แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งตะวัน เมื่อ 2018-12-10 09:07

จี๊ดจ๊าดมาเล่าค่ะ จี๊ดขอเป็นตัวแทนอาจารย์เจนนะค่ะ ในการนี้จึงขอเรียนเชิญทุกท่านที่ มีจิตศรัทธาในบุญกุศลเพื่อมาร่วมทำบุญกับคณะบุญเสบียงสวรรค์อาจารย์เจน ญาณทิพย์ โดยจะเดินทางไปทำบุญร่วมกันในวันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2561 ครั้งที่ 64 ตอน“แรลลี่บุญ” กับโครงการเคลือบสนิม 11 ค่ะตามที่อาจารย์เจนได้ประกาศเรียนเชิญไปแล้วดังกล่าวนั้นค่ะ ก่อนอื่น ก็ต้องแจ้งกิจกรรมบุญ เพื่อทราบ ดังนี้ค่ะ - ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างโบสถ์ร่วมสร้างพระองค์ปฐม - ร่วมบุญซื้อปูนc-pac สำเร็จเพื่อเทพื้นรอบฐานชั้นล่างองค์พระปฐม จำนวน 5คิว ๆ ละ โดยประมาณ 2,800 กว่าบาท(ปกติคิวละประมาณ 1,700 บาท แต่เนื่องจากความยากลำบากของการขนส่งและเส้นทางขนส่งทางบริษัทจึงคิดค่าใช้จ่ายแพงกว่าราคาปกติค่ะ) - ร่วมบุญซื้อสีทองอย่างดี(สีทองลีลาวา) เพื่อทาสีองค์ปฐมองค์พระองค์ใหญ่ที่มีความสูง หลายเมตรประดิษฐานใกล้กับโบสถ์ - ร่วมถวายสังฆทาน - ห่มผ้าพระพุทธรูปในพระอุโบสถ์และหน้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์ - ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจารย์เจน จะเป็นผู้นำทุกท่านอธิษฐานจิตที่เชิงเขา โดยที่ด้านบนเขาได้ประดิษฐานพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ดิฉันจะนำพาทุกท่านไปทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างโบสถ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จร่วมเทปูนเทพื้น ด้วยปูน c-pac สำเร็จด้วยแรงกายแรงใจรอบฐานชั้นล่างองค์พระปฐม ( พระพุทธเจ้าองค์ที่1 ) และร่วมบุญซื้อสีทองอย่างดีทาองค์ปฐมองค์พระใหญ่สูงหลายเมตรประดิษฐานใกล้กับโบสถ์ ร่วมถวายสังฆทาน และห่มผ้าพระพุทธรูปในโบสถ์ ค่ะ จึงขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญบริจาค ดังนี้
1. บริจาคเป็นกองทุน ๆ ละ 2,000 บาท 2. บริจาคตามกำลังศรัทธา
ที่มาของเรื่องราวของการไปทำบุญยังวัดที่คณะบุญฯ จะต้องเดินทางไปทำบุญร่วมกันมี ความเป็นมาอย่างไรนั้นโปรดติดตามค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าจากการเดินทางไปเซอร์เวย์ยังวัดต่าง ๆหากมืดค่ำมากก็มีการค้างคืนพักแรม แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะต้องเดินทางไปหาร้านอาหารทำข้าวกล่องที่อร่อยสะอาด และมีคุณภาพ ที่สำคัญต้องอยู่ใกล้กับพื้นที่วัดนั้น ๆ ค่ะ ซึ่งหายากมากค่ะ ซึ่งในทุกเช้าวันใหม่ก็ไม่เคยให้ เวลาของบุญกุศลผ่านพ้นไปได้ โดยอาจารย์เจนจะนำพาคณะเดินทางไปหาวัดทำบุญใส่บาตร ตอนเช้าก่อนที่จะเดินทางไปทำงานบุญต่อค่ะ ในครั้งนั้น ขณะเดินทางเทวดาได้นำพาอาจารย์ไปยังวัดแห่งหนึ่ง อาจารย์บอกกับทุกคนว่า เส้นทางนี้ต้องมีอะไร โดยอาจารย์ก็ให้คุณมิตร พลขับนำพาไปตามเส้นทางนั้นซึ่งก็ได้ พบกับวัดแห่งหนึ่ง เมื่อทุกคนลงจากรถแล้วก็ได้พบว่า ภายในศาลาไม้หลังเล็กๆ นั้น เห็นมีผู้คนที่เป็นชาวบ้านกำลังจะใส่บาตรพระ และเห็นมีพระสงฆ์นั่งเรียงกันอยู่เป็นลำดับ เพื่อรอรับถวายภัตตาหาร กระนั้นพวกเราก็ดีใจกันใหญ่ว่าวันนี้จะได้ทำบุญที่วัดนี้ดีใจจังค่ะ เนื่องจากทุกคนได้ซื้อเครื่องสังฆทาน และอาจารย์เองก็มีเครื่องยาสังฆทานติดรถไว้อยู่แล้ว เมื่อเห็นว่า ที่วัดนี้มีการทำบุญก็ดีเลยค่ะ ใครมีอะไรก็ขนกันมารวมกัน เมื่อทุกคนลงมาจาก รถก็เดินผ่านชาวบ้านด้วยความนอบน้อม เพราะชาวบ้านเขานั่งกันอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่า เดินผ่านชาวบ้านมายืนกันอยู่ที่ด้านหน้าสุดไม่มีที่นั่งค่ะ เพราะชาวบ้านได้นั่งกันเต็มพื้นที่แล้ว เนื่องจากภายในศาลาค่อนข้างคับแคบแต่เป็นที่น่าแปลกใจมาก คือ ยังมีที่ว่างที่ไม่มีใครไปนั่ง ตรงนั้นคือเก้าอี้ไม้สักที่เราเคยห็นในวัดต่าง ๆ เป็นเก้าอี้ยาวที่ทางวัดมีไว้ต้อนรับแขกตั้งอยู่ค่ะ และที่นั่งพอดิบพอดีกับคณะของเราเลยค่ะ แต่ชาวบ้านมีอัธยาศัยดีมากเพราะเห็นว่าพวกเรา เป็นคนกรุงเทพฯ ทุกคนยิ้มแย้มให้การต้อนรับแล้วพยักหน้าให้่นั่งเก้าอี้โดยไม่ต้องเกรงใจ แต่จี๊ดสังเกตเห็นว่ามีผู้นำชุมชนมากับภรรยานั่งพับเพียบอยู่ที่พื้น ไม่ได้นั่งเก้าอี้ ทั้งสองคนนั้น เขาก็หันมายิ้มให้ และเมื่อนั่งเก้าอี้เรียบร้อยแล้วคณะของเราก็อนุโมทนาบุญกับชาวบ้านที่ใน ขณะนั้นทุกคนเริ่มยืนเข้าแถวกันโดยในมือถือชามข้าวที่ภายในชามข้าวนั้นมีข้าวสวยพูน ชามพร้อมช้อนสั้นเพื่อเตรียมตักบัตรข้าวสวยค่ะ ด้วยการที่พวกเราทั้งหมดมาที่วัดนี้แบบไม่ได้ตั้งตัว และไม่รู้มาก่อนว่าที่วัดนี้เขาทำอะไรกัน เมื่อมาเห็นคนกำลังจะทำบุญทำความดีอาจารย์เจนและคณะของเราก็ได้พนมมืออนุโมทนาสาธุ กับพวกเขาค่ะ ในตอนนั้นเอง อาจารย์คิดในใจว่าอยากใส่บาตรข้าวสวยอย่างพวกเขาจัง เสียดายที่ไม่รู้มาก่อน และคุณรุ้งและคณะเดินทางก็คิดเหมือนกันซึ่งก็ได้พนมมืออนุโมทนาบุญ กับพวกเขาด้วยเช่นกันค่ะ ทันใดนั้น ปรากฏว่า หัวหน้าชุมชนและภรรยาได้เสียสละชามข้าวสวย ที่ตนเองและภรรยาถืออยู่เพื่อจะทำการใส่บาตรสามีนำมายกให้อาจารย์เจน และภรรยาก็นำมา ให้คุณรุ้ง แบบที่พวกเรานั้นไม่รู้จักกันมาก่อนค่ะ ตอนนั้นทุกคนดีใจมากเพราะไม่ใช่เพียงแต่ อาจารย์เจนคนเดียวที่คิด พวกเราก็คิดอยากจะใส่บาตรข้าวสวยเหมือนพวกเขาบ้างแต่ด้วย บารมีของอาจารย์เจนทำให้พวกเราก็ได้ใส่บาตรข้าวสวยตามที่ใจปรารถนาค่ะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คุณรุ้งหันมากระซิบว่าพี่ดูไว้คนทำบุญอยากได้อะไรก็ต้องได้สมปรารถนา โอ้ยดีใจกันมากค่ะ ในวันนั้นชามข้าวชามใหญ่ 2 ชามนั้นได้ทำให้คณะเราทุกคนได้ใส่บาตรตามที่คิดค่ะ ซึ่งระหว่างนั้นอาจารย์ก็แจ้งว่า จะถวายสังฆทานพระสงฆ์ซึ่งหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็ได้พูดขึ้นว่า เมื่อฉันเสร็จแล้วก็ถวายสังฆทานให้พร กรวดน้ำ ขอถามว่าคุณโยมจะรีบไปธุระไหนหรือไม่ ถ้าไม่รีบร้อนไปไหนเดี๋ยวค่อยมาถวายสังฆทาน และกรวดน้ำรับพรต่อไป ซึ่งทุกคนก็ตอบ ท่านว่าไม่รีบร้อนค่ะ พวกเรานั่งก็นั่งเก้าอี้เหนือผู้คนทั้งปวงอย่างเด่นเป็นสง่า ยังกับแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญ หันไปหันมาอาจารย์เจนก็ชักชวนกันออกมาเดินสำรวจวัดซึ่งก็มีชาวกะเหรี่ยงเดินตามมา เล่าว่าที่วัดนี้เป็นมาอย่างไร โดยเล่าว่าที่วัดนี้อยู่กันอย่างเรียบง่ายชาวบ้านเป็นชุมชน กะเหรี่ยงเงินทองไม่ค่อยมี แต่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อและวัดแห่งนี้ใครมีเงินคนละ เล็กน้อยก็มาช่วย ๆ กัน ที่ผ่านมาก็สร้างโรงทานกันเองด้วยการใครมีสะตุ้งสตางค์ก็มา ลงขันกันได้ซื้อปูนซีเมนต์ถุง ซื้อทรายก็มาช่วยลงแรงกันเทพื้นโรงทานแล้วก็ชี้ให้ดูถึง ผลงานความสำเร็จ โอ้โห ชาวบ้านเขาทำงานบุญเหมือนพวกเราเลยค่ะดีจัง พวกเราก็เดินซักถามไปเรื่อย ๆ โดยเดินไปในทุ่งโล่งกว้าง ในตอนนั้นอากาศยามเช้านั้น สดชื่นมากค่ะซึ่งก็ได้เห็นถึงธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ของต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจีอากาศ ที่บริสุทธิ์ตอนนั้นมีน้ำค้างบนยอดหญ้าสวยดูแล้วสดชื่นมากค่ะ พวกเราทั้งหมดได้สูดอากาศ ยามเช้าเข้าไปจนเต็มปอดเลยค่ะ ธรรมชาติสุดสุดค่ะ ชายชาวกะเหรี่ยงนั้นได้นำพาอาจารย์มาที่โบสถ์หลังหนึ่งที่ยังสร้างไม่เสร็จโดยเขาเล่าว่า โบสถ์หลังนี้สร้างมานานแล้วประมาณ 8 ปี เห็นจะได้พวกเราไม่มีเงินอะไรมากทำพืช ปลูกผักรายได้น้อย ใครมีเงินทีก็มาช่วยกันทีหนึ่ง อาจารย์เจนเห็นแล้วก็ไม่รับปากว่าจะ มาช่วยที่วัดแห่งนี้ ซึ่งอาจารย์เจนเล่าว่าหากมีบุญสัมพันธ์กับวัดแห่งนี้ เราคงได้มาช่วย แต่ยังไม่รับปากจะทำ แต่ได้เห็นถึงความสำคัญของวัดแห่งนี้มาก เพราะในโอกาสต่อไปจะ เป็นศูนย์รวมชุมชนเข้าวัดทำบุญ และได้ศึกษาพระธรรมในพระพุทธศาสนา หากสร้างวัดนี้ ได้สำเร็จแล้วไซร้ก็จะเป็นที่พึ่งของชาวกะเหรี่ยงที่นับถือศาสนาพุทธที่มีความเชื่อศรัทธา ซึ่งความเลื่อมใสศรัทธาของผู้คนนั้นก็จะต้องมีผู้นำที่ดีด้วยค่ะโดยเจ้าอาวาสวัดนี้ก็ได้ สั่งสอนอบรมให้พวกเขาทำความดี สวดมนต์ ถือศีลและจากการที่มีชาวบ้านเข้าวัดทำบุญ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาและได้เข้าวัดทำบุญสร้างกุศลค่ะ เมื่อกลับจากเดินทางไปสำรวจโบสถ์แล้ว และเมื่อได้รับทราบจากชายกระเหรี่ยงที่นำ พาไปแล้วว่า ทางวัดยังสร้างโบสถ์ไม่เสร็จ อาจารย์เจนก็เกิดมีจิตศรัทธาโดยอาจารย์เจน กับคุณรุ้งเป็นต้นบุญใหญ่ และสานุศิษย์ติดตามก็ร่วมกันบริจาคปัจจัยร่วมสร้างโบสถ์ดังกล่าว นับปัจจัยได้ 3,000 กว่าบาทก็เขียนที่หน้าซองว่าร่วมสร้างโบสถ์ จำนวนสามพันกว่าบาทค่ะ ที่จำตัวเลขได้อย่างแม่นยำมากก็ตรงที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้แหละค่ะ ซึ่งเมื่อพระท่านฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว เจ้าอาวาสท่านก็มองมาที่คณะของเราพร้อมกับเอ่ยขึ้นมา ว่าใครนำสังฆทานมาจะมาถวายก็นำมาได้พร้อมทีเดียว เพื่อจะได้กรวดน้ำรับพรกัน ซึ่งก็ไม่มี ใครนำสังฆทานมาหรอกค่ะนอกจากคณะของเราเพียงคณะเดียว นอกนั้นเป็นชาวบ้านที่มา ใส่บาตรข้าวสวย ส่วนอาหารเป็นอาหารพื้นบ้านค่ะเนื่องจากภายในศาลาค่อนข้างคับแคบ เจ้าอาวาสท่านมองเห็นได้ค่ะ ว่าของสังฆทานที่ตั้งเตรียมไว้นั้นเป็นของคณะเรานี่แหละค่ะ แต่ท่านไม่พูดชี้เจาะจงลงไปค่ะ เมื่ออาจารย์เจนนำเครื่องสังฆทานพร้อมปัจจัยร่วมสร้างโบสถ์ เข้าไปถวายแล้วพระสงฆ์ ก็ได้กล่าวคำกรวดน้ำเมื่อเรียบร้อยแล้ว เจ้าอาวาสท่านก็หยิบซองขึ้นมา อ่านแล้วถามว่ามาจากที่ไหนกันพวกเราก็ตอบท่านไปว่ามาจากกรุงเทพฯ ท่านก็บอกว่าได้ กรุงเทพฯ มันเขตไหนกัน พวกเราก็ตอบว่า เขตบางพลัดและเขตอื่นด้วย มารวมกันท่านก็ยิ้มแล้ว ตอบว่าฉันคนเขตตลิ่งชัน มาอยู่ที่วัดนี้แล้วท่านก็เทศน์ถึงเรื่องการทำความดี คนสมัยนี้ยากนัก จะได้คิดถึงบุญกุศล มีแต่จะคิดถึงแต่ความสุขของตน ดีแล้วที่พวกเราได้มองเห็นถึงธรรม และมีปัญญาคือประมาณนี้ค่ะที่จำได้
สิ่งที่ทำให้จดจำไปนานแสนนานสำหรับการมาที่วัดนี้ก็ตรงที่ว่าเจ้าอาวาสท่านได้ประกาศ ออกไมด์ด้วยเสียงอันดังว่า ขออนุโมทนาบุญกับคณะที่มาจากกรุงเทพฯ ได้ร่วมสร้างโบสถ์ จำนวน 3,000 บาท ท่านเน้นย้ำอยู่หลายรอบประมาณ5 ครั้งขึ้นไปค่ะ และทุกครั้งพวกเราก็ จี๊ดขึ้นมาในใจว่าโถเป็นเงินที่จำนวนน้อยมาก ในตอนนั้นจี๊ดจำได้ว่า คุณรุ้งหันมาพูดกับจี๊ด และอาจารย์เจนก็ยิ้มเห็นด้วย คือคุณรุ้งพูดว่า ดูสิค่ะเงิน 3,000 บาทที่พวกเราร่วมสร้างโบสถ์ คงจะเป็นเงินจำนวนมากสำหรับวัดที่นี่ ท่านประกาศประหนึ่งว่าพวกเราบริจาค 30,000 บาทค่ะ. เกรงใจจริง ๆ หลังจากนั้นพวกเราก็ค่อย ๆ คืบคลานกันออกไปค่ะ การเดินทางแรลลี่บุญนี้. ด้วยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ไกลจากตัวเมืองและชุมชนมากค่ะ เพราะ ต้องขับรถขึ้นเขาเล็ก ๆ ถนนแคบพอที่จะมีรถสวนกันได้ เส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวไปมาค่ะ ดังนั้น นี่เป็นคำเตือน ๆๆ นะค่ะ ท่านที่จะเดินทางไปกับคณะบุญเสบียงสวรรค์ในทริปแรลลี่บุญครั้งนี้ จะต้องเตรียมยาดม ยาลม ยาหม่อง ยาแก้เมารถ ติดตัวไปด้วยนะค่ะ ขอย้ำ ๆ อย่าลืม แต่อย่างไร ก็ตามทางทีมงานก็จะได้เตรียมการณ์ไว้ให้ด้วยอีกทางหนึ่งค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจึงขอย้ำ และเตือนค่ะ การทำความดีต้องฝ่าฟันนะค่ะเมื่อผ่านพ้นไปได้เท่ากับว่าท่านได้ผ่านบททดสอบ แห่งบุญแล้วค่ะสู้สู้นะค่ะ
อ้อมีอีกเรื่องหนึ่งนะค่ะที่อาจารย์เจนฝากมาค่ะ โดยขอให้ทุกท่านโปรดทราบสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จะต้องเดินทางด้วยรถตู้ค่ะ จึงขอความเสียสละในการนั่งรถตู้นะค่ะหากมีกรณีว่า มีท่านผู้สูงอายุ หรือมีผู้วิงเวียนศรีษะ หรือมีผู้เมารถ และอื่น ๆที่ไม่ทราบได้นะค่ะ มีความประสงค์จะขอความอนุเคราะห์จากท่านในเรื่องของที่นั่งรถและท่านได้ให้ความเอื้อเฟื้อ และเสียสละ เท่ากับท่านได้เป็นผู้ให้และได้ทำบุญในเรื่องของบุญกัลยาวัตถุ 10 ประการ ค่ะ ตามหลักพุทธศาสนามีการทำบุญด้วยกัน ๑๐ วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ๑๐ ประการ) คือ
๑. ให้ทานแบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ (ทานมัย) การให้ทานเป็นการช่วย ขัดเกลาความเห็นแก่ตัวความคับแคน ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุ นอกจากนี้ สิ่งของที่เราแบ่งปันออกไปก็จะเป็นประโยชน์กับบุคคลหรือชุมชนโดยส่วนรวม
๒. รักษาศีลก็เป็นบุญ (ศีลมัย) เป็นการฝึกฝนที่จะลด ละ เลิกความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร มุ่งที่จะทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นเป็นการหล่อเลี้ยงบ่มเพาะให้เกิดความดีงามและ พัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ
๓. เจริญภาวนาก็เป็นบุญ (ภาวนามัย) การภาวนาเป็นการพัฒนาจิตใจและปัญญาทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อม เป็นหลักประกันว่า จิตจะมีความสงบชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น
๔. อ่อนน้อมถ่อมตนผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกัน และกันทั้งในความคิดความเชื่อและวิถีปฏิบัติของบุคคลและสังคมอื่นเป็นการลดความยึดมั่นถือมั่น ในความเป็นตัวตน ก็เป็นบุญ (อปจายนมัย)
๕. ช่วยเหลือสังคมรอบข้างช่วยเหลือสละแรงกาย เพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้านที่ ต้องการความช่วยเหลือก็เป็นบุญ (ไวยาวัจจมัย)
๖. เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญกับเราหรือในการทำงานก็เปิดโอกาสให้คนอื่นมีส่วนร่วมทำ ร่วมแสดงความคิดเห็นรวมไปถึงการอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ก็เป็นบุญ (ปัตติทานมัย)
๗. ยอมรับและยินดีในการทำความดีหรือทำบุญของผู้อื่น การชื่นชมยินดีหรืออนุโมทนา ไม่อิจฉาหรือระแวงสงสัยในการกระทำความดีของผู้อื่นก็เป็นบุญ (ปัตตานุโมทนามัย)
๘. ฟังธรรมบ่มเพาะสติปัญญาให้สว่างไสว ฟังธรรมะ ฟังเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อสติปัญญาหรือ มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ (ธรรมสวนมัย)
๙. แสดงธรรมให้ธรรมะและข้อคิดที่ดีกับผู้อื่น แสดงธรรมนำธรรมะไปบอกกล่าวเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รับฟัง ให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดีเป็นเรื่องของความจริง ความดี ความงามก็เป็นบุญ (ธรรมเทศนามัย)
๑๐. ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสมมีการปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็นความเข้าใจ ให้ถูกต้องตามธรรม ให้เป็นสัมมาทัศนะอยู่เสมอเป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญ ถือเป็นบุญด้วยเช่นกัน (ทิฏฐุชุกรรม) เนื่องจากในการเดินทางครั้งนี้รถบัสไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ดังนั้น เพื่อความสะดวก ของคณะทำบุญอาจารย์จึงได้จัดรถตู้เพื่อคอยอำนวยความสะดวกค่ะ ซึ่งจี๊ดต้องขอเล่าให้ฟังว่า รถตู้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถทัวร์มาก แต่ด้วยความตั้งใจของอาจารย์เจนต้องการนำพาทุกท่าน ไปทำบุญสร้างกุศลโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้นค่ะ
เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่กลางป่า มีทุ่งกว้างโปร่งโล่งสบายบรรยากาศดีมาก มีภูเขาล้อมรอบใน วันนั้นได้เห็นบรรยากาศยามเช้ามีกลุ่มก้อนเมฆลอยไล่เหลื่อมเขาสวยงามมากและ มีสายหมอกสีขาวมองดูแล้วยังกับอยู่บนวิมานเชียวค่ะ พื้นที่รอบบริเวณนั้น เขาทำไร่พืชสมุนไพร เป็นจำนวนมากค่ะ ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาที่มีไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลังแต่ ที่นี่มีชาวกะเหรี่ยงปลูกพืชที่มีคุณค่าในเรื่องของยารักษาโรคเป็นพืชที่หายาก แต่ที่นี่มีค่ะ ชนชาวกะเหรี่ยงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่พอเพียง ที่ยังไม่มีสังคมเมืองเข้ามาครอบงำค่ะ จากเรื่องราวที่กล่าวมาแล้วดังกล่าว มาในครั้งนี้ อาจารย์จึงได้เดินทางกลับไปยังวัดแห่งนี้ ที่เทวดาท่านดลใจให้ไปในครั้งนั้นโดยเข้าพบกับเจ้าอาวาสโดยไม่ได้แสดงตนอะไรค่ะ โดยแจ้งว่าจะนำผู้คนมาทำบุญสร้างโบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และร่วมสร้างองค์พระปฐม ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และขออนุญาตให้ญาติโยมได้ทำบุญด้วยแรงกายแรงใจในการร่วมเทพื้นปูน ที่พื้นฐานรอบองค์พระปฐมซึ่งจะมีการเทปูน c-pac สำเร็จจำนวน 5 คิวค่ะ เพื่อให้การทำบุญ ที่เต็มเปี่ยมเต็มร้อยไม่ต้องรีบร้อนอะไร อาจารย์เจนจึงทำบุญที่วัดแห่งนี้เพียงวัดเดียวค่ะ ดังนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่งที่คณะบุญเสบียงสวรรค์ฯ และทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคปัจจัย ร่วมบุญกันมาจะได้เป็นส่วนหนึ่งให้วัดสามารถสร้างโบสถ์ได้สำเร็จเพราะยังคงเหลือประตูหน้าต่าง สีทาภายในและภายนอก ภาพวาดเขียนสีน้ำมันพระพุทธประวัติ งานปูนปั้น ฯลฯ เนื่องจากโครงสร้างของโบสถ์ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ด้วยการที่ทุกท่านได้มีส่วนช่วยให้วัดได้มีโบสถ์เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจในพระพุทธศาสนา เพื่อให้มีพระสงฆ์ได้บวชเรียนพระธรรมวินัย และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ให้ทั้งพระสงฆ์ ชาวบ้าน และชาวกะเหรี่ยงได้ประกอบกิจในทางพุทธศาสนา ทุกท่านผู้ร่วมบุญบริจาคปัจจัยร่วมสร้าง โบสถ์วิหารและองค์พระปฐมย่อมจะได้รับอานิสงส์บุญมากที่สุดค่ะ
กิจกรรมมาที่ทุกท่านจะได้ร่วมด้วยช่วยกันเทปูนด้วยสองมือและแรงกายของทุกท่านสามารถ ตัดกรรมที่ท่านได้เคยกระทำผิดมาได้ค่ะ ทุกถังปูนไม่ว่าจะเป็นถังหนักหรือถังเบาย่อมเป็น ความสามัคคีบุญที่ได้ทำสำเร็จแล้วทุกประการด้วยกันทั้งสิ้นนะค่ะ ตามที่อาจารีย์เจนได้สอน ให้ตัดกรรมให้กรรมหนักเป็นเบา และทุเลาหายนะค่ะ ดังนั้น ทุกถังปูนที่ผ่านมือของเราไปขอ ให้อธิษฐานตัดกรรมได้เลยค่ะ อย่างเช่นหากข้าพเจ้าเดือดร้อนเรื่องการเงินเป็นหนี้เป็นสิน อาจเป็นเพราะผลกรรมใดข้าพเจ้าไม่ทราบด้วยบุญกุศลที่ถือถังปูนเทพื้นนี้ข้าพเจ้าขอตัดกรรมนั้น ให้ขาดจากกันอย่าได้เดือนร้อนเรื่องเงินและหนี้สิน หรือหากข้าพเจ้าทำผิดกับทรัพย์ของแผ่นดิน ทำผิดเป็นถูกทำถูกเป็นผิดมาก็ด้วยบุญนี้ขอตัดกรรมนั้นขอให้ขาดจากกันหรือหากข้าพเจ้า ทำกรรมกับบิดามารดาทำให้ท่านทุกข์ใจกับลูกคนนี้ บัดนี้ลูกมาทำความดีและสำนึกได้แล้ว ขอให้ด้วยบุญนี้มาตัดกรรมนั้นด้วย ขอให้กรรมนั้นจงขาดจากกัน ฯลฯ จี๊ดก็ขอยกตัวอย่าง พอสังเขปนะค่ะ ชั่วเวลาของการทำความดีมีเวลาไม่มาก ต้องกอบโกยบุญเอานะค่ะ เรื่องถังปูนหนักหรือถังเบาบางท่านไม่เข้าใจ คิดว่า ถ้าถือถังเบาจะไม่ได้บุญมากเท่ากับคน ถือถังที่มีปูนหนัก ซึ่งอาจารย์เจนบอกให้จี๊ดฟังว่าทุกท่านได้บุญเท่าเทียมกันทุกคนเพียง แต่จิตในขณะที่ทำนั้นมีจิตที่แข็งแกร่งมุ่งมั่น และได้อธิษฐานจิตลงไปด้วยหรือไม่นั่นเองค่ะ การจะสร้างวัตถุทานให้กับวัดเรามีเงินก็นำถวายไปจ้างช่างมาทำ เราไม่ต้องเหนื่อยก็ได้ค่ะ แต่การที่เราได้บริจาคทรัพย์ ได้ทำบุญด้วยแรงกายแรงใจและคนที่ไม่ได้มาได้อนุโมทนา กับผู้ที่ลงแรงกายแรงใจไปด้วยนั้นก็ย่อมได้รับอานิสงส์บุญที่ก่อเกิดงอกงามยิ่งกว่าค่ะ นอกจากนี้ อย่างเรา ๆ นั้นอยู่ดีดีจะไปขอทางวัดเขาทำนั่นทำนี่ทางวัดจะไม่อนุญาตให้หรอกค่ะ แต่ในการมาทำบุญกับอาจารย์เจนที่ได้ขออนุญาตทางวัดให้ได้กระทำความดีด้วยตนเอง อย่างนี้ถือเป็นบุญมากกว่าค่ะ การที่พวกเราทำงานกันเป็นทีม ก็เปรียบได้กับพวกมดงานค่ะ พวกมดเค้าจะตั้งแถวเรียงกัน ช่วยกันขนช่วยกันทำจนงานสำเร็จที่เขาเรียกว่า “มดงาน” นั่นแหละค่ะ มดทำงานค่ะ มดเป็น สัตว์ตัวเล็กแต่สามารถทำงานใหญ่ได้ด้วยผลงานที่สำเร็จ เพราะทำงานกันเป็นทีมค่ะ บุญที่ทำ จะสำเร็จก็ด้วยพลังความสามัคคีพลังแห่งความศรัทธาในบุญกุศลด้วยค่ะ
ในการทำบุญวันเดียว แต่มีหลายบุญกุศลด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างโบสถ์ร่วมสร้างพระองค์ปฐม ร่วมซื้อปูน c-pac สำเร็จเพื่อเทพื้นรอบฐานชั้นล่างองค์ พระปฐมร่วมซื้อสีทองอย่างดีเพื่อทาสีองค์ปฐมองค์พระองค์ใหญ่ที่มีความสูงหลายเมตรประดิษฐาน ใกล้กับโบสถ์ ร่วมถวายสังฆทานร่วมห่มผ้าพระพุทธรูปในพระอุโบสถ์ และหน้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งการได้อธิษฐานจิตที่เชิงเขาต่อพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกท่านลองนับดูสิค่ะ บุญมากมายที่ทุกท่านได้กระทำภายในวันเดียวค่ะ จี๊ดนะต้องขออนุโมทนาสาธุกับผู้นำงาน บุญกุศล และทุกท่านผู้ร่วมบุญทุกท่านค่ะ และต้องบอกว่าตื่นเต้นค่ะ และในช่วงเวลาได้ล่วงเลย ผ่านพ้นไปเร็วมากทุกท่านก็ต้องกอบโกยบุญเพื่อสร้างบุญสร้างบารมีบุญกันนะค่ะ จี๊ดขอให้ทุกท่านต่อสู้กับตนเองในการทำบุญสร้างกุศลค่ะ เพราะบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ค่ะ อาจารย์เจนมักพูดเสมอว่าบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ บุญเท่านั้นที่สามารถมาช่วยเราได้เมื่อยามคับขัน และบุญเท่านั้นที่เมื่อเราได้ทำแล้วหวนคิดทีไรสุขใจทุกที และบุญเท่านั้นที่ในขณะที่กำลังจะ สิ้นลมหายใจก็ได้เห็นภาพของบุญกุศล ทำให้สามารถไปเกิดบนสวรรค์แทนที่จะลงอบายภูมิค่ะ หลวงพ่อเล่าว่าคนที่นี่เป็นชาวบ้านที่ไม่รู้ว่า อาตมาจะว่ายังไงดีกะพวกเขา เพราะเวลาที่ได้นำ พืชผลไปขายก็ปล่อยให้เขาโกงตาชั่ง เมื่อรู้แล้วเห็นแล้วก็ไม่กล้าพูด แต่ก็จะนำมาเล่าให้อาตมา รับฟังเมื่อท่านเล่าจบ ท่านก็หัวเราะขำ ๆ ซึ่งเมื่อพวกเราในที่นั้นได้ฟังแล้วก็ให้นึกถึงผลกรรม ในสัมมาอาชีพที่อาจารย์เจนได้เคยตรวจกรรมของผู้คนที่ทำสัมมาอาชีพไม่สุจริตคตโกงตาชั่ง จี๊ดก็หันไปมองอาจารย์กับคุณรุ้ง เพราะจี๊ดรู้ดีค่ะว่า ทำแบบนี้เป็นการสร้างกรรมอย่างมากค่ะ เรื่องนี้จี๊ดขอเล่าเป็นวิทยาทานนะค่ะและถ้าหากเรื่องราวที่เล่าเรื่องการคดโกงตา ชั่งนี้มีผลกระทบต่อจิตใจ ท่านผู้อ่านก็ต้องขออโหสิกรรมด้วยค่ะ เพราะจากการที่ได้เห็น อาจารย์เจนตรวจกรรมกับบุคคลที่สัมมาอาชีพไม่ชอบต่าง ๆ แต่เข้าใจค่ะภูมิธรรมของ คนไม่เท่ากันอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นทำผิดต่อสัมมาอาชีพแล้วเป็นผลกรรมเช่น คคโกงตาชั่ง ทำให้ชั่งไม่ตรง ผลกรรมนั้นจะทำให้บ้านอยู่ไม่เป็นสุขทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ซื่อตรงต่อกัน เหมือนกับตาชั่งที่เอียง ครอบครัวก็มีแต่เกลียดชังกันไม่มีความสุข ซึ่งทกให้เกิดความทุกข์ใจ มากแต่ไม่ทราบว่า เป็นเพราะเหตุผลใดที่ทำดีกับผู้ใดก็ไม่ได้รับการดีตอบ ซึ่งเป็นเรื่อง ของผลกรรมค่ะ บางครั้งเราอาจคิดว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องใหญ่มาก ในเรื่องของกรรมค่ะ ทองที่ได้มาจากการโกงตาชั่งก็ไม่ได้ทำให้ร่ำรวยขึ้น มีแต่จะ ทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัวค่ะ ฉะนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากนะค่ะเราต้องหักห้ามใจคิดเสียว่า เราจะทำความดี เราจะไม่โกงให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะบางครั้งคนที่เราไปโกงตา ชั่งนั้น เขาต้องเจียดปันเงินที่มีอยู่ในมือเพื่อนำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้กับครอบครัว โดยวันนี้มีเงินซื้อของ แต่พรุ่งนี้ไม่มีเงินที่จะนำมาหาเลี้ยงครอบครัวแล้วพวกเขาทุกข์ เพียงใดเราก็จะได้รับผลกรรมนั้นมากยิ่งกว่าค่ะ
ในการที่อาจารย์เจนได้ให้ทุกท่านทำบุญสร้างกุศลเพื่อจะได้ให้ผู้คนได้มีดวงตาเห็นธรรม และทำแต่เรื่องดีดี เรื่องของบุญกุศลละเลิกการทำผิด
ดังนั้นขอให้ทุกท่านนึกถึงบุญกุศลและสร้างความดีที่อาจารย์จัดงานบุญเสบียงสวรรค์ 1 เดือนมีครั้งเดียว ในวันนี้ท่านอาจไม่เห็นผลแต่หากท่านได้สังเกตตนเองบ้างก็อาจจะ พบตนเองได้ว่าบุญเท่านั้นที่ช่วยเราได้ในยามที่คับขัน คนที่เคยคิดร้ายจะกลายเป็นดี เหตุเพศภัยอันใดก็จะแคล้วคลาดเพราะบุญช่วยท่านค่ะ บุญใครทำใครได้ใครกินใครอิ่ม ท่านทำบุญกุศลใดอาจารย์ไม่ได้บุญของท่านค่ะ แต่ท่านได้ด้วยเจตนาบุญของท่านเอง จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้มีจิตศรัทธาในบุญกุศลที่มีความประสงค์และมีเจตนา บุญร่วมกันกับคณะบุญเสบียงสวรรค์อาจารย์เจน ญาณทิพย์ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2561 มา ณ โอกาสนี้ค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|