
สวัสดีค่ะ ตามที่ดิฉันได้จัดกิจกรรมบุญพิเศษที่มีชื่อว่า “ค่ายธรณีแห่งธรรม” ครั้งที่ 1 (วันเสาร์ที่ 4 และวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2558) เนื่องจากขณะนี้เงินค่าถมดินปรับพื้นดิน ก็เริ่มลดน้อยลงแล้ว และเพื่อเป็นการประหยัดเงินค่าจ้างปรับพื้นที่ดินถึงประมาณ 5 แสนบาท และเพื่อให้คนที่มีอิทธิพลที่มาข่มขู่จะได้รู้ถึงความสามัคคีบนเส้นทางบุญเป็นอย่างไรค่ะ ดิฉันขอกล่าวอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้เดินทางมาร่วมกันปรับพื้นดินที่สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ เพื่อให้บุญนี้สำเร็จโดยเร็ว การที่ต้องทำกิจกรรมนี้ก็เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนอื่นต่อไป อีกหลายประการค่ะ บุญที่หาทำได้ยากอย่างนี้ บุญที่ทุกท่านได้ร่วมมือกันทำ ในครั้งนี้เป็นการสร้างรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ดิฉันทราบดีว่าการเดินทางมา ที่สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณในครั้งนี้ ทุกท่านที่เดินทางมาก็ด้วยใจที่มีความศรัทธาอันแรงกล้า มิเช่นนั้นแล้วคงไม่มา แต่ดิฉันก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่มีศรัทธาอันแรงกล้า แต่ไม่สามารถจะเดินทางมาได้ก็มีอีกมาก และเข้าใจดีค่ะ แม้ว่า การเดินทางของท่านจะเหน็ดเหนื่อยแต่ท่านก็ยินดีที่จะเดินทางมา แม้ว่าต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำมันรถ ค่าที่พัก ฯลฯ แต่ทุกท่านก็มาด้วยใจ และยังมีอีกหลายท่านที่ไม่มีโอกาสที่จะเดินทางมาได้ซึ่งก็ได้โอนเงินค่าอาหาร ค่าน้ำดื่ม บริจาคเป็นโรงทานให้แก่ผู้ที่มาทำงานบุญปรับพื้นดินเมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้ค่ะ นอกจากจัดกิจกรรมปรับพื้นดิน ดิฉันก็ได้มีกิจกรรมหล่อเทียนช่วงกลางคืน หลังจากนั้นผู้ที่ยังไม่เดินทางกลับไปพักผ่อนก็ได้ช่วยงานบุญอีกรอบด้วย การช่วยกันขนกระเบื้องแกรนิตโต ซึ่งมีน้ำหนักมาก มัดเป็นแผ่นหนักหลายกิโลกรัมก็มี เป็นแผ่นเปราะบางก็มี รวมน้ำหนักแล้ว 32 ตัน 3 รถบรรทุก ดิฉันสั่งซื้อมาจากกรุงเทพฯ ด้วยเงินบริจาคนำมาลงที่สำนักปฏิบัติธรรมประมาณ 3 ทุ่ม ดิฉันมีความรู้สึกประทับใจ และปิติสุขมากที่ไม่มีใครถอยทุกคนสู้สู้จริงๆๆๆๆๆ มีหน้าตายิ้มแย้มแม้ว่ายังไม่ได้อาบน้ำ อ่อนล้ามาทั้งวันก็ยังจะมาช่วยยกกระเบื้องที่หนักมากๆ เนื่องจากคุณแม่ไม่สบายดิฉัน จึงต้องพาท่านกลับไปพักผ่อนแล้วย้อนกลับมาอีกครั้งก็ได้พบว่าทุกท่านได้ช่วยกันอย่างดียิ่ง ดิฉันขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ เงินบริจาคของทุกท่านมีความจำเป็นมากสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนัก การหาซื้ออาหารและน้ำดื่มแก้กระหายนั้นลำบากมาก ดังนั้น เรื่องนี้ ดิฉันรู้สึกดีใจและประทับใจในน้ำใจของทุกท่านอย่างไม่รู้ลืมค่ะ ดังนั้น เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.58 ดิฉันและลูกศิษย์ไปหาซื้อน้ำดื่มหลากหลายชนิด ถังใหญ่ 2 ถัง สำหรับอาหารสดที่จะต้องเดินทางไปในวันเสาร์ ก็ต้องเตรียมการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช น้ำปลา เครื่องปรุงต่าง ๆ กลับมาถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว ประมาณเที่ยงคืนก็ไปตลาดศาลาน้ำร้อนเพราะที่นั่นมีราคาถูกต้องไปตลาดกลางคืน ดิฉันกับแม่ตี้ ซึ่งไม่สบายมากแต่แม่ก็ฝืนสังขารไปตลาดศาลาน้ำร้อนเพราะ แม่มีความรู้เรื่องการจับจ่ายอาหารว่าจะต้องหาซื้ออะไรบ้าง จำเป็นต้องให้คุณแม่ไปด้วย ดิฉันไปพร้อมลูกศิษย์อีก 2 คน รวมไปกัน 4 คน ขนของเป็น 100 กิโลกรัม รอบแรกขนข้าวของกลับมา ไปกันอีกรอบที่สอง กว่าจะเรียบร้อยประมาณ ตี 4 ขนของขึ้นรถปิ๊กอัพเพื่อเดินทางไปพร้อมแม่ครัวที่จ้างไปสำนักฯ ค่ะ ซึ่งวันนั้นยังไม่ได้หลับนอนเลยค่ะ แต่สุขใจค่ะ ดิฉันก็ได้นำเงินนั้นไปหาซื้ออาหาร จ้างแม่ครัวมาทำอาหาร เป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อการทำงานหนัก จากการที่มีผู้บริจาคทรัพย์มาช่วยเรื่องค่าอาหาร ทั้ง ๆ ที่ดิฉันได้ประกาศไว้แล้วว่า อาหารต้องหารับประทานกันเอง แต่ก็มีผู้ใจบุญหยิบยื่นเงินมาช่วยเลี้ยง ผู้ลงแรงงานในครั้งนี้ ก็ทำให้ดิฉันอยู่นิ่งเฉยเสียไม่ได้ ค่ะ เช้าวันเสาร์ เมื่อเสบียงอาหารขนขึ้นรถเรียบร้อยแล้วก็ต้องออกเดินทางไปกันแล้วค่ะ คาดว่าจะได้หลับนอนในรถ แต่ระหว่างทางก็เกิดปัญหาร้านกระเบื้อง กว่าจะเรียบร้อย ก็ไม่ได้นอนติดต่อกันตลอดเส้นทางค่ะ เพราะสาเหตุของคนที่มีความโลภสิ่งสิงสู่ในจิตใจ ยากต่อการเยียวยาแม้ว่าจะบอกว่าสิ่งของนั้นเป็นเรื่องของบุญกุศลทั้งนั้นเขาก็ไม่รับฟังรับรู้ เวลาประมาณ 11 น. เกือบเที่ยงดิฉันเดินทางมาถึงสำนักฯ ก็ได้เห็นภาพความประทับใจที่ ดิฉันจะจดจำได้ไม่ลืมว่าทุกคนมาทำงานบุญด้วยใจจริง ๆ ค่ะ แต่ดิฉันก็รู้ในญาณวิถีว่า ยังมีผู้ตำหนิติเตียนการเดินทางมาสำนักฯ ของดิฉันที่มาถึงช้ากว่าผู้อื่น ดิฉันมาช้าก็เพราะต้องพยายามคลี่คลายปัญหาระหว่างทาง ประกอบกับการไปซื้ออาหารตอนเช้า เมื่อกลับมาก็ขนขึ้นรถกระบะ แล้วต้องขนสัมภาระที่ผู้บริจาคนำมาเพิ่มเติมขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งต้องขนกันเป็นชั่วโมงหนักมาค่ะ กว่าจะออกจากบ้านจึงใช้เวลามากค่ะ ทำให้ไปถึงสำนักฯ เกือบเที่ยงค่ะ การทำบุญด้วยการลงมือทำด้วยตนเองให้สำเร็จนั้น ดิฉันเชื่อเหลือเกินว่า หาทำได้ยากมาก เราจะไปหาทำได้ที่ไหนและที่ไหนเขาจะให้ไปทำกันเพราะว่า ส่วนมากบริจาคเงินปัจจัยของ ก็ไม่เห็นแต่ที่สำนักฯ นี้เราทำด้วยความโปร่งใสและท่านก็สามารถมาลงแรงกันเองได้ด้วยใน ส่วนที่ทำกันได้นะค่ะ สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ ที่ดิฉันได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า แผ่นดินนี้ เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง และในอนาคตภายภาคหน้าจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเป็นสถานที่แห่งบุญกุศล ผู้ที่มาใช้สถานที่ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติธรรมค่ะ ดิฉันได้เห็นภาพอานิสงส์บุญที่ทุกท่านได้มาช่วยกันเติมสิ่งที่ขาดให้เต็ม เช่น การขุดดินนำมาถมที่เป็นหลุมเป็นบ่อในส่วนที่ขาดให้เต็ม ปรับพื้นให้เรียบเสมอ ดิฉันได้เห็นว่าในอนาคตภายภาคหน้าไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใด หรือบางท่านก็จะได้เห็นกันในภพชาตินี้ ว่า ท่านจะเป็นผู้ที่มีทรัพย์บริบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่มีหนี้มีสิน เป็นผู้ที่ไปที่แห่งใดก็จะมีที่อยู่พักพิงไม่เดือดร้อน ร่มเย็นเป็นสุข เพราะท่านมาทำด้วยใจ ด้วยหยาดเหงื่อแต่ละหยดที่ผุดออกมาจากผิวกายและด้วยกำลังแรงกายของท่านเอง แม้แสงแดดจะร้อนแผดเผาท่านก็ยินดีกระทำ ซึ่งเท่ากับว่าท่านได้เผากิเลสแห่งกรรม ของท่านออกไปด้วยบุญกุศลครั้งนี้ ค่ะดิฉันเห็นเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ค่ะ ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยใจจริงอีกครั้ง โดยไม่คิดว่าจะมีผู้คนมากมาย มาร่วมบุญกัน โดยที่แต่ละท่านมิได้บ่นว่าเหน็ดเหนื่อย ร้อนก็สู้ไม่ถอย จนกระทั่งถึงมืดดึกดื่นก็สู้ทนอยู่ด้วยกัน ประทับใจมากค่ะที่ทุกคนร่วมพลังกันเป็นหนึ่งอย่างนี้ ทุกท่านต้องภูมิใจว่าเราก็มีประโยชน์ต่อผู้คนในอนาคตกาล เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ดิฉันประทับใจกับ กิจกรรม “ค่ายธรณีแห่งธรรม” ครั้งที่ 1 (วันเสาร์ที่ 4 และวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2558) ค่ะ และหวังว่าในโอกาสต่อไป เราคงจะมาร่วมบุญกันอีกค่ะ
อาจารย์เจน ญาณทิพย์
|