ถึง อ.เจนและผู้อ่านค่ะ ดิฉันอยากให้คุณแม่มีดวงตาเห็นธรรมเพื่อดับทุกข์ค่ะ

เชอรี่

    ดิฉันรู้สึกว่าคุณแม่ของดิฉันทุกข์ใจ ทุกข์กายเหลือเกิน เพราะคุณแม่เป็นคนคิดมาก ขี้หงุดหงิด ขี้น้อยใจ ขี้บ่น ทำให้คนรอบข้างไม่อยากอยู่ด้วย คุณแม่จะชอบเก็บเรื่องต่างๆมาคิดและก็เป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเรื่องหนี้สิน เรื่องสุขภาพร่างกายของท่านเอง ดิฉันก็เกิดความทุกข์ใจตามไปด้วย เพราะอยากให้คุณแม่มีสติ ใจเย็น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาเรื่องใดๆขึ้นกับชีวิตของท่านก็ตาม ดิฉันชอบการทำบุญมากค่ะและบ่อยครั้งที่ดิฉันจะชวนคุณแม่ไปทำบุญด้วย  แต่พอกลับมาที่บ้าน มาใช้ชีวิตปกติก็เป็นเหมือนเดิม เหมือนกับว่าท่านชอบทำบุญนะค่ะแต่ท่านยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม ยังดับทุกข์ที่เกิดกับชีวิตของท่านไม่ได้ค่ะ  
    ดิฉันจึงอยากขอคำแนะนำว่า ดิฉันจะสามารถให้คุณแม่มีดวงตาเห็นธรรมได้อย่างไร ต้องพาไปทำบุญ ปฏิบัติธรรมที่ไหน หรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไรค่ะ

ยอญิ๋ง

ฉันเป็นแบบแม่คุนเลย ลองฝึกสมาธิดูนะค๊ะการฝึกสมธิจะช่วยให้เรารู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ในตัวเรา ควบคุมจิตใจของเรา และเราก้อจะสามารถหันกลับเข้ามาภายในตัวของเราได้ หมั่นทำทุกๆวันน๊ค๊

เชอรี่

ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำแนะนำ

พัด

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ขอให้คุณแม่คุณเห็นธรรมเร็วๆ ด้วยนะค่ะ เพราะ คุณแม่ของ ดิฉัน เป้นอยูุ่ค่ะ ยังไม่เห็นธรรม

fasaijao

เรื่องบางเรื่อง การนั่งสมาธิ ช่วยได้ บางเรื่อง ช่วยไม่ได้..เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ช่วยตอบให้นะคะ

ก่อนอื่นเปิดใจก่อนว่า
...การนั่งสมาธิไม่ได้ช่วยผู้ป่วยทุกคน  ยกตัวอย่างเช่น โดนรถชน ขาหัก นั่งสมาธิไปก็ไม่หาย
แต่คนเรารู้ว่าควรแก้อาการไม่สบายเหล่านั้นโดยการไป โรงพยาบาล

กรณีคุณ เจ้าของกระทู้  ..ใช้เวลาพาแม่ไปเดินเล่น สวนสาธารณะ เยอะ ๆ วันนึงให้มีเวลามากกว่า 6 ชั่วโมง ธรรมมะ ที่เกิดจากธรรมชาติ จะช่วยบำบัดให้... แล้วก็ต้องทำอย่างต่ำ 30 วันขึ้นไปนะคะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ทั้งตัวคุณและคุณแม่คุณด้วย...

...ส่วนเรื่องหนี้สิน... ไม่ใช่ปัญหาใหญ่จนกว่าเรามองว่ามันเป็นปัญหา ..ทุกอย่าง มีทางออก

เรื่องการเข้าวัด  ... บางทีวัดก็ไม่ใช่สถานที่ เหมาะสำหรับเกิดดวงตาเห็นธรรมเสมอไป  ธรรมมะ ก็คือ ธรรมชาติ  เราต้องมีชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ การอยู่ในที่ ที่สงบ  ที่ ที่มีความสุข คือรากฐานสำคัญแห่งการมีดวงตาเห็น ธรรม และสัจธรรม

แต่เมื่อ...เราไปวัด...  ที่นั่นมีแต่ ผู้คนที่หิวบุญ หิวกุศล ...  ก็ทำไปจนเกินพอดี
เมื่อเกินพอดี... ก็ทำให้เกิดความไม่เป็นกุศล .... อันเห็นได้จาก มีพระมี คนอยากได้เงินที่มองว่ามันเกินความพอดี ...  ร้านค้าก็แข่งขันกัน ทำของถูก ๆ มาขาย เพื่อหวังกำไร >> สุดท้ายผู้ก่อให้เกิดบาปก็คือ คนที่ศรัทธทา จนเกินความพอดี  รวมถึงคนที่ไปวัด เห็นเขาใส่ซองทำบุญแล้วทำตาม ๆ กัน เพราะคิดว่าดี ( แต่มันไม่ดี ) ก็เป็นบาปอยู่ดี ... การกระทำเหล่านี้ก่อบุญ ก่อกุศลแก่ "ผู้ร่วม" ทำ แต่เกิดบาป สำหรับ "ผู้รับ" ที่รับอะไรมากเกินความพอดี..

...แนวทางของพุทธศาสนาจึงเน้นให้เดินทางสายกลาง...   ไม่จำเป็นต้องมีอะไรที่เลิศหรู หากมีผู้หวังจะทำบุญ.. จิตที่คิดทำบุญก็ก่อบุญแล้ว


แนะนำเพิ่มว่าช่วงแรกๆ อาจจะไม่เข้าใจ ทุกใจ ใจร้อน กระวนกระวายใจ ว่าทำอย่างนี้ทำไม ก็อยากให้เปิดใจ...ลองดูนะคะ  เดินสวนสาธารนะ ดูธรรมชาติ....     กระบวนการเหล่านี้ก็คือการฝึกสมาธิอย่างนึงค่ะ ที่ได้ผลดีกับคุณและ แม่คุณ  

( ...ปล... แนะนำวิธีนี้เพราะว่า  การนั่งสมาธิ... สำหรับคนบางคนนั่งสมาธิแก้ได้ ก็มีค่ะ...  นั่งแค่ วันเดียว 15 - 30 นาทีก็มี.... แต่ต้องมีของเดิม หรือมีอะไรติดตัวมาค่อนข้างดีอยู่แล้ว ..ซึ่ง 98% ของคนไทย ไม่มีใครทำได้ค่ะ ...ต้องอาศัย ฝึกกรรมฐาน ไม่ต่ำกว่า 2-5 ปี...  )