อ.เจน นำคณะฯ ไปงานบุญกฐิน ปี 2557 - ห้อง จี๊ดจ๊าดเล่าเรื่อง อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 11832|ตอบ: 23
พิมพ์หน้านี้ ก่อนหน้า ถัดไป

อ.เจน นำคณะฯ ไปงานบุญกฐิน ปี 2557

[คัดลอกลิงก์]

77

กระทู้

517

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
26516



อ.เจนนำคณะฯ ไปงานบุญกฐิน ปี 2557



สวัสดีค่ะ ดิฉันต้องรีบเป็นอย่างมากจะพ้นปี 2557 เข้าปี 2558แล้วค่ะ ต้องรีบแล้วจร้า
คือครั้งแรกตั้งใจจะเล่าเรื่องที่ อ.เจนนำลูกศิษย์ไปทอดกฐิน คือ ไปกันเป็นประจำทุกปี
โดยไม่ได้เลือกจำเพาะเจาะจงวัดแห่งใดเลือกแค่จังหวัดเท่านั้น แล้ว อ.เจน
ก็เลือกแล้วว่าที่วัดใดบ้างมารับฟังกันเลยนะค่ะ
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 และวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557 อ.เจน ได้นำพาลูกศิษย์ลูกหาทีมงาน
ไปทอดกฐิน รวม 3 วัด เป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่นค่ะ ทุกคนก็เตรียมความพร้อมอย่างเต็มกำลัง
และสิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องผ้าไตรจีวรแบบพระป่า สีแก่นบวร ข้อสำคัญที่ทุกคนควรรู้ว่าเราจะ
ไปถวายผ้าไตรที่วัดใดและวัดนั้นพระท่านใส่ผ้าจีวรสีใด เพราะฉะนั้น พระท่านก็ไม่ได้
ใส่กันนะค่ะแล้วเราก็จะอึ้งกิมกี่ไปด้วยค่ะ
อ.เจน และคุณรุ้ง ไปซื้อผ้าไตรจีวร สีแก่นบวร โดยซื้อเผื่อแผ่บรรดาศิษย์ด้วยให้มาซื้อ
ต่อค่ะเจ้าของร้านเขาขายราคาพิเศษให้ค่ะ แต่ถ้าซื้อไปงานกฐินที่ อ.เจน เตรียมไปทอด
80 กว่าผืนนั้นเขาคิดราคาเต็มพิกัดค่ะ  
ภัยของปลาสลิดตากแห้ง  แผนที่ อ.เจน วางไว้สุดยอดมากค่ะ โดย อ.เจนสั่งการคุณมิตร
ให้ซื้อปลาสลิดตากแห้ง 30 ตัว และผลไม้ต่าง ๆในตลาดที่คุณมิตรทำการค้าขายอยู่นั่นแหละค่ะ
ซึ่งงานนี้ อ.เจน ต้องการที่จะแสดงฝีมือทอดปลาสลิดด้วยตนเอง
ส่วนดิฉัน ได้รับมอบหมายให้ซื้อข้าวสีนิลและข้าวหอมมะลิเพื่อนำมาหุงเป็นข้าวสวยแสน
อร่อยในยามเช้าที่จะตักบาตรพระกันค่ะ  อ.เจน บอกว่า พระสงฆ์วัดที่สองนั้นเคร่งมาก
ท่านมีจริยะวัตรครบค่ะ อ.เจนจึงต้องการจะทำอาหารถวายพระสงฆ์ด้วยฝีมือของ
ตนเองและลูกศิษย์ค่ะ



เรื่องของปลาสลิดยังมีต่อค่ะ  อ.เจน และคุณรุ้ง จะต้องเดินทางไปควบคุมงาน
ที่สำนักปฏิบัติธรรมฯที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ก่อนที่จะไปทอดกฐินส่วนตัว ในวันพุธที่ 9
ก่อนไปกฐินส่วนตัววันเสาร์ที่ 11คณะเดินทางก็มี อ.เจน คุณรุ้ง และเฮีย
คุณมิตรถึงแม้คุณมิตรจะไปกับอาจารย์ด้วย ก็ไม่ลืมหน้าที่ที่ต้องซื้อปลาสลิดค่ะ
วันศุกร์ที่ 10 ตอนเช้าตรู่(เป็นวันที่อาจารย์ต้องเดินทางกลับจากเพชรบูรณ์แต่กลับเย็นๆ)
จึงโทรศัพท์สั่งซื้อปลาสลิดและผลไม้ กับแม่ค้าที่รู้จักกันในตลาด ค่ะ
เขารู้จักคุณมิตรเป็นอย่างดีค่ะ  เมื่อคุณมิตร โทรศัพท์สั่งซื้อแม่ค้าแล้ว
ก็ได้โทรศัพท์กำชับให้ลูกน้องสมุนคู่ใจไปรับปลาสลิดและผลไม้ โดยให้รีบ
บึ่ง..รถมอเตอร์ไซด์ นำไปส่งให้กับแม่ตี้ที่บ้าน อ.เจน ค่ะ แม่ตี้อยู่บ้านค่ะ
แต่เมื่อ แม่ตี้ ได้เปิดห่อปลาสลิดขึ้นมาก็พบว่า ปลาสลิดมีกลิ่นเห็นแทบสลบเ
พราะมันมีกันหลายตัวไงค่ะรวมพลังเหม็นค่ะปลาเริ่มจะกลิ่นไม่ค่อยดีแล้ว
ประกอบกับแม่ตี้มีอาการเวียนหัวอยู่แล้วกลับเป็นหนักยิ่งขึ้นจึงโทรศัพท์ถาม
คุณรุ้ง ว่า เอาปลามาทำไม คุณรุ้ง จึงบอกว่า อ.เจนจะนำไปทอดถวายใส่บาตร
พระที่วัดป่า เท่านั้นแหละ เป็นเรื่องใหญ่ค่ะ เรื่องใหญ่จริงๆ

คุณรุ้ง ก็โทรศัพท์มาหาดิฉันขณะทำงานว่า มีเรื่องด่วนพี่ พี่ ช่วยหนูหน่อยเถอะค่ะ
วันนี้พี่ต้องค้างที่บ้านอยู่แล้วและก็เล่าเรื่องปลาสิลดนี่แหละค่ะ ตบท้ายให้คุยกับ
แม่ตี้เพื่อคลายเครียดก่อนที่อ.เจน กับคุณรุ้ง จะถึงบ้านค่ะ งานเข้าดิฉันแล้ว
วันนั้นแต่เมื่อพบเจอแม่ตี้เข้าจริง แม่ก็เล่าขำขำให้ดิฉันฟังว่า
วันนี้ฉันก็มีอาการเวียนหัวอยู่แล้วพอมีคนเอาของมาส่งก็ไม่รู้ว่าอะไรพอ
เปิดห่อของขึ้นมาเท่านั้นมันเป็นปลาสลิดที่ส่งกลิ่นเหม็นมากเหม็นทั้งบ้าน
จำนวนทั้งหมด 30 ตัว ฉันไม่รอเลยรีบโทรไปหาเจ้ารุ้งเลยว่า สั่งปลาสลิดมา
ทำไมพอรู้ว่า เจน จะเอาปลาสลิดกลิ่นอย่างนี้ไปทอดฉันโทรเลย
ดิฉันถามว่าโทรไปว่าอะไรค่ะ แต่จริง ๆ ดิฉันรู้แล้วว่าอะไร
แม่ตี้เล่าให้ดิฉันฟังว่า ฉันโทรไปถามเขาว่า “เรามีบ้านอยู่ที่นั่นเหรอแล้วก็วางหูไปเลย”
ดิฉันจัดการให้ได้ค่ะ ก็เป็นพวกแม่ตี้ซะเลย แต่ขำจริง ๆ ค่ะความตั้งใจของ อ.เจน
ล้มพับไปข้าวสารที่ดิฉันซื้อมาต้องนำไปถวายสังฆทานแทนเสียอย่างงั้นค่
ะ แม่ตี้ พูดกับดิฉันว่า ฉันนะเวียนหัวกับปลาสลิดมาก
และมันก็อยู่ที่บ้านได้ไม่ถึง 5 นาทีแม่ตี้ได้กำจัดออกจากบ้านไปเสียหมดแล้ว
เพราะมันเป็นความเสี่ยงตัวร้ายของบ้านเลยทีเดียว แม่ตี้บอกว่ามันเหม็นมากและแม่ตี้
ก็ได้กำจัดความเสี่ยงไปยังเพื่อนบ้านค้างเคียงพร้อมกำชับทุกบ้านว่าเอาไปล้างและทอดทันทีค่ะ

ดิฉันจึงเป็นพวกแม่ตี้ไปก่อนอันดับแรกรับฟัง อ๋อเหรอค่ะ ก็อธิบายไปว่า แหมคุณแม่ก็รู้อยู่ว่า
คุณมิตรเขาเป็นคนดีดีมากดีจนถูกหลอกนั่นแหละค่ะ ซึ่งเข้าใจเจตนาดีของ
ทุกท่านเล้ยจิงจริ้งเฮ้อเหนื่อย ค่ะ  จึงมาคุยกันว่าโถสงสารคุณมิตรถูกหลอกอีกแล้ว
ถ้าปลาสลิดแห้งมันคงไม่เหม็นอย่างนี้ นี่แม่ค้ามันแย่เอาของไม่ดีมาส่งให้คุณมิตรคิดว่า
เขาไม่รู้ไงเขาเป็นผู้ชายไม่รู้เรืองก็โดนหลอกค่ะ แม่ตี้ ก็เลยสงสารคุณมิตรว่า เออ หนอ
ซื้อของก็โดนหลอก สำหรับคุณมิตรนั้นหรือค่ะรู้สึกผิดมากที่ตนเองโดนหลอกอีกแล้ว
กรรมของแกค่ะ วันหลังจะเล่ากรรมของคุณมิตรให้ฟังนะค่ะ คุณมิตรแกเป็นคนดี
คนซื่อ ในตลาดใคร ๆ ก็รู้จัก หญิงรู้จักชายรู้จักค่ะ ใจดี และยิ้มง่ายจึงได้ทีคนที่คิดไม่ซื่อค่ะ
จากประสบการณ์ตรงของดิฉัน กรณีนี้มักพบบ่อยมากเพราะ คนที่คิดดีทำดีก็มักจะ
โดนคนที่คิดไม่ดีเขาคตโกงและเอาเปรียบเสมอค่ะ  



เย็นวันศุกร์ ประมาณ 5 โทงเย็น  อ.เจน  ยังอยู่ที่เพชรบูรณ์เพราะหาซื้อกระเบื้องยังไม่เสร็จ
ตัดสินใจเองเพราะแผนปลาสลิดล้มพับไปแล้วคิดแผนใหม่ที่บรรเจิดเลิศล่ำยิ่งกว่า
ปลาสลิดเสียอีก คราวนี้ เป็นปลาแซลมอนและสเต็กหมู เป็นไงล่ะ เมื่อคิดได้จึงสั่งการทาง
Line ให้น้องดาไปซื้อปลาแซลมอน และ สเต็กหมู ปรุงสำเร็จแทน พร้อมผักเครื่องเคียง
ตอนแรกน้องดากะว่าจะเดินทางปกติ แต่เมื่อของที่ อ.เจนสั่งซื้อมันมากขึ้นทุกที
น้องดาจึงต้องโทรเรียกน้องเก่งให้มาเป็นผู้ร่วมชะตากรรมซึ่งน้องเก่
ง ออกจากมหาวิทยาลัยพอดี ก็รีบฮ้อ..มอเตอร์ไซด์ ไปรับน้องดาซึ่งเป็นทางผ่านที่
จะมาบ้านอ.เจน อยู่แล้ว ส่วนดิฉันรออยู่ที่บ้าน อ.เจน เมื่อเห็นข้าวของที่ขนกันมา
แล้วโอ้โหบานตะไทค่ะ มีทั้งกระทะ ตะหลิ่ว มีด เขียง ผัก ปลา หมู น้ำมันพืช ฯลฯ
อุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายค่ะ เนื้องานใหญ่กว่าเรื่องของปลาสลิดซะอีกค่ะ
ตอนนี้มีสมาชิกมาเพิ่มแล้ว ขณะที่นั่งรอคอย อ.เจนกับคุณรุ้ง อยู่ทางบ้านนั้นเอง อ.เจน
โทรด่วนมาแจ้งว่า ให้รอนะทุกคนวันนี้เราจะมีปลากะนึ่งแปะซะและปูม้าน้ำพริกแซบ
กำลังจะกลับจากเพชรบูรณ์คืนนี้ค่ะพี่จี๊ดเตรียมบีบน้ำมะนาวไว้นะค่ะ พริกขี้หนู
กระเทียม จัดไว้นะค่ะ
แหมดิฉันนะกลิ้งเลย รู้ได้เลยแบบไม่มีญาณวิถีว่าอ้าว ปลา กะปู ที่ขนกันไปตั้งแต่วันพุธยัง
ไม่ได้กินกันเลยเหรอค่ะ อ.เจนตอบกลับมาว่า ยังเลยค่ะพี่ ไม่มีเวลาทำค่ะ  
และพรุ่งนี้จะออกเดินทางกันแล้วคงไม่มีเวลาถ้างั้นบอกพวกเด็ก ๆ ด้วยนะพี่ให้รอ
หน่อยเดี๋ยวจะกลับ แต่ดิฉันคำนวณเวลาแล้วอาจารย์มาก็ปาเข้าไป5 ทุ่มนับจากเวลา
ที่โทรจึงยังไม่บีบมะนาวตามคำสั่งให้รู้แน่แก่ใจก่อนค่ะ
ไอ้เจ้า ปลากะพง และ ปูม้า ที่คุณมิตรได้รับคำสั่งซื้อมาจากตลาดอย่างสด ๆ
อัดน้ำแข็งไว้ในกล่องโฟม ซึ่งยังเก็บไว้ได้ข้ามภพข้ามชาติค่ะตั้งแต่วันพุธจวบจนถึงวันศุกร์
  แต่ว่าอาจารย์จะกลับมากี่ทุ่มกันละดิฉันก็ Line แจ้งน้อง ๆ แต่ละคนไปว่า
อย่ากินอะไรมาน่ะรอกิน ปลากะพงแปะซะ และปูม้านึ่ง น้ำจิ้มแซ่บ นะค่ะ  
หลังจากนั้น ก็ประมาณ ทุ่มกว่า ๆ คุณรุ้ง ก็โทรด่วนมาแจ้งว่าพี่หนูยังวิ่งหา
ซื้อกระเบื้องและสิ่งของที่ช่างสั่งให้ซื้อไม่ครบเลยตอนนี้ยังอยู่ในห้างฯขาย
วัสดุก่อสร้างในจังหวัดเพชรบูรณ์คืนนี้คงดึกมากค่ะ ต้องขับรถขากลับมาช้า ๆ
เพราะอันตรายค่ะ ตามนั้นค่ะทุกคนเข้าใจค่ะ Lineแจ้งน้องๆว่าหากินกันเอง
เลยนะน้องภารกิจปลากะปูล้มเลิก
คืนนี้พวกเด็ก ๆ น้องเบริ์ด น้องเก่ง และ น้องดาจะมานอนค้างที่บ้าน
เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปกันตั้งแต่เช้าพวกที่ไม่ได้มาค้างก็ไปพบกันที่จุดนัดพบค่ะ
แต่พวกค้างที่บ้านก็ไม่มีใครนอนเพราะเป็นห่วงอาจารย์ไม่รู้ว่าจะกลับ
กี่โมงกี่ยามรอกันประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ ค่ะ ระหว่าง อ.เจน เดินทางก็ได้สั่งการ
มาทางโทรศัพท์ให้จัดหาถาดใส่ของ3 ใบ แต่ดิฉันจัดไป 5 ใบค่ะ
และห่อครกและสาก งานนี้เป็นมหกรรมใหญ่จัดหนักค่ะ

เช้าวันรุ่งขึ้น อ.เจน และคุณรุ้ง ยังกะซอมบี้ เดินเซไปเซมานอนได้3 ชั่วโมง เองมั้งค่ะ
ก็ไปหลับนอนในรถเอาค่ะ คณะเดินทางทั้งหมดออกเดินทางด้วยรถยนต์3
คันขับตาม ๆ กันไปค่ะ เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืดเพราะเกรงว่าจะไป
ไม่ทันทอดกฐินข้าวปลาต้องกินกันหรอกค่ะ อ.เจน บอกไปรับบุญกันก่อน
ดีกว่ากินที่หลังเดี๋ยวจะไม่ทันค่ะ

ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า 6 โมง ภายในรถทุกคนเกือบจะไม่มีที่นั่งกันล่ะค่ะ
ก็เพราะมีทั้งเตาแก๊สปิกนิค เขียง ครก มีด และถาดใส่ของอุปกรณ์ต่าง ๆ
อีกมากมาย  ก่อนเดินทางในคืนนั้น ดิฉัน และน้องดาก็ช่วยกันตรวจเช็คสิ่งของ
ทั้งหมดกินเวลานานมากค่ะ ข้าวของเยอะแยะไปหมดและยังจะมีของ
แช่ตู้เย็นอีกหลายรายการค่ะ

เรามาดูกันว่าปีนี้ อ.เจน ทอดกฐินได้กี่วัดค่ะ
วัดที่ 1 เช้าวันเสาร์ที่11 ตุลาคม 2557 คณะฯเดินทางไปถึงวัดแห่งแรกนี้เวลา
ประมาณ 9.00 น.แต่ผู้คนมากมายค่ะเข้าไม่ถึง เห็นผู้คนยืน ออ ๆ
กันอยู่แน่นพวกเราก็ใส่เงินปัจจัยร่วมบุญกับเขาแล้วก็มายืนรอกันอยู่ข้างนอก
ศาลาส่วนผู้คนข้างนอกก็มากมายเช่นค่ะแต่แล้วอยู่ ๆ อ.เจน ก็เดินเข้าไปข้าง
นศาลาดิฉันก็ต้องรีบติดตามไปไม่อยากให้อ.เจน และคุณแม่ตี้ เดินกันไปลำพัง
แต่เมื่อเข้าไปก็พอมีที่นั่งให้พอดีค่ะ ก็แทรกๆ ตัวเข้าไป ได้ทียังมีที่อีกนี่นา
ก็ได้โทรเรียก คุณรุ้งและน้องดา ให้มานั่งกันพอดีเปะค่ะ

ประธานทอดกฐินและคณะมาไม่ได้ ในครั้งแรกพวกเราก็นั่งรอร้อรอซ่งนานมาก
ร่วมชั่วโมงนั่งกันเข้าไปได้เพราะว่าเป็นอาการที่ต้องนั่งพับเพียบแบบบีบขา
บียดกันแทบจะนั่งเกยกันอยู่แล้วค่ะนั่งกันจนเป็นเหน็บ แม้เป็นเหน็บก็ขยับตัวไม่ได้ค่
ะ ลุกไปเสียที่นั่งค่ะ นั่งกันตั้งแต่เวลา9.00 น. จนถึงเวลา 9.45 น.
ผอิญนั่งตรงข้ามกับนาฬิกาดิจิตอลของวัดจึงรู้ได้ก็นั่งสมาธิคอยกันไปค่ะและ
แล้วทางวัดก็ประกาศว่า เจ้าภาพประธานไม่สามารถจะมาได้  และประธานได้
มอบหมายให้ผู้แทนมาขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางมาเป็นเป็นประธานทอดกฐิน
แทนทุกคนได้ยินเสียงประกาศแล้วต่างก็นั่งรอ รอ และรออีกนานกว่า 15 นาที
ก็มีเสียงทางวัดประกาศขึ้นมาอีกว่า บัดนี้ ได้เวลาฤกษ์พิธีการทอดกฐินของทางวัด
แล้วแต่ผู้แทนประธานยังมาไม่ถึง ดังนั้น ทางวัดเป็นผู้ดำเนินการงานทอดกฐินไป
ก่อนก็เพราะว่า ผ้าไตรจีวรและบริวารกฐิน กองอยู่ตรงหน้าแล้วรวมทั้งปัจจัยเงิน
ของชาวบ้านก็มีพร้อมอยู่แล้วค่ะ

ขณะที่พิธีการทอดกฐินกำลังจะเสร็จสิ้นผู้แทนประธานก็มาถึงพอดีแต่ไม่มีที่นั่ง
ต้องไปแอบๆ อยู่ด้านข้างแท่นพระสงฆ์ ส่วน อ.เจนนั่งอยู่เบื้องหน้าหมู่พระสงฆ์
ที่ทำพิธีการทอดกฐินค่ะ ดังนั้นเมื่อประเคนผ้าทอดกฐิน ประธานก็ไปอยู่ด้านข้าง
เหมือน อ.เจน เป็นประธานทอดกฐินเลยค่ะอ.เจน แอบกระซิบบอกว่า บุญเขา
จัดสรรไว้แล้วพี่ค่ะดิฉันรับฟังก็เข้าใจจากการที่ได้ติดตาม อ.เจน มานานเข้าใจดีค่ะ
แต่เหตุการณ์ที่ประธานทอดกฐินไม่สามารถมาได้นี้แปลกมากและมอบหมายให้ผู้
แทนมาก็แสนจะยากลำบากกว่าเขาจะมากันได้ ซึ่ง อ.เจน กับคุณรุ้ง พูดอธิบายให้
ดิฉันเข้าใจว่ากฐินเป็นบุญใหญ่ หากผู้นั้นไม่มีบารมีอย่างเพียงพอแล้วจะเป็น
ประธานคนเดียวไม่ได้ส่วนมากจะเป็นกฐินสามัคคี ค่ะ
อ.เจน และคณะฯ ไปกันอย่างที่ไม่มีใครรู้ว่านี่คือ อ.เจน และไม่ต้องการให้ใครจำได้ค่ะ
อ.เจน ต้องการไปงานบุญกฐินแบบส่วนตัวค่ะ

ที่พัก ออกเดินทางจากวัดแรกไปหาที่พักกันค่ะที่พักนี้ อ.เจน ได้จองเอาไว้แล้ว
ซึ่ง อ.เจนพูดให้ดิฉันคิดและฝึกสมองตลอดเวลาว่าที่พักนั้นมีอะไร โดยพูดว่า
ทุกคนรู้มั้ยว่าเจ้ารีสอร์ทที่ติดต่อด้วยเขาพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า
ที่พักของเขามีเป็นร้อยห้องแต่ว่า ที่พวกคุณมาพักคณะเดียว เท่านั้น
ซึ่งส่วนตัวมากค่ะ สำหรับพวกคุณที่ชอบกุกกุกกู๋ ล่ะก็ดีเลยค่ะ

สถานที่ที่เราจะไปพักกันนั้น เป็นรีสอร์ทที่อยู่บนเนินเขาสูงตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า
อยู่บนเนินเขามองไปแต่ไกลจากปากทางก็ยังเห็นได้ระยะทางจากปากทางก็ไกลค่ะ
มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียวรอบนอกนั้นไม่มีบ้านผู้คนอีกเลยค่ะ
จากปากทางเข้าไปลึกอยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อขับรถเข้าไปก็ยิ่งได้พบกับบรรยากาศหลอนๆ
บ้านพักแต่ละหลังก็อยู่ห่างกันมาก เป็นบ้านหลัง เล็กๆ ก็แบ่งกลุ่มชายหญิง
ให้ผู้ชายไปพักก่อน ก็มีคนนำทางให้ไปที่พักขณะที่เดินไปก็พบบึงน้ำใหญ่
ดิฉันสังเกตเห็นศาลเพียงตาเล็กที่ริมตลิ่งจึงสะกิดสะเกาเพื่อร่วมเดินทางให้ดูและคิด
ไม่ค่อยดีแล้วซี  จึงหันไปมองหน้า อ.เจน เพื่อหาที่พึ่งและก็พึ่งได้สะด้วยตอนที่
อ.เจน มองหน้าดิฉันและเข้าใจความหมายของดิฉันว่าจะถามอะไรจึงได้มากระซิบว่า
เป็นเด็กผู้หญิงพี่ เขาบอกว่า พี่ช่วยหนูด้วย อ.เจน บอกว่า พี่หนูรีบหันหลังกลับเลย
ไม่อยากสื่อด้วยค่ะซึ่ง อ.เจน รู้ด้วยญาณว่า เด็กคนนี้ตกน้ำตายที่นี่ ค่ะ

ทุกคนได้เลือกบ้านพักกันแล้วค่ะ ดังนี้ค่ะ  1.คุณมิตร กับ น้องเก่ง 2.น้องเบริ์ด กับ เฮีย
3.คุณภุชงค์ กับ น้องดิว 4.คุณเป็ก น้องเชน และคุณเต้ย 5.แม่ตี้ กับ น้องดา
6.อ.เจน  คุณรุ้ง และ ดิฉัน 7. คุณแท็กซี่ งานนี้ขาดคุณสุดารัตน์ เพราะต้องเตรียมตัวไปต่างประเทศค่ะ

คู่ที่ 1 และ 2 เป็นผู้โชคดีที่ได้นอนอยู่ใกล้กับศาลเพียงตาริมตลิ่งที่เด็กผู้หญิงที่ขอ
ความช่วยเหลือนั่นแหละค่ะดิฉันก็อวยชัยให้พรให้โชคดี และบ้ายบายดิฉันไปก่อนดีกว่าค่ะ
  แต่ก็ยังมีผู้ปากกล้าท้าผีอย่างคุณภุชงค์บอกว่า ไม่เชื่ออยากเจอ ๆ ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ
ดิฉันก็อวยพรอวยชัย ขอให้เจอ ขอให้โดนขอให้ได้สัมผัส เพี้ยง ๆ

พวกสาว ๆ ก็รีบจัดการข้าวของที่ขนกันยังจะย้ายบ้านพักแรมทีเดียวเชียวก็นำข้าว
ของมาจัดเรียงและล้างผักหญ้า และผลไม้ ให้เรียบร้อยเตรียมสำหรับพรุ่งนี้เช้า

มาเล่นกันเถอะมาเล่นกันเถอะ   ที่นี่มีอะไรเล่นกันบ้างน้าออกเดินสำรวจกัน
จึงพบว่ามีสถานที่หนึ่งที่นั่นมีเนินสูงลาดลง เนินสูงนี้ปูด้วยหญ้าสีเขียว
และมีอุปกรณ์การเล่นสนุกด้วยค่ะ  ของเล่นชิ้นนี้เล่นง่ายค่ะ อุปกรณ์การเล่น
เป็นถังใส่น้ำพลาสติกขนาดใหญ่(สีฟ้า) นั่นแหละค่ะ ถังเบ้อเริ่ม นำมาผ่าครึ่ง
แล้วให้คนเล่นเข้าไปนั่งในถังนั้นนั่งบนยอดเนินและร่อนตัวลงไปตามแรงโน้มถ่วงค่ะ
ดิฉันกลัวความสูงมาก จึงไม่กล้าเล่นค่ะอ.เจน กล้าหาญมากเล่นก่อนใครเพื่อนเลยค่ะ
แม่ตี้ นึกสนุกเล่นบ้าง ตามด้วย น้องเบริ์ดน้องดิว คุณเต้ย คุณรุ้ง ผู้กล้าท้าเล่น
ตามด้วย เสียงกรี๊ดสนั่นเป็นของน้องเบริ์ดแต่สุดท้ายดิฉันก็ตัดใจเล่นค่ะ สนุกแต่คันหญ้าบาดผิวค่

โดดสูง พายเรือ ว่ายน้ำ   เล่นน้ำกันดีกว่า มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาไปก็ไป
ที่นั่นก็คือบึงใหญ่ที่อยู่คนละฝากฝั่งกับศาลเพียงตา (เด็กผู้หญิงตกน้ำตาย)
ที่นี่ท้าทายมากค่ะ เพราะมี หอโดดสูงโหนเชือกสลิง มีเรือให้พายด้วยเมื่อเดินมา
ถึงทุกคนก็บอกว่า ถ้าตกน้ำไปจะไหวเหรอน้ำก็มีสีแดง (สีของดินแดง)แต่มีน้องเก่ง
ที่วิ่งไปที่หอสูงก่อนใครแล้วก็ต้องเดินไปลุ้นน้องเค้าค่ะ
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นน้ำในวันนี้ที่ทุกคนบอกว่า สีของน้ำไม่น่าเล่น
แต่แล้วทุกคนก็ลงไปในบึงน้ำนี้ค่ะ
หอโดดสูงนี้กับเชือกสลิงลาดลงไปยังที่ชายฝั่งอีกฝากหนึ่งของฝั่งคลองเพื่อ
ให้คนเล่นได้โหนตัวร่อนลงไป หากไม่มีกำลังก็จะล่วงหล่นลงน้ำในทันทีค่ะเริ่ม
จากน้องเก่งเล่นผ่านและท่าสวยค่ะ ก็จึงมีผู้ตามไปติดๆ น้องบริ์ด คุณเต้ยคุณมิตร
น้องดิว คุณภุชงค์ คุณรุ้ง ยกเว้น อ.เจน พวกเราก็ลุ้นกันแทบตาย แต่ อ.เจนไม่เล่น
จะพายเรืออย่างเดียว โดยบอกให้ทุกคนหัดพายเรือเพื่อช่วยเหลือคนในอนาคต
พวกเราต้องช่วยเหลือคนมากมายจากภัยทางน้ำดิฉันกลัวความสูงไม่เล่นค่ะ
ก็พายเรือกับแม่ตี้ คนที่ตลกสุดก็ลุงภุชงค์ค่ะเพราะแกไปค้างอยู่กลางเส้นเชือกสลิง
โหนตัวเป็นลิงซิมแฟนซี อยู่อย่างนั้นโดยไม่มีใครให้กำลังใจใดใดทั้งสิ้นเลย
มีแต่คนตะโกนว่า ไม่ผ่านๆๆๆค่ะตะโกนกันยังกะเชียร์กีฬาสีเลยค่ะ

เมื่อเล่นกันหมดทุกอย่างแล้วพวกเราก็คะยั้นคะยอให้อ.เจน ขึ้นไปโดดสูง
ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ทุกคนจึงบอกว่า เฮียตัวใหญ่สุดให้ดูเฮียเป็นตัวอย่าง
ถ้าเฮียโดดผ่านได้ อ.เจน ก็โดด่านได้ เพราะ อ.เจนสูงใหญ่จึงคิดไปเองว่า
ไม่ผ่านการโดดสูง แต่ทุกคนบอกว่า ผ่านค่ะ ไปค่ะ อาจารย์ก็ลุ้นกันอยู่นานเฮีย
จึงขึ้นไปโดดสูงเป็นตัวอย่างว่า เฮียก็ทำได้ ทุกคนก็ลุ้นให้เฮียผ่านเพื่อเป็นขวัญ
กำลังใจ ของ อ.เจน แต่เมื่อเฮียขึ้นไปจริง ๆ ปรากฏว่า แป๊ก เฮียตกมาจากที่สูง
ในท่าคว่ำหน้าทำให้หน้าอกอัดกระแทกพื้นน้ำเสียงดังบั๊ก  นั่นไงตัวอย่างของอ.เจน
และทุกคนก็หัวเราะกันจนน้ำตาไหลค่ะ โดยเฉพาะ อ.เจน พูดกับดิฉันว่าหนูไม่
เอาแล้วก็พี่ให้หนูดูเฮียเป็นตัวอย่าง หนูไม่เอาแล้วหนูไม่เชื่อพี่แล้วทำให้
ทุกคนยิ่งขำกันใหญ่ ไม่เอาแล้ว ดูตัวอย่างแล้วเจ็บค่ะ

อ.เจน จึงไปพายเรือเล่นแต่ดิฉันไม่สนใจสีของน้ำแล้วค่ะ โดดลงไปว่ายน้ำทันทีค่ะ
แต่นึกขึ้นมาจึงคิดวางแผนล่มเรืออ.เจน ที่พายอยู่คนเดียวค่ะ น้องเก่ง ร่วมมือกับดิฉัน
ส่วนคุณรุ้ง ก็ช่วยกันเชียร์ด้วยเสียงดังว่า “ล่มเลยๆๆๆ” ได้ผลค่ะ น้องเก่ง ล่มเรือได้
กรรมก็ตามทันตาเห็น แต่เรือของตนเองจมน้ำทำให้น้องเก่งต้องลงไปงมหาเรืออยู่
นานเหนื่อยแสนเหนื่อยก็ต้องหาเรือให้เจอค่ะ กรรม กรรม ที่ทำกับครูบาอาจารย์
ต้องมาขอขมากรรมกันอีกค่ะ เห็นผลทันตาจริง ๆ

เย็นแล้ว แม่ตี้ไปกับคุณแท็กซี่จ่ายตลาดอาหารมื้อเย็น ซึ่งไม่มีอะไรนอกจาก
หมูปิ้งขาวเหนียว ก็ปลากะพงข้ามภพชาติไงละส่วนปูม้า จ้างร้านอาหารเขา
นึ่งตั้งแต่กลางวันแล้วค่ะ คืนนี้บ้านใครบ้านมันค่ะ

เช้าวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557 เวลา 4.30 น. เวลาที่นัดหมาย ทุกคนก็ต้อง
ช่วยกันทำอาหารใส่บาตรพระ  อ.เจน ทอดปลา แซลม่อน และสเต็กหมู  
ดิฉัน และน้องดา หั่นผลไม้ คุณรุ้งจัดผักคัดแยกผักใส่ถาดให้สวยงามค่ะ
น้องเบริ์ด และน้องดิวจัดสเต๊กใส่จานให้เรียบร้อย คุณภุชงค์ คุณเต้ย เฮีย
หน่วยล้างทุกสิ่งอย่าง คุณเป็กน้องเชน แผนกซีลอาหาร

ประมาณ 6 โมงเช้า เช้าวันนี้ทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุขเพราะมีเป้าหมาย
ว่าวันนี้เราจะไปไหนกันค่ะป้าหมายใฝ่บุญเป็นอะไรที่อิ่มเอิบในจิตใจเป็นที่สุดค่ะ
พวกเราออกเดินทางประมาณ 6.30น. แม้
จะหิวแต่ก็ไม่เป็นไรค่ะเราต้องรีบกันแล้วเดี๋ยวไม่ทันค่ะทุกอย่างเรียบร้อยแต่
ก็ยังมีหมอกหนาอยู่ค่ะ พวกเราต้องรีบออกเดินทางไปวัดกันแล้วต่างแยกย้าย
ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปกันค่ะงานนี้ไม่พ้น อ.เจน ต้องขับรถแล้วเส้นทางลดเลี้ยว
คี้ยวคตกับสายหมอกอันตรายมากค่ะ
วัดที่ 2  วัดนี้มีพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สถานที่ช่างเงียบสงบบรรยากาศดี
อากาศเย็นสบาย และ มีบ่อน้ำใหญ่ อยู่ใกล้กับศาลาอเนกประสงค์  
มีทั้งพระสงฆ์ไทยและต่างประเทศ รวมทั้งผู้ทรงศีลชุดสีขาวทั้งไทยและต่างประเทศ
เมื่อมองดูแล้วช่างน่าศรัทธาเลื่อมใสยิ่งนัก ซึ่งคณะฯ เดินทางไปถึงวัดทันเวลาพอดี้พอดีค่ะ
ทุกคนต่างก็รีบกระโดดลงจากรถและนำอาหารที่จัดเตรียมกันมาอย่างประณีต
บรรจงจัดและสวยงามเข้าไปภายในวัดค่ะ แต่เมื่อไปถึงวัด เจ้าหน้าที่วัดก็หยิบของที่เรา
จัดวางอย่างดีอย่างไม่ปราณีทำให้เราต้องร้องกันว่าระวัง ๆแล้วก็ไปช่วยจัดกา
เมื่อเสร็จก็ทำการประเคนให้แด่พระสงฆ์ที่รอรับประเคนอยู่หนึ่งรูปในขณะที่พระสงฆ์
รูปอื่นประมาณ 30 รูป  ท่านเดินรับบิณฑบาตข้าวเหนียวจากผู้คนที่ยืนรอใส่บาตรกัน
เป็นแถวยาวมากกว่า200 คนเห็นจะได้ค่ะ เมื่อ อ.เจน และคณะฯใส่บาตรอาหารคาวหวาน
และผลไม้ทั้งหมดแล้วก็วิ่งไปที่จานข้าวเหนียวที่เขาวางไว้ให้ใครก็ได้ที่จะนำไปใส่บาตร
พระสงฆ์เมื่อเราหยิบจานได้ก็วิ่งไปยืนรอพระท่านที่ท้ายขบวนค่ะ อ.เจน บอกว่า
ของสิ่งนี้เราไม่ได้ซื้อหามามีผู้ทำให้เสร็จแล้วขอให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญกับผู้ที่ซื้อ
ข้าวเหนียวและหุงหามาให้เราได้ใส่ค่ะถ้าทำเช่นนี้เราก็จะได้อานิสงส์บุญไปกับเขาด้วยค่ะ
อ.เจน พูดเสมอว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญเขาจัดสรรไว้แล้ว
  บางครั้งเราก็เห็นว่า คนคนนี้กำลังจะแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเราไม่ว่าจะเป็น
การแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่การงาน ยศตำแหน่ง ชื่อเสียง หรือสิ่งของ หรือไม่ว่า
จะอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เชื่อว่าถ้าอะไรเป็นของเรามันก็จะต้องเป็นของเราค่ะไม่ใช่
ของใครอื่น เพราะสิ่งที่เราจะได้มานั้นขึ้นอยู่ที่บารมีของเราที่ทำมานั่นเองค่ะเขา
ไม่ได้ทำต่อให้แย่งชิงอย่างไรก็ไม่ได้ค่ะ
รู้นะว่าคิดอะไรแม้กระทั่งการใส่บาตรทุกคนต่างแย่งชิงที่ยืนใส่บาตรและชุลมุนมาก
กับการใส่บาตรแต่การที่เรามายืนอยู่อย่างสงบที่ท้ายขบวนและไม่มีคนมาแย่งเช่นนี้
ก็มิใช่เรื่องบังเอิญอ.เจน บอกว่าบุญจัดสรร ค่ะ พระสงฆ์ท่านเดินมาถึงแล้วดิฉันปั้น
ข้าวเหนียวด้วยจิตที่เป็นสมาธิและบรรจงจิตนิ่งอธิษฐานทุกปั้นข้าวเหนียวใส่บาตรลง
ไปเมื่อเงยหน้ามาอีกทีอุ้ย  จึงทำให้ดิฉันคิดในใจว่าตายละหว่า นั่นพระท่านยังมีอยู่
อีกประมาณ 10 รูป เสียดายจังปั้นข้าวเหนียวก้อนโตไปหน่อยทำให้หมดเร็วเสียดาย
จริง ๆ อยากจะใส่บาตรให้ครบทุกรูป
ทันใดนั้น อ.เจนก็นำข้าวเหนียวปั้นใหญ่ใส่ลงมาที่จานข้าวของดิฉัน และพูดว่า
พี่เอาข้าวเหนียวไปค่ะแหมคิดดังจังนะค่ะ ดิฉันก็คิดในใจจึงถามไปว่า
อาจารย์รู้ด้วยเหรอค่ะว่าจี๊ดคิดอะไรอยู่อ.เจน ก็ยิ้มแล้วพูดว่า พี่หนูมีญาณนะพี่หนูรู้ค่ะ
ดิฉันดีใจมากค่ะที่ได้ข้าวเหนียวมาใส่บาตรจนครบทุกรูปค่ะ
ใส่บาตร พระอรหันต์  พระอนาคามี  พระสกทาคามี  พระโสดาบัน  อ.เจน บอกว่า
พี่หนูเห็นในตาทิพย์แล้วว่าพระสงฆ์ที่เราใส่บาตรกันในวันนี้ซึ่งบางรูปท่านเป็นพระ
ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดังนี้ค่ะ พระอรหันต์  พระอนาคามี พระสกทาคามี  พระโสดาบัน
ซึ่งรูปสุดท้ายเป็นพระโสดาบันค่ะ  โอ้ย ดีใจได้ปลื้มอิ่มบุญกันตาม ๆ ไปค่ะ
เพราะการได้ทำบุญกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างนี้จะมีอานิสงส์บุญมากค่ะ
ตามที่ดิฉันกล่าวไว้ตั้งแต่ต้นมาแล้วนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
การที่พวกเรายืนอยู่ท้ายขบวนทำให้พวกเราเดินไปถึงศาลาเอนกประสงค์ก่อนผู้อื่นดังนั้น
อ.เจน คุณรุ้ง ดิฉัน และน้องดา จึงได้นั่งอยู่ด้านหน้าบนศาลา ส่วนน้อง ๆ
ทั้งหมดนั่งอยู่ด้านข้างศาลาถัดลงไปค่ะ แต่ก็อยู่ด้านหน้าทั้งหมดค่ะ
  ขณะที่นั่งระพิธีการพวกเราก็นั่งสมาธิรอค่ะแต่เมื่อพิจารณาแล้วได้เห็นความเป็นจริง
เพราะเหตุไฉน อ.เจน และน้อง ๆ จึงได้มาอยู่ณ จุดนี้เพราะไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ
อ.จน บอกเขาจัดสรรแล้วก็มีอย่างที่ไหนไม่มีใครมานั่งและก็เป็นคณะของเราที่มานั่งค่ะ
เมื่อปีที่แล้วคณะฯของเราก็มานั่งอยู่ตรงนี้ที่เดิมค่ะ

ความรู้เรื่องการทอดกฐิน
เป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธศาสนิกชนปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลา
ยาวนานกว่า2,500 ปีกำเนิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐออก
ดินทางไกลเพื่อไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดพระเชตวัน พระภิกษุเหล่า
นั้นมีจีวรที่เปรอะเปื้อนเปียกชุ่มและเปื่อยขาดด้วยความเก่าพระบรมศาสดา
จึงทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษารับผ้ากฐินได้หลังออกพรรษา
เพื่อนำมาผลัดเปลี่ยนผ้าเก่าประเพณีทอดกฐินได้เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งนั้นและ
สืบทอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน

การแห่องค์กฐินรอบวัด ๓ รอบ
การสมโภชองค์กฐิน
กฐิน   แปลว่า  ไม้สะดึงคือ  กรอบไม้ชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับขึงผ้า
เพื่อสะดวกในการตัดเย็บจีวรในสมัยโบราณช่างไม่มีความชำนาญอีกทั้ง
ผ้าไตรจีวรของพระภิกษุ   เป็นผ้าผืนเล็กบ้างใหญ่บ้าง ยากที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัว
การเย็บจีวรนั้นพระทั้งหลายก็จะมาช่วยกัน อุบาสกอุบาสิกาก็จัดหาน้ำดื่ม เป็นต้น
โดยความหมายผ้ากฐินก็คือผ้าที่สำเร็จรูปโดยใช้ไม้สะดึงผู้ทอดกฐินก็คือผู้นำ
ผ้ากฐินไปถวายแก่สงฆ์องค์ครองกฐินก็คือภิกษุผู้ได้รับผ้ากฐิน ผ้ากฐิน คือ  
ผ้าที่สำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึง

ประเภทของกฐิน มี ๒ ชนิด
( ๑) กฐินหลวง  คือ กฐินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปทอดเองหรือ
โปรดเกล้าฯให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จไปแทนพระองค์หรือข้าราชการ ประชาชน
ผู้ใด ผู้หนึ่งหรือคณะบุคคลขอพระราชทานไปทอด  ณ  วัดพระอารามหลวง   วัดใดวัดหนึ่ง
( ๒) กฐินราษฎร์ คือกฐินที่ผู้มีจิตศรัทธาผู้ใดผู้หนึ่ง หรือคณะบุคคลนำไปทอด
ณ วัดราษฎร์ วัดใดวัดหนึ่ง

เมื่อถึงเทศกาลทอดกฐิน จะสังเกตได้ว่าวัดนั้นจะมีธงรูปจระเข้ติดที่หน้าวัด
และขบวนกฐินก็จะมีธงรูปจระเข้นำขบวนไปด้วย  การที่มีธงจระเข้มาเกี่ยวข้องด้วยนี้
ครั้งโบราณกล่าวว่าอุบาสกแห่องค์กฐินไปทางเรือ จระเข้ก็อยากได้บุญนั้นบ้างจึง
ว่ายน้ำตามเรือไป  จนหมดกำลังไปไม่ไหวจึงร้องบอกอุบาสกให้ช่วยเขียนภาพ
ของตนที่ธงแล้วนำขบวนไปด้วยอุบาสกจึงได้เขียนรูปจระเข้ยกเป็นธงขึ้น
ตั้งแต่นั้นมาจึงมีธงรูปจระเข้ติดที่วัดที่มีการทอดกฐินและนำขบวนกฐินไปด้วยจนถึงทุกวันนี้  

นางวิสาขา มาอนุโมทนาบุญในงานบุญกฐิน  พระสงฆ์ท่านเทศน์โปรดผู้คนที่เข้ามา
ในบริเวณศาลาอเนกประสงค์ก่อนพิธีกรานกฐินโดยพูดถึงประวัติ
องนางวิสาขามหาอุบาสิกา  ว่า ท่านเป็นพระอริยบุคคลผู้สำเร็จธรรมเป็น
พระโสดาบันตั้งแต่ยังวัยสาวนางเกิดในตระกูลเศรษฐี และเป็นพุทธศาสนิกชน
คนแรกที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ถวายผ้ากฐิน

พระสงฆ์ท่านก็เทศน์เล่าเรื่องราวของนางวิสาขาไปเรื่อยๆ ทุกคนก็รับฟังธรรม
เทศนานั้นอย่างตั้งใจ ในระหว่างนั้น ดิฉันสังเกตและสัมผัสได้ว่าเริ่มมีลมพัดหวนรอบตัว
ลมมาเป็นพัก ๆ ทุกคนก็รู้สึกได้ ทำให้ดิฉันอยากถาม อ.เจนมากยิ่งนัก
แต่ก็เก็บความรู้สึกอยากรู้นี้ไว้ และความอยากรู้อยากเห็นนั้นก็คลี่คลาย
เมื่ออ.เจน เฉลยความสงสัยค่ะ

อ.เจน ได้เล่าให้ฟังภายหลังว่า ระหว่างที่พระท่านเล่าอยู่นั้นก็มีลมพัดมาเป็นระลอก ๆ
และสิ่งที่อาจารย์ดีใจมากที่สุดก็คือได้เห็นเหล่าเทวดามากมายท่านเสด็จมา
อนุโมทนาบุญกับทุกคนที่มาร่วมงานแต่ที่น่าดีใจยิ่งกว่าก็คือ ได้เห็นนางวิสาขาในตาทิพย์
ท่านเสด็จมา ท่านยิ้มและอนุโมทนาบุญ อ.เจน ดีใจมากค่ะ
  ดิฉันก็ซักไซ้น่าดูว่าเป็นยังไงบ้าง อ.เจน จึงอธิบายว่าท่านใส่ชุดส่าหลีสีขาว
เนื้อผ้าบางเบา มีเม็ดมุกเล็ก ๆ ระยิบระยับประดับประดาบนเนื้อผ้าแสนงามนั้นค่ะ
สีผิวของนางวิสาขาเป็นสีน้ำผึ้ง ท่านไม่ใช่คนสีผิวขาวค่ะ ใบหน้าคมจมูกสวยงามมาก
เหมือนจมูกของชมพู่ และมีห่วงทอง ที่ได้แกะสลักลวดลายงามวิจิตรเจาะไว้ที่ปลายข้างจมูก  

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ ที่ อ.เจน ได้เห็นนางวิสาขาครั้งที่ อ.เจน เดินทางไปประเทศอินเดีย
ดิฉันจำได้ว่า อ.เจนไปชมสถานที่ที่ครั้งหนึ่งนางวิสาขาอาศัย ณ สถานที่แห่งนั้น
  แต่ในครั้งนั้นดิฉันได้พบว่าเป็นสถูปเก่าแก่เป็นซากปรักหักพังตามกาลเวลา
ที่เขาอนุรักษ์ไว้ค่ะ ในวันนั้น อ.เจนได้สื่อจิตไปยังสถูปของพระนางก็ได้เล่าให้
ดิฉันฟังอย่างนี้ว่านางสีผิวและหน้าตาอย่างไรดิฉันจำได้ค่ะ

ใครเป็นประธานเจ้าภาพกันแน่   หลังจากนั้นก็จะเริ่มพิธีการทอดกฐินแล้ว
อ.เจนได้นำผ้าไตรจีวร สีแก่นบวร (สีที่พระวัดป่าใช้ครองจีวร)  มา 2 ผืน อ.เจน 1 ผืน
คุณรุ้ง 1 ผืนโดยพระท่านกล่าวนำถวายผ้า ก่อนกล่าวดิฉันก็หันไปส่งสัญญาณ
ให้คณะฯกำหนดจิตอธิษฐานผ้าไตรที่ อ.เจน ยกขึ้นสูงเพื่อให้คณะฯเรา
ได้เห็นชัด ๆ ระหว่างนั้นอ.เจน ก็กระซิบว่า พี่ช่วยกันแกะห่อพลาสติกออก
จากผ้าไตรเร็ว ๆ ค่ะดิฉันก็ทำตามอย่างเร็วตามสั่ง และทางวัดก็ประกาศว่า
เชิญประธานถวายผ้า อ.เจนคุณรุ้ง ดิฉันและน้องดา ก็คลานตามเข้าไปโดยหารู้ว่า
พวกเราไม่ใช่ประธานฝ่ายประธานเจ้าภาพแต่งตัววิจิตรบรรจงด้วยผ้าซิ่นไหม
เสื้อเป็นผ้าแก้วฉลุลวดลายดอกไม้สวยงามเชียวค่ะตอนที่เข้าไปอยู่ในวงล้อมเจ้าภาพ
ก็ยังมึนงงตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเข้ามาได้ยังไงประธานถวาย อ.เจน ถวายผ้าพร้อม ๆ
กันเลยค่ะ ต่างคนต่างก็หันมามองหน้ากัน ฝ่ายเจ้าภาพก็สงสัยว่า
พวกเรานี้เป็นญาติฝ่ายไหนของเขาส่วนพวกเราก็มึนงงว่าอ้าวนี่เจ้าภาพ
และเรามาถวายพร้อม ๆเขาได้ยังไงเนี้ยทำมึนไปเลยเรา
ต่อมาทางวัดก็ประกาศว่าการถวายผ้าขอเป็นเจ้าภาพถือเป็นอันเรียบร้อยนอกนั้น
ใช้สายสินธุโยงไว้แล้วไม่เป็นไร ค่ะสรุปได้ว่า อ.เจน และคุณรุ้งได้ถวายพร้อมเจ้าภาพ
ประหนึ่งว่าเป็นงานทอดกฐินของ อ.เจน เชียวค่ะ

พญานาค ร่วมอนุโมทนาบุญ   เมื่อถวายกฐินเรียบร้อยแล้วพระท่านก็นำกรวดน้ำ
ในขณะนั้น อ.เจน ได้เห็นด้วยญาณวิถีว่าพญานาคตัวใหญ่โผล่พ้นน้ำ
ขึ้นมาร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกคนที่มาร่วมงานบุญนี้ท่านไม่ได้มาตนเดียวท่านมา
พร้อมบริวารตัวเล็กตัวใหญ่คละเคล้าขนาดและอยู่กันเต็มบึงน้ำนั้นค่ะเกล็ดพญานาค
มีสีเขียวมันวาววับระยับไปทั่วตามลำตัวที่ด้านหน้าลำตัวเป็นสีเหลืองอ่อนสวยงามมาก
กำลังพ่นน้ำออกมา

ผ้าไตรจีวรของ อ.เจน ได้กรานกฐิน  ครั้งแรกดิฉันก็อดสงสัยเสียไม่ได้ว่า
ทำไมอ.เจน จึงสั่งให้ดิฉันแกะห่อพลาสติกของผ้าไตรออกมาจนเหลือแต่ผ้า
ไม่มีอะไรมาห่อหุ้มและต่อมาก็หายสงสัยซึ่งก็แอบดีใจอยู่ลึก ๆเมื่อได้เห็นพระสงฆ์
ท่านลุกขึ้นไปพร้อมกับหยิบผ้าผืนไตรผืนของ อ.เจน ติดไปด้วยท่านเดินไปจนสุด
ทางเดินของท่าน เพื่อไปครองผ้ากฐินค่ะ ตอนนั้นดิฉันดีใจ ๆ อยู่อย่างนั้นค่ะปิติใจค่ะ
ที่จริงพระสงฆ์ท่านจะต้องหยิบผ้าไตรของประธานเจ้าภาพซึ่งประดับประดา
วางบนพานพุ่มอย่างดี  แต่กลับหยิบผ้าผืนของ อ.เจน  เป็นอานิสงส์บุญมากจริง ๆ ค่ะ
การที่พระสงฆ์ท่านนำผ้าของเราไปกรานกฐินถือว่าเราได้อานิสงส์ของบุญนั้นทันที
ได้อานิสงส์โดยฉับพลันค่ะ (พระสงฆ์จะนำผ้าผืนนั้นไปครองหรือสวมใส่ทันทีซึ่งถือ
ว่าได้กฐินนั้นไม่เดาะทำครบสูตรผู้ถวายจะได้อานิสงส์บุญทันทีค่ะ) สำหรับอ.เจน
เองก็รู้ว่าจะต้องเป็นไปเช่นนั้น ซึ่ง อ.เจน เล่าให้ดิฉันฟังว่าขณะที่ยกผ้ากล่าวนำ
ตามคำบอกของพระท่านอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเทวดาท่านบอกว่า“ท่านแกะห่อออกมา
ผ้าผืนนี้จะได้กรานกฐิน” เห็นมั้ยล่ะค่ะแม้แต่ผ้าไตรของประธานเจ้าภาพพระท่าน
ก็ไม่ได้หยิบไปกรานกฐินเลยค่ะ

ถาด ๆ ๆ ๆ ถาดหายไปไหน  เรามีถาดผลไม้ไป 5 ใบ แต่ละใบก็มีถาดใหญ่ใส่ผลไม้
อาทิเช่น แอ็ปเปิ้ล สาลี่  ลูกพลับ ฝรั่ง ปลอก  ถาดผักต่าง ๆ ถาดใส่ปลาแซลมอน
และหมูปิ้งจัดสวยด้วยซีลห่อหุ้มค่ะ พวกเราได้ถวายใส่บาตรไปเมื่อเช้าแล้ว
ตอนนี้จะกลับกันแล้วก็มาเก็บถาดคืนแต่พบว่าถาดหายไป 2 ใบ ข้าวของมากมาย
ที่คนนำมาถวายแต่ไม่มีถาดของเราสักใบเมื่อไปถามเจ้าหน้าที่กลับได้รับความเมินเฉย
จนดิฉันพูดขึ้นว่ามีการยกถาดออกไปจากที่นี่หรือไม่ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดตอบมี
การกระซิบกันแล้วบอกให้คอยจะไปหามาให้ ค่ะเราได้ถาดคืน

สิ่งที่คนอีกมากมายไม่รู้ในเรื่องของกรรมแต่ดิฉันรู้เพราะ อ.เจน ได้พูดเสมอว่า
คนที่อาศัยอยู่ในวัดหรือคนที่มาทำงานช่วยเหลือวัดนั้นมักจะอยู่ระหว่างเส้นแบ่ง
ของกรรมดีและกรรมชั่วเพราะว่าบุคคลที่ทำความดีช่วยเหลือวัดเป็นอานิสงส์
ผลบุญมากค่ะแต่ในทางกลับกันหากคนที่อยู่ในวัดทำผิดเสียเอง
ก็จะเป็นเปรตในคราบของคนค่ะ

เปรต   อ.เจน บอกว่า ภายในวัด ก็มักจะมีเปรตในคราบคนบางครั้ง อ.เจน
ก็เห็นภาพบุคคลที่ทำผิดหากินอยู่กับวัดเหล่านั้นได้มีที่พักพิหลังความตายด้วย
การไปอยู่ในนรกภูมิส่วนมากก็จะเป็นกรรมการวัด หรือ มัคทายก ซึ่งรวมไปถึงเด็กวัด ด้วยค่ะ

วัดที่ 3   จากวัดที่ 2 ต้องรีบมาก ๆ ค่ะเพราะเวลาจะไม่ทันแล้ว
ทราบว่ากำหนดทอดกฐินเวลา 11.30 น.   อ.เจน คุณมิตร และคุณเต้ย รถ 3
คันต่างก็ขับตาม ๆ กันไปอย่างรีบเร่งเพื่อไปทันกับกำหนดการทอดกฐิน
ขณะนั้นเวลา11.00 น. พวกเราก็เลยวางใจว่า ทันยังไงก็ทันค่ะ แต่ก็ไม่ประมาทกันค่ะ
  แต่ทุกคนไม่เคยมาและเมื่อมองเห็นโบสถ์อยู่บนยอดเขาลิบๆ
โอ้ยต้องขึ้นภูเขาไปอีกจะทันมั้ยเนี้ย ดังนั้น เมื่อรถจอดต่างก็วิ่งมาที่เชิงเขาทีมแรก
ก็มี แม่ตี้  อ.เจน คุณรุ้ง ดิฉัน น้องดาคุณเป็ก น้องเชน เมื่อมาถึงเชิงเขาแล้วจะทำยังไง
ไม่เห็นมีรถสองแถวเลยค่ะ  พวกเราต่างหันรีหันขวางไปกันยังไงขณะ
ที่กำลังยืนมึนงงอยู่นั้น ก็มีรถกระบะปิ๊กอัพ สีขาว 1 คัน มีชาย 2หญิง 1
เปิดกระจกรถถามว่าไปด้วยกันมั้ยครับ ดิฉันหันไปที่กระบะท้ายรถที่ยังว่าง
และหันไปมองหน้า อ.เจน ว่าเอาไงดีค่ะ ดิฉันเห็น อ.เจน กระโดดขึ้นไปก่อนแล้ว
เอาไงเอากัน รีบปีนกันขึ้นไปเลย ส่วนน้องอีกกลุ่มหนึ่งยังเดินมาไม่ถึงแต่มี
คนเขาบอกว่ารอแป๊บมีรถสองแถวรับสองตลอดไม่ต้องห่วงค่ะ
ก็เลยไม่ห่วงอะไรเพราะผ้าไตรจีวรที่เราหอบไปด้วย 2 ผืนนี้ทุกคนได้จบกันไปก่อนแล้ว
เราเป็นตัวแทนขึ้นไปก่อน เพราะกลัวว่า ทางวัดเขาจะทอดกฐินไปซะก่อนค่ะ

เส้นทางขึ้นเขาลดเลี้ยวเคี้ยวคตเอาการอยู่ค่ะสูงและชัน บรรยากาศบนเขาสวยงาม
มากบวกด้วยแสงแดดที่ร้อนแผดเชียวค่ะ  เรียกว่าตากแดดกันหัวแดงอยู่บนรถ
กะบะนั้นแหละค่ะ เมื่อเดินทางไปถึงยอดเขาก็พบกับโบสถ์ที่สวยงาม
ประดับประดาด้วยกระจกสีๆระยิบระยับเชียวค่ะ

ทีมแรก ที่เดินทางขึ้นไปถึงวัดแล้วนั้น  ก็เดินเข้าไปข้างใน เมื่อทุกคนได้เดินเข้าไป
ภายในศาลาเอนกประสงค์ก็ต้องผงะผู้คนเป็นจำนวนมากเราจะมีที่นั่งได้ยังไงแต่แล้วก็เ
หลือบไปเห็นที่บริเวณด้านหน้าที่เป็นแท่นจุดธูปเทียนประธานไม่มีใครนั่งอ.เจน
ก็เดินนำพวกเราเดินตาม ไม่มีคนนั่งว่างไว้ทำไมแต่ตลกมากตรงที่พวกเรา
เดินเข้าไปทุกคนก็ถอยให้เป็นแถว  แต่รับรองได้ค่ะไม่มีใครรู้จัก อ.เจนอย่างแน่นอนค่ะ
แล้วทุกคนก็ถอยให้พวกเรานั่ง ต่อมาก็มีทีมน้องๆเข้ามาสมทบ ก็เป็นเวลาที่
ริ่มทอดกฐินแต่น้อง ๆ แอบกระซิบว่า โชคดีจังเลยเพราะว่ารถสองแถวที่ทางวัด
บริการรับส่งนั้นพวกเขาได้ขึ้นมาเป็นกลุ่มสุดท้ายและก็เช่นเดิมค่ะ
ที่นั่งของเราเป็นที่นั่งของประธานแต่ประธานเขาไปนั่งอยู่หน้าพระสงฆ์
แล้วก็เลยนั่งตามเลยนั้นค่ะ

อ.เจนเห็นกรรมของผู้หญิงคนหนึ่งเธอนั่งอยู่ข้างหน้า อ.เจน บอกว่า
มีวิญญาณเด็กผู้ชายที่หัวเน่าเละ มายืนรอรับส่วนบุญจากผู้เป็นแม่ของเขา
ซึ่งขณะนี้ก็ได้กลายมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันไปแล้วระหว่างแม่กับลูก
และเมื่อได้ถวายกฐินเสร็จแล้วพระสงฆ์ท่านก็นำกรวดน้ำแบบไม่ละเอียดจริง ๆ
แล้วเราต้องละเอียดกว่านี้ แต่ก็ไม่เสียโอกาสดีดีหรอกค่ะมีคนถวายปัจจัยเงิน
กฐินเพิ่มเติมครั้งนี้พระสงฆ์ท่านนำกรวดน้ำอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ละเอียดมากทำให้
เจ้ากรรมและญาติพี่น้องผู้ล่วงรับไปแล้วรวมทั้งสัมภเวสีเปรต ทั้งหลายได้รับ
บุญกันเต็มที่ค่ะ รวมทั้งเด็กชายหัวเน่านั้นด้วยค่ะ

ออกมาจากศาลาก็มีโรงทานอยู่เบื้องหน้าหิวมากค่ะจึงไปหาอาหารแต่มีประกาศ
ว่ารถบริการนี้เป็นเที่ยวสุดท้ายเท่านั้นแหละค่ะดิฉันทิ้งของกินที่อยู่ในมือทิ้งหมด
กระโดขึ้นรถที่อัดแน่นไปด้วยคนจนต้องไปนั่งอัดอยู่กับพื้นรถที่ตลกมาก็คือ
คุณภุชงค์ ก๋วยเตี๋ยว 1 ขนมหวานเย็น 1  และไอติม 1 กระโดนขึ้นรถมาด้วยทุกคน
ต่างก็ช่วยกันถือ ไม่ได้มีน้ำใจอะไรมากแต่เพราะว่า สิ่งเหล่านี้จะมาหกลด
ราดหัวคนอื่นเขาค่ะ

วัดที่ 4 วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2557 แม้คนจะเยอะอากาศจะร้อนไปสักหน่อย
และเย็นสบายบางช่วงบางตอนก็ตามแต่ทุกท่านก็ผู้ฝักใฝ่ในบุญก็มิได้ย่อท้อหรือ
แสดงสีหน้าว่ารำคาญผู้คนที่เยอะหรืออากาศที่อบอ้าวแต่ปรากฏว่าทุกท่านไม่สนใจ
สิ่งแวดล้อมทั้งหมดแต่สนใจฝักใฝ่บุญกุศลซึ่งเป็นเรื่องที่น่านับถือและยินดีกับทุกท่าน
ที่มีความสามัคคีรวมกันเป็นหนึ่งรวมกันเป็นพลังบุญสุดยอดจริงๆ ค่ะ
ก็มีบางท่านมาแอบบ่นกับดิฉันว่า ตอนแรก ๆก็ไม่อยากจะมาเพราะคิดว่าคนมากมาย
เหลือเกินคงไม่สะดวกสบายอาหารการกินจะเป็นยังไงบ้างนะแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคบุญ
ของทุกท่านนะค่ะยินดีด้วยค่ะท่านได้ผ่านบททดสอบความอดทนอดกลั่นค่ะ
ที่วัดนี้กว่าจะหาได้ก็นานโขเชียวค่ะเกือบหมดวันเพราะว่า อ.เจน ต้องการหา
วัดที่ทอดกฐิน ที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองกฐินไว้ค่ะ อ.เจนเพราะการทอดกฐินที่ถูกต้อง
ครบสูตร กฐินไม่เดาะค่ะ จึงได้มาพบวัดแห่งนี้ค่ะ
ยอดเงินบริจาคถวายวัด จำนวน 752,916 .- บาท
ดิฉันมีความปิติสุข และรู้สึกอิ่มใจในบุญของอ.เจน ทุกบุญค่ะและขอบอกได้เลยว่า
ไม่เสียดายเวลาและโอกาสที่ได้ช่วยงานบุญของอ.เจน ค่ะ การที่ได้ติดตาม
อ.เจน ไปสำรวจเส้นทางบุญ จึงรู้ว่า อ.เจน ทำอะไรบ้างและทำเพื่ออะไรและทำ
โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยค่ะและบุญนั้นได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ  
ด้วยความตั้งใจของ อ.เจนแม้เทวดาก็ทนไม่ได้ต้องมาแซ่ซ้องสรรเสริญยินดีค่ะ
บุญที่พวกเราได้ทำไปในวันนั้นมากมายหลายบุญเชียวค่ะไหนมีบุญอะไร
บ้างมาทบทวนกันหน่อยสิค่ะ
·   บุญจากการถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์18 รูป
·   บุญจากการถวายผ้ากฐิน
·   บุญจากการถวายบาตรสแตนเลสแด่พระสงฆ์ จำนวน 18 รูป
·   บุญจากการใส่บาตรแด่พระสงฆ์ จำนวน 18 รูป ผู้ร่วมบุญประมาณเกือบ1,000 คน
(คณะบุญ 850 คน และชาวบ้าน)
·   บุญจากการห่มผ้าพระใหญ่หลวงพ่อโต ท่านองค์ใหญ่มากค่ะ

เริ่มเดินทางออกจากห้างโลตัสด้วยขบวนผู้คนถึง850 คนรวม 17รถบัส
ขบวนรถเป็นแถวเป็นแนวที่ยาวมั๊กมากการเดินทางที่มากกว่า 3 ชั่วโมง
ไม่น้อยเลยค่ะแต่ทุกท่านก็ไม่เหนื่อยจากการเดินทางเพาะว่ามีบุญที่ต้องทำรออยู่ข้างหน้าค่ะ

ที่วัดช่องด่านราษฎร์บำรุง แห่งนี้ เป็นวัดป่าอยู่ไกลจากตัวเมืองและเงียบสงบมาก
วันที่เดินทางไปไม่มีแม้ผู้คนแต่วันที่เดินทางไปถึงกลับพบกับชาวบ้านหลายหมู่บ้าน
มาคอยยืนต้อนรับทางวัดได้จัดโรงทานไว้ต้อนรับกว่า40 โรงทาน
ถวายภัตตาหารพระเพล  แด่พระสงฆ์ 18รูป
เห่..เรือสุพรรณหงส์ อ.เจนต้องการให้เป็นแบบประเพณีโบราณ จึงได้นำเรือ
สุพรรณหงส์จำลองเป็นหงส์ทองและหงส์เงินนำโดยเพลงเห่ แบบโบราณ
ซึ่งได้แต่งกันขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ ภายในเวลาอันรวดเร็วค่ะระหว่างนั้น อ.เจน บอกว่า
เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิท่านได้เสร็จมาอำนวยอวยพรและมาร่วมอนุโมทนาบุญ
กับคณะฯบุญของเรา นอกจากนี้ พระแม่ธรณี ท่านก็มาอนุโมทนาบุญอ.เจน เห็นว่า
ท่านยิ้มยินดีกับบุญที่พวกเราทั้งหลายได้ทำในวันนี้ค่ะซึ่งบุญที่พวกเราทำนี้เป็น
บุญใหญ่ค่ะ ขณะที่จะเริ่มพิธีขบวนแห่กฐินนั้นแสงแดดอ่อนกำลังลง
และมีลมพัดสบายจึงไม่ร้อนเท่าไหร่ค่ะ เวียนผ้ากฐิน 3 รอบแล้วไปที่
ศาลาเอนกประสงค์อีกครั้งค่ะ

ถวายผ้าไตรจีวรที่มีจำนวนมากกว่า 80 ผืนดิฉันรับรองได้ว่าไม่มีใครเขาทำกันจริง ๆ
นอกจาก อ.เจน เพราะ อ.เจนต้องการให้ทุกท่านที่เป็นประธานอุปถัมภ์ได้เป็น
ผู้ถวายด้วยตนเองและอธิษฐานจิตของท่านเอง จะได้อานิสงส์แห่งการตั้งจิต
ที่แน่วแน่มากกว่าค่ะ  ด้วยบุญนี้แหละค่ะที่เราเอาไปได้ บุญที่เราตั้งใจจะ
สะสมเสบียงบุญสำหรับท่านที่ไม่มีผ้าไตรจีวรเป็นของตนเอง อ.เจนก็ได้พูด
ให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุกับผู้ถวายผ้าไตรจีวรอยู่ตลอดเวลา
จำไว้ค่ะระหว่างที่ทุกคนถายสิ่งของใดให้เราตั้งจิตน้อมและร่วมอนุโมทนาบุญ
ไปกับเขาเราก็ได้ด้วยนะค่ะแม้จะไม่ได้เป็นผู้ลงทุนเราก็ได้น้อยกว่าเขา
หน่อยยังดีกว่าไม่ได้เสียเลยค่ะ  เพราะเรามาโกยบุญกันนะค่ะ  
ซึ่งตัวของดิฉันเองก็ได้ยินดีและร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ถวาย
ผ้าไตรจีวรในครั้งนี้ด้วยค่ะ

อ.เจน เคยสอนว่า การถวายผ้าไตรจีวรนี้เราได้ผ้าไตรจีวรนี้ขึ้นไปบนสวรรค์
ค่ะแต่เราสามารถอธิษฐานให้ผ้าไตรจีวรนี้แปลเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ได้ค่ะ
เดี๋ยวใครๆ เขาก็ไม่อยากจะถวายผ้าไตรจีวรกันล่ะค่ะและขอให้รู้ว่าการถวาย
ผ้าไตรจีวรนั้นมีอานิสงส์ที่สูงมากค่ะไม่ว่าจะเกิดภพใดชาติใดท่านจะเป็นผู้ที่มีบารมี
เป็นผู้ที่มีทรัพย์เป็นผู้ที่มีอาภรณ์ที่เป็นทิพย์อยู่ในโลกมนุษย์ก็จะเป็นผู้ที่มีฐานะดี
ฯลฯค่ะเยอะแยะค่ะ
ห่มผ้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดจำได้ว่าทุกๆท่านได้ตั้งจิตตั้งใจและลุ้นมากๆ
กับการห่มผ้าพระในครั้งนี้ อ.เจนเป็นตัวแทนของทุกท่านเพื่อห่มผ้าพระที่สูง
มากการห่มผ้าพระอานิสงส์มากค่ะ

อ.เจน เคยสอนว่าการถวายผ้าห่มพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดซึ่งเปรียบเสมือน
ตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะนี่ก็เป็นอานิสงส์สูงมาก
ด้วยเช่นกันและทุกครั้งที่คนเข้ามากราบสักการะ สวดมนต์และทำบุญกุศลทาน
ที่วัดแห่งนี้แล้วไซร์ ท่านก็จะได้อานิสงส์ผลบุญที่ทำสำเร็จแล้วนี้ทุกครั้งไปค่ะ
ไม่ว่าท่านจะได้ไปเกิดที่แห่งใดท่านเป็นผู้ได้กุศลนั้นค่ะ

ใส่บาตรพระสงฆ์ที่กรานผ้ากฐินกับบาตรพระใบใหม่ ซึ่ง อ.เจนได้ตั้งใจทำให้เป็น
แบบประเพณีโบราณและผู้ร่วมบุญจะได้บุญจากการใส่บาตรพระนี้ด้วยค่ะ
สำหรับเงินปัจจัยที่ท่านถวายก็เพื่อให้พระท่านได้ใช้ส่วนตัวตามเจตนาของท่าน
แต่การถวายสังฆทานทั้งหมดนั้นเป็นของส่วนกลางที่พระท่านไม่สามารถเก็บกลับไปได้ค่ะ

เรื่องที่น่ายินดีและต้องอนุโมทนาบุญกันอีกครั้ง เมื่อตอนที่คณะฯจะเดินทางกลับ
ท่านเจ้าอาวาสท่านให้ลูกศิษย์วัดมาเชิญไปพบเป็นการส่วนตัวดิฉันได้ติดตามไป
ด้วยท่านพูดว่าจะหาได้ยากกับผู้ที่มีจิตเป็นกุศลนำพาคนมาทำความดีอย่างนี้
อาตมาก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยซึ่งการกระทำของโยมนั้นหาได้
ยากมากแล้วในสังคมนี้ที่ทำโดยไม่มีสิ่งใดมาแอบแฝงในบุญอย่างนี้ที่อาตมาจะบอกก็คือ
ท่านหยุดพูด แล้วก็ก้มลงไปเปิดฝาบาตรที่เพิ่งได้รับปัจจัยจากคณะฯบุญมาหมาดนั้นแหละค่ะ
ท่านพูดว่าเงินของพวกโยมทั้งหลายที่เพิ่งใส่บาตรมา

จากภาพที่เห็นด้วยตาเนี้อ โอ้โหเงินเต็มบาตรอัดแน่นเชียวค่ะ  แล้วท่านก็กล่าว
ต่อไปว่าเงินในบาตรนี้ดีจริงๆอาตมาจะได้นำไปร่วมงานบุญกฐินที่วัดที่เป็นอาจารย์
ของอาตมาก็อยู่ไกลอยู่(ท่านบอกจังหวัดแต่ดิฉันฟังไม่ถนัดและเห็นซึ่งเจตนา
ของท่านก็ไม่สักไซ้อะไรต่อไปค่ะ)โดยอาตมาจะเดินทางไปในอาทิพย์หน้าที่
แล้วแหละโยมโฮ..ดิฉันฟังแล้วฟูบุญขึ้นมาทันทีด้วยใจที่เต็มเปี่ยมฟองฟูบุญ
และด้วยใจที่น้อมอนุโมทนาบุญที่ท่านเจ้าอาวาสตั้งเจตจำนงไว้จึงกล่าวพร้อม ๆ
กับอ.เจน คุณรุ้ง และน้อง ๆ ที่ด้วยกัน “อนุโมทนาบุญ” ค่ะ  ดีใจมั้ยค่ะเพราะ
ดิฉันก็ดีใจไปกับทุกท่านว่านี่ทุกท่านจะได้บุญอีกต่อหนึ่งแล้วค่ะซึ่งดิฉันเห็นว่า
ความตั้งใจของทุกท่านที่มาร่วมบุญกันในครั้งนี้เพื่อสร้างบุญสร้างกุศลและ
ไม่ว่าจะเป็นเงิน5 บาท 10 บาท 20 บาทหรือ 100-1000 บาทก็เป็นเงินอัน
บริสุทธิ์ที่ท่านตั้งใจใส่ใจลงไปในบาตรนั้นแล้วเงินนั้นก็ได้ไปต่อบุญอีกโอ้
เป็นเรื่องที่ยินดี เป็นเรื่องที่น่าปิติและมีความสุขมากค่ะ มาก สุด สุด ค่ะ

คำถามที่มีคำตอบค่ะ ดิฉันเชื่อว่าใคร ๆก็คงสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดอะไรกับรถบัส 5
(ลูกล้อยางแตก) และรถบัส 15 (เกียร์เสีย) เรื่องนี้มีคำตอบค่ะ
-   รถบัส 5 คนที่นั่งรถบัส 6เป็นต้นไปก็ต้องเห็นว่ายางรถมันแตกแยกออกมาวิ่งอยู่
กลางถนนแต่รถบัส 5 นั้นขับต่อไปได้อย่างไรโดยไม่เสียการทรงตัวของรถ
และสามารถจอดได้เปะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้คนในรถบัส5
ยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะนั่นก็เป็นเพราะเจ้ากรรมของคนในบัสนั้นเขาต้องการบุญ
ซึ่งมีคนเป็นจำนวนมากไม่รู้เรื่องของการทำบุญอีกมากค่ะเพราะเมื่อทำบุญ
เสร็จแล้วจะต้องทำการกรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวรของตนให้ถูกต้องอย่างไรค่ะ
-   รถบัส 15หัวหน้าคุมบัสคันนี้ ได้เล่าให้ฟังในภายหลังว่าคนขับมาสารภาพ
ว่าแท้จริงแล้ว เกียรถนั้นเสียตั้งนานแล้วก็พยายามขับต่อไปโดยไม่บอกใคร
แต่หัวหน้าคุมบัสเห็นผิดสังเกตจึงแจ้งรายงานต่ออ.เจนเพื่อขอให้ตรวจเช็ค
รถก่อนเดินทางต่อไป สงสาร อ.เจน มากค่ะ อ.เจน บอกว่าเหนื่อยมากค่ะ
เพราะระยะทางเดินไปและกลับ ระหว่างรถบัสที่ 1 จนถึงคันที่15 เดินไกลมากๆ
ค่ะกว่าจะถึงรถบัสที่ 15 (จอดลำเลียงต่อลำดับเลขที่กัน 1-17) แต่อ.เจน
ก็ไม่นิ่งนอนใจจึงต้องไปดูให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ค่ะ เมื่อ อ.เจนไปถึงรถ
จึงพบว่ามีเปรตอยู่หนึ่งตนเกาะรถอยู่ จึงได้อุทิศบุญให้กับเปรตตนนั้นไปและ
ได้ใช้ญาณวิถีโดยใช้มือสื่อสัมผัสไปที่รถบัสมีผลเพื่อเติมอีกว่าเกียของรถ
บัสทะลุ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้แล้วหากขืนขับต่อไปอีกสักพักก็จะทำให้
รถเสียหลักพลิกคว่ำซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารในรถบัสทั้งคันอย่างแน่นอนค่ะ  


ดังนั้น อ.เจน จึงมีคำสั่งให้กระจายผู้โดยสารไปอยู่กับบัสอื่นๆ ที่พอมีที่ว่างให้นั่งค่ะ
ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยค่ะ  หลังจากนั้น อ.เจนได้มาเล่าให้ดิฉันฟังว่า
ระหว่างที่กำลังทยอยผู้โดยสารบัส 15 ให้ทยอยไปขึ้นรถบัสอื่นอยู่นั้น
ต้องใช้ตัวเองยืนกันไม่ให้ผู้สูงอายุไปเหยียบไหล่ทางที่เป็นดงหญ้าโดยให้ตนเอง
เป็นผู้ยืนแทนให้ทกท่านได้เดินสะดวกปรากฏว่าใบหญ้าที่แหลมคมได้บาดเท้า
อ.เจนเจ็บมากแต่ก็ต้องทนความเจ็บอยู่นานกว่าทุกคนจะเดินกันขึ้นรถเรียบร้อย
แต่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่ากลับไปคงจะต้องไปทำแผลในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเทวดา
พูดว่าท่านทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ แต่เมื่อ อ.เจนเดินขึ้นรถก็พบว่า
บาดแผลนั้นได้หายไปหมดแปลกมากค่ะ

สาเหตุ เพราะว่า รถบัส 15 มีผู้สูงอายุที่เป็นพี่น้องเชื้อสายจีนมากับคณะฯ
ด้วยดังนั้นเข้าใจได้เลยว่าท่านที่มาร่วมบุญนั้นคงไม่รู้วิธีการกรวดน้ำอย่าง
แน่นอนค่ะเพราะเปรตตนนี้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านใดท่านหนึ่งในรถคันนั้น
แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครค่ะเขาอยากได้บุญที่เป็นบุญใหญ่อย่างนี้เปรตเขาอยากได้จึงเกาะติดตามมาค่ะ

และนี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ อ.เจนต้องการจะนำพาคนไปปฏิบัติธรรมและ
แนะนำผู้คนให้ทำบุญอย่างถูกต้องและถูกวิธีหากทำไม่ถูกต้องบางครั้งผู้
ทำบุญก็ต้องติดกรรมกลับไปอีกค่ะยกตัวอย่างเช่นคนที่เขาหิวหิวข้าวอยู่
มีคนหุงหาอาหารอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ส่งให้เขากินบ้างคนที่หิวเขาจะโกรธแค้นมั้ยค่ะ

คุณเชื่อเรื่องบุญมีจริงหรือไม่ค่ะดิฉันเชื่อค่ะและผู้ที่ตั้งใจทำบุญด้วยศรัทธา
อันแรงกล้าอย่างผู้นำบุญเช่น  อ.เจนและคุณรุ้งตะวัน ด้วยแล้ว เทพเทวาครู
บาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมมาคอยดูแลรักษาให้แคลัวคลาดปลอดภัยด้วย
ประการทั้งปวงอยู่แล้วค่ะ
ค่ะ

วัดที่ 5   วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม2557 งานทอดกฐินที่วัดในกรุงเทพฯ
หลังจากไปทัวร์บุญต่างจังหวัดมาแล้วครั้งนี้ก็มาทอดกฐินในกรุงเทพฯกันบ้างค่ะ
ในการทำบุญทุกที่ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า สิ่งใดถูกต้องและไม่ถูกต้องค่ะ  
ต่การไปทำบุญแต่ละแห่งย่อมมีธรรมมะคอยสอนให้เราได้รู้เองเห็นเองค่ะ

วัดนี้ทอดกฐิน เวลา 9.00 น. เมื่อ อ.เจน คุณรุ้งและดิฉัน ถือผ้าไตรจีวรที่ผูกโบว์ไว้
อย่างสวยงามไปกันคนละผืน 3 ผืน เมื่อเดินเข้าไปในศาลาก็มีเสียงประกาศว่า
ใครนำบริวารกฐินมาร่วมก็เชิญนำมาวางกองรวมกันที่นี่ครับ ตอนนั้นพระสงฆ์
ทั้งวัดก็นั่งเรียงรายกันอยู่แล้วแต่ อ.เจน ถือผ้าไตรไว้ คุณรุ้งและดิฉันก็ไม่วาง
ด้วยเช่นกันค่ะ  และแล้วโฆษกก็ประกาศใหม่ว่าเริ่มถวายผ้ากฐินได้เลย อ.เจน
คุณรุ้งและดิฉันก็ต้องมองหน้ากันเพราะว่ายังไม่ได้แห่กฐิน คนก็เตรียมจะไปแห่กฐินกัน
  แต่โฆษกจะให้ถวายก่อน การกล่าวถวายผ้ากฐินก็ได้โอกาสเลยค่ะ เรา 3 คน
เดินไปถวายพระสงฆ์ที่นั่งอยู่นั้น อ.เจน ถวายเจ้าอาวาสคุณรุ้ง ถวายรองเจ้าอาวาส
ส่วนดิฉันถวายพระสงฆ์ลำดับถัดออกไป ซึ่งก็มีกัลยาณมิตรบางท่านที่ได้ทราบข่าวงาน
บุญนี้ติดตามมาร่วมบุญด้วยน้องดา น้องเก่ง ตามมาสมทบ พวกเราถวายตอนที่ทุกคนออกไป
จากศาลาอเนกประสงค์แล้วถวายเสร็จก็กรดน้ำเลยค่ะ

เมื่อเสร็จพิธีการถวายผ้าของคณะเราพระท่านก็ไม่ได้นำผ้า 3 ผืนนี้ไปกองรวมกันกับผู้อื่น
ท่านเก็บไว้ใช้งานเลยค่ะ  ต่อมา อ.เจน จึงได้พูดให้ฟังว่าการที่เรา
ถวายพระอาพาธ (เจ้าอาวาสเจ็บป่วย) เราก็จะได้อานิสงส์บุญมากเพราะว่า
ท่านไม่ได้ไปไหนอยู่กับวัด ดังนั้น ศีลของพระท่านจึงยังอยู่ครบค่ะ

ผ้าไตรจีวรที่กองรวมกันสุมกันอยู่มากกว่า 30-40ผืน  รวมทั้งบริวารกฐินจำนวนมากค่ะ
ภายในงานดูวุ่นวายไปหมดเจ้าภาพเป็น 2 สามีภรรยาเป็นโฆษกกันเองทำผิดวิธีก็ทำกัน
ไปพระท่านก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรเพราะเป็นเจ้าภาพใหญ่เขาจะทำอะไรก็ได้ มีอะไรผิดบ้าง
อาทิเช่น
1.  ไม่ได้นำกล่าว อาราธนาศีล 5
2.  นำกล่าว อุทิศบุญให้กับญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวรผีทั้งหลาย ผีตายโหง
ผีตายกลางถนน ผีตายข้างทาง ผีตายในน้ำ ผีตายเครื่องบินตกผีตายแยกโค้งถนน
ฯลฯ สารพัดผีที่เขาตาย ๆ กันนั่นแหละค่ะ แต่เมื่อผู้มาร่วมงานยังไม่ได้ถวายข้าวของ
บริวารกฐินแล้วจะเอาบุญอะไรไปให้พวกเขาเล่าค่ะ  ผู้ที่ไม่รู้ก็พากันพูดตามกันหมดค่ะ
3.  ถวายผ้ากฐินแล้วนำไปแห่เวียนแล้วก็นำมาถวายพระสงฆ์อีกรอบ ผู้คนที่กลับมา
จากแห่กฐินก็พากันเดินอลหม่านด้วยไม่รู้วาขั้นตอนต่อไปมันคืออะไรกันแน่ค่ะ
4.  ระหว่างพระสงฆ์กำลังฉันภัตตาหาร เจ้าภาพก็จัดให้มีการแสดงโขนละคร
รวมทั้งการฟ้อนรำหลายชุดการแสดงพระสงฆ์ท่านต้องนั่งรอและรออยู่นาน ท่านเจ้าอาวาส
ก็อาพาธแทนที่จะได้ไปพักผ่อน  ส่วนเจ้าภาพนั้นแทนที่จะรู้สึกเกรงใจพระสงฆ์แต่
เจ้าภาพกลับมาสั่งการกับพระสงฆ์ว่ารอก่อนนะท่าน  แต่เจ้ากรรมนายเวรและสัมภเวสี
รวมทั้งญาติๆของเราทั้งหลายต่างก็ต้องรอคอยบุญจากเราเมื่อเขาไม่ได้ก็จะหงุดหงิดเป็นโทษเป็นภัยกันไปอีก
5. ทำการประมูลล๊อตเตอรี่แม้ว่าจะนำเงินเข้าวัดก็ไม่ควรประมูลพนันขันต่อกันจริงมั้ยค่ะ
นอกจากนี้ก็มีการประมูล ส้มโอ  มะพร้าวกล้วย อ้อย ขนุน ฯลฯ
ข้อคิดสะกิดใจ  การที่นำพาผู้คน ทำงานบุญตนเองก็ต้องเรียนรู้ในเรื่องของ
การทำบุญให้ถูกวิธีด้วยว่าอย่างไรถึงถูกต้องค่ะซึ่งเจ้ากรรมนายเวร บรรดาญาติ
และสัมภเวสีทั้งหลาย เขาจะโกรธเอาค่ะ  จากที่ดิฉันกล่าวอย่างนี้ก็เพราะ
อ.เจนเล่าให้ดิฉันฟังว่า ในตอนแรกที่เจ้าภาพนำคนพูดอุทิศบุญให้กับญาติ
งหลายและผีทั้งหลาย นั้น

อ.เจน ได้เห็นในจิต ว่า มีผีผู้ชายในวงแขนหนีบขวดเหล้าเอาไว้ตัวผอมซีด
ร้องตะโกนโวยวายอยู่ที่ด้านนอกศาลา กูอยากได้บุญ ๆเมื่อไหร่พวกมึงจะให้บุญกูเสียทีว่ะ

อ.เจน จึงได้แผ่เมตตาอุทิศบุญให้วิญญาณชายคนนี้ไปก่อนค่ะ  
หลังจากนั้นก็มาเล่าให้แม่ตี้ฟังเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ซึ่งแม่ตี้ ก็ได้บอกว่า
ถ้าเช่นนั้นจะต้องเป็นสามีของคนขายกาแฟในตลาดเขาเมาเหล้าตายไปนานแล้วค่ะ
คิดดูสิค่ะแม้ผียังโมโห..เฝ้าแต่รอบุญกุศลของผู้อื่นเมื่อไม่ได้ก็โกรธ

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ ว่า สิ่งที่จริงแท้แน่นอนที่สุดเราต้องสะสมเสบียงบุญ
ของเราเอาไว้ไม่ต้องง้อใครค่ะเราจะได้ไม่ต้องมานั่งรอคอยบุญกุศลจากผู้ใคร
เมื่อเราตายไปแล้ว ดังนั้น เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ทำไมเราไม่สะสมเสบียงบุญกันเอาไว้เล่าคะ


วัดที่ 6  ต่อจากวันที่ 5 ภาคบ่ายในวันเดียวกันรีบกลับมารับประทานข้าวผัด
แม่ตี้กันแบบว่าไม่หายใจกันเลยทีเดียว  เหงื่องี้แตกเชียว อ.เจน บอกว่า
ค่อยมากินกันที่หลังพี่เดี๋ยวไม่ทันส่วนดิฉันต้องเปลี่ยนเสื้อก็เปลี่ยนเสื้อไปกิน
ข้าวไปงั้นแหละค่ะและแล้วสุดท้ายทุกคนก็เบรกแตกเพราะหิวตาลายกินก่อน
ไม่ไหวแล้วจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนลงมือก่อน ที่รู้ ๆ กินกันทุกคน 555
ก็ลมจะรับประทานค่ะ ตักข้าวได้ก็ใส่ปากกันอย่างเร็วอ.เจน ก็ออกไปขับรถ
มารับลูกศิษย์แล้วก็ออกเดินทางไปงานทอดกฐินพระราชทานที่วัดหลวง“วัดระฆัง”
ค่ะ อ.เจน คุณรุ้ง ดิฉัน น้องเก่ง และน้องดา ทั้งเดินทั้งวิ่งและต้องหอบผ้าไตร
จีวรผืนเบ้อเริ่มอ.เจน จัดอย่างดี ชุดหนึ่งมัด 3 ผืน ที่นี้ก็เหนื่อยสิค่ะอุ้มผ้า
ไตรจีวรทั้งวิ่งทั้งเดิน ไปถึงวัดก็พอดี้พอดีเวลาเขาจะเริ่มพิธีทอดกฐินกันแล้ว
เมื่อนำผ้าไตรจีวรขึ้นไปบนโบสถ์เพื่อไปวางกองรวมร่วมบุญกับคณะ
เจ้าภาพกฐินหลวงภายในพิธีพวกเราก็เดินหาที่นั่งแต่ก็ไม่มีที่นั่งเสียแล้วค่ะ
จึงไปนั่งพับเพียบแต้ต่อหน้าหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์องค์สีขาวฝั่งตรงข้ามโบสถ์แทนที่
จะได้นั่งเก้าอี้เหมือนคนอื่นเขาค่ะ ตอนแรกก็นึกเสียดายที่ไม่ได้นั่งเหมือนกับ
คนอื่นเขาแต่มีเหตุการณ์ให้ต้องไม่เสียดายค่ะ เป็นเพราะบุญของเรามีมากกว่าค่ะ

ในวันนั้นไม่ได้มีวี่แววว่าฝนจะตกลงมาห่าใหญ่ก็ยังมีแสงแดดดี ๆ อยู่เลย
อากาศร้อนอบอ้าวพอจะเริ่มเข้าสู่พิธีการเท่านั้นแหละค่ะ ได้มีฝนตกลงมาห่าใหญ่
คนที่นั่งเก้าอี้ต้องถอยล่นหนีกระจาย แต่คณะ อ.เจนได้นั่งกันอย่างสงบเสงี่ยม
เรียบร้อยอยู่ตรงหน้าพระประธานองค์ใหญ่เป็นที่คุ้มฝนอย่างดีค่ะแม้จะโดน
ละอองฝนโปรยปรายลงมาบ้างแต่ก็ไม่ต้องหนีหลบฝนห่าใหญ่เหมือนกับคนอื่น ๆเป็นบุญแท้ ๆ ค่ะ

วัดที่ 7  วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ทอดกฐินหลวงที่
วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหารเจ้าภาพทอดกฐินกระทรวงพาณิชย์ อ.เจน คุณรุ้ง
และดิฉัน เนื่องจากดิฉันได้รับมอบหมายจากหน่วยงานให้เข้าร่วมงานกฐินหลวงและ
เป็นประจำทุกปีที่ดิฉันเข้าร่วมพิธีก็จะเชิญ อ.เจน คุณรุ้ง และน้อง ๆที่ว่างให้ไปร่วนกันค่ะ
ซึ่ง อ.เจน และคุณรุ้งก็มาร่วมบุญกฐินพระราชทานของกระทรวงฯ ทุกครั้งเช่นกันค่ะ
งานวันนั้นก็ราบรื่นดีค่ะไม่มีอะไร มีแต่ว่าอ.เจน เห็นหน้าของแต่ละคนล้วน
ติดกรรมของแผ่นดินทั้งน้านเฮ้อ

หากสังเกตเรื่องราวที่ผ่านมาก็น่าคิดค่ะคือนับตั้งแต่วันที่พวกเราตั้งใจทำกับข้าว
ถวายถวายพระสงฆ์ในงานทอดกฐินตามวัดต่าง ๆนั้น ไม่น่าเชื่อหลังจากกลับมา
แล้วก็มีแต่คนชักชวนไปรับประทานอาหารที่เลิศที่พิเศษจนเบื่อการกินกันเลยค่ะ
บางครั้งมีคนซื้อข้าวปลาอาหารมาที่บ้าน อ.เจนทุกสิ่งอย่างเหมือนกันอาหารที่
เราทำถวายพระเลยค่ะ ก็แปลกดี เช่น ใส่บาตรปลาแซลมอนนับถัดจากวันนั้นมา
ก็มีคนพาไปกินเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น เอยอะไรเอยในนั้นมีปลาแซลมอนด้วยค่ะ

สรุปปี 2557 นี้ อ.เจน และคณะฯ ได้ไปทอดกฐินได้ทั้งหมด 7 วัดค่ะ

ดิฉันและน้อง ๆขอแบ่งบุญให้แก่ทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องราวและรับรู้เรื่องราวร่วมอนุโมทนาบุญกันน่ะค่ะ

จี๊ดจ๊าด











อัพเกรด  44.89%

0

กระทู้

145

โพสต์

2520

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2520
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

อัพเกรด  53.33%

0

กระทู้

10

โพสต์

130

เครดิต

Junior

Rank: 2

เครดิต
130
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

อัพเกรด  13.98%

1

กระทู้

311

โพสต์

1129

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1129
อนุโมทนาสาธุ

อัพเกรด  91.27%

5

กระทู้

1692

โพสต์

4607

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
4607
5#
โพสต์เมื่อ 2014-12-31 00:29:07 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
"   ขออนุโมทนาบุญ สาธุการ ด้วยนะครับ ... มีโอกาสได้อ่านเรื่องราวที่พี่จี๊ดจ๊าดเขียนเล่าเรื่องแล้วเช่นกัน ยินดีและดีใจที่ได้รับรู้เรื่องราวที่ดีๆ เช่นนี้ ... ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านบรรทัดแรกจนจบประโยคท้ายสุด นอกจากบุญกุศลที่ได้รับแล้ว ก็ทำให้รู้สึกหิวข้าวขึ่นมาทันทีเลยนะครับ เพราะมีเรื่องราวของอาหารร่วมอยู่ด้วยมากมาย เช่นปูม้า และปลาแซลมอน เป็นต้น อื่นๆ ฯ ^^ ... ขอชื่นชมในตลอดปีที่ผ่านมา ที่ภารกิจแห่งการสะสมเสบียงบุญของ อ.เจน ญาณทิพย์ พี่รุ้งตะวัน ชนะศึก พี่จี๊ดจ๊าด ทีมงานทุกท่าน ได้บรรลุวัตถุประสงค์ สำเร็จสัมฤทธิ์ผลอย่างงดงาม และมีคุณค่าและความหมาย ... ขอเป็นกำลังใจมอบให้ อ.เจน ญาณทิพย์ ไว้เป็นแรงพลังขับเคลื่อนไปอย่างมั่นคง ถนอมดูแลรักษาสุขภาพด้วย คุณพระคุ้มครอง "

อัพเกรด  54.91%

1

กระทู้

223

โพสต์

2971

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2971
6#
โพสต์เมื่อ 2014-12-31 13:40:32 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ขออนุโมทนาบุญในมหารกุศลนี้ด้วยครับ

อัพเกรด  40%

0

กระทู้

32

โพสต์

320

เครดิต

Senior

Rank: 3Rank: 3

เครดิต
320
ขออนุโมทนาบุญกับอ.เจน พี่รุ้ง พี่จี้ด และผู้ร่วมบุญทุกท่านด้วยนะคะในงานทอดกฐินทั้ง 7 วัด สาธุๆๆคร้า

อัพเกรด  4.42%

1

กระทู้

43

โพสต์

699

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
699
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านและอนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่ตลอดปี2557ด้วยนะค่ะ

อัพเกรด  67.36%

2

กระทู้

1078

โพสต์

3531

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
3531
ขอร่วมอนุโมทนาสาธุกับอ.เจน คุณรุ้ง และทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ

อัพเกรด  12.13%

0

กระทู้

139

โพสต์

1046

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1046
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2025-9-13 22:46 , Processed in 0.075848 second(s), 20 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้