อาจารย์เจน.com
ชื่อกระทู้:
ธรรมมะจากอ. เจน ในงานถือศีลกินเจ 6ตค56 ที่มูลนิธีเทียนฟ้า เยาวราช
[พิมพ์หน้านี้]
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 22:40
ชื่อกระทู้:
ธรรมมะจากอ. เจน ในงานถือศีลกินเจ 6ตค56 ที่มูลนิธีเทียนฟ้า เยาวราช
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-11 09:16
สวัสดีค่ะ
นี่คือบทถอดความจากคำพูดของอาจารย์เจน ในกิจกรรมถือศีลกินเจ ที่จัดขึ้นโดย อ. เจนและทีมงาน ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 ที่มูลนิธีเทียนฟ้า เยาวราช งานนี้ อ. เจนได้นำสวดมนต์บทเจ้าแม่กวนอิมเป็นภาษาจีน นำสมาชิก VIP ของชมรมวิปัสสนาญาณทุกท่าน อธิษฐานจิตขอพรจากพระองค์ท่าน รวมทั้งได้ให้ธรรมมะปิดท้าย
ตอนนี้ดาถอดความธรรมะที่อ. เจนได้กล่าวแก่ผู้มาร่วมงานเป็นตัวอักษรให้ก่อนนะคะ เดี๋ยวหาวิธีนำคลิปเสียงลงได้แล้ว ค่อยลงคลิปเสียงอีกที สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่าน หรืออยากฟังเป็นเสียงมากกว่า
เกริ่นนำเรื่อง
อ. เจนได้บอกคณะผู้กินเจทุกท่านว่าให้สวดมนต์ขอพรจากองค์โพธิสัตว์ และองค์เทพต่าง ๆ ที่เราได้ถือศีลกินเจกันมา ตั้งแต่วันที่ 5 - 13 กันยายน 2556 โดยครั้งแรกที่องค์เทพจะเสด็จมายังโลกมนุษย์คือเที่ยงคืนวันที่ 9 ตุลา เช้าวันที่ 10 ตุลา และวันที่สองคือวันที่ 13 ตุลาคม ดาไม่ได้อัดเสียงไว้แต่ต้น โดยตอนที่เริ่มอัดจะเป็นคำพูดโดยประมาณดังข้อความข้างล่างนี้ค่ะ
"วันที่ 9 ตุลาเป็นวันชุมนุมเทพ โดยเทพจะมาตอนหลังเที่ยงคืน เที่ยงคืนปุ๊ป สวดมนต์เลย ท่านเสด็จมา จะสำเร็จในช่วงนั้น เหมือนท่านจะรับรู้ได้ เขาเรียกว่าญาณวิถี ท่านจะเสด็จมาช่วงนั้น คืนวันที่ 9 เช้าวันที่ 10 โดยสวดมนต์บทไหนก็จะได้ จะเป็นพาหุง ชินนบัญชร คาถาเจ้าแม่กวนอิมได้หมด แต่ถ้าไม่ทันก็เป็นวันที่ 13 เวลาไหนก็ได้ เพราะ 13 เป็นวันสุดท้ายพอดี ก็คือสวดมนต์ ทำความดีถือศีล 8 ก็ได้ ถือศีล 5 ก็ได้ แล้วอุทิศบุญที่ลูกได้ถือศีลทั้งหมด 9 วันนี้ (หรือ 10 วัน เพราะบางคนกินเจ 10 วัน) อุทิศถวายท่าน และขอให้ท่านช่วยเหลือลูกในเรื่องอะไรที่ติดขัด ........... จะคลายแบบเร็วมาก เป็นความลับสวรรค์
วันที่ 13 เวลาไหนก็ได้ ได้หมด เพราะวันสุดท้าย เป็นวันสวดมนต์ของเทพ สาเหตุที่ท่านไม่มาในเวลาปกติ เพราะกลิ่นมนุษย์จะเหม็นสาป มาก จนเทพจะไม่มาเลย โดยจะมาหลังเที่ยงคืน แต่ต้องรู้ฤกษ์ก่อน ถ้าเรารู้ฤกษ์ก็ง่ายเลย ให้จุดธูป ไหว้ และขอในสิ่งที่ติดขัด ซึ่งไม่เป็นกิเลสมาก อย่างบางคนเป็นหนี้ ซึ่งเป็นกิเลศ ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้มีเงินมีทอง แต่อย่าขอให้หมดหนี้ เพราะการขอให้หมดหนี้มันเป็นกิเลศ ดังนั้นเราควรขอให้มีโชคมีลาภ มีเงินทองไหลมาเทมา มีกินมีใช้ไม่อดไม่อยาก ขอการงานถ้าติดขัด ก็ขอให้การงานมั่งคง สัมมาอาชีพเจริญรุ่งเรือง ถ้าเป็นความรักก็ให้เจอกัลยาณมิตร เจอญาติพี่น้อง เจอคนรักที่มีศีล 5 การขอต้องมีปัญญาขอ เพราะถ้าขอแล้วมีกิเลสท่านไม่ช่วย เพราะมนุษย์จะมีกิเลสหนา แต่ถ้าให้ฉลาด บางคนขอสติปัญญา ในการทำมาหากินได้ บางคนขอสมาธิพัฒนา
การขอพรเราต้องอุทิศบุญถวายก่อน ไม่งั้นเราจะติดหนี้สินบุญคุณเทพเหมือนกันที่สมเด็จพระพุทธาจารย์โตได้ตรัสไว้ คือเราไปขอ เราติดหนี้นะ บุญกุศลที่เราทำมาเช่นการไปเทปูน จะถูกดูดไปเลยโดยอัตนโนมัติ แต่ถ้าเราอุทิศถวายก่อน ไม่ติดหนี้เลย ก็คือ อุทิศบุญถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วค่อย ขอพรทีหลัง แล้วจะทำให้อานิสงส์ส่ง เพราะเราทำด้วยใจ
ประตูฟ้าดินตรงวงเวียนโอลเดียนจะมีแผ่นทองเหลือง เหยียบแล้วจะมีพลังตรงนั้น เขาเรียกว่าประตูสวรรค์ หรือเรียกว่า "ตี้"
**** ใครอยากฟังคลิปเสียง คลิ็กลิ้งค์นี้นะคะ ดาลงไว้ให้แล้วค่ะ ****
http://www.xn--82ca5c8ae2d9ab2k1e.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1230&extra=page%3D1
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 22:40
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-6 22:49
การรวมตัวกันในวันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ มีเหตุหมด เพราะพวกเราเคยสวดมนต์ร่วมกันมาแล้วในอดีตชาติ สวดมนต์ร่วมกันและเป็นภาษาจีนด้วย บางคนไม่เคยสวดบทเจ้าแม่กวนอิม แล้วมาสวดที่นี่ ก็สวดกันได้พร้อมเพรียงกันดี เพราะมีเหตุ คือเรามาทำความดีและมาทำกันเยอะ ๆ สิ่งศักดิ์สิทธ์จะเสด็จมา เพราะท่านรับรู้ถึงกลุ่มพลังของมนุษย์ได้ แต่ท่านไม่ได้ลงมาทั้งตัว ท่านลงมาที่รูปปั้น แป๊ปนึง มาไม่นาน ประมาณ 2-3 วินาที แต่อ.เจนรู้ได้ เพราะสัมผัสและมองเห็น แต่ที่รู้สึกประทับใจที่สุด คือเรา(อ.เจน) พาคนไปเทปูน ทำโน่น ทำนี่ แล้วนึกภาพบุญให้ปรากฎในหัวเรา แต่สิ่งที่รู้สึกว่าท่านรับรู้ได้คือ มันเป็นน้ำตาของพระโพธิสัตว์ที่หลั่งออกมานิดนึง ท่านคงซาบซิ้ง เราก็รู้เลยว่า ที่มาเนี่ย เราต้องทำด้วยใจกันนะ อย่างเทปูน หรือการทัวร์บุญที่ผ่านมา เราทำด้วยใจจริง ๆ มันถึงไปถึงพระเนตรพระกรรณท่าน เราก็ไม่คิดเลยว่าพลังบุญจะมีความหมาย และมีอานิสงส์จนเทพถึงกับรับรู้ได้ เพราะการสื่อกับเทพไม่ใช่เรื่องเล่น และไม่ได้สื่อกันง่าย ๆ ต้องทำความดี นี่กว่าจะสื่อได้ เมื่อวาน อ. เจนได้ถือศีล 8 มา ถึงจะสื่อได้ เพื่อให้งานสมบูรณ์ไม่งั้นสื่อไม่ได้ ต้องมีศีลบริสุทธิ์มาก
มีผู้หญิงท่านหนึ่งได้ไถ่ชีวิตโคกระบือและอนุโมทนาบุญ อ. เจนเลยกล่าวอนุโมทนาและพูดว่า การปล่อยโคกระบือ ให้ชีวิตเขาเป็นอิสระ ชาติหน้า เราจะไม่ถูกใช้แรงงาน และไม่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ถ้ามีโอกาส อ. เจนอยากให้มาร่วมบุญกันอีก เพราะอยากให้ทำความดี และเกาะกลุ่มความดีไว้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้มารมาเข้าสิงจิตใจมนุษย์กันเยอะ เพราะมนุษย์เกิดความเห็นแก่ตัว มีกิเลส โลภ โกรธ หลง การทำความดีเป็นสิ่งที่เอาไปได้ อย่างอื่นเอาไปไม่ได้ สิ่งที่เคยผิดพลาดมาในอดีตให้ทิ้งไปเพราะนั่นคืออดีต ให้อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้ผ่านไป อ. เจน เชื่อในความดี และเห็นคนที่มีชีวิตแย่มาตั้งแต่เด็ก เขาเปลี่ยนชีวิตมาหลายคนแล้ว เพราะความดีเนี่ยแหละมาช่วย นี่คือเรื่องจริง ขอให้เชื่อ และศรัทธาในบุญอย่างเดียว และก็พยายามสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิมาก ๆ หน่อย เพราะดูจาก ลักษณะแต่ละคนไม่ค่อยนั่งกัน นั่งกันนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วถอน คือไม่มีขันติ ไม่มีความอดทน คือนั่งพอเริ่มปวดหน่อยอะไรหน่อยก็ถอนแล้ว นี่คือความไม่ขันติ ไม่พยายาม ไม่วิริยะ อุตสาหะ ถ้าจะนั่งให้ดี แนะนำให้อุทิศบุญ แผ่เมตตา ให้ตนเองก่อน แล้วลองนั่งดู มันจะทำให้ร่างกายเนี่ย นั่งได้ดีขึ้น (อะหังสุขิโตโหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข - บทแผ่เมตตาให้ตนเอง)
แต่เวลาเราจะอุทิศบุญอะไรก็แล้วแต่ บุญเนี่ย เราต้องเบิกมาก่อนแล้วค่อยอุทิศ เช่นว่า เมื่อเช้านี้เราใส่บาตร แต่ตอนมืดเรามากรวดน้ำ บุญมันไปรอ บนวิมานหมดแล้ว เราต้องอุทิศบุญ โดยการตั้งนะโมตัสสะ 3 จบ ด้วยอำนาจแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ลูกขออุทิศบุญถวายอะไร อย่างนี้ได้ แต่ถ้าในกรณีทำบุญแล้วเราอุทิศทันทีเลย อันนั้นได้ เช่นว่า เมื่อเช้านี้เราไปถวายสังฆทาน บุญมันปิติขณะเกิดตรงนั้นเราสามารถให้ได้เลย แต่ในกรณีบางคนตื่นเช้ามาพระสงฆ์ใส่บาตร พระสงฆ์กลับไปยังไม่ได้ฉันภัตตาหาร ให้พระสงฆ์ฉันก่อนถึงจะอุทิศได้ ไม่งั้นญาติพี่น้องที่เราอุทิศให้จะไม่ได้รับเป็นอาหารทิพย์ จะได้รับเป็นแค่ลมผ่านมาเท่านั้น เมื่อเช้าเราใส่บาตรปุ๊ป เรามักจะกรวดน้ำแห้งกันเลย ญาติพี่น้องเขาจะได้รับเป็นแค่ลมเย็น ๆ ผ่านมา แต่ถ้าพระท่านฉันภัตตาหารที่เราถวายแล้วเนี่ย และเราอุทิศอีกทีหนึ่ง เราก็กะเวลาเลยว่าพระน่าจะฉันช่วงเก้าโมง เราก็กรวดน้ำอีกทีหนึ่ง แล้วญาติพี่น้องที่เราอุทิศไปให้เนี่ย เขาก็จะได้รับเป็นอาหารทิพย์ อันเป็นเทคนิค คนไม่รู้กัน
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 22:41
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-6 23:08
การอุทิศบุญ บ่าย กลางคืน มืด ทำได้หมด เพราะเราสามารถเบิกบุญเพื่ออุทิศได้ แต่ถ้าตอนเช้าเราปิติ เราสามารถอุทิศได้เลย แต่ในกรณีใส่บาตรเท่านั้น (ที่ควรรอให้พระฉันภัตตาหารเสียก่อน) แต่ถ้าเป็นสังฆทานเนี่ย ได้ทันทีเลย เป็นของทิพย์
มีคนถามว่าในกรณีที่พระท่านไม่ได้ฉันอาหารของเรา เพราะอาหารมีเยอะ อ. เจนกล่าวว่า ไม่เป็นไร เราตั้งจิต เราได้แล้ว ท่านไม่ฉัน หรือฉัน เราก็ได้แล้ว ได้เต็ม ๆ เลย เพราะว่าท่านจะสวดอุปโลกอาหาร ซึ่งจะมีพิธีของสงฆ์เรียกว่าสังคายกรรมของสงฆ์ สวดก่อนแล้วท่านถึงจะฉัน
แต่วันนี้เรามาถือศีลกินเจ เวลาเราสวดมนต์ไหว้พระอยู่บ้าน อย่าลืมอุทิศบุญให้กับเทพประจำตัว เทวดาประจำตัว บางคนมีเทวดานะ ไม่ได้มีแต่เทพ บางคนก็มีแต่เทพ บางคนก็มีแต่เทวดา ให้บอกว่า เทพ เทวดาที่รักษาตัวข้าพเจ้าอยู่หรือรักษากายสังขารของข้าพเจ้า จงอนุโมทนาในกุศลที่เราทำความดี ............. จำไว้เวลาเราอยากให้เทวดาช่วยเหลือ เวลาเราตื่นสาย เทวดาสามารถมาปลุกเราได้ เทวดามาเตือนว่าให้นั่งสมาธิ ช่วยได้นะ เราต้องบอก ท่านว่า ถ้าท่านได้รับบุญแล้วขอให้ท่านเมตตามาตักเตือนลูก ............... ต้องบอกท่านอย่างนี้ ไม่งั้นท่านก็ไม่รู้หรอก ว่าให้มาช่วยอะไร หรือในกรณีลูกดื้อ ก็ให้บอกว่าอุทิศบุญถวายเทวดาประจำตัวลูก ขอให้เทวดาประจำตัวลูกมาตักเตือนให้ลูกไม่ดื้อหรือเชื่อฟัง เป็นเด็กดี อะไรก็ว่าไป พวกนี้เป็นเทคนิคหมดเลย ซึ่ง อ. เจนรู้จากการนั่งสมาธิ
ดังนั้น เราสามารถบอกเทวดาให้ช่วยเราได้ด้วยนะ สมมุติตอนนี้เราตกงาน เราเป็นหนี้ ก็ขอให้เทวดาช่วยเมตตาให้ลูกมีหนทางที่จะปลดหนี้สินได้ หรือการงานไม่เข้า ขอให้เทวดามาช่วยให้การงานเข้า เทวดาจะช่วยได้ต่อเมื่อเขามีแสงแห่งบุญ เราต้องให้แสงท่านทุกวัน สวดมนต์หมื่นบท ให้แสงท่านได้คืออุทิศบุญ ต้องอุทิศบุญถวายเทวดา และตนเอง เจ้ากรรมนายเวร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้หมดเลย แต่ถ้าเราให้เยอะ บุญมันกระจาย บางคนให้เป็นกระดาษเอสี่นะ คือเยอะมาก สัตว์ ตั้งแต่ มด ปลวก ลวก ไร อะไรเต็มไปหมด คือถ้าให้เยอะจะกระจาย แต่ถ้าเราทุกข์เรื่องอะไร ให้เจาะจงเรื่องนั้นเลย เช่น ทุกข์เรื่องการงาน ให้เจาะจงเลยว่าให้เจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ถ้าทุกข์เรื่องความรัก คือ ให้เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังรบกวนเรื่องนี้อยู่ แล้วบุญจะไม่กระจาย ถ้าเราทุกข์สุด ๆ เลยนะ แต่ถ้าเรายังสบาย ๆ ชิล ๆ ก็อุทิศโดยทั่วไป โดยรวม
วิธีการเบิกบุญ
ตั้งนะโมตัสสะ 3 จบ ด้วยอำนาจแห่งคุณพระพุทธ ด้วยอำนาจแห่งคุณพระธรรม ด้วยอำนาจแห่งคุณพระสงฆ์ ข้าพเจ้า ..................(ชื่อ-นามสกุล) แล้วค่อยบอกว่า บุญกุศลที่ทำอะไรมาในอดีต หรือปัจจุบันก็ได้ บุญยิ่งให้ยิ่งได้ ไม่หมด จำไว้นะ บางคนบอกว่า กลัวบุญจะหมด ตายแล้วให้เสียเยอะ บุญเหมือนคบเพลิง ยิ่งจุดยิ่งสว่าง ไม่ต้องกลัวหมด อ. เจนอุทิศบุญต่อวันมากหลายรอบ ไปไหนก็อุทิศให้หมด ให้จนชีวิตไม่มีความทุกข์ แต่ถ้าบางคนที่ยังทุกข์อยู่ แสดงว่าชีวิตมีอะไรที่ติด ๆ ขัด ๆ อยู่ บางคนก็สุขภาพไม่ดี แต่ถ้าใครสุขภาพไม่ดี ให้จุดธูปไหว้เจ้าแม่กวนอิม บอกว่า ขอให้ธูปนี้ไปละลายโรคของข้าพเจ้า ด้วยอานิสงส์แห่งการทำความดี ขอพระโพธิสัตว์รับรู้ ให้จุดธูปบอก มันจะช่วยได้ เพราะว่าจุดธูปแล้ว ต้องบอกให้ท่านรู้ด้วย เพราะแสงไฟจากธูปจะช่วยได้
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 22:41
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-6 23:28
มีคนถามว่าการเบิกบุญ สามารถเบิกได้หลายครั้งไหม อ. เจนกล่าวว่า เบิกบุญเพื่ออุทิศ ไม่มีวันหมด เบิกหลายครั้งได้ แต่ถ้าเบิกบุญมาช่วยเรื่องอะไร เช่นเราเบิกบุญมาช่วยเรื่องการงาน บุญหมด เพราะถูกดูดมาใช้เหมือนบัตรเอทีเอ็ม แต่ถ้าดูดมาเพื่ออุทิศไม่หมด ถ้าเบิกมาช่วยจะหมด สมมุติว่าพูดว่า ข้าพเจ้าขอเบิกบุญนี้มาช่วยให้ข้าพเจ้าได้งานทำ บุญหมดเลย จะเหลือนิดเดียว แต่ถ้าบุญนี้อุทิศให้เทพ เทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บุญจะยังอยู่ ยิ่งเพิ่มเป็นดอกเบี้ย
มีคนถามว่าเวลาอุทิศนี่ควรคิดในใจ หรือส่งเสียง อ. เจนกล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ส่งเสียงดีที่สุด การส่งเสียงนี่คือเทพเทวารับรู้ และในกรณีเราสวดมนต์ส่วนใหญ่คนจะสวดบทพาหุงมหากา ชินณบัญชร เวลาอยู่บ้าน ในกรณีที่สวดพระคาถาเหล่านี้ แล้วบ้านไหนมีผีบ้านผีเรือน เพราะบางบ้านก็มี บางบ้านก็ไม่มี บางครั้งเขาร้อนเขาอยู่ไม่ได้ แล้วบ้านเราคนจะทะเลาะกัน ดังนั้นเวลาเราจะสวดพระคาถาเหล่านี้ ต้องบอกว่า บัดนี้ ข้าพเจ้า จะสวดพระคาถาแบบนี้ บางครั้งอาจจะไปทำร้ายท่านได้ เราอาจจะไม่รู้ ขอให้ท่านออกไปชั่วคราวก่อน ต้องพูดอย่างนี้นะ ไม่งั้นบ้านมันร้อน พาหุง มหากา คาถาโพธิบาท บูรภารัสมิง พระพุทธคุณนัง อิมัสสิมงคลจักรวาลทั้ง 8 ทิศ คาถาพวกนี้ปัดเป่าหมดเลย กระจายเป็น 8 ทิศเลยนะ อยู่บ้านไม่ได้เลย ผีบ้านผีเรือน บางทีเราเปิดเทปธรรมะนั้น บางตนก็ฟังได้ บางตนซึ่งเป็นผีไม่ดี ก็ฟังไม่ได้ เราไม่รู้ว่าบ้านเรามีอะไร เราพูดไว้ก่อนก็ดี ป้องกันไว้ก่อน แต่ถ้าบ้านเรามีอะไรดีก็ดีไป แต่ถ้าไม่ดีเราก็ไม่รู้ เพราะเรามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ฉะนั้น เราพูดก่อนก็จะดี
ในกรณีที่ชีวิตเรามีอุปสรรคนั้น มันเกิดจากกรรมในอดีตชาติส่วนหนึ่ง บวกกับกรรมในปัจจุบันชาติส่วนหนึ่ง มันรวมกันเป็นลูกตุ้ม อกุศลกรรมชั่วที่เราทำมา มันทำให้ชีวิตเราติดขัด ถ้าเราอยากให้อกุศลกรรมชั่วมันละลายหายสิ้นไป ให้แผ่เมตตาอุทิศบุญบ่อย ๆ ทำความดีนิดนึง เช่นว่า เราสวดมนต์ เราจูงคนแก่ข้ามถนน หรือ เราให้อาหารสุนัข นิดเดียวก็ให้เราอุทิศเลย ให้เรื่อย ๆ ๆ แล้วเขาจะสลายเลย เขาจะไม่โกรธเรา อ่อนข้อลงไป เหมือนเราเอาไม้ไปตีหัวนาย ก. แต่นาย ก. ไม่ยอมอโหสิกรรม เราต้องให้เรื่อย ๆ เขาจะอ่อนข้อ ให้ทั้งมนุษย์และสัตว์เพราะเราไม่ได้มีเจ้ากรรมนายเวรแต่ที่เป็นมนุษย์ สัตว์ด้วย สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เคยเบียดเบียนเข่นฆ่า ให้เรื่อย ๆ ถ้าทำแบบนี้ ชีวิตจะเปลี่ยนไปเร็วมาก มันเปลี่ยนแบบพลิกเลยนะ คือ อุทิศบุญเรื่อย ๆ
เราอุทิศบุญส่วนใหญ่ วันละครั้ง วันนึงจบแล้ว รอบหนึ่ง ต้องหลาย ๆ รอบนะ แต่ต้องมีบุญนะ ไม่ใช่ว่าไม่มีบุญ ไปให้เขาไม่ได้นะ เขามาแล้วเขาจะโกรธเลยนะ เรียกเขามา เขาเอาภาชนะมารับบุญแล้ว ไม่ได้เลยนะ ต้องมีบุญ เช่นสวดมนต์ ทำทาน ให้อาหารสุนัข ถือศีล อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ พูดธรรมมะ หรือว่าฟังซีดี แจกซีดีธรรมมะ ถ้าใครมีกรรมหนัก ๆ แนะนำถ้าจะให้หายเร็ว ให้แจกซีดีธรรมมะหรือบทสวดมนต์บ่อย ๆ และอธิษฐานเลย ด้วยอานิสงค์แห่งการให้ธรรมมะเป็นธรรมทานนี้ ขอให้เทวดารับรู้ และขอให้สิ่งที่ไม่มีติดขัดอยู่ จงมลายหายสิ้น เพราะอานิสงส์ของการให้ธรรมทานสูงมาก สูงกว่าทานทั้งปวง ในระดับของทาน ถ้าจะให้ดีคือทำทานด้วย รักษาศีลด้วย มันจะผลักดันให้วิปัสสนาเจริญก้าวหน้า แต่ที่เรานั่งกันไม่ได้เนี่ย ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ศีลเราไม่ครบ หรือแค่เราไปคิดว่าจะว่าเขา แค่คิดนะ เป็นกรรมแล้วนะ ถ้าศีลไม่ครบนะ นั่งสมาธิยังไงก็ไม่พัฒนา ลองสังเกตเลย ถ้าศีลครบนะ นั่งนะ ดิ่งเลย มันจะพัฒนาเข้าสู่ ตอนแรกเป็นแค่สมถะภาวณา จะเข้าสู่วิปัสสนาภาวณาเร็วมาก แต่ศีลไม่ครบกันไงคะ ก็แสดงว่าพวกเราอาจจะมีข้อใดข้อหนึ่งที่ผิดกันมา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 22:46
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-6 23:51
มีคนถามว่า ถ้าเราสวดมนต์เสร็จแล้วค่อยแผ่เมตตา อ. เจนตอบว่า ใช่ ให้สวดมนต์ก่อนแล้วค่อยอุทิศ แต่อุทิศเนี่ย ส่วนใหญ่ เราจะให้คนอื่นก่อน แต่แนะนำว่าควรให้ตนเองก่อน เราไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ แต่เหมือนเราว่ายน้ำ เราว่ายไม่แข็ง แต่เราจะไปช่วยคนอื่น ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ไม่ได้เห็นแก่ตัว บุญไม่หมด ให้ตัวเองก่อน พอตัวเองแข็งแรงเนี่ย ทีนี้เราอุทิศให้ผู้อื่น เราจะมีกำลังพุทธานุภาพมาก เพราะจิตตอนแผ่เมตตาก่อนเนี่ย จิตจะมีพุทธานุภาพมากกว่าเรากรวดน้ำทันทีเลย แต่การกรวดน้ำมีสองวิธีคือ การกรวดน้ำโดยใช้จิต ใช้น้ำจิต น้ำใจกรวด ไม่ต้องใช้น้ำก็ได้ แต่ถ้าใช้น้ำต้องบอกในกรณีว่า ขอฝากพระแม่ธรณี พระแม่คงคา เป็นทิพยพยาน แต่ถ้าไม่ใช้น้ำไม่ต้องพูด แต่ถ้าใช้น้ำต้องพูดเพราะว่าบุญมันตกหล่นได้ ทางโน้นคือโลกนรก บางครั้งก็ผิดพลาด ส่งไปไม่ถึงญาติ อย่างนี้ก็มี ชื่อซ้ำกันก็มี ดังนั้นเราจึงต้องฝากพระแม่ธรณี พระแม่คงคาเป็นทิพยพยาน เพื่อไม่ให้ตกหล่น สำหรับตอนใช้น้ำนะ แต่ถ้าไม่ใช้น้ำให้ใช้จิต จิตตั้งมั่น แต่ถ้าจะกรวดน้ำแล้วให้ไปถึงเร็ว ส่วนใหญ่เวลากรวดน้ำ เรามักจะรีบกรวด แล้วรีบสวดมนต์ อันนี้ นกแก้วนกขุนทอง ดังนั้นก่อนอุทิศบุญ จำไว้ว่า ให้ใช้จิตนิ่งก่อน หลับตานิดนึง แล้วค่อยอุทิศ มันจะได้อานิสงส์เต็ม ๆ เลย เจ้ากรรมนายเวรจะได้เต็ม ๆ เลย ที่เราส่งบุญไปไม่ถึง เพราะว่าจิตเรามีกิเลส ขณะเรากรวดน้ำ เช่น รีบ ๆ กรวดไปก่อน จะรีบไปทำงาน รีบ ๆ กรวดเดี๋ยวจะไปนอนแล้ว ง่วงแล้ว กิเลสมันเกิดตอนนั้นไง มันถึงได้ไปไม่ถึงไงคะ บุญมันเหมือนจะไปแล้ว เขาจึงได้ความสุขแป๊ปเดียวเอง แล้วเขาก็ทุกข์เหมือนเดิม เพราะว่าเจ้ากรรมนายเวร จะได้รับความสุขเป็นอาหารทิพย์ เสื้อผ้าทิพย์ และความสุข คนที่อยู่ชั้นล่างพวกเปรต อสุรกาย เปลี่ยนภพภูมิได้ แต่ถ้าเป็นเทวดาจะมีแสงมากขึ้น เทวดาเขาไม่วัดกันที่เสื้อผ้า เขาวัดกันที่แสง เรายิ่งให้เทวดา เทวดาก็จะยิ่งแสงเพิ่ม ๆ อย่างเจ้าแม่กวนอิมเนี่ย แสงเยอะ หลายสี หลายชั้นคือ ท่านโปรดสัตว์ ตั้งแต่สามชั้นนั้น คือ มนุษย์ ข้างบน และข้างล่าง โปรดสามโลกเลย ถึงบอกว่าที่มาที่นี่ (มูลนิธิเทียนฟ้า) เพราะว่าพระโพธิสัตว์ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งเมตตาอันสูงมาก ดังนั้นเนี่ย เรากลับไป จะได้ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ เพราะท่านเมตตามนุษย์ และเวไนยสัตว์ที่มีความทุกข์ทั้งหลาย ให้หมดสิ้น ท่านถึงไปนิพพานไม่ได้ เพราะท่านยังโปรดไม่ครบ เพราะสัตว์มีทุกข์กันนับไม่ถ้วนเหมือนเม็ดกรวดเม็ดทราย มันเยอะ ซึ่งท่านก็รับรู้ แต่ถ้ามนุษย์คนไหนทำดี พระโพธิสัตว์จะช่วยสนับสนุนมาก วันนี้เราถึงได้มารวมกันเพื่อสวดมนต์
ใจเป็นใหญ่ อย่างอื่นเป็นรองหมด ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว อย่างเราไปเทปูน แม้ฝนจะตกยังไง แต่ใจ อ. เจนรู้ตั้งใจ ยังไงก็จะเท มันก็ได้เทเพราะใจมันใหญ่ จนเทพสั่นสะเทือนต้องหยุดฝนให้ แล้วเชื่อไหม ว่าเหตุการณ์ในวันนั้น คือ มีขณะหนึ่งเดินทางกลับก่อน ขณะที่กำลังเทปูนกันอยู่ เขาก็ออกไปเลย เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพ เขาบอกว่าตรงวัดน่ะไม่ตก แต่พอออกไปนอกวัดฝนตก เขาก็เลยงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนกับแค่เขตวัดเท่านั้นเองที่ฝนไม่ตก
ดังนั้นถึงได้บอกว่า ความดีนั้น สวรรค์รับรู้ ไม่ต้องบอกท่านก็รู้ เทพ เทวดา ฟ้าดิน มีจริง ขอให้ทำดีเท่านั้นก็เพียงพอ และกตัญญูต่อพ่อแม่นี่สำคัญ ไม่ใช่ว่าทำดีแต่ตัว แต่พระอรหันต์ก็ช่าง ไม่ได้เลย พระอรหันต์สำคัญ เป็นพระในบ้าน ที่เราไม่เจริญเพราะเราติดกรรมกับพระอรหันต์กันเกือบทุกคน เช่นการเถียงพ่อเถียงแม่ ดังนั้น เราต้องทำความดี ถ้าไม่อยากติดกรรมกับพ่อแม่ ให้พยายามชักชวนพ่อแม่ ไปทำดี ทำบุญอะไรก็ได้ แล้วชีวิตเราจะเปลี่ยนเลย ให้ทำบุญกับพระอรหันต์ให้ได้แล้วกัน ถ้าทำได้ชีวิตเปลี่ยนนะ ลำดับที่หนึ่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา รองมา ครูอาจารย์ รวมถึงครูที่สอนเราด้วยทุกคน เวลาเราจะทำบุญอะไรให้ถวายบุญให้พระพุทธเจ้าด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอารย์ เทพ เทวา พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-6 23:08
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-6 23:59
เจ้าที่ กับผีบ้านผีเรือนไม่เหมือนกันนะ เวลาเราจะอุทิศบุญให้บอกว่า เจ้าที่เจ้าทางที่อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพเจ้า รวมทั้งผีบ้านผีเรือน สัมภเวสีที่อยู่ใกล้ และอยู่ไกล เวลาเราให้ บุญจะกระจายไปถึงหมดเลย
ถ้าบ้านคนไหนอยู่แล้วไม่ค่อยมีโชค ให้บอกให้ผีบ้านผีเรือนเปิดทางให้เรามีโชคมีลาภ จะมีโชคเข้ามา ไม่ต้องไปจัดฮวงจุ้ยเลยให้เสียตังค์ อย่างคนทำงานอยู่กับอินเตอร์เนต ให้บอกว่า บุญที่เราอุทิศให้นี้ ขอให้ท่านเปิดทางทั้ง 10 ทิศ ขอให้มีโชคมีลาภ เงินทองไหลมาเทมา จะคลายหมด
แต่บุญเนี่ย จำไว้ว่า ทำความดีอุทิศบุญบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวหมด แต่ต้องทำดีก่อนนะ แล้วมันจะทำให้ชีวิตเนี่ยคลาย ความทุกข์ก็จะหมดเร็ว มันก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ ตามมาเยอะแยะเต็มไปหมด ต้านไม่อยู่ เหมือนก้อกน้ำเวลาเปิดมา น้ำจะไหลแรง ไม่มีสิ่งใดไปอุดตัน ที่เรามีอุปสรรคนี้เพราะว่าเราอาจจะทำบุญกันถูกนี่แหละ แต่อาจจะไม่ถูกขั้นตอนของการสร้างบุญ เพราะเรายังมีกิเลสไง เพราะทำบุญส่วนใหญ่ ก็จะหวังผลกัน มันต้องมีหวังบ้างแหละ ทำบุญก็หวังให้อะไรสำเร็จสักอย่าง บางคนบอกว่า อยากขายที่ให้สำเร็จ บางคนก็อยากจะขายบ้าน บางคนอยากจะให้ได้งาน นี่คือกิเลสไง พอเราพูดถึงกิเลสปุ๊ป เขาจะไม่ค่อยให้หรอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อ. เจน โดยส่วนตัวจะอธิษฐานว่า "ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ ปราศจากความทุกข์ทั้งปวง" ครอบคลุมหมดเลย ทีเดียว ข้อเดียวจบเลย
ขอโมทนาบุญแก่ทุกท่าน ทั้งที่ได้ไปร่วมงาน และที่ไม่ได้ไปด้วยค่ะ
โดย:
narutogetbird
เวลา:
2013-10-6 23:10
ว้าวๆๆๆๆๆ ขออนุโมทนาสาธุครับ นี่ก็เดี๋ยวจะอาบน้ำแล้วก็นั่งสมาธิก่อนนอนครับ
โดย:
Aonza
เวลา:
2013-10-6 23:14
มาเล่าเรื่องไวมากๆ ครับ อนุโมทนา สาธุครับ
โดย:
fon
เวลา:
2013-10-6 23:31
สาธุในธรรมทานค่ะ นำไปใช้ประผผโยชน์ได้มากเลยค่ะ
โดย:
YuiYui
เวลา:
2013-10-6 23:38
อนุโมทนาบุญกับธรรมมะที่นำมาเผยแพร่ ถอดเทปได้เร็วมากค่ะ สดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ขอบคุณค่ะ
โดย:
anyani
เวลา:
2013-10-7 01:03
ขอบคุณมาก ๆ คะ คุณดา ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ ไปไม่ทันแต่ยังได้รับรู้เรื่องราวดี ๆ
โดย:
firsty
เวลา:
2013-10-7 01:10
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
ขอบคุณมากๆนะคะ
โดย:
PremsineeSu@FB
เวลา:
2013-10-7 03:33
อนุโมทนาสาธุค่ะ
โดย:
Tumboon
เวลา:
2013-10-7 07:48
อนุโมทนา.......สาธุครับ...ขอบคุณมากๆเลย
ที่ถอดความแล้วเขียนเป็นธรรมทานครับ
โดย:
rungrote
เวลา:
2013-10-7 08:27
อนุโมทามิ สาธุ
โดย:
berry
เวลา:
2013-10-7 09:27
อนุโมทนาสาธุ
โดย:
puka
เวลา:
2013-10-7 09:49
อนุโมทนา สาธุ สมาชิกทุก ๆ ท่านที่ได้ไปร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ ส่วนตัวดิฉันเองไปไม่ได้เพราะติด
งานบุญใหญ่ ทำบุญป๊ากับแม่ประจำปี รวมญาติพี่น้อง,ลูก,หลาน,เหลนมากันครบถ้วนทั่วทุกคนเลยค่ะ
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโอกาสหน้าจะได้ร่วมทำบุญกับอ.เจนพี่รุ้งและทีมงานทุก ๆ ท่านค่ะ
โดย:
อุ๋ยจ้า
เวลา:
2013-10-7 10:01
อนุโมทนา..สาธุคะ รวดเร็วทันเหตุการณ์จริงๆเลยคะ เป็นธรรมทานที่ดีมากคะ
โดย:
PIMKALAYA
เวลา:
2013-10-7 10:28
ขอบคุณค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
โดย:
sweetierain
เวลา:
2013-10-7 10:32
สาธุ อนุโมทนาบุญนะคะ เด๋วจะค่อยๆอ่านให้ละเอียดค่ะ
โดย:
snovy
เวลา:
2013-10-7 10:39
อนุโมทนาบุญที่มาถ่ายทอดให้ทราบค่ะ ได้ความรู้อย่างมาก จะนำไปปฏิบัติตามค่ะ
โดย:
Ganoksri
เวลา:
2013-10-7 11:01
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เป็นความรู้มาก ๆ ค่ะ
โดย:
taroman04
เวลา:
2013-10-7 11:19
ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
โดย:
เกศสิรี
เวลา:
2013-10-7 11:30
โมทนาบุญด้วยนะค่ะ คุณดาที่นำคำพูด อ.เจน มาเขียนเป็นข้อความให้พวกเราได้อ่าน ได้รู้เป็นวิทยาทาน สาธุ ด้วยค่ะ
โดย:
Blueskyyayw@FB
เวลา:
2013-10-7 13:10
สาธุอนุโมทนาด้วยค่ะ
โดย:
โชติรส
เวลา:
2013-10-7 13:14
เยอะมากเลยค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
โดย:
Padma
เวลา:
2013-10-7 13:53
ขอบคุณ คุณดา มากมากค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-7 14:03
โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ ตอนแรกที่ดากลับถึงบ้านหลังจากไปร่วมงานในครั้งนี้ ก็คิดว่าจะทำธุระอย่างอื่นแล้วนอน โดยจะลงถอดความวันหลัง แต่นึกไปนึกมา ก็เปลี่ยนใจ ตัดสินใจลงข้อความเลย เพราะเชื่อว่าท่านที่ไปด้วยกันในวันนั้น ก็คงอยากได้อ่าน/ได้ดูเร็ว ๆ หรือท่านที่ไม่ได้ไป ก็จะได้สามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน
ท่านที่ทานเจ (หรือไม่ได้ทานก็ตาม) ในปีนี้ ถ้าไม่ติดขัดอะไร ลองทำตามคำแนะนำที่อาจารย์เจนได้กล่าวไว้ดูนะคะ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่เราจะรู้หนทางปฏิบัติที่ถูกที่ควร ในช่วงวาระเวลาที่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้ถ้ารู้แล้ว ก็อยากให้นำข้อความนี้ ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันกันค่ะ
ขอโมทนาสาธุแก่ทุกท่านค่ะ
โดย:
Athithakorn_P
เวลา:
2013-10-7 14:06
อนุโมทนา สาธุ
โดย:
นายนกฮูก
เวลา:
2013-10-7 14:15
ขออนุโมทนาบุญกับน้อง dakanyapat ด้วยน่ะครับ เพราะคนหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ยินเสียงอาจารย์
รวมถึงตัวผมด้วยอ่ะครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยน่ะครับ
โดย:
คุณย่า
เวลา:
2013-10-7 14:19
สาธุกับธรรมทานด้วยค่ะคุณดา เป็นประโยชน์มากค่ะ
โดย:
จุมพล
เวลา:
2013-10-7 16:00
สาธุอนุโมทนาด้วยครับ
โดย:
jittima_d
เวลา:
2013-10-7 16:30
ดีมากเลยค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
โดย:
mitr
เวลา:
2013-10-7 17:57
ขอบคุณมากนะครับ ที่ได้นำคำพูด และเรื่องราวในวันไปที่มูลนิธิ ของอาจารย์เจนมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับหลายๆท่าน ที่ไปแล้วไม่ได้ยิน และทุกท่านที่ไม่ได้ไป ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
โดย:
jengsyber
เวลา:
2013-10-7 19:04
ขอบพระคุณมากๆเลยครับ ผมก็พยายามตั้งใจฟังแต่ก็สู้เสียงรบกวนไม่ไหว ได้มาอ่านเพิ่มเติมแบบนี้รู้สึกดีใจมากๆเลยครับ
ขออนุโมทนาสาธุครับผม
โดย:
rungrote
เวลา:
2013-10-7 19:34
สาธุ อนุโมทามิ
โดย:
jeejy
เวลา:
2013-10-7 20:12
ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานนะค่ะ สุดยอดมากๆๆๆ ค่ะ ถอดเทปได้ละเอียดยิบ เป็นประโยชน์ได้มากๆเลยค่ะ
โดย:
ภุชงค์
เวลา:
2013-10-7 21:14
อนุโมทนา สาธุ ครับ
โดย:
Pojja
เวลา:
2013-10-7 22:42
อนุโมทามิ สาธุ
โดย:
wario
เวลา:
2013-10-8 01:05
ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่นำมาเผยแพร่เป็นความรู้ให้ทุกคนค่ะอนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านที่มีโอกาสไปร่วมสวดมนต์กับอาจารย์เจนค่ะ
โดย:
EMERALD
เวลา:
2013-10-8 07:28
ขอบคุณมากค่ะคุณดา ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
โดย:
วิสุทธิ์ดวง@FB
เวลา:
2013-10-8 07:30
อนุโมทนา สาธุครับ
โดย:
panuwat
เวลา:
2013-10-8 13:35
อนุโมทนา สาธุครับ
โดย:
momtobe
เวลา:
2013-10-9 03:21
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอบคุณที่นำมาเล่าแบ่งปันกันค่ะ
โดย:
ChayapaMane@FB
เวลา:
2013-10-9 05:54
อนุโมทนา สาธุค่ะ ใจอยากไป ไม่ได้ไปติดภาระกิจ
โดย:
pedfon
เวลา:
2013-10-9 08:35
ขอขอบคุณคุณดาที่ช่วยบันทึกเสียงและนำมาเผยแพร่ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ
โดย:
gina
เวลา:
2013-10-9 08:49
อนุโมทนาบุญ สาธุ ค่ะ
โดย:
narutogetbird
เวลา:
2013-10-9 23:38
คืนนี้แล้วนะครับ
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-10 07:02
มีใครได้สวดมนต์หลังเที่ยงคืนของวันที่ 9 เช้าวันที่ 10 ตามที่อ. เจนแนะนำบ้าง ไหมคะ
เมื่อคืนดาถึงบ้าน รีบนอนเลย นอนตอนประมาณ สองทุ่มครึ่ง พยายามข่มตาให้หลับให้ได้ และตั้งนาฬิกาปลุกตอนห้าทุ่มสี่สิบห้า เพื่อจะมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนนอนยังได้อธิษฐานว่าขอให้เทพ เทวดาประจำตัวโปรดเมตตามาช่วยปลุกด้วย เพราะกลัวไม่ตื่น เนื่องจากปกติ นาฬิกาปลุกทำอะไรดาไม่ค่อยได้จริง ๆ ค่ะ ต่อให้ตั้งไว้ไกลแค่ไหน ตื่นขึ้นมาเดินไปกด แล้วก็กลับมาหลับต่อได้อย่างไม่ขาดตอน
ผลก็คือ ประมาณห้าทุ่มครึ่ง ตื่นเลยค่ะ ปวดซี่โครงด้านหนึ่ง ปวดแบบนอนต่อไม่ได้เลย ปวดจนรู้สึกตัว ต้องลุกขึ้นมานั่ง และก็เลยเตรียมตัวสวดมนต์ แต่ตอนสวดมนต์ก็ปกติดีทุกอย่าง จนสวดมนต์นั่งสมาธิเสร็จ กลับไปนอนตามเดิมก็ไม่ได้เจ็บแล้ว
ดาเลยได้ค้นพบว่า เป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่งเลย คือ กลับบ้านมานอนเลย แล้วตื่นมาสวดมนต์ ข้อดีคือ เราจะไม่ง่วง จากการทำงาน การใช้ร่างกายมาทั้งวัน เพราะปกติเวลาสวดมนต์ตอนกลางคืน ดาจะสวดไปหาวไป ด้วยความเพลียค่ะ แต่พอได้นอน แล้วตื่นมาสวดมนต์ กลับไม่เพลียเลยสักนิด สวดมนต์ นั่งสมาธิเสร็จประมาณเกือบประมาณตีสอง ก็กลับไปนอนต่อ ตื่นมาประมาณ 6 โมงเช้า ไม่มีอาการง่วงแต่ประการใด
ท่านใดได้ลองสวดมนต์แล้ว ลองมาแชร์กันนะคะ
โมทนาสาธุแก่ทุกท่านด้วยค่า
โดย:
pedfon
เวลา:
2013-10-10 07:59
เมื่อคืนได้สวดมนต์ตอนเที่ยงคืนเป๊ะ... โดยก่อนเที่ยงคืนก็ดู อ.เจน ใน รายการคนอวดผี ช่วงล่าท้าผี เพื่อจะได้เห็นหน้าอ.เจน ไว้เป็นกำลังใจตอนนั่งสมาธิ ทำให้ตอนนั่งสมาธิเมื่อคืน รู้สึกสงบนิ่งเร็วมาก ไม่รู้สึกง่วงนอน แถมตอนเช้าก็ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่งัวเงีย แม้จะนอนแค่ 4 ชม.
ขอขอบคุณ "คุณดา" อีกครั้งนะค่ะ ขออนุโมทนาสาธุด้วยคะ
โดย:
dakanyapat
เวลา:
2013-10-10 10:02
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dakanyapat เมื่อ 2013-10-10 16:48
ต้นฉบับโพสต์โดย pedfon เมื่อ 2013-10-10 07:59
เมื่อคืนได้สวดมนต์ตอนเที่ยงคืนเป๊ะ... โดยก่อนเ ...
โมทนาบุญเช่นกันค่า
โดย:
วิสุทธิ์ดวง@FB
เวลา:
2013-10-15 18:26
โดย:
วิสุทธิ์ดวง@FB
เวลา:
2013-10-15 18:27
อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ
โดย:
ธานัท
เวลา:
2013-10-16 13:06
อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ
โดย:
สนธยา
เวลา:
2013-11-24 18:11
อนุโมทนาสาธุครับ
ยินดีต้อนรับสู่ อาจารย์เจน.com (https://xn--82ca5c8ae2d9ab2k1e.com/)
Powered by Discuz! X3