แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Wwwarjanjencom เมื่อ 2013-8-15 15:07
คุณภุชงค์ (คุณภุฯ) เป็นหนึ่งในทีมงาน อ.เจน ญาณทิพย์ ตำแหน่งในทีม คือ ฝ่ายดูแล บริการ และรักษาความปลอดภัย อ.เจน/คุณรุ้ง เพราะด้วยคุณภุฯ เป็นคนดี น่ารัก และมีอารมณ์ขัน (แบบหน้าตาย) บางครั้ง คุณภุฯ ยังไม่ทันจะเล่าเรื่องอะไร ดิฉันก็เตรียมขำไว้ก่อนแล้วค่ะ เรื่องนั้นต้องมี...ฮา เพราะด้วยอัธยาศัยไมตรีของคุณภุฯ จึงเป็นบุคคลที่เพื่อนๆ ในทีม มักจะกล่าวขวัญถึงมากที่สุด เพราะเขามีเรื่องได้ขำๆ ตลอดๆ หลายเรื่องต่อหลายเรื่อง ที่ทำให้พวกเรา ฮาๆ กลิ้ง เรื่องขำฮาเอาไว้ที่หลังค่ะ มาเป็นทีมงาน อ.เจน ได้อย่างไร คุณภุฯ ได้ยินข่าวว่า อ.เจน ต้องการคนช่วยขนน้ำดื่มขึ้นรถบรรทุกเพื่อไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีน้ำท่วมขังนานนับเดือน อ.เจน จึงได้ประกาศไปทางเว็บไซด์ได้เงินบริจาคมากกว่า 1,000 แพ็ค แต่ที่นี้ทำไงล่ะ ใครจะช่วยขนน้ำขึ้นรถ เพราะการเดินทางครั้งนั้นต้องทำเวลาไปสายก็ไม่ได้ ชาวบ้านเขาจะรอคอย จำเป็นต้องแจ้งหาผู้ช่วยให้ผู้ตั้งใจมาร่วมบุญให้มาช่วยกัน คุณภุก็เลยโทรหาคุณรุ้ง โทรปุ๊บคุณรุ้งก็รับปั๊บ เหมือนบุญสัมพันธ์ คุณรุ้งบอกว่าเราได้คนเพียงพอแล้วค่ะ แต่คุณรุ้งก็บอกว่าถ้าคุณภุ จะมาก็ไม่ขัดศรัทธาเพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ วันนั้นนอกจากทีมงานแล้ว เขาคือคนที่เราไม่รู้จักมาคนเดียวโดดๆ มาช่วยคนของอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย เมื่อช่วยกันขนน้ำจนเสร็จแล้ว ก็มานับจำนวนที่นั่งว่างหนึ่งที่เพราะมีคนมาไม่ได้ 1 คน เหมือนส้มหล่นใส่คุณภุ และ อ.เจน สัมผัสได้ว่า คุณภุ อยากไปด้วยอย่างมาก อาจารย์เจนจึง อนุญาต คุณภุฯ สามารถติดตามไปช่วยแจกของได้ และตั้งแต่นั้นมา เพราะบุญสัมพันธ์ อ.เจน มักพูดเสมอๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะเราเคยทำร่วมกันมาจากอดีตชาติแต่จำไม่ได้ จากการที่ คุณภุฯ มาช่วยงานน้ำท่วมที่บ้าน อ.เจน และช่วยงานบุญเป็นเวลานานหลายเดือน คุณภุฯ ก็ไม่เคยแม้แต่สักครั้งเดียวที่จะขอให้ อ.เจน ตรวจกรรม แต่ อ.เจน เห็นกรรมคุณภุฯ ได้หลายชาติ ก็ด้วยบุญ ก่อนที่คุณภุฯจะมาพบ อ.เจน คุณภุฯ ไม่ค่อยได้ทำบุญทำทาน แต่เมื่อมาเป็นลูกศิษย์จึงได้ทำบุญมากขึ้น เมื่อทำบุญมากขึ้น อ.เจน ก็ได้เห็นอดีตชาติของคุณภุฯ ได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน ในอดีตชาติ ชาติที่เป็นอาแป๊ะ อ.เจน สงสัยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ จึงมาช่วยงาน อ.เจน และแล้ว อ.เจน ก็เห็นในญาณว่า ครั้งหนึ่งในอดีตคุณภุฯ เป็นชายเชื้อสายคนจีน สูงอายุ (อาแป๊ะ) สุขภาพไม่ดี เจ็บป่วย ด้วยโรคเลือด และในชาตินั้นเอง อ.เจน ได้เป็นคนนำยาจีนมาช่วยรักษาอาแป๊ะ คนนี้ ในชาตินั้น อาแป๊ะ คนนี้ได้พูดว่า หากได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณหรือช่วยเหลือดูแล อ.เจน ได้บ้างไม่ว่าชาติใดๆ ก็จะมาดูแลช่วยเหลือ ชาติปัจจุบัน เป็นทีมงาน อ.เจน ตำแหน่งที่เพื่อนๆ มอบให้เหมาะสมที่สุด คือ มีหน้าที่คอย ดูแล บริการ และรักษาความปลอดภัย อ.เจน/คุณรุ้ง ชาติที่เป็นนายทหาร พวกเราสงสัยมากว่า ทำไม คุณภุฯ ชอบชุดทหาร 3 เหล่าทัพ รวมทั้งตำรวจ ที่บ้านมีเครื่องแบบ เต้นท์ อาวุธมีด กาน้ำร้อน กระติ๊ก กระสุนใช้แล้ว หีบบรรจุกระสุน ฯลฯ เครื่องใช้ของทหารที่ต้องใช้ภาคสนาม ที่ใช้เดินป่า ยกเว้นปืนพก แต่มีปืนไม้ลูกซองไม่มีสลักและกระสุน ปรากฏว่า ในอดีตชาติ เป็นทหารไทยที่ถูกส่งไปร่วมรบในสงครามอินโดจีน
ชาติปัจจุบัน ผลของกรรมที่เคยเข่นฆ่าทหาร จะทำให้มาเป็นคนที่สุขภาพไม่ดี มักจะมีอาการภูมิแพ้ ผื่นคัน ปวดตามเนื้อตัว เป็นเศษกรรม เพราะคุณภุได้รับใช้กรรมในนรกมาแล้ว อ.เจน บอกว่า การเป็นทหารรับใช้ชาติ ก็มีบุญต่อแผ่นดิน แต่บุญส่วนบุญกรรมส่วนกรรม ด้วยผลกรรมดีมาในชาตินี้ ได้มีหน้าที่การงานดีทำงานบริษัทต่างประเทศ แต่ต้องทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ รวมทั้งอาจต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ นอกจากนี้ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นคนของคุณภุฯ ก็คือ เจ้านายชาวเยอรมัน แฮๆ... อาจารย์เจนจึงแนะนำให้คุณภุ แผ่อุทิศส่วนกุศลแบบเจาะจงถึงคราวที่เป็นทหารและได้นำอาวุธประหัตประหารศัตรู คุณภุจึงทำไปปฏิบัติตามคำแนะนำประมาณเดือนกว่า ๆ ไม่น่าเชื่อ ลมพิษ ที่เพิ่งเป็นได้ 9 เดือน หายไม่ขึ้นมาอีกเลยจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งอาจารย์เห็นว่าคุณภุ ในอดีตชาติเป็นคนผิวดำ และชอบดื่มเหล้า แล้วชกต่อยทะเลาะวิวาท ประกอบกับกรรมที่เกิดจากที่เป็นหทาร ทำให้จะต้องปวดหลัง ปวดขาในอนาคตถึงขนาดจะต้องทานยา คุณภุ จึงไม่ลืมที่จะ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เขาเหล่านั้นหลังจากทำบุญ เพื่อหวังว่าจากกรรมหนักจะได้กลายเป็นเบาบางลง ***ตอนที่ อ.เจน ส่องญาณดูนั้นไม่รู้เลยว่าคุณภุฯ ทำงานอะไร หรือชอบอะไรเกี่ยวกับทหาร หรือเพิ่งเป็นลมพิษทรมาน จนคุณภุฯ ก็ได้เฉลยออกมาว่าจริงตามนั้นทุกประการ*** ชาติที่เป็นคนฉายหนัง พวกเรามักจะขบขันคุณภุฯ เสมอๆ ที่ชอบไปเดินแถวคลองถมและจะต้องมีของเก่าติดไม้ติดมากลับมาด้วยทุกครั้ง และขาดเสียไม่ได้ไปทุกอาทิตย์ เขาชอบที่แห่งนี้มาก ชอบเป็นชีวิตจิตใจ ไปครั้งหนึ่งก็จะมีแผ่น CD ที่เป็นหนังเก่า หรือเพลงเก่า ยุค 80 หรือของเก่าน้อยจนถึงเก่ามากที่สุด โดยเฉพาะกระป๋องหรือกล่องขนมสังกะสีจะชอบมากหอบพะรุงพะรังกลับมามาด้วยทุกครั้ง หากตั้งใจไปซื้อของเก่าที่ต้องการไม่ได้วันหลังก็จะต้องไปอีก แล้วก็นำมาอวดเพื่อนๆ ด้วยความดีใจว่าอุตส่าห์หามาได้ ดิฉันเคยถามว่า CD ที่ซื้อมาทั้งหมดได้เปิดดูจนครบมั้ย คุณภุฯ ตอบว่า อ้อ...เงียบไปนาน คำตอบ ไม่ครบหรอกพี่ ดู 20 เก็บ 80 ที่ห้องนอนไม่ต้องพูดถึงเป็นที่เก็บสมบัติเก่า ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ตัวจริงอยู่นี่เองค่ะ จนคุณรุ้งเตือนคุณภุว่า ทรัพย์สินเก็บมากเกินไป ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แนะนำให้คุณภุ สะสมเป็นบุญกุศลแทน อาจารย์เจนก็เตือนอีกว่าห้องนอนควรเป็นที่โล่ง ถ้าเอาของไปเก็บไว้มาก ๆ ก็จะทำให้ป่วย ต่างก็เตือนด้วยความเป็นห่วง ที่ ฮาๆ ก็มีอยู่วันหนึ่ง คุณภุฯ เมื่อเสร็จภารกิจ คุณภุฯ บอกวันนี้ต้องรีบกลับ พวกเราก็ขยั้นขะยอ จะรีบไปทำไมคุยกันก่อน ไม่ได้แล้ว ของที่เก็บไว้ล้มทับตัวแล้ว ที่นอนจะไม่เหลือที่นอนแล้ว ขนาดนั้นเชียวหรือนี่ ทุกคนก็เข้าใจอนุญาตกลับไปเฮอะ ยังไม่เข้าเรื่อง เพราะเรื่องเขาเยอะ ทำไม อ.เจน ถึงรู้ว่าอดีตเป็นคนฉายหนัง ก็เพราะว่า มีอยู่วันหนึ่งที่กองถ่าย คนอวดผี อ.เจน ก็สงสัย ทำไมคุณภุฯ ชอบมากองถ่ายหนังมาก แม้ยุงจะกัดแบบรุมประชาฑัณกันเลยทีเดียว มาดูแลทั้ง อ.เจน คุณรุ้ง และทีมงานคนอวดผี ดูแลทุกคนในกองถ่าย จนเป็นที่รักของกองถ่ายไปแล้ว คุณภุฯ ไม่เคยบ่น ยิ้มแย้ม ถึงแม้วันรุ่งขึ้นต้องไปทำงานประจำของตน แต่ทำไมมาอดตาหลับ....ขนาดนี้ อ.เจน ใช้ญาณดูคุณภุฯ ที่กำลังเปิดหีบสัมภาระ คุณเคยเห็นหีบที่เขาใส่ม้วนฟิลม์หนังสมัยโบราณมั้ยค่ะ ที่มีลักษณะเหมือนหีบหนังมีเข็มขัดที่ด้านหน้าสองข้าง ใช้สำหรับเก็บม้วนฟิลม์หนัง..อะค่ะ นั่นแหละคุณภุฯ ชอบมากไปขอซื้อกับคนฉายหนังกลางแปลงมาเป็นสมบัติส่วนตัว ซื้อแล้วก็ซื้ออีก โปสเตอร์หนังสมัยโบราณก็ซื้อมาเยอะ โปสเตอร์สมัยพระเอกมิตรชัยบัญชา ก็ยังมีเลยค่ะ ขณะนั้น อ.เจน ก็ได้เห็นอดีตชาติของคุณภุฯ กำลังเก็บม้วนหนังใส่หีบ มันเป็นหีบใส่ม้วนฟิลม์ของจริงที่เหมือนกับใบที่คุณภุฯ กำลังเก็บสัมภาระอยู่ขณะนี้ มันเหมือนกันเป๊ะเลย คือคุณภุฯ เป็นคนฉายหนังกลางแปลงตามงานวัดต่างๆ ทุกยามค่ำคืนมันเป็นอาชีพของเขาในอดีตชาติค่ะ
เมื่อ อ.เจน มาเล่าให้พวกเราทั้งหมดฟัง วันนั้นจำไม่ได้ว่าใคร พูดขึ้นมาว่า นี่อย่าบอกน่ะ...ว่า ไอ้หีบใบนั้น...นั่นมันเป็นหีบของคุณภุฯ ในอดีตชาติ แล้วตัวเองไปซื้อกลับมาใช้ใหม่ ขำๆ ฮาๆ เรื่องขำฮา..ของคุณภุชงค์ฯ 1. ความฝันอันสูงสุดของคุณภุฯ มันเป็นฝันที่ไม่ไกลเกินใครจะไขว้คว้า.....ประมาณใครๆ ก็ทำได้ คงทายไม่ถูกหรอกค่ะ เฉลยแล้วกัน นั่น คือ ฝันจะเปิดร้านขายของเก่าหรือของมือ 2 เพราะมีความสุขเมื่อเวลาเห็นคนมาเลือกชม..(เห็นมะ ใครๆ ก็ทำได้ มีมีเงินทุนก็ทำได้) 2. ความฝันอันสูงสุดลำดับต่อมา นั่น คือ ฝันจะเป็นผู้กำกับหนัง โดยเฉพาะหนังผี เห็นมั้ยค่ะไม่พ้นอดีตชาติสักเท่าไหร่ 3. เรื่องนี้ ฮาล่าสุด ต้องเรื่องนี้ เรื่อง กุมารทอง ชื่อ เพชร ของ อาจารย์ตี๋ ทำจากดิน 7 ป่าช้า ฟังแล้วเหี้ยนมั้ยล่ะ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า......อ.เจน ได้รับเชิญให้ไปเป็นพิธีกรรายการคนอวดผี ที่งานเมกกา บางนา ก็เผอิญ คุณป๋อง-สุพรรณ ก็รู้จัก อ.เจน เป็นอย่างดีได้พบกันหลายครั้งได้นำพาคนป่วยนั่งรถเข็นมาให้ อ.เจน ช่วยดูว่าเขามีกรรมอะไร และจะช่วยเขาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่ง อ.เจน ก็ได้ดูกรรมของเขาคนนี้แล้ว ซึ่งดิฉันได้เล่าไปแล้วมั้งหลายเรื่องจำไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นของเรื่องมีอยู่ว่า คุณป๋อง-สุพรรณ ทราบซึ่งในความดีมีน้ำใจของ อ.เจน เป็นอย่างมาก จึงได้มอบกุมารทองตัวจิ๋วน่ารักมาก จำนวน 100 ตัว ให้ไปแจกให้ใครก็ได้ อ.เจน รับมาแล้ว ก็บอกว่า พี่ทำไงดีหนูเพิ่งสอนคนอย่าไปติดหลง...เลี้ยงกุมารทอง ดิฉัน ก็เห็นว่าน่ารักดี ในใจก็คิด เอ..หรือเราจะเอาไปสักตัวดีหรือไม่น้า แต่..เมื่อเช้านี้ อ.เจน ก็ขึ้นเวที ก็พูดเรื่องกุมารทองไปหยกๆ จำได้คร่าวๆ ว่าไม่ควรนำมาเลี้ยงเพราะว่า เมื่อเราทำบุญใดมากุมารทองเขาก็จะมาเอาผลบุญจากเราไปหมด....ไม่เอาดีกว่า ที่นี่ก็มองกันไปมาเอาไงดี แล้วจะจัดการกับกุมารทองที่มีอย่างไรตั้ง 100 ตัว แยกย้ายกันไปแจกกุมาร อาสาสมัคร ก็คือ คุณภุชงค์ฯ กับ คุณวรเดชฯ คนละ 50 ตัว ไปยืนแจกใครต้องการก็เอาไป แต่ต้องบอกเขาด้วย บอกให้ละเอียด ถ้าเขาต้องการก็รับเอาไป ประเด็น ต้องบอกว่า กุมารทอง ชื่อ เพชร ของ อาจารย์ตี๋ ทำจากดิน 7 ป่าช้า ปรากฏว่า คุณวรเดชฯ กลับมาก่อน รายงานว่า หมดเกลี้ยงเลยครับ และผมไม่เก็บไว้สักตัว ผมกลัวตามที่ อ.เจน พูดบนเวทีจำได้แม่น ต่อมาคุณภุชงค์ฯ กลับมาด้วยสีหน้าแช่มชื่น พร้อมกับรายงานว่า ของผมแจกไม่หมดเก็บไว้ 30 ตัว ผมโทรไปบอกเพื่อนๆ ว่าใครอยากได้..ผมจะเก็บไว้ให้..เพื่อนๆที่แสนดีก็ตกลงว่าจะมารับที่ทำงาน.....จัดไป เผื่อแผ่่เพื่อนสะด้วยและคุณภุฯ ก็มาแอบกระซิบกับดิฉันว่า ของผมแอบเก็บไว้ 3 ตัว ผมกะว่าจะเอาไปวางที่หัวมุมโต๊ะที่ทำงานของผม มุมนั้น มันตรงกับห้องฝรั่ง (ชาวเยอรมัน) ของผม เป็นคนนิสัยไม่ดี ให้กุมารทองอยู่ตรงข้ามคนนี้ดีกว่า พวกเราก็...ฮาๆ กันไป..ไม่ได้คิดอะไร
กุมารทองคะนองเดช หลังจากวันนั้นประมาณอาทิตย์กว่าๆ คุณภุฯ ป่วยค่ะ แต่ก็อุตส่าห์มาทำหน้าที่ดูแล อ.เจน/คุณรุ้ง ที่จะไปอัดรายการคนอวดผี อ.เจน เมื่อแรกเห็นก็ต้องชะงัก และถามคุณภุฯ ไปว่า คุณภุชงค์ฯ ปวดเมื่อยตามร่างกาย แบบเดินไม่ไหวหรือเปล่า คุณภุฯ ก็ตอบในทันทีเลยว่า ปวดมากครับปวดแทบจะเดินไม่ไหวโดยเฉพาะเมื่อยบ่าสองข้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร มีอาการแบบนี้ประมาณมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว อ.เจน จึงเฉลยข้อสงสัย ด้วยคำถามแรกว่า คุณภุชงค์ฯๆ กุมารได้แจกจ่ายให้เพื่อนๆ หมดหรือยัง คำตอบ อ๋อ..ยังครับอาจารย์เพื่อนๆ บอกฝากไว้ก่อนยังไม่ว่างมารับของ อ.เจน บอกว่า รู้มั้ยค่ะ เขามาเกาะเต็มตัวคุณภุชงค์ฯ เต็มไปหมด คุณภุฯไปไหนเขาไปด้วย และก็จะเจ็บป่วยแบบนี้ คราวนี้คุณภุฯ ที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มก็ซีดหนักเข้าไปอีก ต่อมาก็โทรมารายงานว่า ให้เพื่อนไปหมดแล้ว แต่ยังเหลืออีก 3 ตัว ที่มุมโต๊ะ เขายังไม่ว่างมารับไปกุมารทอง 3 ตัวสุดท้าย…คุณภุ. มอบให้ คุณสามารถ เป็นพี่ที่ทำงานเขารับไป 2 องค์ เพียง 3 วัน นำกลับมาคืนทันที โดยแจ้งคุณภุว่า ตลอด 2 คืนที่ผ่านมา คืนแรก ฝันว่า มีเด็กหัวขาดมาจะเข้าบ้าน คืนสอง ฝันเห็นตะขาบสองตัวจะเข้าบ้าน แต่เจ้าที่ใส่ชุดขาวเป็นผู้ใหญ่ปัดไม่ให้เข้า จึงเกิดความกลัวขึ้นมา นำมาคืน คุณภุฯ จึงส่งต่อให้กับ... พี่น้อยหน่าฯ เป็นพี่ที่ทำงานอีกเหมือนกันค่ะ ที่น้อยหน่าเป็นคนมีจิตใจดี เมื่อได้กุมารทองไปแกก็เลี้ยงดูเป็นอย่างดี คือ พี่เขามีอาชีพเสริมด้วยการขายลูกชิ้นปิ้งทุกวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ก็เอานำกุมารไปค้าขายด้วยกันพร้อมกุมารทองพร้อมขนมน้ำดื่มทุกครั้ง และชวนไปขายของด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่ได้กุมารทองไปแล้วกิจการค้าดีขึ้นมาก จากเดิมที่ขายลูกชิ้นปิ้งได้ประมาณวันละหลักร้อย ปัจจุบันขายได้ประมาณวันละ 2,000 บาท มากขึ้นตั้งหลายเท่าเชียวนา กุมารทองนั่งร้องไห้ มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนของพี่สะไหม นำกุมารทองไป ลืมเรียกกุมารทองไปเที่ยวด้วย ปกติจะนำติดตัวออกนอกบ้านไปทุกคร้ง ย่ำค่ำฝันว่า มีเด็กมานั่งร้องไห้เสียอกเสียใจมาก บอกว่า ทำไมวันนี้ไม่ชวนหนูไปตลาดด้วย ฮือ..... จึงอธิฐานจิตถึงกุมาบอกว่าคราวหลังจะไม่ลืมพาไป ให้หยุดร้องไห้ ความรู้เกี่ยวกับ....กุมารทอง
คนที่เลี้ยงกุมารทองส่วนใหญ่คิดว่ากุมารทองเป็นที่พึ่ง มีใจผูกพันกับกุมารทอง มักจะไม่ค่อยคิดเรื่องการทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ความคิดที่จะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือ ตั้งใจจะเข้าถึงพระรัตนตรัย ก็ไม่มี เมื่อตายแล้วมักจะวนเวียนอยู่กับพวกนี้ แต่ถ้าหาก ได้ทำบุญบ้าง ไม่ได้ทำบาปอะไรมากมาย อย่างมากก็ไปเป็นวิทยาธรอยู่ในป่าหิมพานต์ จะไม่ไปสูงกว่านี้ แล้วก็มีสิทธิ์ไปเกิดเป็นกุมารทองให้เขาใช้ และเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์มักจะเป็นร่างทรง คือมี ความรู้สึกชอบ วิบากกรรมที่ทำให้มาเกิดเป็นกุมารทอง คือ กรรมที่บางคนเคยทำแท้งสมัยเป็นมนุษย์ เมื่อเกิดใหม่จึงทำให้ต้องตายในท้อง แบบตายท้องกลม ตายทั้งแม่และลูก เมื่อตายแล้วก็กลายเป็นผีเด็ก ไม่ใช่ว่าจะนำมาทำกุมารทองได้หมดทุกคนต้องมีวิบากกรรม ที่เคยทำเขาไว้ คือ วิบากกรรมทำแท้งจึงต้องมาตายในท้องตายแล้วร่างก็ออกมาเป็นผีเด็ก แล้วก็เคยไปเรียนวิชาพวกนี้มาก่อน จึงมีคนที่เรียนวิชานี้ นำไปประกอบพิธีกรรมแบบที่ตัวเคยทำ แล้วก็เรียกวิญญาณของตัวมาเลี้ยงไว้ นำมาใช้งาน โดยมีวิทยาธรเจ้าของวิชากำกับด้วยมนต์ วิทยาธรที่เป็นเจ้าของวิชา คือ อดีตมนุษย์ที่ชอบเรียนวิชานี้ ตายไปเป็นวิทยาธรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ และจะรักษาวิชาสืบต่อกันมาอย่างนี้ควบคู่กันไปกับเทคโนโลยี แต่ถ้าไม่มีกรรมด้านนี้ก็เรียกมาใช้งานไม่ได้ กุมารทองส่วนใหญ่ เป็นเด็กผมจุก นุ่งโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อ สวมสร้อยสังวาล ถูกเลี้ยง โดยผู้ที่มีวิชาไสยศาสตร์ วิชาที่เรียนนี้ ต้องใช้ศพคนตายท้องกลม คือ ตายทั้งแม่และลูก มีอยู่ ๒ ประเภท คือ ประเภทที่มีวิบากกรรมด้านนี้ จึงจะนำไปทำกุมารทองได้ และประเภทที่ไม่มีวิบากกรรมด้านนี้ จากการที่ได้เผยแพร่เรื่องวิบากกรรม และเรื่องเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ดิฉันได้นำมาเล่าเพราะเห็นว่า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน แม้ไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณ มา ณ โอกาสนี้
| 
โพสต์เมื่อ 2013-8-15 14:52:29
|
แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
|ดูรูปภาพขนาดใหญ่
|โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|โหมดอ่าน
เพิ่มในรายการโปรด
Facebook
Twitter
Google+
แบ่งปัน
......
...................ถึงจะไม่เคยได้รับสัมผัสใดๆ กับการได้เลี้ยงน้องกุมารมา ก็รู้สึกหยองๆๆ รีบคิดในใจว่า "น้องสมบัติ พี่ขอโทษ พี่พาน้องมาแล้ว ยังงัยพี่จะรับผิดชอบดูแลน้องต่อไปนะคร้าบบบ พี่จะไม่ทอดทิ้ง....." 