ร่วมอนุโมทนาบุญ ทัวร์ลี้ลับ 7 บุญสำเร็จแล้วค่ะ - ห้อง ทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 7651|ตอบ: 17

ร่วมอนุโมทนาบุญ ทัวร์ลี้ลับ 7 บุญสำเร็จแล้วค่ะ

[คัดลอกลิงก์]

514

กระทู้

2611

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20063
โพสต์เมื่อ 2017-12-13 08:07:20 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน





              สวัสดีค่ะดิฉัน อ.เจน ญาณทิพย์ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญกุศลด้วยอานิสงส์บุญที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาในครั้งนี้ได้สำเร็จสมตามเจตนาแห่งบุญกุศลไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับการเดินทางไกลไปกับคณะบุญลี้ลับ 7 ซึ่งดิฉันได้เป็นตัวแทนของทุกท่านที่ได้บริจาคปัจจัย
ร่วมกันมารวมกับท่านที่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยและได้ต่อยอดบุญกันจนเป็นบุญที่สำเร็จในดินแดนที่มีความศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วยค่



             ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมเดินทางกันไปทั้งด้วยระยะทางและการเดินเท้าในป่าเขา

อย่างไม่ท้อถอยเพราะบางท่านก็มีอายุสูงมากแต่ท่านสามารถที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกันในช่วงระหว่าง
วันที่8-11 ธันวาคม 2560 ซึ่งสร้างความประทับใจกับดิฉันเป็นอย่างมากค่ะเพื่อการสร้างบารมีบุญที่ยิ่งใหญ่
กับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและกับวัดที่เคยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
โดยมีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้เทศนาธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่น่าเลื่อมใส
น่าปิติใจและเป็นความประทับใจที่ดิฉันได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของทุกท่านนำบุญกุศลที่ท่านได้
โอนปัจจัยเงินกันมาร่วมสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ในพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ค่ะ อย่างที่ดิฉันพูดเสมอใคร
ทำใครได้ใครกินใครอิ่มท่านเป็นผู้ให้ท่านก็ได้เป็นผู้รับเช่นเดียวกันค่ะ
ลี้ลับ 7 นี้ทุกท่านได้ให้ความร่วมมือในเรื่องของการตั้งจิตอยู่ในอาการของความสงบเป็นระเบียบเรียบร้อย
ซึ่งถือว่าเป็นการเคารพต่อสถานที่ของวัดที่เป็นสัมปายะจนกระทั่งเป็นการสร้างความเลื่อมใสแด่พระสงฆ์
ถือว่าเป็นบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการของผู้ปฏิบัติที่ดีค่ะดิฉันได้นำทุกท่านทำบุญ 5 วัด ดังนี้




วัดที่ 1 คณะบุญของเราได้ตั้งแถวทำบุญใส่บาตรแด่พระสงฆ์ประมาณ 10 กว่ารูปคณะบุญของเรามาถึง
ก่อนเวลาที่พระท่านจะเดินบิณฑบาตรแต่ทุกท่านก็ไม่มีอาการง่วงความกังวลใดในการทำบุญแต่เช้า
วันนั้นซึ่งเป็นภาพความประทับใจที่ดิฉันได้เห็นทั้งดีใจและภูมิใจที่ทุกท่านไม่ได้แสดงความเหนื่อยล้า
จากการเดินทางที่ต้องนั่งมากับรถตู้ตลอดทั้งคืนแม้แต่น้อยค่ะซึ่งทุกท่านตั้งใจใส่บาตรพระสงฆ์
ด้วยใจจำนงคงมั่นด้วยแรงศรัทธาในบุญกุศลด้วยกันทุกท่านค่ะเป็นภาพความประทับใจของดิฉันมากค่ะ



หลังจากนั้นดิฉันได้นำพาทุกท่านไปร่วมถวายภัตตาหารเช้าที่ดิฉันได้จัดเตรียมเอาไว้แล้วใส่ถาดอาหารจัด
วางเป็นอย่างดีพร้อมกันนี้จะนำถวายสังฆทานให้แก่พระสงฆ์เป็นอันดับต่อไปที่วัดแห่งนี้ไม่รับปัจจัยเงิน
แต่สิ่งของสังฆทานที่ได้จัดเตรียมไว้ก็มีมากมายส่วนมากเป็นของใช้ที่จำเป็นของพระสงฆ์ทุกอย่างค่ะ

ความประทับใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการที่ทุกท่านนั่งอยู่ภายในศาลาด้วยความพร้อมใจกันรักษาความสงบเรียบร้อย

ไม่มีเสียงที่อื้ออึงจากการพูดคุยดังมาจากคณะบุญของเรา จึงทำให้หลวงปู่ท่านมีเมตตาและชื่นชมยินดีกับ
คณะบุญที่มีความตั้งใจมิใช่สักแต่มาทำบุญแล้วไม่เข้าใจในเรื่องของบุญกุศลค่ะ

ส่วนมากวัดป่าไม่ค่อยได้ทอดผ้าป่ากันค่ะดิฉันแจ้งว่าขอถวายสังฆทานเท่านั้น แต่เมื่อหลวงปู่ท่านเมตตา

ให้เป็นทอดผ้าป่าและทำการบังสุกุลให้แก่คนตายอีก ดิฉันปลื้มปิติใจมากค่ะซึ่งดิฉันรู้สึกดีใจแทนทุกท่านค่ะ
ความประทับใจอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือท่านสมารถเห็นทุกสิ่งอย่างได้เหมือนอย่างกับที่ดิฉันได้เห็นทั้ง
เจ้ากรรมนายเวรและบรรดาญาติของทุกท่านพวกเขามากันจนเต็มแน่นศาลาค่ะซึ่งท่านเมตตา
ได้ทำพิธีบังสุกุลให้แก่ดวงวิญญาณที่มารอคอยเป็นอันดับแรกก่อนที่จะทำการทอดผ้าป่าค่ะ
ถึงแม้ว่าหลวงปู่ท่านอาพาธหนักเส้นเสียงแหบลำคอเจ็บท่านก็ยังเทศนาธรรมให้กับคณะบุญของเราค่ะ



วัดที่ 2 ดิฉันประทับใจมากที่ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมารอให้การต้อนรับด้วยความตื่นเต้นยินดีดิฉันดีใจมากค่ะ
ที่บุญของเราทำให้ชาวบ้านต่างก็มารอดูกันหลายหมู่บ้านจากปากต่อปากเขาเล่าขานกันมาว่าผ้าป่าดารา
มีดารามาทำบุญที่วัด  ซึ่งทางวัดได้จัดแตรวงตั้งรออยู่ก่อนเข้าวัดชาวบ้านสนุกสนานกันมากได้เข้าร่วม
ขบวนแห่ฟ้อนรำกันอย่างสนุกและไม่รู้สึกเหนื่อยกันค่ะถึงแม้ว่าจะเดินด้วยทางเท้าระยะไกลแต่ใจของ
ทุกท่านพร้อมยินดีและมีความสุขพร้อมนี้ยังได้มีส่วนร่วมกันถือสิ่งของสังฆทานกันคนละชิ้นสองชิ้นท่าน
ก็ได้มีความสุขที่เปี่ยมล้นดิฉันประทับใจมากค่ะที่ภายในวัดได้ปรับพื้นที่พัฒนาไปมากเพื่อเตรียมการ
ไว้สำหรับการวางศิลาฤกษ์พระพุทธรูปองค์ใหญ่สูง12 เมตร ซึ่งจะจัดขึ้นประมาณต้นปี 2561
ที่วัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรมากนักค่ะ
การที่คณะบุญของเราได้มาสร้างบุญสร้างกุศลกันในครั้งนี้จะบุญกุศลแห่งการกสร้างพระหากว่ามี

เพียงเราคนเดียวก็ไม่สามารถทำได้แต่ด้วยความร่วมมือของทุกท่าน ซึ่งดิฉันได้รู้ในญาณวิถีว่าการสร้าง
พระพุทธรูปครั้งนี้เพื่อต้องการให้ชาวบ้านที่ผ่านไปมาได้ได้เข้าวัดทำบุญกันค่ะเมื่อเป็นเช่นนี้
ดิฉันจึงมีความเห็นตรงว่าเพื่อให้วัดนี้ได้เป็นศูนย์รวมจิตใจมีสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจการสร้างพระพุทธรูป
เพื่อกราบไหว้สักการบูชาเป็นพุทธบูชาสมควรแล้วค่ะซึ่งการที่ทุกท่านได้ร่วมบุญในครั้งของพวกเรา
ก็สามารถเป็นต้นบุญให้ก่อเกิดและสำเร็จได้ในที่สุดค่ะดิฉันได้เป็นตัวแทนของทุกท่านทอดผ้าป่า
สามัคคีสร้างพระพุทธรูปเป็นเงินทั้งสิ้น 177,449.00 บาทดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ



วัดที่ 3 ตามที่ดิฉันตั้งใจร่วมถวายสังฆทานที่เป็นจำพวกเครื่องอาหารข้าวสารและอาหารแห้งเพื่อไว้

ใช้ยามจำเป็นในช่วงฤดูที่อากาศหนาวมากๆ ที่มีแต่หมอกและหนาวเหน็บ แม่ชีจะได้ช่วยทำอาหารถวายพระสงฆ์แต่คราว ๆ
ไปค่ะซึ่งในการนี้ได้มีท่านผู้ใจบุญได้บริจาคปัจจัยมาเป็นจำนวนมากดิฉันได้นำเงินปัจจัยนี้ไปหา
ซื้อสิ่งของจำเป็นที่ทางวัดยังขาดแคลนซึ่งทุกท่านจะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากค่ะพระสงฆ์ท่านเอง
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเราเป็นใครมาจากไหนและมาทำบุญอย่างนี้ด้วยเช่นไรแต่คณะบุญของเราก็ได้ทำแล้ว
เพราะดิฉันได้รับรู้ได้ในญาณวิถีของดิฉันเองค่ะซึ่งพระสงฆ์ท่านปิติใจกับบุญกุศลที่ทุกคนตั้งใจกระทำในครั้งนี้ด้วยค่ะ
เพราะดิฉันรู้ดีว่าทางวัดลำบากมากในยามที่จำเป็นต้องใช้ข้าวของพวกอาหารเพราะด้วยสภาวะของ
อากาศดิฉันขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ดิฉันได้นำพาทุกท่านขึ้นไปนั่งสมาธิยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ณสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่พ่อแม่ครูอาจารย์

ได้มานั่งสมาธิเปรียบเสมือนโบสถ์วิหารในอดีตแต่มองด้วยตาเปล่าก็เหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น
แต่ที่ดิฉันเห็นในตาทิพย์นั้นเป็นเหมือนสถานที่สัมปายะและสามารถเพิ่มพลังแห่งบุญกุศลและสามารถ
พัฒนาการนั่งสมาธิด้วยการขอเปิดมิติภพภูมนั้นให้เชื่อมต่อกันได้ค่ะทำให้ดิฉันมีความประทับใจมากค่ะ




วัดที่ 4 ดิฉันได้นำพาทุกท่านเข้ากราบหลวงพ่อถวายสังฆทาน รับฟังเทศนาธรรมจากพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
หลวงพ่อท่านอาพาธมากแต่ท่านก็ได้เห็นในแรงศรัทธาของคณะบุญเราได้ปูเสื่อให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
โดยจัดให้มีน้ำคนละขวดเพื่อจะได้พกพานำขึ้นไปบนเขาลูกหนึ่งเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ครั้งหนึ่ง
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวิปัสสนาได้มานั่งสมาธิยังสถานแห่งนี้ด้วยกัน
แทบจะทุกท่านที่เป็นหลวงปู่ต่างๆ ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงท่านไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้จักท่านค่ะ
ดิฉันได้นำพาทุกท่านขึ้นไปนั่งสมาธิเพื่อการพัฒนาจิตที่ดิฉันได้เห็นในญาณทิพย์ว่ามีหลายทางยังฟุ้ง

ยังไม่พัฒนาจิต ยังมีนิวรณ์มากจึงได้นำคำอธิษฐานให้แก่ทุกท่านภายในสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์
เพราะเสียงของดิฉันสามารถบอกกล่าวได้ค่ะเพื่อจะได้เป็นผู้เปิดมิติลี้ลับเชื่อมต่อกับสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
ในการพัฒนาจิตในทางสมาธิทุกท่านเพื่อเมื่อกลับไปยังสถานบ้านเรือนของท่านจะได้นำไปสานต่อยอด
แห่งการเจริญภาวนาเพื่อสร้างสติปัญญาแห่งตนเองด้วยการเจริภาวนาค่ะ




วัดที่ 5 ดิฉันได้นำพาทุกท่านขึ้นบนเขาสูงแต่ทุกท่านก็ค่อยๆเดินตามขึ้นกันจนถึงที่หมายค่ะที่ข้างบนเขานั้น
เป็นเหมือนก้อนหินก็จริงแต่ในตาทิพย์ของดิฉันนั้นเป็นโบสถ์วิหารในตาทิพย์และเป็นโบสถ์ที่พ่อแม่ครูอาจารย์
ท่านมาธุดงและนั่งสมาธิที่นี่ด้วยกันทั้งนั้นค่ะแต่สำหรับผู้ที่พบเห็นปกตินั้นเป็นเพียงหินที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติค่ะ
ดิฉันมาทริปลี้ลับ7 ครั้งนี้มีความประทับใจมากค่ะ

อ.เจน ญาณทิพย์







โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

77

กระทู้

512

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
26496
โพสต์เมื่อ 2017-12-13 08:08:14 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดขอมาเล่าเรื่องที่ได้ไปร่วมทำบุญกับคณะบุญทริปลี้ลับ7 ก่อนอื่นจี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับ อ.เจน ญาณทิพย์ ผู้นำบุญ และ คุณรุ้งตะวันผู้ประสานให้งานบุญนี้เกิดขึ้นมา รวมทั้ง น้องทีมงาน จิตอาสาที่ได้ช่วยเหลืองานบุญของอาจารย์ทั้งสอง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะค่ะ เพราะอาจารย์ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ กว่าจะจัดงานบุญนี้ขึ้นมาได้ เพราะด้วยระยะทางด้วยการติดต่องาน และที่สำคัญอาจารย์ต้องเดินทางไปยังสถานที่จริงเพื่อจะได้ดูว่าสถานที่นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์และเหมาะสมหรือไม่ที่จะนำพาทุกท่านได้เดินทางมาแสวงบุญกันในครั้งนี้ค่ะ



จี๊ดบอกได้เลยนะค่ะว่า การเดินทางไปด้วยกันในครั้งนี้รวมทั้งท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาด้วยในครั้งนี้ จี๊ดขอบอกว่า คุณะไม่เสียดาย จะไม่เสียโอกาสและจะได้บุญกันเต็ม ๆ ไม่ว่าท่านจะได้เดินทางหรือไม่ได้เดินทางมาด้วยกันทุกท่านก็สามารถอนุโมทนาบุญกับทุกท่านได้และร่วมบุญกันได้เพราะด้วยใจของทุกท่านแล้วมีจิตที่บริสุทธิ์ตั้งมั่นในบุญกุศลท่านก็ได้รับอานิสงส์บุญนั้นแล้วค่ะอาจารย์พูดเสมอในเรื่องนี้เสมอมาค่ะ



ในแต่ละบุญกุศลอาจารย์ต้องสรรหาสิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นการบุญการกุศลซึ่งไม่น่าเชื่อนะค่ะว่า คณะบุญของเราจะได้เดินทางมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ใช่ว่าการที่ได้เดินทางมายังดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วจะได้สัมผัสสิ่งเล้นลับได้นะค่ะนี่เป็นเพราะว่าพวกเราได้ร่วมเดินทางมากับผู้มีญาณทิพย์ยังไงเล่าค่ะ เพราะ อ.เจนสามารถอธิษฐานเปิดมิติแห่งโลกทิพย์ได้ นี่แหละค่ะที่จี๊ดชอบมาก ๆในการเก็บข้อมูลสิ่งละอันพันละน้อยสุดยอดมั้ยค่ะ งั้นเรามาเม้ามอยกันดีกว่าเริ่มตั้งแต่วันก่อนออกเดินทางกันดีกว่า



อาจารย์ได้จัดเตรียมสิ่งของประทับใจไว้สำหรับแจกให้กับลูกทัวร์ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันในครั้งนี้โดยการสรรหามาหลายรูปแบบเลือกสรรแล้วสรุปได้ว่าเป็นหมอนน่าตาน่ารักน่าชังหลายสีหลายแบบมีประโยชน์ต่อการใช้งานค่ะ แจกค่ะ แจกคนละใบก่อนรถออกเดินทางจากกรุงเทพฯ



เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงเย็นทุกคนต้องรีบเร่งมาพบที่จุดหมาย ลางานกันมาบ้าง หยุดงานกันมากบ้าง แต่ อ.เจน ก็รอคอยสักพักจนได้เวลาก็ออกเดินทางกันค่ะคณะบุญไปถึงที่หมายในตอนเช้าตี 5มันเช้าจนเกินไปและมืดมากรถตู้ 10 คันจอดดับไฟและนอนหลับกันบนรถตู้ตามคำสั่ง นอน 1 ชั่วโมงค่อยตื่นกันนะค่ะในครั้งแรกพวกเหล่าสุนัขหมาวัดนั่นแหละค่ะมันเห่าเสียงดังกว่าพวกเราที่คอยซุ้มจอดรถอย่างเงียบ ๆจนทำให้พระสงฆ์ต้องตื่นมาเมียงมองว่าอะไรแต่ทุกคนก็นอนพักกันค่ะเรานอนกันเงียบบนรถตู้ค่ะ ใช่ค่ะ เรามาถึงวัดแรกแล้วค่ะแต่เช้าไปยังไม่ได้เวลาที่พระสงฆ์ท่านจะเดินมาบิณฑบาตประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ



วัดแรก
อ.เจนสั่งการให้เฮดปลุกทุกคนให้เตรียมพร้อมนำข้าวของที่จัดเตรียมใส่บาตรกันมาคนละไม้คนละมือหอบหิ้วกันออกมาจัดเรียงไว้บนโต๊ะที่ทางวัดตั้งเอาไว้เป็นแนวแถวยาว ในส่วนนี้ อ.เจนจะคอยควบคุมดูแลกลุ่มคนใส่บาตร
ส่วนคุณรุ้งแบ่งออกมาเป็นทีมโรงครัวที่ได้กำหนดตำแหน่งงานเอาไว้แล้วระยะเวลาการทำงานของคณะนี้ให้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น  ใครจัดทำผลไม้ ใครทำสลัดผักต่าง ๆ ใครทำหน้าที่อะไรคุณรุ้งวางตัวไว้แล้วทุกอย่างจัดใส่ถาดภาชนะซีนให้เรียบร้อย เพื่อพร้อมนำถวายพระ คุณรุ้งทำพล่ากุ้งซึ่งเป็นงานยากสำหรับเวลาอันกระชั้นชิดจี๊ดมีหน้าที่หั่นซอยอย่างเดียวแบบห้ามพูดคุยกันเด็ดขาดมิเช่นนั้นงานไม่เสร็จพวกเราแบ่งหน้าที่กันทำจนสำเร็จทันเวลาพอดิบพอดีเชียวค่ะ


กลุ่มทีมงานชายอยู่ที่ศาลาเพื่อจัดเตรียมเครื่องสังฆทานจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยตั้งกองไว้ที่มุมหนึ่งพวอผู้หญิงนำอาหารที่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วนำมาวางเพื่อเตรียมถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่ได้นั่งเรียงตามอาสนะเป็นแถวค่ะ  ในครั้งแรก อ.เจน ได้แจ้งหลวงปู่ไว้ว่าจะถวายเป็นสังฆทานแต่เมื่อได้ถวายภัตตาหารแล้วหลวงปู่ท่านให้นำสิ่งของทั้งหมดมาวางเรียงต่อกันพร้อมกับร้องเรียกผ้าไตรจีวรและผ้าอาบน้ำฝนมาวางเรียงเป็นทอดยาวรวมทั้งของสังฆทานทั้งหมดเรียงต่อๆกันมาเป็นทอดยาวเชียวค่ะแล้วหลวงปู่ท่านก็พูดขึ้นว่า ทอดผ้าป่านะได้อานิสงส์บุญมากกว่าแต่ขอสายสิญจน์มาด้วยตอนนั้นทุกคนมองหน้ากันเลิกลักก็ที่ในศาลาเจ้าหน้าที่บอกไม่มีครับ ซึ่ง อ.เจนจึงเรียกให้ลูกศิษย์ไปเอาสายสิญจน์ที่นำมาแล้วอยู่ในรถตู้วิ่งด่วนมาเลยแล้วหันไปตอบหลวงปู่ว่ามีอยู่เจ้าค่ะ หลวงปู่ท่านก็ยิ้มและรอ

เรื่องของเทวดามาบอกล่วงหน้า เรื่องของสายสิญจน์นี้มีเรื่องเล่าสักหน่อยนะค่ะไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญค่ะ เพราะก่อนที่กำลังจะออกจากบ้านได้ยิน อ.เจนหันมาบอกใครก็ได้ไปหยิบสายสิญจน์ให้ด้วย ซึ่งจี๊ดก็ยังคิดสงสัยอยู่ว่าจะออกจากบ้านอยู่แล้วทำไม อ.เจนเพิ่งจะคิดถึงสายสิญจน์เพราะปกติ อ.เจนจะเตรียมไว้แต่ต้น แต่มารู้มนภายหลังจากคำบอกเล่าของ อ.เจน ว่าพี่เชื่อมั้ยเทวดามาบอกหนูก่อนที่จะออกจากบ้านว่า ให้เอาสายสิญจน์ไปด้วยตอนนี้หนูเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร เทวดาท่านแยบยลจริงๆ ค่ะ
เมื่อน้องเก่งก็วิ่งไปเอาสายสิญจน์มาตามคำสั่งซึ่งตอนนี้จี๊ดรู้แล้วหลวงปู่ก็บอกให้เอาสายสิญจน์มาโยงกับผ้าทำเหมือนพิธีทอดผ้าบังสุกุลจี๊ดจึ่งได้เข้าใจในตอนนี้เองค่ะ แม้แต่เทวดาของ อ.เจนยังรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องใช้สายสิญจน์

ดวงวิญญาณมารับบุญ ทันใดนั้น หลวงปู่ท่านก็สวดเป็นบังสุกุลทันทีทำให้จี๊ดเกิดคววามคิดว่านี่หลวงปู่สวดบังสุกุลให้วิญญาณนี่นา จี๊ดก็มองหน้า อ.เจน เห็นอาจารย์มีอาการสงบนิ่งก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ แต่การบังสุกุล เป็นการบทที่ว่า “กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา...” พิธีบังสุกุล
      
ตอนนั้นในใจจี๊ดก็คิดว่าท่านสวดให้คนตายทำไม ทำไมไม่ กล่าวคำ ยะถา วาริวะหา ปูราฯ..... หลวงปู่กลับท่องว่า “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา ……ฯ คำนี้เป็นบังสุกุลนี่นาเอ ทำไมหลวงตาไม่นำกรวดน้ำ จึงหันไปมองหน้า อ.เจน ซึ่ง อ.เจนก็นิ่งสงบเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง  และต่อจากนั้นหลวงปู่จึงได้กรวดน้ำให้อีกครั้งหนึ่งโดยกล่าวคำ ยะถาฯ ..... ซึ่งจี๊ดเชื่อเป็นหอย่างยิ่งว่าเหล่าวิญญาณทั้งหลายได้บุญแล้วได้บุญอีกค่ะ

คงหายสงสัยกันแล้วนะค่ะจี๊ดเป็นคนชอบอธิบายให้หายสงสัยกันไปเลย แต่ทั้งนี้ต้องถามกูรูอย่างอาจารย์นี่แหละค่ะอ.เจน พูดให้ฟังว่าด้วยบารมีหลวงปู่ที่มีอภิญญาญาณด้วยจึงได้เห็นเหล่าบรรดาญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วและเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนรวมทั้งเด็กเล็กที่แม่เขาทำแท้ง พวก ลูกทำแท้ง มาเกาะ มาไต่ตามกันกระเตง กระเตง ซึ่ง อ.เจน ก็ได้เห็นเหมือนกันจึงเข้าใจว่าหลวงปู่ท่านก็เห็นและเมตตาให้ค่ะ
อ.เจน ได้เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านเป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบประกอบกับพวกเรานั้นตั้งใจในบุญกุศลกันอย่างเต็มเปี่ยมจึงทำให้บรรดาญาติ ลูกทำแท้ง และเจ้ากรรม ต้องการมารับบุญและต้องการให้ปลดปล่อยดวงวิญญาณพวกเขาเหล่านั้นด้วยค่ะ  แหม ๆ ฟังจากที่ อ.เจนเล่าให้ฟังยังกับงานมหกรรมมีทั้งคนและวิญญาณนะค่ะแต่บุญที่ทุกท่านทำพวกเขาได้รับอย่างเต็มกำลัง จี๊ดก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ


เรื่องเล่าเรื่องผ้าบังสุกุลก็มีนะ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งจี๊ดได้ติดตาม อ.เจน ไปงานศพหนึ่ง เขาชักผ้าบังสุกุลอย่างนี้แหละค่ะอ.เจนได้เห็นในตาทิพย์ว่าวิญญาณที่งานศพนั้นขามีเสื้อผ้าที่แปรเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสว่างสดใจแม้ว่าผ้านั้นจะเป็นสีพระก็ตามแต่สามารถแปรเปลี่ยนได้ช่างน่าอัศจรรย์ใจจริงค่ะและมีอย่างหนึ่งที่ทุกคนไม่รู้ นั่งก็คือ เครื่องสังฆทานทั้งหลายที่พวกเราได้ถวายไปนั้นก็จะกลับกลายแปรเปลี่ยนอยู่ในวิมานของเราเช่นเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้ค่ะ เช่นแปรเปลี่ยนเป็นตั่งไม้ที่นั่งพักพิงอย่างดีหรือโต๊ะอย่างดี ฯลฯ

คำชมของหลวงปู่ ผู้คนนับร้อยกว่า 80 คน มากันมารกมายดีดีนั่งกันเงียบ มากันด้วยความตั้งใจทำบุญดีดี บางคนมาทำบุญแต่คุยกันซะจนหลวงปู่ฟังๆไม่ใช่รู้เรื่องจี๊ดได้ยินอย่างนั้นก็แหมฟูเลยค่ะทุกท่านน่ารักมากทำให้หลวงปู่ชมเปราะขนาดนี้สุดสุดไปเลยค่ะอ.เจน เล่าให้ฟังภายหลังว่าทางเจ้าหน้าที่วัดพยายามให้คณะบุญเราถวายสังฆทานให้เสร็จ ๆ ไป แล้วก็กลับไป แต่ อ.เจนต้องการทอดผ้าป่าเพราะได้บุญมากกว่า หลวงปู่ล่วงรู้ในวาระจิตของ อ.เจน ที่สื่อสารไปท่านจึงพูดขึ้นมาว่า ทอดผ้าป่าฯ ค่ะ และท่านไม่พูดคุยกับใครมาก แต่คณะบุญของ อ.เจน ท่านพูดคุยด้วยทำให้เจ้าหน้าที่วัดเกรงใจยินยอมด้วยดีทุกอย่างไม่ขัดขวางค่ะ
หลวงปู่ท่านเทศนาธรรมให้โววาทเล็กน้อย เนื่องจากหลวงปู่ท่านเจ็บลำคอเป็นไข้หวัดมากยังไม่หายจากอาการป่วยค่ะแต่ถึงอย่างไรท่านก็ได้แสดงเทศนาธรรมตามกิจของสงฆ์ผู้ที่ปฏิบัติชอบแล้วซึ่งที่วัดแห่งนี้คณะบุญของเราได้สร้างบุญที่ยิ่งใหญ่กับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบใสถานที่ที่ครั้งหนึ่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้เคยพำนักอยู่และปฏิบัติธรรมอยู่ณ สถานที่แห่งนี้ค่ะ

คำสอนของหลวงปู่ สิ่งสำคัญที่จะย้ำเตือนเป็นหนักหนาก็คือเรื่องที่ว่าทุกคนมีผู้นำที่ดี ย่อมเป็นมงคล ผู้นำดีปฏิบัติดีผู้ปฏิบัติตามก็ปฏิบัติตาม ก็จะไม่ไม่ปั่นป่วน คนปั่นป่วนอึกกะถึกปู่ไม่เอาปู่ไม่ชอบปู่ขอให้รำลึกถึงแต่พระคุณของพระพุทธเจ้าจะเป็นมงคลในชีวิตให้เราอยู่เสมอจะเดินทางไปแห่งหนใดก็จะปลอดภัยแคล้วคลาดนี่ปู่พูดจริงนะ การสนุกสนานมันอันตรายบางอย่างมันก็วุ่นวาย จิตใจก็ขุ่นมัว ไม่เป็นบุญกุศลจิตใจของเราต้องเป็นบุญจริงๆ

.เจนเห็นกรรมของหญิงที่วัด ในขณะที่มีการลำเลียงข้าวปลาอาหารกันอยู่นั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งคอยมายืนสั่งการถ้าใครไปวันนั้นจะสังเกตเห็นได้นะค่ะผู้หญิงคนนั้นแหละค่ะ อ.เจน เห็นว่าในกาลต่อไปจะเป็นเปรตผู้หญิงที่หน้าตาสวยด้วยนะค่ะแต่เป็นเปรตที่อดอยากมากเนื่องจากทำบุญช่วยเหลือวัด แต่ก็ได้นำของที่วัดกลับบ้านไปเป็นจำนวนมาก เช่นนำของมาทำบุญเพียงชุดเดียวขนกลับไปเป็นเข่งค่ะส่วนตัวของจี๊ดนะค่ะก็คิดได้ว่าคนเรานี่หนา ที่โบราณเขาว่า “ใกล้เกลือกินด่าง”

วัดที่สอง

จี๊ดสุดจะประทับใจมั้กมากเพราะมีชาวบ้านใส่ผ้าซิ่นและเสื้อผ้าแบบคนพื้นเมือง มายืนคอยเห็นว่าชาวบ้านเขามาคอยกันตั้ง 3-4 ชั่วโมงอันนี้ผู้ใหญ่บ้านนุ่งผ้าข้าวม้าขาดพุงนุ่งกางเกงขายาวคิดว่าหล่อเลิศแล้วทำมากระซิบกระซาบคุยกับ อ.เจน อยู่นั่นแหละค่ะ ว่าชาวบ้าน แตรวง เขามารอกันตั้งนานแล้วกลัวว่าจะไม่มากันจริงเมื่อเห็นว่า มากันจริงก็ให้จอดรถตู้ให้พวกเราตั้งขบวน คือ เดินแห่ แตรวงอยู่ข้างหน้าตามหลังแตรวงด้วยชาวบ้านทั้งหลายชายหญิง รำกันสนุกสนานแต่ขอโทษนะค่ะแห่งเกือบรอบหมู่บ้านกว่าจะถึงโบสถ์นานมากและเมื่อมาถึงโบสถ์ก็เดินทักษิณาอีก 3 รอบขอบอกว่านานจริง ๆ ค่ะ แต่ชาวบ้านเขามีความสุขมากและจี๊ดก็เชื่อว่าคณะบุญของเราก็มีความสุขเห็นมีพระพันปี (คือผู้สูงอายุหลายท่านมารวมตัวกันค่ะ) ท่านทั้งหลายเดินเข้าแตรวงไปรำวงกะเขาสะแล้วค่ะจี๊ดว่าเป็นสิ่งที่ดีและความสุขแห่งบุญกุศลที่หาทำได้ยากกับชีวิตในสังคมคนกรุงเทพฯนะค่ะ ก็พวกเราจะได้ไปเป็นเทวดานางฟ้านางสวรรค์ที่รำสร้างบุญกันไงค่ะ
กว่าจะมาถึงได้คุณผู้ใหญ่บ้านคนนั้นก็ได้โทรศัพท์มาที่เบอร์คุณรุ้งตลอดเวลา ว่าผมยังคอย ยังคอยเธออยู่ทุกลมหายใจเข้าใจค่ะ เขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเราเป็นใครและจะมากันจริงหรือไม่เนื่องจากผิดเวลาไปมากแล้ว แต่จากการเดินทางแบบมอราธอนก็ต้องแวะเข้าห้องน้ำบ้างอะไรบ้างนั่นแหละค่ะ ความล่าช้าในเรื่องของเวลาก็อาจมีการคลาดเคลื่อนกันบ้างแหละค่ะ

น่าชื่นใจนะค่ะที่มีชาวบ้านมีความดีอกดีใจใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมารอให้การต้อนรับด้วยความตื่นเต้นยินดีดิฉันดีใจมากค่ะที่บุญของเราทำให้ชาวบ้านต่างก็มารอดูกันหลายหมู่บ้านจากปากต่อปากเขาเล่าขานกันมาว่าผ้าป่าดารา มีดารามาทำบุญที่วัด ที่น่าประทับใจมากอีกอย่างหนึ่งชาวบ้านได้นำเงินใส่ขันเงินร่วมบริจาคกันแทบทุกคนค่ะสำหรับการทอดผ้าป่าฯสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสูง 12 เมตร และได้มีกำหนดการวางศิลาฤกษ์ ประมาณต้นปี 2561 ที่วัดแห่งนี้อยู่กันอย่างเรียบง่ายพระสงฆ์ท่านก็ขุดตอไม้ถากถางทางกันโดยไม่จ้างผู้ใดขยันมากค่ะท่านทำกันเองที่วัดนี้ก็ไม่ได้สร้างอะไรเป็นวัตถุทานมากนักค่ะ

อ.เจนบอกว่าการสร้างพระพุทธรูปเป็นบุญใหญ่ และในอนาคตต่อไปที่วัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรมากนักค่ะ แต่ในอนาคตต่อไปวัดแห่งนี้จะเจริญรุ่งเรืองเพราะมีพระพุทธรูปองค์ที่คณะบุญของเราไปร่วมสร้างกันนี้เองค่ะที่ได้ร่วมโอนเงินกันมาและท่านที่ต่อยอดกันที่วัดได้เงินมากโขอยู่ค่ะเป็นเงินจำนวนมากสำหรับชาวบ้านและพระสงฆ์ท่านจะได้ดำเนินการงานของท่านได้สำเร็จลุล่วงในเร็ววันค่ะด้วยยอดเงินทั้งสิ้น 177,449.00 บาท จี๊ดขออนุโมทนาสาธุทุกท่านด้วยค่ะ

วัดที่ 3

อ.เจนได้นำพาทุกท่านพบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านอาพาธมากต้องนั่งรถเข็นและใช้ไม้เท้าพยุงตัวแต่ท่านก็มีความเมตตากับผู้ที่มีความศรัทธาในการสร้างบุญกุศล มิใช่มาหาของดีหรือมาทำบุญเพื่อการหลุดพ้นนิพาน ท่านกล่าว่า มันยากจะทำได้ก็ต้องปฏิบัติธรรมให้แน่วแน่ ต้องมีศีล ต้องสร้างแต่กรกรมดีและไม่มีกิเลสหนา นี่เป็นคำสอนที่จี๊ดพอจะสรุปได้เป็นอย่างนี้ซึ่งท่านก็ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี จี๊ดเชื่อว่าท่านได้เห็นถึงความตั้งใจของผู้หญิงคนนี้ คนที่ท่านไม่รู้จักมาก่อนคนที่มีคำตอบที่ถูกใจท่าน ท่านถามว่ามาทำไมกัน อ.เจน ตอบว่า มาทำบุญกันเจ้าค่ะ ท่านตอบว่าถูกแล้วคนส่วนมากมาถามแต่จะไปนิพพานมันไปได้ง่ายสะที่ไหนท่านว่าอย่างนั้น
อ.เจน ไม่ได้มาทำบุญแบบสุขเอาเผากินแต่เขามาทำบุญจริง ๆในวันนั้นก็ได้ถวายสังฆทานแก่เจ้าอาวาสและขึ้นไปนั่งสมาธิท่านทราบดีท่านจำได้ค่ะมาวันนี้ท่านปูเสื่อรอกันเลยทีเดียวค่ะ ที่เสื่อนั้นจะมีภาชนะเป็นถาดใส่ขวดน้ำเหล่า กาน้ำร้อน (ใส่น้ำยาสมุนไพรที่เรียกว่าพญาเสือโคร่ง) และแก้วน้ำ จัดวางไว้ทุกจุดทุกมุมก่อนอื่นท่านขอให้ทุกคนเทกาน้ำรินน้ำจากกาเป็นน้ำสีชมพูท่านบอกว่าเป็นยาเขาเรียกว่า พญาเสือโคร่ง จากการค้นค้านะคะ พญาเสือโคร่งมีประโยชน์ ดังนี้ค่ะ
สรรพคุณของนางพญาเสือโคร่ง1.   ชาวเขาเผ่ามูเซอจะใช้เปลือกต้นนางพญาเสือโคร่งเป็นยาแก้ไอ ลดน้ำมูก แก้อาการคัดจมูก (เปลือกต้น)
2.   เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำ ดื่มรักษาอาการหนาวสั่นจากอาการไข้ (เปลือกต้น)
3.   เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้เลือดกำเดาไหล (เปลือกต้น)
4.   เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการท้องเสีย (เปลือกต้น)
5.   เปลือกต้นใช้ตำคั้นเอาน้ำทาหรือพอกแก้ฟกช้ำ แก้ข้อแพลง ปวดข้อ (เปลือกต้น)

เมื่อรับประทานเสร็จแล้ว อ.เจน ก็นำถวายสังฆทานเมื่อถวายสังฆทานเรียบร้อยแล้ว อ.เจนจึงได้แจ้งขออนุญาติเจ้าอาวาสขอนำพาผู้คนขึ้นไปที่เชิงหน้าผาท่านก็เชิญตามอัธยาศัยทุกคนเดินขึ้นกันไปตามพื้นที่ค่อนข้างสูงชันตุ่กคนก็สามารถไปกันได้จี๊ดนั้นมีปัญหาทางสุขภาพเดินแทบไม่ไหวนัดแนะกับแม่ตี้เราจะไม่ไปเราจะนั่งสงบกายใจกันที่ศาลาพักใจข้างล่างนี้ค่ะ แต่ อ.เจน ได้ประกาศเสียงอันดังว่าแม่กับพี่จี๊ดมานี่เลย แต่มารู้จาก อ.เจนที่หลังว่าพี่จี๊ดต้องขึ้นไปเพราะมีอดีตกับที่นี่และคุณรุ้งก็สับทับว่าพี่ต้องสู้เพราะเจ้ากรรมนายเวรของพี่เขาจะทดสอบว่าพี่จะสู้บุญหรือจะถอยถ้าเช่นนั้นเราต้องสู้ทั้ง ๆ ที่เดินเซไปเซมาต้องมีคนคอยหิ้วปีกไปตลอดทางลูกชายจะมาช่วยจี๊ดบอกไปช่วยคนสูงอายุเถอะไม่ต้องห่วงแม่ส่วนแม่พี่แอนเขาจะช่วยดูแลแต่ที่ไหนได้จี๊ดต้องคอยฉุดแอนซึ่งเที่ยวเดินเตะโน่นเตะนี่ไปตลอดเส้นทาง
เมื่อขึ้นไปถึงชะง่อนหินที่อ.เจน อธิบายว่าสถานที่แห่งนี้เคยมีพระธุดงและพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายได้มานั่งสมาธิยังสถานที่แห่งนี้ด้วยกันทั้งนั้นซึ่ง อ.เจน ก็ให้ทุกคนนั่งสมาธิแต่ อ.เจน ได้บอกว่าอาจารย์จะเปิดภพภูมิให้เชื่อมสัมพันกับผู้ที่เคยปฏิบัติธรรมสร้างบารมีมาจะได้กลับไปนั่งสมาธิดีขึ้นพัฒนาขึ้นค่ะสำหรับจี๊ดรู้อยู่แล้วว่าเจ้ากรรมนายเวรของตนเองเป็นใครเมื่อนั่งสมาธิเสร็จก็ได้อุทิศบุญให้เขาไปเพราะวันนั้นเป็ฯวันพระเสียด้วยได้ผลค่ะขากลับอาการดีขึ้นมากกว่าตอนที่เดินขึ้นไปแทบไม่ไหวค่ะ
ในวันนั้นเป็นวันที่นั่งสมาธิดีมากแทบไม่อยากถอนออกจากสมาธิพูดเหมือน อ.เจน เลยเรา อ.เจน บอกนั่งสมาธิดีมากแต่มีเหล่าเทวดา เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนธรรพ์ และ คนเมืองลับแล  มากันตรึม เพราะได้เห็นแสงบุญของคณะบุญเรามีมากจนสะเทือนเลื่อนลั่นไปจนถึงเมืองของเขาที่เป็นมิติทับซ้อนอยู่สถานที่บริเวณนั้นเป็นที่มติทับซ้อนของ คนเมืองลับแล และเมืองคนธรรพ์ ค่ะ อ.เจน เล่าว่า เขามาโมทนาบุญด้วยการยกือพนมขึ้นเหนือหน้าผากและแหงสนหน้าขึ้นฟ้าค่ะ

วัดที่ 4
เมื่อมาถึงวัด อ.เจน ก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆให้ทุกคนฟังเหมือนการท็อคเล็ก ๆ ค่ะ ก่อนที่พระสงฆ์จะเดินทางมาถึง อ.เจน แจ้งว่าพระหลายรูปไม่ได้อยู่ที่วัดนี้ แต่ท่านเดินทางรอนแรมมาขึ้นเขาปฏิบัติธรรมซึ่งในวันที่ไปเซอร์เวย์กับอาจารย์ก็ขึ้นและลงประมาณ 5 ชั่วโมง ดังนั้น ในวันนี้ อ.เจน จึงไม่นำพาขึ้นค่ะเพราะมิเช่นนั้นอาจจะหลงป่าเพราะที่บนเขานั้นอันตราย มีคนเมืองลับแล เมืองคนยักษ์เมืองพญานาค และคนธรรพ์ ซึ่ง อ.เจน เกรงว่าใครสักคนหากเดินหลงไปจะไม่ได้กลับมาค่ะ แบบหาไม่เจอค่ะ
พาะท่านมากันครบแล้วเริ่มถวายสังฆทานที่เป็นจำพวกเครื่องอาหารข้าวสาร อาหารแห้ง และได้เรี่ยไร่เงินเป็นค่าภัตตาหารและเสนาสนะต่าง ๆเพื่อถวายแด่พระสงฆ์ที่ธุดงค์มาพักแรมที่แห่งหนี้ค่ะ โดยแม่ชีจะเป็นผู้ดูแลจัดการเนื่องจากเป็นภูเขาสูงค่อนข้างลำบากกับการเดินบิณฑบาตค่ะแต่อย่างไรก็ตามพระท่านก็ไปแม้ยากลำบากค่ะ อ.เจนบอกเตรียมไว้เพื่อวันไหนฝนฟ้าตกลำบากค่ะ
การขอรับบริจาคกันแบบหน้างานกับผู้ร่วมบุญในวันนั้นสำหรับเป็นค่าภัตตาหารและเสนาสนะต่าง ๆ ได้ยอดเงินจำนวน 31,099.00 บาทอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
หลังจากนั้น อ.เจนได้นำพาทุกท่านไปปีนเขาแบบย่อม ๆแล้วให้นั่งสมาธิร่วมกัน จี๊ดคิดว่าสถานที่แห่งนี้สัมปายะมากสงบ นั่งสมาธิครั้งใดอ.เจน บอก 20 นาที แต่เหมือนนั่งแค่ 5 นาที แป็ปเดียวไม่อยากจะถอนอออกจากกสมาธิเลยค่ะ


หลังจากนั้นขึ้นรถตู้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเชื่อว่าบางท่านก็เคยมาแล้ว แต่จากการสอบถามคนทั้ง 80 นั้น ไม่มีผู้ใดเคยมาที่นี่เลยก็ดีค่ะจะได้ตื่นเต้นดี แต่ที่ตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกนั่นก็คือพวกเรามากันเกือบค่ำพระอาทิตย์ตกดินแล้ว จึงเหมือนกับการไปล่าท้าผีก็ไม่ปานค่ะทั้งมืดทั้งน่ากลัว ทุกคนเดินกันเกาะกลุ่มเชียวค่ะ แล้ว อ.เจน ก็พาทุกคนไปดูหินสอนขันธ์ไปดูหินของเมืองยักษ์ ไปดูประตูมิติทับซ้อนของคนเมืองลับแลและไปดูศาลากุฏิสงฆ์ร้างและนั่งสมาธิกันในยามวิกาลนั้นอีกค่ะ

แต่จี๊ดไม่ไหวยังป่วยอยู่เดินไม่ไหวค่ะจึงได้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองลับแลอยู่คนเดียวอยู่อย่างมืด ๆ นั่นแหละค่ะสักพักน้องดา น้องเก่ง และพุธ ลูกชายก็เดินมาหาอ้าวเดินมาทำไมทุกคนพูดเป็ฯเสียงเดียวกันว่าก็เมื่อถึงโรงแรมที่พักต้องแสดงเรื่องคนลับแลยังไม่ได้ซ้อมบทกันเลยแสดงสดจะทำยังไงกันดีเออจริงสิเรามีกิจกรรมเรื่องของคนลับแลจึงซักซ้อมกันที่หน้าประตูเมืองคนลับแลนั่นแหละค่ะจนลืมไปว่าเราจะแสดงเรื่องของพวกเขาเมื่อซ้อมเสร็จก็ยกมือพนมขอขมากรรมจากคนเมืองลับแลว่าวันนี้เราจะแสดงเรื่องเกี่ยวกับคนลับแลเรื่องความรักของคนลับแลขอขมากรรมกับพวกเราทั้ง 4 คนด้วยค่ะ

จี๊ดขอบอกว่าคนที่ไม่มีญาณวิถีก็ไม่สามารถเปิดมิติทับซ้อนแห่งโลกทิพย์นั้นได้แม้จะไปเองก็ไม่ได้เปิดให้เห็นได้ค่ะ และการที่ อ.เจนได้นำพาทุกท่านขึ้นไปนั่งสมาธิยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นการเชื่อมต่อกับมิติทับซ้อนและอุทิศบุญให้เขาไปเขาก็ดีใจเราก็ได้บุญค่ะและยิ่งเป็นสถานที่ที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เคยมานั่งสมาธิในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นแม้ว่าเรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแต่พวกเขาเห็นเราค่ะอ.เจน บอกว่าเป็นสถานที่สัมปายะจะช่วยเสริ่มสร้างบารมีบุญมีพลังแห่งบุญกุศลและสามารถพัฒนาการนั่งสมาธิได้ค่ะ

คนลับแลมาชมการแสดง. ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารโรงแรมจัดเป็นโต๊ะจีน เรื่องอาหารการกินบอกได้เลยค่ะไม่มีอดตั้งแต่ออกเดินทางไปจนถึงเดินทางกลับจนผู้ร่วมเดินทางพูดว่าให้บอก อ.เจน ให้เว้น ๆการกินก่อนนะค่ะ อิ่มจะแย่อยู่แล้วค่ะ

กิจกรรมการแสดง เรื่องเมืองลับแล.

เปิดฉากก่อนแสดง อ.เจน และคุณรุ้งก็มาเล่าเรื่องราวของคนลับแลว่า แท้จริงแล้วเป็นวิญญาณชั้นสูง กึ่งเทวดากึ่งผีสามารถแปลงกายหายตัวได้ ปรากฏให้คนเห็นได้ ที่บ้านเมืองเขามีการทำนา ปลูกข้าวมีกิจกรรมเหมือนคน แต่ไม่สามารถนำข้าวที่ปลูกมากกินได้ ทำไปอยู่อย่างนั้น และ อ.เจน ก็เล่าเรื่องของชาย ชื่อ บวรที่เป็นเรื่องจริงหลงเข้าไปพบกับคนรักที่ตายไปแล้วที่เมืองลับแลและไม่ออกมาอีกเลยเป็นเรื่องจริงที่หลวงปู่ท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ไปเซอร์เวย์ คณะของพวกเราได้หลงเข้าไปในเมืองลับแลอยู่บนเขาตอนนั้นประมาณ 4 ทุ่มหลงทางอยู่อย่างนั้นเดินกี่รอบก็กลับมายืนที่เดิมการขึ้นเขาในวันนั้นตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึงกลับมาได้ ประมาณ 5 ทุ่มค่ะ แต่ อ.เจน มีวิชาควบคุมสถานการณ์ได้ตัวจี๊ดเองยังเกิดสงสัยอยู่ค่ะว่าที่พื้นดินที่เยียบลงไปนั้นมันยวบ ๆ ยืดหยุ่นพิกล. เพิ่งมารู้จาก อ.เจน ว่าที่เราเดินอยู่นั้นเป็นทุ่งท้องนาของพวกเมืองลับแลในตาทิพย์ของอาจารย์เห็นเป็นอย่างนั้นให้รีบเดินออกมาเดี๋ยวเขาไม่พอใจค่ะแต่ในตาถั่วของจี๊ดเป็นพื้นดินที่ว่างเปล่าล่ง ๆ ค่ะ เป็นการเล่าพอสังเขป

เนื้อเรื่องน้องดาเป็นผีเมืองลับแล ชื่อ ชบานั่งรอคอยคนรักที่ตกเขาตายไปนานนับร้อยปีก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของสามีที่เมืองลับแล. และ ส่วนของจี๊ดเป็นผีเมืองลับแลชื่อ สไบ ที่รอคอยคนรักนับร้อยปีรอการกลับมาของสามีที่ไปปล้นและตายจากไปวิญญาณของสไบก็รอคอยอยู่ที่เมืองลับแล แต่ในระหว่างรอคอยการแสดงอยู่นั้นเกิดมีอาการในใจเต้นตุ๊บๆๆๆ ใจเต้นรัวมากไม่เคยเป็นมาก่อนค่ะ จนคิดไปว่าตนเองคงป่วยหนักทั้งที่อาการดีขึ้นมากแล้วซึ่งหลังจบการแสดง  อ.เจน มาเฉลยตอนหลังว่า ขณะที่จี๊ดออกมาแสดงผู้หญิงลับแลได้มาปรากฏ และมาชมการแสดงโดยต้องการจะมาแฝงคนแสดง คือจี๊ด เพื่อจะได้เล่นให้สมจริง แต่ไม่สามารถแฝงได้ค่ะ ดังนั้นจึงเข้าใจแล้วว่าอาการนั้นเกิดขึ้นจากผีจะเข้าสิ่งร่างนี่เอง อื้อฮือ ไม่น่าเชื่อหรือเป็ฯเพราะว่าพวกเราทั้ง 4คนไปยืนบอกกล่าวแถมไปซ้อมการแสดงอยู่ที่ตรงนั้นเสียด้วยเขาจึงติดตามไปที่โรงแรมค่ะ



วัดที่ 5
อ.เจนนำพาทุกท่านขึ้นไปบนภูแห่งหนึ่งพวกเราขึ้นไปบนเขาสูง ค่อย ๆ เดินขึ้นกันไปมีก้อนหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อ.เจนได้ชี้ให้ดูว่าหินที่เกิดขึ้นนี้แม้จะเป็นหินที่เกิดจากธรรมชาติก็จริงแต่ในตาทิพย์ของ อ.เจนเป็นรูปเทวดาอารักขาอยู่เต็มไปหมดค่ะ
ต่อจากนั้นก็นำพาเดินไปที่ชะง่อนหินแห่งหนึ่งภายในเป็นเหมือนถ้ำมีหินก้อนหนึ่งอยู่บนยอดถ้ำนี้ ซึ่ง อ.เจนพูดว่า ในตาทิพย์เป็นยอดโบสถ์ ณ ที่โบสถ์แห่งนี้มีพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านมาธุดงส์รอนแรมมาและเจริญสติภาวนาที่บนยอดเขานี้ มีเทวดารักษามากมายมาฟังธรรม หลังจากนั้น อ.เจนก็ให้ทุกคนนั่งสมาธิเพื่อเจริญสติภาวนาเพื่อนำกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้านของตนเองแต่เมื่อนั่งเสร็จสิ้นระหว่างแผ่เมตตาอยู่นั้น ปรากฏว่ามี พญานาคชายหญิงได้จำแรงแปลงกายเป็นคนมานั่งสมาธิด้วยแล้วได้ยกมืออนุโมทนาสาธุกับคณะบุญของเราด้วยค่ะฟังแล้วยังตื่นเต้นอยู่เลยตามที่ได้รับรู้มาจาก อ.เจน ญาณทิพย์


สุดท้ายแล้วจี๊ดขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ อ.เจนคุณรุ้ง แม่ตี้ ทีมงาน จิตอาสา และผู้ร่วมบุญทุกท่าน รวมทั้ง เจ้าป่าเจ้าเขาเทพเทวา คนธรรพ์ คนเมืองลับแล ท่านยักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมีความสุขความเจริญและอนุโมทนาสาธุกับบุญทุกบุญที่ทุกท่านได้ร่วมทำกันมาในทริปลี้ลับ7 และที่โอนปัจจัยมาร่วมบุญนี้ค่ะสาธุ      


จี๊ดจ๊าด

514

กระทู้

2611

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20063
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2017-12-13 08:16:08 | แสดงโพสต์ทั้งหมด



โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

514

กระทู้

2611

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20063
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2017-12-13 08:17:50 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2017-12-13 08:21











































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

อัพเกรด  20.4%

0

กระทู้

92

โพสต์

1418

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1418
โพสต์เมื่อ 2017-12-13 20:08:30 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมทริปและร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วยครับ

อัพเกรด  39.33%

0

กระทู้

34

โพสต์

2270

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2270
โพสต์เมื่อ 2017-12-13 20:33:49 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาสาธุค่ะ

อัพเกรด  82.78%

0

กระทู้

234

โพสต์

4225

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
4225
โพสต์เมื่อ 2017-12-14 10:09:27 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยครับ
สุโข ปุญญฺสส อุจโย

อัพเกรด  54.13%

0

กระทู้

89

โพสต์

2936

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2936
โพสต์เมื่อ 2017-12-15 10:17:04 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ

อัพเกรด  13.69%

0

กระทู้

204

โพสต์

1116

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1116
โพสต์เมื่อ 2017-12-15 22:23:15 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาสาธุค่ะ

อัพเกรด  47.56%

9

กระทู้

502

โพสต์

2640

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2640
โพสต์เมื่อ 2017-12-16 13:29:35 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กิ๊บเก๋ เมื่อ 2017-12-16 13:43

Wowwwww . . เป็นทริปที่ม่ายรู้จะขึ้นต้นยังงัย ที่จะต้องบอกว่า พิเศษสุดสุดไปเลยค่ะ ได้นั่งสมาธิในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตั้งสามที่ โดยเฉพาะที่สุดท้ายเนี่ย เหมือนนั่งสมาธิอยู่บนสวรรค์เลยค่ะ มีเสียงกระดิ่งปลิวไปตามลม เบา เบา  และเราก็ยังด้ายปัยสัมผัสกับความลี้ลับของอีกดินแดน รับรู้เรื่องราว ต่าง ต่าง แบบที่เราก็ม่ายเคยรู้มาก่อน และยังด้ายทานอาหารในยามค่ำคืนที่ริมแม่น้ำ มีกิจกรรมที่สุดพิเศษที่ทำหั้ยเราขนลุกปัยกับเรื่องราว ต่าง ต่าง ที่นำมาเล่า และปิดทริปแบบแอดเวนเจอร์ กับ >ภูทอก< บอกด้ายคำเดียวค่ะว่าขึ้นปัยแล้วเสียวมาก คิดถึงคนที่สร้างสะพานไม้ริมหน้าผานะคะ เก่งสุดยอดเลยค่ะ ก็บอกเลยค่ะว่าพิเศษขนาดนี้ ทริปต่อไป และทริปต่อไป ก็พลาดกันอีกม่ายด้ายแล้วนะคะ

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2024-3-29 14:43 , Processed in 0.170005 second(s), 22 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้