จี๊ดจ๊าด มาเล่าเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะทุกท่านที่ได้ไปร่วมงานบุญทริปที่ 22 “ข้ามศตวรรษ”จี๊ดมีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า บุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ซึ่งก็เห็นเป็นจริงตามนั้น เพราะถึงแม้อากาศจะร้อนระอุมากสักเพียงใดผู้คนจะมากสักเพียงใด แต่ด้วยใจที่เป็นบุญกุศลของทุกท่านที่ได้ตั้งใจมาร่วมบุญกันอย่างถ้วนหน้าอุ่นหนาฝาคั่งก็มิได้เป็นอุปสรรคในการสร้างบุญกุศลของทุกท่านได้เลยค่ะเพราะภายในใจของทุกท่านนั้นเย็น อิ่มบุญ สุขใจ และชื่นมื่นจริงมั้ยค่ะ
เริ่มจากการเดินทางช่วงเช้า ที่ห้างโลตัสอาจจะไม่สะดวกในส่วนของลานจอดรถด้านหน้าห้างฯเพราะสังเกตเห็นได้ยากเนื่องจากมีการตั้งคูหาร้านค้าทำให้ต้องไปจอดรถที่ด้านหลังห้างแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคนะค่ะทุกท่าน เพราะว่าสถานที่จอดรถก็หายากมากสำหรับรถบัส 2 ชั้น คันเบ้อเร่อน้อยเสียเมื่อไหร่นับวันจะมากยิ่งขึ้นทุกทีค่ะแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของท่านผู้ใจบุญจริงมั้ยค่ะ ซึ่ง อ.เจน ได้บอกจี๊ดว่าประทับใจผู้ร่วมบุญทุกท่านมากคนมากมายขนาดนี้ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำบุญทุกคนมีความร่วมมือร่วมใจกันมาก มีความยิ้มแย้ม มีความเบิกบานและอบอุ่นอาจารย์พูดกับจี๊ดว่า มีความรู้สึกดีใจมากปลื้มใจมากที่ทุกคนมีความสุขใจคือสุขใจในบุญกุศล ทำให้ อ.เจน มีกำลังใจเป็นกองเชียวค่ะอย่าลืมนะค่ะทุกท่านทำบุญท่านก็ได้บุญของท่าน อ.เจนเป็นเพียงผู้นำพาท่านไปทำบุญเท่านั้นเอง ใครทำใครได้ค่ะ
เบื้องหลังความสำเร็จนั้นไม่ธรรมดาเลยสำหรับผู้หญิง2 คน ที่ต้องจัดการทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นการติดต่อหาแหล่งผลิตเสาอโศก สอบราคาคัดเลือกร้านการหาซื้อวัสดุอุปกรณ์ของกิจกรรม การคิดหากิจกรรมประกอบงานบุญ เช่นการแสดงที่จะต้องให้เข้ากับเรื่องราวของงาน หรือแม้แต่เรื่องข้าวปลาอาหารสำหรับเลี้ยงรับรองผู้ร่วมบุญทั้งหมดที่จะได้ไม่ต้องลำบากไปหาซื้อ และยังรวมถึงการเดินทางไปสำรวจดูวัดต่าง ๆ แต่เมื่อหาวัดได้แล้วก็ต้องติดต่อและติดตามกับทางวัด เพื่อให้ความเข้าใจตรงกันในการสร้างฐานวางเสาอโศกซึ่งในครั้งแรกทางวัดไม่เชื่อว่า จะมีคนมาทำบุญเป็นร้อย เป็นไปไม่ได้ และไม่ใจและดำเนินการให้ก็ต้องแสดงตนค่ะ
ว่าเป็น รู้จัก อ.เจน ด้วย ไม่ได้แจ้งฐานะค่ะแต่การตั้งเสาอโศก จำนวน 2 ต้น จะต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้าถ้าทางวัดไม่เชื่ออ.เจน ญาณทิพย์ตรวจสอบได้ออกสื่อที่ไหนอย่างไรเมื่อพระท่านรู้แล้ว วางใจแล้วพระท่านก็ดำเนินการให้ตามที่ อ.เจน แจ้งไปว่าทางวัดต้องจัดการในเรื่องใดบ้างไม่ใช่ง่าย ๆ นะค่ะ
เพราะต้องทกการขุดหลุม เพื่อปักเสาใช้รถเครนยกต่อต้นเสา ตามที่เห็นในภาพที่แจ้งไว้แล้วค่ะและการติดต่อกับทางวัดก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพียงทางโทรศัพท์อย่างเดียว อ.เจน ก็ต้องเดินทางไปดูงานด้วยตนเองว่าทางวัดดำเนินการเป็นผลสำเร็จเพียงใดบ้างค่ะและการเดินทางก็ไม่ได้ไปเพียงครั้งเดียว ไม่ต่ำกว่า 2ครั้ง ส่วนมากก็ไปกันเพียงลำพัง อ.เจน คุณรุ้ง และคุณมิตร ช่วยขับรถให้ค่ะก็เหนื่อยค่ะ จี๊ดเห็นขั้นตอนการทำงานแล้วก็เหนื่อยแทนอาจารย์จริง ๆการทำงานก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกครั้งที่เดินทางงานบุญของอาจารย์จึงไม่ใช่สุกเอาเผากินสุดยอดค่ะเมื่อไปทั้งทีก็ไม่ได้ไปเรื่องเดียวต้องไปหาร้านอาหารเลี้ยงรับรองทุกท่านในแต่ละมื้อซึ่ง เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล อ.เจน ใส่ใจเป็นพิเศษประดุจญาติกันเลยทีเดียวค่ะ อ.เจนก็ได้พยายามคัดสรรหาร้านอาหารที่สะอาดและอร่อย แต่บ่อยครั้งที่พบว่า ในวันที่อ.เจน ไปชิมที่ร้านอาหารนั้น ๆ เขาก็ทำให้รับประทานแหมดูดีน่ารับประทาน แต่เมื่อสั่งให้มาส่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จนบางครั้งเห็นแล้วก็อดที่จะตำหนิร้านค้าไม่ได้ว่า ช่างไม่มีธรรมะกันเอาเสียเลยอาหารกล่องไม่ใช่ราคาถูก ๆแต่สิ่งที่นำมาส่งให้ไม่สมกับราคาที่นำเสนอในครั้งแรกเลยค่ะ นี่แหละค่ะที่เขาว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร
จี๊ดสังเกตได้ว่าราคาค่าอาหารในต่างจังหวัดมักจะมีราคาแพงมากกว่าราคากรุงเทพฯหรือว่าเขารู้ว่าเรามาต่างถิ่นคิดราคาพิเศษมาครั้งเดียวจัดใหญ่เลยคนเราไม่มีคุณธรรมไม่หวังน้ำบ่อหน้า ไม่มีความซื่อสัตย์ต่อสัมมาอาชีพไม่เจริญนะค่ะ ติดกรรมค่ะ อาจารย์บอกว่า พี่รู้มั้ยทุกครั้งที่คนเขากินอาหารเขาบ่นเช่น อาหารบูดเสีย เขากินไม่ได้เราติดกรรมแล้ว หรือ คนจ่ายเงินจ่ายในราคาแพงก็ต้อได้ของดีดีสิค่ะเมื่อเขาเห็นของออกมาเป็นไม่ดีเขาบ่นว่าเราก็ติดกรรมด้วยเช่นกันค่ะนี่เป็นความรู้ที่ได้รับจากคำบอกเล่าของอาจารย์ค่ะ เป็นกรรมจากสัมมาอาชีพค่ะและจะมาบ่นทำไมว่าขายไม่ดีจริงมะ
เมื่อเหตุการณ์อย่างนี้ประสบพบเห็นบ่อยครั้งเข้าอาจารย์ก็มีบ่นบ้างค่ะว่า คนเรานี้หนอทำไมไม่รู้จักบาปกรรมเราทำบุญเขาก็ทำบาปกันช่างน่าสงสาร เห็นแบบนี้แล้วเห็นการทำผิดของคนซ้ำซากอย่างนี้แล้วไม่อยากเกิดเป็นคนอีกเลย
ร้านอาหารต่างจังหวัดสะอาดและอร่อยหายากแทบจะไม่มีเอาเสียเลย เมื่อหาไม่ได้จริง ๆ ก็ KFC , MKอย่างที่เห็นๆ แหละค่ะ เพราะ อ.เจน ใส่ใจในรายละเอียดสำหรับเรื่องของอาหารการกิน อ.เจนจะเป็นผู้สนใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากค่ะ ไม่ใช่ว่า หาร้านอะไรก็ได้ ข้างทางก็ได้ แม้แต่กล่องบรรจุใส่อาหาร อ.เจนก็ไปหาซื้อมาเองแล้วนำไปให้ทางร้านเขาบรรจุข้าว เพราะกลัวว่า ทางร้านค้าเขาจะเอากล่องโฟมง่ายๆ นำมาใส่ข้าวให้ กลัวจะไม่สะอาดปลอดภัยนี่เป็นการเอาใจใส่ของ อ.เจน ค่ะ ฉะนั้นการนำทัวร์บุญไม่ใช่เรื่องง่ายนะค่ะถึงเหนื่อยแต่อาจารย์ก็ไม่ท้อถอยหรือลดหย่อนการทำบุญเลยค่ะ อาจารย์กับคุณรุ้งไปหาซื้อเอง ลุยเอง เดี๋ยวนี้เก่งแล้วค่ะ ร้านกล่องอาหาร ช้อนตักอาหาร ฯลฯรู้หมดไปหาซื้อที่ไหนไปจัดการเองเลยค่ะ
การตั้งเสาอโศก 2ต้น ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะค่ะ เป็นเรื่องใหญ่พ่อค้าผู้ผลิตเสาอโศกก็เป็นชาวบ้านที่มีอารมณ์ร้อนพูดคำสองคำแกก็แสดงน้ำเสียงลำคราญตัดสายวางหูทิ้งเสียงั้น กว่าจะสำเร็จได้ อ.เจนก็อดทนเหมือนกันก็เพื่อเสาอโศกที่หาร้านผลิตยาก ราคาถูกกว่าร้านอื่นจึงต้องเหนื่อยมากอะค่ะรวมถึงการประสานกับทางวัดอีกที่ต้องเหนื่อยกว่าจะสำเร็จอาจารย์เหนื่อยเกือบทั้งเดือนค่ะโชคดีที่มีอาจารย์ดี ผู้หญิงทั้ง 2 คนนี้ไม่ท้อค่ะนอกจากงานบุญเสบียงสวรรค์ประจำทุกเดือนแล้วก็ทำงานบุญสร้างสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ อ.เจน ญาณทิพย์ ควบคู่กันไปซึ่งจำได้ว่าในช่วงนั้น ทำการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และทำรางท่อน้ำจึงต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างกรุงเทพฯ-เพชรบูรณ์อีก อ้อยังมีงานอัดรายการคนอวดผีต้องเดินทางทุกสัปดาห์ ส่วนมากไปถึงต่างจังหวัดไกล ๆการเดินทางไปล่าท้าผีของอาจารย์ก็เป็นความลับที่ทางทีมงานรายการคนอวดผีปิดบังอำพรางทุกครั้งค่ะเรื่องนี้จี๊ดล่ะแค้นใจแทนอาจารย์ทุกที อาจารย์เขาเหนื่อยรู้ปะ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้ง อ.เจน และคุณรุ้ง เจ็บป่วยเนื่องจากไม่มีเวลาพักผ่อนว่างจากพักผ่อนก็ต้องจัดเตรียมงานบุญนัดประชุมทีมงานดูแลกิจกรรมที่มอบหมายให้ทำว่าสำเร็จไปถึงไหนแล้ว โอ้ย จิปาถะค่ะ
วันก่อนการเดินทาง อ.เจน ยังป่วยไม่หายคุณหมออุตส่าห์เดินทางมาฉีดยาถึงบ้านขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยค่ะไม่งั้นอาจารย์ไม่ไหวแน่ค่ะเช้าวันรุ่งขึ้น อ.เจน ก็ไปทำงานบุญต่ออย่างที่เห็น ๆ กันนั่นแหละค่ะ
อย่างไรก็ดีก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกบุญที่ท่านได้ร่วมบุญกับอ.เจน ในทริปบุญ 24 ตอน ข้ามศตวรรษ ตามวัดต่าง ๆที่อาจารย์แสดงความประทับใจไปแล้ว
คำเตือนของ อ.เจน ก่อนออกเดินทาง อ.เจน นั่งสมาธิ
มีนิมิตมาเตือน “ระวังมิจฉาชีพ”
ดังนั้น อ.เจน จึงนัดประชุมหารือทีมงานโดยแจ้งให้รู้ว่า ทุกครั้งไม่มีคำเตือนแต่ครั้งนี้มีคำเตือนเราก็ต้องเฝ้าระวังปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่ง อ.เจน ให้คนคุมบัสทุกบัสแจ้งเตือนลูกทัวร์ว่าให้ดูแลทรัพย์สินของมีค่าของตนเองด้วย และขอเพิ่มเติมอีกเรื่องหนึ่ง คือการแจกซองในงานบุญของ อ.เจน เพราะบ่อยครั้งมากมีคนมาแจ้งกับ อ.เจน ว่ามีการแจกซองเรี่ยไรในงานบุญ อ.เจน ซึ่งเรื่องนี้อาจารย์ไม่อนุญาตเพราะเราไม่ทราบว่า ผู้ที่มาแจกซองนั้นเป็นใคร นำเงินของท่านไปทำบุญจริงหรือไม่เป็นมิจฉาชีพหรือไม่ อ้อ อีกเรื่อง ขอเตือนเรื่องการแลกเบอร์โทรศัพท์ หรือแลก Lineขอให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนนะค่ะ
อ.เจน บอกว่า คนมาทำบุญมีหลากหลายต้องพิจารณาด้วยค่ะสำหรับงานบุญของ อ.เจน ท่านที่มางานบุญร่วมกันบ่อยครั้งก็จะทราบกันดีว่าการทำบุญของ อ.เจน ไม่มีการแจกซองใด ๆ ทั้งสิ้นอาจารย์รับบริจาคโดยการโอนเงินตามจิตศรัทธาของวัตถุประสงค์บุญ
และรับบริจาคที่วัดตามกำลังศรัทธาแล้วจึงนำถวายพระสงฆ์ท่านทันทีค่ะ
เล่ากันมาเสียยาวยืดจะเบื่อกันหรือยังค่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ในครั้งแรกที่ อ.เจน แจ้งว่างานบุญครั้งหน้าจะทำการถวายต้นเสาอโศก เชื่อมั้ยค่ะ
จี๊ดนึกว่าล้อเล่นนั่งขำกลิ้งเสียงั้นจริงหรือค่ะใครเขาทำกันค่ะอาจารย์ แต่ อ.เจน กลับตอบกลับมาว่า นั่นสิค่ะแต่หนูเห็นในนิมิตเป็นอย่างนั้นก็ต้องทำตามนั้น
อ.เจนพูดว่า ตามที่เห็นในนิมิตให้ถวายเสาอโศกก็หมายความถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านต้องการจะบอกอะไรเราท่านต้องการให้ทำสิ่งนี้ก็ต้องทำ และหนูเชื่อในบุญที่จะทำและต้องทำให้ได้ค่ะ
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องราวตั้งแต่เริ่มติดต่อหาแหล่งผลิตคิดการใหญ่หาแหล่งผลิตติดต่อสั่งทำเสาอโศกเมื่อได้แล้วจึงไปเซอร์เวย์หาวัดนะค่ะวัดที่จะตั้งเสาอโศกน่ะหาที่หลังการสั่งซื้อเสาอโศกนะค่ะ คิดดู เอาเถอะค่ะ เมื่ออ.เจน เชื่อมั่นและตั้งใจจะทำอะไรแล้ว รับรองได้ว่าต้องทำสิ่งนั้นสำเร็จค่ะ
หลังจากนั้น อ.เจน ก็แจ้งให้ทีมงานรับทราบโดยคุณรุ้ง ผู้จัดการใหญ่เป็นผู้สั่งการต่อจาก อ.เจน โดยนัดหมายการประชุมทีมงานมอบหมายการทำงาน กำหนดกิจกรรม เช่น กิจกรรมการแสดงซึ่งงานบุญดังกล่าวนี้เป็นตอนข้ามศตวรรษ ถวายเสาอโศก ก็ต้องมีเรื่องราวของอินเดียลักษณะงานกิจกรรมก็เป็นอย่างที่เห็นๆ นั่นแหละค่ะ สาวอินเดียเดินกันทั่ววัดเลยค่ะใส่แล้วห้ามถอดทิ้งด้วยเช่าชุดมาแล้วต้องใส่ให้คุ้มค่า (จริง ๆ แล้วเพื่อเป็นสีสันเล็ก ๆ ค่ะ)
วัดแรก ทอดผ้าป่าสามัคคี (สร้างกุฏิสงฆ์ และห้องน้ำ และปรับพื้นที่กราบต้นอโศก) ถวายสังฆทาน ถวายต้นอโศก จำนวน 2 ต้น
ผู้คนแน่นศาลาเอนกประสงค์ล้นหลามออกมาข้างนอกซึ่งมีเต้นท์รับรองผู้ร่วมบุญไว้แล้ว จำได้ว่ามียอดเงินบริจาคประมาณ 3แสนบาท อนุโมทนา..สาธุ
อ.เจน หัวเข่าช้ำเจ็บ อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ทำพิธีถวายต้นเสาอโศกและเบบี้บุดด้า นั้น ได้คุกเข่าพนมมืออยู่เบื้องหน้าพระสงฆ์ แต่ปรากฏว่าหินกรวดเล็ก ๆ คมมากนั่งนานจนเกิดความรู้สึกเจ็บปวดมากแต่ก็ต้องทนอยู่อย่างนั้นเพราะได้กำหนดดูว่าเพราะเหตุใดหนอ ถึงเจ็บปวดหัวเข่าได้ถึงเพียงนี้ก็มีเสียงบอกว่า “พระสงฆ์ขุดหลุมเสาอโศกบาดเจ็บเจ้าจะยอมรับผลกรรมนั้นมั้ย” อ.เจนเมื่อได้รับรู้แล้วจึงตอบไปในจิตว่า “ยอมรับเจ้าค่ะ”
อ.เจนนิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมดภายในวัดให้ขึ้นไปห่มผ้าพระเจย์ดีเพื่อเป็นศิริมงคลเพื่อบุญกุศลของผู้ร่วมบุญ และเพื่อพระสงฆ์จะได้ไม่เห็นการแสดงร่ายรำเพลงอินเดีย/รำถวายขอพรก็จริงอย่างนั้นค่ะ เมื่อการร่ายรำเสร็จพระสงฆ์ท่านก็เดินลงมาจากเขาพอดี้พอดีค่ะ
การที่ อ.เจนไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนเขานั้นก็เพราะว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานจิตอยู่ที่เบื้องล่างได้ คนจำนวน 700 คนอาจจะเกิดการเบียดเสียดเกิดอุบัติเหตุทำให้คนพลัดตกลงไปในบ่อน้ำและไหล่เขาสูงชันเพื่อความปลอดภัยของทุกท่านค่ะ
การแสดงร่ายรำเพลงอินเดียกับเพลงวอนพระแม่
กิจกรรมการแสดงฉลองต้นเสาอโศกด้วยการร่ายรำเพลงอินเดียและเพลงวอนพระแม่นั้นอ.เจน บอกว่าจะทำการอัญเชิญเทพต่าง ๆ ให้มาร่วมพิธีเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมงานพวกนักแสดงต้องทำให้ดีที่สุด ท่านจะได้เสด็จมาดูแหมอาจารย์พูดอย่างนี้แล้วพวกเราต้องตั้งใจมากค่ะ การขอพรพระแม่ต่าง ๆ เช่นพระแม่อุมาเทวี (ประทานอำนาจวาสนาและบารมีอันสูงสุด ยศถาบรรดาศักดิ์) พระแม่ลักษมี(ประทานโภคทรัพย์ ความรำรวย ความสำเร็จ )พระแม่สุรัสวดี (ประทานงานศิลปะทุกแขนง)พระแม่คงคา (ประทานความร่มเย็น) พระแม่ธรณี (ประทานปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเป็นผู้ชนะอุปสรรคทุกสิ่ง)
ทีมงานรับทราบจัดให้ค่ะ คุณรุ้งผู้กำกับสั่งการโดยเลือกเพลงใช้ประกอบการแสดงที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุดแล้วจึงส่งเรื่องให้น้องๆทีมงานช่วยกันคิดหาท่าทางร่ายรำประกอบการแสดงซึ่งก็ปรับเปลี่ยนกันหลายครั้งหลายหนเวลาเป็นตัวบังคับอีก3 อาทิตย์จะต้องรีบด่วน เมื่อคุณรุ้งพิจารณาอนุมัติตามที่น้อง ๆ นำเสนอมาแล้วทีมนักแสดงก็ต้องมาซักซ้อมนั่นคือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สถานที่ไม่แน่นอนจี๊ดบอกตรง ๆ ว่าเวลาที่นัดพบเจอกันของทีมงานมีเพียงน้อยนิดทั้งคนเรียนคนสอนก็ทำงานกว่าเราจะมาพบกันได้อาทิตย์หนึ่งพบเจอกันทีหนึ่งใช้เวลาการสอนไม่มากนักแสดงทุกคนก็ต้องจดจำฝึกท่าทางหลังจากที่แยกย้ายกันไปก็บ้านใครบ้านมันฝึกกันเองค่ะ
ดังนั้น อาทิตย์สุดท้ายคือวันซ้อมใหญ่คืนวันเสาร์ก่อนมางานบุญวันอาทิตย์นั่นแหละค่ะ
การแสดงบนทางลาดชันพื้นดินลาดเทลงไปมากการทรงตัวเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมทั้งพื้นพรหมก็ลื่นมากด้วยค่ะขณะที่แสดงก็เหมือนจะถลาลงจากเนินดินซึ่งถ้าผู้แสดงประมาทพลาดท่าก็อาจจะกลิ้งม้วนตัวลงเนินดินนั้นไปอย่างกับหนังอินเดียนั่นแหละค่ะ
ท่านผู้ชมในงานก็อาจจะคิดว่าเอ...มันเต้นยังไงน้า ตัวแข็ง ๆ ที่จริงนักแสดงทุกคนตัวแข็งเพราะเกร็งกันมากเพราะต้องเกร็งปลายเท้าจิกพื้นพรหมเอาไว้ การออกลีลาท่าทางประกอบเพลงจึงยังไม่เต็มร้อยแต่ด้วยหัวใจนักสู้ก็เต้นกันไปจนตลอดรอดฝั่งค่ะงานนี้เล่นเอาพี่และน้อง ๆ นักเต้นพากันสะดุดพรหม โอนไปเอนมาทรงตัวยากลำบากแต่ก็สามารถกระเด้งปลายเท้าขึ้นมาได้ตลกค่ะ
ที่น่าเป็นห่วงก็ตอนที่น้องสองคนที่ต้องลงไปนอนกลิ้งตัวบนพื้นพรหมเป็นช่วงเพลงของพระแม่ธรณี แหมตอนนั้น จี๊ดลุ้นแทบแย่ เห็นยิ้มอยู่อย่างนั้นกลัวน้องจะกลิ้งลงไปหาคนดูที่ตีนเนินนั้นแหละค่ะใจก็แอบลุ้นให้น้องผ่านพ้นพยุงตัวไว้ให้รอด เฮ้อลุ้นเหนื่อย ไม่มีใครบอกว่าไม่ซวนเซถลาสักคนพยายามจิกเท้าเต้นอย่างสุดฤทธิ์เชียวค่ะ
เทพเทวา และพระแม่อุมาเทวี ท่านเสด็จมา อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ก่อนเริ่มการแสดงกิจกรรมเทพเทวา รุขเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา มาก่อนลมพัดแรงมากแดดก็ร่มทันทีทันใดค่ะหลังจากนั้น อ.เจน ก็อธิษฐานขอให้เทพต่าง ๆรวมทั้งเทพแขกพระแม่อุมาเสด็จมาเป็นประธานในพิธี แต่มีเสียงรุกขเทวดาบอกว่า “ท่านลงมาไม่ได้มนุษย์มีกลิ่นสาบมนุษย์มีกิเลส” ซึ่ง อ.เจน ก็ได้เห็นพระแม่อุมาเทวีท่านส่องแว่นฟ้าขนาดใหญ่ลงมาดูจนจบการแสดงค่ะ
คุณรุ้ง เล่าว่า เมื่อได้เห็นอย่างนั้นจึงได้ยกมือพนมกราบเทพเทวาและพระแม่อุมาเทวีท่านหากใครจะสังเกตจะเห็นได้ค่ะ คุณรุ้ง พูดติดตลกว่า ถ้าคนเขาเห็นหนูยกมือขึ้นไหว้เบื้องหน้านั้นเป็นนักแสดงกำลังร่ายรำอยู่นั้น เขาคงอดสงสัยว่า เอะ อ.เจน และคุณรุ้ง
ยกมือไหว้นักแสดงทำไม …
เห็นหรือยังค่ะการทำความดีของเราเทพเทวาก็มาร่วมอนุโมทนาบุญกับพวกเราแล้วท่านก็อำนวยอวยพรชัยให้กับเราด้วยค่ะ
จี๊ดประทับใจและดีใจมากนะค่ะ ที่มีเพื่อนๆกัลยาณมิตรหลายท่านต่างก็พูดเหมือนๆ กันว่า ไม่รู้เป็นยังไง ร้องไห้หลายครั้งมากตั้งแต่เริ่มมีการแสดงร่ายรำตั้งแต่แรกจนจบและร้องไห้อีกตอนก็เพลงพระพุทธเจ้าที่บรรยายถึงประวัติของพระองค์ท่านตั้งแต่ออกบวชตรัสรู้พบหนทางพ้นทุกข์แห่งวัฏฏสงสารค่ะ
อ.เจน พูดกับจี๊ดว่า พี่มีคนหลายคนมาบอกว่าร้องไห้กันมากหลายครั้งหลายหนซาบซึ้งอะไรบอกไม่ถูก ไม่น่าตั้งชื่อ ตอน ข้ามศตวรรษน่าจะชื่อ ตอน บ่อน้ำตาแตก
กรรมของสุนัข (ชื่อ นวล) วันเซอร์เวย์ จี๊ดเห็นหมาตัวหนึ่งมันคาบหินก้อนเบ้อเร่อวิ่งขึ้นวิ่งลงบนเขา แล้วก็แทะ ๆ หินก้อนนั้นก็รู้สึกสงสารสุนัขตัวนั้นพระท่านบอกว่าชื่อนวล ด้วยความสงสัยจึงได้ขอให้ อ.เจนตรวจกรรมของเจ้านวลเสียเลยว่าเจ้านวลมันไปทำกรรมใดมาถึงต้องมาทรมานกันกินหินจนแตกขนาดนี้มันคงเจ็บปากมันอย่างแน่นอนค่ะอ.เจน ดูให้แล้วจึงพูดว่า เจ้านวลนี้มีกรรมหนัก อดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรทำผิดต่อทรัพย์ของแผ่นดิน ได้ไปตกนรกหลายขุมมาแล้ว และกรรมยังไม่หมดต้องมาเกิดเป็นสุนัขแทะกัดกินก้อนหินอยู่อย่างนี้กรรมของเขจ้านวลแท้ ๆ ค่ะ
เรื่องของแพะ (แพะรับบาป) ที่วัดนี้มีแพะอยู่ตัวเดียวเมื่อก่อนมีเป็นร้อยตัวทางวัดเลี้ยงไม่ไหว เจ้าอาวาสท่านบอกว่า แพะตัวนี้ชื่อว่าแบะ ๆ ทุกวันนี้มันก็วิ่งตามเจ้านวล ไม่ว่าเจ้านวลจะไปไหนมันก็วิ่งเหมือนสุนัขไปไหนไปกันซึ่งมันก็คิดว่าตัวมันเป็นสุนัขค่ะ และอาหารที่ชอบ บะหมี่สำเร็จ ยี่ห้อ มาม่า ไวไวค่ะ
วัดสอง ทอดผ้าป่าสามัคคี ถวายสังฆทาน ห่มผ้าพระนอน บุญอีกแล้วเห็นมั้ยค่ะการห่มผ้าพระศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงนี้ อ.เจน บอกว่า ทุกครั้งที่ผู้คนมากราบไหว้เขาก็จะมองเห็นผ้าแพรพรรณที่สวยงามและอนุโมทนาบุญกับผู้ห่มผู้บริจาคและทุกท่านที่ร่วมบุญกันนี้ก็จะได้อานิสงส์บุญทุกครั้งที่คนมากราบไหว้และยังจะได้อานิสงส์ไปทุกภพชาติ จะมีผิดพรรณผ่องใส มีสิ่งอำนวยความสะดวกมีเสื้อผ้าสวยสวมใส่ อยู่ในตระกูลที่มียศถาบรรดาศักดิ์โอ้ยเยอะแยะค่ะเอาแค่สรุปและกันค่ะ นี่ยังไม่รวมถึงบุญทอดผ้าป่าสามัคคีถวายสังฆทานอีกค่ะ บุญ บุญ บุญ ทั้งนั้นค่ะอิ่มใจสุขใจกันกลับไปถึงบ้านก็ยังอิ่มสุขอยู่เลยค่ะ
วัดสาม ทอดผ้าป่าสามัคคี ถวายสังฆทานบนลานธรรมจักรเหมือนกับได้ไปอินเดียเชียวค่ะสถานที่วัดสวยงามมากและเป็นวัดสุดท้ายที่มีเรื่องสำคัญและต้องแจ้งพิเศษสักหน่อยค่ะ
อ.เจน กรวดน้ำถึง 2ครั้ง เพราะเหตุใดมาฟังกัน ถ้าท่านจะได้สังเกตว่าทำไม อ.เจน ถึงนำกรวดน้ำอีกครั้งหนึ่ง คือ กรวดน้ำถึง2 ครั้ง ก็ด้วยเพราะเหตุว่า อ.เจนได้เห็นในตาทิพย์ว่า มีเจ้ากรรมนายเวร ญาติพี่น้องของผู้มาร่วมบุญมาขอส่วนบุญกันเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาค่ะ เขาโหยหาอยากได้บุญจากทุกท่าน ดังนั้น อ.เจน จึงต้องทำการกล่าวเบิกบุญนำมากรวดน้ำให้กับพวกเขาอีกครั้งหนึ่งค่ะดีน่ะที่ อ.เจน มีตา ทิพย์ ถ้าเป็นจี๊ดก็ตาถั่วไม่เห็นอะไรเลยค่ะ คุณภุชงค์เขาก็ว่าตัวเองเป็น ภุชงค์ญาณตึบ ประเภทญาณมืดบอดมองไม่เห็นไรอะค่ะ
เรื่องของมิจฉาชีพ ตามที่จี๊ดเล่าไว้ตั้งแต่ต้นว่ามีเสียงมาบอกอ.เจน ทริปบุญนี้ระวังมิจฉาชีพ ทุกคนก็เฝ้าระวังกันเองในเรื่องของทรัพย์สินเฉพาะตนแต่หารู้ไม่ว่ามันยิ่งกว่านั้นค่ะ เพราะว่า มิจฉาชีพแฝงมากับลูกทัวร์ดังนั้นอย่าได้วางใจใครง่าย ๆ นะค่ะ อย่างที่ อ.เจนฝากเตือนเรื่องการแลกเบอร์โทรศัพท์ กับการแลก Lineนั่นแหละค่ะเนื่องจากที่วัดนี้เราไม่ได้นับเงินที่ได้นำถวายวัดค่ะโดยแจ้งให้ทางวัดรับไปดำเนินการเองได้เลย
ดังนั้น เจ้าหน้าที่วัด จำนวน 2 คนมานั่งที่ด้านหน้าเพื่อนับเงิน
เมื่อเสร็จภารกิจแล้วคณะบุญเราต้องไปพิพิธภัณฑ์เพื่อเยี่ยมชมพระธรรมจักรและเสาอโศกของจริงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งกรมศิลปกรได้มาสำรวจและรับรองว่าเป็นของจริงนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ซึ่งขุดพบได้บนเขาของวัดแห่งนี้ และที่ต้องรีบไปเพราะเกรงใจเจ้าหน้าที่เขาจะรอจริง ๆ แล้วสถานที่แห่งนั้นจะปิดเวลา 4 โมงเย็น แต่เห็นว่าเป็น อ.เจนแจ้งขอเข้าชมพิพิธภัณฑ์เขาดีใจมากยินดีเปิดรอรับรองอย่างไม่มีกำหนดแต่อาจารย์ก็เกรงใจเจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับคณะบุญของเราค่ะ
หลังจากนั้นได้มีผู้หวังดี 2-3ท่าน แจ้งว่า เห็นคนที่มากับคณะทัวร์บุญนี้ได้เข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่วัดนับเงินแล้วนำเงินเป็นปึก ๆ ซ่อนไว้ใต้หน้าตักเก็บเข้าพกเข้าห่อไปเรียบร้อยแล้ว โดยให้ยืนยันจากภาพที่ถ่ายได้ในงานบุญนี้แหละค่ะ
*** ซึ่งขณะนี้ อ.เจน ได้รู้แล้วว่าเป็นบุคคลใดชื่ออะไร จึงได้โพสต์ใบหน้าให้ทีมงานรับทราบด้วยแล้วเพื่อเฝ้าระวังให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องไปทำอะไรปล่อยให้กฎแห่งกรรมจัดการเองอาจารย์ว่าอย่างนั้นค่ะ***
คำขอจากทีมงาน เรื่องอย่างนี้มิได้เกิดขึ้นครั้งแรกทางทีมงานเองจึงได้ขออนุญาตให้ทีมงานได้ทำงานในส่วนนี้ยังไงก็ขอความเห็นใจเถอะนะค่ะเพื่อให้ทีมงานทำงานสะดวกและเพื่อให้ทางวัดได้ปัจจัยเงินครบถ้วนและเป็นตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ดังนั้น อ.เจน และคุณรุ้ง ได้พิจารณาแล้วจึงได้วางตัวผู้เดินถือพานผู้นับเงิน ซึ่งต้องเป็นทีมงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น มีบางท่านเข้าใจแต่บางท่านก็ไม่เข้าใจบางท่านอาจจะตำหนิว่า กล่าวในเรื่องนี้ รอช้า น่ารำคราญ อย่าคิดเลยค่ะนั่นเป็นขั้นตอนการทำงานที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้ใจบุญมาช่วยเรี่ยไรก็ดีไปค่ะ มีเงินมาตังอยู่ครบ แต่ผู้ใจร้ายเป็นมิจฉาชีพมาช่วยและหยิบธนบัตรใบละ 1,000 ใบละ 500เหน็บติดตัวไปสบาย ๆ ทางอาจารย์และทีมงานก็ต้องปกป้องไม่อยากให้เกิดความเสียหายค่ะ
จี๊ดก็เกรงใจมากที่ต้องพูดคำว่า “ขออนุญาตให้ทีมงานทำงาน” ก็เข้าใจดีว่า ต้องมีความน้อยใจอยากช่วยเขาไม่ให้ช่วย และเกิดความรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ แต่ขอให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจด้วยว่าการทำงานกับคนหมู่มากต้องมีระเบียบและมีระบบงานก็จะสำเร็จรวดเร็วและไม่บกพร่องค่ะ
งานบุญทุกบุญของ อ.เจน ญาณทิพย์น่าประทับใจทุกบุญเลยค่ะทุกท่านน่าจะภูมิใจที่ได้มาร่วมทำบุญดีดีที่หาทำได้ยากและเป็นบุญที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้เห็นว่าสมควรทำบุญนั้นๆ จี๊ดถือว่าสุดยอดแล้วค่ะ สำทริปบุญที่ 22 นี้ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะค่ะแล้วพบกันในงานบุญหน้าค่ะ สวัสดี..จร้า
จี๊ดจ๊าด