สวัสดีปีใหม่ 2558 สวดมนต์ข้ามปี ร่วมอนุโมทนาบุญและบรรยายความประทับใจค่ะ - ห้อง ทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 22177|ตอบ: 99
พิมพ์หน้านี้ ก่อนหน้า ถัดไป

สวัสดีปีใหม่ 2558 สวดมนต์ข้ามปี ร่วมอนุโมทนาบุญและบรรยายความประทับใจค่ะ

[คัดลอกลิงก์]

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775


สวัสดีค่ะ ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ปี 2558 นี้ ดิฉันขอให้บุญกุศลที่ทุกท่านได้สะสมบุญมา และบุญทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ ตั้งแต่ ครั้งที่ 1 - 18 รวมทั้งบุญสวดมนต์ข้ามปี
วันที่ 31 ธ.ค.57 - 1 ม.ค.58  ทุกบุญที่ผ่านมานี้ได้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ



ดิฉันมีความปิติสุขใจกับบุญทุกบุญที่ได้ร่วมทำกันมาค่ะ  
ทุกครั้งที่ได้พบเห็นทุกคนมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดูได้จากสีหน้าแห่งความสุข
สีหน้าของผู้มีบุญวาสนา  ใบหน้าที่ไม่หมองคล้ำ และใบหน้าของผู้ที่ปิติสุข
เพราะว่าคุณได้ทำบุญอย่างถูกวิธีจนทำให้พระพุทธศาสนาได้ขับเคลื่อนไปได้
เป็นอานิสงส์บุญมากค่ะ



ด้วยหน้าที่ของดิฉัน ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่แนะนำและสั่งสอนให้ผู้คนเกรงกลัวต่อบาป

เชื่อในบุญและไม่ทำความชั่ว ด้วยการไปออกรายการต่าง ๆ เช่น รายการ คนอวดผี
เพื่อให้คนได้รู้ว่าโลกวิญญาณมีจริง โลกหลังความตายไม่ได้บ่งบอกได้เลยว่า
หลุดพ้นจากความทุกข์แล้ว  รายการ วีคไนท์โชว์ "Week Night Show"  
หรือการไปบรรยายธรรม ณ สถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้คนได้เห็นกรรมของคนอื่นแล้ว
หันกลับมาย้อนดูตนเองว่าเราจะยังใช้ชีวิตของเราไปในหนทางใด ให้ได้รู้ว่าบาปกรรมมีจริง
รวมทั้ง การจัดทริปทัวร์บุญทุกทริปที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มเอิบใจในแต่ละบุญ
หรือในแต่ละรูปแบบของบุญค่ะ



ดิฉันขอบคุณในความร่วมมือ ในความมีน้ำใจ และความเอื้ออาทร รู้จักแบ่งปัน
มีความรักสามัคคี  รู้จักอภัยซึ่งกันและกันค่ะ  ซึ่งดิฉันสังเกต ผู้ร่วมบุญที่ติดตาม
ร่วมบุญกันมาตั้งแต่ครั้งแรก นั้น มีการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพราะมีความเป็นระเบียบ
เรียบร้อยมากขึ้น ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการแข่งขันกันจนทำให้พระสงฆ์ตามวัดต่าง
ๆ ท่านพูดว่า คณะบุญของ อ.เจน ไม่เหมือนกับคณะบุญอื่น ๆ
ส่วนมากมากันก็คุยแข่งกับพระสงฆ์ โดยไม่รู้ว่าการทำบุญเข้าวัดต้องปฏิบัติตน
กันอย่างไรบ้าง ซึ่งหลักง่าย ๆ คือต้องมีความสำรวม สงบ และมีสติ
พระท่านไม่ค่อยได้พบเห็นความสามัคคีกันทำบุญอย่างนี้จึงฝากชื่นชมมาค่ะ
บางครั้งดิฉันเคยนิมนต์พระให้เทศน์พระท่านรีบตอบปฏิเสธทันทีว่า
ไม่หรอกโยมคนเดี๋ยวนี้คนเข้าวัดเขาไม่ฟังพระหรอกโยม แต่เขาจะคุยแข่งกับพระ
อาตมาไม่เทศน์ แบบนี้ก็มีนะค่ะ แต่ก็มีหลายครั้งด้วยกันที่พระท่านได้เห็น
คณะบุญของเราท่านก็จะชื่นชมค่ะ ซึ่งดิฉันก็ดีใจค่ะที่ทุกคนได้ให้เกียรติงานบุญ
ของดิฉันเป็นอย่างดีค่ะ



ขอบคุณที่ทุกคนมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เป็นสายบุญเดียวกัน มารู้จักกัน
ชักชวนเพื่อให้มาทำบุญ หรือบอกต่อบุญกันมา จนกลายเป็นบุญใหญ่
บุญทุกบุญที่ดิฉันจัดขึ้นมา ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบันดิฉันได้ให้
ความสำคัญเป็นพิเศษทุกบุญค่ะ โดยจะมุ่งเน้นการทำบุญหลักใหญ่
กิจกรรมการแสดงต่าง ๆ เป็นอันดับรอง เป้าหมายหลักเพื่อนำพาผู้คนให้
ได้พบกับหนทางพ้นทุกข์ และหลุดพ้นจากความทุกข์
ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัสสอนไว้ในสมัยพุทธกาลค่ะ



ดิฉันจึงมีความมุ่งมั่นที่จะนำพาผู้คนให้หมั่นปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและผู้อื่นค่ะ การทำบุญสร้างบารมี
ไม่ว่า จะเป็นทาน ศีล และเจริญภาวนา จะเป็นหนทางพ้นทุกข์ เป็นหนทางย่นย่อ
สามารถทำให้การเกิดดับลดน้อยถอยลง และปิดทางอบายค่ะ

ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกคนที่ได้ทำบุญสร้างกุศลมาตลอดทั้งปีจนถึงเริ่มศํกราชใหม่ปี 2558 นี้ค่ะ







เจน ญาณทิพย์

โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

77

กระทู้

517

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
26516
ทริปทัวร์บุญสวดมนต์ข้ามปี วันที่ 31 ธ.ค.2557 - 1 ม.ค.2558



         ก่อนอื่นดิฉันก็ต้องขอชี้แจงแถลงไขค่ะ สำหรับทริปทัวร์บุญครั้งนี้
อ.เจนตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2558 ด้วยบุญใหญ่ ๆ ทั้งนั้น
ซึ่งผู้ที่มาร่วมบุญก็คาดคิดไม่ถึงว่าเป็นบุญหลากหลายจริงๆ ค่ะ บางท่านมาพูดกับดิฉันว่า
นึกว่า ไปแค่วัดสองวัด แต่อาจารย์จัดเต็มสะขนาดนี้ถ้าไม่ได้มาคงเสียดายแย่เลย
แหมดิฉันได้รับฟังมาก็อดที่จะปลื้มอกปลื้มใจแทนอาจารย์เสียไม่ได้ค่ะ
แต่ก็มีบางท่านที่ต่างพากันบ่นกัน อ๊อดๆ แอ๊ดๆ อยากจะไปด้วยแต่รับเพียง
จำนวนจำกัดและใครโอนเงินก่อนก็ได้ไปอย่างนี้ก็แย่กันละสิเขาอดไปกัน
อย่าน้อยอกน้อยใจกันนะค่ะ เพราะว่า มีปัจจัยหลายประการค่ะ

ทริปบุญนี้ อ.เจน ได้จ้างรถตู้ 10 คันสำหรับผู้ร่วมบุญ 100 คน และนำรถปาเจโร่
ของ อ.เจน เองไปบรรทุกน้ำอัดลม(โค๊ก) จำนวน 2 แพ็คใหญ่ น้ำดื่มอีกจำนวนมาก
สาเหตุหลักที่ต้องใช้รถของ อ.เจน ขับตามไป โดยคุณมิตรเป็นคนขับ ก็เพราะว่า
รถตู้ไม่มีพื้นที่ว่างพอที่จะใส่ฉัตรขนาดใหญ่ได้เลยแต่สามารถพับเบาะหลัง
รถด้านหลังนำฉัตรเข้าไปใส่ได้ค่ะ  ซึ่ง อ.เจน ค่อนข้างต้องใช้ความพยายาม
เป็นอย่างมากที่ต้องวางมีทั้ง แผน A แผน B หรืออาจจะแผน Cถ้ามีค่ะ
ทำไมรับคณะทำบุญเพียงจำนวนจำกัด ก็ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ ด้วยกันค่ะ
สำหรับท่านที่พลาดไม่ต้องเสียใจ บุญไม่มีวันหมด
ยังมีงานบุญที่สำคัญต่อไปที่จะต้องมาร่วมกัน
อย่างแน่นอนค่ะ กับทริปทัวร์บุญ อ.เจน ญาณทิพย์ แล้วติดตามกันน่ะค่ะ



ประการที่ 1  เรื่องบุญฉุกเฉิน ในตอนแรก อ.เจนไม่ได้คิดว่าจะจัดงานบุญปีใหม่
เลยแม้แต่น้อย แต่ อ.เจน เห็นว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ประกอบกับเคยจัดสวดมนต์ข้ามปี
เป็นประจำทุกปีจึงมีความประสงค์ที่จะให้มีการจัดสวดมนต์ข้ามปีโดยการนำพาผู้คน
ไปทำความดีเพื่อทบทวนว่าตลอดปีนี้เราได้ทำความดีใดมาบ้างเพราะปกติ อ.เจน
ก็จัดงานบุญเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ดังนั้น อ.เจนจึงจัดทำโปรกแกรมนำพาผู้คน
ทำบุญนำฤกษ์ปีใหม่ที่สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ
ตามที่ดิฉันกล่าวว่า เป็นบุญฉุกเฉินก็เพราะเหตุว่า ก่อนที่จะถึงสิ้นเดือนปีใหม่นี้เพียง2
อาทิตย์กว่า ๆ พวกเราจะจัดการงานบุญนี้ทันหรือค่ะ เราคงต้องทำงานไม่ทัน แต่อ.เจน
ยอมเหนื่อยจัดการงานทุกอย่าง และขอให้คุณสุดารัตน์ แจ้งสมาชิกเป็นการด่วนเพราะ
รับจำนวนจำกัด งานนี้ดิฉันก็สงสารคุณสุดารัตน์ พร้อม ๆ กับการขออนุโมทนาบุญไปกับ
อ.เจน คุณรุ้ง และคุณสุดารัตน์ในครั้งนี้ด้วยที่เตรียมงานด้วนขนาดนี้ได้ทันเวลาค่ะ



ประการที่ 2  เรื่องรถตู้ การจัดหารถตู้ค่อนข้างหายากลำบากต้องไปงอนง้อ
เขาก็ได้มา10 คัน กว่าจะได้ก็ลุ้นกันน่าดูเหมือนกัน เพราะใครๆ เขาก็จ้างไปเที่ยวใน
ช่วงเทศกาลปีใหม่หยุดยาวถึง 5 วัน รายได้จะต้องมากกว่าไปกับอ.เจน เป็นไหน ๆ
เพราะ อ.เจน ไปแค่ 2 วันเองรายได้ย่อมน้อยกว่าก็ไม่มีรถตู้ให้ไงค่ะ
ต้องไปขอร้องเจ้าของรถตู้ทางนั้นเขาก็ไปขออาสาสมัครจากคนขับรถตู้ว่า
ใครจะยอมเสียสละตนมางานบุญอ.เจน บ้าง ซึ่งก็ได้มาค่ะ ตอนแรก ๆ
ก็ลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะ และที่สำคัญที่สุดรถตู้ดังกล่าวจะต้องจ่ายชำระเงินก่อนล่วงหน้าค่ะ
จึงจำเป็นที่ต้องให้ท่านที่ประสงค์จะไปโอนเงินมาก่อนเพื่อนำไปจ่ายให้กับเจ้าของรถตู้



ประการที่ 3 เรื่องบ้านพักรับรอง (รีสอร์ท) บ้านพักมีห้องพักรับรองมีน้อย
แห่งมากและสามารถรองรับคนได้เพียง100 คน เท่านั้น นอกจากนี้ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าด้วย
เพราะเกรงว่าจะเสียโอกาสทางการค้าถ้าจองแล้วไม่มาตามคำพูดทางเจ้าของรีสอร์ท
เขาก็ไม่ไว้ใจค่ะ เพราะเขาก็ไม่รู้ว่า อ.เจน เป็นใครวันที่ไปจองเขาเกือบ 3 ทุ่มแล้ว
ไปกันมืด ๆ อย่างนั้นแหละค่ะ เห็นมั้ยค่ะทุกแห่งต้องใช้เงินก่อนทั้งนั้นค่ะ



ประการที่ 4 เรื่องสถานที่สวดมนต์ข้ามปี อ.เจน ตั้งใจว่า เรือนรับรองสำเร็จ
แล้วควรจะนำผู้ร่วมบุญไปสวดมนต์ข้ามปีที่สถานที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณจะดีกว่าเพื่อ
เป็นการเบิกฤกษ์ปีใหม่ให้กับสำนักปฏิบัติธรรมฯที่นี้เรือนรับรองไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลพอ
ที่จะรองรับผู้คนเป็นจำนวนมากได้ค่ะนี่ขนาดรับ 100 คน ก็ล้นหลามออกมานั่งกันนอก
ชานเรือนประมาณ20 กว่าคนแล้วค่ะแต่ถ้าจะต้องล้นหลามออกมานอกเรือนชานนั่งตากน้ำค้าง
ที่หนาวเย็นคงจะเจ็บป่วยกันอีกคงจะไม่ดีแน่ค่ะ
เนื่องจากสถานที่เรือนรับรองมีเพื่อรับรองผู้มาปฏิบัติกลุ่มย่อยเท่านั้น เพราะว่า
อ.เจนยังไม่ได้สร้างศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับคนได้ถึง 1,000 คนซึ่งยังต้องรออีกนานค่ะ



ประการที่ 5 เรื่องการทำบุญแบบไม่เจาะจงวัด การทำบุญในครั้งนี้อ.เจน
ไม่ได้กำหนดเจาะจงวัดที่จะไปทำบุญจึงไม่สะดวกกับการนำคณะฯเดินทางไปกันจำนวนมากค่ะ
และมีกำหนดการสวดมนต์ข้ามปีที่สำนักปฏิบัติธรรมฯ  รวมทั้งการทำบุญหล่อเทียนคู่
เพื่อนำถวายวัด และการถวายสังฆทานที่ อ.เจนมิได้มีข้อกำหนดที่ตายตัว ไปกันแบบสบาย ๆ
เรียกว่าเป็นการทำบุญแบบโกยบุญกันอย่างเดียวให้มากที่สุดโดยที่มีเทวดานำพาตามที่
อ.เจน ได้ตั้งจิตอธิษฐานค่ะ
พูดกันตามตรงนะค่ะ คุณรุ้ง ดิฉัน และทีมงาน ก็รู้สึกวังเวงนะค่ะเพราะทัวร์บุญ อ.เจน
มักจะมีผู้คนร่วมบุญกันมากกว่า 100 คนแต่ครั้งนี้มากันน้อยก็คิดถึงคนที่ไม่มานะค่ะ
ดิฉันก็ได้แต่ชะเง้อชะแง้แลมองหานะค่ะว่าคนนั้น คนนี้ เขาไม่ได้มาเหรอก็คิดถึงกันนะค่ะ
อ.เจน พูดกับดิฉันว่า พี่หนูดีใจน่ะค่ะที่ได้เป็นผู้นำพาผู้คนไปทำบุญกัน แม้ว่า ครั้งนี้
มีจำนวนเพียง 100 คน แต่เขาได้กลับไปทำความดีและนำไปปฏิบัติต่ออย่างถูกต้อง
ถูกวิธีมีดวงตาเห็นธรรมนำไปปฏิบัติต่อยอดที่ไหนก็ได้ค่ะ ได้เพียง 5 คน ที่มีดวงตา
เห็นธรรมก็ยังดีค่ะ เพราะ หนูเป็นคนเห็นกรรมจึงไม่ต้องการให้คนที่มีชีวิตอยู่ใช้ชีวิต
อย่างประมาทขาดบุญกุศลค่ะและนี่เป็นคำพูดที่ดิฉันได้รับฟังมาโดยตลอดก็อยากจะ
ถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านได้รับฟังกันบ้างเพื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2558 ท่านผู้อ่านจะ
ได้นำไปตรึกตรองและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเก่าๆ ทำสิ่งที่ดีงามคือความดี
หมั่นสร้างบุญกุศลเพราะบุญเท่านั้นที่ติดตัวเราไปได้มิใช่ทรัพย์สินเงินทองค่ะ
ดิฉันเชื่อเรื่องของการสร้างบุญและบารมีของผู้นำพาไปทำบุญค่ะเพราะดิฉันติดตาม
อ.เจน มานานจึงรู้ว่า ถ้าผู้นำไม่มีบารมีพอก็ไม่สามารถจะนำพาผู้คนจำนวนมากไปทำบุญ
ได้ค่ะเพราะมีมารที่รู้จริตคนและเจ้ากรรมนายเวรของคนมาคอยขัดขวางไม่ให้ทำบุญนั้น
สำเร็จค่ะแต่ อ.เจน ทำด้วยใจที่ต้องการให้ผู้ร่วมบุญได้บุญอย่างเต็มเปี่ยม
ไม่ได้นำทัวร์เพื่อธุรกิจหารายได้อะไรอย่างนั้นค่ะทุกท่านที่มาทริปทัวร์บุญของ อ.เจน
ก็คงจะสัมผัสได้ด้วยตนเองนะค่ะ และในฐานะลูกศิษย์ขอบอกได้เลยอ.เจนเป็นผู้นำพา
ทุกท่านให้มาทำบุญอย่างถูกต้องและถูกทางตามที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านทรงสั่งสอนไว้ในสมัยพระพุทธกาลซึ่ง อ.เจน ก็ได้อุทิศตนยอมเสียสละเวลาแห่ง
ความสุขสบายในทางโลกด้วยการนำพาผู้คนไปสร้างบุญสร้างกุศล



วันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค.57 ก่อนเดินทาง 2 วัน อ.เจน คุณรุ้ง น้องดาคุณสุดารัตน์
คุณมิตร คุณภุชงค์ น้องเก่ง น้องดิวเดินทางไปสำนักปฏิบัติธรรมฯ ตั้งแต่เช้าค่ะ
ไปถึงก็แบ่งทีมกันทำงานโดยมีพวกผู้หญิง ยกเว้น อ.เจน ตกแต่งไฟประดับ ส่วน  
คุณมิตร คุณภุชงค์ ไปกับ อ.เจน ไปสำรวจเส้นทางทำบุญกันค่ะ จำได้ว่าวันนั้นเก็บ
กวาดจัดข้าวของกันจนลืมกินข้าวกินปลากันเชียวค่ะกินกันมื้อเดียวมื้อเย็น
เพราะที่นั่นไม่มีอาหารอะไรขายเลย จึงแต่ว่า เมื่อไหร่อ.เจน จะกลับมา
กว่าจะกลับมาก็ประมาณ 6 โมงเย็นแน่ะค่ะ  วันนั้นกลับถึงบ้านตีหนึ่งกว่าค่ะ อ.เจน
และ คุณรุ้ง เพื่อกลับมาก็ไม่ได้พักผ่อนหรอกค่ะต้องไปหาซื้อฉัตรอีกค่ะเนื่องจาก
ได้ไปพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นพระปรางค์ทรุดโทรมทางกรมศิลปากรจะมาบูรณะ
ให้กับทางวัดเทวดาที่นำทางบอกให้ อ.เจน ถวายฉัตรจะเป็นศิริมงคลแก่ผู้ถวาย
เป็นอย่างมาก งานนี้อ.เจน และคุณรุ้งได้ลงขันกัน 2 คนเพื่อซื้อฉัตรไปถวายโดย
ไม่ได้เรี่ยไรคนทางเว็ปไซด์เพราะบุญเร่งด่วนมากจะรวบรวมเงินกันไม่ทันยังต้องมี
งานอีกหลายอย่างค่ะที่จะต้องเตรียมงานอีกในวันจันทร์และวันอังคาร
ก่อนที่จะเดินทางในวันพุธ ค่ะ



วันพุธที่31 ธ.ค.2557
คณะทัวร์บุญเดินทางกันตั้งแต่เช้าขบวนรถตู้ 10 คัน การเดินทางค่อนข้างลำบากสักหน่อย
เพราะว่ารถติดตลอดเส้นทางปั๊มน้ำมันที่กำหนดไว้ก็เข้าไม่ได้เพราะว่า รถยนต์ผู้เดินทาง
รายอื่นจอดเข้าห้องน้ำด้วยกันทั้งนั้นคณะเราจึงต้องถอยทัพออกมา อ.เจนด้วยการเล็งหา
เป้าหมายใหม่แต่ละแห่งก็แน่นไปด้วยผู้คนอย่างกับมีมหกรรมชุมนุมกันเชียวค่ะ
การจัดงานบุญแต่ละครั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ด้วย อ.เจน ได้คัดสรรงานบุญเป็นกรณีพิเศษ
คำถามเล็งเห็นว่า บุญใดที่เขาต้องการ บุญใดล่ะความสุขที่ทุกท่านประทับใจและ
ได้บุญกันถ้วนหน้านั้นเบื้องหลัง อ.เจน ทุ่มเทสุดกำลัง และมันไม่ได้ง่ายดายอย่าง
ที่เห็นนะค่ะ แต่ อ.เจนก็สามารถจัดการงานออกมาให้สำเร็จและสวยงามได้ ค่ะ
ดิฉันได้รับมอบหมายให้ดูแลรถตู้หมายเลข 6 ดิฉันก็ได้แต่นั่งโม้ไปตลอดเส้นทาง
จนมีคำถามว่า เราจะไปไหนกันค่ะ อ้าวจริงสิ นี่ดิฉันยังไม่ได้บอกใครหรือค่ะว่า
จะไปที่ใดกัน ค่ะเราจะไปจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณฯ
เท่านั้นแหละทุกคนในรถตู้พากัน ร้องเย้ ๆ ดีใจกันใหญ่ค่ะ บางท่านก็พูดว่า
อุ้ย เดาถูกด้วยคณะทัวร์บุญ อ.เจน เราได้ไปทำบุญอะไรกันบ้างและไปไหนกันบ้างค่ะ



1.  "วัดพระแก้ว"
ในวันอาทิตย์ที่28 ธ.ค.57 อ.เจน เดินทางไปหาวัดที่จะนำพาทุกท่านไปทำบุญตามที่เล่ามาแล้ว
ในตอนแรกนั้นแหละค่ะโดยไปตามเส้นทางที่ท่านเทวดานำพาไปนั้น อ.เจน เล่าให้ฟังว่า
ได้เห็นพระปรางค์กลีบมะเฟือง แล้วก็รู้สึกดีใจที่จะได้นำพาคนมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบ
ต่อไปโดยท่านเจ้าอาวาสได้บอกกับ อ.เจน ว่า ทางกรมศิลปากร สันนิษฐานว่ามีการขุดพบ
พระพุทธรูปที่มีอายุยาวนานกว่าเจ็ดร้อยปี มีเครื่องปั้นดินเผาพระพุทธรูปทองคำ เนี้อสัมฤทธิ์
เนี้อเงิน แผ่นทองคำ และพระผงดินเผา แบบสุโขทัย






ในวันนี้คณะทัวร์บุญอ.เจน มาถึงวัดพระแก้ว ก็เกือบบ่ายโมงแล้วเนื่องจากเทศกาลปีใหม่
ผู้คนเดินทางกันมากทำให้รถติดตามปั๊มน้ำมันแทบไม่มีพื้นที่เดินมีแต่รถยนต์ที่มาแวะ
ซื้ออาหารการกินและแวะเข้าห้องน้ำค่ะจึงทำให้ไม่เป็นตามเวลาที่กำหนดและทุกคนคงหิวข้าวกัน
ด้วยแต่ทุกคนที่มาตั้งใจทำบุญมากกว่าตั้งใจจะกินจะอยู่กันอนุโมทนาบุญค่ะ
มื่อมาถึงวัดอ.เจน ก็ไม่รอช้าเหมือนกัน โดยเริ่มถวายสังฆทาน และรับบริจาค
ได้ปัจจัยเงินมาเท่าไหร่ก็บริจาคบำรุงวัดทั้งหมดค่ะ
แห่ฉัตร(ฉัตรใหญ่) และผ้าห่มพระปรางค์เมื่อเสร็จพิธีการถวายสังฆทานแล้ว
อ.เจน ก็ได้ขบวน แห่ฉัตร (ฉัตรใหญ่)และผ้าห่มพระปรางค์ อ.เจน นำสวดอิติปิโสฯ เวียนรอบพระปรางค์ 3 รอบ



สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้และสัมผัสได้ด้วยตนเอง ขณะที่ อ.เจน อัญเชิญเทวดาอยู่นั้น จู่ ๆ
ก็เกิดมีลมเย็น ๆพัดมาอย่างแรงและวนอวลมาโอบรอบตัวทุก ๆ คนที่อยู่ในบริเวณนั้น ประมาณ 1 นาที
สายลมนั้นก็ค่อย ๆ อ่อนแรงลง มีหลายคนมาบอกกับดิฉันว่ารู้สึกขนลุกซู่
ตอนที่มีลมพัดมาโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนปิติใจกันมากเพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
และธรรมดาเสียแล้ว เพราะได้สัมผัสเองเห็นเอง ซึ่งดิฉันก็ไม่รอช้าจึงถาม อ.เจน ค่ะว่า
ช่วงที่ลมพัดแรงนั้น อ.เจน บอกหน่อยได้มั้ยค่ะเพราะดิฉันรู้ว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาจาก
การติดตาม อ.เจน จึงรู้ว่า ต้องมีอะไรแน่ ๆ ค่ะ อ.เจน จึงตอบว่า อ๋อ
ก็มีเหล่าเทวดามากมายที่ปกปักรักษาพระปรางค์แห่งนี้ท่านต้องการบุญกุศลจากเรา
ท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญค่ะ ดีนะไม่เสียแรงที่ดิฉันก็ได้จดจำมาว่าให้อัญเชิญเทวดา
ของตนเองมาอนุโมทนาบุญกับเราด้วยค่ะดีใจจังเลยค่ะ  ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงเหล่าสัมภเวสี
ในบริเวณนั้นด้วยพวกเขาก็ดีใจเพราะไม่มีใครมาสร้างบุญกุศลณ สถานที่แห่งนี้เลย
นอกจากคณะบุญของ อ.เจน ค่ะ



การกำหนดจิตเป็นเรื่องสำคัญ  อ.เจน พูดกับดิฉันว่า ในการทำบุญใดก็ตามเรา
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแรกที่อยู่อันดับหนึ่งแม้ว่าเราจะอยู่รั้งท้ายเราก็สามารถน้อมจิตมา
ที่เบื้องหน้าได้ค่ะเพราะการทำบุญด้วยเจตนาที่จะนำของสิ่งนั้นถวายย่อมได้บุญนั้นอย่างเต็มเปี่ยมค่ะ  



อุบัติเหตุจากฉัตร ในการปีนป่ายขึ้นไปบนยอดพระปรางค์นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ
จะทำก็ได้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ซึ่ง อ.เจน ได้ดูด้วยญาณวิถีแล้วว่าผู้ใดจะได้ปีนขึ้นไป
บนยอดพระปรางค์ ก็ตามที่ อ.เจน ประกาศออกมาว่า“ขอให้ทีมทำงานที่ดิฉันกำหนดไว้ขึ้นไปค่ะ”
แต่เอาเข้าจริงก็มีบางท่านที่มีเจตนาดีอยากจะช่วยเหลือปีนขึ้นไป
จึงทำให้ อ.เจนต้องบริกรรมคาถาให้แก่ผู้ที่ไม่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเรื่องนี้ อ.เจน
ก็เกรงใจค่ะเพราะว่าพระปรางค์แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ถ้าไม่มีบารมีก็ปีนขึ้นไม่ได้แต่ผู้มีบารมีขอให้ได้ค่ะ
ครั้งแรกไม่ได้กำหนดตัวน้องเก่งทีมงานขึ้นไปเพราะว่าช่วงนี้น้องเก่งอยู่ระหว่างมีเคราะห์กรรม
อ.เจน จึงไม่ต้องการให้น้องเก่งปีนป่ายขึ้นไปบนยอดพระปรางค์ศักดิ์สิทธิ์นี้
แต่เมื่อถึงเวลาจริงจำเป็นต้องขึ้นไปช่วยกันเพราะฉัตรนั้นใหญ่และหนัก น้องเก่งเห็นว่า
คนที่ขึ้นไปไม่เพียงพอจึงปีนขึ้นไปช่วย ซึ่ง อ.เจน ก็เล็งเห็นว่าน้องมีเคราะห์
แต่เป็นวาระของน้องเขาแล้วจึงไม่ห้ามปรามแต่อย่างใด โดยเห็นว่า
น้องเก่งควรจะต้องรับผลกรรมที่นี่เสียเลยในคราวนี้ดีกว่าจะรับเคราะห์หนักด้วยอุบัติเหตุใหญ่
เพราะด้วยอานิสงส์บุญนี้จะช่วยเหลือตัวของน้องเก่งให้รับเคราะห์กรรมเล็กดีกว่า
ไปรับเคราะห์กรรมหนักฝาดเคราะห์ไปจะดีกว่าโดยไม่ได้บอกให้ใครรู้ค่ะ
แต่เมื่อน้องเก่งลงมาจากยอดพระปรางค์แล้ว จึงพบว่า ที่มือของน้องเก่งมี
เลือดไหลอาบหลังมือของน้องเก่งค่ะคุณสุดารัตน์ หน่วยปฐมพยาบาล
จึงวิ่งหากระเป๋ายามาช่วยปฐมพยาบาลเป็นการใหญ่ค่ะ






กรรมในอดีตของ อ.เจน จำได้ว่าครั้งหนึ่ง อ.เจน ถวายพระพุทธรูปปรางลีลาองค์ใหญ่
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ในวันนั้นไม่มีคนช่วยกันยกองค์พระพุทธรูปดังกล่าวเลยค่ะอ.เจน
จึงวิ่งไปช่วยคนงานเขายก เพราะว่า พระท่านองค์ใหญ่มากระหว่างนั้นก็มีเสียงครูบาอาจารย์
พูดว่า เดี๋ยวเธอจะได้รับผลกรรมที่เคยเป็นนายทหารเข่นฆ่าผู้คนมาในอดีตชาติตรงที่แห่งนี้
   เธอจะยอมรับผลกรรมในตอนนี้เลยหรือไม่ มิเช่นนั้นจะต้องประสบเหตุใหญ่ซึ่งในตอนนั้น
อ.เจน รู้ในญาณวิถีว่า ที่วัดแห่งนี้ ในอดีตเป็นเมืองศิวิไลที่วัดนี้สวยงามมากประดับด้วยเพชรนิลจินดา
ได้ถูกทหารพม่าเผาทำลาย และ อ.เจนได้มาพักค่ายตั้งสมรภูมิสู้รบที่แห่งนี้มาก่อน
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว อ.เจน จึงขอยอมรับเคราะห์กรรมทันทีเมื่อเห็นว่าหลังมือขวาจะต้องครูด
ไปกับพื้นปูนซีเมนต์ที่หยาบๆอยู่นั้นต้องเจ็บมากก็ไม่ยอมปล่อยองค์พระฯ
ดิฉันอยู่ในที่เกิดเหตุเมื่อเห็นว่าหลังนิ้วมือ อ.เจน จะครูดไปกับพื้นปูนซีเมนต์จึงร้องตะโกนให้
อ.เจนชักมือออกมา แต่อ.เจน ไม่ยอมปล่อยมือจากองค์พระท่าน มีสองอย่างที่
อ.เจน ต้องตัดสินใจคือยอมชดใช้กรรม และไม่ปล่อยองค์พระท่านถ้าปล่อย
จะต้องล้มด้วยกันทั้งหมด ผลลัพธ์ คือ  อ.เจน เจ็บปวดจนน้ำตาไหลออกมาค่ะ
ทุก ๆข้อนิ้วหลังมือเป็นแผลเหวะหวะ คุณรุ้ง ก็ช่วยกันเช็ดเลือดก็ใช้เวลา
รักษานานหลายเดือนค่ะอ.เจน บอกว่า ถ้าไม่ทำเช่นนั้น
จะต้องประสบอุบัติเหตุร้ายแรงอาจถึงแก่ชีวิตค่ะการยอมรับผลกรรมและ
ตัดกรรมนั้นจากหนักก็จะกลายเป็นเบาและที่สำคัญเราต้องไม่กลัวที่จะตายค่ะ



อานิสงส์ยกฉัตร อ.เจนได้พูดไว้ว่า การถวายฉัตรไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำก็ได้ค่ะ  
ถ้าผู้นั้นไม่มีบารมีพอก็จะพบแต่ปัญหาและอุปสรรค์บางครั้งทำให้มีเหตุให้งานนั้น
ล้มเลิกไปเลยก็ได้ค่ะ ด้วยอานิสงส์การถวายฉัตรนั้นสูงมากคือ
การถวายฉัตรบนยอดพระเจดีย์หรือพระปรางค์อย่างนี้ไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใด
หรือในชาติปัจจุบันท่านจะได้รับการเคารพยกย่อง นับถือเกิดในชาติตระกูลสูง
มีสง่าราศี เป็นผู้ที่มีอำนาจบารมีสูงและดำรงคงอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาทุกชาติไปค่ะ






ฝาโอ่งบนยอดพระปรางค์  ชาวบ้านต่างพากันดีใจกันมากที่มีชาวกรุงเทพฯ
มายกฉัตรโดยที่ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหนนำพาคนมายกฉัตร
โดยไม่บอกกล่าวใครเลย ชาวบ้านเขาก็ดีใจน้าเขาก็แย่งกันพูดเสียงเจี้ยวจ้าว
เลยค่ะว่าแต่เดิมบนยอดพระปรางค์นี้ทางวัดได้ใช้ฝาโอ่งแขวนไว้บนยอดฉัตรมานานมากแล้ว
โดยไม่มีผู้ใดคิดนำฉัตรมาถวายวัด เพราะคิดไม่ถึงค่ะจึงได้ใช้ฝาโอ่งมากันน้ำฝน
ไว้บนยอดพระปรางค์นี้แหละค่ะ  คณะบุญของ อ.เจน ทำให้คนที่นี่เขาดีใจและสุขใจ
พวกชาวบ้านก็หวังว่าท่านเจ้าอาวาสคงปิติใจมากเช่นกัน ขณะที่คุยกันอยู่นั้น
ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งก็พูดขึ้นว่า ไปหามาให้คุณ ๆ เขาดูสิว่ามีฝาโอ่งอยู่จริงและ
เขาเอาไปเก็บกันไว้ไหนล่ะจะเอามาให้เขาดูเป็นหลักฐานว่า พวกเรามีฝาโอ่งจริง ๆ
แหมได้รับฟังแล้วก็รู้สึกดีใจมากที่พวกเราได้มาทำบุญในส่วนที่ขาดให้แก่
พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงค่ะ






ผ้าห่มพระปรางค์ เมื่อยกฉัตรขึ้นบนยอดพระปรางค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว อ.เจน
นำถวายฉัตรแก่พระสงฆ์รวมทั้งทำการห่มผ้าพระปรางค์อีกด้วย เป็นผ้าสีทองเหลือบดิ้นทอง
ค่ะเห็นมั้ยค่ะบุญใหญ่ ๆ ทั้งสองบุญเชียวค่ะ  ทุกท่านก็คงปิติสุขกันมากเลยค่ะแค่เพียง
วัดแรกวัดเดียวก็บุญมหาศาลแล้วค่ะ


อาหารมื้อกลางวัน "ร้านอาหาร MK" ทางร้านMK ได้ร่วมบุญกับ อ.เจน ด้วยอาหารกล่องรสเลิศ
"ข้าวหน้าเป็ด"ดิฉันก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของร้าน MK ด้วยนะค่ะ
แต่ทางร้านMK ก็ไม่ได้ บริจาคอาหารกล่องให้แก่ อ.เจน เป็นประจำทุกครั้งนะค่ะ
ต้องบอกก่อนเดี๋ยวจะเข้าใจว่า ฟรี ฟรี ทุกครั้ง เช่น 500 คน หรือ 800 คน
มากซะขนาดนี้คงจะไม่ได้หรอกค่ะ คือไม่สมควร และ อ.เจน เกรงใจด้วยค่ะ
ของซื้อของขาย ทั้งนั้นค่ะ ทางเจ้าของร้านก็มักจะพูดทางโทรศัพท์เสมอว่า
ยินดีช่วยค่าอาหาร แต่ อ.เจน เกรงใจค่ะ ดังนั้น เวลาสั่งอาหารกล่องจากทาง
ร้าน MK ก็ใช้ชื่อ รุ้งตะวัน เป็นผู้สั่งซื้อค่ะ  
จนทุกวันนี้ อ.เจน ก็ยังไม่ได้พบปะกับเจ้าของร้านอาหาร MK
เพียงแต่ได้คุยกันในทางโทรศัพท์เท่านั้นค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว อ.เจน
ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าของร้าน MK มาบ้างแต่ไม่บ่อยนะค่ะ
ต้องแจ้งให้เข้าใจด้วยค่ะ เพราะการสั่งซื้อเราจะไม่เปิดเผยตัวตนทางร้านรู้ค่ะ
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง อ.เจน แจกน้ำดื่มสุขภาพเป็นวิตามิน C ขวดละ 25 บาท
ลูกทัวร์นึกว่าบริษัทน้ำดื่มนั้น ๆ นำมาแจกเป็นโปรโมชั่น ไม่มีนะค่ะ แจกฟรี
อ.เจน จ่ายทั้งหมดค่ะ
เนื่องจากวันที่ลูกน้องของทางร้านเขาจำได้จึงแจ้งรายงานไปยังเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านจึงไม่เก็บตังค่ะ ก็ขออนุโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้

สำหรับน้ำอัดลม”โค๊ก“ อ.เจน ได้สั่งซื้อและขนมาจากกรุงเทพฯ สำหรับน้ำแข็งป่น
อ.เจน ได้ขอให้ทางวัดจัดหาให้ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะสั่งได้ที่แห่งใดแต่ก็ได้
ชำระหนี้สงฆ์ให้กับท่านเจ้าอาวาสไปด้วยแล้ว  เพื่อไม่ให้ติดกรรมกับทางวัดค่ะ
เพราะว่า อ.เจนจะไม่รบกวนวัดให้เดือดร้อนและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นใดให้แก่
ลูกทัวร์ค่ะดังนั้น ทุกท่านที่มาร่วมบุญรับประทานได้อย่างสะดวกใจไม่ติดกรรมนะค่ะ
น้ำใจผู้ร่วมบุญทุกท่าน ทุกท่านที่เดินทางมากับทริปทัวร์บุญ อ.เจน
ต่างเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและคงจะหิวกันทุกคนแต่ไม่มีผู้ใดบ่นว่าหิวกันเลย
คงอิ่มบุญกันถ้วนหน้าแน่ ๆ เลยค่ะ ก็เพราะเวลานั้นก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่าแล้ว
อาหารยังไม่ตกถึงท้อง แต่ทุกท่านก็พร้อมใจกันทำบุญถวายยกฉัตร
และห่มผ้าพระปรางค์โดยไม่มีใครบ่นสักคำหนึ่งค่ะ



2.  "วัดไตรภูมิ"
ทุกคนอิ่มเอิบกับงานบุญที่วัดแรกเป็นที่สุดแล้ว ดิฉันจำได้ว่าพอมาถึงวัดที่สอง
ทุกคนก็ร่วมกันถวายสังฆทานและปัจจัยเงินบริจาคบำรุงวัด โดยมีอ.เจน เป็นผู้นำบุญค่ะ
ที่วัดไตรภูมิแห่งนี้ เป็นวัดเก่าแก่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชา
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์พระพุทธมหาธรรมราชาเป็น
พระพุทธรูปปางสมาธิสมัยลพบุรี หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ชาวบ้านนับถือว่าศักสิทธิ์ยิ่งนัก
  ดังนั้นมีหรือที่ อ.เจน จะไม่นำพาทุกท่านมากราบสักการบูชาจริงมั้ยค่ะ





3.  "อุทยานพระพุทธมหาธรรมราชา"
องค์พระฯ หน้าตัก 11.984 เมตร  สูง 16.5899  เมตร  สูงจากพื้นดิน 35 เมตร
โดยใช้เงินทุนในการก่อสร้างจากแรงศรัทธาของประชาชนด้วยเงินบริจาคของประชาชน 27
ล้านบาทโดยไม่ใช้งบประมาณจากทางราชการ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯเสด็จพระราชดำเนินมา
ประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ปลายยอดจุลมงกุฎและเบิกพระเนตร
องค์พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติฯณ พุทธอุทยานเพชบุระ
จังหวัดเพชรบูรณ์ สุดยอดมั้ยค่ะสถานที่และบรรยากาศอย่าบอกใครเชียวงดงามมากค่ะ
ทิวทัศน์สวยงามจริง ๆ ค่ะ






อ.เจน ได้นำพาคณะฯ เดินเข้าไปใต้ฐานองค์พระฯ ใหญ่ดังกล่าวนั้นโดยนำคณะฯ
สวดมนต์ นั่งสมาธิ เป็นเวลานานพอสมควร ส่วนคุณรุ้ง ดิฉันและคุณสุดารัตน์
ยืนอยู่ด้านนอกก็ได้คุยกับอาจารย์สอนหนังสือได้มาเป็นจิตอาสาช่วยทำงาน
อยู่ที่นี่เมื่อได้เห็น อ.เจน จึงรอออยู่ด้านนอกเพื่อขอพบ
และแจกปฏิทินรูปองค์พระฯท่านให้แก่ อ.เจน ซึ่ง อ.เจน ก็ได้มอบให้แก่ทุกท่าน



ที่มาร่วมบุญกันรวมทั้งได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะไปทำทานเลี้ยงอาหารปลา
ในบึงใหญ่มีทางเชื่อมเดินเข้าไปกลางบึงใหญ่ ลมพัดเย็น ๆ สบายใจจังค่ะ
ในบึงนี้ก็มี ปลาชะโดปลาสวาย ฯลฯทำบุญตามอัธยาศัยจ่ายเงินลงตู้รับบริจาค
อาหารปลาหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่มีอาหารปลากันไปคนละมือสองมือเป็นที่สนุกสนาน
ถ่ายรูปกันใหญ่เชียวเพราะวิวทิวทัศน์งดงามมากค่ะ



4. "วัดพ่อขุนผาเมือง"
คณะฯ เดินทางมาถึงวัดพ่อขุนผาเมืองก็เย็นมากแล้ว แต่ก็ยังได้ทำบุญสร้างกุศลกัน
อย่างไม่หยุดหย่อนค่ะรวมทั้งได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่
คณะฯสุขใจได้บุญกันทั้งวันนั่นแหละค่ะ




อาหารมื้อเย็น
ประมาณหนึ่งทุ่ม คณะฯ อ.เจน เดินทางมาถึงร้าน HOTPOT โฮมโปร จ.เพชรบูรณ์
เมนูนี้เป็นปุฟเฟ่ต์ เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ร้านขออนุญาตถ่ายภาพหมู่ก่อนเข้าร้านจะนำไปลงเฟตบุ๊ค
ของร้าน ซึ่งดิฉันรีบพูดขัดใจไปเลยว่า ไม่ได้ค่ะ ๆ เพราะทุกคนหิวกันมากขอให้
เขารับประทานก่อนแล้วค่อยว่ากันทุกคนหิวกันจริง ๆ นะค่ะ
ทางทีมงานได้แจ้งตำแหน่งที่นั่งให้ทราบกันแล้วทุกคนจึงไม่ห่วงกับที่นั่งกันแล้วค่ะ
ต่างก็สนุกสนานกับการตักอาหารที่ดิฉันคิดว่าเลิศที่สุดค่ะ
เลิศด้วยราคาและคุณภาพทางโภชนาการ ดิฉันเห็นทุกท่านมีความสุขกันมากอ.เจน
ก็ดีใจค่ะ ที่ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ร่วมบุญทริปนี้เป็นเมนูสุดหรูโดย
ไม่ต้องกังวลกันเลยว่าจะไม่อิ่มคือ อิ่มกันสุด ๆ ค่ะ



ตอนนี้ไม่คุยกันแล้วค่ะ เพราะเบื้องหน้านั้นล้วนเป็นอาหารที่น่ารับประทานเสียทุกเมนูเชียวค่ะ
ต่างก็รีบหยิบอุปกรณ์การกินเท่าที่จะหาได้ตัก คีบ หนีบ กันกลับมา จำได้ว่า
แม่ตี้ถือคีมคีบผักติดไม้ติดมือกลับมาที่นั่งอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันเลยค่ะ
อาหารมื้อนี้คงเพลิดเพลินและสนุกสนานพร้อมกับสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่เดินทาง
มาคนเดียวเห็นว่าได้พบเพื่อนใหม่กันถ้วนหน้าเชียวค่ะ
ดิฉันมีภารกิจที่ต้องออกมาก่อนแต่สายตาเหลือบมองเห็นคุณลุงท่านหนึ่งนั่งอยู่หน้าประตู
ห้างฯจึงถามไปว่า คุณลุงมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมค่ะ คำตอบคือ อิ่มมากครับผมจุกเลยครับ
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารมื้อเย็นกันอย่างอร่อยลิ้นอยู่นั้นทีมงานทุกคนต่าง
ก็ต้องรีบรับประทานแบบทำเวลาค่ะ เพื่อที่จะต้องเร่งรีบเดินทางล่วงหน้าไป
ยังสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณเป็นทัพแรกเพื่อไปรอรับคณะบุญฯ อ.เจน เป็นทัพที่สอง ค่ะ

นั่งอัดกันเข้าไปรถปาเจโร่ อ.เจน
รถ อ.เจน รถปาเจโร่ ปกติ นั่งได้ 7 คน แต่ครั้งนี้พับเบาะหลังไป 2 ที่นั่ง เพราะต้องขนสัมภาระต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง น้ำอัดลม น้ำดื่มหลายแพ็ค สำหรับลูกทัวร์นับ 100 คน
การเดินทางมาครั้งนี้ตอนขามาได้ขนฉัตรมาด้วย แต่เมื่อถวายฉัตรไปแทนที่จะว่าง
แต่ก็มีข้าวของอื่น ๆ เข้ามาอัดแน่นแทนที่และเยอะกว่าเก่า
จนในที่สุดคงเหลือพื้นที่ด้านหน้า 4 ที่นั่งรวมคนขับด้วย และที่เบาะหลังคนขับก็มีข้าว
ของวางกองอยู่แถบหนึ่งแล้วค่ะ  แทบจะไม่มีที่นั่งแต่ก็ยังอุตส่าห์อัดกันเข้าไปได้ตั้ง 8 คน
(คุณมิตร ขับ คุณรุ้ง ดิฉัน น้องดา น้องดิว น้องเก่ง คุณสุดารัตน์  ลุงชัย)  
ทุกคนนั่งซ้อนตัวและอัดกันเข้าไปจนตัวลีบเลยค่ะ ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะต้อง
เร่งรีบไปจัดเตรียมงานที่ต้องทำอีกบาน จึงต้องรีบขับรถล่วงหน้าไปจัดเตรียมงาน
ให้เรียบร้อยก่อนที่คณะรถตู้ของ อ.เจน จะมาถึงค่ะ เมื่อลงจากรถก็รีบเร่งวิ่งกันเหมือนกับ
การเล่นเกมส์ทำงานจับเวลาเชียวค่ะ



5. "สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ" สวดมนต์ข้ามปีที่นี่
ขอแมลงอย่ามากวนใจ  ที่สถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ทุกยามค่ำคืนก็จะมีแมลงจะมาเล่นหลอดไฟฟ้า
และหลายครั้งแล้วก็ได้พบเจอแต่พวกหมู่แมลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแมลงก็มา
เล่นหลอดไฟฟ้าตกลงมานอนตายเกลื่อนพื้นเลยค่ะ วันนั้นอ.เจน กวาดศพแมลงทิ้งกันไป
หลายรอบตัวหมู่ก็บินมาล่อไฟให้ตกตายไปตามกันอีกค่ะ ซึ่งอ.เจน ต้องใช้ไม้กวาด
ช่วยกันกวาดกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแมลงก็มาอยู่ดีค่ะกวาดกันไม่ชนะเลยค่ะ






มาวันนี้จำเป็นต้องใช้วิชามารสะแล้ว จึงคุยกับคุณรุ้ง ว่าคุณรุ้ง เห็นทีว่าเราคงต้องใช้แผนเดิมค่ะ
ขอแมลงกันอีกครั้งเถอะว่าอย่ามารบกวนกัน(เราเคยขอกันสำเร็จมาแล้วอย่างเหลือเชื่อ)
ดิฉันไม่รู้ว่าคุณรุ้ง ขออะไรแต่ดิฉันขอให้เหล่าแมลงทั้งหลายอย่าได้มารบกวนเล่นไฟ
จนทำให้ผู้ที่มาสวดมนต์ต้องลำคราญจนสวดมนต์ไม่ได้และถ้าพวกเจ้าต้องการบุญกุศล
ก็อย่ามารบกวนอย่างเด็ดขาดแล้วเราจะให้บุญพวกเจ้าแมลงทั้งหลาย
    อาจารย์เจน เป็นห่วงกังวลในเรื่องของแมลงรบกวนผู้ที่จะนั่งสวดมนต์ที่เรือนรับรองเพราะ
แมลงมีเป็นจำนวนมาก จึงได้ซื้อมุ้งมา 3-4 หลังจัดเตรียมไว้ เพื่อใช้ตั้งวางให้แก่
ผู้ที่จะต้องนั่งอยู่ที่ด้านนอกเรือนรับรอง แพ้แมลงจะได้แต่ไม่น่าเชื่อไม่มีแมลงจริง ๆ ด้วย
ดิฉันจึงถาม อ.เจน ว่า ทำไม ๆ และทำไม ดิฉันสงสัยมากเพราะมากี่ครั้งก็แมลง อ.เจน
จึงแจ้งข้อสงสัยของดิฉัน โดยบอกว่า ดินแดนแห่งนี้ เชื่อมโยงกับโลกทิพย์พิเศษ
ซึ่งแมลงและสัตว์ จะรับรู้ โลกวิญญาณรับรู้  แต่สำหรับเสียงของ อ.เจน นั้น
ได้ยินไปถึง 3 ภพภูมิ คือ มนุษย์ สวรรค์ นรก ดังนั้น
ทุกคนอย่ากังวลว่าจะไม่ได้อะไรจากการทำบุญกับ อ.เจน นะค่ะ ประกอบกับ
อ.เจน มีตาทิพย์ ได้เห็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่เห็น มีหูทิพย์
ได้ยินสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่ได้ยินค่ะ ถ้าหากว่า เราได้ขอสิ่งใดที่เป็นบุญที่ไม่ใช่
ทางโลภแล้วเสียงของเราจะดังไปถึง 3 ภพภูมิค่ะ

ประมาณสองทุ่มกว่า ๆ อ.เจน นำคณะฯ มาถึงสำนักปฏิบัติธรรมฯกิจกรรมของคณะฯ
บุญ อ.เจน ยังไม่จบลงง่าย ๆ ค่ะ



กิจกรรม รอบกองไฟ   เสื่อ และ เก้าอี้ ได้นำมาวางเพื่อรองรับทุกท่านให้เลือก
นั่งกันตามอัธยาศัย  ดิฉันชอบภาพนี้มากค่ะ เราเป็นเหมือนเพื่อนบ้านมานั่งล้อมวงกัน
รอบกองไฟรับฟัง อ.เจน บรรยายธรรมในบรรยากาศที่เย็นสบาย






กิจกรรม หล่อต้นเทียน 2 ตัน ภายในพื้นที่นั่งล้อมกันเป็นวงกลมล้อมรอบกองไฟส่วนวงใน
ได้ตั้งวางเบ้าหล่อต้นเทียน 2 ต้นโดยตั้งประจำจุดไว้ 2 จุด  ถัดต่อจากนั้นก็เป็นเตาที่ติดไฟ
ไว้แล้วกระทะตั้งเตา พร้อมที่จะนำก้อนเทียนมาหย่อนใส่ลงในกระทะ โดย อ.เจน  
ได้ให้ทุกท่านไปเบิกเทียนที่จุดแจกเทียนสำหรับเงินบริจาคตามกำลังศรัทธาค่ะ
ทุกท่านที่ได้ก้อนเทียนไปแล้วเขียนชื่ออุทิศบุญอธิษฐานจิตตามเจตนาของแต่ละท่าน
แล้วหย่อนใส่ลงไปในกระทะทีมงานก็จะมีหน้าที่กวนก้อนเทียนด้วยไม้พายจนกว่าก้อน
เทียนเหล่านั้นจะหลอมละลายกลายเป็นน้ำเทียนพร้อมที่จะเทลงในเบ้าหล่อหลอมต้นเทียนทั้ง
2 ต้นซึ่งหันหน้าไปทางเรือนรับรองทางด้านซ้ายหนึ่งต้น และด้านขวาหนึ่งต้นค่ะ






เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว อ.เจนเป็นผู้เบิกฤกษ์ตักเทียนเทใส่ลงไปในเบ้าหล่อต้นเทียน
ด้านขวามือเพียงต้นเดียวส่วนเบ้าหล่อเทียนที่ด้านซ้ายมือมีใครก็ไม่ทราบได้ไปยืนเสมอ
อ.เจนเทน้ำเทียนหล่อไปพร้อม ๆ กับ อ.เจน ไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ต้องเป็น
อ.เจนนำเบิกฤกษ์ทั้ง 2 ต้น ถึงจะถูกค่ะ เพราะ อ.เจนเป็นผู้นำบุญครั้งนี้ เปรียบเสมือนเป็นเจ้าภาพ
เป็นแม่งาน ก็ต้องให้เกียรติผู้นำหรือแม่งานก่อนตามมารยาทจริงมั้ยค่ะ
แต่ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดค่ะ อ.เจนก็ไม่ได้ตำหนิหรือว่าอะไรเพราะต่างก็มาทำบุญด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อเห็นว่ามีผู้มาเทเทียนที่เบ้าหล่อเทียนอีกต้นหนึ่งไปแล้วจึงไม่เดินไป
โดยปล่อยให้ดำเนินการต่อไปจนเสร็จสิ้นค่ะ ส่วนตัวดิฉันเองนั้นก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นใคร
แต่มีคนเห็นเป็นพยานว่า ผู้มีเทเทียนเสมอ อ.เจน เป็นผู้หญิงเธอผู้นี้คงจะไม่รู้ทำเนียมว่า
ควรให้ประธานในพิธีเบิกฤกษ์ก่อน เพราะการเบิกฤกษ์ของอาจารย์นั้นจะใช้คาถากำกับด้วยค่ะ



“ขอให้ดิฉันเป็นคนหล่อเป็นคนแรกและทุกท่านหล่อต่อจากดิฉันนะค่ะ”
นี่เป็นคำพูดของ อ.เจน ดิฉันจำได้ ถ้าใครอยู่ในสถานที่นั้นและจำได้ต้องได้ยินคำพูดนี้
ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่า ทำไม อ.เจน ถึงพูดเช่นนั้น แม้ตัวดิฉันเองก็ไม่รู้ค่ะว่า คำพูดของ
อ.เจน นี้มีนัยยะอะไร แต่มารู้ที่หลังว่า ทำไม อ.เจน ถึงพูด เพราะ อ.เจน รู้ได้ในญาณวิถีว่า
ในกาลต่อไปจะเกิดเหตุการณ์อะไร แต่เมื่อมีคนไปเบิกฤกษ์เสียก่อน อ.เจน
ท่านก็ไม่ว่ากระไรหรอกค่ะ จึงปล่อยไปตามนั้น แต่มันมีเหตุตอนที่ไปแกะบล็อกนั่นสิค่ะ
เรื่องนี้จะเล่าในตอนหลังค่ะ ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ
ดิฉันขออุบอิบ ไว้ก่อนค่ะ



อย่าแย่งกันทำบุญ ด้วย อ.เจน รู้ในญาณวิถีว่าส่วนมาก คนมักจะเข้าใจผิดกันว่า
การทำบุญต้องอยู่กันที่ด่านหน้า อยู่กับสิ่งของต่าง ๆ ถวาย แต่แท้จริงแล้ว
อยู่ที่จิตของผู้ถวายค่ะ อ.เจน จึงได้ขอฝากเรื่องนี้ผ่านดิฉันให้มาเป็นตัวแทน
บอกกล่าวให้แก่ทุกท่านได้รับทราบว่า อ.เจน ไม่ต้องการให้การทำบุญแล้ว
ต้องมาแย่งแข่งขันกัน เพราะเรามีเจตนาในบุญของเราอย่างเต็มเปี่ยมเราก็ได้แล้วค่ะ
ดังนั้น จิตของเรานั้นสำคัญมากค่ะ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ค่ะ อ.เจน บอกว่า
การแย่งชิงกันทำบุญนั้นเจตนาบุญต่างกันซึ่งอาจจะไม่ได้อะไรในการทำบุญเลยค่ะ
มันไม่อิ่มใจไม่อิ่มล้นในบุญกุศลและย่อมไม่ได้ผลบุญอะไรกลับไปค่ะ  
ขอให้ร่วมกันทำความดีจะดีกว่าค่ะ ซึ่งการทำบุญอย่าให้จิตของเราตกค่ะ
เมื่อจิตตกก็เกิดการไม่พอใจซึ่งกันและกัน จิตเป็นอกุศล



ข้อสังเกต การทำบุญให้ถูกต้องให้ดู คุณรุ้ง และทีมงาน เป็นตัวอย่างก็แล้วกันค่ะ
พวกเราทีมงานบางครั้งก็ไม่ได้แม้แต่จะกำหนดจิตเหมือนกับทุก ๆ ท่านเลย ก็เพราะว่า
ทุกคนจะต้องช่วยกันอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ร่วมบุญในที่นั้น
เพราะการไม่ได้กำหนดจิตเราก็ได้บุญแต่สู้ว่านั่งกำหนดจิตให้เป็นสมาธิ
ขณะถวายจะได้กันเต็ม ๆ ค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องไปจับต่อหางหรืออะไรก็ตามที่
คนโบราณเขาว่ากันค่ะ เพราะ อ.เจน มีญาณ ท่านได้เห็นว่า ขณะถวาย
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจะได้สิ่งของถวายลอยเข้าวิมานของแต่ละคนไปกันคนละชุด ๆ
แต่ได้ไปไม่เหมือนกันค่ะ อยู่ที่เจตนาบุญมีเจตนามากก็ได้มากค่ะ



กองไฟหนึ่งกองใหญ่  เก้าอี้  เสื่อ รายล้อมรอบกองไฟที่เราจะใช้สร้าง
ความอบอุ่นในค่ำคืนนี้ กับบรรยากาศที่เย็นยะเยือก อ.เจน ก็ได้บรรยายธรรมมะไปเรื่อย ๆ
ระหว่างที่ทุกคนนำเอาตะปูมาเขียนที่ก้อนเทียนและอธิษฐานจิตค่ะ






กิจกรรมโคมแก้วบูชาคุณพระรัตนตรัยทุกคนร่วมกันสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย
และนำเทียนในโคมแก้วลงไปหล่อหลอมรวมกันในกระทะค่ะ






ร่วมร้องเพลงสามัคคีชุมนุม ทุกคนร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุมที่อ.เจน
ได้คัดสรรมาแล้วว่า ทุกคนต้องรวมกันเป็นหนึ่งเป็นพลังแห่งบุญ
และการที่ได้มาร่วมชุมนุมกันทำความดีท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะ
อบอุ่นด้วยใบหน้าของผู้อิ่มบุญและทำความดีกันมาตลอดทั้งวันช่างน่าจดจำไปตราบนานเท่านานค่ะ






ได้เวลาสวดมนต์กันแล้ว  เมื่อได้เวลาพอสมควร อ.เจนได้นำพาทุกคนขึ้นเรือนรับรอง
จับจองที่นั่งกันตามสะดวกซึ่งทุกคนก็ขึ้นกันไปอย่างรวดเร็วคงตื่นตาตื่นใจที่จะได้
ไปเยี่ยมเยือนเรือนรับรองเป็นครั้งแรกสิค่ะ  






ใครกันนะช่างคิดช่างสร้างเรือนรับรองได้สวยงามขนาดนี้
เมื่อทุกคนได้ขึ้นไปยังเรือนรับรองต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงาม
สวยงามมากจริง ๆ คิดหาแบบอย่างมาจากไหน และใครกันที่ช่างคิด
ดิฉันขอประกาศก้องร้องบอกได้เลยค่ะว่า
ผู้ออกแบบเรือนรับรองจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอ.เจน กับ คุณรุ้ง
  ซึ่งอาจารย์ได้ใช้ญาณวิถีของตนเองแล้วก็แจ้งแก่ช่างก่อสร้างว่าต้องการ
แบบนั้นแบบนี้ส่วนช่างก่อสร้างก็รับสนองตามต้องประสงค์ได้เหมือนอย่าง
ที่อาจารย์ต้องการค่ะ ด้วยการสร้างให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาค่ะ
บางอย่างก็มาจากสมองและสองมือของอาจารย์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ประตู
หน้าต่าง หลอดไฟ โคมไฟ ฝ้าเพดาน สีสัน ฯลฯ อาจารย์จัดการเองทั้งหมดค่ะ
ดิฉันและทีมงานก็มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดเป็นเพียงผู้ดูผู้ติดตามเพียง
อย่างเดียวเท่านั้นเพราะส่วนมากผู้ที่เดินทางมาตรวจสอบดูงานก็มีเพียง
อ.เจน และคุณรุ้ง อ้อเพิ่มอีกคนสารถีมิตร บางครั้งก็เดินทางไปเช้าเย็นกลับ
แต่ถ้างานไม่เสร็จอาจารย์ก็นอนค้างค่ะซึ่งทีมงานเองก็ไม่รู้ว่าเรือนรับรอง
ออกแบบเป็นแนวทางใดและมีอะไรบ้างค่ะ
เพราะทีมงานบางคนก็ไม่ได้มาบ่อยมากนักหรอกค่ะ



***จบภาค 1 โปรดติดตาม ภาค 2 ตอนต่อไป  เรื่องมันยาวค่ะ***






อ่าน ภาค 2 ต่อ ค่ะ





             คำถามว่า ฝีมือการสร้างเรือนรับรอง ใช้สถาปนิก หรือวิศวกร  
มีหลายท่านที่ได้เดินเข้าไปในเรือนรับรองต่างก็ชื่นชมการออกแบบของสถาปนิกและวิศวกร
ว่าใครนะทำได้ไงสวยงามบรรเจิดจรัสขนาดนี้ ดิฉันก็ต้องบอกว่า งานนี้
วิศวกรและสถาปนิกจำเป็นก็ต้องยกให้ อ.เจนจิรา และรุ้งตะวัน ต้องรับโล่ 5
ดาวไปได้เลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ร่ำได้เรียนมาทางนี้เลยนอกจากนี้ยังได้วิชาการ
ซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี ราคาประหยัดรวมทั้งได้รู้เล่ห์เหลี่ยมของคนที่
คดโกงหลายรูปแบบอีกด้วยค่ะ



จบด้วยเพลง  ค่าน้ำนม สามัคคีชุมนุม  และ พรปีใหม่  เมื่อสวดมนต์ข้ามปีกันแล้วอ.เจน
ก็ได้นำทุกคนไปบริเวณประตูสวรรค์ พอจะได้เวลา 00.00 น.สองยามอันเป็นฤกษ์ปีใหม่
ก็เดินกลับมาที่กองเพลิงเอ้ยกองไฟ มายืนรอบกองไฟ อ.เจนบอกให้ทุกคนร่วมกัน
ร้องเพลงพระคุณแม่ เพื่อระลึกถึงคุณแม่ผู้ให้กำเนิดและให้ทุกคนมีความรักสามัคคี
กันด้วยเพลงสามัคคีชุมนุม จบด้วยเพลงพรปีใหม่และพลุตุ่ม ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง.....
ประทับใจค่ะถ้าใครได้ไปอยู่ในบรรยากาศนั้นต้องประทับใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ
“ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2558 ขออวยชัยให้พรเฉลิมศรีสุขสวัสดิ์ทั่วหล้า อย่าทุกตรม
รู้จักบ่มอบรมตนพ้นราคี สร้างบารมีด้วยกันตราบนานเทอญ.”นี่พรเขียนจากใจนะค่ะ
ไม่ได้ลอกใครมาน้า...ค้า..

คณะ อ.เจน เดินทางกลับที่พักรีสอร์ท เพื่อไปพักผ่อนกันค่ะแต่ทีมทำงานยังกลับไม่ได้
ต้องรับผิดชอบไฟประดับที่นำมาติดประดับไว้ตามประตูหน้าต่าง รวมทั้ง
ข้าวของเครื่องใช้อีกจิปาถะมากมาย ที่เราต้องเก็บกลับกรุงเทพฯให้เรียบร้อย
แต่กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปประมาณ ตี 1 ทีนี่จะกลับกันยังไงล่ะ
รถตู้ก็กลับไปรีสอร์ทกันแล้ว ผู้ที่เหลืออยู่ทั้งหมด 9 คน(1.คุณมิตร พลขับ
2.คุณรุ้ง 3.ดิฉัน4.คุณสุดารัตน์  5.น้องดา 6.น้องดิว 7.น้องเก่ง 8.ลุงชัย 9.คุณภุชงค์)
ก็ขอเล่าแบบ ฮา ๆ ค่ะ คนทั้ง 9 พร้อมสัมภาระทั้งหมดเกลับกันได้อย่างไร ดูสิค่ะ
เบาะที่นั่งแรก หน้ารถ (นับจากซ้ายมือ) คุณรุ้ง ดิฉัน และคุณมิตรเป็นคนขับรถค่ะ

ดิฉันนั่งอยู่ตรงกลางกระเป๋าอีกล่ะเกะกะไปหมด จึงนั่งคร่อมเกียขาอีกข้างก็ไปอยู่ฝั่งคนขับ
แต่คุณมิตร เป็นคนที่มีกริยามารยาทดีมาก แกค่อย ๆพูดอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ของเขา
ว่า คุณจี๊ดครับๆ ผมว่า ผมคงขับไปไม่ได้ครับผมไม่ถนัดเลยครับ แหม คือ ดิฉันน่ะ
ขาลุยค่ะ ก็เป็นเป็นเรื่องธรรมดาก็เคยทำมาก่อนค่ะ แต่คุณมิตร
เขาคงประหม่าและเรียบร้อยสะจนดิฉันคิดว่า เอแหมนี่เราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหว่า
อายผู้ชายอย่างคุณมิตรค่ะ
เบาะที่นั่งที่สองถัดจากเบาะหน้ารถ คุณภุชงค์ น้องดิวต้องขึ้นไปนั่งยองบนเบาะ
น้องดา นั่งอยู่ที่หว่างขาคุณสุดารัตน์หัวน้องดาก็ไปซุกอยู่ที่ตรงส่วนกลางของเบาะหน้า
คุณรุ้ง บอกว่าดีน่ะที่คุณดาเตี้ยเลยมีประโยชน์ จะดีมั้ยเนี้ยค่ะ น้องเก่งนั่งบนตักลุงชัย
และที่ด้านข้างตัวลุงชัย ก็มีข้าวของกองอยู่มากมายซึ่งกองติดอยู่ที่ข้างประตูรถด้านขวามือ
ถ้าหากเปิดประตูรถฝั่งนั้นรับรองข้าวของกองพะเนินก็หล่นล่วงทั้งหมดแหละค่ะ
เบาะที่นั่งที่สามถัดจากเบาะที่สองเบาะนี้ได้ถูกพับมาแล้วตั้งแต่วันแรกเพราะ
ขนฉัตรน้ำอัดลม น้ำดื่มแต่เมื่อของพวกนั้นได้จ่ายแจกไปหมดแล้ว
ก็ต้องมาขนพวกกล่องลำโพงกล่องเบ้อเร้อรวมทั้งข้าวของที่ขนมาสำนักปฏิบัติธรรมฯ
ในวันอาทิตย์วันนี้ต้องนำกลับ อาทิเช่นหลอดไฟฟ้าประดับต่าง ๆ อุปกรณ์หลายอย่าง
สุดยอดไปเลยค่ะ รถปาเจโร่ 242 ของ อ.เจน บรรทุกได้ทุกอย่างค่ะ ไม่รู้ทำได้ไง

พวกเราทุกคนก็ร้องตะโกน คุณมิตร  ขับรถให้เร็วๆ เพราะเริ่มจะเป็นเหน็บชาที่ขากันแล้ว
คุณรุ้งบอกสอนทันทีให้ทุบขาข้างที่ชาให้เลือดเดิน นั่งกันเหน็บกินขาไปคนละข้างอะค่ะ
ระหว่างทางทุกคนก็คิดถึงอนาคตของวันพรุ่งนี้ พวกเราทุกคนจะต้องตื่นแต่เช้า 6.00น.
พราะจะต้องรีบเดินทางไปแกะบล็อกต้นเทียน 2 ต้น ที่ได้หล่อกันในคืนนี้
และพวกเราจะมีแรงมั้ยน้า ทันใดนั้น ก็หวนนึกถึงสก๊อต คอนลาเจ้น (กล่องสีขาว)
ที่ อ.เจน กับ คุณรุ้ง แนะนำว่า กินดีค่ะเลิศค่ะเมื่อกินเข้าไปแล้วแม้ว่าจะอดนอนสัก
เพียงใดก็ช่วยได้ค่ะ อ.เจน ยืนยันว่าอดนอนจากรายการคนอวดผีก็ไม่เป็นไรไม่ง่วงค่ะ  
ซึ่งก็จริงนะค่ะเราได้ทดลองกันมาแล้วในคืนก่อนที่จะออกเดินทางทัวร์บุญครั้งนี้นั่นแหละค่ะ
คุณรุ้ง ดิฉัน คุณสุดารัตน์ และน้องดา ได้กินแล้วอยู่ได้ถึงตี 3
ไม่อยากจะหลับจะนอนกันเลยค่ะ อยากจะนั่งทำงานอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้าวันที่จะไปทัวร์
ตอน ตี 5 กันเสียจริง ๆ ค่ะ
เมื่อนึกถึง สก๊อต คอนลาเจ้น  พวกเราก็พูดกันพร้อม ๆกันว่า สก๊อต คอนลาเจ้น
  ไป เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านสะดวกซื้อที่มีสโลแกนว่า “มีอะไรก็แวะมา เซเว่น อีเลฟเว่น”
พวกเราก็มองหาร้านเซเว่นฯแล้วก็ร้องตะโกนว่า ช่วยกันดูเซเว่นฯ
แล้วสายตาก็สอดส่ายหาจนเจอ แล้วก็ร้องพร้อม ๆกันว่า เจอแล้ว เซเว่นฯ
ก็อยู่ในช่วงบริเวณงานฉลองศาลเจ้าพ่อเพชรบูรณ์ ซึ่งวันนั้นเป็นวันสุดท้าย
ทุกคนกว่าจะลงจากรถได้ก็ต้องแงะขาออกไปก่อน คุณรุ้ง
นั่งเบาะหน้าตอนนี้ขาเริ่มชาแล้ว จึงบอกว่าขอทุบขาก่อนมันชาไร้ความรู้สึก
แล้วก็ค่อย ๆ หย่อนขาลงไปทีละข้างเบาะหลังก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ
สำหรับขาเป็นเหน็บเลือดไม่เดินค่ะ เมื่อตั้งหลักได้แล้วก็รีบเดินกันก้าวกัน
อาจ อาจ เหมือนกับการเข้าไปปล้นร้านเซเว่นฯทุกคนเดินเข้าไป
สายตามองหาชั้นที่วางขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลังและก็เจอ โดยพูดพร้อมๆ
กันว่า ใช่ ๆ นั่นไงสก๊อต คอนลาเจ้น  คุณรุ้ง ก็หยิบออกมาจากชั้น
โอ้ มีพอดี 9 ขวด 9 คนพาดีหมดแล้ว ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ร้านก็คิดว่า
โห พวกนี้มาเหมาซะขนาดนี้แสดงว่าต้องมาซื้อสินค้าอย่างอื่นอีก
จึงร้องบอกพนักงานขายที่นั่งขวางทางเดินว่าให้นั่งหลบๆ
หน่อยสิพวกพี่พี่เขาจะเดินพวกเราเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็พูดพร้อม ๆ กันว่า
ไม่ต้อง ไม่เดินแล้วเอาแค่นี้แหละค่ะ คุณรุ้งก็เดินไปจ่ายสตางค์
ขวดละหลายบาทไม่ใช่ถูกๆ งานนี้คุณรุ้งแจกทีมงานทุกคน ขอบคุณค่ะคุณรุ้ง
ทุกคนพูดอย่างนี้ และก็เดินกันออกมาที่หน้าร้านทุกคนยังไม่อยากขึ้นรถค่ะ
จึงออกความคิดเห็นกันว่าเรามายืนกินท้าทายที่หน้าเซเว่นฯ กันเถอะ
ทุกคนแบบอดนอนกันแบบก็บ้า ๆ อะค่ะออกมาแกะกล่อง เปิดฝา
ดื่มพร้อมๆ กันและก็โยนลงไปในถังขยะพร้อมๆกัน เสียงดัง ตุ๊บๆๆๆ  
คนละตุ๊บ สองตุ๊บ แล้วก็หันมาหัวเราะกัน ยังไม่พอคุณรุ้งเกิดหิวขึ้นมาก็หันไปเห็นลูกชิ้นปิ้งที่นั่งขายอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพราะไม่มีใครเขานั่งขายกันแล้วเขากลับบ้านกันแล้วดิฉันเห็นว่าไม่น่าจะอร่อยเลยแต่คุณรุ้ง หิวมากกวาดมา 20 ไม้แต่ไม่มีใครกินค่ะ เกือบตี 2 ไม่ไหวค่ะอยากกลับบ้านไปอาบน้ำอะค่ะ

น้ำไม่ได้อาบ คุณรุ้ง กับ ดิฉัน ก็บอกตงเหน็ดเหนื่อยกันมาตั้งแต่วันก่อน ตี 3
และวันใหม่เกือบ ตี 2ก็อยากจะนอนน้อนนอนแล้วค่ะ แต่เมื่อไปถึงบ้านพักก็ทราบว่า
อ.เจนก็เพิ่งจะเสร็จจากการดูแลความเรียบร้อย จึงเริ่มที่จะอาบน้ำก่อนค่ะ
ก็ต้องนั่งรออ.เจน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงของ อ.เจน ร้องออกมาว่า “ พี่ช่วยหนูด้วย
สบู่เต็มหน้าเลยหนูมองไม่เห็นค่ะ น้ำไม่ไหล ค่ะ” ตอนนั้นคุณรุ้งก็ไม่อยู่ออกไปคุย
กับน้องทีมงานข้างนอกเพื่อวางแผนงานของวันพรุ่งนี้ดิฉันได้ยินเสียง อ.เจน ก็ตกใจ
อ้าวจะช่วย อ.เจน ยังไงดีล่ะ  เมื่อเหลียวซ้ายแลขวาก็ได้หันไปที่ตู้เย็นก็คิดได้เลยว่า
ต้องใช้ของในตู้เย็นให้มีประโยชน์มันคือ น้ำดื่มสะอาด ชนิดขวดแก้ว ตราช้าง
ที่สุดแสนจะเย็นเฉียบ ดิฉันรู้นะว่า  อ.เจน จะต้องรู้สึกถึงความเย็นบนใบหน้า
ท่ามกลางคืนที่หนาวเหน็บแต่อาจารย์จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ในทันทีค่ะ
ไม่งั้น แสบลูกนัยน์ตาแย่ค่ะซึ่งก็อย่างว่องไวค่ะ ดิฉันก็รีบหยิบฉวยเอาขวดน้ำดังกล่าว
ในตู้เย็นไปส่งให้ อ.เจนที่หน้าห้องน้ำ ซึ่ง อ.เจน ก็เดินคลำกำแพงห้องน้ำมาที่หน้าประตู
ให้มารับน้ำขวดจากมือของดิฉันไปค่ะดิฉันก็ขำนะค่ะแต่ต้องทำค่ะ อ.เจน
ต้องเย็นทั้งใบหน้าแน่ค่ะ
ดึกมากแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ อ.เจน ทำให้ คุณรุ้ง และดิฉันมานั่งทบทวน
และตกลงกันว่าไม่มีไม่อาบน้ำดีกว่า นอน ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็เช้าแล้ว
จึงเอาน้ำขวดที่เหลือในตู้เย็นมาล้างหน้าแปลงฟัน และนอนไปเลยค่ะ
ราตรีนี้ไม่ยาวนานอย่างที่คิดเวลานอนเหลือน้อยเข้าไปทุกทีต้องนอนแล้วค่ะ
พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าค่ะ โดยเจ้าหน้าที่รีสอร์ท แจ้งว่า ท่อน้ำแตกและฝากขอโทษมา
ณ โอกาสนี้  เมื่อคืนนี้ไม่ได้อาบน้ำ ดองเค็ม..เซ็งเป็ด เลยค่ะ

เช้าวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2558

ตื่นมาเช้าวันใหม่ที่สุดแสนจะสดชื่นเช้านี้จะอาบน้ำให้สบายใจเฉิบเลยเราแค่คิด
นะคะกำลังจะลุกจากที่นอน  แต่ปรากฏว่า คุณสุดารัตน์ มายืนเรียกที่หน้าบ้าน
  พี่รุ้งค่ะ นี่เวลา 6 โมงกว่าแล้วต้องรีบไปค่ะดิฉันก็หันไปมองหน้าคุณรุ้ง
ประมาณว่า เอาไงดี เราทั้งคู่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่ต้องไปแกะบล็อกต้นเทียน
น้อง ๆ ทีมงานเขาพร้อมแล้วรอเราอยู่เมื่อสบตากันแล้วก็พยักหน้าพร้อม ๆ กัน
ด้วยเข้าใจกันในทันทีเลยว่าเราจะช้าไม่ได้ต้องไปกันแล้วภาระหน้าที่รออยู่ข้างหน้าค่ะ

ดิฉัน จึงแนะนำว่า เราควรจะใส่หมวกปิดบังอำพรางตัวตน เพราะหน้าตาก็ไม่ได้ปะแป้ง
ผมเผ้าก็ไม่ได้หวี  คุณรุ้ง ก็ว่าก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ จึงหยิบหมวกกันคนละ
ใบเพื่ออำพรางใบหน้าดิฉันน่ะล้างหน้าแปรงฟันแล้ว แต่คุณรุ้งยังค่ะ เพราะคุณรุ้ง
ตั้งใจว่าจะไปล้างหน้าที่เรือนรับรองทุกคนจะได้ไม่รอ จึงกระโดดขึ้นรถไปกันเลยค่ะ
ในคณะแกะต้นเทียนใครจะมีความพร้อมและะเนี้ยบเท่าน้องดิว  
แหมใส่เสื้อสีเหมือนต้นเทียนเชียวค่ะ
ทำไมไปแกะต้นเทียนไม่บอกใครจากการที่ทีมงานรีบออกเดินทางไปกันแบบเงียบ ๆ
ที่ไม่เชิญชวนใครเลยก็เพราะเกรงว่าผู้คนจำนวนมากถ้ามัวรีรอกันก็จะไม่ทัน
กำหนดเวลาที่วางแผนไว้ และทุกท่านก็ต้องรับประทานอาหารเช้าด้วยประกอบกับ
อ.เจน ต้องการให้ทุกท่านได้พักผ่อนกันให้เต็มที่จากการนอนดึกเมื่อคืนนี้
จะได้เดินชมบรรยากาศยามเช้าในบริเวณรีสร์อทแบบสบาย ๆ ค่ะ
ซึ่งทางรีสร์อทเขาจัดได้น่ารักมากนะคะมีลูกทัวร์ท่านหนึ่งมาแอบกระซิบชมกับดิฉันว่า
บรรยากาศดีมาก ที่พักจัดน่ารักมากวิวทิวทัศน์ก็สวยค่ะ อ.เจน
จึงมอบหมายให้ทีมงานไปเป็นตัวแทนแกะบล็อกเทียน ส่วนอ.เจน อยู่ทางนี้ก็
อยู่ดูแลอาหารการกินให้แก่ทุกท่านในยามเช้านี้ค่ะ
แกะบล็อกเทียน  เมื่อคณะทำงานไปถึงสำนักปฏิบัติธรรมฯในเช้านี้
ก็รีบทำหน้าที่กันอย่างกุลีกุจอ  แหมดิฉันคิดว่าเป็นงานง่ายๆ อย่างที่เคยทำค่ะ
มันไม่ง่ายเลยในการแกะบล็อกต้นเทียนในครั้งนี้และไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์
อย่างนี้มาก่อน เนื่องจากบล็อกเทียนนี้เราใช้หล่อเทียนมาแล้ว 3 ครั้ง
แกะบล็อกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-10ครั้ง แต่มาวันนี้ เกิดอะไรขึ้น
ในครั้งแรกดิฉันได้กระหยิ่มยิ้มย่องว่าหวานหมูเราแล้วล่ะ ง่ายจะตายเดี๋ยวจะ
โชว์ให้น้อง ๆ ดู เพราะว่าดิฉันเคยทำมาแล้วครั้งก่อน แค่นำตุ้มมุ่ยฆ้องเอามา
ตีกะเทาะเบ้าเทียนแป๊บเดียวเคาะด้วยมุ่ยเพียงทีสองทีก็ออกแล้ว แต่ครั้งนี้
ทำไมแท่งเทียนไม่หลุดออกเกิดอะไรขึ้นกับต้นเทียน เราก็พยายามกันมากค่ะ
จากอากาศเย็นกลายเป็นอากาศร้อนแล้วจะทำยังไงดี ๆ
พวกเราทุกคนก็บ่นกันอย่างเครียดกันมากค่ะ ทุกคนพยายามและช่วยกัน
จึงได้ให้ช่างรับเหมาไปเอาค้อนปอนเหล็กมาทุบซึ่งก็ทุบเสียจนเบ้าหลอม
ที่เป็นเหล็กแตกยับเยิน เมื่อไม่ออกจริง ๆ ก็จับกระแทกเหมือนกับการลง
เสาเข็มแบบฮุยเลฮุยๆ ประมาณนั้นเลยค่ะ บล็อกนี้ราคาต้นละ 8,000 บาท






  อ.เจน สั่งทำมาก็เพื่อไว้ใช้ในการหล่อเทียนเมื่อมีเทศกาลหล่อเทียนพรรษา
ดิฉันสุดแสนเสียจะดายที่เห็นมันเยินขนาดนั้นค่ะ
ต้นเทียนต้นที่ อ.เจน เบิกฤกษ์นั้นแกะออกมาได้สวยงามแล้ว
แต่ต้นเทียนอีกต้นหนึ่งสิค่ะทำไม และทำไม ถึงตอนนั้นก็ยังคิดกันไม่ออกว่า
ทำไม มีเหตุใดถึงเป็นแบบนี้กระทุ้งจนพื้นสะเทือนก็ไม่สามารถที่จะนำ
แท่งเทียนออกมาได้เลย
แกะต้นเทียนไม่ออกทำไงดีแต่เมื่อช่วยกันสำรวจดูว่าเกิดความผิดอะไร
กับต้นเทียนต้นนี้ จึงพบว่า ที่ส่วนปลายฐานของต้นเทียนนั้น
เป็นหลุมลึกเข้าไปในต้นเทียน รอยหลุมลึกนั้นก็ผิดรูปผิดร่างประหลาดมาก
ถ้าจะบุ๋มลึกลงไปก็น่าจะเสมอและเท่า ๆ กันสิ แต่นี่มันไม่เป็นอย่างนั้น
ส่วนต้นเทียนที่ อ.เจน เป็นผู้เบิกฤกษ์ที่ใต้ฐานเรียบสวยไม่มีร่องรอย
ผิดปกติแต่อย่างใด
แต่ตอนนี้เราไม่สนใจแล้วว่าที่ใต้ฐานจะเป็นยังไงขอเพียงตอนนี้ต้องแกะ
แท่งเทียนให้ออกมาให้ได้ ดังนั้นทุกคนช่วยกันคิด คิด และ คิด
สรุปได้ว่าต้องนำเทียนต้นนี้มาปิ้งย่างจึงทำการจุดกองไฟขึ้นมาใหม่
แล้วนำบล็อกต้นเทียนไปลนไฟเพื่อให้ลำต้นร้อนและละลายจะได้คลายออกมาได้
ในขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าจะสงสารใครดีเหมือนกันเพราะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดต้องทำให้สำเร็จค่ะ

การเอาท่อนไม้มาสุมกองจุดไฟทำให้เขมาควันดำกลับมารมตัวพวกเรา
แทบจะสำลักควันจะหลบทิศทางลมก็ไม่ได้ เพราะเราตต้องช่วยกันต้อง
เสียสละตนเองค่ะสำลักควันกันไปย่างต้นเทียนกันไปค่ะ
ทุกคนก็ช่วยกันยกแท่นเทียนลงเป็นแนวนอนเพื่อปิ้งย่าง น้องดิว  
และ น้องเก่ง ช่วยจับหัวและจับท้าย หมุนปิ้ง คุณมิตร  คุณภุชงค์
คอยช่วยอีกแรงพวกผู้หญิงก็ช่วยกันยกมาตั้งหลักใหม่เพื่อช่วยกันตอก
กะเทาะเบ้าหลอมค่อย ๆออกมาได้แล้วก็ดีใจ แต่เมื่อออกมาได้สักพัก
ต้นเทียนกลับย้วยไปย้วยมาไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อนค่ะ

คุณรุ้ง เห็นท่าไม่ดีและรู้ได้ด้วยญาณวิถีของตนเอง โดยพูดว่า
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญและไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว มันต้องมีเหตุอะไรเป็นแน่ค่ะ
สักพักหนึ่งคุณรุ้ง ก็สั่งการให้ทุกคนอุ้มแท่งเทียนมาวางไว้บนโต๊ะยาวสีขาว
แล้วนำบล็อกมาวาง คุณรุ้ง จำเป็นต้องใช้บารมีของตนเองแล้วอธิษฐานว่า
หากลูกมีบารมีเพียงพอที่จะทำต้นเทียนนี้ให้เป็นต้นเทียนที่สำเร็จพร้อม
ที่จะนำไปถวายวัดแล้วขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้หล่อหลอมแท่งเทียนนี้ขึ้นใหม่
ได้ตรงตามที่ต้องการ แล้วคุณรุ้งก็ค่อยๆ ดันแท่งเทียนที่ถอดออกมา
ย้อยย้วยนี้ดันกลับไปใหม่ดิฉันเห็นกะตาเลยว่ามันทั้งย้อยทั้งย้วยจะ
ดันกลับเข้าไปคงยาก แต่คุณรุ้งเล่าให้ดิฉันฟังในภายหลังว่า
พี่ตอนนั้นหนูอธิษฐานจิตแทบทรุดและค่อยๆให้แท่งเทียนที่ย้วย
แข็งตัวแล้วกลับเข้าเบ้าที่เดิม หลังจากนั้นจึงสั่งการให้เปิดน้ำ
ผ่านสายยางลาดลดลำต้นเทียนช่วงนั้นคุณรุ้งได้กำหนดจิตตลอด
เพื่อให้บุญนี้สำเร็จค่ะส่วนตัวของดิฉันเองยังคิดว่าคุณรุ้งจะดันเข้าไปได้อย่างไร
ทำคนเดียวด้วยนะค่ะทุกคนก็เห็นกับตาค่ะ

บุญสำเร็จแล้ว ก็ เย้ๆๆๆ ใส่รถกระบะกลับมาที่รีสอร์ทค่ะ
ระหว่างทางคุณรุ้งจึงพูดขึ้นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังจะตักเตือนอะไรเรา
บางอย่างเราจึงได้รู้แล้วในวันนี้เรื่องมันมีผลสืบเนื่องมาจากเมื่อคืนค่ะ
ก็เป็นเพราะ อ.เจนไม่ได้เบิกฤกษ์ต้นเทียนที่นำแท่งเทียนออกมาอย่าง
ยากลำบากต้นนี้เพราะผู้ที่ทำการเบิกฤกษ์ต้นเทียนได้ต้องมีบารมีด้วย
ซึ่ง อ.เจนเขาไม่ได้คิดอะไรแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาให้รู้เขาไม่อนุญาต
จึงทำให้เกิดเหตุและให้เราได้รู้ด้วยค่ะไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้นะคะ
ตามคำโบราณว่าเอาไว้ ดังนี้ “แข่งเรื่อ แข่งแพยังพอสู้
แข่งวาสนาสุดรู้ต้องล่าหนี “หมายถึงเรามีแรงกำลังจ้วงฝีพายสู้สู่ชัยชนะได้
แต่เราแข่งวาสนาบารมีกันไม่ได้ค่ะและเราก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าใครเขามีบุญ
บารมีมากน้อยเพียงใดการสะสมบารมีต้องใช้เวลาสะสมมาหลายภพ
หลายชาติค่ะ อย่างเช่น อ.เจนได้สะสมบารมีมาหลายภพหลายชาติ
เกิดมาชาตินี้จึงเป็นผู้มีญาณค่ะ



มีเรื่องเล่าขำขำ  เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจำไม่ได้แล้วค่ะ
แต่ต้องเป็นหลังจากที่ อ.เจน ได้นำพาทุกท่านมาหล่อเทียนพรรษา
ที่สำนักปฏิบัติธรรมฯแห่งนี้ค่ะ เนื่องจากว่า ในครั้งนั้นยังมีก้อนเทียนหลง
เหลืออยู่มากสามารถหล่อต้นเทียนได้อีก 4 ตันแต่คณะบุญเราจะอยู่หล่อ
ต่ออีกวันก็คงเป็นไปไม่ได้ อ.เจน จึงบอกแก่ลูกศิษย์ลูกหาว่าก้อนเทียนที่
เหลือนี้เราจะต้องทำตามเจตนาบุญที่ผู้คนได้จบอธิษฐานเอาไว้ให้สำเร็จ
เรียบร้อยก็ได้มีการกำหนดนัดวันกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ปรากฏว่า
แต่เนื่องจากว่า ดิฉันกับน้องทีมงานบางคนไม่สามารถจะไปได้เพราะ
เป็นวันธรรมดา ดิฉันและน้อง ๆก็แจ้งทีมที่ว่างไปช่วย อ.เจน ดิฉันไม่ว่างแน่ ๆ
ค่ะหลังจากนั้นงานก็ยุ่งทุกคนจนลืมการไปหล่อเทียนนี้เลยค่ะ
อ.เจน ได้นั่งสมาธิก็มีเสียงมาบอกกล่าวว่าให้ไปหล่อเทียนให้เสร็จอย่าลืม
และให้ เก่ง เป็นผู้ไปร่วมหล่อเทียนในครั้งนี้ด้วยเพราะ เก่ง
เป็นเจ้าหน้าที่ในนรกภูมิภพภูมินรกรอคอยอานิสงส์บุญจากการหล่อเทียน
เขารอนานแล้ว เท่านั้นแหละ อ.เจน ก็ Lineกลุ่มแจ้งผู้ที่ว่างจากการงาน
ให้ไปช่วยกันโดยด่วน แต่ยังไง ๆดิฉันก็ไปไม่ได้ค่ะ แต่เสียงนั้นระบุ
ชื่อ เก่ง เป็นตัวผู้ถูกส่งเข้าประกวดเป็นผู้ถูกเลือก อ.เจน ก็ได้แจ้งว่า
ยังไงก็ตามน้องเก่งต้องลางานไปให้ได้ผู้ใดไม่ว่างก็ไม่เป็นไรทาง
นรกภูมิขอมา ท่านขอมา อ.เจน จัดให้ค่ะดิฉันยังจำได้เลยวันนั้น
น้องเก่ง คงงานยุ่ง เมื่อได้เห็น Line กลุ่ม เชิญหล่อเทียน น้องเก่ง
อ่านไม่ละเอียดก็ตกใจมาก Line ถามกลับมาว่า “อาจารย์ครับ
ผมกำลังจะตายแล้วหรือครับ”โอ้ย วันนั้น ฮา กันมากน้องเก่ง
อ่านไม่ละเอียด น้องมัน..เอ๋อ..แบบ Error



สำหรับดิฉันแล้วในใจคิดว่าอยากไปทำบุญหล่อเทียนนี่มากเพราะเป็นบุญใหญ่
หล่อเสร็จถวายเลยได้อานิสงส์ทันทีค่ะแต่หน้าที่การงานก็สำคัญหยุดไม่ได้ช่วงนั้น
ใจนะตามไปเขาแล้วจำวันที่ไม่ได้ค่ะแต่วันช่วงเวลาได้ ก่อนวันที่ อ.เจน
จะเดินทางไปนั้นดิฉันได้รับมอบหมายให้ไปทำงานจังหวัดพิจิตร
ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันกับ อ.เจนจะไปเพชรบูรณ์  
จิตคนเรานี่สำคัญนะค่ะจิตอยากจะไปททำบุญหล่อเทียนก็ต้องได้ไป
เพราะสุดท้ายดิฉันก็ไม่ต้องไปทำงานนั้น และได้มางานบุญหล่อเทียนนี้ได้ค่ะ
แปลกแต่จริงคนเราจะได้มีส่วนร่วมนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในวันยังค่ำค่ะ อะไรก็หยุดไม่ได้ค่ะ
ซึ่งดิฉันก็ได้มีส่วนช่วย อ.เจนในวันนั้นก็นับว่ามีประโยชน์ที่ได้มาช่วย
อ.เจน เพราะว่า เอาเข้าจริง อ.เจนกับคุณรุ้ง ก็มีภารกิจยุ่งอยู่กับการเทียวไป
เทียวมาซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆมาส่งให้ช่างรับเหมาเพราะช่างต้องรีบใช้งาน
อ.เจนจึงไม่มีเวลาที่จะมาทำการหล่อเทียน แต่เดชะบุญที่ดิฉันมาช่วย
จึงได้รับมอบหมายจากอ.เจน และคุณรุ้ง ให้เป็นผู้ควบคุมดูแล คุณมิตร
และน้องเก่งเพราะเป็นผู้ชายอาจจะทำงานไม่เรียบร้อย  พอ อ.เจนกะคุณรุ้ง
ไปแล้ว โอย สนุกกันใหญ่ คุณมิตร ติดเตา น้องเก่ง พัดเตา
ดิฉันมีหน้าที่ชโลมน้ำมันภายท่อเบ้าหลอมเทียนตรึงใส้เทียน
พวกเราช่วยกันตั้งต้นเทียนทั้ง 4 ต้นเมื่อเรียบร้อยแล้วก็นำกระทะมาตั้งไฟ
เอาก้อนเทียนมาใส่ และพายกวนเทียนเราก็เริ่มทำการหล่อทีละต้น
จนถึงต้นสุดท้าย ดิฉัน ตตั้งใจว่าจะรอ อ.เจนกับคุณรุ้ง มาหล่อต้นสุดท้ายนี้ค่ะ
ก็รอจนเย็นอาจารย์ก็ยังไม่กลับมาเสียทีจึงได้โทรไปหาอาจารย์
ว่าเมื่อไหร่กลับค่ะ เราจะรออาจารย์ แต่อาจารย์ก็บอกว่าทำกันไปเลยค่ะ
ไม่ต้องรอหนู เดี๋ยวจะเย็นมาก ค่ะ เมื่อได้รับบัญชาก็จัดเลยค่ะแต่ปรากฏว่า
มีรอยรั่วที่ฐานต้นเทียนไหลนองเป็นลาวา ไหลเป็นลำธารน้ำ เชียวค่ะ
ช่วยๆ กันหน่อยจะทำยังไงกันดีน้ำเทียนก็ไม่หยุดไหลแก้ไขเบ้าหล่อยังไง
ก็น้ำเทียนไหลออกมาอีกนองพื้นค่ะ แต่เรื่องนี้เราต้องช่วยกันเรา 3 คน
และก็รีบทำลายหลักฐานลาวาน้ำธารไหลของเราด้วยตกลงกันตามนั้นว่า
ต้องทำลายหลักฐาน และแล้วอาจารย์ก็กลับมาพบหลักฐานคาตา
คุณมิตรก็พูดเสียงเนิบ ๆ ว่าไม่ท่านแล้วครับคุณจี๊ด อาจารย์มาแล้วครับ
อ.เจน กับคุณรุ้งก็มาช่วยกันซ่อมต้นเทียนต้นสุดท้าย และก็พูดว่า
ยังไง ๆบุญก็จัดสรรให้หนูได้มาหล่อเทียนร่วมกันได้ แล้ว อ.เจน กับ
คุณรุ้งก็เป็นผู้เติมน้ำเทียนที่ฐานต้นเทียนทุกต้นค่ะ นั้นค่ะและสามารถ
ถอดเทียนได้อย่างง่ายดายค่ะ
ปัญหา คือ เทียนต้นสุดท้ายมันเตี้ยค่ะเพราะเสียหายไปกับที่ดิฉันและพวก
ได้ทำน้ำเทียนไหลเป็นลาวาหมดไไปพอสมควรวันรุ่งขึ้นนำเทียนไป
ถวายวัดแรกพระท่านดีใจมากท่านบอกว่าสวยมากจะนำไว้โชว์งาน
ลอยกระทงในวันรุ่งขึ้นเป็นวันลอยกระทงพอดีค่ะส่วนต้นที่สองก็ไป
ถวายอีกวัด แต่คุณรุ้ง บอกว่าเทียนคู่นี้มองกี่ครั้งก็สะเทือนใจค่ะ
เหมือนกับนิ้วชี้กับนิ้วกลางลองทำนิ้วดูสิค่ะ ประมาณนั้นแหละค่ะ
วันหลังไปวัดนี้ก็ยังเห็นอยู่เลยค่ะ คุณรุ้งบอกว่าไม่อยากหันไปมองเลยค่ะ
พระท่านคงสงสัยว่า ทำไมทำเทียนต้นไม่เท่ากันมาค่ะดิฉันยังอุตส่าห์
เสนอหน้าไปบอกท่านว่า ทำเองค่ะท่านสุดท้ายผู้มีบารมีอย่างอาจารย์
ก็มาหล่อเทียนให้สำเร็จค่ะ เรื่องมันยาวค่ะ
เมื่อได้ต้นเทียนคู่นี้มาแล้วก็เดินทางกลับมาที่รีสอร์ทโดยนั่งท้ายรถกะบะ
มาด้วยกันก็มมี น้องเก่งจับคู่มากับคุณภุชงค์ลุงชัยจับคู่มากับน้องดิว

ดิฉันกับคุณรุ้งพอมาถึงรีสอร์ททุกคนเตรียมเดินทางกันแล้ว อ.เจน
บอกว่า ต้องไปกันแล้วอ้าวไม่ได้อาบน้ำกันละสิ ขอเปลี่ยนชุดก็ยังดีค่ะ
สรุปทุกคนที่ไปแกะเทียนไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลยค่ะต้องไปแล้ว



ล่องแพ อ.เจน นำทุกคนไปแวะจุดชมวิวสวย ๆ และพาไปล่องแพกันค่ะ

ซึ่งอ.เจน เห็นว่าทีมงานยังไม่ได้กินข้าวก็อุตส่าห์ไปซื้อไก่ย่างให้พวกเรา
ได้ไปกินกันในแพดิฉันและน้อง ๆ ก็ขอบคุณค่ะ   

อ.เจน เช่าไว้หลายแพ ๆ ละ 20 คน รวม 6 แพค่ะ ก็สนุกกันใหญ่
อากาศก็ดี้ดี ลมพัดเย็น ๆ ค่ะการจัดการที่นี่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ก็เพราะเขาจะมีเรือเล็กมาลากแพออกไปโดยผูกแพไว้ทุ่นทีละทุ่น
ให้แพผูกอยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ เมื่อมารวมตัวกันแล้วแต่พวกเราก็ไม่สนใจ
เพราะอยู่ในแพก็สนุกเม้าท์กันอยู่แล้วค่ะ คุณรุ้ง และดิฉันจึงเล่า
ประสบการณ์ขนหัวลุกให้ทุกคนฟัง เรื่องที่โดดเด่นที่สุดที่ได้ประสบมา
ก็คือเรื่อง ผีแพ ค่ะ

แพหลุดลอย  เมื่อ อ.เจนเห็นว่าได้เวลาแล้วแต่คนขับเรือเล็กก็ยังไม่มารับ
โดยปล่อยลอยแพอยู่อย่างนั้นแต่เนื่องจาก อ.เจน ยังไม่ได้หาวัดที่จะ
ไปถวายเทียนคู่เลยค่ะ เพราะ อ.เจนตั้งใจว่า จะทำบุญแบบไม่เจาะจงจะ
ได้บุญกุศลใหญ่มาก  แพก็ยังไม่กลับฝั่งเสียที อ.เจน รระหว่างที่คิดอยู่นั้น
จึงมีเสียงพูดว่า ยังไม่ถึงเวลาถวายรอเวลาก่อน  อ.เจน บอกคุณรุ้งว่า
มีเสียงให้รอยังไม่ถึงเวลา ค่ะ  แต่เวลาได้ล่วงเลยมานานคนขับเรือเล็ก
ก็ไม่มาเสียที อ.เจนจึงกำหนดจิตขอให้คนขับเรือกลับมารับแต่ก็ยังไม่มา
ขณะนั้น คุณรุ้ง กับดิฉันก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ จบพอดีพอจบปุ๊บแพหลุดออก
จากทุ่นแแล้วก็วิ่งฉิวเลยค่ะสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในแพ
ถ้าไม่มีใครรู้ความจริงก็จงรู้ไว้ว่าแพมันหลุดเองและวิ่งฉิวจนน่าตกใจ
เหมือนกับว่าหยุดได้แล้วได้เวลาของเธอแล้วอะไรทำนองนั้นค่ะ
อาหารกลางวัน  กลับขึ้นจากฝั่งทุกคนก็เดินทางไปรีสร์อทโดยนั่งรถตู้
เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน เคล้าเสียงดนตรีเพื่อชีวิตเสียด้วยค่ะ
ระหว่างที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารกันอย่างได้รสชาติอยู่นั้น
อ.เจนก็ไปกับคุณมิตร โดยขอให้เทวดานำพาไปหาวัดที่จะถวายเทียนคู่
และถวายสังฆทานสักพักหนึ่ง อ.เจน ก็กลับมาเคลียค่าที่พักส่วนที่เหลือ
และนำพาทุกคนไปวัดต่อค่ะ

6. วัดบ้านโภชน์  
เมื่อมาถึงวัด อ.เจน ก็นำพาทุกคนแห่งเทียนคู่ สวดอิติปิโสฯ เวียน 3 รอบ
แห่เทียนเข้าโบสถ์ ถวายสังฆทาน ที่วัดนี้สงบดีค่ะพระท่านให้ศีลให้พร
ด้วยความปิติซึ่งใจ ท่านพูดว่าโยมผู้นำบุญเป็นใครอาตมาไม่รู้จักมาก่อน
แต่ผู้นำพานี้เป็นผู้นำที่คิดดีทำดีมีจิตในเป็นกุศลนั้นย่อมมาถูกทางแล้ว
หลังจากนั้นก็ได้ปะพรมน้ำมันให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมบุญทุกท่านค่ะ
ปิติใจมากค่ะดิฉันไม่ทราบว่า ทุกท่านรู้สึกอย่างไร แต่ดิฉันรู้สึกว่า
อ.เจนได้นำพาพวกเราไปทำบุญอย่างเต็ม ๆ อย่างที่ไม่มีใครกล้าทำกล้าจัดค่ะ





7. วัดถ้ำสวรรค์บันดาล
ดิฉันกระโดดลงจากรถตู้หมายเลข 6 มาอยู่ที่รถตู้ตั้งแต่ออกจากรีสอร์ทแล้ว
เพราะว่ามอบหมายให้น้องเก่ง ไปนั่งแทนดิฉันย้ายมานั่งรถปาเจโร่ของ
อ.เจน แทน ขณะนั้น อ.เจนบอกกับคุณรุ้งว่า จะพาทุกคนไปทำบุญต่อที่ไหนดี
ยังไม่รู้เลยค่ะ ขณะที่ อ.เจนพูดอยู่นั้น แต่แล้วอยู่ ๆ ที่มือถือของ อ.เจน
ก็เด็งขึ้นมาว่า วัดถ้ำสวรรค์บันดาลอ.เจน ก็ร้องบอกว่า
ประหลาดจังหนูยังไม่ได้กดอะไรเลย ชื่อวัดนี้ก็ขึ้นมาที่หน้าจอดิฉันก็จึงบอก
อ.เจน แสดงว่า เทวดาท่านช่วยแล้วค่ะ จัดไปค่ะอาจารย์  
คำสั่ง คุณมิตรขับไปที่วัดนี้เลยค่ะแล้วก็เหลือบไปเห็นป้ายวัดสวรรค์บันดาล
ขับไปพบพระสงฆ์ท่านหนึ่งท่านก็บอกว่าข้างบนนั้นมีถ้ำลองขึ้นไปดูสิโยม

อ.เจน พูดก่อนเข้าถ้ำให้ดิฉันและคุณรุ้ง ฟังว่า  ภายในถ้ำนี้เคยมีผู้คนจำนวนมาก
ได้หนีภัยสงครามโดยหนีเข้ามาภายในถ้ำพร้อมกับทรัพย์สมบัติและถูกระเบิด
ตายตายทั้งหมดแต่เมื่อเข้าไปข้างในจริง ๆ ก็มีพระสงฆ์ท่านนั่งอยู่ภายในถ้ำท่านเทศน์
ให้ฟังว่าที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้ของคนสมัยโบราณอยู่ในนี้เป็นจำนวนมาก
มีทั้งถ้วยชามรามไหและมีโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในถ้ำนี้เป็นจำนวนมากด้วยค่ะ
ซึ่ง อ.เจน ได้รู้ก่อนหน้าที่พระท่านจะเล่าให้ฟังเสียอีกค่ะ
ดิฉันว่าถ้าเขาไปคนเดียวก็คงจะน่ากลัวค่ะ  อ.เจน บอกว่าสถานที่แห่งนี้มีเจ้าที่
มีอำนาจมาก ท่านดีใจที่พวกเราจะเข้ามาทำบุญกันค่ะ


ถวายปัจจัยเงินแด่พระสงฆ์พระสงฆ์ที่เฝ้าอยู่ภายในถ้ำท่านก็อำนวยอวยพร
ให้กับคณะบุญของ อ.เจน ค่ะด้วยบุญกุศลที่ทำก็ ได้แก่ ญาติพี่น้องของผู้ร่วม
บุญและรวมถึงพวกสัมภเวสีทั้งหลายนั่นแหละค่ะ
สิ่งเล้นลับภายในถ้ำให้หวย  อ.เจนเล่าให้ฟังตอนที่กลับบ้านแล้วว่า
ภายในถ้ำนั้นไม่ธรรมดา อ.เจนบอกว่าหันไปกี่ครั้งก็เห็นตัวเลขที่ผนังถ้ำ
อ.เจน เห็น เลข 2 ตัว  คือ ........... บอกไม่ได้จริง ๆ ค่ะเดี๋ยว อ.เจน
จะว่าดิฉันเอาได้ค่ะ ขอโทษจริงจริ้งค่ะ

8. วัดถ้ำแก้วกายสิทธิ์
ระหว่างเดินทางออกมาจากวัดถ้ำสวรรค์บันดาลนั้น คุณรุ้ง และดิฉันก็ถามอาจารย์
ว่าที่วัดข้างหน้าเป็นทางผ่าน  อ.เจนจะแวะอีกสักวัดมั้ยค่ะ
วัดนี้ชื่อแปลกดูมีอภินิหารชอบกล  อ.เจน บอกว่า ยังพอมีเวลาแวะค่ะ
ผู้ร่วมบุญเขาจะได้ทำบุญกันมาก ๆ ค่ะ

เมื่อถึงวัด อ.เจน ก็ได้พบกับแม่ชีท่านหนึ่งออกมาต้อนรับคณะด้วยใบหน้า
ที่มีความสุขท่านบอกว่าที่วัดนี้ต้องการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมให้แก่ผู้ถือศีล
เห็นมั้ยค่ะยังมีบุญดีดีทั้งนั้นที่พวกเราจะได้ช่วยกันสืบสานพระพุทธศาสนา
ค่ะเหมือนบุญจัดสรรมาให้ค่ะ อ.เจน บอกว่าอย่างนั้นเพราะว่าพวกเรา
ได้นั่งสมาธิกันสักพักพระสงฆ์ท่านก็มารับสังฆทานปัจจัยเงินของคณะบุญที่ร่วมกันในครั้งนี้ค่ะ

ดิฉันได้อ่านความประทับใจที่มีหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงาน
บุญของอ.เจน พูดถึงความประทับใจที่ได้ไปมาแต่ยังมีมอีกหลายท่านที่
ต้องการจะแสดงความประทับใจกับเขาบ้างแต่ก็ไม่สามารถที่จะเขียนถึง
ความในใจความประทับใจ หรือต้องการจะเขียนออกมาจากใจให้มากกว่าที่
เขียนเสียอีกค่ะแต่คงจะบรรยายไม่ถูกคือเข้าใจค่ะเหมือนกับว่ามันสามารถ
เก็บตราตรึงไว้ในความทรงจำให้จดจำไว้ตราบนานเท่านานจนไม่สามารถ
จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดหรือบรรยายเป็นตัวอักษรได้ค่ะ

สุดท้ายนี้ ดิฉันมีความประทับใจมากกับบุญดีดีที่ อ.เจนจัดสรรให้อย่างฉุกเฉิน
แม้ตัวดิฉันเองยังรู้ก่อนหน้าคณะไม่กี่วันเองค่ะ เพราะ อ.เจนและคุณรุ้ง
ได้จัดการกันอย่างเร่งด่วนและรวดเร็วมากค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับ
อ.เจนที่คิดงานบุญดีดี และ คุณรุ้ง ที่เป็นหลักสำคัญ รวมทั้งทุกท่านที่มี
เจตนาบุญร่วมกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ในครั้งนี้ค่ะ









โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 15:49:34 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
















































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 15:53:29 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2015-1-5 15:54

























































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
5#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 15:56:21 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้



















โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
6#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 15:58:19 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้





















โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
7#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 16:00:35 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2015-1-5 16:35








































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

แสดงความคิดเห็น

ขอร่วมอนุโมทนาสาธุกับอาจารย์เจนและคณะค่ะ  โพสต์เมื่อ 2015-1-8 11:16

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
8#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 16:04:05 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2015-1-5 16:07









































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
9#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 16:10:28 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2015-1-5 16:12





















































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

544

กระทู้

2770

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20775
10#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-1-5 16:15:01 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้


















































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2025-7-2 13:02 , Processed in 0.125197 second(s), 22 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้