อาจารย์เจน.com
ชื่อกระทู้: งานบุญถือศีลกินเจ ทริปทัวร์ ครั้งที่ 15 [พิมพ์หน้านี้]
โดย: จี๊ดจ๊าด เวลา: 2014-10-16 09:30
ชื่อกระทู้: งานบุญถือศีลกินเจ ทริปทัวร์ ครั้งที่ 15
ความประทับใจที่อยากจะเล่า ทริปบุญที่ 15 ในเทศกาลถือศีลกินเจเมื่อ 28 กัยายน2557 นี้
ดิฉันใช้เวลาการเขียนนานไปหน่อยต้องขออภัย เนื่องจากมีงานมากมายที่ต้องทำค่ะ
ดิฉันต้องขอขมากรรมด้วยนะค่ะ สำหรับท่านที่รอคอยเรื่องเล่าค่ะ
เนื่องจาก อ.เจน และ คุณรุ้ง มีความเห็นตรงกันว่าเดือนกันยายนนี้คงจะต้องงดเว้นการจัดกิจกรรมทัวร์บุญสักครั้งหนึ่ง
เพราะเหน็ดเหนื่อยมากไม่มีเวลาพักผ่อนสักวันมีภารกิจช่วยเหลือคน อัดรายการคนอวดผี(เพื่อให้คนเชื่อเรื่องโลกหลัง
ความตายและไม่คิดทำกรรมจนต้องกลายเป็นวิญญาณพเนจรเร่ร่อน) ออกงานหนังสือ เล่ม 3 (เจาะรหัสพิบัติกรรม)
และเล่ม 4 (เรื่องลี้ลับที่อยากเล่า) ซึ่งหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ เงินรายได้ส่วนหนึ่งนำเข้าสำนักปฏิบัติธรรม วิปัสสนาญาณและ
ยังมีกิจกรรมบุญที่อ.เจน ใส่ใจมากๆ ติดต่อกันในช่วงนี้ค่ะ นอกจากนี้ อ.เจน และคุณรุ้ง ก็ยังจะต้องขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่าง
กรุงเทพฯ-เพชรบูรณ์เดือนหนึ่งหลายครั้ง
แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ อ.เจน ก็บอกกับทีมงานว่า เดือนนี้คงไม่พักกิจกรรมงานบุญแล้วนะ ก็เพราะว่าเราหยุดไม่ได้แล้ว
หากเราหยุดพักกิจกรรมบุญ ผู้คนทั้งหลายก็ไม่รู้ว่าจะไปทำบุญที่ไหนดีแล้วก็อาจจะไปทำบุญที่ไม่ถูกต้องซึ่งจะนำพาให้
ติดกรรมกันยิ่งขึ้นอีกค่ะ ดิฉันและน้อง ๆ ทีมงานเข้าใจในเจตนาของอาจารย์ดีค่ะ แม้ว่ากิจกรรมเราจะแน่นและเหน็ดเหนื่อย
พวกเราก็ยินดีและต้องการโกยบุญในชีวิตนี้ที่เรายังทำได้เพื่อให้ผู้คนได้หันหน้าเข้าวัดทำบุญเพื่อสืบสารพระพุทธศาสนา
พวกเราทั้งหลายขอน้อมรับบัญชาจากอาจารย์เพื่อบุญต้องสู้ค่ะ
ดิฉันและน้อง ๆ ขอบอกว่าเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ เพราะกิจกรรมในงานบุญตามที่ทุกท่านได้มาร่วมบุญกันและพบเห็นในภาพ
กิจกรรมที่ลงในเว็บนั่นแหละค่ะทั้งงานหลวงและงานราษฎร์ฯ ยุ้งเหยิง ซะจน...เพลีย...ค่ะแต่พวกเราจิตอาสาต้องไม่บ่น
ต้องไม่ท้อ เพราะจิตของเราอาสามาแล้วเพราะว่าอาจารย์เป็นตัวอย่างที่ให้เราเห็นว่า แม้อาจารย์ยังไม่ท้ออาจารย์พูดว่า
พี่เวลาพักมีอีกเยอะแต่เวลาของบุญไม่คอยใคร ในโลกสวรรค์สั้นมากในโลกนรกภูมินั้นช่างยาวนาน ดังนั้น พวกเราต้อง
โกยบุญให้มากจะได้อยู่สวรรค์นาน ๆและเราไม่ได้ไปเพียงลำพังเราก็ชักชวนผู้อื่นให้มีดวงตาเห็นธรรมไปด้วยกันกุศลแรง
มากกว่าสิ่งใดแม้คนเป็นร้อยมางานบุญจะได้กลับไปทำความดีสร้างกุศลต่อสัก 10 คน ก็ถือว่าประเสริฐแล้วค่ะ
อาจารย์ว่าไง ทีมงานก็ว่าตามนั้นค่ะ ซึ่งเวลานี้ก็เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนเสียด้วยค่ะ อ.เจน จึงคิดว่าการนำพาผู้คนไปไหว้
เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและไปกราบสักการะด้วยการถวายสร้อยไข่มุกเจ้าแม่กวนอิม
ในเทศกาลตรุษจีนเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ร่วมบุญและขอพรในเทศกาลนี้ค่ะ
เทศกาลตรุษจีนเขามีอะไรกันบ้างล่ะ อ.เจน บอกว่าต้องมีสิงโต แปะยิ้ม อาหมวย ดิฉันขำกลิ้งค่ะ แต่ อ.เจน
บอกว่าไม่รู้หรือว่าบนสวรรค์ แปะยิ้ม และ อาหมวย เป็น เทวดานางฟ้า ที่มีระดับชั้นของเขามีจริงนะค่ะ อ้าวเหรอค่ะ
และวันต่อมาดิฉันก็เห็นภาพชุดอาหมวย ถือพัด เข้ามาใน Line ซึ่งส่งมาโดย อาหมวย อ.เจน นั้นเองค่ะ เพราะ อ.เจน
เร็วมากได้ไปซื้อชุดการแสดงมาให้เสร็จสรรพค่ะ ไปซื้อชุดด้วยตนเองทั้งหมดทั้งอาแปะและอาหมวยค่ะ แล้วก็ไปซื้อ
หัวสิงโต วัสดุดีราคาไม่แพงมากจนเกินไป ดิฉันถามว่า ใครจะเป็นคนที่เต้นเฉิดสิงโต คุณรุ้ง แจ้งว่าได้วางตัวไว้แล้วค่ะ
ตามที่เห็นนั่นแหละค่ะขอบอกว่า คนแสดงไม่รู้ตัวเลยว่าใครจะได้แสดงอะไร มารู้อีกทีก็วันนัดประชุม ทุกคนไม่รู้ตัวเองว่า
ใครทำหน้าที่อะไรบ้างเมื่อได้คำตอบแล้วว่า ใครต้องแสดงอะไร ต่างก็พากัน อึ้งกิมกี่ เออ คือ ว่าจะทำกันได้มั้ยค่ะนี่
คำตอบ อ.เจน ก็คือ หนูกับพี่รุ้ง รู้ว่าทุกคนทำได้ค่ะ
เนื่องจาก อ.เจน และ คุณรุ้ง มีความเห็นตรงกันว่าเดือนกันยายนนี้คงจะต้องงดเว้นการจัดกิจกรรมทัวร์บุญสักครั้งหนึ่ง
เพราะเหน็ดเหนื่อยมากไม่มีเวลาพักผ่อนสักวันมีภารกิจช่วยเหลือคน อัดรายการคนอวดผี(เพื่อให้คนเชื่อเรื่องโลก
หลังความตายและไม่คิดทำกรรมจนต้องกลายเป็นวิญญาณพเนจรเร่ร่อน) ออกงานหนังสือ เล่ม 3 (เจาะรหัสพิบัติกรรม)
และเล่ม 4 (เรื่องลี้ลับที่อยากเล่า) ซึ่งหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ เงินรายได้ส่วนหนึ่งนำเข้าสำนักปฏิบัติธรรม วิปัสสนาญาณและ
ยังมีกิจกรรมบุญที่อ.เจน ใส่ใจมากๆ ติดต่อกันในช่วงนี้ค่ะ นอกจากนี้ อ.เจน และคุณรุ้ง ก็ยังจะต้องขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่าง
กรุงเทพฯ-เพชรบูรณ์เดือนหนึ่งหลายครั้ง
แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ อ.เจน ก็บอกกับทีมงานว่า เดือนนี้คงไม่พักกิจกรรมงานบุญแล้วนะ ก็เพราะว่าเราหยุดไม่ได้แล้ว
หากเราหยุดพักกิจกรรมบุญ ผู้คนทั้งหลายก็ไม่รู้ว่าจะไปทำบุญที่ไหนดีแล้วก็อาจจะไปทำบุญที่ไม่ถูกต้องซึ่งจะนำพาให้
ติดกรรมกันยิ่งขึ้นอีกค่ะ ดิฉันและน้อง ๆ ทีมงานเข้าใจในเจตนาของอาจารย์ดีค่ะ แม้ว่ากิจกรรมเราจะแน่นและเหน็ดเหนื่อย
พวกเราก็ยินดีและต้องการโกยบุญในชีวิตนี้ที่เรายังทำได้เพื่อให้ผู้คนได้หันหน้าเข้าวัดทำบุญเพื่อสืบสารพระพุทธศาสนา
พวกเราทั้งหลายขอน้อมรับบัญชาจากอาจารย์เพื่อบุญต้องสู้ค่ะ
ดิฉันและน้อง ๆ ขอบอกว่าเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ เพราะกิจกรรมในงานบุญตามที่ทุกท่านได้มาร่วมบุญกันและพบเห็นในภาพ
กิจกรรมที่ลงในเว็บนั่นแหละค่ะทั้งงานหลวงและงานราษฎร์ฯยุ่งเหยิง ซะจน...เพลีย...ค่ะแต่พวกเราจิตอาสาต้องไม่บ่น
ต้องไม่ท้อ เพราะจิตของเราอาสามาแล้วเพราะว่าอาจารย์เป็นตัวอย่างที่ให้เราเห็นว่า แม้อาจารย์ยังไม่ท้ออาจารย์พูด
เสมอว่า พี่เวลาพักมีอีกเยอะแต่เวลาของบุญไม่คอยใคร ในโลกสวรรค์นั้นแสนสั้นนัก ในโลกนรกภูมินั้นช่างยาวนาน
ดังนั้น พวกเราต้องโกยบุญให้มากจะได้อยู่สวรรค์นาน ๆ และเราไม่ได้ไปเพียงลำพังเราก็ชักชวนผู้อื่นให้มีดวงตา
เห็นธรรมไปด้วยกันกุศลแรงมากกว่าสิ่งใดแม้คนเป็นร้อยมางานบุญจะได้กลับไปทำความดีสร้างกุศลต่อสัก 10 คน
ก็ถือว่าประเสริฐแล้วค่ะ
อาจารย์ว่าไง ทีมงานก็ว่าตามนั้นค่ะ ซึ่งเวลานี้ก็เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนเสียด้วยค่ะ อ.เจน จึงคิดว่าการนำพาผู้คนไปไหว้
เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและไปกราบสักการะด้วยการถวายสร้อยไข่มุกเจ้าแม่กวนอิม ในเทศกาล
ตรุษจีนเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ร่วมบุญและขอพรในเทศกาลนี้ค่ะ
เทศกาลตรุษจีนเขามีอะไรกันบ้างล่ะ อ.เจน บอกว่าต้องมีสิงโต แปะยิ้ม อาหมวย ดิฉันขำกลิ้งค่ะ แต่ อ.เจน บอกว่า
ไม่รู้หรือว่าบนสวรรค์ แปะยิ้ม และ อาหมวย เป็น เทวดานางฟ้า ที่มีระดับชั้นของเขามีจริงนะค่ะ อ้าวเหรอค่ะ และวันต่อมา
ดิฉันก็เห็นภาพชุดอาหมวย ถือพัด เข้ามาใน Line ซึ่งส่งมาโดย อาหมวย อ.เจน นั้นเองค่ะ เพราะ อ.เจน เร็วมากได้ไปซื้อ
ชุดการแสดงมาให้เสร็จสรรพค่ะ ไปซื้อชุดด้วยตนเองทั้งหมดทั้งอาแปะและอาหมวยค่ะ แล้วก็ไปซื้อหัวสิงโต วัสดุดีราคา
ไม่แพงมากจนเกินไป ดิฉันถามว่า ใครจะเป็นคนที่เต้นเฉิดสิงโต คุณรุ้ง แจ้งว่าได้วางตัวไว้แล้วค่ะ ตามที่เห็นนั่นแหละค่ะ
ขอบอกว่า คนแสดงไม่รู้ตัวเลยว่าใครจะได้แสดงอะไร มารู้อีกทีก็วันนัดประชุม ทุกคนไม่รู้ตัวเองว่า ใครทำหน้าที่อะไรบ้าง
เมื่อได้คำตอบแล้วว่า ใครต้องแสดงอะไร ต่างก็พากัน อึ้งกิมกี่ เออ คือ ว่าจะทำกันได้มั้ยค่ะนี่ คำตอบ อ.เจน ก็คือ
หนูกับพี่รุ้ง รู้ว่าทุกคนทำได้ค่ะ
แปะยิ้ม กับ อาหมวย คุณรุ้ง ผู้กินกับ เอ้ย ผู้กำกับการแสดงก็ได้นัดหมายทีมงานนักแสดง ให้มารับทราบตำแหน่งที่มอบให้
โดยมอบให้ น้องเบริ์ด น้องดา และ น้องดิวช่วยกันหาเพลงร่ายรำถวายผลไม้มงคล ถวายเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ในเทศกาลถือ
ศีลกินเจ และเพลงที่จะแสดงเชิดสิงโตที่หน้าเจ้าแม่กวนอิม เน้นที่พวกอาหมวยกับอาแปะ เมื่อได้เพลงที่ผู้กำกับคัดเลือกแล้ว
ก็ให้น้องเบริ์ด และ น้องดิว ช่วยกันคิดท่าเต้นประกอบเพลง ซึ่งน้องเขามีพรสวรรค์ตรงนี้มากสามารถคิดท่าทางประกอบเพลง
รวดเร็วมาก แค่ฟังเพลงไม่กี่นาทีก็คิดได้แล้วค่ะและพวกนักแสดงก็ซ้อมการแสดงสดๆอีกเช่นกันค่ะ เมื่อได้ท่าทางแล้วก็ไป
ซ้อมกันเองที่บ้านใครบ้านมันค่ะ
นักเชิดสิงโตจำเป็น
น้องเบิร์ด ได้รับมอบหมายให้ทำงานหนักมากไม่ใช่ง่ายเป็นตัวเชิดหัวสิงโต ต้องใช้ ทั้งแรงกาย พร้อมสมาธิ ไปด้วยกันค่ะ
สำหรับคนที่ทำในครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ และทุกคนเห็นว่าน้องแข็งแรงที่สุด แม้ว่าน้องเบิร์ดจะเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว
ถ้าเหนื่อยมาก ๆ ก็จะมีอาการเหนื่อยง่ายหายใจไม่ทัน แต่น้องเบิร์ดก็สู้นะค่ะ เพราะต้องทำหน้าที่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน
ทั้งการเชิดสิงโต ทั้งเต้น ทั้งชักรอกหัวสิงโตให้ เปิด-ปิด ลูกตา และ กระดิกหู ของสิงโต การเต้นสิงโต หัวก็หนักร้อนก็ร้อน
และต้องกระโดด ตอนที่ซ้อมขาน้องเขาอ่อนแรงล้มลงไปและเหนื่อยมากต้องพักเพราะหัวใจเต้นแรงต้องพักน่าสงสารค่ะแต่
น้องเขาตั้งใจค่ะ
น้องเก่ง ได้รับมอบหมายให้ทำงานหนักด้วยเช่นกันค่ะซึ่งต้องเป็นขาหลัง อยู่ส่วนหลัง เป็นส่วนหาง ซึ่งต้องใช้ทั้งแรงกาย
พร้อมสมาธิเพราะต้องเดินตามเท้าหน้าให้เหมือนสิงโตเขาเดินกันจริง ๆ นั่นแหละค่ะและต้องกระดิกหางไปด้วยเต้นไปด้วยค่ะ
และต้องก้มตัวให้ต่ำมาก ๆ งานนี้ยอกค่ะ วันแสดงจริงจำเป็นต้องใช้สเปรย์แก้ปวดป้องกันเผื่อนักแสดงเป็นตะคริวค่ะแต่การเต้นสิงโตจะเหนื่อยมากที่สุดค่ะ ทั้งเต้น ทั้งกระโดด ยกหัวเชิดสิงโตวิ่งไปมา แล้วต้องให้ได้จังหวะกันทุกส่วน รวมทั้งจังหวะเพลง
ครั้งแรก ๆที่ซ้อมกัน สิงโต เหมือนหนอนน้อยเลยค่ะ แต่แล้วทุกคนก็ทำได้ค่ะ
แปะยิ้มกับ อาหมวย
ดิฉัน น้องดา น้องดิว ได้รับมอบหมายให้เป็นแปะยิ้ม (น้องดิว) อาหมวย (ดิฉัน /น้องดา) เต้นเพลงอาหวยนี่ค่ะ
ส่วนเพลง เฮง เฮง เฮง แปะยิ้ม (เพิ่มอีก 2 คือ คุณภุชงค์ และ คุณมิตร)
วันซ้อมใหญ่ วันซ้อมจริง ก็คือ วันที่ 27 ก.ย.57เพียง 1 วัน ก่อนเดินทาง อ.เจน คุณรุ้ง ต้อง ช่วยกันดูความพร้อม
ของนักแสดงดิฉันชอบในพรสวรรค์ของน้อง ๆ น้องดิวกับน้องเบริ์ด นอกจากที่ต้องแสดงแล้วยังต้องช่วยดูแลเรื่อง
ท่าทางของนักแสดงอีกด้วยพวกเราซ้อมกันจนขาปัดขาเป๋เดินแทบไม่เป็นเชียวค่ะเหงื่องี้ท่วมตั้งแต่หัวจรดเท้าค่ะ
ทีมงานที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละชิ้นงานและที่สำคัญงานนี้เราทีมงานตั้งใจแสดงเพื่อจะ
ได้เงินบริจาคสมทบกับเงินของผู้บริจาคที่ยังขาดอยู่อีกมากเพื่อนำมาสร้างเรือนรับรองให้แล้วเสร็จในเร็ววันค่ะ ดังนั้น
การจัดแสดงเชิดสิงโต และเต้นแปะยิ้มอาหมวยยิ้ม เป็นการขอบคุณทุกท่านและอวยพรให้ผู้บริจาค เฮง เฮง รวย รวย
ค่ะเพราะเมื่อท่านเป็นผู้ให้สักวันหนึ่งท่านก็จะได้เป็นผู้รับขึ้นอยู่กับเจตนาบุญที่ทุกท่านได้ตั้งใจกระทำค่ะซึ่ง อ.เจน
มักพูดเสมอว่า บุญบางครั้งส่งผลเร็วในชาตินี้เลยแต่เราต้องรู้จักสังเกตว่าจริงอย่างนั้นหรือไม่แต่ก่อนอื่นท่านต้องเชื่อ
และศรัทธาในบุญนั้นก่อนค่ะ
เสียงเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ท่านมาบอกในความฝันว่า “วันนี้เราให้เงินไปปึ้งหนึ่ง ก่อน
แล้ววันนั้นจะให้อีกเป็น ปึ้ง ปึ้ง” ซึ่งอาจารย์ก็มาเล่าสู่กับลูกศิษย์เพื่อจะได้รับรู้ว่าวันงานจริงจะต้องมีอะไรพิเศษๆ แน่ ๆ
เลยค่ะ หลังจากนั้น อ.เจน ก็มาบอกว่า หนูรู้ในญาณวิถีว่าในวันนั้นเทพเจ้าท่านเสด็จมาด้วยตนเอง ขอให้ทุกคนแสดง
ให้เต็มที่
คุณภุชงค์ ตากล้องนิ่ง คุณเป็ก ตากล้องวีดีโอ และเปิดเพลงการแสดงน้องเชน ช่วยเหลืองานส่วนรวมทั้งหมด
ส่วนนักแสดงต้องช่วยเหลือตัวเองและต้องรู้ว่าคิวงานของตัวเองต้องทำอย่างไรไม่น่าเชื่อวันนั้นอากาศร้อนมาก
แดดงี้เปรี้ยง ทั้งๆที่ มีข่าวฝนตกโดยตลอดค่ะ
เฮีย มีหน้าที่สำคัญกว่าใคร ขับรถให้อาจารย์ และขี่มอเตอร์ไซด์ ซื้อสิ่งของที่ขาดตกพกพร่องทั้งหมดไม่มีเฮีย
นักแสดงต้องไปซื้อเองค่ะ
ถ้าห้ามแสงแดดก็ต้องมีฝนตกจะอย่างนั้นหรือ อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ตอนที่นักแสดงกำลังลิงโลดอยู่กลางแดด
ขณะที่ เชิดสิงโต (น้องเบิร์ด เป็นหัวสิงห์ และน้องเก่ง เป็นส่วนหาง) และพวกบรรดา แปะยิ้ม (คุณภุชงค์+คุณมิตร
ตัววิ่งล่อสิงโต) ทีมแสดง 3 คน ก็มีแปะยิ้ม (น้องดิว) หมวยยิ้ม (ดิฉัน+น้องดา) อาจารย์บอกว่ารู้สึกสงสารมาก
ทั้งหัวทั้งหน้ากาก อบร้อน อยู่กลางแดด จึงกล่าวขึ้นว่า “ขอให้แดดร่มด้วยเถิดสงสารทีมนักแสดง” และก็มีเสียง
ตอบกลับมาว่า “ถ้าห้ามแสงแดดก็ต้องมีฝนตกจะอย่างนั้นหรือ” เมื่อ อ.เจน ได้ยินอย่างนั้น จึงกล่าวใหม่ว่า“ก็ได้
เจ้าค่ะมีแสงแดดอย่างนี้นะดีแล้วเจ้าค่ะ”
ความประทับใจของทีมงานทุกคนพวกเรามีความประทับใจเป็นที่สุดที่ได้ช่วยเหลืองานบุญนี้จนสำเร็จ ดีใจมากค่ะ
เงินบริจาคของทุกท่านผู้มีใจบุญกุศลไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยเพียงใดพวกเราก็พึงพอใจที่ได้รับ เพราะเป็นเงินที่เรา
นำเข้าร่วมสมทบทุนสร้างสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ ที่ จ.เพชรบูรณ์ ของ อ.เจนประสบความสำเร็จในเร็ววัน
และที่ยิ่งประทับใจขึ้นไปอีกก็คือเงินที่ได้ในวันนั้นได้นำไปสมทบกับเงินของท่านผู้บริจาคก่อนหน้านี้ก็สามารถทำให้
บุญนั้นสำเร็จค่ะ แต่อย่างไรก็ตามยังมีส่วนอื่น ๆ อีกที่ อ.เจน ต้องดำเนินการค่ะขอให้ทุกท่านติดตามต่อไปนะค่ะ
ทุกอย่างเป็นบุญทั้งนั้น ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกันค่ะ
แม้ในวันนั้นทีมงานไม่ได้ไปร่วมถวายเครื่องสังฆทานที่วัดแรกเพราะทุกคนต้องจัดเตรียมเครื่องเสียง เตรียมงาน
รวมทั้งต้องเร่งรีบแต่งชุดการแสดงเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์ทุกท่าน ทีมงานทุกคนก็ได้หันหน้าไปตามเสียงลำโพงในวัด
และก็ยืนอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะเพราะ อ.เจน มักสอนเสมอว่า หากเราไม่ได้ไปร่วมบุญกับเขาก็ให้อนุโมทนาบุญ
กับเขาค่ะ
เมื่อทีมงานได้มาดูภาพย้อนหลังที่อ.เจน ได้ปีนขึ้นไป แขวนสร้อยไข่มุกที่ทุกท่านตั้งใจบริจาคเงินมาซึ่งยาวมาก
ความรู้สึกประทับใจและรู้สึกปลื้มใจมากค่ะทางทีมงานนักแสดงไม่ได้ไปเห็นในช่วงนั้นเพราะจำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
จากอาแปะ/อาหมวยมาเป็นผีเปรต ซึ่งขอบอกว่า บรรยากาศร้อนมาก เหมือนจะเป็นลม ขณะที่ ถอดหัวอาแปะ/อาหมวย
ถ้าจำไม่ผิด ได้ยินเสียงน้องดิว พูดขึ้นมาว่าอย่าเพิ่งเป็นลม ดิฉันได้ยินเช่นนั้น ก็นึกว่า เออ เราก็คิดในใจเหมือนกัน
ร้อนจนหัวเปียกค่ะและยังไม่ได้รับประทานน้ำกันสักหยดค่ะจึงอยากให้ตัวเองอย่าเพิ่งล้มลงไปต้องอย่าล้ม และก็คิดว่า
น้อง ๆ คงคิดเหมือนกันหมดเพราะร้อนจริง ๆ ค่ะ ดิฉันใส่ชุดผีเปรตเข้าไปด้วย 2 ชั้น กับอากาศที่ร้อน ๆมันร้อนแสบผิวค่ะ
ดิฉันและน้องๆ ทีมงานทุกคนก็ทำงานกันเต็มที่ เพราะว่า อ.เจน บอกว่าสิ่งที่เรากระทำไปทุกอย่างเป็นบุญทั้งนั้นค่ะ
เมื่อมาถึงวัดที่ประดิษฐาน เทพเจ้าซินไฉ่เฮี้ยเทพเจ้าแห่งโชคลาภ อ.เจน ได้บอกกล่าวให้ทีมแสดงไว้แล้ว
ล่วงหน้าว่า วันนี้เทพเจ้าท่านจะเสด็จมาอย่างแน่นอนขอให้ผู้ที่แสดงการร่ายรำถวายผลไม้มลคลทำให้
เต็มที่นะทุกคนเพราะพวกเราเป็นตัวแทนของผู้ร่วมบุญทั้งหมด สำหรับการถวายผลไม้มงคลต่าง ๆที่ท่าน
ได้เห็นนั้นก็เป็นเงินของท่านผู้ร่วมเดินทางด้วยนะค่ะ
ซึ่งทีมแสดงก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าสถานที่ข้างหน้าก็ไม่ไกลกันเท่าใดนัก ดังนั้น ก็คงต้องมีแสงแดดร้อนเปรี้ยงอย่าง
ที่วัดแรกแน่ๆ ค่ะ แต่ถ้าเหล่าเทวดานางฟ้าอย่างพวกเราจะต้องไปร่ายรำถวายผลไม้มงคลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แบบนางฟ้งแล้ว ท่านคิดว่านักแสดงอย่างเราจะยิ้มออก มั้ยค่ะ ค่ะแต่เราก็นัดกันยิ้มนั่นแหละค่ะเพราะ อ.เจน
ได้กำชับไว้แล้วว่า ต้องยิ้มกันนะค่ะทุกคน เทพเจ้าจะได้พึงพอใจ ค่ะรับทราบ แต่ดิฉันกับน้องดา ก็แอบ ๆ คุย
กันเองว่า ขอให้ที่วัดแห่งนี้ ไม่มีแสงแดด ขอให้มีลมพัดแรง แต่เมื่อไปถึงวัดนั้นจริงๆ มีแต่ แสง แดด แดด
และก็แดด จริง ๆ ด้วย ดังนั้น ก่อนการแสดงทีมนักแสดงก็ป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกลางแสงแดด
นี่แหละค่ะไม่ได้ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยค่ะ แต่นักแสดงอย่างเราต้องทำอะไรสักอย่างค่ะ
ขอพรจากเทพเจ้าฯ ดิฉันจำได้ว่าวันนั้น เหล่านางฟ้าทั้ง 3 (คุณรุ้ง ดิฉันน้องดา) ต่างคนต่างก็ตั้งจิตอธิษฐาน
ต่อหน้าเทพเจ้าซินไฉ่เอี้ยะ ซึ่งมารู้ที่หลังว่า ทุกคนก็ได้อธิษฐานไปในแนวทางเดียวกันว่าขอให้ท่านเสด็จลง
มาดูพวกเราร่ายรำเพื่อถวายผลไม้มงคลให้แก่ท่าน..อะค่ะ ก็คือว่า ขอกันสะเยอะแยะค่ะ โดยขอให้ไม่มีแสงแดด
ขอให้มีลมพัด เพื่อผ้าที่อุตส่าห์นำมาร่ายรำจะได้พลิ้วไหวสวยงามและขอให้เหล่านางฟ้ามาดลใจให้พวกเราร่ายรำ
ให้เหมือนพวกนางฟ้าบนสวรรค์จริงเพราะเราไม่มีเวลาซ้อมมาเลยค่ะ ซ้อมกันอย่างจริงจังแค่ 2 ครั้งเอง
มีเหตุแห่งมารจะแก้ปัญหาอย่างไร ก่อนการแสดงพวกเหล่าเทวดาและนางฟ้าก็เร่งแต่งตัว แบบตัวใครตัวมัน
สำหรับนางฟ้าต้องสวยหน่อยเดี๋ยวเทพเจ้าท่านจะมาดูแล้วไม่สวยใสก็มอบหมายให้น้องบูม (น้องสาวน้องดิว)
ช่างรับเชิญเฉพาะกิจงานบุญค่ะ โดยน้องได้ถักเปีย และแต่งหน้าโดยบอกน้องว่า มีเวลาให้แต่งเพียง 10 นาทีเท่านั้น
และน้องก็ทำได้ค่ะแต่ระหว่างที่แต่งหน้ากันอยู่นั้นเองก็มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันเสียงดังลั่นอยู่ทางด้านหลังเทพเจ้าฯ
พวกเราก็ได้ยินกันทั้งหมด จนประชาสัมพันธ์วัดก็พูดเตือนสติว่าเรามาทำบุญกันให้ใจเย็น ๆ เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก
แต่พวกที่อารมย์ร้อนนั้นเป็นผู้หญิงประมาณ3-4 คน มาในชุดสีขาวสะอาด (เทศกาลถือศีลกินเจ พวกเธอทั้งหลายจึงใส่ชุดสีขาว)
พวกเธออารมณ์เสียว่ากล่าวคู่กรณีอยู่ที่หน้าเทพเจ้านั่นแหละค่ะ
สิ่งที่ควรรู้ การใส่ชุดสีขาวแต่ถ้าจิตใจของเราไม่ได้ขาวสะอาดตามชุดที่สวมใส่ไปด้วยก็อย่าได้ใส่ชุดนั้นเลยค่ะเพราะการ
ใส่ชุดขาว เพื่อแสดงว่าวันนี้เราจะทำความดีเราจะทำตัวให้ขาวสะอาดด้วยบุญกุศล ดังนั้น ให้เรามองเป็นธรรมมะ ค่ะ
มองเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเป็นธรรมมะ อ.เจนมักสอนในเรื่องนี้บ่อยมากค่ะ ว่า ถ้าหากเราได้พบเห็นสิ่งใดที่เกิดขึ้น
และมากระทบกับผัสสะของเราก็ให้เรามองเห็นเป็นธรรมมะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะมีเหตุจึงเกิดผล
ของมันค่ะ ซึ่งดิฉันก็มองเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นธรรมมะอยู่นานมากค่ะเรื่องก็ยังไม่จบค่อนข้างจบยาก ที่นี่ คุณรุ้ง ก็เริ่มเป็นห่วง
แล้วว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็คงยังแสดงการร่ายรำไม่ได้แน่ จะทำยังไงดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณ20 นาที ซึ่งเลยกำหนดเวลาที่ อ.เจน จะนำพาคนลงมาแล้ว เพราะตามแผนที่กำหนดผู้คนลงบันใดมาเพลงก็จะเปิดการแสดงกันทันที แต่ก็ใจชื้นที่ อ.เจน
ก็ยังไม่ลงมาและใครจะไปบอก อ.เจน เล่าว่าอย่าเพิ่งนำพาคนลงมา ครั้น จะวอร์ไปแจ้งก็ไม่ได้เดี๋ยวคนจะแตกตื่นจะทำยังไง
และแล้วอยู่ ๆ อ.เจน เองก็ให้คนมาบอกว่า เป็นคนให้น้องเอก
มารตัวใหญ่ อ.เจน บอกว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญสาเหตุนี้ก็คือ วันนี้ท่านเทพเจ้าซินไฉ่เฮี้ย ท่านจะเสด็จลงมา
ชมการแสดงการร่ายรำและให้พรแก่ผู้ร่วมบุญทั้งหมดปกติเทพเจ้าท่านจะอยู่เบื้องบนและส่องลงมาดูเท่านั้น แต่ครั้งนี้ท่าน
จะเสด็จลงมาเองแบบเต็มองค์พร้อมกับบริวารเมื่อมารรู้เข้า (เป็นตัวใหญ่) ก็มาขัดขวางไม่ให้การร่ายรำนี้สำเร็จให้งานนี้ล้ม
ไปเสียจึงมาตะโกนด่าทอกันที่บริเวณนั้น หากทำการนี้สำเร็จท่านเทพเจ้าฯ ก็จะไม่เสด็จลงมา เพราะมารจะเข้าสิงสู่จิตใจ
คนที่ไม่มีศีลก็อย่างที่ อ.เจน พูดเสมอว่า คนไม่มีศีลพวกสัมภเวสีหรืออะไรก็แล้วแต่ก็จะเข้าสิงสู่จิตใจคนนั้นได้ค่ะ
จำได้ว่า วันนั้นเขาทะเลาะกันเสียงดังมากเดินด่าตั้งแต่ด้านหลังเทพเจ้าฯ จนถึงด้านหน้าท่าน พวกเราก็นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นที่
น่าสลดใจมาก ผู้หญิง 3 คน ก็ตะโกนว่า “มันมาทำบุญกันยังไงว่ะไอ้พวกนิสัยไม่ดี” แต่ภาพที่ดิฉันได้เห็นนั้นผู้หญิง 3 คน
ใส่ชุดขาวมาทำบุญไหว้เจ้า แต่ไปว่าชายคนที่แต่งตัวธรรมดาใส่เสื้อสีน้ำเงินคนที่เขาไม่ได้มาทำบุญซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่าเขา
ทำบุญกันยังไงถึงไม่มีสติยับยั้งชั่งใจได้ถึงเพียงนี้ แล้วก็ปลงมองให้เป็นธรรมมะค่ะ เมื่อชายคนนั้นเขาเดินหนีก็ยิ่งบันดาล
โทสะใช้ท่อนเหล็กทุบตีเขาจนได้รับบาดเจ็บ
เทพจีนมาช่วยเหลือ ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่อ.เจน จะต้องนำพาทุกท่านลงมาชมการแสดงการร่ายรำถวายผลไม้มงคล
ก่อนไปรับประทานอาหารเจที่โรงอาหารใหญ่ ตามที่ได้เตรียมแผนไว้ตั้งแต่ต้น แต่ทำไมเหตุไฉนอ.เจน ยังไม่ลงมาอีกนี่ก็
นานมากแล้วกว่า 20นาที และแล้วน้องเอกก็มากระซิบบอกว่า อ.เจนบอกให้ไปกินอาหารที่โรงเจก่อน แล้วค่อยแสดงการ
ร่ายรำฯ อ้าวพวกเราแต่งตัวกันแล้วจะไม่เซอร์ไพร์สนะ ทำให้นักแสดงทุกคนไม่ยอมไปรับประทานอาหารคุณรุ้ง ดิฉัน และ
น้องดา ต้องนั่งซ่อนตัวกันในซุ้มแต่งตัวที่เป็นพลาสติกขอบอก...ร้อนมากๆที่ต้องรอคอยอยู่ในซุ้มนั้นรวมทั้งพวกเทวดา
(น้องเบิร์ด น้องดิว น้องเก่ง)อยู่บริเวณหน้าเทพเจ้าฯ พอดีค่ะ
สาเหตุที่ อ.เจน ถึงลงมาช้า และเปลี่ยนแผนการที่วางไว้ตั้งแต่ต้น โดยเปลี่ยนแผนการแสดงซึ่งเรื่องนี้ อ.เจน มาเล่า
ให้ฟังในภายหลังว่า ไม่รู้ว่าข้างล่างนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นได้เวลาแล้วก็กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ขณะนั้นมีเรื่องที่น่า
ประหลาดใจมาก เพราะ อ.เจน ได้เห็นด้วยตาเนื้อไม่ใช่ตาทิพย์ นั้นก็คือ มีผู้หญิงแต่งชุดผ้าสีขาวสลับทอง ชุดยาว
กรุ่ยกรายทำผมเป็นช่อ เหมือนในหนังจีน คงเป็นองค์เทพองค์ใดองค์หนึ่ง อ.เจน ไม่รู้จักค่ะ เธอเดินตรงมาในช่วงที่ อ.เจน
กำลังจะลุกขึ้นยืน โดยใช้มือทั้งสองจับมาที่บ่าทั้งสองของ อ.เจน ให้นั่งลงก่อนแล้วบอกว่า “เธอจงนำผู้คนไปกินเจก่อนที่
จะมีคนว่ากล่าวเธอ แล้วทุกอย่างจะดีเอง”ตอนนั้น อ.เจน ก็นั่งตามเดิม แล้วก็แจ้งให้ทุกคนไปกินเจกันก่อน ซึ่งในตอนนั้น
ทางทีมงานก็รีบไปรายงานว่าอย่าเพิ่งลงไปข้างล่างมีการทะเลาะวิวาทกันอยู่ ซึ่ง อ.เจน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ก็ยังประหลาดใจ
อยู่กับสิ่งที่มาเตือน และก็เดินนำพาคนไปโรงเจค่ะ
พรที่ขอได้จริง ตอนที่ อ.เจน นำพาทุกท่านไปโรงเจพวกเราที่แอบซ่อนตัวอยู่ในซุ้มนั้นก็ได้เห็น อ.เจน ลงบันไดไปแล้ว
ระหว่างนั้น สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดคือ มีฝนเม็ดฝอยมากเหมือนละอองตกลงมาท่ามกลางแสงแดด
ซึ่งฝนได้ตกลงมาบริเวณหน้าเทพเจ้าฯที่พวกเราจะแสดงร่ายรำ ฝนตกอยู่สักประมาณ 5 นาที
และแล้วแสงแดดก็ค่อยถอยออกไป ถอยออกไปก้อนเมฆเข้ามาบดบังพระอาทิตย์ พอมีลำแสงรอด
เหลื่อมออกมาจากก้อนเมฆอยู่บ้าง ลมค่อยๆ พัดเข้ามาอย่างเอื่อยอ่อน ดิฉันติดตาม อ.เจน
มานานจึงรู้ว่าสิ่งที่ อ.เจนพูดเป็นเรื่องจริง จึงยังคงมั่นใจว่าเทพเจ้าฯ จะเสด็จมา หรือว่าท่านกำลังจะมาดิฉันจึงแหงนหน้าขึ้นไป
มองบนท้องฟ้า จึงพบว่า บนท้องฟ้าสวยงามเกินบรรยายจริง ๆ ค่ะเมื่อคณะ อ.เจน เดินกลับมาหลังจากรับประทานอาหารเจ
เสร็จแล้ว คุณหมอท่านหนึ่งได้นำกล้องในมือถือที่ถ่ายภาพบนท้องฟ้ามาให้ดูเหมือนมังกรคาบพระอาทิตย์ค่ะดิฉันได้ดูแล้วค่ะ
อ.เจน ได้เล่าให้ฟังว่า อ.เจน ได้เห็นด้วยตาเนื้อไม่ใช่เห็นในตาทิพย์ว่า ท่านเทพเจ้าฯ เสด็จมาทั้งองค์พร้อมบริวาร ได้เห็น
ทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนที่มีการแสดงร่ายรำถวายผลไม้มงคล ครั้งที่สอง ท่านเสด็จมาตอนที่ อ.เจนกล่าวคำ บูชาเทพเจ้า 9 จบ
ท่านนั่งอยู่เบื้องหน้า แต่มีเงินเหมือนกับเงินจีนเป็น ปึ้ง ๆสีเทาๆกองอยู่ที่เบื้องเท้าจนถึงเข่าของท่านดิฉันตื่นเต้น
และประทับใจมากนั่นก็เป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่าท่านมาให้โชคลาภต่อผู้ร่วมบุญกว่า 400 คน แต่มิใช่โชคทั้งหมดที่ทุกคนจะ
ได้ต้องเข้าใจกันด้วยค่ะการทำความดีก็แล้วแต่เจตนาของแต่ละคน ฉะนั้น อย่าห่างบุญค่ะและสิ่งดีดีก็จะมาหาเราเองค่ะ
อ.เจน คุณรุ้ง และคณะทีมงาน อ.เจนมีความประทับใจหลายประการเพราะผู้ร่วมบุญกับเราเป็นผู้ที่เข้าใจถึง
เจตนาการทำบุญของ อ.เจน และให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีจนงานบุญของเราประสบความสำเร็จไปด้วยดี
จงภูมิใจนะค่ะที่เราได้มาทำบุญร่วมกัน
อ.เจน บอกกับดิฉันว่า ผู้ที่มาร่วมบุญกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นครั้งใดก็ตามทุกท่านมีบุญสัมพันธ์ถึงได้มา
เจอกันพบกันและมีสัญญากรรมดีที่จะได้มาทำบุญร่วมกันอีกครั้งหนึ่งค่ะ
จี๊ดจ๊าด

โดย: thunchanok เวลา: 2014-10-16 23:33
ขออนุโมทนาบุญกับคุณจื๊ดด้วยนะค่ะ ที่นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟัง
โดย: แจ็ค เวลา: 2014-10-18 01:03
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แจ็ค เมื่อ 2014-10-18 01:23
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แจ็ค เมื่อ 2014-10-18 01:16
" ขออนุโมทนาบุญ สาธุการ ด้วยนะครับ ... ได้อ่านเรื่องราวที่พี่จี๊ดจ๊าดเขียนแล้วเช่นกัน ในทุกกิจกรรมแห่งงานบุญ ทุกภารกิจแห่งกุศล มาพร้อมกับความประทับใจเสมอ ... หากแม้ผมจะไม่ได้ไปด้วย แต่ได้เห็นภาพการร้อยสร้อยมุกประดับองค์เจ้าแม่กวนอิม ก็รู้สึกปิติปราโมทย์ใจไปพร้อมกันกับ อ.เจน ญาณทิพย์ และทุกท่านด้วยเช่นกัน ทั้งยังได้เห็นภาพการแสดงถวายร่ายรำต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็รู้สึกยินดีที่ได้ชม และได้เห็นความตั้งใจทุ่มเทของทีมงานพลังบุญทุกท่าน ทำได้ดีมากๆนะครับ ... ชุดจีนที่สวมใส่นี้ อ.เจน ณาณทิพย์ บรรจงเลือกสรรได้งดงามน่าชมมากๆ อย่างที่พี่จี๊ดจ๊าดกล่าวเอาไว้ อาหมวย อ.เจน ญาณทิพย์ ดูสง่าและงดงามมากๆ ขอชื่นชมด้วยความประทับใจ ... คำว่าบุญนั้นเป็นคำเพียงพูดเพียงสั้นๆ แต่ความหมายของคำว่าบุญนั้น ลึกลํ้าสุดประมาณ ขอให้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆเช่นนี้ต่อไป ... ขอให้ทีมงานทุกท่านเป็นแรงกำลังขับเคลื่อนไป พร้อมๆกันกับ อ.เจน ญาณทิพย์ และพี่รุ้งตะวัน ชนะศึก เป็นดั่งมหามิตรเพื่อนร่วมทางที่ดี และช่วยเหลือซึ่งกันและกันนะครับ ... หากแม้ผมจะยังคงไม่มีโอกาสเหมาะที่ได้ไปร่วมเดินทางพร้อมกันกับ อ.เจน ญาณทิพย์ ได้แค่เพียงส่งแรงจิตแห่งความชื่นชมและเป็นกำลังใจมอบให้ ... คงมีสักวันหนึ่งบ้าง คงได้พบ เป็นกำลังใจมอบให้ อ.เจน ญาณทิพย์ เสมอ เดินทางด้วยความระมัดระวังและปลอดภัย ดูแลรักษาสุขภาพด้วย คุณพระคุ้มครอง " 



โดย: wan_pens เวลา: 2014-10-21 13:45
ขอบคุณจิ้ด ที่นำรายละเอียด เบื้องหน้าเบื้องหลัง มาเล่าให้ทราบกันค่ะ ได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นเยอะมากค่ะ
โดย: AnnSuriya@FB เวลา: 2014-10-21 22:34
ขอบคุณพี่จี๊ดมากค่ะ
โดย: AnnSuriya@FB เวลา: 2014-10-21 22:35
ขอร่วมทำบุญกับอาจารย์เจน และพี่รุ้งไปตลอดค่ะ
โดย: eddy เวลา: 2014-11-20 21:26
อนุโมทนา สาธุ
โดย: อรไท เวลา: 2017-5-31 14:03
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ยินดีต้อนรับสู่ อาจารย์เจน.com (https://xn--82ca5c8ae2d9ab2k1e.com/) |
Powered by Discuz! X3 |