สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดมาเล่าความประทับใจและขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์เจน ญาณทิพย์ที่เป็นผู้นำบุญของคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 85 โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 25 ตอน “พลังบุญใหญ่ ปีใหม่ไทย” ในวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 เพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญ ทาสีพระพุทธรูป ทาสีกำแพงรอบโบสถ์ ห่มผ้าพระพุทธรูป และร่วมสร้างวัตถุทานต่าง ๆ รวม 2 วัด ดังนี้ค่ะ จากสถานการณ์โควิดทำให้อาจารย์เจนต้องเลื่อนกำหนดการทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ในวันที่ 24 มกราคม 2564 และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วประกอบกับอาจารย์เจนรู้ได้ด้วยญาณวิถีว่าต้องเร่งรีบเดินทางไปก่อนแล้วไม่งั้นจะมีการแพร่ระบาดเพิ่มอีกครั้งอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วอาจารย์เจนก็ได้โทรหาหลวงพ่อเพื่อขอให้ทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตให้คณะเดินทางไปวัดเพื่อทำบุญ และหลวงพ่อท่านก็ไม่นิ่งนอนใจดำเนินการในทันทีแบบด่วนจี๋ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วอาจารย์ก็กำหนดวันเป็น 14 มีนาคม 2564 ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นประเด็นนิดหน่อยก็เพราะมีลูกทัวร์บางท่านติดธุระ และบางท่านก็แจ้งมาว่า กระชั้นชิดเกินไปเตรียมตัวไม่ทันและ เรื่องนั้นก็เป็นจริงห็นมั้ยล่ะ ก็วันที่ 14 มีนาคม 2564 คณะเราไปทำบุญยังไม่ทันจะเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็มีข่าวตลาดบางแคมีคนติดโควินสองร้อยกว่าคนแล้วจ้า เรื่องสำคัญพวกเราต้องไปทำบุญกันแล้วรอไม่ได้ค่ะ เพราะการรอคอยมันกระวนกระวายใจไปเสียทุกอย่างนะคะ เพราะเรามีผู้ที่จะรอคอยหลายทาง คือ ทางวัดก็รอ คนจะทำบุญเค้าก็รอ และทางโลกวิญญาณเค้าก็รอ อาจารย์เจนพูดเสมอว่า คนเรานั้นจะตายจะต้อยเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าหากว่าทำอะไรได้ก็ให้รีบทำซะนะคะ นอกจากนี้ระยะเวลาการทำบุญของคณะก็เลื่อนไปเรื่อย ๆ ส่วนเงินบริจาคของทุกท่านก็อยู่ในบุญชีเป็นจำนวนมากแล้ว อาจารย์เจนให้เหตุผลว่า คนเราไม่แน่ไม่นอนวันพรุ่งนี้วันนี้เราอาจจะตายได้ทุกเมื่อเดี๋ยวจะติดค้างไปภพชาติหน้าก็อยากที่จะทำให้เรียบร้อย และการห่างหายจากการทำบุญจะทำให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วท่านรอคอยรอรับบุญจากเรา และเจ้ากรรมนายเวรของเราก็ไม่พอใจจะจองเวรติดตามเราและสามารถมาเล่นงานเราได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ วัดที่1 วันเดินทางทำบุญจี๊ดรู้ดีเลยนะคะ ทุกคนตื่นเต้นกันมากเพราะห่างหายกันไปนานได้มารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งทุกคนทักทายกันว่าไม่ได้เจอกันเลยคิดถึง นี่ขนาดหนึ่งเดือนมีงานบุญครั้งเดียว ห่างหายไป 3 เดือน เหมือนนานนับปีจริง ๆ นะคะ ขบวนรถบัส 16 คัน เดินทางออกจากจุดนัดพบเพื่อเดินทางไปวัดแห่งแรกค่ะ เหมือนเดิมทุกครั้งทุกคนที่เดินเข้ามาในศาลาการเปรียญก็เดินกันเข้ามานั่งอย่างสงบไม่ส่งเสียงดังจ๊อกแจ๊กจอแจ เพราะทุกคนตั้งใจมาทำบุญกันค่ะ ซึ่งอาจารย์เจนภูมิใจมากค่ะ ทุก ๆ ท่านมีความสามัคคีบุญที่เพียบพร้อมจริง ๆ นะคะ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าพวกเราจะเดินทางไปแห่งหนใดก็จะมีแต่คนชมคณะเสบียงสวรรค์น่ารักมากค่ะ เป็นที่น่าชมเชยแบละประทับใจทุกครั้งเลยค่ะ สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญหลังคามีรอยรั่วและพื้นไม้กระดานผุพังนั้น คณะเสบียงสวรรค์ได้รับเงินบริจาคและรวมกับที่ต่อยอดกันที่วัดอีกเป็นเงินกว่า 6 แสนบาท สุดสุดไปเลยค่ะ จำนวนเงินนี้ไม่ได้รวมกับค่าซื้อสังฆทานนะคะ เพราะอาจารย์เจนได้นำเงินจากกองบุญทั้งหมดนำไปซื้อเพื่อทุกท่านจะได้ได้มีส่วนในเครื่องสังฆทาน ผ้าห่มพระ ถังสี อุปกรณ์การทาสี ฯลฯ ทั้งหมดทุกส่วนเลยค่ะ เหลือสุทธิเท่าไหร่ก็แบ่งให้กับวัดที่จำเป็นในการใช้ปัจจัยสร้างวัตถุทานนั้นค่ะ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งเอิบอิ่มบุญไปกับทุกท่านด้วยค่ะที่ได้ยอดเงินเป็นจำนวนมากเพื่อทางวัดจะได้นำไปจัดการซ่อมแซมทำนุบำรุงส่วนที่ชำรุดของศาลาในลำดับต่อไปค่ะ ตามที่อาจารย์เจนได้เล่าให้ฟังว่าได้เห็นญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้ว และเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละท่านที่ได้มารับบุญกุศลที่วัดในวันนั้น ซึ่งไม่เหมือนกับทุกครั้งเพราะทุกครั้งญาติพี่น้อง หรือเจ้ากรรมนายเวรได้รับบุญแล้วก็ยิ้มดีใจแล้วพูดว่า ดีจริง ๆ ได้รับบุญแล้วได้รับอีกนั้นเป็ฯเพราะเมื่อก่อนนั้นพวกเราทำกันเป็นประจำทุกเดือนจ้า แต่ครั้งนี้ อาจารย์เล่าว่า วิญญาณทั้งหลายต่างก็ชะเง้อรอคอยและหิวโหยบุญกันมากนี่ก็ประมาณ 3 เดือนเห็นจะได้ที่ได้มาทำบุญกันวันนั้น พวกวิญญาณทั้งหลายต่างก็เฝ้ารอคอยเหมือนกับคนที่หิวโหยและรอให้คนนำอาหารมาส่ง เมื่อรอนานวันเข้าต่างก็อดอยาก หิวโหย และเคืองแค้น จี๊ดก็ถามอาจารย์เจนว่า อาจารย์ได้เห็นวิญญาณยังไงมากันเยอะมากหรือค่ะ อาจารย์เจนตอบว่า มากันเยอะมากเพราะเป็นวันกุดไทยทางโลกโน้นเขาเปิดภพภูมิให้มาได้ หากวิญญาณใดที่อยู่นรกขุมลึกไม่สามารถมาได้ก็สามารถมาได้ และอาจารย์สามารถเห็นได้ชัดเจนมากวิญญาณบางตนมารอรับบุญที่ศาลาวัด บางตนก็อยู่ต่างภพภูมิ อาจารย์เจนบอกว่า เห็นได้ทั้งหมดพวกเขารอคอยบุญกันมากและก็ยิ้มดีใจที่ได้รับบุญของผู้อุทิศให้ไปค่ะ รวมทั้งเหล่าดวงวิญญาณของทหารหารที่ตายอยู่ที่วัดแห่งนี้ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เคยมาพักบูรณะวัดแห่งนี้ อ๋อ มิน่าเล่าอาจารย์ถึงได้นำจบอธิษฐานให้ทหารทั้งหลายด้วยเป็นอย่างนี้เอง และอาจารย์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า บุญทอดผ้าป่านี้เป็นบุญใหญ่และเป็นพลังบุญของผู้คน 700 คนในวันนั้น สามารถปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดได้หลายดวงเชียวค่ะ อือฮือ ฟังแล้วน่าประทับใจมั๊กมากและน่าภูมิใจมากที่พวกเราได้มีส่วนช่วยเหลือกันในครั้งนี้ค่ะ นอกจากนี้พวกเราทั้งหมดนี้ได้เคยเป็นทั้งทหาร ข้าราชบริพาร พ่อค้า ประชาชน มาช่วยกันบูรณะวัดแห่งนี้ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชค่ะ เพราะคนเรานั้นเกิดมาหลายภพชาติต่างก็เวียนว่ายตายเกิดกันมามากมายพวกเราเคยสร้างบุญนี้มาแล้วและก็ได้มาสร้างสานต่อเพื่อให้วัดดำรงอยู่ศาสนาดำรงอยู่สืบต่อไปค่ะ อาหารกลางวัน อาจารย์เจนได้สั่งข้าวกล่อง น้ำส้ม (ขวดป้อมกลม) น้ำดื่ม ขนมปังวังหลัง (มีหลายใส้ก้อนเบ้อเริ่มอร่อยมาก) เฉาก๊วย และมีกลุ่มลูกศิษย์ลูกหานำน้ำส้ม (ขวดยาว) มาแจกในโรงทานค่ะ แต่ของทางวัดไม่ได้ตั้งโรงทานมากนักเพราะชาวบ้านเค้าไม่ค่อยมีกันก็ตามมีตามได้นั่นแหละค่ะ ซึ่งอาจารย์เจนไม่เคยรอให้ลูกทัวร์อดอยากหรือรอรับประทานแต่ของวัดนะคะ โดยมีข้าวกล่องที่อาจารย์เจนไปถึงร้านเพื่อชิมกันสั่งมาให้ลูกทัวร์นะคะ ขนม และน้ำ แจกให้ทุกท่านไม่มีขาดสักท่านแม้แต่คนขับรถเด็กรถจึงไม่ต้องกังวลใจเรื่องอาหารการกินนะคะ ถ้ามาทัวร์บุญอาจารย์เจน ญาณทิพย์ อิ่มไม่มีอดแน่นอนค้า ในการที่ผู้นำบุญนำพาคนไปทำบุญก็ต้องคิดถึงบุญที่จะทำก่อน และคิดถึงความสะดวกสบายของผู้ร่วมบุญที่ไปด้วยกัน ซึ่งการเป็นผู้ให้ให้คนได้กินอิ่มแล้วไปทำบุญก็ได้บุญนั้นด้วยนะคะ ดังนั้น อาจารย์เจนเลี้ยงดูแบบอิ่มแล้วอิ่มอีกค่ะ แต่ก็มีผู้นำบุญที่ไม่ลงทุนมุ่งเน้นเอาผลแต่กำไรแล้วอาศัยแต่ข้าวโรงทานของวัดจะพอกินไม่พอกินก็เรื่องของตัวอันนี้อาจารย์เจนบอกว่านอกจากจะไม่ได้บุญแห่งทานนแล้วกจะติดกรรมที่เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วยค่ะ อันนี้ก็เป็นข้อคิดนะคะ เพราะบุญมีจริงและกรรมก็มีจริงเสมอกันแต่เราจะเลือกทำความดีหรือความชั่วในรูปแบบใดก็ว่ากันไปค่ะ ทาสี กิจกรรมทาสีทุกคนรู้หน้าที่ของตนกันเป็นอย่างดีค่ะ เมื่อทอดผ้าป่าสามัคคีและรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมผ้ากันเปื้อน หมวก อุปกรณ์ทาสี สำหรับอุปกรณ์ทาสี อาทิเช่น ขันทาสี อาจารย์เจนได้นำเอาขันที่ลูกทัวร์ใช้แล้วทิ้งนำมาขัดล้างให้สะอาดแล้วนำมาขายที่วัดใบละ 10 บาท ส่วนแปรงทาสีอาจารย์เจนได้ไปหาซื้อมาใหม่ ๆ และขายในราคายุติธรรม เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของทุกคนได้บุญกันทั่วหน้าเพราะถวายวัดทั้งหมดค่ะ ซึ่งได้มีผู้ใจบุญร่วมบุญค่าน้ำค่าไฟรวมเงินถวายวัดทั้งสิ้น 40,389.50 บาท นอกจากนี้อาจารย์เจนได้ถวายผ้าห่มพระพุทธรูปสีขาว เพื่อให้ทางวัดห่มให้เมื่อสีที่ทาองค์ท่านแห่งแล้ว รวมทั้งถวายถังสีที่เหลือจากการทาสีมอบถวายให้วัดทั้งหมดเพื่อทางวัดจะได้นำไปใช้ต่อค่ะ พระพุทธรูปองค์สีขาวได้ทาสีแล้ว และทางวัดก็ได้ส่งรูปภาพพระพุทธรูปองค์สีขาวที่ได้มีการห่มผ้าเรียบร้อยแล้ว อืมสวยงดงามมากค่ะ เป็นภาพที่น่าปลื่มปิติใจมากค่ะ มีเรื่องเล่า แม่ตี้เป็นคนที่มีจิตมั่นมากท่านนั่งมองพระพุทธรูปตอนที่ทีมงานกำลังทาสีองค์ท่านอยู่นั้นท่านยิ้มได้ค่ะ และเมื่ออาจารย์เจนสั่งให้ทีมงานวาดรูปดวงตาเพราะเห็นว่า ดวงตาของพระพุทธรูปเขาวาดไว้ไม่เป็นดวงตาเลย เมื่อทีมงานวาดเสร็จท่านก็ยิ้มอีกครั้งหนึ่งค่ะ ซึ่งเรื่องนี้แม่ตี้ก็มาเล่าให้อาจารย์เจนฟัง ซึ่งอาจารย์เจนก็บอกว่า ท่านศักดิ์สิทธ์จริง ๆ ค่ะ ดังนั้น การที่ทุกท่านมาร่วมบุญกันนี้ทุกท่านก็มีส่วนร่วมแม้ไม่ได้เป็นคนทาสีเองท่านก็ได้อานิสงส์บุญด้วยเพราะเงินบริจาคของทุกท่านมีส่วนทุกส่วนงานบุญทั้งสิ้นค่ะ พระแม่ธรณีเสด็จมาอนุโมทนาบุญ ถ้าหากทุกคนได้ยืนอยู่ในสถานที่นั้นตอนที่อาจารย์นำกล่าวจบอธิษฐานก่อนถวายสังฆทานก็จะได้ยินเสียงอาจารย์เจนอธิษฐานจิตขอให้พระแม่ธรณี พระเพลิง พระพราย พญามัจจุราช เทวดา และเจ้าที่เจ้าทาง ฯลฯ มาร่วมอนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเราค่ะ ก็ตามที่จี๊ดเคยพูดเสมอว่าเสียงของอาจารย์เจนดังไป 3 โลก นรก สวรรค์ และมนุษย์ อาจารย์เจนเล่าว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นและรู้ได้ว่า ท่านคือ พระแม่ธรณีเพราะลำตัวท่านผุดขึ้นมาเพียงครึ่งลำตัว และครึ่งลำตัวนี้มีความสูงถึงประมาณ 7 เมตร อย่าว่าแต่อาจารย์เจนรู้สึกตื่นเต้นมากเลยนะคะ จี๊ดก็ตื่นเต้นมากเหมื่อนกันค่ะ อาจารย์เจนเล่าต่อไปว่า ท่านยิ้มดีใจมากเลยท่านมาอนุโมทนาบุญกับคณะบบุญของเราค่ะ และได้บรรยายรูปลักษณ์ให้ฟังว่า ท่านมีความงดงามสวยมากกว่าดารานักแสดงระดับนางเอก นางงาม แบบว่าบรรยายไม่ถูกสวยมาก ท่านมีดวงตากลมโตหางตาเฉียงขึ้นดวงตาสวยงามมาก รูปปากกระจับงามมาก แลละมีเส้นผมที่ยาวมากเลยค่ะ เมื่อท่านมาปรากฏให้เห็นแล้วท่านก็ยิ้มและอนุโมทนาบุญกับพวกเราด้วยค่ะ จี๊ดว่านะคะถ้าอาจารย์เจนไม่แน่จริงไม่เป็นผู้มีบุญจริงแล้วพระแม่ธรณีท่านคงไม่เสด็จมาหรอกค่ะ และบุญที่พวกเราทำนั้นต้องยิ่งใหญ่จริง ๆ ด้วย ช่างน่าตื่นเต้นจริง ๆ ค่ะ จี๊ดจะเล่าให้ฟ้งมีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์เจนพาคณะไปนั่งสมาธิในน้ำและพระแม่คงคาท่านก็เสด็จมาอนุโมทนาบุญ ท่านก็สวยงามมากและมีผมที่ยาวมากเป็นคลื่นมากับสายน้ำค่ะ วัดที่2 กิจกรรมที่วัดแรกเต็มแน่นมากค่ะ ก็มาผ่อนคลายยังวัดที่สองด้วยการทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างวิหารทาน วัตถุทานค่ะ เมื่อมาถึงวัดก็ประทับใจชาวบ้านแล้วค่ะ มีทั้งเจ้าหน้าที่มาให้การต้อนรับ มีทั้งขนมอร่อย และน้ำดื่มมาคอยต้อนรับค่ะ ทุกคนก็ทะยอยกันลงจากรถบัสแล้วมายืนต่อแถวกันเพื่อร่วมเดินเวียนประทักษิณและร่วมสวดมนต์พระพุทธคุณ 3 รอบและเข้าไปยังศาลา 5 เหลี่ยม อาจารย์เจนรู้ในญาณวิถีว่า ถ้าจะสร้างโบสถ์ได้สำเร็จควรจะต้องให้พระสงฆ์ได้สวดมนต์เพื่อเป็นการเบิกฤกษ์ ซึ่เจ้าอาวาสก็ได้ให้ทุกคนได้สวดมนต์ร่วมกัน หลังจากนั้นอาจารย์เจนขอให้ทุกคนนั่งสมาธิพร้อมกัน เรื่องนี้อาจารย์เจนรู้ได้ในญาณวิถีว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้พวกเรามาถึงวัดพลบค่ำและได้ทำการนี้จะช่วยให้เปิดทางให้การสร้างโบสถ์สำเร็จค่ะ
การทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างวิหารทาน วัตถุทาน ได้ปัจจัยเงิน 266,184.50 บาท จี๊ดปลื้มปิติใจมากค่ะที่ได้ยอดเงินมากเพื่อช่วยทางวัดในส่วนที่ขาดได้ค่ะ
ช้างป่ามาอนุโมทนาบุญ เรื่องน่าอัศจรรย์ใจของทุกคนก็เกิดขึ้นในตอนเช้าวันจันทร์เวลา 6.10 น. เจ้าอาวาสท่านได้มาพบบช้างป่าบุกเข้ามาเดินที่บริเวณที่จะสร้างโบสถ์ท่านเองก็ตื่นเต้นมากท่านบอกตั้งแต่มาอยู่ที่วัดนี้ไม่เคยเห็นมีช้างป่ามาก่อนเลย ท่านถ่ายทำวีดีโอช้างป่าส่งมาให้คุณรุ้งตะวันพี่สาวอาจารย์เจน ท่านบอกว่าคณะบุญของโยมไม่ธรรมดาเลยชาวบบ้านก็แตกตื่นใจต่างก็โจษขานร่ำลือถือถ่อกันไปทั่ว แล้วได้นำไปตีเป็นเลขหวย ช้าง 1 เชือก และช้าง พวกคอหวยเขาว่า เลข 9 ดังนั้ “19” เป็นเลขที่ถูกกันทั้งตำบลก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเรื่อง ฮา ๆ นะค่ะ อาจารย์เจนก็ตื่นเต้นที่มีช้างป่ามาบุกวัดก็ได้โทรศัพท์ไปหาบอดี้กราด์ยามค่ำคืนน้องเค้าก็ตื่นแต่เช้างานการไม่ต้องทำเพราะเขาเก่งตัวเลขตีได้ทันทีว่า 19 เที่ยวเดินหาล๊อตเตอร์รี่เลขนี้จนได้มา 2 ใบ เพราะไม่กล้าซื้อหวยใต้ดินอาจารย์เจนสั่งไว้จะตกนรกเพราะไม่ใช่ของรัฐบาล ส่วนที่ตลาดบางพลัดแม่ตี้ก็ไปเดินหาไม่มีเลขนี้ก็ไม่ซื้อกันค่ะ ส่วนน้องเค้ามีเลขนี้ 2 ใบ. โทรมาแบ่งอาจารย์เจน 1 ใบ. แล้วไปบนที่ศาลเจ้าที่ที่ทำงานถ้าถูกรางวัลจะถวายไก่ต้ม 1 ตัว ก็ไม่ได้ระบุว่าต้องรางวัลใหญ่ ดังนั้น เงินที่ขขึ้นรางวัลมาแบ่งให้อาจารย์เจนใบหนึ่งก็แทบไม่เหลือขำกลิ้ง ฮ่าๆๆๆ เมื่อน้องเค้ามาเล่าให้อาจารย์เจนฟังวันรุ่งขึ้นที่นำเงินขึ้นรางวัลมาให้ อาจารย์ฟังแล้วสงสารน้องเค้าก็ช่วยเงินซื้อไก่ให้ไปครึ่งตัวเพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสียร่วมกันขำ ๆ นะคะ “คนละครึ่ง พอเช้าวันอังคารช้างป่ามาอีก 1 เชือก รวมเป็น 2 เชือก ไม่ไปไหนอัศจรรย์จริง ๆ ค่ะ ความประทับใจนี้เป็นความประทับใจในบุญที่พวกเราได้ทำร่วมกันขออนุโทนาบุญกับทุกท่านค่ะ จี๊ดจ๊าด |