|
ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบว่า เหตุจูงใจที่เขียนเรื่องนี้เป็นเพราะ เมื่อวานได้ไปร่วมงานบุญมหากฐิินฯ ซึ่งขากลับคุณโค้ชประจำบัส 4 ได้แชร์ประสบการณ์เล่าเรื่องต่างๆ ให้เพลิดเพลิน พร้อมทั้งตบท้ายว่า ถ้าใครมีเรื่องอยากเล่าสู่กันฟังก็ให้เขียนในบอร์ดนี้ ดิฉันจึงขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ชีวิตด้วยนะคะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นสิบกว่าปีที่แล้วค่ะ คืนนั้นดิฉันนอนแล้วฝันว่า ตัวเองกำลังล่องลอยไปในท้องฟ้า (ไม่สูงมากนักนะคะ) โดยตัวดิฉันก็ไม่ทราบว่า จะไปสถานที่ใด ทราบแต่ว่า ลอยไปไกลมาก จนในที่สุดผ่านแม่น้ำใหญ่แห่งหนึ่ง มีต้นไม้เขียวขจีอยู่สองฝากฝั่ง เมื่อลอยไปถึงกลางสะพานใหญ่ ตัวดิฉันก็ลอยไปด้านซ้ายมือของสะพาน ดิฉันจึงเอ่ยถามใครก็ไม่รู้เพราะไม่เห็นตัวตน ถามว่า ทำไมไม่ไปทางด้านขวา ซึ่งมีบรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่ น่าพักอาศัยมากกว่า ดิฉันได้รับเสียงตอบว่า ด้านนั้นไปไม่ได้ ส่วนด้านที่ดิฉันลอยไป เมื่อมองลงมาจะเห็นต้นไม้ บ้าน วัด เจดีย์ หลังคาโบสถ์ มากมาย ตั้งอยู่เป็นระยะตลอดเส้นทางแม่น้ำนั้น ห่างจากสะพานไม่ไกลนัก ตัวดิฉันก็ค่อยๆ ลอยต่ำลงมาถึงพื้นภายในบริเวณวัดๆ หนึ่ง ดิฉันมองเห็นด้านหลังของผู้คนมากมายนั่งเก้าอี้เรียงเป็นแถวๆ ดิฉันมองดูแล้วไม่รู้จักใครสักคน แต่บังเอิญสายตาเหลือบมองเห็นคุณอา (น้องคนเล็กของคุณพ่อ) นั่งอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น ดิฉันจึงเดินไปสะกิดที่ด้านหลัง เมื่อคุณอาหันหน้ามาหา จึงเอ่ยปากถามไปว่า งานนี้งานอะไร คำตอบคือ งานศพของพี่ชายซึ่งเป็นลูกคุณลุงของดิฉัน เมื่อได้รับคำตอบภาพต่างๆ ก็หายไป
เมื่อตื่นขึ้นมา ดิฉันโทรศัพท์ไปบ้านคุณพ่อถามว่า พี่ชายคนนี้ ตอนนี้เป็นอย่างไร เพราะเมื่อคืนฝันแปลกมาก พร้อมทั้งเล่าความฝันให้ฟัง คุณพ่อจึงแจ้งดิฉันว่า ตอนนี้พี่ชายคนนี้ป่วยหนักมาก เป็นโรคมะเร็งสำไส้ ท้องบวมใหญ่ ขณะนี้พักรักษาตัวระยะสุดท้ายอยู่ที่่สถาบันโรคมะเร็ง ดิฉันจึงเรียนคุณพ่อไปว่า วันนี้ลางานไปเยี่ยมไม่ได้ ขอเวลาอีก 2-3 วันจะไปเยี่ยม 2 วันต่อมาดิฉันลางานขับรถไปสถาบันฯ เพื่อไปเยี่ยม วนรถเข้าออกอยู่ 2-3 รอบ ก็หาที่จอดรถไม่ได้ ในที่สุดดิฉันตัดสินใจไปจอดรถข้างทางรถไฟใกล้ๆ สถานีรถไฟสามเสน และเรียกแท๊กซี่ไปสถาบันฯ เมื่อไปถึง คุณพ่อ ภรรยาและลูกชายของพี่ชาย ยืนอยู่ข้างเตียงพี่ชาย ดิฉันจึงบีบที่ขาของพี่ชายแล้วพูดว่า พี่..... ไปหา..... เหรอ ขอโทษนะที่มาทันทีไม่ได้ แต่ตอนนี้มาหาแล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เมื่อพูดจบ ดิฉันได้ยินเสียงจากปากพี่ชาย เสมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ได้แล้ว ได้แต่ออกเสียง เอื็็อก ๆ ดังๆ ครั้งเดียว แล้วก็สิ้นใจไปต่อหน้า นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นภาพแบบนี้
จากความฝันเป็นความจริง ได้แต่สงสัยตัวของตัวเองเสมอมาว่า เอ๊ะ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อยากทราบคำตอบตลอดมาแต่ยังไม่เคยได้เอ่ยถามใคร ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เล่าให้สาธารณชนฟัง ขอผู้รู้ โปรดให้ความรู้ด้วย
อ้อ ขอเล่าต่ออีกนิดนะคะ หลังงานศพได้สอบถามภรรยาพี่ชายว่า พี่ชายอายุเท่าไหร่ เธอตอบว่า อายุเต็มเท่านั้นปี เท่านี้เดือน ดิฉันซึ่งตอนนั้นไม่สันทัดกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็เลือกเลขที่เพิ่มจากอายุเต็ม เนื่องจากเห็นว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะครบปี ส่วนคุณอาซึ่งดิฉันเห็นในความฝัน เลือกเลขอายุเต็ม สรุป คุณอาโชคดีจำนวนมาก คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็โชคดีกันถ้วนหน้า ยกเว้นดิืฉันคนเดียวค่ะ
และอีกอย่างหนึ่ง หลังจากนั้นอีกหลายปี ดิฉันได้เดินทางไปทำบุญหลายครั้งที่ปากพนัง นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ แต่ทุกครั้งที่เดินทางไปน้องๆ จะขับรถออกจากกรุงเทพฯ และไปถึงปากพนังช่วงเช้ามืด ทำให้มองไม่่เห็นวิวทิวทัศน์ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง น้องๆ ที่ช่วยกันขับรถออกเดินทางเวลาต่างไปจากเดิม ทำให้ไปถึงปากพนังในช่วงสายๆ เป็นเหตุให้ดิฉันสังเกตุเห็นสะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำปากพนัง จำได้ทันทีว่า เหมือนในความฝันครั้งนั้นเป๊ะ ด้านซ้ายก็เหมือน แล้วด้านขวาหล่ะ เพราะยังจำเสียงที่บอกว่า "ไปทางนั้นไม่ได้" อยากรู้นักว่า ด้านนั้นไปไหน เมื่อหันหน้าไปมองก็ตระหนักชัดเจนว่า เพราะเหตุใด เพราะพระตำหนักที่่ชาวนครศรีฯ ช่วยกันระดมทุนสร้างถวายพ่อหลวงของเรานี่เอง
|
|