ศาลาการเปรียญ วัดบ้านแก จ.อ่างทอง ที่เขาว่า..ผีเฮี้ยน ตอน 1 - ห้อง จี๊ดจ๊าดเล่าเรื่อง อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 21202|ตอบ: 26
พิมพ์หน้านี้ ก่อนหน้า ถัดไป

ศาลาการเปรียญ วัดบ้านแก จ.อ่างทอง ที่เขาว่า..ผีเฮี้ยน ตอน 1

[คัดลอกลิงก์]

76

กระทู้

106

โพสต์

358

เครดิต

สมาชิก.

Rank: 7Rank: 7Rank: 7

เครดิต
358
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Wwwarjanjencom เมื่อ 2013-8-15 12:33




              ตามที่ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 22 ก.พ.55 พาดหัวข่าว กรณี ศาลาการเปรียญวัดบ้านแก ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง  ผีเฮี้ยนจนชาวบ้านไม่เข้าวัดแล้ว นอกจากมีงานจึงจะมาที่วัดกันเท่านั้น เพราะว่ามีคนเจอผีที่นี่หลายคนแล้ว     ศาลาการเปรียญสร้างเมื่อปี2512 จนปัจจุบันยังสร้างไม่เสร็จเปลี่ยนผู้รับเหมาแล้วกว่า 100 ราย เพราะเมื่อทำแล้วก็ต้องทิ้งหนีไปหมด โดยบางรายได้นอนเล่นอยู่ใต้ถุนศาลาแต่ก็มีคนไปปลุกบอกเจ้าอาวาสเรียกและก็มาหาตน ซึ่งท่านก็ไม่ได้ให้ใครไปตามเลยมันก็แปลกจริงๆในส่วนศาลาการเปรียญที่สกปรกนั้น หากมีงานสำคัญจึงจะทำความสะอาดได้ เพราะชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้าทำความสะอาดโดยไม่มีงานใดๆ แล้วจะต้องมีคนตายทุกครั้ง เรื่องนี้จึงมีเสียงเรียกร้องผ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ให้ อ.เจน ญาณทิพย์ เป็นผู้สื่อสารกับวิญาณ  เพราะเธอเป็นนักสืบวิญญาณแห่งรายการ ”คนอวดผี” ขอเป็นตัวแทนสืบเรื่องลี้ลับนี้ พร้อมร่วมเดินทางไปกับทีมงาน ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)  โดยได้มีการนัดหมายกันในวันที่  25  ก.พ.55  นั้น
จากรายละเอียดของข่าวนี้แหละค่ะ ทำให้ อ.เจน เตรียมความพร้อมด้วยการประสานทีมงานรับทราบ และ นัดหมายทีมงานใส่บาตรพร้อมถวายสังฆทานให้กับสัมภเวสีที่ศาลาการเปรียญที่วัดบ้านแก ตัวจี๊ดเองเตรียมพร้อมตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ จนถึงเช้าวันใหม่ของวันที่ 25 ก.พ.55 รวมทั้งได้มาถวายสังฆทานกับเจ้าอาวาสวัดบางพลัด ร่วมกับ อ.เจน และคุณรุ้ง อีกด้วย ตอนที่กรวดน้ำอยู่นั้น ทุกคนไม่ลืมที่จะกรวดน้ำให้สัมภเวสีที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านแก คุณรู้มั้ย ว่าเกิดอะไรขึ้น อ.เจน บอกว่า เมื่อกี้นี้ ................
อ.เจน บอกว่า เมื่อกี้นี้ ระหว่างที่อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สัมภเวสีที่วัดนั้น ปรากฏว่า เขามาปรากฏให้เห็นว่าเขาได้รับบุญจากเราเป็นจำนวนมาก มารับบุญ
ออกจากวัดบางพลัด เดินทางไปวัดอาวุธวิกสิตาราม เพื่อไปสวดมนต์และนั่งสมาธิประมาณ 1 ชม.  เพื่อขอพรพระที่ประดิษฐานภายในโบสถ์ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสัมภเวสีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง และก็ไม่ให้เสียเวลาเปล่า อ.เจน ก็สื่อไปที่สถานที่ศาลาฯ แห่งนั้น ซึ่งสัมภเวสีก็มาสื่อสารกับ อ.เจน ทันที ไม่ได้มาแค่ตนสองตนแต่มากันเป็นฝูงเป็นจำนวนมากมาย ต่างก็มาร้องเรียนกับ อ.เจน ว่า พวกเขาตายแล้วแต่ยังไม่ได้ไปเกิดตามภพภูมิของตนเองก็เนื่องจากไม่มีบุญ  พวกเขาต้องการบุญจากชาวบ้าน ทุกครั้งที่ชาวบ้านทำบุญเลี้ยงพระ หรือทำงานบุญใดๆ ชาวบ้านทุกคนก็มีแต่อุทิศบุญให้กับญาติพี่น้องของตนเองไม่มีใครคิดที่จะเผื่อแผ่ให้กับสัมภเวสี ผีไร้ญาติอย่างพวกเขาเลย เมื่อไม่มีบุญก็ไม่ได้ไปตามภพภูมิของตน คงเป็นผีเร่ร่อนอยู่อย่างนี้ พวกเขามาสื่อสารเหมือนกับจะประท้วง ต่างก็บอกว่าไม่ต้องทำบุญให้พวกเขาไม่ยอม เดี๋ยวก็เหมือนเดิมอีกไม่เผื่อแผ่บุญ และทุกตนก็ร้องพร้อมกันว่า เราไม่ยอมๆ  และก็บอกกับ อ.เจน ว่าไม่รู้หรอกไม่ต้องมาพูด  อ.เจน ก็บอกว่าเรามาดีมาช่วยสื่อสารให้กับพวกท่าน แล้วเราจะไปแจ้งให้ชาวบ้านเขารับรู้กันจะได้ทำให้ถูกต้อง  พวกเขาก็บอกอยากไปเกิดแต่ไม่รู้จะไปไหน พระท่านสวดพระพุทธคุณทีไรก็อยู่กันไม่ได้มันร้อนไปหมด ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน อ.เจน ก็ถามสาเหตุว่าทำไมต้องเป็นสัมภเวสีอยู่ที่นี่มากมาย และแล้ว อ.เจน ก็เห็นภาพว่าที่วัดแห่งนี้ เมื่อสมัยก่อน เขาจะใช้วิธีเผาศพด้วยกองฟืนกองฟอน และเห็นภาพวิญญาณของผู้คนมากมายที่ตายไปแล้วมายืนอาลัยอาวรณ์อยู่กับกายสังขารที่กำลังถูกเผา ดังนั้น จึงทำให้วิญญาณมีห่วงยึดติดอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ เมื่อรวมกันเป็นจำนวนมาก หลายๆ ศพเข้าก็เป็นหมู่คณะ อ๋อ... มันเป็นเช่นนี้เอง เมื่อ อ.เจน ออกจากสมาธิก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง อุ่ย ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว ต้องรีบแล้ว ข้าวยังไม่ได้กินกันเลย นัดกับบริษัท เวิร์คพ้อยฯ บ่ายโมง จะไปกินที่ไหนไม่ทันแล้วไปกินที่บ้านไม้ ป้าหน้างอ ดีกว่า ไปถึงก็ต้องนั่งกันหัวหด สั่งแบบเรียบร้อย แกหน้างอ ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี นั่งรอไปเลย ชี..ไม่มีอารมณ์ คนกินนั่งรอไปก่อน รอจนป้าแกอารมณ์ดีแล้วค่อยได้กิน วันนี้สั่งง่ายผัดขะน้าราดข้าว วันนี้ต้องทำตัวดีกินง่าย มีอยู่วันหนึ่งจี๊ดสั่งกระเพราะหมูคลุกข้าว+ไข่ดาว ก็ว่าง่ายแล้วนะ ป้าแกตะโกนออกมาว่า ทำไมคลุกเองไม่เป็นหรือไง ตาย...ๆ แรง..ๆ ป้าแกแรง แทนที่ จะยังไง อ.เจน บอกว่า พี่ระวังหน่อยใจเย็น วันนี้ป้าแกอารมณ์ไม่ดี
ออกเดินทางไปถึงบริษัทเวิร์คพ้อยฯ....
ออกเดินทางไปถึงบริษัทเวิร์คพ้อยฯ.....อ.เจน และ ลูกศิษย์ ขับรถตามกันเป็นหาง เพื่อไปสมทบกับทีมงานคนอวดผี  วันนี้น้องตุ่นลูกศิษย์ เป็นคนอ่างทองนี่เอง ไปทำบุญอยู่แถวนั้น กะว่าจะไปสมทบกับพี่สาวคุณต้อง ก็เลยขอติดรถไปด้วย   

มาถึงก็บ่าย 4 โมงเย็นแล้ว  มีชาวบ้านมาดูกันมาก มากันเป็นระลอกๆ มาดูกัน พูดกันปากต่อปาก เริ่มเดินตรวจสอบสถานที่ทั่วบริเวณวัด  ณ วัดแห่งนี้มีศาลเจ้าที่อยู่ 3 แห่ง ตั้งอยู่กลางแจ้ง ถูกปล่อยให้รกร้างไม่มีคนมากราบไหว้ดูแล

อ.เจน เห็นดังนั้น จึงเริ่มสื่อสารภายในศาลปูนสีส้ม และศาลไม้ ตั้งอยู่คู่กัน โดยจุดธูปศาลละ 5 ดอก ศาลทั้งสองนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาการเปรียญผีเฮี้ยนนี้แหละค่ะ และ อ.เจน สัมผัสได้ว่า ที่ศาลสีส้ม ไม่มี รุกขเทวดา เจ้าที่ อาศัยอยู่ในศาลดังกล่าว แต่มองเห็นภาพย้อนอดีตว่า เมื่อสมัยก่อนมีผู้คนมากราบไหว้กันมากมาย วัดนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน แต่บัดนี้ได้รกร้างไปแล้ว และภายในศาลสีส้มแห่งนี้ ได้เคยมีพระสยามเทวาธิราช สีทอง ประดิษฐานอยู่ด้วย ปัจจุบันไม่มีแล้ว  ทีมงานก็เดินถามชาวบ้านแถวนั้น ได้ว่า จริงอย่างที่ อ.เจน บอกเป็นพระสยามเทวาธิราชจริง

ต่อมา เจน ญาณทิพย์ ได้เดินไปที่ศาลเพียงตา ตั้งอยู่ข้างศาลาการเปรียญผีเฮี้ยนนี้ ภายในจะมีปูนปั้น ตา ยาย ไม่มีหัว และพบว่า มีวิญญาณคนโบราณ เป็นผู้ชายนุ่งโจงกระเบนยืนอยู่  

เมื่อเดินสำรวจไปด้านใต้ถุนด้านล่างของเมรุ ที่สร้างติดอยู่กับศาลาการเปรียญแห่งนี้ พบว่ามีจอมปลวกขนาดใหญ่มาก ซึ่งใหญ่กว่าตัวคนมาก ลักษณะคล้ายโกศใส่กระดูก  ซึ่งตรงจุดนี้ อ.เจน บอกว่า มีพลังงานของวิญญาณอาศัยอยู่ภายในจอมปลวกนี้มากมาย และไม่ใช่จอมปลอกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นการเปลี่ยนรูปร่างตามพลังงานของวิญญาณ และมีวิญาณสิ่งอยู่ในนี้มากกว่า 1 ตน และหากใครไปแตะต้องมีเรื่องแน่  ต้องรอเวลาของโลกวิญาญาณจึงจะสื่อสารได้ รอก่อนนะ...........
บรรยากาศตอนกลางวันก็เปล่าเปลี่ยวดีพิกล ขนาดมากันกว่า 10 ชีวิต ยังเหมือนโดดเดี่ยว ยังไงไม่รู้ เหมือนกับมีคนมายืนจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา และทุกคนก็ชั่งเงียบเชียบ เหมือนร่วมมือกันไม่คุยกันยังไงอย่างงั้นเลย จริงๆ แล้วมันก็พูดคุยกันได้ แต่ทุกคนจะเงียบกันเพื่อ...อะไรกาน.. การเดินก็เดินกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แม้สภาพอากาศแสนที่จะร้อนอบอ้าว ร้อนเหมือนอยู่ในเตาอบเลยก็ว่าได้  ยิ่งบนศาลาไม่ต้องพูดเลย มีทั้ง ขี้ฝุ่น ขี้นก เศษใบไม้ รวมทั้งกลิ่นที่แสนจะอับ. แต่ก็ไม่มีใครบ่นหรือพูดคุยอะไรกัน สงบมาก  มันพิลึกมั้ยละ ต่างคนต่างคิดกันในใจ  

จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว อากาศร้อนมาก เหงื่อเปียกเสื้อตัวเหนียวเลย หิวทั้งน้ำ หิวทั้งข้าว ใส้งี้บีบกันเลย ก็ไม่อยากจะกินน้ำมากให้เป็นภาระห้องน้ำของวัด กินแต่น้อยๆ ไง ห้องน้ำวัดก็ไกลแสนไกล ไฟก็ไม่มี วัดก็อยู่ไกลจากร้านอาหารมาก ไม่ต้องกินกันล่ะ  และแล้วเหมือนพระเจ้ามาโปรด เมื่อ น้องตุ่น แกก็หิว แบบมีวิธีการ โทรหาพี่สาวทันที เจ้..เอาน้ำมา 4 โหลเลยนะ เจ้..เอาอาหารมาด้วยนะ คนเขาหิวกัน ที่นี่ไม่มีอะไรกินเลย เมื่อเจ้..(คุณต้อง) มาพร้อมคุณแม่  ปูเสื่อเหมือนมาปิ๊กนิคนั่นแหละ ของกินวาง น้ำวาง ยังไม่มีใครกินเลย แต่น้องตุ่น แกกินอย่างหิวโหย  ทุกคนสรุปกันว่า ที่ว่า คนที่นี่เขาหิวกันมาก ตามที่น้องตุ่น อ้างกับเจ้ คงไม่ใช่ใครที่ไหน คนกันเองนี่เอง อ. เจน นิ่งมากไม่แสดงอาการหงุดหงิดให้เห็น แม้อากาศจะร้อนมากเพียงใด ไม่แม้จะแสดงความเหน็ดเหนื่อย ให้ใครๆ เห็น  ยืนเป็นชั่วโมง  อ.เจน สุดยอด และ อดทน จริงๆ  อ.เจน บอกว่าเหนื่อยพี่ แต่ทำเพื่อช่วยเหลือและบุญก็สุขใจ ทำได้ทุกอย่างแหละค่ะ

ประมาณ ทุ่มครึ่ง เริ่มสื่อวิญญาณ บรรยากาศอย่าให้บอก แม่เจ้า...ศาลาฯ มืดตึ้นตื้อ ....ขอนอนดีกว่านะค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาเล่าต่อนะ...นะ
ประมาณ ทุ่มครึ่ง เริ่มสื่อวิญญาณ บรรยากาศอย่าให้บอกใคร เมื่อหันไปมองที่ศาลาฯ อุ้ย..แม่เจ้า...ศาลาฯ มืดตึ้ดตื้อไฟก็ไม่เปิด  และด้วยความที่หิวกินกันซะ ลืมเข้าห้องน้ำห้องท่ากัน พอจะได้เวลา ตายแล้วยังไม่ได้เข้าห้องน้ำกันเลย ก็ไปกันที่ละ 2-3 คน แต่ ห้องน้ำไม่มีไฟ วิ่งกันกลับมาหาไฟฉายเพื่อเข้าห้องน้ำกันอีก ส่วนทีมงานคนอวดผีและนักข่าว ก็ ทำไงดี แต่ก็หันมาบอกว่าพวกเขาทนปวดได้เขาว่าอย่างนั้น แต่จี๊ดมองๆ ดูแล้ว มันจะทนได้ยังไง เพราะตั้งแต่มาแล้วยังไม่เห็นใครเข้าห้องน้ำกันสักคน จี๊ดก็เสนอว่า มีบ้านชาวบ้านอยู่ไกล้วัดเห็นแสงไฟอยู่ไกลๆ ไปขอเขาเข้าห้องน้ำซิ ทุกคนที่บอกว่าทนปวดได้ ต่างก็ตอบพร้อมกันเลยว่า จริงซิ แล้วต่างก็วิ่งกันไปโดยพร้อมเพรียงกัน  ส่วนจี๊ดไปกับคุณเป็ก ห้องน้ำไม่มีไฟใช้มือคลำๆเอา เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ก็เริ่มเดินเข้าไปในศาลา ทีมงานบอกให้ทุกคนเดินกันอย่างเงียบๆ เพราะเริ่มถ่ายทำแล้ว โดยปรกติถ้าเป็นการล่าท้าผี จะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณที่ทำภารกิจเด็ดขาด นอกจากผู้ที่จะไปล่าท้าผี โดยเขาจะติดตั้งกล้องเอาไว้ตามจุดต่างๆ แต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษ ศาลากว้าง นั่งดูได้ห่างๆ ยุงตัวใหญ่มาก มารุมกินเลือดทุกคนเลย นี่ก็ลายเต็มตัว  เดินไปไหนใครๆ ก็ถามว่า ทำไมจุดเต็มตัว ก็ไม่กล้าบอกเขาว่าไหนมา แถวบ้านจะไม่มีใครรู้เลยว่าไปกับใคร ไปทำอะไร



มื่อ อ.เจน เริ่มสื่อสารด้วยการนั่งสมาธิบนเสื่อที่เตรียมมา จี๊ดก็เอาภาชนะพร้อมน้ำนำไปให้ อ.เจน เพื่อเตรียมกรวดน้ำให้สัมภเวสี อ.เจน นั่งสมาธิประมาณ ครึ่ง ชั่วโมง เพื่อจะนั่งสมาธิแผ่เมตตาจิตเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เมื่อลืมตาออกจากสมาธิก็ทำการกรวดน้ำให้กับวิญญาณที่อยู่ภายในศาลาฯนี้ ในครั้งแรก อ.เจน จะสื่อที่หน้าเมรุ ซึ่งมีดวงวิญญาณจำนวนมากอยู่ในนั้น แต่ อ.เจน ก็เกรงว่า วิญญาณจำนวนมากต่างร้องเรียนคงจะฟังไม่ได้ศัพท์  จึงหันมานั่งที่หน้าห้องเก็บของ  ซึ่ง อ.เจน สื่อได้ว่า ภายในห้องนี้มีวิญญาณจำนวนพอสมควร ทันใดนั้น วิญญาณคนโบราณเป็นผู้ชาย เป็นคุณตาคนหนึ่ง แต่งกายแบบโบราณ มายืนหลบอยู่ด้านซ้ายมือห้องเก็บของ เพราะด้านขวาจะมีพระพุทธรูป ตั้งประดิษฐานอยู่ วิญญาณเขากลัวแสงแห่งพระธรรม จึงหลบซ่อนอยู่ด้านนั้น  แล้วตาคนนั้นก็แจ้งกับ อ.เจน ว่าไม่ได้มาหลอกหลอนอะไร ที่มาปรากฏให้ชาวบ้านเห็นกันเพราะต้องการให้พวกชาวบ้านเขาได้รู้ว่า ที่นี่มีวิญญาณที่ต้องการบุญ เขาไม่มีบุญเลย อดอยาก และหิวโหย มานานแสนนาน พวกชาวบ้านมาทำบุญกันไม่เคยนึกถึง เหล่าสัมภเวสีผีไร้ญาติอย่างพวกเขาเลย อุทิศบุญให้แต่กับญาติของตนเอง พวกเขามาปรากฏให้เห็นเพื่อต้องการบุญเท่านั้น และคุณตาก็ชักชวนให้ อ.เจน เดินตามคุณตาไปทิศทางที่ท่านยืนอยู่ อ.เจน ก็เตรียมจะลุกตามไปแล้ว แต่ตากล้องบอกกับ อ.เจน ว่า ไม่ไป ไม่ไป อย่าไปนะ ถ้าไปก็ไม่ตามไป เมื่อตากล้องไม่ตามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร  อ.เจน จึงบอกกล่าวกับคุณตาว่า ถ้าอย่างนั้น ดิฉันจะสื่อสารผ่านทางสมาธินะค่ะ เมื่อ อ.เจน หลับตาและสื่อสารทางสมาธิ อ.เจน ก็บรรยายว่า ดิฉันเห็นดวงวิญญาณจำนวนมากอาศัยอยู่ในจอมปลวกที่ด้านล่างใต้ถุนเมรุ รวมทั้งภายในเมรุ และห้องเก็บของ แห่งนี้ ต่างก็ได้รับฟังเรื่องราวการสื่อสารของ อ.เจน ในครั้งนี้ด้วย  อ.เจน ขอให้วิญญาณทุกดวงรับรู้ว่าจะมีการทำบุญใหญ่ให้พวกเขาก็พูดพร้อมกันว่า ไม่ยอม ไม่เอา  อ.เจน ก็สื่อสารตอบไปว่า จะนำความนี้ไปบอกแก่เจ้าอาวาส ว่าการทำบุญใหญ่ครั้งนี้จะทำให้พวกท่านโดยตรงพวกท่านจะได้รับบุญใหญ่นี้อย่างแน่นอน ดังนั้น อ.เจน ก็แจ้งว่า พวกเขายิ้มแย้มกันใหญ่ ก่อนออกมาก็จุดธูปขอขมาลาโทษกันตามธรรมเนียม สองทุ่มกว่า เสร็จพิธี ทุกคนก็เดินลงมาจากศาลาแห่งนี้ มายืนกันอยู่ข้างล่างแล้ว เพื่อจะเดินไปพบกับเจ้าอาวาสวัดบ้านแก และแล้ว อ.จน ก็กระซิบบอกว่า พี่จี๊ดอยากเห็นผี ไม่ใช่เหรอ  ตอนนี้ทุกคนลงมาแล้ว แต่มี 2 ตน ชายและหญิงยืนอยู่บนระเบียงศาลาอยู่ตรงเสาที่มีปลั๊กไฟ ไอ้เราก็อยากสัมผัส หันไปมองคุณภุชง คุณภุชงเหมือนรู้ว่าชวน เขาก็บอกไปมั้ยพี่จี๊ด เราไปกันสองคน จี๊ดไม่รอช้าไปซิ ก็เดินขึ้นไปแต่เพียงขนลุกซู่ซ่าไม่เห็นตัวก็น่าเสียดาย



เจ้าอาวาสและชาวบ้านมานั่งรอ อ.เจน อยู่แล้ว เมื่อมาถึงเจ้าอาวาสก็กล่าวต้อนรับ อ.เจน และ อ.เจน ก็ได้เล่าเรื่องราวที่ได้สื่อสารวิญญาณให้เจ้าอาวาสและชาวบ้านรับทราบแล้ว และขออนุญาตเจ้าอาวาสบรรยายธรรม เพื่อเป็นวิทยาทานว่าเรื่องนี้ให้มองเป็นธรรมะ เมื่อคนเราเกิดมาก็เกิดมาคนเดียว เมื่อตายก็ตายคนเดียว ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่เคยทำบุญสะสมเสบียงไว้ เมื่อตายไปจะมาร้องขอบุญจากใครต่อใครก็ลำบากอย่างที่เนอยู่อย่างนี้ ให้จำไว้ว่าขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ให้หมั่นสร้างบุญ สะสมเสบียง เมื่อตายไปจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี และอย่าได้ยึดติดอยู่กับกายสังขาร และ อ.เจน ก็ยกตัวอย่างว่า เช่น คนที่ตายไปแล้วศพก็เอามาไว้วัด ญาติพี่น้องก็นำ เงิน มีฐานะหน่อยก็นำทอง มาใส่ไว้ในปากศพ หรือนำทรัพย์สินมีค่ามาโยนใส่ไว้ในโลงศพ แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยิบทรัพย์สินดังกล่าวนั้นนำติดตัวไปได้ มีเพียงสัปเหร่อวัดหรือใครก็ไม่รู้ที่มาหยิบฉวยเอาไป และแล้วทุกคนก็ชี้มือไปที่สัปเหร่อของวัด ว่าไอ้นี่แหละสัปเหร่อวัด สัปเหร่อวัดก็ยกมือ ครับ อ.เจน ผมเองครับ ผมหยิบเอาไปเองแหละครับ คนก็ฮากันใหญ่ไม่ได้ถามซะหน่อยว่าเอาไปหรือเปล่า   ชิงบอกก่อนเลยนะคุณสัปเหร่อ

เมื่อทุกคนได้รับทราบความประสงค์แล้ว คุณรุ้ง ก็ไปนำพานมาแจ้งว่า หากใครประสงค์จะร่วมงานบุญในวันที่ 7 มี.ค.55 นี้ กับทางวัด เพื่ออุทิศบุญให้สัมภเวสีที่วัดนี้ ก็ใส่เงินลงในพานนี้ ปรากฏว่า ทางรายการคนอวดผีได้มอบเงินให้ อ.เจน จำนวนหนึ่ง ซึ่ง อ.เจน นำถวายวัดทั้งหมด รวมทั้งเงินส่วนตัวของ อ.เจน 1,000 บาท คุณรุ้ง 1,000 บาท และเงินของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,450 บาท นำถวายหลวงพ่อจนหมดสิ้นทุกประการ เจ้าอาวาสให้พรและกรวดน้ำให้กับสัมภเวสีทั้งหลาย ระหว่างนั้น อ.เจน บอกว่า พวกเขายิ้มดีใจกันอยู่โดยรอบบริเวณนี้เขาได้ยินเราพูดคุยกันทุกอย่าง คุณต้องเห็นว่า น้ำขวดที่ซื้อมาเหลือ 3 โหล ก็นำมาถวายพระสงฆ์ ขออนุโมทนาสาธุค่ะ เมื่อเสร็จพิธีการแล้วแยกย้ายกันบ้านใครบ้านมัน แต่เมื่อออกมาจากวัดมีลมกรรโชกแรงมาก และหมู่หมาก็หอนกันทั่วบริเวณวัดเลย ชาวบ้านก็หันมาคุยกันใหญ่ว่าขนลุกๆ
เดินทางกลับบ้าน โดยสวัสดิภาพ

อัพเกรด  0.36%

2

กระทู้

245

โพสต์

516

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
516

อนุโมทนาสาธุ
ความบังเอิญไม่มีในโลก

อัพเกรด  38.84%

5

กระทู้

918

โพสต์

2248

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2248
อนุโมทนา สาธุ
  "อัตตา หิ อัตตโน นาโถ" ตนนั่นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน  

อัพเกรด  26.38%

242

กระทู้

659

โพสต์

1687

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1687
5#
โพสต์เมื่อ 2013-9-20 17:12:28 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
วังเวงมากค่ะ

อัพเกรด  67.36%

2

กระทู้

1078

โพสต์

3531

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
3531
6#
โพสต์เมื่อ 2013-9-22 16:56:43 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
อนุโมทนาสาธุ ค่ะ

อัพเกรด  5.31%

0

กระทู้

332

โพสต์

739

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
739
7#
โพสต์เมื่อ 2013-9-24 23:09:16 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
อนุโมทนาสาธุค่ะ

อัพเกรด  23.24%

0

กระทู้

314

โพสต์

1546

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1546
8#
โพสต์เมื่อ 2013-10-1 12:03:18 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
อนุโมทนาสาธุคะ

อัพเกรด  3.49%

1

กระทู้

176

โพสต์

657

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
657
9#
โพสต์เมื่อ 2013-10-5 20:03:27 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
อ่านอีกกับเว็ปใหม่ สาธุจ้า

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2024-5-19 00:38 , Processed in 0.149574 second(s), 24 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้