อาจารย์เจน.com

ชื่อกระทู้: เชิญอ่านบทความเรื่อง หลง โดยเจนญาณทิพย์ [พิมพ์หน้านี้]

โดย: Wwwarjanjencom เวลา: 2013-9-4 15:13
ชื่อกระทู้: เชิญอ่านบทความเรื่อง หลง โดยเจนญาณทิพย์
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Wwwarjanjencom เมื่อ 2013-9-4 15:17

ในชีวิตของคนเรา มีสุขและมีทุกข์ปะปนกันไป ไม่มีใครที่จะสุขอย่างเดียวตลอด หรือทุกข์อย่างเดียวตลอด แล้วแต่ใครจะทุกข์มากหรือสุขมาก เท่านั้นเอง สำหรับผู้ที่มีความทุกข์มากก็จะแสวงหาหนทางแก้ทุกข์เพื่อให้พ้นทุกข์
ด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา อย่างเช่นหาผู้วิเศษ ที่จะแก้ไขชีวิตพลิกชะตาของเขาได้ หรือพยายามแสวงหาสิ่งต่าง ๆ
รวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็น ใครว่าที่ไหนดีก็บุกป่าฝ่าน้ำเพื่อให้ได้พบสิ่งนั้น และหวังว่าสิ่งนั้นจะนำชีวิตของเขาเหล่านั้น
ให้สูงขึ้นกว่าผู้อื่น หรือพ้นทุกข์ จนอาจลืมไปว่าหนทางแก้ไขให้พ้นทุกข์ที่ง่ายที่สุดอยู่ที่ตัวเรานั่นเอง บางคนต้อง
เสียเวลาทั้งชีวิต กว่าจะพบหนทางสว่าง หรือบางคนจวบจนสิ้นลมหายใจ ก็ยังไม่พบทางสว่าง อาจเป็นเพราะหลงทาง
ทำให้เดินทางผิด เหมือนกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดก็ผิดจนถึงเม็ดสุดท้าย ทำให้เสียเวลาไปทั้งชีวิต และตายไป
อย่างน่าเสียดาย เพราะกว่าจะได้เกิดมาเป็นคนนั้นแสนยาก แต่จะครองตนเป็นมนุษย์เป็นผู้มีใจสูง อยู่ในศีลธรรม
ประพฤติตามแนวทางคำสอนของพระพุทธองค์นั่นยากยิ่งกว่า แต่ยากเพียงใดก็ไม่ยากเกินความสามารถที่จะกระทำ
เพราะความดีเป็นสิ่งที่ทำได้เสมอ ไม่มีวันล้าสมัย ทำแล้วรู้สึกสุขใจเสมอ คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงเป็นแนวทางสายตรง ที่ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตทุกรูปแบบ ด้วยสติ ปัญญา และการพิจารณา รวมถึง การนำจิตมา
พิจารณาดูตนเอง เพื่อพัฒนาจิตตน ให้มี ศีล สมาธิ ปัญญา สูงขึ้น ๆ ไป เพื่อล่ะ โลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นหนทาง
สายตรงในการเข้าถึงนิพพาน ในการดับทุกข์ที่แท้จริงและเร็วที่สุด

สืบเนื่องจากบนโลกนี้ มีสิ่งปรุงแต่ง ที่ล่อหลอกมนุษย์ อยู่รายรอบตัว ก่อให้มนุษย์เกิดความหลง เช่นหลงในชื่อเสียง
หลงในความรัก, หลงในเงินทอง, หลงในตัวบุคคล และหลงการมีองค์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของการก้าว
เดินไปในเส้นทางทางอ้อม สุดท้ายก็จะพบกับทางตันและต้องย้อนกลับมาตั้งต้นใหม่ บางคนเสียเวลาน้อยมากต่างกัน
ขึ้นอยู่กับปัญญาในการพิจารณาของแต่ล่ะคน....

ดิฉันได้เปิดกรรมผู้คนมาอย่างมากมาย และได้พบสัจจะธรรมว่า ความหลงมีอยู่ทุกตัวคน และหนึ่งในความหลงที่มี
มากจนดิฉันต้องหยิบยกมาเล่าให้ทุกท่านฟังในครั้งนี้ คือหลงในองค์ และการอยากมีองค์ ผู้ป่วยที่ดิฉันเปิดกรรมจึง
พาตนเองไปรับขันธ์หรือเข้าพิธีต่าง ๆ ที่หวังว่าองค์เทพหรือองค์พรหมจะมาประทับบนร่าง จะได้เป็นผู้เหนือมนุษย์
ซึ่งเป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อน โดยดิฉันจะได้กล่าวให้ทุกท่านทราบและเข้าใจดังนี้ การรับขันธ์ คือ การยอมเปิด
รับพลังวิญญาณภายนอกให้เข้าสู่ร่างกายของเราได้ รับเข้ามาอยู่สังขารขันธ์ สิ่งที่รับมาคือ “วิญญาณขันธ์” ซึ่งเทพ
พรหมชั้นสูงจะแบ่งกายทิพย์ออกมาครอบให้ เรียกว่า “ครอบขันธ์” แล้วจะดลจิตดลใจเรา ควบคุมเรา จะขับดันเรา
ให้ทำสิ่งต่าง ๆ ตามแบบของท่านได้โดยไม่ต้องมีการสอน การพูดกันเลย เรียกว่าทำได้เองอย่างอัศจรรย์ ดังนั้น
คนที่นิยมไปรับขันธ์ หรือทำพิธีอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน จึงได้พลังพิเศษอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ค่อยเป็นตัวของ
ตัวเองมากนัก ซึ่งการยอมให้สิ่งที่มองไม่เห็นเข้าไปอยู่ในร่างกายได้นี้ นับว่าเป็น ความเสี่ยงเช่นกัน ถ้าสิ่งที่มอง
ไม่เห็น ไม่ใช่เทพพรหม ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะไม่ใช่ เพราะองค์เทพหรือองค์พรหม จะไม่มาประทับร่างมนุษย์ง่าย ๆ
เพราะมนุษย์เป็นกายหยาบ มีกลิ่นเหม็นสาบ มีกิเลสนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน ยิ่งเป็นคนที่ไม่มีศีลบริสุทธิ์แล้ว
จะเป็นสิ่งไม่ดีไม่งาม ไม่พึงประสงค์เข้าแทรกแทน คนผู้นั้น แทนที่จะมีความเจริญดี กลับต้องพบกับความเสื่อม
และหายนะของชีวิตได้ในภายหลัง แม้ว่าช่วงแรกสิ่งเหล่านั่นอาจหลอกออกอุบายให้คิดว่าทุกอย่างสำเร็จได้ง่าย
ดายและรวดเร็ว แต่ภายหลัง จะกลายเป็นหายนะ เช่น ทำจิตหลุดไม่อยู่กับตัว เข้าข่ายสติวิปลาส โดย วิญญาณ
ต่าง ๆ หรือสัมภเวสี รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร จะสามารถเข้าออกร่างกายได้อย่างโดยง่าย หรืออาจถูกแทรกแทน
ด้วยจิตวิญญาณชั้นต่ำอื่น ๆ อีกก็เป็นได้

สำหรับบางรายที่ไปรับขันธ์หรือเข้าพิธีต่าง ๆ ทำให้มีความสามารถในการรู้เรื่องราวของผู้คน หยั่งใจคนได้ จาก
คนธรรมดากลายเป็นเจ้าตั้งเป็นสำนักทรง นั่นก็อาจเกิดจาก วิญญาณ ที่มีความสามารถในการหยั่งจิตใจคน
มาสิ่งร่างหรือแฝงร่าง มาบอกหรือกระซิบผู้นั้น เพื่ออาศัยกายสังขารของผู้นั้น แสวงบุญ และควบคุมกายของ
ผู้รับขันธ์ให้เป็นไปตามใจต้องการ โดย เจ้าเข้าทรง เหล่านั้น จะขาดการควบคุมตนเอง ในขณะที่โดนสิงหรือ
โดนแฝงร่าง เมื่อโดนสิงหรือโดนแฝงมาก ๆ เป็นประจำ กายสังขารก็จะอ่อนแอ ป่วย และจะเสียชีวิตในที่สุด
ซึ่งการหยั่งรู้ที่เกิดจากวิญญาณแฝงร่าง จะแตกต่างจาก การหยั่งรู้ที่เกิดจาก อภิญญาญาณ ที่ได้จาการสะสม
บุญบารมี การปฏิบัติ มาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน แต่การมีอภิญญาญาณ ก็เป็นยังทำให้เกิดความหลงได้อีก
ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ที่แท้จริง

เพราะฉะนั้น หลังจากการรับต่าง ๆ เข้าร่าง สำคัญอย่างยิ่งคือการประพฤติตนต้องมีความดีอย่างเสมอต้น
เสมอปลาย อยู่ในศีลธรรม ประมาทไม่ได้ ถ้าทำความชั่วก็จะนำพาไปสู่หายนะอย่างคิดไม่ถึง แต่ในคนที่
ปฏิบัติธรรมอยู่เนื่อง ๆ และมีธรรมในตนเองดีแล้ว ต่อให้มีจิตวิญญาณไม่ดีแทรกเข้าตัว ก็สามารถกลับร้าย
กลายเป็นดีได้ ทำให้จิตวิญญาณชั้นต่ำกลายเป็นจิตวิญญาณชั้นสูงได้ ในหมอผีบางคน ได้เรียกผีเข้าคน
หากคนผู้นั้นมีธรรมก็สามารถโปรดผีตนนั้นให้หลุดได้ จะเห็นได้ว่าความดีและการมีศีลธรรม บุญเท่านั่น
จะเป็นเกราะป้องกันและเป็นหนทางแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยไม่ต้องพึ่งองค์เทพหรือองค์พรหมใด ๆ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ที่รับขันธ์หรือเข้าพิธีต่าง ๆ ที่มาหาดิฉัน ก็จะมาในอาการแปลก ๆ บางคนก็กรีดร้อง
บางคนก็พูดจาไม่ได้ศัพท์ บางคนตะโกนขึ้นมาเหมือนไม่เป็นตัวเอง มาเพื่อต้องการให้ดิฉันรักษาอากา
รดังกล่าวให้ด้วยความทุกข์ทรมาน หลายคนไม่สามารถเข้าสังคมได้ เนื่องจากมีอาการดังกล่าวเป็นที่อับอาย
ต่างก็อยากหายเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนเดิม แต่ดิฉันก็ไม่สามารถรักษาให้พวกเขาเหล่านั้นได้
นอกเหนือจากจะบอกกับพวกเขาว่า ความดี การรักษาศีล เจริญสมาธิ การปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ต้องกระทำด้วยตัวเขาเองก็จะเป็นยารักษาที่ดีที่สุดให้เขาเหล่านั้นได้ให้หายป่วย
จากการรับสิ่งต่างๆ เข้ามาหาตัวได้

เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงต้องการให้ท่านที่จะต้องการรับขันธ์หรือเข้าพิธีกรรมในลักษณะทำนองเดียวกัน
ใช้สติไตร่ตรองให้รอบคอบ ว่าสิ่งนั้นคือแนวทางแก้ทุกข์ได้จริงหรือไม่ และแนวทางใดคือหนทางแก้ไขทุกข์
ได้อย่างแท้จริง ได้จะคุ้มเสียหรือไม่อย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจาณาของท่าน แต่สำหรับดิฉันแล้ว การเดินตาม
แนวคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนทางสายตรงที่ ก่อให้เกิดเนื้อนาบุญ เกิดสติปัญญา
เกิดความหลุดพ้นทุกข์ ให้ถึงซึ่งนิพพาน ขจัดทุกข์เพิ่มสุขได้อย่างแท้จริง....

ด้วยความปรารถนาดีจาก

เจน ญาณทิพย์

[attach]221603[/attach]

โดย: taroman04 เวลา: 2013-9-4 15:31
เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ

โดย: บุปผา เวลา: 2013-9-19 16:15
สาธุค่ะอาจารย์

โดย: jeejy เวลา: 2013-9-19 20:56
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

โดย: sirirat2530 เวลา: 2013-9-19 21:17
อนุโมทนาสาธุ

โดย: panuwat เวลา: 2013-9-20 01:45
อนุโมทนาสาธุครับ

โดย: รุ่งอาภา เวลา: 2013-9-20 22:08
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: รุ่งอาภา เวลา: 2013-9-20 22:09
เนื้อหาดีมากๆค่ะ

โดย: patranee เวลา: 2013-9-20 23:02
อนุโมทนาบุญค่ะ

โดย: Athithakorn_P เวลา: 2013-9-21 14:20
สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: YuiYui เวลา: 2013-9-24 13:16

โดย: เก่ง เวลา: 2013-9-25 22:40
เป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ สาธุ นะคะ

โดย: firsty เวลา: 2013-9-26 23:57
ขอบพระคุณที่ให้ความรู้ค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: เกศสิรี เวลา: 2013-10-8 15:39
สาธุค่ะ มีประโยชน์ได้ความรู้ดีค่ะ

โดย: ta_kaew เวลา: 2013-10-29 12:22
อนุโมทนา สาธุ ผมเองก็เป็นเช่นนั้นอยู่ พยายามจะแก้ไข ให้น้อยลง จนให้สิ่งเหล่านั้นหมดไป

โดย: ธวัลรัตน์พร@FB เวลา: 2013-10-29 12:59
อนุโมทนา สาธุค่ะ

โดย: Padma เวลา: 2013-11-5 11:29
ขออนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: Paranat90 เวลา: 2013-11-20 13:53
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: สนธยา เวลา: 2013-11-29 13:06
อนุโมทนาสาธุครับ

โดย: aey1689 เวลา: 2013-12-8 22:30
อ่านแล้วทำให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ชัดเจนเลย ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

โดย: oilpersia เวลา: 2014-2-6 02:16
สาธุ

โดย: somsomsom เวลา: 2014-2-11 10:19
อนุโมทนาสาธุค่ะ _/\_

โดย: VasuB เวลา: 2014-2-14 11:09
อนุโมทนา สาธุ ขอให้คนหลงผิดลดจำนวนลง

โดย: mukj เวลา: 2014-4-27 12:28
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: แฟร์ เวลา: 2014-5-13 14:32
อนุโมทนาค่ะ สาธุ

โดย: AnnSuriya@FB เวลา: 2014-5-13 23:00
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: fahlun เวลา: 2014-6-22 20:26
อนุโมทนา สาธุค่ะ

โดย: สนธยา เวลา: 2014-7-3 15:13
อนุโมทนาสาธุครับ

โดย: ศศิปภา เวลา: 2014-7-30 22:32
เตือนสติดีค่ะ

โดย: pom เวลา: 2014-8-2 09:52
ขอบคุณค่ะ อาจารย์

โดย: นงเยาว์ เวลา: 2014-8-2 19:29
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: ศรุดา เวลา: 2014-9-30 11:49
อนุโมทนาสาธุคะ

โดย: iamprateep เวลา: 2014-10-12 14:02
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย iamprateep เมื่อ 2014-10-13 22:17

สาธุครับ

ผมไม่ปรารภการรับขันท์เช่นเดียวกันครับ ขันท์ห้าขอเราที่ขังใจกันอยู่นี่ก็แย่แล้ว ... เอาของเขามาเพิ่มอีกท่านนึงก็กลายเป็นขันท์สิบแล้ว อ่วมแน่ๆ ... เคยมีเหมือนกันครับ ครูบาอาจารย์แก้ไขยากมากเผอิญผมไปนั่งใกล้ๆ แล้วกำหนดจิตไปทำอะไรบางอย่าง ผลก็คือคืนนั้นเลยเขามาเข้าในนิมิต บอกให้เรารับเขาอ้างโน่นนี่สารพัดเลย เช่นมันเป็นประเพนีอะไรอย่างนี้ ฯลฯ ... ผมก็ทำตามครูบาอาจารย์บอกคือบอกท่านนั้นไปในนิมิตเลยว่า"ผมมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งแล้ว อย่างอื่นผมไม่ต้องการ ... ตายเมื่อไหร่ผมไปพระนิพพานทันที" ตั้งใจอย่างนี้มั่นคง คล้ายที่ อ.เจน บอกนั่นแหล่ะครับ จากนั้นท่านก็ไม่มายุ่งอีกเลย ทราบในภายหลังว่าครูบาอาจารย์โปรด ท่านไปสุขคติแล้ว ... แบ่งปันกันครับ โปรดใช้วิจารณญาณ ...

ด้วยความเคารพยิ่ง
ประทีป

โดย: lekpanawan เวลา: 2014-10-16 07:39
อนุโทนาสาธุค่ะอาจารย์

โดย: Paranat90 เวลา: 2014-10-17 12:29
อนุโมทนาสาธุค่ะ

โดย: รังสิต เวลา: 2014-10-17 20:38
สาธุ อนุโมทนาบุญครับ

โดย: รุ่งอาภา เวลา: 2014-10-17 21:43
โชคดีจังได้อ่านพอดี กำลังเจอกับคนใกล้ตัวพอดีเลยค่ะ
สาธุค่ะ

โดย: sudsiri_ak เวลา: 2014-10-17 22:38
ขออนุโมทนา สาธุด้วยคนนะคะ สิ่งที่อ.เจนบอกกล่าวมานั้น อ่านแล้วรู้สึกว่าได้สาระ ความรู้และมีคุณประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลกทุกคนบนโลกใบนี้ค่ะ หนูพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้อ.เจนตลอดไปนะคะ

โดย: Saruda เวลา: 2014-10-24 16:26
อนุโมทนาค่ะ

โดย: prae99 เวลา: 2014-10-31 14:22
คุณเจนพูดถูกต้องที่สุด เราก็เคยเกือบหลงคิดว่าการรับองค์ หมายถืง องค์แทพของจริงซะอีก เคยเข้าร่วมพิธีกรรมแบบนี้ เพราะพี่ที่ทำงานไปรับองค์ แต่ที่เราเอะใจ เพราะว่า เราเคยคิดว่าคนมีองค์คือคนที่ได้รับการเลือกแบบวิเศษจริงๆในหมู่มนุษย์ ไม่ใช่คนทุกคนใครก็มีองค์ และที่สำคัญเราศึกษาคำสอนของพระพุุทธเจ้า ไม่เคยมีข้อมูลในพระไตรปิฏกที่ท่านให้คนพุทธรับองค์เลย อีกอย่างต่อให้เป็น เทพ พรหม อรูปพรหมของจริง ก็ไม่พ้นเวียนว่ายตายเกิดอยู่ดี ท่านมีแต่ให้คนพุทธรีบทำความดีเพื่อมุ่งสู่นิพพานเท่านั้น การรับขนธ์ที่พวกรับองค์ชอบอ้างกันก็เป็นการเปิดร่างให้วิญญาณประเภทอื่นๆ มาเข้าร่างจริงๆนั้นแหละ เพราะพี่ที่ไปรับองค์มา ดูจะภูมิใจมากที่มีคนเคยเห็นว่าในร่างเขามีร่างผู้หญิงคนอื่นบ้าง ร่างของเด็กกว่าเขาอยู่บ้าง ทั้งที่เจ้าตัวบอกว่า ของเขาตอนทำพิธีรับองค์เป็นองค์เทพผู้ชายของพราหมณ์ (ลองคิดดู แล้วอยู่ๆทีหลังมาเป็นรูปร่างผู้หญิงอื่นๆมาได้ไง) อีกทั้ง เราเคยอ่านเว็ปไซต์ของพราหมณ์ฮินดู เขาก็เตือนว่าการรับองค์พวกนั้นไม่ไช่เทพของเขา 100 % เพราะคนที่รับองค์ในศาสนาเขาจะต้องถือศีลกินเจ รู้กฎตามบทบัญญัติของเขา ไม่มีการทำพิธีกรรมรับองค์ข้างนอก คือ ไม่มีการไปเปิดตำหนักข้างนอกสถานที่ทางศาสนาของเขา และเขาจะเชิญเทพของเขามาแค่ในพิธีทางศาสนาซึ่งมีเพียงปีละไม่กี่วันเท่านั้น ดังนั้น เราไม่เชื่อถือการรับองค์เลยว่าเป็นเทพจริง เราเชื่อพระพุทธเจ้ามากที่สุด มีคำสอนของท่านจึงทำให้เราไม่หลงผิด และหาเหตุผลพิสูจน์ได้อย่างถูกต้อง

โดย: Thanyarat เวลา: 2014-11-11 10:05
อนุโมทนา สาธุคะ

โดย: ChanChanpen@FB เวลา: 2014-11-11 18:34
อนุโมทนาคะ ทำให้มีสติมากๆคะ สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: Raintip เวลา: 2014-11-14 10:42
สาธุ

โดย: ชนิตา เวลา: 2014-11-14 21:48
ถูกต้องที่สุดค่ะ.....

โดย: Raintip เวลา: 2014-11-17 14:45
สาธุ

โดย: Pranilada เวลา: 2014-11-23 00:26
อยากเอาบทความของอาจารย์ไปส่งต่อมากๆค่ะมีคนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจหลงผิดหรือถูกหลอกหรือไม่เข้าใจหลักธรรมและมีความรู้น้อยดิฉันคนหนึ่งนะค่ะที่ทำงานแล้วรู้หลักธรรมน้อยตามเพื่อนๆไปตามกิเลส. ดิฉันขอสาธุคำสอนของอาจารย์ด้วยนะค่ะ

โดย: diforce เวลา: 2014-11-28 21:52
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

โดย: นันทิ เวลา: 2015-2-9 06:50
เมื่อกายยังไม่แตกทำลายไป
สัตว์ได้อัตภาพใดแล้ว จะไม่ได้อัตภาพอื่นอีก
การมีสิ่งใดเข้าแทรกในอัตภาพ จึงไม่ใช่ฐานะที่มีได้

โดย: chatree เวลา: 2015-2-11 11:30
สาธุ

โดย: wan_pens เวลา: 2015-2-18 01:35
อนุโมทนาสาธุ

โดย: tichada เวลา: 2015-2-25 23:33
สาธุค่ะอาจารย์เจนเพราะเคยประสบเหตุการณ์นั้นมาแล้วค่ะหลงผิดที่เข้าไปตามสำนักร่างทรงมาแล้วค่ะหลงผิดอย่างมากแถมเพิ่มกรรมกับพ่อแม่ไว้อีกต่างหากไม่เชื่อที่ท่านห้าม...ขอบคุณมากค่ะอาจารย์เจนที่ให้ความกระจ่าง

โดย: pol เวลา: 2015-3-24 14:16
สาธุครับ

โดย: yupa เวลา: 2015-4-4 15:53
สวัสดีคะ อาจาร์ยเจน ถ้ามีบุญขอให้ชาตินี้ได้เจออาจาร์ย เจนสักครั้งนะคะ ชื่นชอบอาจาร์ยเจนมากคะ
อาจาร์ยเจน ออกมาพูดประกาศตามรายการต่างๆพูดถึงเรื่องบุญบาปทำให้ดิฉันได้มีโอกาศได้ดูได้เห็นได้ฟังทำให้ดิฉันมีสตินึกขึ้นได้หลายๆอย่างว่าคนเราต้องทำดีเเละอย่าประมาทคะ

โดย: yupa เวลา: 2015-4-4 16:13
สาธุ

โดย: yupa เวลา: 2015-4-4 16:27

โดย: พัด เวลา: 2015-8-26 17:14
สาธุค่ะ เป็นความรู้อย่างดีเลยค่ะ

โดย: Prarichat เวลา: 2015-11-9 13:50
สาธุค่ะ

โดย: sunyim เวลา: 2015-11-9 19:18
ขอบพระคุณอาจารย์ที่แนะนำและสั่งสอนคะ. หนูขอนอบน้อมต่ออาจารย์เจนคะ

โดย: behamyw16 เวลา: 2016-2-23 16:52
เป็นคติสอนที่ดีมากๆ ค่ะ

โดย: WhanPatsita@FB เวลา: 2016-5-30 11:08
อยากเจอ อจ เจนอีกค่า สาธุ ๆๆ

โดย: nutvigorn.amo เวลา: 2017-4-3 09:27
สาธุ

โดย: Kulchalit เวลา: 2017-5-7 17:06
อนุโมทนาบุญค่ะ

โดย: nutvigorn.amo เวลา: 2017-6-6 15:23
บทความนี้ดีมาก การรับขันธ์ก็เคยรับ ไม่ใช่ครั้งเดียวรับถึง 3 ครั้งครั้งละ 1,500-2,000 บาทครอบครูก็เคย รวมระยะเวลาก็ 20 ปีเห็นจะได้ ทั้งต้องขึ้นน้ำทุกวัน ขึ้นผลไม้ทุกวันพระถึงเวลาไหว้ครูก็ต้องมีปัจจัยบ้างผลไม้บ้างไปร่วมพิธีกับตำหนักทรง สุดท้ายมีปัญหากับองค์เจ้าสำนัก เอาผีจอมปลวกมาใส่ให้บ้าง ป่วยไปหาหมอ 3 เดือนหาสาเหตุไม่เจอบ้าง การงานทำอยู่ก็ต้องลาออก คนอื่น ๆก็เหมือนกันทำให้ยกแขนไม่ขึ้นบ้าง ต้องเสียเงินเสียเวลา เสียความรู้สึกมาให้เขารักษา โดยก่อนที่จะรับขันธ์องค์เจ้าตำหนักแทบทุกตำหนักมักบอกว่ารับขันธ์แล้วชีวิตจะดีขึ้น ก็ดีขึ้นจริง ๆแต่ 20 ปีถูกหวยครั้งเดียว 10,000 กว่าบาทโดยเจ้าตำหนักเป็นผู้ให้อันนี้ยอมรับว่าเขาให้ได้จริง ๆ แต่รายจ่ายที่ต้องเสียไปกับการรับขันธ์ การนำของขึ้นหิ้ง การที่ต้องลาออกจากงาน การรักษาตัวที่เจ้าตำหนักทำใส่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย การนำปัจจัยมาร่วมพิธีไหว้ครู 20 ปีกับเงินที่ได้จากการถูกหวย 10,000 บาทขาดทุนย่อยยับ ขันธ์ที่รับมาก็เอาไปจำเริญให้พระแม่คงคาเรียบร้อยแล้วและได้ทำบุญส่งให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ ส่วนร่างเจ้าของตำหนักเองชีวิตบั้นปลายกลายเป็นคนจิตวิปลาส ลูกหลานไม่อยู่ด้วย ตายคาบ้านโดยไม่มีใครรู้จนส่งกลิ่นเหม็นเพื่อนบ้านถึงได้รู้ว่าตายแล้ว บทความ อ.เจน ผมอ่านดูแล้วจึงเห็นว่าเป็นความจริงทุกประการ ก็ขอโมทนากับการที่ อ.เจน ได้ให้แสงสว่างในเรื่องความหลงนี้ ใครที่ยังหลงงมงายก็ได้ตาสว่างเสียที ก็ไม่แน่นะบางคนมีกรรมบังอยู่ก็ยังมืดอยู่เหมือนเดิมครับ

โดย: เราเอง เวลา: 2017-8-23 12:50
สาธุนะเธอ

โดย: สามภพ เวลา: 2017-8-26 08:17
อนุโมทนากับเรื่องราวและข้อคิด สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: longcat เวลา: 2020-10-11 00:08
สาธุครับ อาจารย์

โดย: Nontapat เวลา: 2021-12-25 18:46
สาธุครับอาจารย์

โดย: Panu เวลา: 2023-7-9 16:37
อนุโมทนาบุญด้วยครับ

ยินดีต้อนรับสู่ อาจารย์เจน.com (https://xn--82ca5c8ae2d9ab2k1e.com/)