไป และในครั้งหน้าก็กระชั้นชิดอีก จะเลือกไปทำบุญครั้งใดถึงจะดี จี๊ดขอบอกให้รู้กันเลยว่า ถ้าไม่ได้ไปทำบุญทริปใดทริปหนึ่งก็จะน่าเสียดายแย่เลย ขนาดตัวอาจารย์ทั้งสองยังน้ำตาไหลปิติสุขในบุญที่เบื้องบนจัดสรรให้ในครั้งนี้ เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่วัดนั้น ๆ เพราะบุญที่อาจารย์จัดขึ้นเป็นบุญใหญ่ทุกบุญ เดือนหนึ่งมีหนเดียว อาจจะค่อนข้างกระชั้นชิดไปสักหน่อยจนทำให้เกิดตัวเลือก แต่ก็ด้วย อ.เจน มีภารกิจมาก แต่ก็ไม่หยุดงานบุญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยไม่ต้องการให้ทุกท่านได้ห่างบุญกุศล แล้วไฉนเลยท่านไม่สู้ล่ะค่ะ จี๊ดเข้าใจมากเลยจากสภาพอากาศที่แปรปรวน จากสภาวะเศรษฐกิจ และอะไรต่อมิอะไร ที่มาเป็นตัวขัดขวางเส้นทางบุญของเรา เราต้องสู้ ต้องสู้ จึงจะชนะ ค่ะ

...ทริปนี้ ถึงแม้ทุกท่านจะเดินทางไกลสักหน่อย แต่คุ้มสุดคุ้ม และจะขอฝากบอกว่า ท่านไม่ได้ไปท่านจะเสียดายมากจริง ๆ ค่ะ...

ทำไมถึงต้องสู้ เริ่มจากวันเดินทางก็แล้วกันค่ะ เป็นวันที่สุดสุดจริง ๆ ค่ะ ก่อนออกเดินทาง อ.เจน คุณรุ้ง และทีมงานติดตามบางส่วน ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อใส่บาตรให้เป็นสิริมงคลก่อนออกเดินทาง ทุกอย่างต้องเร่งรีบเพราะมองไปบนท้องฟ้าแล้วต้องรีบมากเนื่องจากท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยความมืดที่ครอบคลุมไปด้วยก้อนเฆมสีดำน่ากลัวมาก ใส่บาตรเสร็จก็กระโดดขึ้นรถในทันทีแต่ไม่ทันฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่น่ากลัวมาก เป็นพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าเปรี้ยง เปรี้ยง พวกเราทุกคนมองไม่เห็นถนนหนทางเลย ต้องขับไปกันอย่างช้า ๆ แต่เราไม่ถอย อ.เจน หันมาถามว่า เราจะสู้ต่อกันมั้ย ไปวันอื่นก็ไม่ได้แล้ว เมื่อ อ.เจน สู้แล้วเราหรือจะไม่สู้ ทุกคนบอกว่า สู้ไม่ถอย ลุย ลุยเลย อาจารย์ แต่คนที่พูดอะน่ะ จี๊ดเอง เห็นฟ้าผ่าเปรี้ยง ๆ อย่างนี้กลัวมาก ตอนเด็กชอบสาบาน "ถ้าพูดไม่จริง ขอให้ฟ้าผ่า" แม้จะไม่พูดปดแต่บางครั้งก็มีบ้างเพื่อแก้ไขสถานนะการณ์ให้ร้ายกลายเป็นดีค่ะ ก็กลัวแหละ
ตลอดเส้นทางน่ากลัวมาก รถขับกันแบบค่อย ๆ ไปค่ะ ระหว่างทาง อ.เจน ก็ได้พูดถึงรายละเอียดการเดินทางว่า วันนี้จะไปจังหวัดอะไร และจะไปสร้างบุญใดบ้าง โดย อ.เจน บอกว่า อยากพาทุกคนไปสร้างบุญใหญ่ เราทำบุญมาหลากหลายแล้ว วันนี้อาจารย์ต้องการที่จะหาวัดที่ขาดปัจจัยสร้างวัตถุทาน สร้างอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญครั้งนี้อาจารย์ต้องการให้ทุกคนช่วยกันขนอิฐมอญ เข้าวัด และถวายเจ้าแม่กวนอิมด้วย ดังนั้น เราต้องหาวัดที่มีบุญสัมพันธ์ที่จะได้ถวายบุญนั้นค่ะ
งั้นเราต้องไปไหนกันดีต้องไปวัดที่อยู่ติดกับภูเขา เนินเขา หรือไรดี ครึ่งวันเข้าไปแล้วยังหาวัดที่จะทำบุญไม่ได้เลยก็เพราะว่า ฝนตกตลอดทั้งวันตลอดเส้นทาง เมื่อฝนซาลงบ้างท้องฟ้าเปิด คณะสำรวจจึงพบว่า เราได้มาอยู่ในป่าเสียแล้ว ไม่มีแม้แต่รถสักคันหนึ่งที่วิ่งสวนไปมาเพราะ สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ทึบปกคลุมจากถนนลูกรังกลายเป็นถนนดินแดง มีผึ้งบินกันว่อนเป็นป่าสมบูรณ์ หลงไปหลงมาก็มาหาทางออกถนนใหญ่จนได้ จึงได้พบกับวัดแรก วัดแรกมีอะไรบ้าง

วัดแรก
เป็นบรรยากาศบ้าน ๆ มากค่ะ ศาลาเอนกประสงค์ของวัดเป็นเรือนไม้เก่าแก่มาก เอนกประสงค์จริง ๆ ค่ะ รถแล่นเข้ามาก็ได้เห็นว่ามีพระอุโบสถ์สร้างเสร็จใหม่ยังไม่การการใช้งาน และมีศาลาการเปรียญที่สร้างค้างอยู่มีเพียงเสา และคานที่สร้างรากฐานไว้เท่านั้น เหมือนกับการรอคอยให้มีผู้มาช่วยสร้างต่ออย่างไรก็อย่างนั้นค่ะ อ.เจน เดินสำรวจแล้วก็ชวนกันไปหาเจ้าอาวาส บนศาลาไม้ ท่านเป็นพระสงฆ์รุ่นโบราณสังเกตได้จากเชี่ยนหมากที่ตั้งวางอยู่ไกล้ตัวค่ะ
ทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างศาลาการเปรียญ
อ.เจน ได้กราบนมัสการท่านแล้วได้สอบถามว่า ที่วัดแห่งนี้ยังขาดปัจจัยใดบ้างที่ดิฉันจะร่วมสร้างบ้าง แต่ อ.เจน รู้อยู่แล้ว ต้องถามไปตามธรรมเนียมค่ะ ท่านจึงพูดว่า อาตมาได้สร้างอุโบสถเสร็จสิ้นแล้วโดยมีชาวบ้านมาช่วยกัน ตัวอาตมาเป็นช่างก่อสร้างเอง แต่ด้วยขณะนี้ ศาลาการเปรียญยังคั่งค้างอยู่ไม่มีปัจจัยสร้างต่อ ถ้าโยมมีเจตนาจะสร้างในส่วนที่ขาดนี้ก็ขออนุโมทนาบุญด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว อ.เจน จึงแจ้งว่า จะนำพาคนมาจำนวนมาก ทางวัดไม่ต้องเตรียมอะไร เพียงให้เจ้าหน้หาที่วัดเตรียมน้ำเจาะแช่เย็นให้ทางคณะบุญฯ ด้วย และ อ.เจน จะถวายชำระเงิน ค่าใช้จ่ายให้กับทางวัดเอง ซึ่งหลวงพ่อท่านได้ฟังแล้วก็เบาใจลง เพราะท่านเป็นพระอายุมากและค่อนข้างเป็นคนโบราณค่ะ ท่านคงจะไม่สะดวกในการจัดหาต้อนรับและที่ผ่านมา อ.เจน ก็ไม่ได้ให้ทางวัดจัดการสิ่งใดให้เลยไม่ต้องการรบกวนพระท่านค่ะ

จำได้ว่า แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของวัด เบอร์โทรศัพท์ของหลวงพ่อท่านก็ไม่มี อ้าวแล้วจะติดต่อกันอย่างไรดีล่ะ ว่าแล้วท่านก็ตะโกนเรียก "แม้น แม้น มานี่หน่อย" แล้วท่านก็บอกว่าติดต่อผ่านคนนี้แหละ ไม่เคยมีโทรศัพท์กะเข้าหรอก เห็นมั้ยละ หลวงพ่อท่านค่อนข้างโบราณจริงปะ

ขำขำค่ะ หลวงพ่อท่านตะโกนให้คน ชื่อ แม้น มาหาเพื่อให้นำพาคณะเราไปเดินสำรวจรอบวัด ซึ่ง อ.เจน ได้เห็นพระอุโบสถใหม่ แล้วจึงหันมาพูดว่า ที่นี่แหละค่ะที่อาจารย์จะนำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในบุษบก และประดิษฐานในโบสถ์ใหม่นี้ อาจารย์พูดเสร็จ นายแม้น ก็มาพูดกับจี๊ดว่า โบสถ์เพิ่งสร้างเสร็จอยู่ระหว่างรอ........ท่าน มาทำพิธีเบิกฤกษ์และใช้อย่างเป็นทางการ โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า วัดที่อยู่ที่ห่างไกลอย่างนี้จะเป็นวัดที่มีความสำคัญมากจนท่านผู้มีบุญมาทำพิธีเปิดพระอุโบสถ แต่คณะบุญฯ ของเราได้ไปถวายพระบรมสารีริกธาตุ

ถวายพระบรมสารีริกธาตุ อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ซึ่ง อ.เจน ต้องการที่มีเจตนาที่จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในบุษบก แห่เวียนรอบโบสถ์ ๓ รอบ เพื่อสักการะบูชาและเพื่อเป็นสิริมงคลให้ผู้ที่มาร่วมบุญทุกท่าน ซึ่งบุษบกที่ใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุก็มีความสำคัญมากทุกอย่างเป็นบุญทั้งนั้นค่ะ เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการปกปิดครอบคลุมพระบรมสารีริกธาตุให้คงอยู่ในสภาพที่ดีค่ะ สิ่งนี้ก็เป็นบุญด้วยค่ะ กี่ครั้งที่ผู้คนได้มากราบไหว้สักการะบูชาเขาก็จะมองมาที่บุษบกเราก็จะได้บุญกุศลนั้นทุกครั้งค่ะ อ.เจน เคยบอกกับจี๊ดว่า พระบรมสารีริกธาตุอยู่ ณ ถิ่นฐานแห่งใด ที่แห่งนั้นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง และจะเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ร่มเย็นเป็นสุข จึงต้องการจะแผ่ขยายความเจริญรุ่งเรืองไปในทางธรรม จี๊ดยังเสียดายแทน อ.เจน เลยค่ะ แต่ อ.เจน บอกว่า ทุกสิ่งเป็นของนอกกาย ตายแล้วเราก็นำสิ่งนั้นไปกับเราไม่ได้ สู้เรานำไปสร้างความดีในทางโลกและทางธรรมจะดีกว่าค่ะ เพื่อต่อไปผู้คนจะได้เป็นผู้มีศีลมีธรรมไม่ทำผิดศีลค่ะ แหมจี๊ดฟังแล้วก็อดที่จะปลื้มปิติสุขใจและอนุโมทนาสาธุกับอาจารย์ไม่ได้ค่ะ

ห่มผ้าพระพุทธรูปปรางสมาธิ ภายในพระอุโบสถ์มีพระประธานปรางสมาธิ ที่ตาแม้น เล่าให้ฟังว่า พระพุทธรูปองค์นี้ทำพิธีหล่อตามแบบจำลองมาจากพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยค่ะ แและโบสถ์นี้ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ จะมีการเปิดเฉลิมฉลองในโอกาสต่อไป ซึ่งต้องรอตตามที่แจ้งไว้นั่นแหละค่ะ

ด้วยอานิสงส์บุญจากการห่มผ้าพระพุทธรูปนี้มีมากเพียงใดนั้นไปศึกษาเอาค่ะมากจริง ๆ ค่ะ

วัดที่สอง
ทำบุญสร้างโบสถ์วิหาร สำหรับวัดสองนี้ อ.เจน ตั้งใจจะถวายเจ้าแม่กวนอิม และบุญให้ทุกคนขนอิฐสร้างโบสถ์ ทำด้วยสองมือของทุกคน ทำด้วยแแรงกายแรงใจของทุกคน อานิสงส์บุญมากมหาศาลยิ่งนัก ถ้าวัดที่เราจะได้ไปถึงข้างหน้านี้มีบุญสัมพันธ์กับเจ้าแม่กวนอิม เราจะทำบุญวัดนั้น ต้องช่วยกันหานะค่ะ ในขณะนั้น เวลาประมาณ ๕ โมงเย็นฝนฟ้าครึ้มเหมือนเวลา ๑ ทุ่ม ค่ะ ขับรถไปเรื่อย ๆ คุณรุ้ง ก็บอกว่า ฉันเห็นยอดเจดีย์จริง ๆ นะเจน พวกเราก็ลุ้นว่า ลองแวะเข้าไปมั้ยค่ะถ้าไม่มีอะไรก็ออกมากัน แต่เมื่อรถวิ่งเข้าไปทุกคนก็มองไปที่เพิงหมาแหงน แล้วคุณรุ้ง อีกนั้นแหละ ก็ได้เห็นเณรน้อยแต่งชุดแบบพระจีน จึงบอกให้รถหยุด แล้วพวกเราก็ได้เห็นเณรน้อยจีนจริงด้วย จึงตะโกนไปว่า ขับรถเข้าไปโลด

เมื่อลงจากรถก็ได้เห็นโบสถ์จริงด้วย แต่เป็นโบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ไม่สูงชันมากนัก และพวกเราทั้งหมดก็ลงไปสำรวจโดยเดินขึ้นไปดูไกล้ ๆ ซึ่งในความรู้สึกตอนนั้นช่างหดหู่ใจยิ่งนัก จี๊ดเชื่อว่า ไม่ว่า จะเป็น อ.เจน คุณรุ้ง และทีมงานที่ไปด้วยกันก็รู้สึกเช่นกัน คือ อยากจะทำบุญสร้างโบสถ์ให้เสร็จค่ะ เพื่อชาวบ้านแถวนั้นเขาจะได้มาทำบุญปฏิบัติธรรมกันค่ะ จากการตรวจดูพบว่า ร่องรอยการก่อสร้างที่ถูกทอดทิ้งน่าจะสร้างให้เสร็จ แต่ด้วยเป็นเพราะเหตุใดเล่า สถานที่แห่งนี้เงียบสงบมากเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมบรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าเขาลำเนาไพร สงสารโบสถ์ค่ะเพราะเริ่มมีเถาไม้เลื้อยพันอยู่ตามเสาโบสถ์ หากต่อไปเถาไม้เลี้อยคงพันเกี่ยวไปทั้งหลัง เสียดายและเสียหายค่ะ

หลังจากนั้นก็เดินหาเจ้าอาวาสจนพบ ท่านถามว่า มาจากไหนกันโยม อ.เจน จึงแจ้งว่าดิฉันหลงเข้ามาค่ะท่าน และที่วัดนี้กำลังจะสร้างสิ่งใดบ้างค่ะ เห็นโบสถ์สร้างไม่เสร็จ ดิฉันต้องการที่จะถวายอิฐแดง และปัจจัยเงินร่วมสร้างโบสถ์ค่ะท่าน โดยที่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเจตนาจะถวายเจ้าแม่กวนอิม แต่เจ้าอาวาสท่านพูดขึ้นว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นอาตมาขออนุญาตแบ่งอิฐแดงมาสร้างฐานรับเจ้าแม่กวนอิมสักหน่อยจะได้หรือไม่ พวกเราต่างก็หันมามองหน้ากันด้วยอาการตกตลึง จี๊ดนะหรือค่ะดีใจจนอยากจะกระโดดโลดเต้น หันไปเห็นคุณรุ้ง น้ำตาคลอ หันไปเห็น อ.เจน ดีใจมากเป็นไปตามที่อธิษฐานไว้จริง ๆ ด้วยไม่อยากเชื่อ อ.เจน กระซิบอย่างนั้น น้องทีมงานที่ได้ด้วยกันดีใจมากไม่แพ้กัน ก็เพราะว่า อ.เจน ยังไม่ได้เอ่ยถึงเจ้าแม่กวนอิม แต่เจ้าอาวาสท่านพูดขึ้นก่อน นั่นก็แสดงว่า บุญจัดสรร ไชโย จี๊ดเชื่อเสมอที่ อ.เจน มักพูดว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ

ดังนั้น อ.เจน จึงแจ้งเจ้าอาวาสด้วยความดีใจว่า จริง ๆ แล้ว ประสงค์จะถวายเจ้าแม่กวนอิม เจ้าอาวาสท่านก็ดูจะ งง งง กับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ท่านพูดขึ้นว่า หรือจะเป็นผู้มีบารมีมาจริงหรือนี่ ซึ่งท่านก็ได้เล่าความเป็นมาของโบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จว่าเพราะเหตุใด

คำบอกเล่า โดยเจ้าอาวาสค่ะ
เมื่อหลายปีก่อนยุคฟองสบู่แตก เหตุการณ์นี้เนิ่นนานมากแล้วค่ะ หลวงพ่อ.....พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ถ้าเอ่ยชื่อท่าน แต่ในทีนี้จี๊ดไม่อาจบอกชื่อท่านได้นะค่ะ ท่านได้เดินทางมาเยี่ยมที่วัดแห่งนี้ในขณะนั้นกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโบสถ์นี้ หลวงพ่อท่านพูดว่า "ถ้าโบสถ์หลังนี้สร้างได้สำเร็จละก็...ให้มาเตะตูดกูได้เลย เพราะด้านหน้าของโบสถ์นั้นหันไปทางทิศมหาอำนาจ หากจะสร้างได้สำเร็จได้นั้น ก็ต้องเป็นผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้นที่จะมาช่วยต่อยอดบุญและสามารถสร้างโบสถ์นี้สำเร็จได้"

เจ้าอาวาสท่านเล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นมีเหตุการณ์บ้านเมืองทำให้มีคำสั่งหยุดทำการสร้างโบสถ์ และต่อมาหลายปีสามารถสร้างโบสถ์ต่อได้แล้วก็มีคนใหญ่คนโตได้มาเห็นโบสถ์นี้แล้ว ก็แจ้งกับอาตมาว่า จะมาช่วยสร้างให้สำเร็จแล้วก็หายเงียบไป อาตมาก็เฝ้าแต่ รอ รอ ว่าจะมีใครที่เป็นคนจริง และเป็นผู้ที่มีบารมีตามที่หลวงพ่อ....ท่านได้เคยพูดเอาไว้ เพราะไม่คิดที่จะรอคนที่มีอำนาจวาสนาอีกแล้วเขารับปากแล้วไม่มา ถ้าโยมมีเจตนาที่จะมาช่วยจริงก็โทรศัพท์มาก็แล้วกัน เพราะอาตมารอคอยมาหลายรายแล้วก็หายเงียบไป หากโยมเป็นผู้มีบารมีคนนั้นก็ตรงตามคำทำนายของจริงหลวงพ่อ...ท่านแล้ว อาตมาก็จะยินดีมากและขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย

การเสาะหาอิฐมอญ(สีแดง) เรื่องนี้ไม่เล่าไม่ได้จริงๆ ค่ะ แอ็ดแวนเจอร์ค่ะ ก็เรื่องอะไรสะอีกการไปตามล่าหาอิฐแดงนั่นแหละค่ะ มันเป็นมหากาฬย์ที่ต้องเล่าค่ะ ของการผจญภัยใต้สายฟ้าฝนฟ้าที่คึกคะนอง จริงๆ ด้วยก็เมื่อได้กราบลาท่านเจ้าอาวาสวัดเรียบร้อยแล้ว อ.เจน ก็หันมาพูดว่าให้ทุกคนรีบ ๆ กันเลยค่ะเพราะฝนจะตกแล้วและเรายังหาร้านอิฐไม่ได้ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนแต่เมื่อกี้นี้หนูเห็นร้านอิฐแดง มืดแล้วเขาจะปิดร้านลำบากแย่เลย เมื่อออกมาจากวัดแทนที่จะเลี้ยวขวาเราก็เลี้ยวซ้ายและ แล้วฝนก็ตกลงมาจนได้ เพราะวันนี้ทั้งวันมีฝนตกตลอดเลยค่ะคิดดูสิค่ะจะป่วยกันมั้ยเพราะ การตระเวนหาวัดก็ต้องขึ้นๆลงๆ ระหว่างวัดกับรถทั้งวันอย่างนี้แหละกว่าจะได้พบกับวัดที่ อ.เจน เห็นว่าขาดปัจจัยจริง ๆ ค่ะ ครั้งนี้ฝนตกเทลงมาห่าใหญ่เชียวค่ะบรรยากาศที่มืดและน่ากลัว เงียบมากไม่มีรถไม่มีชาวบ้าน ไม่มีใครเลย ตลอดเส้นทางเป็นถนนสายเปลี่ยวมีเพียงรถยนต์ ปาเจโร่ของอ.เจน เพียงคันเดียวที่แล่นอยู่บนถนนเส้นนี้ ตลอดเส้นทางบนถนนนั้นไม่ต้องกันล่ะ ไม่มีเสาไฟฟ้าสักต้น การที่ฝนตกหนัก ตามมาด้วยฟ้าคะนองและผ่าลงมาเป็นลำแสงน่ากลัวมากจริงๆ เคยสาบานไว้ด้วยตอนเด็ก อ.เจน ถามว่าใครสาบานไว้ จี๊ดรีบบอกเลยค่ะ จี๊ดสาบานค่ะบนถนนและสองข้างทางมองแทบไม่เห็นอะไรเลย แต่พวกเราทุกคนก็ต้องช่วย กันเพ่งสายตากวาดมองออกไปนอกรถเพื่อหาร้านอิฐมอญแดงนี่แหละค่ะ เวลานั้นประมาณทุ่มกว่าแล้วความมืด กับพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย คุณรุ้งจึงค้นหาไฟฉายดวงกระจิด..ริด..ที่มีอยู่ภายในรถเอาออกส่องข้างทาง แต่แล้วก็สุดแสนจะดีใจร้องพร้อมๆ กันเลยว่า เจอแล้ว ๆ จอด ๆ ที่ว่าเจอแล้วนั้นก็คือ กระต๊อบเพิงหมาแหงน และเหมือนมีอะไรสักอย่างกองอยู่ในเพิงนั้นมีอยู่ประมาณ 2-3 เพิ่ง แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ สารถีของเราก็จอดในทันที อ.เจน โดดลงจากรถไปพร้อมกับร่มฝนกำลัง ตกลงมาอย่างหนักฟ้ายังผ่าอยู่เลยค่ะแต่ถนนเปลี่ยวมากจะรีบทำอะไรก็ต้องรีบเรามาต่างถิ่น ใช่มั้ยค่ะอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้เมื่อภัยมา จี๊ดและน้องทีมงาน 2 คน กระโดดตาม อ.เจน ไปด้วยส่วน คุณรุ้ง นั่งสังเกตการณ์อยู่ในรถแล้วก็อดรนทนไม่ได้กระโดดตามมาอีกคนด้วยความเป็นห่วงสรุป กระโดดตามกันลงรถทุกคนทิ้งโชว์เฟอร์ไว้คอยควบคุมสถานการณ์ให้เตรียมพร้อมเสมอ ซึ่งทุกคนเดินจากบนเนินถนนลงไปยังเพิงหมาแหงนและก็ลึกลงไปทุกที ลื่นก็ลื่น ฟ้าก็ร้อง ฝนก็ตกหนัก อะไรไม่ว่าหรอกค่ะที่พื้นนั้นเป็นน้ำเจิ่งนองเกือบถึงตาตุ่มเนื่องจากฝนตกหนัก เศษหญ้าก็ดั้นมาเกาะอยู่ที่ตามหลังเท้าของจี๊ด และจี๊ดเป็นคนกลัวสัตว์เลื้อยคลานประเภทปลิง พอหญ้ามาติดที่ผิวหนังเท้าก็ตกใจกระโดดหยงเลยค่ะ ก็นึก..ว่า..ปลิง ดูดเลือดจำได้ว่า ทุกคนพากันกระโดดไปตามๆ กัน เพราะนึกว่า งู ก็อาจเป็นได้นะค่ะ งู มักจะมากับสายน้ำ เพราะเป็นหญ้ารก ๆ ที่เดินไปนั้นด้วยความกล้าหาญอยากจะไปดูว่าที่กองริบ ๆ อยู่นั้นเป็นอิฐหรือเปล่า และก็ไม่พบอะไรเลยเมื่อไปถึงแล้วกลับกลายเป็นกองดินสีแดง ไม่มีคนเฝ้า ไม่มีใครเลย ยิ่งเดินก็ยิ่งลึกลงไปมืดก็มืดฝนตกหนักเมื่อเป็นเช่นนี้ก็รีบ วิ่งขึ้นรถค่ะและตั้งหลักใหม่ว่า ขับรถย้อนไปทางเดิมที่ อ.เจน คิดว่าเห็น จี๊ดซึ่งเป็นคนที่ไม่แน่ใจในตัว อ.เจน สักเท่าไหร่ จึงถามไปว่าเห็นด้วยตาทิพย์หรือเปล่า อาจจะเป็นร้านดั่งเดิมในอดีต ปัจจุบันได้ร้างไปแล้วก็เป็นได้นะค่ะ ที่เล่ามานี่ไม่ใช่ลบหลู่อาจารย์นะค่ะ เพราะบ่อยครั้ง คุณมิตรขับรถอยู่ดีดี อ.เจน บอกให้ระวังคนข้ามถนน คุณมิตร ก็บอกไม่มีใครครับอาจารย์ อ.เจน ก็บอกว่า นั่นไงผู้หญิงผมยาวนั่นไงไม่มีใครเห็นสักคน นี่แหละค่ะ ทีนี้เมื่อรถย้อนกลับไปเฮ้อเหนื่อยเจอร้านแล้วดีใจกันมากเจ้าของร้านบอกว่า ร้านปิด เซ็งเป็ดเลย อ.เจน ก็ไม่ย่อท้อไปขอคุยอย่าเพิ่งปิดร้านจะซื้ออิฐรบกวนด้วย เขาก็บอกไม่ได้ร้านปิดโชคดีที่ลูกจ้างเขาเอานามบัตรให้โทรกลับมาวันรุ่งขึ้นค่ะ ที่เล่ามานี่ทั้งลุ้นทั้งระทึกค่ะ อ.เจน เราไม่ย่อท้อเราลูกศิษย์ก็ไม่ย่อท้อค่ะสู้ สู้ สู้ ต้องสู้ จึงจะชนะค่ะ 
บุญช่วยเหลือพระตถาคตเจ้า
ถวายตู้ยา และยา
ระหว่างที่พูดคุยกับท่านเจ้าอาวาสอยู่นั้น จี๊ดเห็นรถเข็นอยู่ที่ข้างหลังจึงถามท่านว่ามีพระอาพาธด้วยหรือค่ะ เจ้าอาวาสท่านจึงพูดขึ้นว่า ที่นี่จะทำเป็นมูลนิธิช่วยเหลือพระสงฆ์พิการเสียแล้ว ท่านเล่าว่า ที่วัดแห่งนี้พระสงฆ์ท่านประสบอุบัติเหตุและอาพาธอยู่ จำนวน ๗ รูป ขณะนี้ พักรักษาตัวอยู่วัด มีอาการเจ็บป่วยแตกต่างกัน เช่น ขาหักเป็น ๓ ท่อน ปอดฉีก หลอดลมฉีกขาด และมีหลากหลายอาการท่านจำไม่ได้ค่ะ

เมื่อได้รับฟังเช่นนั้นทุกคนที่รับฟังต่างก็นั่งน้ำตาซึมกันเลยค่ะ ที่วัดนี้ค่อนข้างลำบากจะกินจะอยู่กันอย่างไร พระท่านก็เจ็บป่วย หลายรูป ต่างก็อึ้งกันมากค่ะ

คุณรุ้ง จึงประกาศกลางวงสนทนาในทันทีด้วยจิตที่เป็นกุศลด้วยไม่คิดสิ่งใดอีกแล้วว่า พี่จี๊ด จดไว้เลยค่ะว่า หนูจะบริจาคถังอ๊อกซิเย่น และช่วยลงประกาศ ว่าผู้ใดจะ บริจาคสิ่งใดบ้างก็ให้แจ้งมา เช่น ที่แขวนน้ำเกลือ ตู้เก็บยา และ ยา รวมทั้งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับพระอาพาธ รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่ะ สำหรับจี๊ดเบี้ยน้อยก็ขอร่วมบุญกับคุณรุ้ง ตามกำลังค่ะ งานนี้ต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณรุ้งด้วยค่ะ

อ.เจน พูดเสมอว่า การถวายเครื่องยา หรือ อุปกรณ์ ช่วยเหลือ และการดูแล พระภิกษุสงฆ์ที่เจ็บป่วย อาพาธ เหมือนกับการถวายแด่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยจิตเป็นกุศลบุญย่อมได้บุญมากมายมหาศาล จะเป็นผู้ที่เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม จนถึงหนทางความหลุดพ้นในวัฏฏสงสารค่ะ

จากเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี้ จี๊ดรู้สึกภาคภูมิใจที่มีอาจารย์ที่ดีเป็นผู้นำบุญซึ่งเป็นบุญที่ยากจะทำได้ด้วยตนเองค่ะ นอกจากอาจารย์นำพาไป และขอย้ำเตือนว่า ไม่ได้ไปเสียดายแย่เลยค่ะ

อ.เจน ฝากเตือนว่า การสร้างโบสถ์วิหารด้วยการขนอิฐมอญที่แข็งแรงดั่งหินผานำมาหล่อหลอมเป็นแผ่นปูนเนื้อเดียวกัน รวมกันเป็นโบสถ์วิหารทานที่มีอานิสงส์บุญมาก ไม่ว่าภพใดชาติใดท่านจะเป็นผู้ที่มีบ้านเรือนพักอาศัยทุกภพทุกชาติ มีปัจจัย ๔ ครบทุกประการค่ะ

จี๊ดก็จะขอเชิญชวนทุกท่านด้วยอีกคนนะค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านจากใจจริงนะค่ะ ที่ได้มาร่วมบุญกันอย่างไม่เคยหยุดหย่อนและไม่ย่อท้อต่อบุญที่ร่วมกันจริง ๆ ค่ะ

พบกันนะค่ะ กับทริปบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ ๒๗ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ นะค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|