ร่วมอนุโมทนาบุญ ทัวร์ลี้ลับ 6 บุญสำเร็จแล้วค่ะ

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ไปร่วมบริจาค

เงินทอดผ้าป่าสามัคคี รวม 4 วัด สำหรับบุญลี้ลับ 6 ที่ได้ร่วมเดินทางกันไปตั้งแต่วันที่

8-12 มิ.ย.60 นี้ ดิฉันมีความประทับใจมากที่ทุกท่านได้ให้ความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจ

เดียวกันจนทำให้บุญที่ทุกท่านได้ตั้งจิตตั้งใจเป็นบุญที่สมควรแล้วตามเจตนาของบุญ

ทุกประการแล้วค่ะครั้งนี้ ดิฉันได้ทำบุญรวม 4 วัด ดังนี้ค่ะ

วัดที่ 1  ดิฉันมีความประทับใจในบุญกุศลที่ทุกท่านได้บริจาคปัจจัยซื้อปูนตำถวายคณะสงฆ์

ตามที่เทวดาท่านได้มาบอกกล่าวให้รู้ว่าบุญที่ทำปูนตำเป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญมากค่ะซึ่งมา

บัดนี้ได้ทำบุญดังกล่าวสำเร็จแล้วค่ะ ดิฉันปลื้มปิติใจที่ทุกท่านร่วมใส่บาตรข้าวสวยถวายภัตตาหาร

ทอดผ้าป่าฯ ปูนตำ และถวายสังฆทาน  

ดิฉันได้จัดกิจกรรมเพื่อทุกท่านได้อิ่มบุญอิ่มสุขค่ะเนื่องจากคนขับรถต้องพักผ่อนจากการขับรถ

ตู้ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าจำเป็นต้องพักผ่อนเพื่อทุกท่านจะได้ปลอดภัยจากการเดินทางไปทำบุญค่ะ

ซึ่งดิฉันได้เห็นว่าทุกท่านมีความสุขกับการนั่งเรือสปีดโบ๊ตและชมปะการังใต้ทะเล  

วัดที่ 2 ความประทับใจที่ได้นำพาทุกท่านทอดผ้าป่าฯสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์

สถานให้แก่ชนรุ่นหลังได้กราบไหว้บูชา ซึ่งดิฉันเองได้รู้ว่า ต่อไปสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่คนทั่วโลก

และได้มาเยี่ยมเยือนถือเป็นบุญกุศลของทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในบุญกุศลนี้ค่ะ

ดิฉันมีความประทับใจหลวงตาที่เทศน์สั่งสอนเรื่องการถือศีล 5 เพราะเป็นหัวใจสำคัญของ

พระพุทธศาสนาค่ะและเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่มนุษย์ทำได้ยากมากค่ะ  และเข้าใจหลวงตาที่

ได้ต่อสู้ฝ่าฟันทุกอย่างกว่าจะได้สอนชาวบ้านให้ปฏิบัติธรรมจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

วัดที่ 3  วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่มากและได้ทอดผ้าป่าฯ สร้างศาลามณฑปหลวงปู่รอดตามที่ดิฉัน

ตั้งใจเพื่อให้ได้ยอดเงินแสนบาทขึ้นไปแล้วก็ได้ตามนั้นจึงทำให้ดิฉันรู้สึกยินดีกับทุกท่านที่ได้

ทำบุญที่สำเร็จเสร็จโดยฉับพลันค่ะเพราะทางวัดยังขาดปัจจัยในการก่อสร้างแสนกว่าบาทค่ะ

ดิฉันได้เห็นในญาณวิถีว่า เมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา คณะบุญของเราเคยเป็นข้าราชบริพาร

เฝ้าดูแลอยู่ที่วัดนี้และมีเทวดามากันเยอะมากค่ะ

ดิฉันจัดกิจกรรมผ่อนคลายสำหรับทุกท่านนะค่ะโดยการเดินป่าล่องเรือ ล่องแพ ซึ่งดิฉันเห็นว่า

ทุกท่านสนุกมากพอสมควรค่ะ

วัดที่ 4  ดิฉันนำทุกท่านทอดผ้าป่าฯสร้างศาลาอเนกประสงค์สอนปฏิบัติธรรม และประทับใจปิติใจ

ที่ท่านเจ้าอาวาสในวัยที่ชราภาพแต่ท่านนำชาวบ้านเดินจงกลม นั่งสมาธิ และสอนชาวบ้านให้

ปฏิบัติธรรมโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคอะไร เป็นที่น่านับถือศรัทธามากค่ะ ที่วัดแห่งนี้มีเทวดาและ

เจ้าป่าเจ้าเขามาร่วมอนุโมทนาบุญกันมากดิฉันก็ปิติใจมากนะค่ะที่บุญของเรานั้นสะเทือนเลื่อนลั่นไปถึงสวรรค์ค่ะ

ที่ดิฉันประทับใจมากขึ้นไปอีกก็ช่วงที่เทวดาท่านแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เกิดพระอาทิตย์ทรงกรด

ให้เห็นเป็นประจักต่อสายตาผู้คนที่ไม่เข้าใจในบุญกุศลของคณะบุญลี้ลับ6 นี้ค่ะ

การทำบุญทั้ง 4 วัดดังกล่าวเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลที่ทุกท่านได้สะสมเป็นเสบียงเอาไว้

ซึ่งเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวบุญกันนะค่ะโดยนับจากน้อยไปหามากแม้ตายไปก็

ไม่เสียดายที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ค่ะ  ดังนั้น ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ช่วยกันบริจาค

จนเกิดบุญที่สำเร็จ สาธุค่ะ

อ.เจน ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

สวัสดีค่ะทุกท่าน จี๊ดมีความปิติใจมากและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคปัจจัยจนทำให้ได้เงินสร้างวิหารทานต่างๆ ตามที่ได้มีความตั้งใจและมีวัตถุประสงค์แห่งบุญแล้ว จี๊ดเชื่อว่า
ทุกท่านคงจะอิ่มบุญกุศลกับบุญกุศลที่อ.เจน นำพาไปสำหรับบุญทัวร์ลี้ลับ 6และมีความรู้สึกที่ชื่นมื่น
ชื่นอกชื่นใจกับกิจกรรมต่าง ๆ คือมันสนุกมาก ๆขนาดจี๊ดป่วย ๆ อยู่ยังสนุกเลยค่ะ
คณะบุญฯ ออกเดินทางไปกันตั้งแต่เย็นวันที่ 8 และเดินทางกลับในวันที่ 12 มิ.ย.60 นี้ จี๊ดดีใจในทุก ๆ
ทริปนั่นแหละค่ะ แต่ความประทับใจมันแตกต่างกันไปทุกครั้งเลยค่ะและครั้งนี้ก็เช่นกันนี่เป็นการ
สะสมคะแนนบุญเป็นการสร้างบารมีบุญของทุกคนเลยจี๊ดว่างั้นนะค่ะไม่เชื่อก็มาลองคิดดูสิค่ะ
“เมื่อหวนคิดถึงการทำบุญของเราที่ผ่านมาทีไรก็สุขใจทุกทีค่ะ
จี๊ดจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ทำบุญที่สำเร็จแล้วนั้นมีอะไรบ้างและจะเล่าอย่างละเอียดเลยนะค่ะ
เพื่อทุกท่านที่ไม่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปด้วย และเพื่อทุกท่านที่บริจาคโอนเงินกันมาร่วมบุญ
จะได้รับรู้ว่าอ.เจน ได้นำพาไปทำบุญอะไรกันบ้าง เพื่อจะได้มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะค่ะ
ทำบุญ 4 วัด จี๊ดมีความประทับใจมากแทบทุกวัดนะค่ะเพราะนั่นเป็นบุญกุศลที่ทุกท่านได้กระทำ
ให้เกิดขึ้นและบุญนั้นสำเร็จลุล่วงไปแล้ว จี๊ดได้เห็นใบหน้าแห่งความสุขเบิกบานในบุญกุศลของ
ผู้ทีได้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ทุกท่านดูมีความสุขใจมากเพียงแค่นี้จี๊ดก็ดีใจแทนอ.เจน ด้วยนะค่ะ
เชื่อว่า อ.เจน ก็มีความสุขที่ทุกท่านมีความสุขและจี๊ดก็มีความสุขไปด้วยค่ะ ถ้างั้นเรามาติดตามเรื่องเล่า
โดยเรียงกันตามลำดับเหตุการณ์กันเลยนะค่ะ



ตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดีที่ 8 มิ.ย.60 คณะฯเดินทางออกจากกรุงเทพฯคาดว่า ทุกคนคงลางาน
กันครึ่งวันหรือไม่ก็หยุดงานเป็นการล่วงหนาแล้วไม่งั้นไม่ทันค่ะก่อนออกเดินทาง อ.เจน แจกข้าวกล่อง
ขนม แสนอร่อย และน้ำดื่ม ทุกคนอิ่มแล้วนอนหลับคือนอนหลับกันในรถตู้ก็มีแวะเข้าห้องน้ำบ้างอะไรบ้าง
แล้วก็นอนหลับพอตื่นขึ้นมาอีกทีตกใจหมดเลยนี่พวกเรามาถึงจังหวัดภูเก็ตกันแล้วหรือนี่ทำไมเร็วจังค่ะ
  คณะฯ เดินทางนั่งรถตู้ 10 คัน คนนั่งคันละ 8 คน นั่งแบบสบาย ๆ นี่เป็นความใส่ใจของ อ.เจน
เป็นการบริการให้กับผู้เดินทางที่ได้รับความสะดวกสบายจากการเดินทางจี๊ดพูดเสมอ อ.เจน
ไม่ได้ทำเป็นทัวร์บุญแบบธุรกิจ แต่ทำเพื่อให้ทุกคนได้ทำบุญสร้างกุศลกันจริงๆ
เพราะการรวมตัวกันทำทบุญเป็นจำนวนมากสามารถนำเงินเข้าวัดบำรุงพระพุทธศาสนาได้มากค่ะ


วัดที่ 1  เช้าวันศุกร์ที่9 มิ.ย.60 คณะฯ เดินทางมาถึงวัดนี้เป็นแห่งแรกอ.เจนได้สั่งซื้อปูนตำบรรจุถุง
ป้องกันฝนโดยนำมาจากอีกจังหวัดหนึ่งและจ้างรถขนมาส่งให้ถึงวัดรถขนปูนตำมารอตั้งแต่ตี 3 แล้ว
คณะบุญเรามาวัดเช้ามากประมาณ 7โมงเช้า ทุกคนพร้อม อ.เจน ให้ทุกคนเข้าแถวตอนยาวแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการขนปูนตำเข้าวัดค่ะเมื่อเสร็จแล้วก็ลำเรียงสิ่งของสังฆทานมากองรวมกันไว้
บนศาลาซึ่งเจ้าหน้าที่วัดแต่งชุดขายทำท่าสมถะและเคร่งน่าเกรงขามมากมาแจ้งให้ อ.เจนนำของมาวางอยู่ที่จุดนี้
ใส่บาตรข้าวสวย  เจ้าหน้าที่วัดก็นำเสื่อสีแดงมาปูทอดยาวและแจ้งให้ทุกคนรับรู้ด้วยเสียงอันแข็ง
กระด้างมากว่าห้ามทุกคนเหยียบเสื่อสีแดงเพราะนี่เป็นเสื่อเป็นเส้นทางที่หลวงปู่เดินผ่านแหมตอนนั้น
จี๊ดรู้สึกเคร่งเชื่อฟังและศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่าแล้วก็รีบนำข้าวสวยที่ อ.เจนสั่งซื้อจากร้านค้านอกวัดพวกเรา
จ่ายเงินกันทุกคนเพราะจะได้เป็นบุญของตนเองข้าวสวยถุงเบ้อเร่อแล้วนำมาใส่ทองเหลืองที่จัดเตรียมมา
ก็มีขันทองเหลืองใบใหญ่ของอ.เจน ใบกลางเป็นของคุณรุ้งและใบเล็กสุดเป็นของจี๊ดเองค่ะทำไมต้องเตรียมมา
ถึงขนาดนี้ก็อยากจะได้ขันทองเหลืองขึ้นไปอยู่บนสวรรค์นะสิค่ะส่วนคนอื่นจี๊ดก็เห็นเขาจัดภาชนะมาใส่กันทุกคน
จะมีบางคนที่ไม่ทราบก็ใส่ในถุงตามนั้น
กรณีข้าวสวยใส่บาตรพระ  อ.เจนแจ้งกับแม่ชีว่ามีวัตถุประสงค์จะนำผู้คนมาใส่บาตรพระ แต่แม่ชีบอกว่าให้ใช้
ข้าวสวยของวัดจะไปหาซื้อมาทำไมใช้ข้าวที่วัดก็ได้ แต่ อ.เจน พูดกับจี๊ดว่าไม่ถูกต้องเพราะเป็น
ข้าวของวัดไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เงินของเรา เราจะไม่ได้บุญค่ะนี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ
เมื่อนำข้าวสวยใส่ขันทองเหลืองของเราแล้วอ.เจน คุณรุ้ง จี๊ด และน้องๆทุกคนก็ยืนเรียงกันเป็นแถวยาว
ไม่ยืนบนเสื่อสีแดงทำตามคำสั่งตามระเบียบทุกประการแต่แล้วก็โดนดุจนได้แต่ต้องเห็นใจนะค่ะขันทองเหลืองของ
อ.เจนใบใหญ่มากใส่ข้าวสวยแล้วก็หนักเพิ่มขึ้นไปอีกจึงทำให้ อ.เจนนำเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินมา
ตั้งวางขันทองเหลืองของตนเองก่อนโดยเห็นว่าพระสงฆ์ยังไม่มาหากท่านมาแล้วค่อยยกออกยังทัน
เพราะกว่าพระสงฆ์ท่านจะเดินมาถึงจุดนี้คงอีกนาน เพราะอ.เจน เป็นห่วงทุกคนจึงคอยดูแลและเดินไป
ตรวจแถวว่าเป็นระเบียบหรือไม่จึงไม่ได้ยืนอยู่ที่จุดนั้นแต่จี๊ดยืนอยู่จุดนี้เพื่อรอให้ อ.เจนกลับมาขันตัวเอง
ก็ต้องถือก็เห็นว่าเก้าอี้วางขันของ อ.เจน ก็ถูกต้องแล้วแต่มันไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ ดูดูเอาเถอะค่ะ
ก็มีเจ้าหน้าที่วัดท่าทางกระด้างและกร่างมากมาถึงก็ต่อว่านี่เก้าอี้ใครเอาออกไปรู้มั้ยตรงนี้ต้องเป็นคนยืนเท่านั้น
จี๊ดเห็นว่าเราจะใส่บาตรพระอย่าไปสนใจกับคนขี้โอ่นักเลงวัดที่ชอบข่มคนอย่างนี้เลยเพราะเรารู้ดีว่าเราจะต้อง
เอาเก้าอี้ออกอยู่แล้วเมื่อเห็นว่าเงียบไม่มีใครหืออือ ก็ย่ามใจพูดต่อไปว่า
รู้ไว้สะด้วยนะถ้าคิดจะใส่บาตรพระพระก็ต้องมาก่อน ไม่ใช่คนมาก่อนพระ
จี๊ดเริ่มของขึ้นก็หันไปมองหน้าเขาเลยค่ะและคิดในใจอะไรกัน แค่ยืนรอใส่บาตรพระเนี้ยะนำเออจี๊ด
ก็เห็นทุกคนยืนกันอย่างสำรวมเป็นระเบียบเรียบร้อย และมันจะอะไรหนักหนาก็แค่เก้าอี้ตัวพลาสติกตัวเดียว
แหมจี๊ดก็อดรนทนไม่ได้สะแล้ว แต่ก็อดกลั้นไว้ในใจก็คิดพระยังไม่มา และตรงนี้ก็เป็นจุดยืนของอ.เจน
ซึ่ง อ.เจน ไม่ได้ยืนอยู่ว่าง ๆ แค่วางเก้าอี้ไว้ก่อน พระมาก็เอาเก้าอี้ออก แต่คุณรุ้งไม่ต้องการให้มีเรื่อง
จึงสั่งให้ลูกศิษย์ยกเก้าอี้ออกไป และช่วยถือขันของ อ.เจน เอาไว้จนกว่า อ.เจนจะเดินกลับมายืนประจำที่
แต่เมื่อได้เห็นพระสงฆ์เดินนำขบวนมา จี๊ดเห็นแต่ไกล ๆ ทางปลายแถวโน้นจี๊ดก็ตื่นเต้นและเตรียมพร้อม
ที่จะทำการใส่บาตร ปิติใจมากว่า เออ เราจะได้ใส่บาตรพระแล้ว
แต่เมื่อพระสงฆ์ท่านเดินมาถึงจี๊ดก็อึ้งกิมกี่แบบพูดไม่ออก และคิด เออ นี่ เออ นี่คืออะไรกัน คือ
มีเพียงพระสงฆ์ 2 รูป และต่อจากพระสงฆ์ก็เป็นแม่ชี2-3 รูป และต่อจากแม่ชีก็เป็นผู้ถือศีล 8
ที่มาถือบวชที่วัดเดินเป็นแถวยาวต่อเนื่องกันมาค่ะ ซึ่งมีมากกว่า 20คน แต่มีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่กล่าวคำ
อนุโมทนา/สาธุซึ่งจี๊ดก็กล่าวอนุโมทนากับท่านไปด้วยค่ะ ยกเว้น ผู้บวชศีล 8 คนอื่นนะค่ะ ที่ไม่ได้กล่าวคำใด
และจี๊ดสังเกตว่ามีหลายคนที่ใช้ดินสอเขียนคิ้วจะเป็นผู้มีศีลครบอย่างไรเล่าโดยผู้ถือศีล 8 ไม่ควรกระทำนะค่ะ
เพราะผิดศีลแล้วตั้งแต่ต้นเนื่องจากมีข้อห้ามในศีลข้อเจ็ดผู้ถือศีลต้องปราศจากเครื่องหอม เครื่องประดับแต่งตัว
เครื่องประทินสวยงามรวมถึงการสนุกสนานจากมโหรสรรพดนตรี ต่างต่างนานาเมื่อคิดอย่างนี้แล้ว
จี๊ดจึงคิดในใจ ขณะใส่ข้าวลงไปในจานที่มารับบาตรแต่ละจ้วงตักข้าวใส่ลงไปในจาน จี๊ดจะตั้งจิตว่า
ข้าวสวยนี้ข้าฯได้ทำทานขออย่าให้ข้าฯ ได้อดได้อยากตลอดทุกชาติไปด้วยการทำทานนี้เมื่อทำ
อย่างนี้แล้วจิตจะไม่ตกไง คือจี๊ดคิดอย่างนั้นค่ะ  
แทนที่จะใส่บาตรพระสงฆ์หลายรูป แต่ต้องมาใส่บาตรกับผู้ถือศีล 8 เป็นจำนวนมากคือมึนอะค่ะ
ซึ่งครั้งแรก อ.เจนนิมนต์พระสงฆ์มารับบาตร ไม่ได้เชิญแม่ขาวมารับบาตร แต่การมารับบาตรด้วยการ
ใช้จานสังกะสีสะด้วยนะค่ะแต่จี๊ดก็ถือว่านี่เป็นการทดสอบที่ อ.เจนเคยสอนวาเราจะมองข้ามและผ่านมันไปได้หรือไม่
เมื่อคิดได้เห็นเป็นธรรมมะทำบุญอย่าคิดมากจึงได้อธิษฐานจิตว่า ด้วยข้าวสวยนี้เราได้ทำเป็นทานให้แก่ผู้มาถือศีล 8
ที่วัดแห่งนี้ แต่เมื่อเข้าไปภายในสถานที่เลี้ยงภัตตาหารพระสงฆ์  จี๊ดก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นด้วยความสงสัยว่า
ทำไมพระสงฆ์มีแค่2 รูป ให้ผู้คนใส่บาตรแต่เมื่อเข้าไปในสถานที่ฉันภัตตาหารนี้ จึงได้รู้เห็นพระสงฆ์นั่ง
จำนวน 11 รูป ค่ะ
การที่จี๊ดเล่ามาให้เห็นภาพนี้มิใช่การปรามาส เพราะอาจจะเป็นการจัดการของเจ้าหน้าที่วัดก็เป็นได้เพราะ อ.เจน
เคยเล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่วัดพวกนี้พวกเขาเป็นเปรตในคราบมนุษย์ค่ะ ซึ่งก็มีหลายวัดที่พระสงฆ์ท่าน
ไม่รับรู้ทานปฏิบัติในกิจของสงฆ์ใครจะคิดจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขาทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่
ความตั้งจิตตั้งใจของเราเองนะค่ะคุณคิดได้แว็บเดียวแล้วปรับตนเองขึ้นใหม่ เพียงเรื่องนี้ขอให้มองเห็น
เป็นธรรมมะนะค่ะเมื่อจิตเราเป็นสุขแล้วมีความบริสุทธิ์แล้วเราก็เป็นผู้ได้บุญนั้นอย่างเต็มกำลังท่านจึง
ไม่ต้องวิตกกังวลสิ่งใด เพราะท่านเป็นผู้ได้รับอานิสงส์แห่งบุญที่สำเร็จนั้นแล้วค่ะ



ถวายภัตตาหารเช้า อ.เจนได้เตรียมถาดแสตนเลสอย่างดีเพื่อนำไปเป็นภาชนะใส่อาหารคาวหวาน
เพื่อนำถวายภัตตาหารเช้าที่วัดนี้
โดนเจ้าหน้าที่วัดได้กลั่นแกล้งคณะฯตั้งแต่แรก ด้วยการให้คณะบุญฯ ของเรานำสิ่งของสังฆทาน
มาวางอีกจุดหนึ่งและให้ขนปูนตำไปวางกองรวมกันอยู่ที่นั้น เมื่อถึงเวลาพระสงฆ์จะฉันท์ภัตตาหารเช้า
ก็กลับกลายเป็นว่าคณะบุญเรานั่งกันอยู่กันคนละที่กับพระสงฆ์ อ.เจน เห็นอย่างนั้นจึงสั่งการให้ทุกคน
ช่วยกันขนของสังฆทานทั้งหมดวางอยู่กับปูนตำแต่สถานการณ์เร่งด่วนนั้นจะไม่ทันต่อเหตุการณ์
อ.เจน จึงสั่งให้ช่วยกันขนปูนตำบางส่วนมากองรวมกับเครื่องสังฆทานแล้วทำการโยงสายสิญจน์
สิ่งของทั้งหมดในทันทีค่ะ
มีสาเหตุแห่งการไม่พึงพอใจของเจ้าหน้าที่ อ.เจนจะทำบุญปูนตำเพราะเทวดาท่านชี้ทางมา
แต่เจ้าหน้าที่จะให้ อ.เจน และ คุณรุ้ง ปลดสร้อยทองที่ติดตัวมาในวันเดินทางไปเซอร์เวย์เพื่อจะ
ทำพิธีหล่อทองประดับยอดเจดีย์อ.เจน รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร จึงไม่ยินยอมคล้อยตามเพราะ อ.เจน
ได้รู้ได้เห็นในญาณวิถีแล้วค่ะอ.เจน สนใจเพียงแต่บุญใหญ่คือปูนตำที่ท่านเทวดาบอกให้มาทำที่วัดนี้
อ.เจน มีความภูมิใจที่สามารถนำปูนตำมาถวายวัดเพื่อสร้างพระเจดีย์แห่งนี้ตามที่ท่านเทวดาได้
ให้เห็นภาพในนิมิตแล้วซึ่งนี่เป็นบุญใหญ่ที่ท่านเทวดาได้บอกกล่าวไว้ บัดนี้ อ.เจนได้นำผู้คนมา
ถวายปูนตำเรียบร้อยแล้วทุกประการตามเจตนาของบุญแล้ว ซึ่ง อ.เจนได้พูดไว้ว่า การที่ทุกท่าน
ได้มาร่วมบุญกันในครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใดท่านก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมสร้างพระเจดีย์แห่งนี้
ท่านก็จะได้รับอานิสงส์แห่งบุญนั้นแล้วค่ะ
ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ฯ ด้วยปูนตำ ยอดเงินทั้งสิ้น 87,380.- บาท
มีชายชุดขาวมาในมาดสมถะน่าเกรงขามคนนั้นเขามาแบบเนียน ๆ มาก และมาเชิญ อ.เจน ให้ตามไป
แต่เมื่อ อ.เจน ตามไปหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านส่งสัญญาณให้ อ.เจน เป็นผู้นำกล่าวคำถวาย
แต่เรื่องไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะผู้ชายคนนั้นได้ถือไมค์เอาไว้เสียเองซึ่งทำประหนึ่งว่า คณะบุญนี้เป็น
ของตนเองโดยทำการกล่าวคำถวายทอดผ้าป่าสามัคคีแต่ไม่ได้กล่าวคำถวายภัตตาหารงานนี้เป็นงง
มากจริง ๆ ค่ะ แต่ อ.เจน พูดว่าเมื่อเราตั้งใจเราก็ได้แล้วค่ะ
แต่นี่เป็นการทอดผ้าป่าสามัคคีและถวายภัตตาหารของคณะบุญเรานะค่ะถ้าจำไม่ผิดไม่ได้กล่าวคำ
ถวายภัตตาหารเลยค่ะ ในตอนนั้นทำให้จี๊ดมีความรู้สึก งง ๆ งวยๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
จี๊ดเป็นหน่วยกล้าตายอยู่แล้ว ขอเพียง อ.เจนบัญชาให้จี๊ดไปฉกไมค์มาจากผู้ชายคนนี้ จี๊ดจัดให้ค่ะ
แต่เมื่อจี๊ดหันไปมอง อ.เจน แล้วก็เข้าใจได้ค่ะซึ่งขณะนั้น อ.เจน ได้นั่งสงบอย่างสำรวมไม่ไหวติง
ถ้าเป็นเช่นนี้จี๊ดก็เข้าใจได้ค่ะเพราะ อ.เจน พูดเสมอว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรานั้นไม่ใช่เรื่อง
บังเอิญและขอให้มองเป็นธรรมมะเมื่อเห็นแล้วก็ปล่อยวางมันเสียค่ะ
กรณีชายชุดสีขาว อ.เจน พูดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะให้เห็นว่า ขึ้นชื่อว่าวัดป่า บางครั้งก็ไม่ได้ปฏิบัติ
แบบวัดป่าและบางวัดมีระเบียบการที่เข็มงวดแตกต่างกัน คนทำบุญอย่างเราจะไปรู้ได้อย่างไรแต่มีข้อคิดที่ดี
ผู้ไม่มีศีลหรือมีศีลไม่ครบแม้จะทำพิธีอัญเชิญเทวดาอย่างไรก็ไม่สามารถอัญเชิญเทวดามาได้ค่ะ
ดังนั้นวัดนี้เทวดาท่านไม่มาเลยค่ะ
เรื่องยังไม่จบนะค่ะที่วัดนี้เป็นวัดแรกเท่านั้นเป็นด่านแรกของการทำบุญ โดย อ.เจน พูดขึ้นว่าครูบาอาจารย์
เขาจะสั่งสอนอะไรกับหนูก็ไม่รู้ค่ะพี่จี๊ดเข้าใจบททดสอบทั้งหลายที่ผ่านมาดีค่ะ
ซึ่งพวกเราทีมงานก็ป้องกันทุกด้านแล้วแต่บางครั้งก็เอาไม่อยู่ต้องปล่อยไปตามสถานการณ์ค่ะ
ชายคนนั้นนำสวดมนต์และนำกล่าวถวายผ้าป่าฯ แต่อัญเชิญเทวดาและสิ่งอื่น ๆ อย่างแปลกๆ
จี๊ดจึงไม่กล่าวตามผู้ชายคนนี้เพราะว่ามันไม่ใช่ค่ะ
ยังไม่จบง่ายชายคนนี้ก็ไม่ให้อ.เจน ยกประเคนถวายนอกจากใบปวารณา แต่สั่งการไม่ต้องยกเครื่อง
สังฆทานถวายพระท่านเจ้าอาวาสท่านจึงพูดขึ้นว่าให้ยกตาลปัตรถวาย อ.เจน ก็ทำตาม โชคดีนะค่ะที่
อ.เจน ให้โยงสายสิญจน์ไว้เรียบร้อยก่อนแล้ว อ.เจน จึงยกพานสายสิญจน์ถวายทันทีค่ะ
ไม่เช่นนั้นทุกท่านก็จะไม่ได้อานิสงส์แห่งการถวายบุญครั้งนี้เลยค่ะ
หลังจากนั้นสักพักเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคงเห็นยอดเงินจากใบปวารณาแต่ยอดเงิน 87,380.-บาท นี่สิค่ะ
เป็นประเด็นสำคัญทำให้เจ้าหน้าที่วัดเป็นผู้หญิงวิ่งมาตามอ.เจน พูดจาดีมาก จี๊ดคิดว่า
คงได้เห็นยอดเงินจำนวนมากแน่ ๆ  ผู้หญิงคนนี้จึงรีบมาเชื้อเชิญให้กลับไปยกถวายเครื่องสังฆทานได้อีกครั้งซึ่ง
อ.เจน หันไปยิ้มแบบขอบคุณแต่พูดขึ้นว่า อ๋อ ค่ะ ถวายสังฆทานไม่ได้แล้วค่ะดิฉันได้ถวายสังฆทานทั้งหมด
ไปเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ได้เป็นของสงฆ์ไปแล้วค่ะจึงไม่ขอถวายใหม่ค่ะ อ.เจน พูดจบก็เตรียมที่จะเดินออกไป
แต่ก็ถูกรั้งไว้อีกยังไม่ยอมให้กลับดักหน้าดักหลังตอนนั้นคณะบุญของเราก็กำลังทยอยออกแล้ว
แต่ก็มีเสียงชายชุดขาวพูดออกไมค์ว่าทุกท่านมาร่วมต่อยอดเพิ่มกันได้อีกนะครับ
ตอนนี้จี๊ดรีบพา อ.เจนเดินออกมาเพื่อเป็นสัญญาณให้คณะบุญเราได้รู้ว่าไปกันเถอะ
ซึ่งทุกคนเห็น อ.เจนเดินออกเขาก็เดินออกไปจากศาลาด้วยกันค่ะ เพราะบุญของเราสำเร็จแล้ว
ตามเจตนาบุญของเราแล้วค่ะ


ข้อคิดสะกิดใจ การทำบุญใดก็ตามอ.เจน จะบอกให้เราต้องพิจารณาและให้มองเป็นธรรมมะ ถ้ามีคำถามว่าถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราจะได้อานิสงส์บุญหรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะเพราะทุกท่าน
มีจิตที่บริสุทธิ์ขณะถวายด้วยเจตนาบุญที่เต็มเปี่ยมทุกท่านได้รับ 100% แล้วค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาสุกับทุกท่านด้วยค่ะ
นั่งเรือสปีดโบ๊ต/ชมปะการัง  จากการเดินทางจากกรุงเทพฯถึงจังหวัดภูเก็ตมาตลอดทั้งคืน
และไปทำบุญต่อตั้งแต่เช้าจนกระทั่งบ่ายคนขับรถยังไม่ได้หลับนอนเหมือนพวกเราเลย
ซึ่ง อ.เจนได้เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของทุกคน จึงมีความคิดว่า คนขับรถควรต้องได้รับการพักผ่อน
นอนหลับบ้างไม่เช่นนั้นจะไม่ไหวกันค่ะอ.เจน จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการพักผ่อนของคนขับรถ
และเพื่อลูกทัวร์ได้พักผ่อนหย่อนใจทำบุญแล้วพักผ่อนบ้างงานบุญของ อ.เจน จะไม่ทำบุญแบบ
ชะโงกบุญแต่ทำบุญให้มีความอิ่มสุขและเบิกบานใจค่ะ ดังนั้นอ.เจน จึงมีกิจกรรมดีดีให้ทุกคนได้มี
ความสุขด้วยการจัดเรือสปีดโบ๊ท จำนวน 2 ลำ แบ่งออกเป็น 2 ทีม ๆ ละ 40 คน เพื่อให้ทุกคน
ได้ชมปะการังใต้น้ำชมปลาสวยงาม และมีความสดชื่น มีความสนุกสนาน และได้พบเพื่อน ๆที่
ไม่เคยรู้จักมาก่อนจะได้มารู้จักกัน จี๊ดว่าดีนะค่ะทุกคนมีความสุขมากค่ะจากภาพที่เห็นนะค่ะ
เข้าที่พัก ทุกคนก็หมดพลังกันแล้วแต่เป็นพลังแห่งความสุขค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ  จี๊ดอยากจะบอกว่าไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไรก็อย่าได้แคร์อย่าได้จิตตก
และอย่าหยุดทำบุญสร้างกุศลเพราะสิ่งที่เราได้ตั้งใจกระทำแล้วสำเร็จแล้ว เราเป็นผู้ที่ได้รับบุญกุศลนั้นแล้ว
ได้อานิสงส์แห่งบุญนั้นแล้วแต่ใครจะเป็นอย่างไรนั้นเขาก็ต้องได้รับผลที่กระทำของเขานั้นเองค่ะ



วัดที่ 2  เช้าวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย.60 คณะฯ เดินทางมาถึงวัดที่ 2 นี้ เพื่อทอดผ้าป่าสามัคคี
ร่วมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานซึ่ง อ.เจน เองก็เห็นในญาณว่า ในกาลต่อไป
จะสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกค่ะ
สมัยก่อนโน้นมีพวกฝรั่งมังค่าหรือคอมมิวนิสต์เข้ามาบุกรุกครอบครองพื้นที่รวมทั้งวัดแห่งนี้ด้วย
พวกเขาเข้ามาทำลายล้างและเข่นฆ่าผู้คนให้ล้มตายเป็นจำนวนมาก
ในอดีตชาติ  อ.เจนได้เห็นภาพเหตุการณ์คณะบุญฯของเราทุกคนที่ได้เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด
ในอดีตเคยเป็นข้าราชบริพารติดตามเจ้านายมายังวัดแห่งนี้
หลวงตาเล่าว่า  กว่าจะเป็นวัดแห่งนี้ และกว่าที่หลวงตาเจ้าอาวาสท่านได้บุกเบิกวัดแห่งนี้
ได้จนเป็นผลสำเร็จนั้นจะต้องฝ่าฟันกับพวกม้าทรงหมายถึง ม้าทรงศาลเจ้า
(ตามตำนานพวกเขาจะถือศีลกินผักแห่พระรอบเมืองใช้ของมีคมนานาชนิดทิ่มแทง
ทะลุกระพุ้งแก้ม-ทรมานร่างกาย ขณะที่กินเจโดยหลังจากเสร็จพิธีกรรมก็เป็นปรกติไม่เป็นไร
ประมาณนี้ค่ะ)เพราะพวกนี้จะคัดค้านไม่ให้มีวัดเกิดขึ้น เพราะสมัยก่อนเป็นป่าหญ้าคารกชัน
แต่หลวงพ่อได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียงประกอบกับความทุ่มเททั้งกาย
และใจในการฝึกสอนปฏิบัติธรรมด้วยเมตตาจิตของหลวงตาทำให้ทุกคนประทับใจและยอมรับ
บังสุกุลให้ผู้ตาย  ถึงแม้ว่าคณะบุญของเราจะมากันเป็นจำนวนมาก แต่พวกเราเป็นคนนอก
พื้นที่ซึ่งเราก็จะต้องรอคอยให้บุคคลกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 7-8 คน ได้นำรูปภาพผู้ชายสวม
ชุดครุยรับปริญญามาพร้อมสายสิญจน์พันไว้รอบรูปภาพคณะกลุ่มคนนี้จึงรีบชิงดำเนินการ
บังสุกุลเสียก่อน ซึ่งจี๊ดเข้าใจค่ะ เพราะเขากลัวว่าจะต้องรอพิธีการทอดผ้าป่าสามัคคีของ
คณะบุญของเรานาน แต่จี๊ดเสียดายมากยังบ่นกับคุณรุ้งเลยค่ะว่านี่ถ้ากลุ่มนี้รู้เรื่องการสร้างบุญกุศล
สักหน่อยนะ รอร่วมทอดผ้าป่าฯ กับคณะเราเสียก่อนรออีกสักนิดนึงนะ จี๊ดเชื่อว่า
ถ้าได้ร่วมบุญกับคณะฯบุญเรานะค่ะวิญญาณผู้ชายคนนั้นจะได้รับอานิสงส์บุญมากเป็น 2
ต่อหรือไม่มากก็น้อยขึ้นอยู่กับจิตของผู้ทำบุญนะค่ะ
ที่มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นเรื่องน่าสนใจเพื่อท่านจะได้ข้อคิดดีดี และเพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ
คณะ อ.เจน ยังไม่ทอดผ้าป่าสามัคคีแต่ก็ได้นั่งรอให้คณะกลุ่มนี้ทำพิธีบังสุกุลก่อนด้วยการ
นั่งไว้อาลัยอย่างสงบให้กับวิญญาณชายคนนั้นจำหน้าแม่นค่ะรูปภาพใบหน้าชัดเจนสะขนาดนั้นขณะนั้น
อ.เจน นั่งหลับตาพนมมือ จี๊ดนะรู้ว่า อ.เจน ต้องรู้เห็นอะไรบางอย่างแต่มีหลายคนอาจ
ไม่เข้าใจก็นั่งพนมมือตาม อ.เจน ไปด้วย แต่เราต้องพิจารณาด้วยค่ะคือ เราไม่ใช่ญาติของเขา
และขณะนั้นเรายังไม่มีบุญกุศลอะไรให้เขาเลย แต่ อ.เจนเป็นคนเห็นผีนะค่ะ เรื่องนี้จี๊ดก็ได้ถาม
เพราะเข้าใจว่าต้องมีอะไรเห็นอะไรจึงถามค่ะ เออ อาจารย์ค่ะ ตอนที่เขาทำพิธีบังสุกุลกันอยู่
อ.เจนพนมมือตั้งนานต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอนค่ะ จี๊ดอยากรู้ค่ะ อ.เจน ตอบว่านอกจาก
วิญญาณผู้ชายในรูปนั้นแล้วยังมีวิญญาณอื่นอีกหลายวิญญาณที่รอรับบุญอยู่นอกศาลาอ.เจน
จึงเบิกบุญมาให้พวกเขาไปเพราะสถานที่แห่งนี้มีคนตายเป็นจำนวนมาก จึงต้องอุทิศบุญให้
เหล่าวิญญาณทั้งหลายที่รออยู่ด้านนอกศาลาด้วยค่ะเห็นหรือยังค่ะเรื่องอย่างนี้เขาเรียกว่า หลอนตอนกลางวันค่ะ
ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ฯ ยอดเงินทั้งสิ้น 113,750.- บาท
หลวงตาเล่าว่า ถ้าจะสร้างเจดีย์ให้เล็กก็ไม่รู้จะสร้างทำไมเพราะนานวันเข้าก็จะเกิดการผุพังทลายลง
ได้โดยง่ายแต่ถ้าหากสร้างเจดีย์ให้ยิ่งใหญ่แข็งแรงและมั่นคงก็จะสามารถเป็นสถานอนุสรณ์อยู่ได้
ชั่วลูกชั่วหลานและเพื่อเป็นการสร้างสิ่งจูงใจให้ผู้คนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม ศึกษาพระธรรม
ดังนั้นจึงมีความยินดีที่คณะบุญฯ จากกรุงเทพฯนี้ ที่ให้ความสำคัญแก่วัดซึ่งหลวงตาท่านได้
แจกหนังสือให้มาอ่านคนละ 1 เล่ม ท่านว่า อ่านง่ายเข้าใจง่ายค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ  เรื่องของการปฏิบัติธรรมแม้แต่หลวงตาพยามฝึกสอนชาวบ้านปฏิบัติธรรมให้ถูกต้อง
ตามหลักของพระพุทธศาสนาโดยสอนให้ชาวบ้านเข้าใจในการปฏิบัติท่านก็ยังไม่ย่อท้อค่ะ



วัดที่ 3  บ่ายวันเสาร์ที่10 มิ.ย.60 คณะฯเดินทางมาถึงวัดที่ 3 นี้เป็นวัดที่เก่าแก่มาก เมื่อเดินทาง
ไปถึงก็รับประทานอาหารกลางวันจนอิ่มสำราญกันทั่วหน้าหลังจากนั้นทุกคนก็ไปต่อขบวนเข้าแถว
เวียนทักษิณาเครื่องสังฆทาน 3 รอบ
เจ้าแม่ต้นไทรขบขัน  เมื่อ อ.เจนทำการตั้งขบวนเข้าแถวเพื่อเวียนทักษิณาเครื่องสังฆทาน 3 รอบ
ซึ่งนำโดยนางรำ กลองยาว แตรวง แบบสมัยโบราณเป็นที่สนุกสนานอ.เจน จึงให้น้องเก่ง ร้องโห่ 3 ครั้ง
แต่น้องเก่งได้ยินว่าให้ร้องโห่ 3 รอบ จึงร้อง โห่ หิ โห่ หิ โห่ หิ โห่ หิ้ว ๆๆๆๆด้วยท่าทางที่จริงจัง
และเสียงโห่ที่ว่านี่แหละค่ะ
จี๊ดก็หันไปเห็น อ.เจน เดินขำขำแบบอมยิ้ม จี๊ดถามอาจารย์ขำอะไรค่ะอ.เจน ตอบว่า
ก็พี่ดูต้นไทรต้นใหญ่ข้างหน้านั่นสิค่ะ คือจี๊ดไม่เห็นไงค่ะก็จี๊ดไม่เห็นอาจารย์ก็ขำคนเดียว
ดังนั้น อ.เจน จึงเล่าว่าเจ้าแม่ที่ต้นไทรเขาเอามือเท้าสะเอว แล้วก็หัวเราะ ฮาๆๆๆ สนุก ๆ จังเลย ๆ
และเมื่อวนกลับมารอบที่ 2 และรอบที่ 3  อ.เจนก็หัวเราะทุกรอบเพราะเจ้าแม่เขาหัวเราะไม่หยุดเขาสนุกมาก
ทำให้ อ.เจน ขำไปด้วยอ.เจน บอกว่า ไม่เคยเจอเหมือนกันพี่ ส่วนมากเจ้าแม่ทั้งหลายจะทุกข์ใจ
และขอให้อ.เจน ช่วยเหลือทุกรายไป มีครั้งนี้แหละที่เจ้าแม่ไม่สนใจจะให้ช่วยเหลือโดย
เจ้าแม่สนใจแต่น้องเก่ง ที่ทำเสียงโห่ร้องให้เจ้าแม่สนุกได้ค่ะ
ทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างศาลามณฑปหลวงปู่รอด ยอดเงินทั้งสิ้น 108,150.75 บาท



วัดนี้เป็นวัดที่ยากจนมาก และ อ.เจนตั้งใจว่าวัดแห่งนี้น่าจะได้ยอดเงินแสนบาทขึ้นไป
เนื่องจากทางวัดสร้างศาลาฯโดยตั้งงบใช้จ่ายไว้แล้ว แต่ปรากฏว่า งบการก่อสร้างต้อใช้เงินอีกประมาณ
100,000.- บาททำให้ทางวัดไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในส่วนที่ขาดนี้ แต่มาวันนี้น่าชื่นอดชื่นใจ
มากนะค่ะจี๊ดดีใจมากค่ะ อ.เจน ก็เช่นกัน
ครั้งแรกที่ประกาศยอดเงินมีประมาณ 87,000.- กว่าบาท ขาดอีกประมาณ 13,000.- บาท
อ.เจนจึงประกาศขอให้ต่อยอด จี๊ดก็รีบส่งสัญญาณขาดอีกเท่าไหร่ให้บอกต่อ ๆ กันไปและ
ให้น้องเก่งไปเดินรับเงินบริจาคและก็ได้ตามที่ตั้งใจค่ะ เพราะ อ.เจนสงสารเจ้าอาวาสท่าน
จะได้มีเงินไปใช้จ่ายให้ครบจำนวนและเป็นบุญที่สำเร็จแล้วอย่างเฉียบพลันจากคณะบุญ
ของเราจริงมั้ยค่ะน่าภาคภูมิใจมากจริง ๆ
อ.เจน พูดว่า ท่านเจ้าอาวาสท่านนั่งอยู่ตรงกลาง องค์ที่ อ.เจนถวายชักผ้าป่านั่นแหละค่ะ
ท่านชราภาพมากแล้วหูไม่ค่อยได้ยินอะไรแต่ต้องพูดเสียงดัง ๆ และท่านก็รู้เรื่องดีทุกอย่างค่ะ
ด้วยยอดเงินนี้พระสงฆ์รูปอื่นท่านก็ปิติใจนะค่ะ



ภพชาติมีอยู่จริง  อ.เจน บอกว่า ครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้วพวกเราทั้งหลายเคย
เป็นข้าราชบริพารที่วัดแห่งนี้มีหน้าที่ดูแลวัดแห่งนี้แต่เมื่อเกิดสงครามก็ถูกอริราชศัตรูมาฆ่าฟัน
จนตายสิ้นและวัดก็แห่งนี้อยู่ใกล้ภูเขามีเหตุอัศจรรย์ทำให้ภูเขาพังทลายลงมาและกลายเป็น
วัดร้างและต่อมามีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ที่วัดแห่งนี้มีเทวดาคอยปกป้องดูแลเป็นจำนวนมากค่ะ
เพราะเป็นวัดที่สำคัญมาในอดีตค่ะอ.เจนบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่พวกเราจำกัน
ไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ และให้อยู่กับปัจจุบันอย่าไปยึดติดว่าอดีตเราเป็นใครมาค่ะที่รู้รู้
คือวันนี้ทุกท่านผู้ร่วมบุญทั้งหลายได้มีส่วนมาต่อเติมในส่วนที่ขาดที่วัดแห่งนี้แล้วค่ะเพราะพวกเรา
ได้เคยมาแล้วแต่ในภพชาตินั้นเรายังทำสิ่งใดไม่สำเร็จแต่มาวันนี้เราได้มาต่อเติมให้สำเร็จลุล่วงไป
ได้แล้วและเป็นบุญที่สำเร็จเฉียบพลันด้วยค่ะจี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคด้วยนะค่ะ
รุกขเทวดามากันมาก  อ.เจน บอกว่าที่วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มาก และมีเหล่าเทวดาเป็นจำนวนมาก
ตอนที่พระสงฆ์ท่านกล่าว อัญเชิญเทวดามีใครสังเกตบ้างค่ะ จี๊ดเห็นค่ะอากาศภายนอกร่มรื่นเย็น
และเย็นสบาย ท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเราค่ะ อ.เจนพูดว่าด้วยความตั้งใจของ
ทุกคนด้วยความตั้งใจของผู้บริจาคเป็นพลังจิตที่มีพลังมหาศาลทำให้แม้แต่เทวดายังอยู่บน
พระอาสน์ของท่านไม่ได้และท่านไม่สามารถสร้างบุญด้วยตนเองได้ ถ้าท่านรับรู้ว่าผู้ใดกำลัง
สร้างความดีท่านก็จะมาอนุโมทนาบุญกับคนผู้นั้นค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ  การได้มาทำบุญในส่วนที่ขาดเป็นการต่อเติมยอดบุญนั้นให้ครบถ้วนแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใดเราจะไม่เป็นที่ขาดตกบกพร่องอะไรแม้ถึงคราวจะขาดก็จะไม่ขาด
จะมีคนมาช่วยเหลือค่ะ นอกจากนี้ยังมีอานิสงส์บุญอื่น ๆอีกมากบรรยายไม่หมดค่ะ
เดินป่า/ล่องเรือล่องแพ ล่องห่วงยาง เป็นกิจกรรมที่สนุกมากค่ะ อ.เจน ประกาศถ้าจะไป
ผจญภัยกันก็มาด้วยกันถ้าไม่มาก็ขอให้อยู่บนฝั่งนี้ก็จะมีประมาณ 10 คน ที่ไม่ขอตามไปด้วย
เหตุผลเดียวคือกลัวน้ำอะค่ะสำหรับคนที่จะไปลุยกันก็ตามมา เราแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
เหมือนพวกลูกเสือเดินป่านั่นแหละค่ะต้องแบ่งกลุ่มเพราะต้องนับคนเดี๋ยวหายไปกันยุ่งเลยค่ะ
ก็เริ่มจากการเดินป่า ขึ้นเขาลงเขาข้ามสะพานไม้เล็ก ๆ ที่มีสายน้ำไหลผ่านพวกเราต้องเดิน
ฝ่าสายน้ำนี้ไปให้ได้เพราะไม่เดินไปก็ไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้อีกแล้วค่ะขอบอกว่า
น้ำครึ่งลำตัวนี้เย็นเฉียบเชียวค่ะ แต่ก็ได้อยู่นะค่ะเพราะเดินมาร้อน ๆเจอน้ำเย็น ๆ เกือบครึ่งตัวก็ยังได้อยู่ค่ะ
พวกเราทั้งหมดเดินมาพบกับชนเผ่าคนป่าไม่ต้องตกใจนะค่ะ เป็นกิจกรรมที่ อ.เจน
จัดขึ้นตรงนี้เป็นมุมกาแฟทุกคนตกอกตกใจกันหมดค่ะ ไม่ต้องตกใจชนเผ่านั้นก็คือ
น้องดา/น้องเก่งชนเผ่าหญิง/ชาย แต่งตัวเป็นคนป่าและมีพวกคนป่าลูกกระจ๊อกลูกสมุน
เด็กอีกประมาณ 10 คน กำลังก่อกองไฟต้มน้ำเพื่อชงกาแฟพวกชนเผ่านี้ได้ชงกาแฟใส่
กระบอกไม้ไผ่ให้คณะเดินทางได้กินกันค่ะเป็นที่สนุกขบขันอย่างมากเพราะพวกชนเผ่าเล่นได้เหมือนมากค่ะ
อ.เจน ว่าจ้างเด็ก ๆมาค่ะ เพื่อให้เด็ก ๆ มีรายได้ โดยให้เด็ก ๆ แสดงเป็นชนเผ่าให้เต็มที่
น้องดาบอกว่า ไม่ต้องอะไรมากพี่จี๊ด เพราะสำเนียงภาษาใต้เข้ากับชนเผ่ามากค่ะเนียนมากค่ะ
คณะทัวร์ทุกคนก็สนุกกันมากที่ได้เล่นกับพวกชนเผ่าและพวกเราก็เดินตามชนเผ่าต่อไปเดินป่าต่อไป
ผ่านส่วนทุเรียน สวนเงาะ สวนผลไม้ต่างๆ แต่กินไม่ได้เพราะยังไม่ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวค่ะ
แต่ก็ได้กินมะไฟกันนะค่ะได้อารมณ์เดินป่ามากเพราะเดินกินผลไม้ในป่าค่ะ
หลังจากนั้นก็ถึงจุดนัดพบนั่นคือ ล่องเรือ ล่องแพ ล่องห่วงยาง  
ใครใคร่จะล่องด้วยอุปกรณ์อะไรก็ตามสบายกันเลยค่ะให้เลือกทุกคนลงในแม่น้ำ
ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามสองฝั่งมีภูเขาสูงใหญ่มีต้นไม้เขียวขจีอากาศดี้ดี
สดชื่นมากค่ะ สายน้ำเย็นสบาย ได้เล่นน้ำว่ายน้ำกันต๋อมแต๋ม ๆ สนุกดีค่ะ



วัดที่ 4  เช้าวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.60 ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาอเนกประสงค์สอนปฏิบัติธรรม
ยอดเงินทั้งสิ้น 139,155.- บาท
อ.เจน เล่าให้ฟังว่าเจ้าอาวาสอายุ 79ปี ชรามากแล้ว แต่ท่านเดินจงกลม นั่งสมาธิและสอนชาวบ้านให้ปฏิบัติ
ตามอย่างนี้หาได้ยากมากค่ะ ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแต่ที่วัดนี้มีแม่ชีคอยจัดการทางวัดทุกอย่าง
หลวงพ่อท่านก็ไม่ได้สนใจเพราะท่านเป็นพระปฏิบัติจะทำในกิจของสงฆ์เท่านั้นค่ะ
ซ่อนไมค์ ด้วยพวกชาวบ้านมาจากหลายถิ่นและเจ้าหน้าที่วัดก็เกิดความไม่ไว้วางใจในตัวผู้นำ
คือ อ.เจนเพราะไม่ไว้ใจและไม่รู้จัก เขาเป็นใคร มาจากไหน รู้แต่ว่า มาจากกรุงเทพมหานครและคนกรุงเทพฯ
ไว้ใจได้หรือ ซึ่งจี๊ดก็เข้าใจดีในเรื่องนี้เป็นอย่างนี้แทบทุกวัดค่ะทางเจ้าหน้าที่วัดก็พยายามดึงเกมส์
พูดถ่วงเวลาเอาไว้จี๊ดก็ถามขอไมค์ให้อาจารย์ของดิฉันก่อนนะค่ะ เขาบอกว่า มีไมค์ตัวเดียว
จี๊ดไปหาอ.เจน บอกเจ้าหน้าที่บอกมีไมค์ตัวเดียวจี๊ดไม่เชื่อค่ะ อ.เจน รู้ในญาณว่าเขามีไมค์ 2
ตัวจี๊ดก็กลับไปหาเจ้าหน้าที่คนนี้ใหม่ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่วัดคนนี้ได้เชิญให้ปลัดอำเภอและ กำนัน ใ
ให้มากล่าวคำอะไรสักเล็กน้อย และแอบกระซิบเบา ๆจี๊ดได้ยินว่าท่านพูดเสร็จส่งไมค์ให้หลวงตาเลยนะครับ
แต่เนื่องจากปลัดอำเภอ และกำนัน เริ่มพูดนานมากแล้วจี๊ดก็อดไม่ได้กลับไปกระซิบกับเจ้าหน้าที่วัดคนนี้อีกครั้ง
โดยบอกกับเขาว่าถ้ายังจะให้ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพวกนี้มาคอยพูดนำเสนอแนะนำตัวเองอยู่อย่างนี้ละ
ดิฉันบอกได้เลยว่าวัดนี้จะไม่ได้เงินเข้าวัดเป็นมากนะค่ะเพราะว่า อ.เจน สามารถพูดให้ได้เงินเข้าวัดเป็นจำนวนมาก
และ อ.เจน ไม่ได้แจกซองผ้าป่าแต่รับเงินบริจาคที่หน้างานนี้เลยค่ะ พูดแค่นั้นแหละค่ะ ไมค์ที่ถูกซ่อนเอาไว้
เจ้าหน้าที่ก็นำมาให้ทันทีเลยค่ะสรุปมีไมค์ 2 ตัว อย่างที่ อ.เจน พูดไว้จริงๆ ด้วยค่ะ
หลวงตาท่านเล่าว่ามาอยู่ครั้งแรกที่มาบุกเบิกใหม่ ๆ ชาวบ้านไม่นับถือ ไม่แสดงเคารพต่อพระสงฆ์นั่งขัดสะมาด
ท้าทาย ไม่สนใจพระสงฆ์ มาอยู่ที่นี่ทำไม มาสั่งสอนอะไรแต่หลวงตาไม่สนใจยังคงสั่งสอนชาวบ้านที่
เข้ามาปฏิบัติธรรมที่วัดจากคนจำนวนน้อยจนเป็นคนจำนวนมากปากต่อปากจนเป็นที่นับถือของบุคคลทั่วไป
และเป็นที่ยอมรับในที่สุดกว่าวัดจะอยู่ได้ไม่ง่ายเลยค่ะเห็นหรือยังค่ะการทำความดีนั้นแสนยากลำบาก
แต่เมื่อเราสามารถฝ่าฟันไปได้เราก็เป็นผู้ที่ชนะเป็นผู้ประเสริฐและเลิศแล้วค่ะ
แม้ตายก็ยอม อ.เจนพูดให้จี๊ดฟังว่า แม้ท่านจะชราภาพ และอาพาธ มากเป็นที่สุดแล้วแต่ท่านก็ยัง
ไม่เคยหยุดพักการสอนผู้คนปฏิบัติธรรมแม้แต่วันเดียว  หลวงตาเล่าให้ทุกคนฟังว่า หลังจากวันที่
อ.เจน ได้แจ้งกับหลวงตาว่าจะนำผู้คนมาทำบุญที่วัดหลวงตาหลวงตาเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันก่อนอาตมา
ก็เกือบจะสิ้นลมหายใจลงแล้ว ในวันนั้นหลวงตาได้อธิษฐานจิตว่าถ้าหากเรายังมีบุญกุศลเพื่ออยู่ช่วยเหลือ
พระพุทธศาสนาต่อไปก็ขอให้มีชีวิตสร้างบุญกุศลต่อไปแต่ถ้าหมดบุญแล้วในวันนี้ก็ขอให้ตายสิ้นไป
ขณะนี้ อาตมามีอาการดีขึ้นประมาณ 70% ยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก ดังนั้น อาตมาจึงได้มาต้อนรับ
คณะบุญของอ.เจน แต่อาตมาก็พูดเสียยาวเลยท่านพูดไปยิ้มไปจนทำให้ทุกคนในที่นั้นหัวเราะกันยกใหญ่เลยค่ะ
หลวงตากล่าวว่าให้จำไว้บ้านไหนเรือนไหนมีคนที่ถือศีล 5 แม้สักคนเดียวบ้านนั้นเรือนนั้นย่อม
อยู่เย็นเป็นสุข ขอให้เราเป็นคนที่มีศีล 5 จะไม่ต้องตกลงในนรกภูมิ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็พยายามลดละเว้น
บางข้อก็ยังดีโดยพยายามปรับปรุงจิตใจของเราให้แข็งแกร่งที่สุด
จากคำพูดของหลวงตาเป็นธรรมมะเป็นวิทยาทานที่ดีค่ะซึ่งทำให้ทุกคนในที่นั้นได้รับรู้ว่า การทำความดี
แม้จะตายไปในวันนี้เราก็ยอมได้เพราะเราได้สะสมบุญบารมีไว้มากแล้วแต่ด้วยความเมตตาของ
หลวงตาที่เทศนาให้ฟัง ทำให้ทุกคนหัวเราะขำขันกันมากค่ะ

เจ้าป่าเจ้าเขา ระหว่างที่อ.เจน กำลังกล่าวคำถวายทอดผ้าป่าฯ อยู่นั้น หากทุกคนจะสังเกต
ได้ทุกคนจะได้ยินเสียงอ.เจน หยุดชะงักไปนิดหนึ่ง ซึ่งจี๊ดก็อยากรู้ทำไม และ อ.เจน ได้พูดกับจี๊ดว่า
พี่ได้ยินเสียงหนูหยุดชะงักไปหรือเปล่าค่ะจี๊ดก็บอกค่ะสงสัยอยู่เหมือนกัน โดย อ.เจน ได้เล่าให้ฟังว่า
ระหว่างกล่าวคำอธิฐานได้มีเจ้าป่าเจ้าเขาต่างก็มาขอบุญกุศล อ.เจน จึงพูดด้วยจิตว่า “ช้าก่อน
รอก่อนอย่าเพิ่งมารบกวนเราเดี๋ยวเราให้บุญขอให้รอก่อนขอให้เรากล่าวคำถวายก่อน”  
เทวดาแสดงอิทธิฤทธิ์/พระอาทิตย์ทรงกรด ที่วัดแห่งนี้มีเทวดามากันมากค่ะเป็นเพราะด้วย
แสงบุญของคณะบุญของเราค่ะ ท่านมาอนุโมทนาบุญค่ะ  แต่ด้วยเทวดาเห็นว่า
ชาวบ้านไม่ไว้ใจไม่รู้จักอ.เจน เป็นใครมาจากไหนอยู่ ๆ ก็มาทำบุญทอดผ้าป่า พวกชาวบ้านเขาก็มา
ทอดผ้าป่าด้วยเหมือนกันมากันหลายกองแต่ของ อ.เจน กองใหญ่กว่ายอดเงินมากกว่าเป็นที่สงสัย
ของชาวบ้านค่ะ ดังนั้นเทวดาจึงได้แสดงอิทธิฤทธิ์เกิดเหตุมหัศจรรย์จนทำให้เกิดพระอาทิตย์ทรงกรดเป็น
วงกว้างใหญ่มากและพระอาทิตย์ทรงกรดอยู่นานมาก ทุกคนต่างก็วิ่งออกมาดูและฮือฮามาก
จนทำให้ชาวบ้านที่วัดนั้นนับถือและซูฮกในบารมีของอ.เจน ดังนั้น ตอนขากลับชาวบ้านยกมือไหว้
รถตู้ที่ออกไปจากวัดด้วยความปลื้มปิติค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ  การทำความดีใดก็ไม่เท่ากับความจริงใจความตั้งใจ และความมุ่งมั่นในการ
ทำความดีและการสร้างบุญกุศล เมื่อเราตั้งใจแล้ว ยินดีแล้วผู้ที่พบเห็นก็เกิดความปิติใจ
และให้ความเชื่อถือ เคารพ ยำเกรงค่ะ
สุดท้ายแล้วนะค่ะ การเดินทางกลับของคณะบุญวันสุดท้ายแต่ทุกคนต่างก็พูดกันว่า
ยังไม่อยากให้กลับบ้านเลยค่ะ ความสุขอยู่กับเราพักเดียวนะค่ะความอิ่มเอิบใจความสุขใจในบุญกุศล
เราต้องไขว่คว้าไว้ค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับอ.เจน คุณรุ้ง และทุกท่านที่ตั้งใจร่วมบุญบริจาคกันจน
ทำให้บุญนี้สำเร็จลงได้ค่ะ
จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

อู๊ด

สาธุค่ะ

berry

อนุโมทนาสาธุค่ะ

มินนิ่@FB

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านคะ

jackvet62

อนุโมทนาบุญร่วมกับอาจารย์เจน พี่รุ้ง พี่จี๊ด และผู้ร่วมบุญกับทริปลี้ลับ6 นี้ด้วยนะครับ

ruchiphat

อนุโมทนาสาทุกับทุกๆท่านค่ะ