คนไม่มีสติ และ ไม่มีสตางค์ - อาจารย์เจน.com

คนไม่มีสติ และ ไม่มีสตางค์

วันนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องคนไม่มีสติไม่มีสตางค์กันดีกว่า ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา

สอนให้คนเรานั้นมีสติ ด้วยการฝึกจิตฝึกเจริญภาวนาสมาธิ เพื่อจะได้รู้ตัวทั่วพร้อมทุกเมื่อ

ทุกอิริยาบถ ระลึกรู้ ขณะ เดินยืน นั่ง นอน กิน และ พูด ต้องรู้และระมัดระวัง หากคนเรามีสติ

ที่ดีแล้วย่อมจะมีสติที่จะคิด และพูด เพราะการกระทำใดก็ล้วนต้องมีสติมิเช่นนั้นอาจจะเป็น

ภัยต่อตนเองและผู้อื่นค่ะ และอาจจะทำให้ชีวิตของเราลำบากอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจริงมั้ยค่ะ

คนเรานั้นสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ นา ๆ ในชีวิตของเราได้ด้วยการมีสติสัมปัชชัญญะค่ะ

สมัยก่อนนั้น จี๊ดจะเป็นคนอารมณ์เสียง่ายใจร้อน จี๊ดมีนิสัยที่รักความยุติธรรมซื่อสัตย์ เกลียดคน

มีเล่ห์ เพทุบาย จะรู้ทันเขาไปเสียทุกอย่าง เมื่อรู้แล้วกจะไปพูดขวางลำเขาเสียอย่างนั้นว่าฉัน

รู้ทันนะแก แต่ปัจจุบันเมื่อฝึกสมาธิสะสมเสบียงบุญมากยิ่งขึ้นแล้ว ก็ได้มีสติยั้งคิดยั้งทำ

พิจารณาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างพินิจพิเคราะห์ และคิดก่อนพูดเสมอ โดยมองดูเหตุการณ์

ต่าง ๆที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าเราให้เห็นเป็นธรรมมะ อ๋อ มันเป็นเช่นนี้แล มันมีเหตุ แล้วผลก็ตามมา

จึงไม่รู้จักโกรธหรืออารมณ์เสียง่ายแม้แต่น้อย สมัยก่อนนี้จี๊ดร้ายจะตาย ร้ายอย่างไร

- ทะเลาะกับพ่อค้าทุเรียน เคยมั้ยค่ะเขามักจะบอกว่า ถ้าไม่ดีไม่ต้องเอาไป จี๊ดก็พูดเลยค่ะ

ถ้าอย่างนั้นผ่าทะเรียนลูกนี้ถ้าไม่ดีไม่เอานะ พอผ่าลูกทุเรียนออกมาแล้วเนื้อทุเรียนอ่อนมาก

แต่คนขายผู้ชายทำเสียงดังข่มขู่ว่า ผ่าแล้วต้องเอาไป จี๊ดไม่ยอมค่ะ เพราะไม่เป็นอย่างที่พูด

จี๊ดเป็นคนรักสัจจะ คนพูดแล้วต้องเป็นคำพูด เมื่อไม่เป็นเช่นนั้นจี๊ดก็จัดการเลยค่ะ ยืนประกาศ

เลยว่า ร้านนี้ใครอย่าไปซื้อนะ พูดไม่เป็นคำพูด จำได้ว่าไปกับน้องสาวยืนอยู่ข้าง ๆ แต่หนีหาย

ไปแล้วน้องบอกว่า ตาย ๆ บ้าจริง ๆ ไม่รู้จักด้วยดีกว่า เผ่นแน๊บออกไปเลย

- ถูกเพื่อนร่วมงานบ่นว่าต่าง ๆ นานา ลูกน้องทำงานผิดพลาดจี๊ดต้องไปแก้ไขปัญหาของน้อง

หัวหน้างานแต่ละคนเป็นพี่พี่ทั้งนั้นก็เดินเข้าไปด้วยความเคารพ โดนบ่นว่าตั้งแต่โต๊ะแรก

ก็ยิ้มน้อมรับความผิดและรับปากว่าจะไปตักเตือนลูกน้องตัวจี๊ดก็ผิดพลาดที่ไม่ดูให้ดีใบหน้า

ที่พูดออกจะยิ้มแย้ม ทุกคนทำหน้าดุร้ายยังกับนางเสือ แต่เราใจสู้ คุณเคยมั้ยล่ะที่เราเป็นผู้ยอม

เขาจะยิ่งข่มขู่ได้ใจสะใจมากคนก็เป็นเสียอย่างนั้น แต่จี๊ดไม่โกรธเพราะมองเห็นเป็นธรรมมะ

ว่านี่คือหัวโขนที่ทุกคนหลงมันค่ะทำไมเราไม่พูดกันดีดี แต่ก็ยิ้มให้เขาค่ะ กลับโดนตะคอกว่า

นี่ยังจะมีหน้ามายิ้มอีกจี๊ดจึงพูดว่า พี่ค่ะ จะให้จี๊ดร้องไห้หรือค่ะ นี่ก็โดนว่ามาตั้งแต่โต๊ะแรกนี่ก็

โต๊ะที่4 แล้ว ยังไม่ถึงโต๊ะหัวหน้าของพี่เลยค่ะ เขาก็อึ้งกับคำตอบของเราเหมือนกันเราก็ขอบ

คุณเขาไปที่ไม่บ่นว่าเราต่อ

- หลายครั้งที่มีการแย่งผลงานนำเสนอตนเองว่าเรานี่แหละทำและตักเตือนไม่งั้นมันไม่ทำออก

มาดีอย่างนี้ ค่ะไม่มีใครรู้เท่ากับตัวเราเองหรอกว่า นี่เป็นผลงานของใครแต่เราก็ไม่สนใจเพราะ

คิดเสียว่า เราคงต้องไปทำเขามาเยี่ยงนี้ผลกรรมนี้เราต้องชดใช้และปล่อยวางไม่โกรธตอบ

นี่เป็นผลดีของการมีสติ ไม่ตอบโต้ผู้แพ้ แท้จริง เป็นผู้ชนะค่ะ จำไว้ อย่างน้อยเราก็ชนะใจ

มีหลายคนขาดสติจากการที่ผู้คนมาเอารัดเอาเปรียบจนเกิดคิดมากกลายเป็นโรคประสาท

เคยเห็นคนบ้าสติเสียบ้างมั้ย ส่วนมากจะด่าทอแต่เรื่องที่โดนคนเขาเอารัดเอาเปรียบทำให้

คิดมากทำงานไม่ได้ต้องออกจากงานอยู่กับตนเองและคลุ้มคลั่งเสียสตินั่นเป็นเพราะว่า

เราไม่ได้ฝึกจิตของเราให้มีสติที่เข็มแข็งค่ะ

ยิ่งถ้าเราไม่ใสติ แล้วไม่มีสตางค์ยิ่งไปกันใหญ่ ใครจะเลี้ยงดู ต้องไปเป็นขอทานข้างถนน

ไม่มีงานทำ ลำบากทั้งกายและใจแต่ถ้าเรามีสติ รักษาศีล สวดมนต์ และเจริภาวนาสมาธิ

อยู่ที่ใดก็ได้ไม่ลำบากอยู่อย่างพอเพียง และไตร่ตรองเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปล่อยวาง

และยอมรับอยู่กับมันให้ได้ชีวิตของเราก็เป็นสุขแล้วค่ะ

สิ่งที่กล้าพูดออกมานี้ เพราะได้เป็นผู้กระทำมาแล้วตามที่ อ.เจน สั่งสอนทุกอย่าง บางครั้ง

เกิดมีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจบ้างหรือมีเรื่องวุ่นวายใจบ้าง จี๊ดฮึดขึ้นมาทันที เราต้องนั่งสมาธิ

อย่าขาด อ.เจนเคยบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่พี่จี๊ดเกิดความว้าวุ่นวายใจนั้นเป็นเพราะว่า ไม่ได้

นั่งสมาธิในญาณวิถีของหนูรู้ได้ซึ่งก็จริงอย่างนั้นเสียด้วยค่ะยอมรับสารภาพค่ะ ซึ่งผลดีจาก

การนั่งสมาธิทำให้จิตใจเราเข็มแข็งไม่หวั่นไหวสั่นคลอน

เรื่องของลุงไม่มีสติและไม่มีสตางค์

มีอยู่วันหนึ่ง จี๊ดนั่งรถเมล์ติดแอร์มีลุงคนหนึ่งขึ้นมาก็มานั่งข้างหน้าจี๊ด แล้วถามกระเป๋ารถเมล์ว่า

ค่ารถเท่าไหร่ก็ทำเป็นหยิบเงินอยู่นั่นแหละ กระเป๋าก็ยืนรอ แล้วก็ถามอีกว่าค่ารถเท่าไหร่ทำเป็น

หยิบเงินอยู่อย่างนั้น จนกระเป๋ารถพูดขึ้นว่า ลุง ๆ ไม่ต้องแล้วนั่งรถไปเถอะ เราก็มองพฤติกรรมอยู่

และแล้วลุงคนนี้ก็หันมาถามว่า มียาดมมั้ย ฉันความดันขึ้นจะเป็นลมจี๊ดก็หยิบยาดมแม่มะลิ ขวดเล็ก

น้ำยาสีเขียว แกพูดขึ้นว่า นี่ไม่มีสีเหลืองขวดใหญ่ ๆ เลยหรือหะ จี๊ดก็บอกเขาไปว่าไม่มีค่ะมีอยู่

เพียงเท่านี้ แต่มันก็หอมชื่นใจไม่แพ้สีเหลืองเลย แกก็ยังหันมาต่อว่า ว่าน่าจะเป็นสีเหลืองฉันชอบ

แบบนั้น และนี่ตกลงจะยกให้ทั้งขวดเลยมั้ย จี๊ดก็ตอบว่าให้ไปใช้เลยค่ะ และพูดติดตลกไปว่า

เมื่อวานนี้อะมีแต่วันนี้ไม่ได้เอามา ก็จริงนะไม่โกหกอาจารย์เพิ่งให้มายังไม่ได้เปิดใช้เลยค่ะ

ที่จะเล่าให้ฟังนี้เพราะรู้ว่า ลุงแกคงสติไม่ดีน่าสงสารมากกว่าตำหนิ แต่ถ้าถ้าเป็นคนอื่นล่ะ

เขาจะเข้าใจมั้ย รายนี้ไม่มีสติไม่มีสตางค์ค่ะ

ปัจจุบันมีคนสติไม่ดีเดินทางท้องถนนน่าสงสารมากเราเพราะสังคมมันเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน

ขนบประเพณีวัฒนะธรรมเปลี่ยนถ้าคนไม่มีสติรู้ด้วยแล้วจะอยู่ยากค่ะ

เรื่องของกรรมทำให้สติขาด

ชายคนหนึ่งชอบมายืนอยู่ที่ข้างกำแพงวัดยืนอยู่อย่างนั้นไม่หลับไม่นอน เขานอนไม่ได้ต้องยืนค่ะ

เป็นคนสติไม่ดี สมัยวัยรุ่นเรียนหนังสือเก่งฉลาดมากที่บ้านมีฐานะ ทางบ้านภาคภูมิใจ อ.เจน ก็อด

สงสัยไม่ได้ว่าทำไมแต่ไม่เคยใช้ญาณวิถีดูชายคนนี้เลยจี๊ดก็จะบอกว่า อาจารย์อย่าลืมนะถ้าเจอคน

บ้าคนนั้นดูให้หน่อยว่าเขาไปทำกรรมอะไรมาอ.เจน ก็ไม่เคยดูกรรมชายคนนี้ เพราะออกจากบ้าน

แต่ละครั้งเร่งรีบมากก็จะเดินสวนกับคนบ้าคนนี้ตลอด แต่แล้วอยู่วันหนึ่งชายคนนี้มายืนอยู่ที่หน้ารถ

ของ อ.เจน อาจารย์จึงดูเขาแล้วนำความมาบอกว่าชายคนนี้เคยทรมานนักโทษมาในอดีต โดยบังคับ

ให้เขายืนไม่ให้เขาได้หลับนอน ทุกวันนี้ชายคนนี้นอนไม่ได้เลยค่ะบุญส่วนบุญบาปส่วนบาป บุญที่เคย

รับใช้บ้านเมืองมาทำให้ทางบ้านมีฐานะไม่ลำบากทางบ้านก็เลี้ยงดูไปตามสมควรด้วยการให้ข้าวให้

น้ำกินไม่อดอยาก รายนี้ไม่มีสติ แต่มีสตางค์ค่ะ

อ.เจน เคยพูดเสมอว่าเกิดเป็นคนต้องใช้ชีวิตและร่างกายของเราให้เกิดประโยชน์ด้วยการหมั่นทำบุญ

ทำทานถือศีล สวดมนต์ เจริญภาวนา เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับตนเองและผู้อื่นไม่ว่าภพใดชาติใดคุณ

จะเป็นผู้ที่มีปัญญามากกว่าผู้อื่น จะเป็นผู้ที่เลิศในทุกด้านค่ะ หากเราทำความดีด้วยศีล และภาวนาแล้ว

หากมีวิบากกรรมใดเกิดขึ้นกับเรา ด้วยความตั้งใจใฝ่กุศลกรรมหนักช่วยด้วยบุญกุศลช่วยให้ทุเลาเบา