ร่วมอนุโมทนาบุญ ทริปเสบียงสวรรค์ 99 ตอน บุญทางสว่าง

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคและได้ร่วมบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ในครั้งที่99  วันอาทิตย์ที่30 กรกฎาคม 2566  ด้วยบุญที่คณะเสบียงสวรรค์และผู้ร่วมบุญได้ทำสำเร็จแล้วนี้เป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญมากมายหลายประการค่ะซึ่งเป็นการทำบุญเพียงวันเดียว 5 อย่างและด้วยอานิสงส์บุญนี้ยังความปลื้มปิติและเป็นความประทับใจของดิฉันมากค่ะ โดยดิฉันจะได้พูดถึงความประทับใจในบุญกุศลครั้งนี้ให้ทุกท่านได้รับทราบดังนี้ค่ะ

เมื่อดิฉันเดินเข้าไปภายในศาลาเอนกประสงค์หลังนี้ก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีโดยทางวัดและเจ้าหน้าที่วัดได้ช่วยกันขัดล้างและนำผ้าสีสดมาตกแต่งประดับเพื่อบดบังเสาหน้าต่าง และคานหลังคาให้สวยงามตามที่ดิฉันได้ประสานมายังวัดเพื่อให้ขัดล้างศาลาและตกแต่งด้วยผ้าให้สวยงามดูแล้วสบายตาสบายใจเพื่อกลบเกลื่อนทัศนียภาพที่มีแต่ร่องรอยของปลวกค่ะซึ่งขอให้ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนหน้าที่คณะเสบียงสวรรค์จะเดินทางมาถึงวัดค่ะโดยทางวัดและเจ้าหน้าที่ก็ตั้งใจตกแต่งศาลาให้ดูสวยงามซึ่งผิดกับครั้งก่อนที่ดิฉันมาเซอร์เวย์ตอนนั้นรู้สึกสงสารวัดแห่งนี้มากค่ะ ดังนั้น จึงทำให้ดิฉันต้องขอชื่นชมทางวัดและเจ้าหน้าที่ของวัดที่จัดทำตกแต่งผ้าประดับวัดจนสวยงามค่ะ

การที่ดิฉันได้มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ก็เพราะได้เล็งเห็นแล้วว่าในอนาคตภายหน้าวัดแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางสำคัญในพระพุทธศาสนาค่ะ  จึงทำให้ดิฉันมีความตั้งใจที่จะนำพาผู้คนมาทำบุญที่วัดนี้เพื่อทำนุบำรุงซ่อมแซมศาลาเอนกประสงค์เพื่อใช้เป็นประโยชน์ร่วมกันต่อไปค่ะ

ดิฉันได้นำทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาอเนกประสงค์และเป็นเรื่องที่น่าปิติยินดีที่ได้ยอดปัจจัยเงินจำนวน 1,001,800.- บาท ซึ่งเป็นยอดปัจจัยเงินที่มากพอที่จะสามารถซ่อมแซมศาลาเอนกประสงค์ได้จนสำเร็จได้ค่ะจึงทำให้ดิฉันรู้สึกดีใจและประทับใจในบุญกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาในครั้งนี้จนทำให้ดิฉันดีใจค่ะที่ทุกท่านนึกถึงบุญมากกว่าสิ่งอื่นใด จึงยอมเสียสละทรัพย์และไม่ตระหนี่ถี่เหนียวกันเลยนะคะในการนี้ดิฉันจึงขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ

ระหว่างที่ประกอบพิธีการทอดผ้าป่าสามัคคีอยู่นั้นดิฉันหันไปเห็นพ่อแม่ของผู้คนที่มาทำบุญต่างก็มารอรับบุญกุศลกันด้วยความดีใจและรู้ในญาณทิพย์โดยมีสารจากสวรรค์ด้วยว่า ต่อไปนี้อนุญาตให้บุคคลที่มาทำบุญกับคณะเสบียงสวรรค์โดยเฉพาะวิญญาณพ่อแม่ที่ล่วงลับแล้วสามารถมารับบุญได้เป็นกรณีพิเศษแต่ทั้งนี้ ต้องมีจำนวนครั้งทำบุญที่ถึงระดับแห่งบุญนั้นด้วยค่ะ  นอกจากนี้เหล่าเทวดาและพ่อแม่พี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วสามารถเข้ามาในเขตวัดได้เพราะบุญที่พวกเราทำนี้ใหญ่มากค่ะซึ่งสารจากเบื้องบนนี้ทำให้ดิฉันดีใจค่ะ และการรวมตัวของคณะบุญเพื่อทำบุญและการบริจาคทรัพย์ทำบุญของทุกท่านอย่างนี้เป็นบุญใหญ่มากจนทำให้ดิฉันปิติใจมากและดีใจไปกับทุกท่านด้วยที่ได้ทำบุญร่วมกันในครั้งนี้ค่ะ

ความประทับใจอีกประการหนึ่งก็ตรงที่มีคุณป้า  2 – 3 คน ต่างก็พากันมาร้องไห้น้ำตาท่วมใบหน้าร้องไห้แบบที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะญาติพี่น้องเค้ามาขอบคุณโดยมาตามแสงบุญของคุณป้านั้นค่ะส่วนคุณป้าก็ได้เข้ามาขอบคุณดิฉันเพราะปิติใจมากโดยที่ร้องไห้แบบควบคุมตนเองไม่ได้และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ดิฉันได้เปิดประมูลภาพวาดเขียนที่วัดโดยได้ทำการขออนุญาตจากเจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้วค่ะและปกติแล้วดิฉันไม่เปิดประมูลอะไรที่วัด แต่ครั้งนี้ ดิฉันทำเพื่อวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานีที่ยังสร้างถนนไม่เสร็จโดยก่อนจากมาหลวงพ่อท่านพูดว่าฝากถนนด้วยนะโยม ถึงสองครั้งก็ยังติดอยู่ในจิตใจค่ะจึงมีความประสค์ที่จะช่วยเหลือวัดที่ยังสร้างถนนไม่เสร็จและยังขาดปัจจัยอยู่มากค่ะซึ่งเจ้าอาวาสวัดนั้นท่านอาพาธมากแล้ว แต่ท่านยังห่วงถนนที่ยังสร้างไม่เสร็จเมื่อได้มีโอกาสไปงานแสดงภาพวาดและได้ไปวาดภาพมาด้วยตนเองที่มีชิ้นเดียวนี้ถ้าหากจะเก็บไว้ย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไร จึงคิดว่าควรนำรูปภาพนี้นำมาประมูลเพื่อนำเงินจากการประมูลไปทำบุญสร้างถนนให้กับวัดป่าที่จังหวัดอุบลราชธานีดังกล่าวให้สำเร็จค่ะและในครั้งนี้ดิฉันก็ดีใจมากที่มีผู้ใจบุญร่วมประมูลได้เงินสี่แสนกว่าบาทซึ่งพอที่จะนำไปสร้างถนนแล้วอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

เรื่องอาหารโรงทานนั้นในครั้งแรกดิฉันตั้งใจไว้ว่าจะนำโรงทานหลายอย่างมาลงที่วัดแต่หลวงพ่อท่านเห็นถึงความตั้งใจของดิฉันท่านก็แจ้งมาว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมามากท่านก็มีข้าวหม้อแกงหม้อและน้ำดื่มเพื่อนำมาต้อนรับคณะเหมือนกันค่ะแต่อย่างไรก็ตามดิฉันก็เหมาร้านอาหารมาปรุงอาหารรับประทานกันสด ๆ ที่หน้างาน จัดทำเป็นข้าวกล่องและน้ำดื่ม นำมาแจกให้กับทุกท่านสำหรับอาหารมื้อกลางวันด้วยเช่นกันค่ะ

สำหรับที่จุดทาสีดิฉันก็จัดตั้งโรงทานน้ำดื่มต่าง ๆ เฉาก๊วยเย็น ๆไว้ที่จุดนั้นด้วยค่ะ เพราะการทาสีก็ต้องใช้แรงกายและคงต้องหิวกระหายน้ำด้วยค่ะ

ขบวนแห่พระพุทธรูปปางนาคปรก หน้าตัก 30 นิ้ว เพื่อนำเข้าไปประดิษฐานภายในถ้ำเพื่อเป็นพุทธบูชาค่ะซึ่งวันนี้อากาศดี ร่มเย็นไม่มีฝนตกและไม่มีแดดร้อน นั่นเป็นเพราะเทวดาท่านดลบันดาลตามที่ดิฉันได้อธิษฐานขอพรมาตั้งแต่เช้าค่ะซึ่งคงมีหลายท่านต้องคิดว่าวันนี้จะได้ทาสีกำแพงได้หรือไม่ เพราะมีฝนตกมาตลอดการเดินทางแต่เมื่อคณะบุญมาที่วัดแล้วไม่มีฝนตกค่ะและเป็นผลดีของนางรำที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีขึ้นไป และนางรำทุกคนล้วนก็เป็นชาวบ้านที่มีความสุขมากค่ะโดยทีมงานที่ได้รับมอบมายได้นำพระพุทธรูปที่มีน้ำหนักมากนำขึ้นบันไดและเข้าถ้ำประดิษฐานได้อย่างเรียบร้อยและทำการห่มผ้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่และพระพุทธรูปนาคปรกนี้ด้วยค่ะ

ดิฉันได้นำสวดมนต์และอุทิศบุญให้กับท่านปู่และท่านย่าพญานาคซึ่งตอนนี้ท่านย่าพญานาคไปเกิดแล้วคงเหลือแต่ท่านปู่พญานาคและท่านรับรู้ทุกอย่างที่ดิฉันพูดในถ้ำนี้โดยดิฉันได้ขออนุญาตท่านเปิดทางเพื่อล่วงรู้ถึงมิติทิพย์เพื่อจะได้ชี้ให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาภายในถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ค่ะ

ทุกคนช่วยกันลำเลียงขนหินธรรมชาติ จำนวน 300 ถุง โดยแบ่งออกมาเป็นสองส่วน ในส่วนแรกนำมาปรับพื้นที่หน้าถ้ำและอีกครึ่งหนึ่งนำไปปรับพื้นในถ้ำค่ะโดยทุกคนช่วยกันใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อยค่ะ ซึ่งหินธรรมชาติที่นำขึ้นมาปรับพื้นที่หน้าถ้ำและภายในถ้ำนี้ทำให้ถ้ำมีความสวยงามเกิดความสว่างขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ

ทุกคนเสร็จจากภารกิจทุกอย่างแล้ว ก็นำพาผู้คนไปทาสีกำแพงรอบวัดด้วยกันค่ะโดยใช้สีคุณภาพดีที่สุดซึ่งทาแล้วติดทนนานค่ะการร่วมมือกันทาสีที่กำแพงนี้เป็นกำแพงบุญอย่างแท้จริงและมีอานิสงส์บุญมากค่ะดิฉันซื้อสีมาเป็นจำนวนมากและสามารถทาสีรอบกำแพงได้จนครบถ้วนแล้วนะคะ เมื่อมองออกไปยังหน้าวัดได้มองเห็นกำแพงแล้วเกิดความสวยสดงดงามและทำให้กำแพงมีความสว่างมากค่ะ

หลังจากนั้นดิฉันได้นำถวายเงินรายได้จากการขายขันสีและแปรงทาสี จำนวนสองหมื่นกว่าบาทรวมกับเงินเรี่ยไรชำระหนี้สงฆ์ จำนวน สามหมื่นกว่าบาทรวมแล้วถวายเงินปัจจัยให้กับพระสงฆ์ เป็นเงิน 58,000 บาท ซึ่งดิฉันมีความประทับใจที่ทุกท่านมีความรักสามัคคีมีน้ำใจค่ะ

ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านอีกครั้งหนึ่งนะคะและสำหรับทริปบุญครั้งที่ 99 นี้  ซึ่งเป็นทริปทัวร์บุญที่เป็นครั้งที่พิเศษมากที่ยังความปลื้มใจมากที่ทริปบุญของเรานั้นมากมายเหลือคณานับค่ะและในทริปที่พิเศษนี้ดิฉันได้สั่งทำพวงกุญแจเพื่อเป็นที่ระลึกที่แสดงถึงสัญลักษณ์การทำบุญครั้งที่99 ด้วยค่ะ

อาจารย์เจน ญาณทิพย์  

จี๊ดจ๊าด

สวัสดีนะเจ้าคะ จี๊ดจ๊าดมาแล้วค่ะ จี๊ดมาขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญกับคณะเสบียงสวรรค์นำบุญโดย  อาจารย์เจน ญาณทิพย์  สำหรับทริปบุญครั้งที่ 99 ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2566  “บุญทางสว่าง”  จี๊ดดีใจมากค่ะที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาจนได้ยอดปัจจัยเงินร่วมสร้างศาลาการเปรียญที่มากถึง หนึ่งล้านกว่าบาท และปัจจัยเงินถวายวัดในครั้งนี้สามารถที่จะซ่อมแซมหลังคาศาลาเอนกประสงค์ทั้งหลังจนสำเร็จได้ค่ะ ทั้งนี้ ยังมียอดเงินจากการขายแปรงทาสี และขันทาสี ได้มากถึงห้าหมื่นกว่าบาท ดีใจจังค่ะ จี๊ดเชื่อจริง ๆ ว่า ทุกท่านผู้ร่วมบุญก็จะต้องมีความรู้สึกอิ่มบุญอิ่มสุขกันถ้วนหน้าและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยกันนะคะ


ด้วยบุญที่สำเร็จนี้จี๊ดประทับใจในความร่วมมือร่วมใจของทุกท่านเป็นที่สุดเลยค่ะ และที่ปลื้มใจมาก ๆ ก็ตอนที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านพูดให้ทุกคนได้รับทราบว่า ท่านจะดำเนินการซ่อมแซมหลังคาให้เรียบร้อยตามเจตนาบุญที่ตั้งใจ แต่ต้องรอรับกฐินในปีนี้เสียก่อนเพราะศาลาเอนกประสงค์หลังนี้จำเป็นต้องมีอยู่ไว้ก่อนเพื่อมีไว้รองรับคณะทำบุญกฐินในปีนี้ค่ะ จี๊ดได้ฟังแล้วก็ปลื้มใจจังค่ะ
ตั้งแต่เช้าตรู่คณะเสบียงสวรรค์ออกเดินทางด้วยรถบัสสิบกว่าคันมุ่งหน้าไปยังวัด และในครั้งนี้เป็นทริปบุญที่พิเศษ ครั้งที่ 99 ขอบอกว่าสำคัญมากและพิเศษมาก ๆ ค่ะ โดยอาจารย์จัดเต็มกับบุญกุศลนี้ถึง 5 บุญเชียวคะ  เอ...แต่ว่า มีบุญอะไรบ้างขอทบทวนหน่อย อ้อ มีดังนี้ค่ะ


1.        ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมบูรณะศาลาการเปรียญ
2.        อัญเชิญพระพุทธรูปปางนาคปรก หน้าตัก 30 นิ้ว นำไปประดิษฐานภายในถ้ำ
3.        ห่มผ้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์ใหญ่ภายในถ้ำ
4.        ปรับพื้นที่ปากถ้ำ ด้วยการลำเลียงขนส่งหินธรรมชาติขึ้นไปจัดแต่งที่หน้าถ้ำและภายในถ้ำ
5.        ทาสีกำแพงวัดที่มีสภาพเก่าไม่สวยงามให้ใหม่ สดใสและสวยงาม


วันนั้นคณะเสบียงสวรรค์มีผู้ร่วมเดินทางไปทำบุญไม่น้อยเลยนะคะ แม้ผู้คนมากมายเดินทางมาทำบุญด้วยกัน แต่ก็มาด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบุญกุศลค่ะ ซึ่งปริมาณผู้คนไม่ได้เป็นอุปสรรคในเรื่องของคนแต่อย่างใดเลยค่ะ จี๊ดรู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็นภาพความสามัคคีของผู้คนที่ไม่รู้จักกันแต่ไปทำบุญด้วยกัน ประทับใจค่ะ  


ขายยาทิพย์โอสถในรถบัส :   เพื่อนำรายได้มาเป็นค่าน้ำค่าไฟและส่วนที่ขาดให้กับสำนักปฎิบัติธรรมนั้น ทุกครั้งก็นำมาเป็นสังฆทานทริป 99 นี้ และยังมีอีกส่วนหนึ่งนำไปทำบุญสังฆทาน ลี้ลับ 19 รอบ 2 ที่จะเดินทางไปทำบุญ 8 วัด ในวันที่ 5-7 สิงหาคม  2566 ซึ่งเมื่อรวบรวมแล้วได้ยาทิพย์โอสถน้ำนำมาเฉลี่ยทำบุญได้เป็นจำนวนมากเชียวค่ะ ด้วยอานิสงส์บุญทำบุญในส่วนที่ขาดให้กับสำนักฯ และถวายยาแด่พระสงฆ์ ท่านได้บุญถึงสองอย่างจึงต้องขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


เมื่อมาถึงวัดก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่มาต้อนรับดูแลคณะเสบียงสวรรค์ค่ะ จากที่ได้เห็นก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตั้งแต่หน้าวัดและมีชาวบ้านตั้งเต๊นท์โรงทานจัดผ้าสีสวยงามตามเต๊นท์ต่าง ๆ แสดงถึงความปราณีตและความตั้งใจที่จะต้อนรับคณะเดินทางเมื่อเห็นแล้วก็ดีใจค่ะ


เรื่องน่าตื่นเต้นและประทับใจ :  อาจารย์เจนเล่าให้ฟัง จี๊ดก็อยากที่จะเอามาบอกต่อค่ะ  คือ การที่ผู้ร่วมบุญได้ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์และได้ยอดเงินมากพอที่จะสร้างศาลาได้ทั้งหลังนั้นจึงเป็นบุญใหญ่มากที่แม้แต่เจ้ากรรมนายเวรและพ่อแม่ญาติพี่น้องที่มารับบุญกุศลก็มาสื่อสารกับอาจารย์เจนต่าง ๆ นานา แบบนี้ค่ะ


- วิญญาณพ่อแม่ ซึ่งการที่วิญญาณพ่อแม่ของผู้ร่วมบุญตามที่อาจารย์รู้ได้ในญาณวิถีนั่นก็คือ ในปัจจุบันนี้ถ้าหากบุญของผู้ร่วมบุญในแต่ละคนที่มาทำบุญได้ถึงระดับแล้วนั้น และในโลกทิพย์เขาจะอนุญาตให้วิญญาณพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วมารับบุญที่วัดได้เลยค่ะ (เฉพาะพ่อแม่เท่านั้นค่ะ) และเมื่อวิญญาณพ่อแม่มาที่งานบุญก็พูดกันให้ระงมว่า นี่ลูกฉัน นี่ลูกฉัน เขาทำบุญให้ ต่างก็ตื่นเต้นดีใจกันมากค่ะ
- วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร ที่สามารถมาได้นี้ พวกเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายต่างก็มาสื่อสารกับอาจารย์อย่างนี้ว่า “พวกเขาก็อุทิศบุญให้เรามาตลอด เราไม่อยากจองเวรกับเขาแล้ว ได้บุญจากคนนี้มามากแล้ว เราอยากเป็นเพื่อนกับเขาได้มั้ย”
- วิญญาณเด็กทำแท้ง พวกเด็กทั้งหลายก็มาเกาะขาอาจารย์ ซึ่งต่างก็มากันหลายรูปแบบ หัวเน่าบ้าง  ตัวเละบ้าง มากันหลายรูปแบบค่ะ ต่างก็ร้องกันกระจองอแง วิญญาณเด็กบางตนก็บ่นว่า “แม่ไม่รักหนู  เด็กบางตนก็ร้องแม่ ๆๆๆ ” ทำให้อาจารย์รู้สึกสงสารมาก ๆ เพราะเป็นคนรักเด็กไง แต่พออาจารย์นำพูดอธิษฐานให้วิญญาณเด็กทั้งหลายมารับบุญ คือ อาจารย์เห็นอยู่คนเดียวไงคะ
แต่ก็มีบางคนมีจิตคิดไปว่า หรืออาจารย์ทำแท้งจึงพูดถึงวิญญาณเด็กบ่อยจัง ที่จริงอาจารย์ต้องการให้พ่อแม่ที่ทำแท้งหรือมีส่วนรู้ร่วมเห็นได้อุทิศบุญให้วิญญาณพวกเด็ก ๆ เหล่านี้ค่ะ เรื่องมันเป็นแบบนี้แหละค่ะ


ถ้าจะสังเกตเห็นในครั้งนี้อาจารย์เกิดอาการร่างกายสั่นสะท้านแทบต้านไม่ไหว จนบางครั้งอาจารย์จะเรียกพี่รุ้งหรือจี๊ดหรือใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ ให้ช่วยถือพานแว่นฟ้า หรือขันหัวสิงห์ที่ใส่ปัจจัยเงินถวาย นั่นเป็นเพราะว่า บุญคณะเสบียงสวรรค์นี้ยิ่งใหญ่มาก ผู้คนก็มาวัดกันล้นหลามนับร้อยนับพันคน จนทำให้พลังแห่งบุญนี้ยิ่งใหญ่มากจนสะเทือนเลื่อนลั่นไปถึงบนวิมานสวรรค์ชั้นฟ้า ทำให้องค์เทพและเหล่าเทวดาทั้งหลายต่างก็มาโมทนาบุญกันค่ะ
อาจารย์เจนเล่าว่า  วิญญาณพ่อแม่พี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วที่สามารถเข้ามาในเขตวัดได้ พวกเขาเห็นว่าบุญมันใหญ่จังเลยค่ะ ซึ่งพวกเขาก็พูดกันว่า “ปลื้มปิติจังเลย พวกฉันสมัยที่เป็นคนอยู่นั้นไม่เคยทำบุญอย่างนี้เลย”


สำหรับเทวดาที่อยู่ชั้นล่าง ชั้นที่ไม่สูงมากก็จะมีนิสัยเหมือนกับครั้งที่เป็นมนุษย์นั่นเองค่ะ เพราะย่อมมีทั้ง รัก โลภ โกรธ และหลง เป็นธรรมดาค่ะ ส่วนเทวดาท่านก็พูด “ฉันก็อยากที่จะมีส่วนในบุญนี้อยากมาโมทนาบุญนี้” เพราะเหล่าเทวดาทั้งหลายได้รับรู้และเห็นบุญของคณะเราแล้วก็เกิดมีจิตเป็นกุศลต้องการที่จะอนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเราเพราะเทวดาท่านทำบุญไม่ได้แล้วแต่สามารถมาอนุโมทนาบุญได้ค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ :  ตอนที่เป็นมนุษย์ให้หมั่นทำบุญกันมาก ๆ นะคะ เพราะมนุษย์เมื่อตายไป แม้จะไปเกิดเป็นเทวดาก็ทำบุญไม่ได้ ถ้าจะได้ก็ต้องรออนุโมทนาบุญกับคนที่ทำบุญค่ะ


ดังนั้น เทวดาและวิญญาณทั้งหลายเหล่านั้นก็มาขอจับผ้าไตรที่วางอยู่บนพานแว่นฟ้า แต่เมื่อคิดได้ว่าไม่ควรแตะผ้าไตร จึงมาขอแตะตัวอาจารย์โดยอาจารย์ก็อนุญาต ทีนี้ทั้งเทวดาและวิญญาณทั้งหลายก็ถาโถมกันเข้ามาตอนนั้นอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตัวสั่นสะท้านและแทบต้านไม่ไหวค่ะ เพราะอาจารย์เป็นคนที่เห็นทุกอย่างรู้ทุกอย่างค่ะ  เอาล่ะค่ะ วันนี้เล่าเรื่องความเล้นลับมหัศจรรย์กันซะมากแต่ก็อยากเล่าค่ะ


อาหารมื้อกลางวัน  : โดยอาจารย์ได้จัดเตรียมอาหารข้าวกล่องที่ได้เหมาร้านอร้อยอร่อยให้มาปรุงอาหารกันที่วัดสด ๆ เลยค่ะ อืม คิด ๆ ดูให้ดี จี๊ดรับรองได้ว่า การทำทัวร์บุญของอาจารย์เจนนั้นคิดถึงทุกท่านผู้ร่วมบุญให้สุขใจได้บุญและอิ่มท้องแบบต้องอิ่มแบบดีมีคุณภาพ คืออร่อย รับประทานได้และบางคนก็คิดว่า ราคาข้าวกล่องนี้ไม่เท่าไหร่หรอกก็ราคาเหมามานี่ คงราคาไม่เท่าไหร่ ๆ หรอกงานนี้ แต่ขอบอกอีกครั้งนะคะ อาหารการกินที่เห็นนี้ไม่ใช่ราคาถูกนะ เพราะในแต่ละมื้อ ราคากล่องละ 100 กว่าบาท  นี่แค่ไม่มีใครเค้าคิดกันหรอกนะ อันนี้ก็บอกซะหน่อยหลายคนคิดว่า ข้าวกล่องราคากล่องละ 60  - 70 บาท  ไม่ใช่นะจ๊ะ สำหรับในการมาวัดทำบุญครั้งนี้อาหารการกินเพียบทั้งของทางวัดและโรงทานของอาจารย์เจนที่สุดอ่ะค่ะ แล้วยังมีโรงทานน้ำดื่มที่จุดทาสีอีก ซึ่งก็มีน้ำอัดลมต่าง ๆ เฉาก๊วยหวานเย็น และคุณเดชาธร และภรรยา ก็นำน้ำชาเขียวมะนาว น้ำลำไย  นำมาแจกและเสริฟให้กับผู้คนอีกด้วยค่ะ  จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์และผู้ร่วมบุญทุกท่านที่ได้มาช่วยกันในงานบุญนี้ค่ะ


อัญเชิญพระพุทธรูปปางนาคปรก  : อาจารย์ได้ตั้งขบวนแห่ด้วยรถกระบะที่ตกแต่งประดับผ้าสีสดงดงามและมีพระพุทธรูปตั้งอยู่หน้าขบวนแห่ประโคมดนตรีโห่ร้องก้องกึกด้วยการโห่ 3 ลา เปรียบเหมือนกับการตีฆ้องร้องป่าวว่าเราจะทำอะไร และเพื่อให้เทวดา เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา ได้รับรู้ว่า ณ บัดนี้ คณะเสบียงสวรรค์จะทำการอัญเชิญพระพุทธรูปปางนาคปรกนี้ไปประดิษฐานในถ้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นพระพุทธบูชาให้ผู้คนที่เข้ามาได้กราบไหว้บูชา และเพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์เพื่อสืบพระพุทธศาสนาต่อไปค่ะ
ขบวนแห่งพระพุทธรูปก็จะมีแตรวงประโคมดนตรีไปตลอดทางและพวกสาว ๆ (ชาวบ้าน) ต่างก็ร่ายรำกันอย่างสนุกสนานและดูว่าทุกคนก็มีความสุขกันมากค่ะ จี๊ดดีใจนะคะที่ทุกคนมีความสุขและชาวบ้านต่างก็มีความสุขสนุกสนานกันไปกับคณะบุญของพวกเราด้วยค่ะ


ห่มผ้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่ : พระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้มีอายุนับพันปีและมีความศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ องค์ท่านสูงใหญ่มากใช้ผ้าห่มพระ 8 เมตร โดยอาจารย์เจนได้สั่งตัดผ้าห่มพระที่มีความงดงามและมีน้ำหนักมาก
ภายในถ้ำนี้อาจารย์ได้เล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตและไม่มีในหนังสือแต่อาจารย์รู้ได้ในญาญวิถีที่ผ่านผนังถ้ำและรูปร่างของหินต่าง ๆ ที่อยู่ภายในถ้ำนั้นซึ่งก็มีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและไม่เคยรู้มาก่อนและได้รู้ในวันนี้แล้วค่ะ


กิจกรรมขนหินธรรมชาติ 300 ถุง ขึ้นไปบนถ้ำ :  การลำเลียงขนหินดังกล่าวนี้ใช้เวลาไม่มากนักเพราะทุกคนร่วมด้วยช่วยกันด้วยความสามัคคีเพราะมีเป้าหมายเดียวกันอยู่ที่จุดหมายปลายทาง จึงใช้เวลาไม่มากเลยค่ะ


กิจกรรมทาสี  : อาจารย์สั่งซื้อสีจำนวนหลายกระป๋องใหญ่ ๆ เป็นสีครีม และได้คำนวณด้วยความชำนาญแล้วเพียงพอกับกำแพงวัดที่มีความยาวมากนั้นแล้ว แต่มีเรื่องเล่าขำ ๆ นะคะ คือลูกแก้วสีน้ำตาลที่มีอยู่ ในแต่ละช่องกำแพง ซึ่งมีลักษณะกลมและเคลือบมันจำนวน 5 อัน จะวางอยู่ตามช่องกำแพง แต่ปรากฏว่า ทาสีกันซะเรียบร้อยสวยงามไม่มีเว้นลูกแก้วสีน้ำตาลไว้เลยค่ะ นี่โชคดีนะที่อาจารย์ซื้อสีมามากพอไม่งั้นไม่พอ เพราะไม่ได้คำนวณลูกแก้วมาด้วยน่ะสิคะ คือที่จริงแล้วลูกแก้วสีน้ำตาลนั้นไม่ต้องทาสีหรอกค่ะ แต่เมื่อทาสีไปแล้วก็ทาไปเลยเพราะในภาพรวมนั้นสวยเหมือนกันค่ะ ผลงานของทุกท่านที่ได้ช่วยกันทาสีด้วยความตั้งใจนี้ เมื่อมองโดยรวมแล้วสวยสดงดงามกำแพงมีความสว่างและสบายตาจริง ๆ ค่ะ จึงเป็นหนึ่งภาพความประทับใจก่อนที่รถบัสจะเดินทางออกจากวัดมองไปแล้ว นี่ฝีมือของทุกคนเลยนะคะ
อาจารย์เจนได้นำถวายเงินที่เรี่ยไรชำระหนี้สงฆ์เป็นค่าน้ำค่าไฟให้กับวัด และเงินรายได้จากการขายแปรงทาสี ขันสี  รวมทั้งสิ้น 58,000.- บาท ค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญ และดีใจแทนทุกท่านที่ได้มาทำบุญด้วยกันเพียงหนึ่งวันทำบุญกันเต็มพิกัดจริง ๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 99 ซึ่งเป็นบุญที่ทำสำเร็จแล้วทุกประการ และมาพบกันใหม่ในบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 100 นะคะ สาธุด้วยค่ะ

จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

[

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

มีต่อหน้า 2 ====>