ทริปพิเศษ ร่วมอนุโมทนาบุญและบรรยายความประทับใจ ทริป เสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 20 - ห้อง ทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 19611|ตอบ: 163
พิมพ์หน้านี้ ก่อนหน้า ถัดไป

ทริปพิเศษ ร่วมอนุโมทนาบุญและบรรยายความประทับใจ ทริป เสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 20

[คัดลอกลิงก์]

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123

สวัสดีค่ะ
        ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับผู้ฝักใฝ่ในบุญทุกท่านและขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มอบความ
ไว้วางใจให้ดิฉันเป็นผู้นำบุญในทริปทัวร์บุญที่ผ่านมารวมถึงครั้งนี้ด้วยค่ะ
และยังรวมถึงน้ำใจของทุกท่านที่ได้มาอวยพรวันเกิดให้กับดิฉันค่ะปกติดิฉันจะไปทำบุญส่วนตัว
เพราะเป็นวันธรรมดาแต่ 2 ปีที่ผ่านมานี้ตรงกับวันหยุดพอดีจึงได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษ
เพื่อมอบความสุขให้แก่ทุกท่านก่อนนอนค่ะ
ดิฉันได้ขอเล่าความประทับใจที่ได้เป็นผู้นำพาบุญจนบุญสำเร็จแล้วดังนี้ค่ะ



วัดที่หนึ่ง เมื่อครังที่ไปเซอร์เวย์เส้นทางเข้าวัดแห่งนี้นั้นทางเข้าวัดมีสายไฟฟ้าที่โยงพันกันยุ่งเหยิง
สายไฟฟ้าลดต่ำลงมามากก็เป็นไปตามสภาพของชุมชนหมู่บ้านห่างไกลค่ะ
ซึ่งอาจจะทำให้รถบัสเข้ามาไม่ได้เกิดความไม่สะดวกลูกทัวร์อาจต้องลงจากรถเดินไปกันจนถึงวัดคงลำบากกันค่ะ
ดังนั้นจึงได้แจ้งกับหลวงพ่อจึงแจ้งความประสงค์ขอให้ทางวัดจัดการสายไฟฟ้าให้เรียบร้อยเพื่ออำนวย
ความสะดวกแต่ในญาณวิถีของดิฉันก็บอกว่าคงลำบากเพราะชาวบ้านเขาไม่เข้าใจค่ะ
จึงไปเซอร์เวย์ที่วัดแห่งนี้ครั้งที่สองแต่สายไฟฟ้าก็ยังโยงอยู่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่วัดให้รับทราบอีกครั้งค่ะ
ไปเส้นทางผิดกลายเป็นเส้นทางถูก   แต่เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 21 ก.พ.58 ปรากฏว่า  
คุณมิตรไปเซอร์เวย์กับดิฉันเมื่อถึงเส้นทางที่ไกล้จะถึงวัดแต่ไม่ได้ไปตามเส้นทางเดิมทั้ง
ที่ได้ปักหมุดเส้นทางเอาไว้GPS แต่รถไม่ได้มาตามเส้นทางGPS เป็นเส้นทางใหม่คุณมิตร
ตกใจมากรู้ว่าทาทางผิดดิฉันก็รู้ว่าคุณมิตรนำทางมาผิดจึงถามไปว่าทำไมมาทางนี้
ณมิตรก็ตอบว่าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตัวผมชาไปหมดมึนงง  อ.เจน
ช่วยผมด้วยครับผมจำอะไรไม่ได้เลยดิฉันจึงเพ่งจิตดูว่าเพราะอะไร จึงรู้ว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ท่านนำทางให้มาเส้นทางนี้ซึ่งก็มาถึงวัดแต่เป็นอีกเส้นทางหนึ่งค่ะเป็นเส้นทางที่ไม่ติดสายไฟฟ้า
และถึงวัดพอดีโดยไม่ต้องเดินไกลมากเลยค่ะ



วัดที่สอง เมื่อดิฉันเข้าไปภายในวัดก็ได้พบหลวงปู่ ท่านอายุ 80 กว่าปีเป็นพระปฏิบัติและ
ขณะนี้ท่านอาพาธอยู่ค่ะท่านนั่งรถกอลฟ์มาค่ะปกติท่านไม่ค่อยได้ออกมารับญาติโยมนะค่ะ
แต่ด้วยพลังบุญของทุกท่านที่เป็นกองทัพบุญที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้หาดูได้ยากนะค่ะ
แม้ท่านอาพาธท่านก็ออกมารับญาติโยมในครั้งนี้ค่ะ
ระหว่างที่พระท่านทำการสวดมนต์อยู่นั้นก็มีดวงจิตของผู้คนหลายท่านคิดวิตกสงสัยและติดวิจารว่า
ทำไมพระท่านพูดเบาไม่ได้ยินเอาเสียเลยแต่ดิฉันได้ยินชัดเจนค่ะ
และท่านก็ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแม้จะอาพาธก็ตามในขณะที่ดิฉันยกข้าวของสังฆทานอยู่นั้นท่าน
ปิติใจท่านรู้ทุกอย่างว่าพลังบุญของพวกเราเปี่ยมล้นและศรัทธาอย่างไรแต่ท่านไม่พูด
  ซึ่งดิฉันรู้ในญาณวิถีของดิฉันว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่จึงไม่ต้องการให้คนที่คิด
ติดกรรมกับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงได้พูดขึ้นว่าให้คนที่คิดอะไรไว้ในใจมาขอขมา
กับพระสงฆ์ก่อนกลับค่ะซึ่งดิฉันก็เห็นหลายคนได้คลานไปกราบขอขมา
  ดังนั้นดิฉันจึงขอเตือนว่าการทำบุญที่ถูกต้องระหว่างทำบุญให้จิตของเรานิ่งสงบไม่คิด
วิตกวิจารและสิ้นสงสัยเราจะได้บุญนั้นเต็มเปี่ยมค่ะและจะไม่ติดกรรมกลับไปด้วยค่ะ
เพราะอกุศลจิตมักจะเข้าสิงสู่จิตใจของคนเราได้เร็วและไวมากค่ะ



วัดที่สาม ที่วัดแห่งนี้เมื่อครั้งมาเซอร์เวย์ผ่านมาได้เห็นศาลาเอนกประสงค์กำลังก่อสร้าง
อยู่จึงคิดว่าวัดนี้น่าจะมาช่วยกันทำนุบำรุงสิ่งที่ขาดสิ่งที่กำลังปลูกสร้างแม้จะยังไม่เสร็จสิ้น
แต่พวกเราก็ได้มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนให้งานนั้นค่อยๆลุล่วงต่อไปได้
และด้วยสถานที่ที่พอเหมาะที่จะทำการหล่อเทียนด้วยจึงได้ขออนุญาตหลวงพ่อท่านทำ
การหล่อเทียนที่วัดแห่งนี้รวมทั้งจะได้ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาอเนกประสงค์ให้กับทางวัดด้วย
โดยนิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป เพื่อ สวดชะยันโต....ในงานพิธีหล่อเทียนเพื่อเป็นสิริมงคล
ให้แก่ผู้ร่วมบุญหล่อเทียนค่ะ
เมื่อถึงเวลาพิธีดิฉันและทีมงานต่างก็ทำหน้าที่ของตนจนไม่มีใครสังเกตได้ว่าพระสงฆ์ท่านมานั่งเพียง 4 รูป
ไม่ใช่ 5 รูปตามที่นิมนต์ไว้  โดยดิฉันก็ได้พูดเรื่องอนิสงส์บุญหล่อเทียนพระท่านมานั่งก็เริ่มสวดชะยันโต
และต่อมากลายเป็นสวดกุสลาธรรมมา....ซึ่งเป็นบทสวดศพ จึงได้หันไปดูจึงพบว่า
พระสงฆ์มีเพียง 4 รูปเท่านั้น ค่ะ  ดิฉันจึงได้ไปเปิดเครื่องเสียงเร่งให้กลบเสียงของพระแล้ว
ให้ลูกศิษย์นำซองไปถวายท่านพร้อมกับนิมนต์ท่านกลับค่ะดิฉันรู้ค่ะว่าทุกท่านคิดอะไร
ค่ะไม่ถูกต้องอย่างมากบางท่านไม่เข้าใจคิดว่าดิฉันพระท่านสวดทำไมดิฉันเสียมารยาท
เปิดเพลงเสียงดังกว่าเสียงพระสวดซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่งแต่ดิฉันต้องทำค่ะ
  ที่วัดแห่งนี้เทวดาท่านไม่ได้นำพามาแต่ดิฉันคิดดีเมื่อเห็นว่าศาลากำลังก่อสร้างใจคิด
แต่เรื่องบุญกุศลความตั้งใจเต็มเปี่ยมแต่ก็เหมือนกับบททดสอบว่าดิฉันจะผ่านอุปสรรค์นั้นหรือไม่



ที่ผ่านมาดิฉันได้นำบล็อกเทียน4ต้นนี้ไปใช้หล่อเทียนหลายครั้งและได้นำไปถวายวัดอยู่เนือง ๆ ค่ะ
ในการทำบุญของดิฉันไม่ว่าจะเป็นการหล่อเทียนหรือทำบุญอื่นใดก็ตามดิฉันก็ได้ทำอยู่อย่าง
สม่ำเสมอเป็นการไปทำบุญส่วนตัวโดยไม่ได้ประกาศแจ้งเป็นการทำบุญปกติของดิฉันค่ะ
  หนึ่งเดือนดิฉันจัดทัวร์บุญหนึ่งครั้งแต่ในหนึ่งเดือนนั้นดิฉันทำบุญเป็นการส่วนตัวหลายครั้งมาก
รวมทั้งการหล่อเทียนถวายวัดด้วยค่ะการใช้งานและการขนย้ายบล๊อคเทียนจึงทำให้แท่งบล็อก
เทียนชำรุดเสียหายมีรอยรั่วค่ะประกอบกับ ทุกครั้งดิฉันเป็นคนสั่งซื้อเทียนจากร้านสังฆภัณฑ์ด้วยตนเอง
แต่ในครั้งนี้ พี่รุ้งเป็นคนสั่งซื้อเทียนมาจากร้านค้าประจำที่เคยสั่งซื้อ  เมื่อเทียนมาส่งก็ไม่ได้
เปิดเช็คดูด้วยคิดว่าเทียนจากร้านเดิมก็เหมือนเดิมแต่เมื่อเปิดกล่องก็พบว่าเป็นคนระแบบกับที่
เคยสั่งซื้อมาก็ยังไม่คิดอะไรนะค่ะแต่ก่อนวันเดินทางหนึ่งวันญาณวิถีของดิฉันบอกว่าต้องซื้อเทียนไป
จะมีปัญหาเรื่องต้นเทียนดิฉันสั่งซื้อเทียนสำเร็จมาหนึ่งต้นพี่รุ้ง ถามว่าซื้อมาทำไมดิฉันก็บอกว่า
ไม่รู้ค่ะรู้ว่าต้องเตรียมเทียนไปหนึ่งต้นค่ะ
เช้าวันอาทิตย์พี่รุ้งและทีมงานที่ได้รับมอบหมายไปช่วยกันแกะบล็อกเทียนแต่ปรากฏว่า
บล็อกเทียนรั่วไป 2 ต้น เหลือ 2ต้นที่มีเทียน แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถแกะบล็อคเทียนออกมาได้ค่ะ
พี่รุ้งก็โทรแจ้งมาให้ทราบ ซึ่งบล็อกเทียน 2 ต้นที่รั่วนั้นเพราะใช้งานบ่อยก็เข้าใจได้ค่ะ
แต่ อีก 2 ต้นทำไมถึงแกะไม่ออกค่ะ

วัดแรกของวันที่สอง ดิฉันได้นำผู้คนมาที่วัดเพื่อทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างหลังคาเอนกประสงค์
ในวันนั้นได้ถวายปัจจัยที่ได้ทำบุญร่วมกันจากท่านที่โอนมาทางเว็บไซด์สองแสนกว่าบาทและรวมทั้งที่
ได้ร่วมบุญกันที่วัดได้ยอดถึง 332,999 บาทอนุโมทนาบุญร่วมกันนะค่ะเพราะหลวงพ่อท่านจะติดป้ายชื่อผู้บริจาค
เป็น “คณะทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์อ.เจนญาณทิพย์” ไว้ที่หลังคาค่ะ
ตั้งแต่เช้าเราได้ทำบุญตักบาตรข้าวสวยพร้อมสังฆทานที่เตรียมกันมาใส่บาตรพระกันค่ะ
ดิฉันได้เห็นด้วยตาทิพย์ว่าเหล่าองค์เทพเทวา รุกขเทวดาทั้งหลายต่างก็มาร่วมอนุโมทนาบุญ
กับพวกเราในวันนั้นท่านมากันมากมายค่ะ
เมื่อเสร็จพิธีการที่วัดนี้แล้วดิฉันได้นำพาทุกท่านไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร
ใกล้กับวัดที่สามของวันแรกที่ได้หล่อเทียนกันนั้นแต่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เพราะ
มีงานรออยู่ข้างหน้าต้องไปดูต้นเทียนค่ะ



วัดที่สองของวันแรก ดิฉันไม่ได้รับประทานอาหารค่ะต้องเร่งรีบไปดูต้นเหตุของต้นเทียนและ
เมื่อสื่อดูด้วยสมาธิแล้วจึงพบว่าสาเหตุเกิดจากเทียนขี้ผึ้งที่นำมาหล่อเป็นต้นเทียนนั้น
แท้จริงแล้วเป็นเทียนขี้ผึ้งแกะสลักไม่ใช่เทียนที่ใช้หล่อต้นเทียนอย่างที่เคยทำมาค่ะ
ดิฉันเลยนำบล็อคเทียนที่เหลือจากวันงานดังกล่าวทั้งหมดกลับมาแล้วนำมาแคะเทียนออกแล้วหล่อใหม่
ใส่บล็อคเป็นรูปพระพุทธรูปแทนเพราะเป็นเทียนอธิษฐานจิตของแต่ละท่าน




เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ให้ดิฉันให้มองเป็นธรรมมะเป็นปริศนาธรรมค่ะ
เพราะปรากฏการณ์นี้มีอะไรแอบแฝงอยู่เป็นนัยยะค่ะก็คือ ในอนาคตต่อไปในภายภาคหน้า
ทุกท่านจะได้ทำการหล่อเทียนกันอีกหลายต้นจึงทำให้มีผู้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น
ได้มีจิตเป็นกุศลขอร่วมปัจจัยซื้อบล็อกเทียนและสั่งซื้อบล็อกเทียนถึง3 คู่
ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้บริจาคนะค่ะเมื่อดิฉันได้เห็นในสมาธิแล้วจึงรู้ว่า
การที่ดิฉันกับพี่รุ้งมีเจตนาจะทำการอัญเชิญพระพุทธญาณเมตตาประทานพร
และองค์สมเด็จพุฒาจารย์โตพรหมรังสีมาประดิษฐานที่เรือนรับรองของสำนักปฏิบัติธรรม จ.เพชรบูรณ์
เมื่อได้ทำการตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วก็ไม่น่าจะนานนะค่ะ
วัดที่สามของวันที่สอง ดิฉันได้นำทุกท่านไปนั่งสมาธิท่ามกลางบรรยากาศของป่าเขา มีนกยูง
มีสัตว์ต่าง ๆมากมายเป็นธรรมชาติการปฏิบัติธรรมในสถานที่สงบเงียบร่วมกันท่ามกลางผู้คนหมู่มากมีอานิสงส์มากค่ะ
ไม่ว่าจะไปแห่งหนใดก็ทำบุญได้ทุกแห่งค่ะ



งานแสดงกิจกรรมยามค่ำ ดิฉันตั้งใจให้ทุกท่านมีความสุขก่อนนอนและเพื่อเป็นการสร้างสามัคคีในหมู่คณะ
แม้ยามค่ำคืนเราก็ทำบุญกันได้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทุกท่านได้ร่วมกันโหวตให้กับนักแสดง
เงินรายได้ทั้งหมดจำนวน 69,660 บาท ทางทีมนักแสดงก็ได้นำเข้าสมทบทุนร่วมสร้างสำนักปฏิบัติธรรม
วิปัสสนาญาณของอ.เจนญาณทิพย์ ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับคณะแสดงทั้งหมดที่ร่วมกันมารวม
ทั้งขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ



   ดิฉันขอบคุณทุกท่านที่ได้อวยพรวันคล้ายวันเกิดของดิฉันค่ะแต่ก็มีหลายท่านที่มีจิตเป็นกุศลมอบ
เงินค่าใช้จ่ายให้ดิฉันนำไปใช้เป็นค่าเดินทางและใช้ส่วนตัวในการเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์
เพื่อไปทำงานที่สำนักปฏิบัติธรรมดิฉันได้อธิษฐานจิตให้กับทุกท่านที่มาร่วมบุญนี้และขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
เรื่องที่แจ้งให้ทราบเรื่องงานบุญเท่านั้นที่ผ่านมาคนที่คิดงานก็มีดิฉันกับพี่รุ้ง 2 คนเท่านั้น
งานของทีมงานก็ไม่ได้มากนักเพราะว่าทีมงานทำงานแล้วก็กลับบ้านของตนจะมารวมตัวกัน
ก็มีกิจกรรมก็เฉพาะวันหยุดแต่หากว่าเดือนนั้นไม่มีกิจกรรมใดเลยก็จะมาค้างที่บ้านก่อนวันเดินทางหนึ่งวันเท่านั้นค่ะ
การเดินทางไปสำนักปฏิบัติธรรมที่จ.เพชรบูรณ์ในแต่ละครั้งก็จะมีเพียง ดิฉัน พี่รุ้ง และ
คุณมิตรที่มาช่วยสลับขับรถกับดิฉันที่ต้องให้คุณมิตรมาช่วยก็เพราะว่าบางครั้งดิฉันเดินทางไป
จ.เพชรบูรณ์โดยไปเช้ากลับค่ำมืดตีหนึ่ง หรือ ตีสองก็มีค่ะบางครั้งก่อนไปก็ต้องไปอัดรายการ
คนอวดผีไปบ้านร้างเสียก่อนค่ะไม่ได้หลับนอนพักผ่อนวันรุ่งขึ้นต้องเดินทางไป จ.เพชรบูรณ์
พักผ่อนด้วยการหลับในรถก็มีค่ะ



ดังนั้นการเดินทางไปที่จ.เพชรบูรณ์ ของทีมงานจึงไปไม่บ่อยครั้งค่ะ ทีมงานก็มี พี่จี๊ดคุณภุชงค์
คุณสุดารัตน์  คุณดา น้องเบิร์ดน้องเก่ง น้องดิวก็ไม่ได้ไปด้วยกันบ่อยครั้งนักเพราะในหนึ่งเดือน
ดิฉันเดินทางไปหลายครั้งโดยต้องไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแทบจะไม่ได้พักผ่อน
อยู่บ้านก็ต้องคิดกิจกรรมสั่งการทีมงานและให้มารวมตัวกันก็เป็นงานเฉพาะพิเศษที่จำเป็นต้อง
ใช้กำลังของทีมงานทั้งหมดนี้ค่ะซึ่งดิฉันก็เกรงใจทีมงานอยู่เหมือนกันค่ะเพราะสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้น
แสงแดดร้อนเปรี้ยงมีฝุ่นละออง มีน้ำบาดาลสกปรกไม่สะอาดอยู่ลำบากค่ะ
และบางครั้งมีงานสำคัญดิฉันก็ต้องขอร้องให้ไปช่วยแม้ว่าจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวในการเปิดกรรม
ที่บ้านอย่างใครเขาแต่ดิฉันต้องทำงานของสำนักปฏิบัติธรรมให้ลุล่วงตามเจตนาเงินบริจาคของทุกท่านค่ะ
นอกจากนี้คุณเต้ย  คุณต้นโพธิ์ น้องเชนไม่ได้เป็นทีมงานแต่มาช่วยงานเป็นจิตอาสาเฉพาะงานบุญประจำเดือนเท่านั้นค่ะ
จึงเรียนแจ้งมาเพื่อทราบด้วยค่ะสุดท้ายนี้ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้บริจาค
ท่านผู้บริการท่านผู้ฝักใฝ่ในบุญทุกท่านค่ะ

อ.เจน ญาณทิพย์




โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

77

กระทู้

516

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
26512
        ครั้งนี้ผู้ร่วมทัวร์บุญกับ อ.เจน ครั้งที่ 20 นี้ ประมาณ 300 กว่าคน ไม่น้อยเลยนะค่ะ
ครั้งแรก อ.เจน กำหนดไว้เพียง 250 คน แต่เอาเข้าจริงโอ้โฮตั้ง 300 กว่าคน ก็ต้องยุติลง
เพียงเท่านี้เพราะไม่มีห้องพักรับรองเพียงพอที่จะต้อนรับสมาชิกบุญเลยค่ะ ดิฉันก็ได้เห็นน้ำใจ
ผู้ใฝ่ในบุญของทุกท่านอย่างจริงใจที่ได้ร่วมบุญกันมาไม่ว่าจะเป็นท่านที่โอนผ่านเว็บไซด์
เอย.. และท่านที่มาร่วมบุญกัน เอย... และคนที่ไม่ได้มาเนื่องจากติดภารกิจอื่นใดก็ตามค่ะ
ดิฉันก็จะเริ่มเล่าเหตุการณ์เรียงตามลำดับไป ดังนี้ค่ะให้เสมือนหนึ่งท่านได้เข้าไปอยู่ใน
เหตุการณ์เลยทีเดียวตามมาติดตามกันนะค่ะเพื่ออนุโมทนาบุญด้วยกันหย่อนหลังค่ะ



ดิฉันจะพูดถึงตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยค่ะ ก็ตามที่ อ.เจน กล่าวไว้ข้างต้นนั่นแหละค่ะ
กว่าจะได้เป็นทริปทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ อ.เจน เที่ยวนี้  อ.เจน ไปเซอร์เวย์ถึงสามรอบเพื่อเตรียมความพร้อม
ในเรื่องของสายไฟฟ้า อาหาร ที่ต้องเตรียมพร้อมให้แก่ลูกทัวร์ ในแต่ละจุด อ.เจน
ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งการไปเซอร์เวย์ในแต่ละครั้ง ไปกันเพียงไม่กี่คนหรอกค่ะ
แต่ก็ต้องช่วย อ.เจน ชิม อิ่มกันแล้วก็อิ่มกันอีกสำหรับการตระเวนชิมเลยค่ะ ชิมแล้วชิมอีก
ส่วน อ.เจนกับคุณรุ้ง และคุณมิตร หน่อยค่ะ เพราะดิฉันก็ไม่ได้ไปกะเขาค่ะ ไปครั้งเดียว
อ.เจน ไปเซอร์ย์ 3 ครั้ง ดิฉันไปไม่ได้ค่ะ ดังนั้น อ.เจนกับคุณรุ้ง และคุณมิตร ที่เหนื่อยมากจริง ๆ
เพราะต้องไปด้วยกันตลอดทุกงาน แต่ส่วนดิฉัน และน้อง ๆ
ทีมงานคนอื่นก็เหนื่อยไม่กี่วันค่ะและบางคนก็ไม่เคยได้ไปเลยค่ะ ก็อย่างที่ อ.เจน ได้บอกไว้นั่นแหละค่ะ



ก่อนออกเดินทาง อ.เจน สวดมนต์ไหว้พระเพื่อนำฤกษ์นำชัยนำขบวนบุญ ปกติก็ไม่มีไรนะค่ะ
แต่ครั้งนี้ อ.เจน สวดบทคาถาชินปัญชร โดยบอกว่า มีเสียงเตือนบอกต้องท่องบทนี้ด้วยค่ะ
ตอนนั้นดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เมื่อมีเหตุการณ์ต่อไปจึงรู้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร
เห็นมั้ยค่ะมากะ อ.เจน ก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เตือนภัยก่อนล่วงหน้าดีจริง ๆ ค่ะ

จุดออกเดินทาง    เป็นจุดแรกที่เรามาระดมกำลังพลกัน แต่ทุกท่านก็มากันตรงเวลา
และก็มีบางท่านที่มาช้ากว่าเวลาแต่เราไปทำบุญร่วมกันทุกคนก็รอเพื่อน ๆ กันโดยไม่มีใครบ่นเลยค่ะ
แหมน้ำใจช่างงามเหลือค่ะ เราก็เดินทางไปตามเส้นทาง ดิฉันกับคุณรุ้ง
ก็ทำหน้าที่พูดคุยเรื่องจิปาถะรวมถึงเรื่องของการทำบุญอย่างไรถึงจะถูก
ก็เพลิดเพลินกันไปจนกระทั่งเริ่มจะเข้ารกเข้าพงแล้วก็แหมบรรยากาศสุดแสนจะ
เปล่าเปลี่ยวสองข้างทางที่จะไปวัดแรกนี้ช่างกระไรถ้ามาคนเดียวมีหวังคง
จะหวาดกลัวกันไปต่าง ๆ นา ๆ นี่มากัน 6 บัส 3 รถตู้ ก็ OK ค่ะ

วัดที่ 1 คุณรุ้งกับดิฉันก็เล่าเรื่องโน่นนี่นั่นไปตลอดเส้นทาง
ที่วัดแห่งนี้ดิฉันไม่ได้มาสำรวจเส้นทางกับอาจารย์ค่ะ แต่คุณมิตรพลขับนำทางค่ะ
แต่ก็รู้ว่า อ.เจน มาแต่ละวัดนั้นไม่ธรรมดาหรอกค่ะ เมื่อมองเห็นสองข้างทางเป็นการ
ปลูกพืชทางการเกษตร มีทั้ง ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง สลับฉากกันไป มองไปลิบๆ ก็ภูเขา  
มีดอกไม้สวยสด เช่น ต้นเฟื่องฟ้าสีแจ่มสดสวยงามจริง ๆ มองออกไปไกล ๆ
ก็เพลินตาเพลินใจเป็นที่สุดเพราะว่า ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง
เขาได้ขุดถอนไปแล้วเพื่อเตรียมแปลงดินลงต้นกล้าใหม่ แหมแต่ว่ายิ่งเพลิน
ก็ยิ่งไกลทำไมไม่ถึงวัดเสียที เจ้าหน้าที่วัดก็โทรเข้าโทรศัพท์คุณรุ้งว่า
มากันจริงหรือเปล่าค่ะ มาถึงไหนแล้ว



เริ่มระแวงกันละสิ เพราะ อ.เจน มาที่วัดนี้ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใครมาจากไหนมาเพียงบอกว่า
จะนำพาคนมาเป็นร้อย พูดเพียงไม่ถึง 10 นาที ก็ลากลับ ความน่าเชื่อถือบวกกับ
ความระแวงกันตั้งแต่แรกย่อมเป็นธรรมดา ค่ะ คุณรุ้ง ก็แจ้งว่ากำลังจะถึงแล้วค่ะ
แต่ที่ไม่ถึงก็เพราะว่ามากันคนละเส้นทาง ก็ได้มารู้จาก อ.เจน ว่าเป็นเพราะไร ก็คือ
มีเรื่องไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นกับคุณมิตร ระหว่างการเดินทางไปวัดแรก คุณมิตรเล่าให้ฟังว่า
ตอนที่นำเส้นทางที่มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ แขนขาชา ไม่รู้เรื่อง
บังคับตนเองไม่ได้ จึงร้องบอก อ.เจน ช่วยด้วยทำไมต้องมาเส้นทางนี้ที่ไม่เคยมา
สักพัก อ.เจน จึงบอกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้มาทางนี้ มาทางนี้ใกล้และไม่ติดสายไฟฟ้า
อ๋อเป็นอย่างนี้นี่เอง ที่วัดแห่งนี้ อ.เจน นำทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างวิหารทาน
และถวายสังฆทานยอดเงินน้อยเสียเมื่อไหร่ 71,009 บาท ขออนุโมทนาสาธุด้วยกันนะค่ะ สาธุ



วัดที่ 2 เดินทางออกจากวัดที่ 1 ไปวัดที่ 2 แห่งนี้ แหม ๆ บรรยากาศร่มรื่นชื่นใจ
ไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์พร้อมด้วยถ้ำ ภูเขา สายน้ำไหล
เพียงแค่เดินเข้าไปก็เย็นกายเย็นใจแล้วค่ะ ช่างสงบดีแท้ค่ะ  เมื่อทุกท่านได้รับประทาน
อาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว  นำทีมโดยคุณรุ้ง และทีมงานที่ได้รับมอบหมายก็ต้อง
เตรียมเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังวัดที่ 3 เพื่อไปจัดเตรียมงานหล่อเทียน
ต่างก็ขนกล่องอัดเข้าไปในรถตู้ที่สำรองไว้พร้อมกับกล่องข้าวประจำตัวของแต่ละคนขน
ขึ้นรถตู้โดยนั่งกินกันไปคุยไป เมื่อกินกันเสร็จก็ซ้อมร้องเพลงที่ได้ช่วยกันแต่งมาเซอร์ไพร์ส
อ.เจน ต้องแอบร้องบอกใครไม่ได้อึดอัดเหลือเกินค่ะ ต่างก็ตะโกนร้องกันสุดเสียง
ไม่ต้องเกรงใจใครสงสารแต่คนขับรถที่ต้องทนฟังไป คนขับบอกว่าตอนแรกเงียบมาก
ขับรถแล้วจะหลับพวกเราขึ้นมาเสียงเจี้ยวเชียว และเราก็ร้อง ๆ และร้อง
ไม่หยุดร้องต้องซ้อมร้องเพลงให้แม่นยำ (เนื้อเพลง ช่วยกันแต่ง ทำนองเพลง บางระจัน) ค่ะ  



ยังไม่พอยามค่ำคืนนี้ต้องร้องเพลงประกวด รายการสากกะเบือทองคำ ผู้เข้าประกวด
ไม่ใช่ใครที่ไหนทีมงานนี่แหละ เพลงที่ส่งประกวดก็เพลงใครเพลงมัน ที่นี้ท่านผู้อ่าน
ก็ลองหลับตานะค่ะ แล้วนึกภาพตาม ก็คือ ทุกคนก็มีเพลงเป็นของตนเองที่นี้ทุกคนก็ร้อง
เพลงของตนเองออกมาคนละเพลงเสียงตะเบงเซ็งแซ่ต้องแยกสติกันให้ออก
แต่แยกเสียงกันไม่ออกค่ะ ไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใครกันเชียวล่ะ
ตัวดิฉันเองร้องเพลงของตัวอยู่ดีดีไปร้องเพลงของเพื่อนข้าง ๆ เสียชิบ
ที่เล่ามานี่ยังนึกถึงวันนั้นขำฮาค่ะ ปากก็ซ้อมขอคะแนนไข่  บางคนก็ทำท่าทางประกอบเพลง
เฮ้อเหนื่อยเหมือนกันนะการแข่งร้องเพลงในรถตู้เนี้ยค่ะ



กลับมาที่วัดหน่อยค่ะ อ.เจน บอกว่า ที่วัดแห่งที่ 2 นั้นมีหลวงปู่ อายุมากแล้วอาพาธ
ด้วยอายุประมาณ 80 กว่าปี ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อ.เจน
เห็นท่านนั่งรถก๊อบมาค่ะ อ.เจน บอกว่าท่านมารับญาติโยมที่มากันมากมายที่หาดู
ได้ยากเป็นกองทัพบุญที่ยิ่งใหญ่ค่ะ อ.เจน บอกกับดิฉันว่าระหว่างที่พระท่านสวดมนต์อยู่นั้น
มีหลายคนที่นั่งอยู่ภายในศาลาได้เห็นท่านพูดเสียงเบาไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร
และทำไมพูดไม่ได้ยินเพราะกระแสจิตที่คิดรุ่นแรงเหลือเกิน ได้มีจิตคิดว่าหลวงพ่อ
ท่านทำไมพระท่านพูดเบาไม่ได้ยินเอาเสียเลย ส่วนตัว อ.เจน ได้ยินชัดเจนมากค่ะ
เพราะใช้หูทิพย์ฟัง และหลวงพ่อท่านก็ยิ้มปิติสุขใจกับผู้ร่วมบุญทุกท่านยิ้มแก้มไม่หุบ
เลยหน้าท่านมีเมตตาสูงค่ะท่านอนุโมทนาบุญกับเราด้วยนะค่ะ
อ.เจน รู้ในญาณวิถีว่า ทุกคนกำลังใช้จิตคิดวิจารหลวงพ่ออยู่ในขณะนั้น เพราะด้วย
กาย วาจา และใจ เมื่อตามองเห็นรูป ใจก็คิดไปตามสิ่งที่มองเห็น
และวิพากษ์วิจารณ์พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง
บางครั้งท่านก็ไม่รู้ได้ว่าพระองค์นี้พระองค์นั้นท่านเป็นอย่างไร
การที่ท่านพูดเสียงเบานั้นก็เป็นเพราะท่านอาพาธหนัก และท่านได้สวด
ให้ศีลให้พรแก่ทุกท่านเพื่อเป็นศิริมงคลในงานบุญวันนั้นด้วยค่ะ ดังนั้น
ท่านนักคิดทั้งหลายจะติดกรรมกลับไปนี่ละสิ ก็ผลกรรมจะส่งผลในทันทีเนื่องจาก
บุญกุศลที่เราทำอยู่ส่งผลทันทีค่ะ  และเมื่อเห็นสิ่งใดแล้วก็อย่าไปตำหนิเขาก่อน
บางครั้งก็ไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่เห็นก็ได้



ถ้าทุกท่านที่อยู่ภายในศาลาก็จะได้ยิน อ.เจน พูดว่า ใครคิดอะไรก็ไปขอขมาพระท่านเสียนะ
พราะจิตของเรามันไว มาทำบุญแล้วต้องมาติดกรรมไปด้วยค่ะ เพราะอกุศลจิตมักจะเข้า
สิงสู่จิตใจของคนเรานอกจากนี้จิตของเราก็เร็วและไวมากค่ะ อ.เจน บอกกับดิฉันว่า
เมื่อพูดให้คนที่คิดอะไรในใจไปขอขมาพระสงฆ์ ปรากฏว่า ไปขอขมากันกันตรึม
รวมทั้งน้องสาวของดิฉันด้วยที่เดินมาสารภาพว่าคิดเหมือนกันค่ะอาจารย์

วัดที่ 3 มื่อถึงวัดใครมีหน้าที่ทำไรไปทำด่วน เพราะต้องทำเวลาให้ทันกับคณะบุญที่
กำลังจะเดินทางมาวัดที่ 3 นี้ ทีมที่อยู่กับ อ.เจน แจ้งว่า นั่งสมาธิกันอยู่ ทีมนี้ก็รีบเลย
ใครจุดเตาไปจุด ใครจัดเก้าอี้ไปจัด  ใครเช็ดถูเก้าอี้ไปทำ ก็คือ อ.เจน ได้เช่าเก้าอี้มา
ลงที่วัดเพื่อรับรองที่นั่งถึง 300 ตัว เช่าเต้น 1 เต้นท์  ปรากฏว่า ร้านเก้าอี้เขาเอาเก้าอี้
มาส่งจริง ๆ ค่ะ แต่ไม่ได้จัดเรียงเก้าอี้ให้เรียบร้อยเลย ทุกคนก็ต้องไปช่วยกันยกเก้าอี้
มาจัดวางให้เรียบร้อย ประกอบกับเก้าอี้ทั้ง 300 ตัวนี้มีฝุ่น ยักใย่ สกปรกทุกตัว
ก็ต้องไปหาผ้ามาชุบน้ำเช็ดกันถึงปาดเหงื่อเลยละค่ะ  ทางเจ้าของเก้าอี้ก็ไม่จัดเรียงเก้าอี้ให้ด้วย
ถ้าจัดให้ก็ต้องคิดเงินเพิ่ม ดังนั้น จึงต้องทำกันเองค่ะ ในขณะที่จัดเก้าอี้กันอยู่นั้นโอยแดดร้อนมากเลยค่ะ  
แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ทุกท่านมาถึงวัดแดดร่มแล้วค่ะ



ทีมทำงานมากันนานมากแล้ว แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของวัด หรือพระ หรือใครก็ได้
มาคอยอำนวยความสะดวกอะไรก็ได้ค่ะ ไม่มีค่ะ เป็น งง งง อยู่เหมือนกัน แต่ก็พอจะทำใจ
ได้เพราะว่ารู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าน่าจะต้องเป็นอย่างนี้ค่ะ ก็ไม่คิดไรคิดเสียว่าบุญ
เท่านั้นที่เราเอาไปได้ เราจะมาโกยบุญของเรา ใครไม่คิดถึงบุญ  เราคิดค่ะ
เพราะดิฉันเชื่อเรื่องของบุญอย่างเต็มร้อย ตามที่ อ.เจน สั่งสอนค่ะ อ.เจน พูดกับดิฉันว่า
การที่เราได้มาพบ วัด หรือ พระสงฆ์ หรือ คนที่ยังเข้าไม่ถึงธรรมมะของพระพุทธองค์นั้น
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะนั่นเป็นบททดสอบจิตของเราว่า เราจะยังคงทำบุญต่อไปหรือไม่
  เราจะท้อมั้ย  เราจะเบื่อหน่ายมั้ย  เราจะผ่านบททดสอบนี้มั้ย
เราจะเอาผัสสะของเราไปกระทบมั้ย เราสามารถปล่อยวางและมองให้เป็นธรรมมะได้หรือไม่
อ.เจน ยังบอกอีกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบอกอะไรเราบางอย่าง และอาจจะรวมถึง
การเตือนสติพระสงฆ์ที่อาศัยวัดแต่ไม่ทำกิจของสงฆ์ ด้วยการเชื่อและศรัทธา
ในบุญกุศลและหมั่นปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ นำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ไปสั่งสอนคนให้ทำความดี   ซึ่งดิฉันก็เห็นว่าน่าจะเป็นอย่างที่ อ.เจน พูดจริง ๆ
เสียด้วยค่ะ  ไม่ได้แล้วเราต้องผ่านด่าน 18 มนุษย์ทองคำไปให้ได้ค่ะ  สู้ สู้ สู้ โว้....

มองเป็นธรรมมะ ดิฉันขอเล่าย้อนไปถึงตอนที่มาเซอร์เวย์กับ อ.เจน นะค่ะ
ครั้งที่เดินทางมาที่วัดนี้ อ.เจน เห็นว่า ทางวัดกำลังก่อสร้างก็มีจิตเป็นกุศลอยาก
ไปช่วยวัดสั่งการทันทีให้ลงจากรถทุกคนที่ติดตามก็ลงทันทีเหมือนกัน เราก็ฟูฟู
บุญเข้าไปนะค่ะ  ดิฉันเชื่อในคำสั่งสอนของอาจารย์เต็มร้อย ที่ว่าเราต้องไปช่วย
วัดที่ขาดเพื่อช่วยกันเสริมเติมให้เต็ม แต่เมื่อได้พบกับเจ้าอาวาส อ.เจน ก็ถามเลยค่ะว่า
กำลังก่อสร้างอะไรอยู่ค่ะท่าน  ท่านก็ไม่ค่อยอยากจะตอบหรอกค่ะ
ตอบก็ได้ สร้างศาลาเอนกประสงค์  อ.เจน จึงบอกว่า ดีค่ะท่านคือหนูต้องการ
นำพาคนประมาณ 200-300 คน มาร่วมบุญสร้างศาลาด้วยค่ะท่าน



คำถามใหม่ก็คือ เป็นพวกหลอกลวงต้มตุ๋นพระหรือเปล่านี่ พวกโยมมาจากไหนกัน
ไม่ใช่พวกหลอกลวง 18 มงกุฎนะ อ.เจน ก็ยืนยันว่า ไม่ใช่หรอกค่ะ ตัวดิฉัน
นั่งบริกรรมทันทีเลยว่า “ไม่คิดหนอ ๆๆๆๆๆ” ส่วนคุณรุ้ง เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว  
อารมณ์เริ่มมาแล้ว  ปกติ อ.เจน จะไม่บอกวัดที่ไปทำบุญเลยค่ะว่าเป็นใคร มาจากไหน
แต่ครั้งนี้ คุณรุ้ง พูดขึ้นว่า เราทำบุญทุกเดือนและนำพาคนไปครั้งละมาก ๆ
และที่สำคัญออกรายการทีวีด้วยค่ะ รับรองได้ว่าไม่หลอกลวงไปดูได้ตามรายการต่าง
ๆ อ.เจน จึงพูดขึ้นว่า ดิฉันชื่อ อ.เจน ญาณทิพย์ พระท่านก็ว่า ที่วัดนี้ก็มีดารามาทำบุญมากมาย
ก็มี ผ่องศรี วรนุช ดิฉันฟังชื่อแล้วโบราณมากซึ่ง อ.เจน ไม่รู้จักค่ะ
แต่ดิฉันรู้จักนักร้องสมัยเก่าค่ะ   หลวงพ่อท่านยังพูดต่อไปว่า
อาตมาก็เห็นคนชอบมาหลอกลวงวัดบ้างพระบ้าง และทางวัดขอเป็นผู้รับอย่างเดียวนะโยม
  ทางวัดจะไม่ต้องรับรองอะไรนะโยม อ.เจน กับคุณรุ้ง พูดพร้อมกันว่า ไม่ต้องค่ะ
  คุณรุ้ง จึงพูดกับหลวงพ่อว่า ปกติ เราทำบุญไม่ติดกรรมกับพระสงฆ์หรือที่ธรณีสงฆ์
ด้วยการชำระหนี้สงฆ์ซึ่งมากกว่า สิ่งที่ทางวัดจัดให้เพื่อจะได้ไม่ติดกรรมค่ะ
  เมื่อตกลงกันได้แล้ว อ.เจน ก็ขออนุญาตหล่อเทียน และขอนิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป สวด
ชะยันโต..... 3 จบ เพื่อเป็นสิริมงคลกับผู้ร่วมบุญค่ะ
ดิฉันศรัทธาในตัว อ.เจน เป็นอย่างมากเพราะถ้าเป็นดิฉันนะหรือค่ะเดินออกไปจาก
วัดตั้งแต่ท่านตั้งคำถามแรกแล้วละค่ะ ซึ่ง อ.เจน ก็แอบเตือนสติดิฉันว่า อย่าคิด
อย่าคิด แหม รู้สะด้วยคิดจริง ๆ ว่า คิดหนอๆๆๆๆ  มันทรมานใจมากนะค่ะ
ใจคิดว่าอย่าคิด  แต่มันคอยแต่จะคิดท่าเดียวค่ะ



กลับมาในวันงานบุญเราดีกว่าค่ะ  เมื่อได้เวลาแล้ว คณะบุญ อ.เจน มาถึงวัดแล้ว
ใครมีหน้าที่อะไรไปทำกันเร็ว  ติดเตาเสร็จ กระทะตั้ง กวนเทียน  เตรียมเทียนขี้ผึ้ง
ตะปู แจก เก้าอี้ พร้อมคอยต้อนรับคณะบุญทั้งหมด 300 กว่าคน พระสงฆ์ที่นิมนต์ไว้ 5 รูปมาแล้ว
ดิฉันเห็นพระท่านนั่งแบบผ่าน ๆ สายตาแว็บ ๆ ก็ไม่ได้สังเกต เพราะว่าต้องแจกทั้งแผ่นเทียน
และตะปู เพื่อให้ทันกำหนดการที่วางไว้ จึงไม่รู้ว่า พระสงฆ์ท่านมานั่งสวดเพียง 4 รูป เท่านั้น
  จำได้ว่า พระท่านถามดิฉันว่า จะเริ่มสวดชะยันโต...ได้หรือยังโยม
ตอนนั้นก็ง่วนอยู่กับการแจกเทียนกับตะปูอยู่ ก็บอกท่านไปว่า สวดได้เลยค่ะท่านที่ตอบไป
ก็เป็นการตัดสินใจแทนท่าน จะถามทำไมเราเป็นฆราวาสก็ไม่รู้ว่าจะต้องสวดตอนไหนได้ก็
ไม่ใช่พระก็รู้สึก งง งง ด้วยเช่นกันพระท่านถามดิฉัน ซะงั้น แล้วท่านก็สวดตามที่ดิฉันพยัก
หน้าตัดสินใจให้ท่านอะค่ะ โดยไม่ทันได้สังเกตว่าพระท่านนั่งไม่ครบ 5 รูป
อ.เจน ก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกับดิฉันนั่นแหละค่ะ ดิฉันเห็น อ.เจน พูดถึงอนิสงส์บุญหล่อเทียน
เมื่อพระเริ่มสวดชะยันโต.... ก็ได้ยินค่ะ ต่างก็ทำงานกันไป อ.เจน ก็เตรียมการหล่อเทียนไป
แต่ทุกคนกลับได้ยินเสียง สวด กุสลาธรรมมา.... นั่นมันบทสวดศพนี่นา จึงได้หันไปมองพระท่านว่า
ทำไมท่านถึงสวดบทนี้ เราไม่ได้มางานศพนะ จึงได้เห็นว่า พระท่านนั่งเพียง 4 รูปเท่านั้น
  ไม่นะ เกิดการผิดพลาดอะไรขึ้น อ.เจน ก็เห็นเหมือนกัน
จึงรีบไปเปิดเสียงเพลงเพื่อให้กลบกับเสียงพระสวด แล้วให้ทีมงานนำซองปัจจัยเงิน
ไปถวายพร้อมกับเชิญนิมนต์ท่านกลับวัดค่ะ
ซึ่งดิฉันมารู้ที่หลังว่า มีบางท่านอาจคิดว่า อ.เจน เสียมารยาทจัง พระท่านสวดก็มาเปิด
เสียงเพลงดังกว่าเสียงพระสวด ซึ่งจริง ๆ แล้ว จำเป็นต้องทำค่ะ



การหล่อเทียน บล็อกเทียนมีปัญหา 2 ต้น และนำเทียนออกมาไม่ได้ 2 ต้น ด้วยมีเหตุหลายประการ....
ด้วยบล็อกเทียนที่นำมาใช้ในวันนั้น เราได้นำไปใช้หลายครั้งแล้ว และก็ได้นำเทียนคู่ไปถวายวัดมา
หลายครั้งโดยไม่ได้แจ้งในเว็บไซด์ นะค่ะ อ.เจน ทำบุญบ่อยมากค่ะเป็นบุญส่วนตัวที่ไม่ได้บอกกล่าวใครค่ะ
ที่นี้น่าจะเป็นเพราะบล็อกใช้งานบ่อยหรือจากการขนย้ายทำให้บล็อกรั่วไป 2 ต้นค่ะ  รวมทั้ง
การสั่งซื้อเทียนจากร้านสังฆภัณฑ์ที่คุณรุ้ง สั่งซื้อเป็นประจำก็นำเทียนที่ใช้แกะสลักมาส่งให้
ซึ่งผิดประเภทของเทียนที่เคยสั่งซื้อ ทำให้ทำการแกะออกจากบล๊อกไม่ได้เทียนติดเหนียวแน่นมากค่ะ

โชคดีหน่อยก็ตรงที่ว่า ก่อนหน้านี้ดิฉันเห็น อ.เจน สั่งต้นเทียนมา 1 ตัน ดิฉันยังถามอาจารย์ค่ะ
สั่งต้นเทียนมาทำไมค่ะ  อ.เจน พูดกับดิฉันว่า พี่หนูมีความรู้สึกว่าต้นเทียนจะมีปัญหา
จึงซื้อมาสำรองไว้ เพราะรู้ว่าต้องใช้เทียนต้นนี้ ดิฉันยังพูดไปเลยว่า โอ้ยอาจารย์ไม่มั้งค่ะ
เราชำนาญแล้วกับการหล่อเทียน โดยไม่คาดคิดเลยว่าต้องใช้ต้นเทียนนี้จริง ๆ ค่ะ
ลืมเล่าไปว่า ตอนที่ไปช่วยกันนั้นเล่นกันเหงื่อตกเชียวค่ะ..............และ อ.เจน
ก็ไปสื่อด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับต้นเทียน  .......ต้องขออนุญาตลาไปก่อนแล้วค่ะ
เพราะ ช่วงนี้งานเข้าจริง ๆ ค่ะ งานหลวงนี้แหละค่ะ จึงไม่มีเวลาค่ะ……ขอโทษด้วยค่ะ  

โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ


จี๊ดจ๊าด..





จี๊ดจ๊าด.. (มาเล่าต่อภาค 2)
ต้องกล่าวขอโทษจริง ๆ ค่ะงานตรึมเลยค่ะช่วงนี้ทำบุญมากคงเป็นช่วงที่ต้อง
รับวิบากกรรมอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ย่อท้อนะค่ะเพราะงานมีมากเสียจนไม่รู้ว่า
จะทำอะไรก่อนทำอะไรหลังดีค่ะ
ดิฉันขอเล่าเรื่องของกิจกรรมงานบุญก่อนที่จะเล่ากิจกรรมบันเทิงใจภาคค่ำนะค่ะ
หลังจากที่ได้จัดกิจกรรมงานกลางคืนแล้วกว่าจะได้นอนก็ประมาณ ตี 2
เพราะต้องจัดเก็บข้าวของรับประทานอาหารเย็น ประมาณ สองยามกว่า ๆ
เห็นจะได้ซึ่งทุกท่านก็คงจะได้นอนหลับกันไปแล้วค่ะ
เก้าอี้/เต้นท์  เช้าวันอาทิตย์  คุณรุ้ง นำทีมที่ได้มอบหมายไว้แล้วเพื่อไปแกะต้นเทียน 4 ต้น
เมื่อไปถึงสถานที่ก็ต้องสงสัยว่าทำไมร้านเก้าอี้/เต้นท์จึงยังไม่เก็บเก้าอี้/เต้นท์ไปซะล่ะ
คือว่าเก้าอี้/เต้นท์นี้ไม่ใช่ของทางวัดนะค่ะ แต่ อ.เจน เช่าเก้าอี้/เต้นท์เพื่อเตรียมไว้รับรอง
ทุกท่านที่มาในงานบุญนี้ เนื่องจากว่า พระท่านก็พูดไว้แล้วว่าจะขอเป็นผู้รับอย่างเดียว
และไม่ช่วยเหลืออะไรโยมนะ  ซึ่ง อ.เจน เคยพูดกับดิฉันว่าที่หนูทำทุกอย่างและปล่อยวาง
โดยไม่คิดว่าเพียงคำพูดอย่างนี้จะทำให้หนูท้อและเลิกนำพาผู้คนไปทำบุญจะหยุดที่จะ
ทำบุญนั้นไม่มีทางเรื่องนี้ เป็นบททดสอบจิตจึงทำให้หนูต้องมาพบเจอกับพระที่เรียกว่า
สมมุติสงฆ์แต่ถึงอย่างไรท่านก็มีศีลมากกว่าพวกเรา และสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เมื่อเราคิดดี เราทำดี เราทำเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป
เท่ากับว่าเราได้บุญนั้นเต็ม ๆ แล้ว ค่ะ



กลับมาเรื่อง เต้นท์กับเก้าอี้ 300ตัวนี้ดีกว่าค่ะ ก็เพราะ อ.เจน เช่ามาเพียงวันเดียวเท่านั้น
ก็น่าจะมาเก็บเสียตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว จึงสังสัยว่าทำไมเขายังไม่มาเก็บเก้าอี้/เต้นท์กลับไป
อีกไม่ใช่วางเอาไว้ไม่เก็บแล้วมาเก็บเงินเพิ่มเป็น 2วัน ล่ะยุ่งเชียวล่ะ  
คุณรุ้งจึงโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าของร้านเก้าอี้/เต้นท์ จึงได้ความว่า เขามาเก็บเก้าอี้
แล้วแต่ทางวัดไม่ยอมให้เก็บ โดยบอกว่า ทางนี้จะใช้ต่ออีก 1วัน คุณรุ้ง จึงพูดให้เข้าใจว่า
ในส่วนนี้ทางเราจะไม่รับผิดชอบเพราะเราเป็นคนเช่าแค่ 1วัน ซึ่งทางร้านจะต้องติดต่อ
สอบถามคนเช่าถึงจะถูกไปเชื่อใครเขาสั่งก็ต้องไปเก็บเงินกับคนนั้นค่ะ
ดังนั้น เราก็เก้าอี้วางตากแดดอยู่อย่างนั้น



แกะต้นเทียนไม่ออกจากเบ้าหลอม   เมื่อเดินไปที่บล็อกต้นเทียนทั้ง 4ต้น จึงพบว่า
รั่วไป 2 ต้น หล่อเต็ม 2ต้น ส่วนที่รั่วไหลไป 2 ต้น ก็เสียดายมากค่ะที่เสียไป 2ต้น
ก็น่าจะเป็นเพราะว่าเราใช้บล๊อกดังกล่าวมาแล้วหลายรอบก็ย่อมเกิดการชำรุดได้ค่ะ
แต่อีก 2 ต้นที่เหลือนี่สิค่ะเกิดอะไรขึ้นจึงแกะเทียนไม่ออก ทำยังไง ๆ ก็แกะไม่ออกทุกคน
ก็หันมาทางดิฉันและคุณสุดารัตน์ ผู้มีหน้าที่ทาน้ำมันภายในแท่งเทียนจึงเกิดคำถามว่า
ทาน้ำมันภายในทั่วหรือเปล่า อันนี้ ดิฉันกับคุณสุดารัตน์ทาเสียจนโชคด้านในแท่งเทียนเลยค่
ะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นใกล้เวลาจะต้องไปทำบุญใส่บาตรพระเช้านี้ด้วย จึงแจ้ง อ.เจน
และรีบกลับมา ส่วนอ.เจนเองก็จะมาช่วยเหลือเสียให้ได้พวกเราก็ห้ามอาจารย์อย่า
ไปเลยเกรงจะไม่ทันกลับมาวัดที่1 ของเช้าวันอาทิตย์นี้เพราะกลัวจะเสียงานใหญ่
ไปทำบุญใหญ่นั้นก่อนค่ะ แต่ อ.เจนก็สงสารทีมงานที่ไปแกะเทียนกลัวจะไม่ได้กิน
ข้าวกินปลากันสั่งอาหารไว้รอ โดยบอกว่าเร็ว ๆ เข้าไม่ต้องรีบนะค่ะแต่เขารอกันอยู่ค่ะ
โถอาจารย์สงสารเราก็สงสารจะรีบก็รีบเข้าใจค่ะก็กินกันอย่างรีบแบบพออยู่กันได้ก็เผ่นแน๊บแหละค่ะ
วัดที่ 1ของเช้าวันอาทิตย์ ต่างก็ขนสังฆทานของใครของมัน แต่ที่แน่ ๆ ของ อ.เจน 200ชุด
ของคุณรุ้งและคุณแม่น่าจะกว่า 200 ชุด ของสังฆทาน อ.เจน กับคุณรุ้ง นั่นเขาจัด
หนักเห็นว่าหมดไปกันไป 2-3หมื่นบาทด้วยเงินส่วนตัวค่ะ คุณสุดารัตน์ ก็ไม่แพ้กันน้อง ๆ
อะค่ะส่วนของดิฉันตามกำลังค่ะประมาณ 50 ชุดแบบจุ๋มจิ๋ม ก็มีพวก ยาอม
ยาดมยาหม่อง ยางพารา ยาล้างตา ฯลฯ อีตอนไหนก็ไม่ฮาเท่ากับตอนที่ดิฉัน
เป็นพี่โก๊ะนั่นแหละค่ะ ดิฉันกับน้องสาวยืนอยู่ใกล้อาจารย์มากก็ลากถุงสังฆทานของ
ตนเองมาวางใกล้ตัวด้านขวา เอาเข้าจริงๆทะลึ่งไปหยิบชุดสังฆทานที่ด้านซ้ายมือ
ซึ่งเป็นของ อ.เจนใส่บาตรโดยไม่ได้หยิบของตนเองคิดว่านั่นเป็นของ ๆ
ตนยังไม่พอหยิบเผื่อน้องสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อีก เป็นไงเล่ากระซิบบอกไปเลยนี่
ของฉันหยิบได้ ปรากฏว่า ดิฉันก็หยิบไปได้ครึ่งถุงใหญ่ของ อ.เจนนั่นแหละค่ะสติ
กลับคืนมาว่า เอ ของของเรานี่มันเล็กน้อยน่ะไม่ใช่ของกล่องใหญ่อย่างนี้จึงตกใจ
มากแล้วก็ร้องขึ้นมาว่าอาจารย์นี่มันของอาจารย์นี่นา อ.เจน หันมายิ้มแล้วพูดว่า
สติหนอ ๆโอยจะบ้าตายดิฉันโก๊ะจริง ๆ สรุปของที่เตรียมมา 50ชุดยังไม่ได้ใส่บาตรค่ะ
ไปหยิบของอาจารย์มาใส่บ้าจริงค่ะขนาดใส่บาตรยังไม่มีสติหรือจะอดนอนหรือจะมึนงง 555
บุญสำเร็จ หลังคาเอนกประสงค์สำเร็จแล้วค่ะยอดเงินกว่า 3 แสนบาทซึ่งทะลุ
เป้าหมายที่กำหนดไว้จึงทำให้บุญสำเร็จ ทางวัดจะได้ติดป้ายชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์
ในการทำความดีของคณะบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 20 ว่า “คณะบุญเสบียงสวรรค์
อาจารย์เจน ญาณทิพย์”อิ่มใจได้บุญกันถ้วนหน้าค่ะ พระท่านเทศน์ได้น่าฟังมากว่า
บุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ และการปฏิบัติเจริญภาวนานั้นต้องหมั่นฝึกฝน ค่ะ



อาหารกลางวันสุดเลิศอร่อยลิ้น  เนื่องจาก อ.เจนได้มาชิมที่ร้านอาหารนี้มาก่อน
แล้วในวันเซอร์เวย์จึงได้ตกลงสั่งอาหารร้านนี้เพื่อรับรองกับทุกท่านค่ะ
ซึ่งอาจารย์ต้องการให้ทุกท่านได้รับประทานอาหารรสเลิศนะค่ะคณะบุญออก
เดินทางจากวัดมาด้วยหัวใจที่พองฟู ฟูบุญค่ะ เมื่อมาถึงร้านอาหารก็มีทีมต้อนรับ
คอยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ทุกท่านแต่ในขณะเดียวกัน อ.เจน
คุณรุ้งและทีมงานบางส่วน ก็ต้องไปเตรียมความพร้อม ณ วัดที่ 1ของวันอาทิตย์
จึงต้องแยกทีมออกมาจากร้านอาหารโดยไม่ต้องกินอาหารค่ะต้องไปทำงานด่วน
ก่อนที่วัดระหว่างที่ทุกท่านรับประทานอาหารเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับต้นเทียนที่แกะไม่ออก
เกิดปัญหาก็แก้ไขได้ค่ะ  เมื่อไปถึง อ.เจน ก็ใช้ญาณวิถีตรวจสอบผลปรากฏว่า
ปัญหาเกิดจากเนื้อเทียนนั่นเอง เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเทียนที่ใช้เป็นเทียน
ที่ใช้หล่อเพื่อแกะสลักให้มีรูปร่างสวยงามไม่ใช่เทียนที่ใช้หล่อต้นเทียนค่ะไม่มี
ใครรู้ค่ะแต่ในญาณวิถี อ.เจน บอกอย่างนั้น มิน่าจึงแกะไม่ออก ปกติ อ.เจน
เป็นคนสั่งเทียนกับร้านเจ้าประจำก็น่าจะรู้อยู่ว่าต้องใช้เทียนชนิดใดเราไม่เคย
เปลี่ยนเทียนและที่ผ่านมาก็หล่อไปหลายต่อหลายต้นแล้วจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหา
อะไรซึ่งร้านค้าที่สั่งซื้อนี้ก็เป็นร้านเจ้าประจำเขาไม่น่าจะทำแบบนี้เลยหากทาง
ร้านหาเทียนหล่อให้เราไม่ได้ก็ควรจะบอกตามความเป็นจริงไม่ควรนำเทียน
ผิดประเภทมาส่งให้ลูกค้าให้ต้องเสียการเสียงานค่ะ นี่ก็เป็นเรื่องของความโลภ
ของคนคนเดียวทำให้เกิดความเสียหายทำให้ติดกรรมกับสัมมาอาชีพของตน
แล้วจะไปเที่ยวถามใครว่า ทำงานมาทั้งชีวิตทำไมไม่รวย ทำไมชีวิตไม่ดีขึ้น
ก็ทำกันอย่างนี้ชีวิตจะดีได้อย่างไรค่ะ



แต่อย่างไรก็ตาม อ.เจน ก็ไม่ลดละความพยายามอ.เจน พวกเราทุกคนก็เอาใจช่วย
โดยช่วยกันยกบ้าง กระทุ้งบ้าง ทำทุกอย่างต้มน้ำร้อนลวกต้นเทียนให้ร้อนและใช้ค้อนกระทุ้ง
รวมทั้งการนำต้นเทียนไปปิ้งย่างทำหมดทุกอย่างค่ะพวกเราช่วยกันจนเพลียเมื่อ
เหลียวหาอะไรไม่ได้แล้วจึงคิดถึงค้อนปอน ดิฉันก็ไปถามคนภายในวัดที่ทำการก่อสร้าง
ต้องมีค้อนปอนและแล้วก็ได้มาจริงๆ ค่ะ ดิฉันส่งให้ อ.เจน ทันที ซึ่ง อ.เจน ก็ใช้ค้อนปอน
ทุบจนหมดแรงค่ะ  ทุบกันจนแท่งเทียนยับเยินเลยค่ะต้นเทียนก็ไม่ออก อ.เจน จึ่งสั่งการว่า
ให้นำต้นเทียนที่ซื้อสำรองไว้ 1ต้นนั้นมาถวายที่วัดแห่งนี้ค่ะ



ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเวลาเที่ยงของวันนั้นดิฉันยังไม่เห็นพระสงฆ์สักรูปทั้ง ๆ ที่ตอนสาย ๆ
เจ้าอาวาสวัดนี้ก็ได้ โทรศัพท์มาหาคุณรุ้ง โดยแจ้งว่า ขอให้อ.เจน นำคณะขึ้นไปบนถ้ำ
แต่ คุณรุ้ง ก็ได้ปฏิเสธกลับไปว่า อ๋อ ไม่ค่ะท่านคณะเราจะทำการถวายเทียนและทอดผ้าป่า
สามัคคีร่วมสร้างศาลาเอนกประสงค์เท่านั้นค่ะซึ่งก็เท่ากับว่าท่านได้รับทราบเป็นอย่างดีว่า
คณะบุญฯจะเดินทางไปอย่างแน่นอนช่วงบ่าย ดังนั้น การที่ อ.เจนและทีมงานมากัน
ก่อนล่วงหน้าเพื่อมาแกะเทียนมีหรือท่านจะไม่เห็นก็รู้สึกผิดสังเกตแล้ว ยังบ่น ๆ อยู่เลยว่า
ไม่เห็นมีพระท่านมาสอบถามหรือมาบอกกล่าวอะไรเลยเพราะตอนที่คณะเรามาก็เที่ยงสายแล้ว
เมื่อหวนมาคิดอีกครั้งก็นึกขึ้นได้ว่า เออเห็นจะเป็นจริงที่หลวงพ่อท่านพูดว่า “ขอเป็นผู้รับฝ่ายเดียว”
พวกเราก็ยังคิดดีว่าที่นี่พระคงจำวัดน้อยเราจึงไม่เห็นพระท่านอะค่ะ ก็ยังใจเย็นกันอยู่ค่ะ
ะหว่างนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนดูเหตุการณ์วิธีการแกะต้นเทียนของเราอยู่อย่างสนใจแต่ไม่ได้คุยกัน
  แต่เมื่อรู้สาเหตุกันแล้วว่าเกิดจากอะไรก็จะเดินทางกลับไปรับประทานอาหารและเปลี่ยนแผน
ใช้เทียนที่ซื้อมาสำรอง  ขณะกำลังจะกลับก็ปรากฏว่า พระท่านเดินมา 1รูป ก็ดีใจค่ะ
แหม..พระท่านอุตส่าห์มาต้อนรับคงจะมาแจ้งว่าสถานที่รับรองตามที่ได้แจ้งแก่เจ้า
อาวาสวัดทราบแล้วแต่มันไม่เป็นอย่างนั้นนั่นสิค่ะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้



อ.เจน และพวกเราก็กราบนมัสการท่าน อ.เจนจึงเรียนว่า อีกสักครู่คณะบุญฯ
ของดิฉันจะมาถึงไม่ทราบว่าใต้ถุนศาลาเตรียมพร้อมหรือยังค่ะท่านดิฉันแจ้งเจ้าอาวาส
ไว้แล้วว่าจะนำคน 300 คนมาทอดผ้าป่าค่ะท่าน  
คำตอบจากพระ ก็คือใต้ศาลานั้นไม่พร้อมรับรองใครหรอกโยมก็โยมไม่ได้บอกกล่าว
ล่วงหน้าจะมาบอกวันนี้พรุ่งนี้ทางวัดจัดการให้ไม่ทันหรอกโยมใครจะไปเตรียมสถานที่
ทันทีนี้คุณรุ้ง จึงพูดขึ้นว่า ทางเราได้บอกกล่าวและประสานกับเจ้าอาวาสร่วมเดือนแล้ว
ซึ่งก่อนมาวัดก็ได้แจ้งล่วงหน้ามาด้วยแล้วค่ะ ไม่ใช่วันสองวัน  และเมื่อช่วงสาย ๆ
เจ้าอาวาสท่านยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับดิฉันอยู่เลยค่ะ  



จริง ๆ แล้ว อ.เจน ได้กราบนิมนต์พระรูปนี้ว่า วันนี้จะให้ญาติโยมขออนุญาตไปทำ
พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีภายในใต้ถุนศาลาเอนกประสงค์จะดีกว่าค่ะท่านเพราะที่นี่ร้อน
มากเก้าอี้ทุกตัวก็ตากแดดไม่มีที่ร่มเลยค่ะ  พระท่านก็พูดแบบไม่พอใจว่าก็ไม่สะดวก
ให้ใช้ศาลานี่ ก็โยมมาบอกกะทันหันใครจะเตรียมพร้อมให้ได้
คุณรุ้ง จึงพูดไปว่าท่านค่ะงานนี้เราเตรียมงานกันเป็นเดือน ๆ แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้
ที่จะไม่มีใครทราบนอกจากนี้เจ้าอาวาสท่านก็เพิ่มพูดคุยโทรศัพท์ขอให้ดิฉันนำพา
ผู้คนเข้าถ้ำเมื่อสักครู่ซึ่งดิฉันก็ปฏิเสธไปว่า คนมากันมาก



ดิฉันจึงถามพระท่านไปว่าท่านเจ้าอาวาสท่านไม่ได้แจ้งพระลูกวัดหรือค่ะ
เหมือนพระท่านเห็นว่าเราสักไซร้มากเข้าท่านไม่ตอบแต่ทำสีหน้าไม่พอใจท่านเท้าสะเอว
พูดกับฆราวาสอย่างเราด้วยค่ะ คุณรุ้ง จึงพูดต่อไปว่า นิมนต์พระ 5รูปนะค่ะ ไม่ใช่ 4 รูป
เหมือนเมื่อวานนะค่ะเพราะคนที่มางานเขายังไม่ตายกันค่ะท่านและไม่ได้นิมนต์มาทำพิธีสวดศพค่ะ
พวกเราก็ถามไปว่าแล้วเจ้าอาวาสอยู่ไหนค่ะจะได้ไปพบท่าน พระท่านนี้จึงพูดขึ้นมาว่าเจ้าอาวาส
ไม่ค่อยสบายไม่รู้ว่าจะมารับรองพวกโยมได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  อ้าว ทุกคนพูดไม่ออกแล้ว
พระท่านก็ชี้ไปที่เก้าอี้ โดยพูดขึ้นว่า เอางี้...แล้วกัน....พวกโยมนั่งเก้าอี้กันเสียที่นี่เลยแล้ว
กันนะนั่งกันตรงนี้แหละ เมื่อท่านพูดจบผู้หญิงคนนั้นคนที่ดิฉันคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด
ก็รีบพูดแย้งขึ้นมาว่าเอ หลวงพี่ปกติใต้ศาลานั้นก็เปิดรับคนอยู่นะค่ะ พระท่านก็บอกว่า
ไม่ได้ที่นั่นไม่สะดวกต้อนรับพูดเสร็จท่านก็เดินจากไปแบบคนอารมณ์เสียค่ะ



ดิฉันและน้อง ๆทุกคนต่างก็หันไปมองเก้าอี้ ซึ่งขณะนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางแสงแดดเมื่อยามที่
อาทิตย์ตรงหัวอย่างนี้ รับรองว่าทุกท่านจะได้รับสัมผัสกับบรรยากาศอีกมิติหนึ่งค่ะ
มันคงจะทำให้อารมณ์ของทุกท่านราวยังกับไฟสุมตัวเป็นแน่แท้ค่ะ  แต่ อ.เจน ก็ใจเย็น
เป็นน้ำใต้พื้นมหาสมุทรดิฉันนับถือการครองสติของอ.เจน มากค่ะ
อ.เจน จึงหันมาบอกพวกเราว่าไม่เป็นไร เพราะ อ.เจน ได้เห็นอาการของลูกศิษย์แล้วว่า
เอาไงเอากันค่ะ ซึ่ง อ.เจนโดยแจ้งแก่พระท่านว่า ได้ค่ะไม่เป็นไรค่ะ นั่งตรงนี้กันก็ได้ค่ะ
เมื่อพระพูดเสร็จท่านก็เดินกลับไป



มาถึงตอนนี้ อารมณ์ดิฉันเริ่มมาแล้ว อารมณ์มาคุ (อารมณ์ไม่ดีแล้วค่ะ)  และคิดในใจว่านี่เรา
ได้มาพบเจอพระอย่างนี้อีกแล้วหรือนี่ ดังนั้นดิฉันจึงตั้งรับระงับใจตนเองก่อนเหนือสิ่งอื่นใด
กำหนด อย่าคิด หนอ ๆๆๆๆอีกแล้วค่ะ ต้องกำหนดอยู่อย่างนี้อีกแล้ว อ.เจน สั่งการทันที
ให้ช่วยกันยกโต๊ะยาว 4ตัว (ขอบอกเหล็กทั้งโต๊ะหนักมาค่ะ) ไปวางไว้นอกเต้นท์
  อ.เจน คุณรุ้ง และลูกศิษย์ผนึกกำลังช่วยกันไปลากเก้าอี้ที่ตากแดดนำมาจัดเรียงไว้ภายในเต้นท์
เก้าอี้ทั้งหมด 300ตัว ถูกจัดให้เป็นระเบียบเรียบในเวลาอันสั้นค่ะเข้ามาเรียงไว้ภายในเต้นท์
  ซึ่ง อ.เจน ก็แจ้งแก่ลูกศิษย์อีกครั้งหนึ่งว่าขอให้ช่วยเร่งการจัดเก้าอี้ด่วนค่ะ



ระหว่างที่ทุกคนช่วยกันลากโต๊ะและจัดเรียงเก้าอี้ใหม่นั้น ผู้หญิงคนที่ดิฉันคิดว่า
เป็นเจ้าหน้าที่ของวัดซึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นพอดีได้ยินและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
จึงเดินมาหามาช่วยจัดโต๊ะก็ได้เห็นความตั้งใจว่าจะยังไงเราก็จะถวายผ้าป่าสามัคคีอยู่ดี
จึงได้มาช่วยจัดเก้าอี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ดิฉันจะต้องจัดการอะไรบางอย่างว่าแล้ว
ดิฉันก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ถามโดยคุยไปว่าเสียดายจังทางวัดคง
ไม่อยากต้อนรับคณะบุญนี้เมื่อเช้านี้ไปทำบุญสร้างหลังคาเอนกประสงค์ ยอดเงินตั้ง
3แสนกว่าบาทแน่ะ เสียดายแทนวัดนี้ สักพักก็ได้เรื่อง เพราะผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มระบาย
อารมณ์ขึ้นมาบ้างว่าทางวัดก็เป็นเสียอย่างนี้ เจ้าอาวาสก็ไม่ถูกกับพระลูกวัดก็พากัน
พอดีวัดไม่มีเงินเข้ากันพอดี ดิฉันก็ไม่สักถามไม่รับฟังยังคงจัดเก้าอี้อ.เจน หันมาเตือนสติว่า
ปล่อยวางหนอ ๆๆ ดิฉันไม่ได้โกรธค่ะ แต่อยากทดสอบว่าสิ่งที่คิดนั้นจะได้ผลมั้ยค่ะ
พระอีกองค์หนึ่งก็เดินมาขณะที่เราจัดเก้าอี้เหลืออีก5 ตัวก็เสร็จแล้ว



จำแม่นเชียวค่ะคราวนี้พระรูปนี้มีสีหน้าท่าทางที่โกรธจัดหน้าแดงก่ำเชียวค่ะ
ไม่รู้โมโหมาจากไหนท่าทางเอาเรื่อง ท่านกวักมือเรียก อ.เจน แบบนักเลงว่า
มานี่สิ มานี่สิ...ท่านเท้าสะเอว แบบจะเอาเรื่องค่ะ
คุณรุ้งและดิฉันไม่เกรงกลัวหรอกค่ะ คุณรุ้ง จึงเดินไปจูงมือ อ.เจน ให้เข้าไปนั่งใน
รถตู้และให้ทุกคนกลับกันค่ะ แหม....กำลังได้เรื่องเลยค่ะ..มีต่อค่ะ...เรื่องนี้
ติดตามภาคที่ 3 เร็ว ๆ นี้ค่ะ





จี๊ดจ๊าด..(มาเล่าต่อภาค 3)
ขอเล่าย้อนไปถึงตอนเช้ามืดของวันอาทิตย์ก่อนนะค่ะ อ.เจน ได้บอกกับทีมทำงานแกะบล็อกเทียนไว้แล้วว่า วันนี้จะมีเรื่องที่หนูยังไม่แน่ใจรู้แต่ว่าทุกคนต้องระวังตัวให้มาก ดังนั้น เมื่อเข้าไปภายในวัดทุกคนต้องมีสติให้มาก ต้องระวังเพราะที่วัดนี้มีสรรพวิญญาณมากมาย  เมื่อ อ.เจน พูดอย่างนั้น ดิฉันบอกเลยโชคดีที่มีตระกรุดหลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง อ.เจน บอก โถพี่ ตระกรุดของพี่มีสื่อสายสิญจน์จูงศพผีชอบตาม หนูบอกหลายครั้งแล้วว่าต้องมีพระด้วยค่ะ อ้าว...เหรอค่ะ
ก่อนที่จะขึ้นรถผู้หญิงที่คาดว่าเป็นคนที่มาช่วยเหลือวัดแห่งนี้ก็ได้พูดขึ้นว่า น่าเสียดายคนเขาจะมาทำบุญจะได้เงินเข้าวัดสร้างศาลาต่อไป (ศาลาอยู่ระหว่างก่อสร้างยังไม่เสร็จค่ะน่าจะอีกประมาณ 50 % จึงสำเร็จค่ะ อ.เจน จึงมีจิตศรัทธาจะช่วยด้วยนำพาผู้คนมาร่วมสร้างเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาค่ะ) ผู้หญิงคนนี้ก็บ่นต่อไปอีกว่า สงสารเจ้าอาวาสมีพระลูกวัดที่ไม่ถูกกันก็เป็นแบบนี้แหละ คุณรุ้ง กับ ดิฉัน ก็ได้ยินแต่ไม่สนใจที่จะรับฟังค่ะ



เมื่อเข้าไปนั่งในรถตู้ เราต้องหารือกันแล้วว่าจะทำอย่างไร อ.เจน จึงพูดขึ้นว่า ท่านเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังจะให้หนูพบเห็นอะไรอีกเล่า ท่านจะทดสอบหนูไปถึงไหน แล้ว อ.เจน ก็พูดว่า พี่ค่ะนี่เป็นบททดสอบให้เราได้มาพบเจอเหตุการณ์นี้ ว่า ถ้าหากหนูได้พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จะยังคงทำความดีต่อไปไหม แต่หนูจะทำต่อไปค่ะ ไม่ว่าพระสงฆ์จะเป็นอย่างไร แต่สถานที่แห่งนี้เป็นวัดที่อยู่ในบวรพระพุทธศาสนา แม้ว่าพระจะเป็นสมมุติสงฆ์ก็เป็นเรื่องของท่านค่ะ (อ.เจน ได้เคยไปนรกขุมที่พระสงฆ์ทำผิดศีลมาแล้ว ตามที่ อ.เจน เล่าให้ดิฉันฟังนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนักค่ะ ถ้าดิฉันเล่าก็ยาวเรื่องนี้ก็ไม่จบเสียทีนะเจ้าค่ะ) อ.เจน พูดว่า การที่พวกเราได้มาช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ด้วยจิตน้อมเราได้บุญนั้นเต็มเปี่ยมแล้วค่ะ  อ.เจน เห็นดิฉันนิ่งเงียบไป และรู้ได้ว่า คิดอะไรอยู่ จึงพูดขึ้นว่า พี่อย่าคิด อย่าเอาผัสสะไปกระทบเดี๋ยวจิตจะตกบุญจะกระฉอกค่ะ



อ.เจน พูดกับคุณรุ้ง ว่า จะอย่างไรก็ตามเราจะต้องถวายผ้าป่าสามัคคี ให้ตรงตามวัตถุประสงค์เงินของผู้บริจาค ทั้ง พานแว่นฟ้า ผ้าไตรจีวร และเครื่องสังฆทาน พร้อมปัจจัยเงินของผู้บริจาคที่ได้ร่วมกันมาทางเว็บไซด์ก็ต้องทำให้เรียบร้อยตามเจตนาแรกค่ะ โดย อ.เจน จะเป็นตัวแทนถวายให้แก่ทุกท่านทั้ง 300 คน ซึ่งการดำเนินการถวายจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แล้วใครจะไปกับหนูบ้าง พวกเราก็บอกก็มาด้วยกันไปด้วยกันค่ะ เราทำบุญ เราทำดี ไม่ต้องเกรงกลัวใครค่ะ ดังนั้น เมื่อรถตู้มาถึงร้านอาหารก็รีบหยิบข้าวของดังกล่าวอย่างไม่ให้ใครรู้ แต่ดูเหมือนก็จะมีคนแอบสังเกตอยู่ถึงความผิดปกตินี้ แต่เราจะมาวางฟอร์มอยู่ก็จะไม่ทันการ ทุกอย่างต้องรีบไปรีบกลับ กำลังพลพร้อม..ก็ขับรถตู้..ย้อนกลับเข้าไปภายในวัดอีกครั้ง ภายในรถตู้ขณะที่รถวิ่งอยู่นั้น อ.เจน ก็ได้นำอธิษฐานจิต  สวดอาราธนาศีล 5 กล่าวคำถวายสังฆทาน/ผ้าป่า พร้อมสรรพ เตรียมไว้แล้วว่า เมื่อถวายพระแล้วก็ให้รีบขึ้นรถเพราะเราไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ ต้องระวังเพราะมีพระ 2 รูป ไม่พอใจอยู่เราต้องระวังตัวเองด้วย



แผน B อ.เจน ตั้งใจว่า อย่างไรก็ตามก็ต้องนำทุกท่านไปทำบุญถวายต้นเทียน ที่วัดอื่นแทนค่ะ  แต่เมื่อรถตู้เข้าไปภายในบริเวณวัดในครั้งนี้ ภาพบรรยากาศเปลี่ยนไปในทันทีทันใด ภาพบรรยากาศเปลี่ยนไปจากที่ร้ายกลับกลายเป็นดี เหมือนหนังเปลี่ยนม้วนฟีลม์ราวกับเนรมิต น่าจะเป็นเพราะว่า ความโลภของคน  โลภในตัวปัจจัยเงินที่ไม่ควรพลาดและอาจจะหลุดมือไปได้  พวกเราได้เห็นผู้หญิงคนเดิมที่เข้าใจว่าเป็นคนของทางวัดนั้นทุกคนเข้าใจถูกค่ะ (ก็ผู้หญิงคนที่ดิฉันพูดทิ้งท้ายก่อนกลับออกมาจากวัดว่า เสียดายจังพระท่านไม่รับรองคณะถวายผ้าป่าฯ ของ อ.เจน เพราะเมื่อเช้าไปทำบุญสร้างหลังคาเอนกประสงค์ได้เงินปัจจัยตั้ง 3 แสนกว่าบาท อาจจะเป็นคำพูดนี้ก็เป็นได้ )



ผู้หญิงคนนี้ เธอมายืนยิ้มชื่นมื่นคอยต้อนรับขับสู้ โดยมายืนดักรอรถตู้ โบกมือให้หยุดรถ แล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปในศาลา พวกเราก็คุ้มกัน อ.เจน กันเป็นอย่างดี เป็นไงก็เป็นกัน แต่เมื่อเข้าไปภายในศาลาก็อย่างที่ทุกท่านพบเห็นกันนั่นแหละค่ะ ศาลาโล่ง ๆ มีพระมาช่วยกันจัดเรียงเก้าอี้ ก็เก้าอี้สีแดงที่เราจัดไว้แล้วภายในเต้นท์ที่มีแดดร้อน ๆ นั่นแหละค่ะ บัดนี้ เก้าอี้ที่นั่นย้ายมาที่ใต้ศาลาแห่งนี้  ซึ่งดิฉันก็ไม่เห็นว่า ภายใต้ศาลาแห่งนี้จะมีอะไรที่ไม่สะดวกต้อนรับแต่อย่างใดเลยค่ะ พระท่านขมีขมันช่วยกันจัด และพระรูปที่มาพูดว่ากล่าวตั้งแต่แรกนั้นก็ช่วยจัดเก้าอี้และพูดว่า โยมขาดเหลืออะไรก็บอก ซึ่งดิฉันก็อึ้งนะค่ะ ทำไปได้ หนังคนละม้วนจริง ๆ คุณรุ้ง ไม่พูดอะไรเดินไปเลย ดิฉันก็จึงบอกแค่นี่ก็เพียงพอแล้วค่ะ คุณรุ้ง จึงหันไปพูดอีกครั้งว่าอยู่ไม่นานค่ะมาไวไปไวค่ะ เมื่อสถานที่เรียบร้อยแล้ว อ.เจน จึงสั่งการว่า ดูแล้วไม่มีอะไรสั่งให้คนคุมบัสนำรถบัสเข้ามาได้ ดิฉันเข้าใจค่ะว่า บางท่านอาจจะสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมต้องรอนานจังเพราะทุกท่านอิ่มท้องกันนานมากแล้ว ยังไม่ไปไหนเลย



จากเรื่องที่ดิฉันเล่ามานี้ ขอได้โปรดเข้าใจนะค่ะ เพราะตั้งแต่เช้าคุณรุ้ง และทีมบางส่วนรับประทานอาหารแบบมีข้าวรองกระเพาะนิดหน่อยเพราะไปเสียเวลากับการแกะต้นเทียนไม่ออกนี่แหละค่ะ รับประทานพอรู้เรื่องก็วิ่งขึ้นรถบัสเพื่อไปทำบุญให้ทันตามกำหนดเวลาของวัดแรกค่ะ และระหว่างที่มีปัญหาอยู่ทางวัด อ.เจน ก็เกรงว่า พวกเราจะเป็นลมกันรวมทั้งตัว อ.เจน ก็ยังไม่ได้รับประทานอาหารประกอบกับใช้แรงกับค้อนปอน อ.เจน จึงโทรศัพท์สั่งอาหาร 1 โต๊ะ ให้พวกเรากินกันทั้ง ๆ ที่มีเรื่อง อ.เจน ยังเป็นห่วงพวกเราอีก จริง ๆ แล้ว พวกเรารับประทานไม่ลงเลยค่ะกับเหตุการณ์อย่างนี้ค่ะ
จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงบ้างแล้ว คุณรุ้ง จึงสั่งการให้ทีมคุมบัสนำรถบัสเข้าวัดได้ ผู้คนก็เดินกันเป็นระเบียบเรียบร้อยที่นั่งกันตามอัธยาศัยภายในศาลานั้น  พระท่านก็มานั่งเรียบร้อยแล้ว โดยมีเจ้าอาวาสนั่งอันดับ 1 พระรูปที่ 2 ก็นั่งเหล่มองมาที่ อ.เจน ไม่พอใจมาตลอดเวลา พระรูปที่ 3 คอยแอบรอบมอง และสุดท้ายก็ต้องอึ้งที่ได้ดูถูกเอาไว้ทั้งหมด เรื่องนี้ อ.เจน เจอมาเยอะค่ะ



ส่วนคุณรุ้ง และทีมงานเฝ้าระวังอย่างเข็มแข็ง เพื่อปกป้อง อ.เจน ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไม่ต้องกังวลนะค่ะทุกท่านได้บุญเพื่อพระพุทธศาสนากันอย่างเต็มเปี่ยมแล้วค่ะ ทางคณะบุญฯ อ.เจน ได้เน้นย้ำว่าเงินนี้ไปสร้างศาลาหากจะแปรเป็นอื่นก็เป็นกรรมของผู้กระทำผิดไปก็แล้วกันค่ะ
อ.เจน เล่าให้ฟังว่า
ระหว่างที่บูชาพระรัตนตรัย  อาราธนาศีล อ.เจน ก็นั่งหลับตา แต่เหมือนกับมีดวงตาของพระหลายรูปเพ่งมองมาทางตัว อ.เจน แต่ อ.เจน ก็ไม่ลืมตามอง  เมื่อได้รับฟังจาก อ.เจน แล้ว ดิฉันซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นี้และสังเกตตลอดเพราะต้องเฝ้าระวัง จริง ๆ ค่ะ จึงรายงานว่าที่ อ.เจน เห็นในจิตอย่างนั้นเป็นเรื่องจริงค่ะ เพราะพระรูปแรกเป็นเจ้าอาวาสท่านก็รักษาอาการของพระที่ดี พระรูปที่ 2 (เป็นพระที่จะเข้ามาทำร้าย ตอนที่มาแกะต้นเทียนก่อนที่ อ.เจน จะขึ้นรถตู้ออกมานั่นแหละค่ะ) นะค่ะ ถ้าใครได้อยู่ในเหตุการณ์นี้และช่างสังเกตสักหน่อยก็จะรู้ได้เองเลยว่า ท่านใช้สายตาประหลับประเหลือก และเจตนาจ้องมองมาที่ อ.เจน อย่างตั้งใจ และเพื่อให้ผู้คนได้เห็นด้วยว่า ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ท่านไม่พอใจเป็นอย่างมาก ใช้สายตาเคียดแค้น ทั้ง ๆ ที่คณะบุญของเรามาทำบุญที่วัดของท่านแท้ ๆ ดิฉันก็ยังมึน ๆ อยู่เหมือนกันกับเหตุการณ์อย่างนี้ค่ะ แต่การมาทำบุญครั้งนี้ดิฉันถือว่าพิเศษจริง ๆ จึงมองเห็นให้เป็นธรรมมะเป็นบทเรียนก็แล้วกันค่ะ ส่วนพระรูปที่ 3 (เป็นพระรูปแรกที่มาพูดจาไม่ดี ว่าจะไม่รับรองคณะฯ ให้พวกเรานั่งตากแดดทอดผ้าป่า และกลับไปฟ้องพระรูปที่ 2) พระรูปนี้ คอยชำเลืองมองมาบ้างแต่ไม่ถึงกับแสดงออกเหมือนรูปที่ 2 นั้นค่ะ ซึ่งตัวของดิฉันเองต้องคอยดูและระแวดระวังภัยแทน อ.เจน ค่ะ จึงได้เห็นทุกอย่าง  ซึ่งทีมงานที่คอยระวังก็ได้เห็นเหมือนดิฉันเช่นกันค่ะ



อ.เจน ได้เล่าต่อไปว่า มี 5 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาทำบุญตั้งแต่เริ่ม บูชาพระรัตนตรัย และรับศีล 5 จนถึงการกรวดน้ำ จบพิธี ดังนี้
เหตุการณ์ที่ 1 ขณะหลับตาอยู่นั้น ได้เห็นในจิตว่า มีสายตาของพระมากกว่า 3 รูปขึ้นไปจ้องมองมายัง อ.เจน ซึ่งเมื่อเห็นในจิตอย่างนั้น จึงได้แต่หลับตาต่อไปไม่ลืมตาขึ้นมอง  เพราะมีญาณไงค่ะจึงรู้ได้โดยไม่ต้องลืมตา



เหตุการณ์ที่ 2 ขณะหลับตาอยู่นั้น ได้เห็นในจิตว่า เจ้าอาวาสท่านมีหัว 2 หัว  โดยหัวท่านแยกออกมาเหมือนคน 2 หัว และเริ่มใหญ่ขึ้น ๆ ก็ตกใจมาก จึงลืมตาขึ้นมาดูด้วยตาเนื้อ (ตาเนื้อ คือ สายตาปกติติของเราเอง) เพื่อให้แน่ใจว่า ที่เห็นในจิตนั้น จิตปรุงแต่งหรืออย่างไรมันยังไงกันแน่ แต่ลืมตาขึ้นมาดูก็พบว่า ยังคงเห็นเป็นอย่างเดิมอยู่ดีค่ะ และมื่อเริ่มแน่ใจแล้วว่า นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของท่าน ท่านทำผิด รู้ได้ในญาณว่า เมื่อท่านมรณภาพไปก็จะไปอยู่ในนรก เป็นอย่างนี้ค่ะ แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นนั้น อ.เจน ก็ต้องป้องกันด้วยเช่นกัน ค่ะ จึงได้ท่อง “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งข้าพเจ้า” ท่องอยู่อย่างนี้ซ้ำ ๆ ภาพนั้นก็หายไปค่ะ



เหตุการณ์ที่ 3  ต่อมาก็เริ่มหลับตาทำสมาธิ เพราะต้องมีสมาธิมีจิตที่ตั้งมั่นแล้ว เพื่อปกป้องผู้คนทั้งหมดด้วยพระพุทธคุณค่ะ และแล้วก็เห็นหัวของพระที่ไม่ใช่เจ้าอาวาสแต่ไม่รู้ว่ารูปไหนเพราะเห็นในจิต ว่าหัวของพระท่านกลายเป็นปีศาจ มีหัวสีดำ มีเขาอยู่ที่หัว มีปากสีม่วง ชัดเจนและน่ากลัวมาก หัวก็เริ่มใหญ่ขึ้น ๆ แล้วปากนั้นก็อ้าขึ้นจะมางับหัวของ อ.เจน แต่ตัว อ.เจน ก็ไม่หวั่นไหวยังคงภาวนา“พุทธัง สะระณัง คัจฉามิอยู่อย่างนั้น หลังจากนั้น อ.เจน ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า สิ่งที่ลูกได้เห็นต่อหน้านี้ ขอด้วยอำนาจพระพุทธ ขอด้วยอำนาจพระธรรม และขอด้วยอำนาจพระสงฆ์ ช่วยลูกหลานทั้งหมดนี้ด้วย  ทันใดนั้น ปากปีศาจนั้นก็อ้าค้าง อยู่อย่างนั้น จะงับหัว อ.เจน ไม่ได้ ซึ่งต่อมา อ.เจน ก็ลืมตามองให้แน่ใจ ก็ได้เห็นด้วยตาเนื้ออีกด้วยเช่นกัน อ.เจน บอกว่า รู้ได้ด้วยญาณเลยว่า ทำไมต้องมาเห็นอย่างนี้ นั่นย่อมแสดงว่า พระองค์นั้นจะต้องไปรับกรรมในนรกและต้องมีสภาพตามที่เห็นนี้ จะต้องกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นปีศาจอสูรกายอยู่ในนรก

เหตุการณ์ที่ 4  อ.เจน เล่าว่า หลังจากนั้น เจ้าอาวาสก็เริ่มสังเกตเห็นว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา อยู่ในศีลในธรรม ภายในจิตใจท่านจึงเกิดการขัดแย้งในจิตของท่านเอง ท่านคงคิดว่า อ.เจน เป็นพวกคนทรงเจ้าเหมือนๆ กับที่ท่านได้พบเจอมาตลอด แต่ อ.เจน มีหูทิพย์ตอนที่จิตนิ่งจะได้ยินความคิดของท่านอย่างชัดเจน แต่ อ.เจน ก็ไม่พูดอะไร  และหากใครสังเกตได้ตอนที่เจ้าอาวาสท่านบอกว่า ขันใบนี้ไม่รับไว้นะเอ้าเอาคืนไป ดิฉันอยู่ตรงหน้าท่านพอดี สติระลึกรู้ของดิฉันรู้ในทันทีว่า ไม่รับ ถ้ารับมาแล้วก็เท่ากับว่าเป็นการรับขันธ์ทันทีค่ะ จึงสั่นหัวไม่รับ ซึ่งตอนนั้น อ.เจน และคุณรุ้ง ก็ลุ้นว่าพี่จี๊ดจะโก๊ะรับขันใบนั้นมาหรือไม่ เพราะช่วงเวลานั้นคับขันมากใครก็ช่วยใครไม่ได้ค่ะ เรื่องนี้ มีฮา ตอนนี้แหละค่ะ
สิ่งที่ควรรู้ คือ การรับขันธ์ มักจะเป็นพวกเจ้าเข้าทรงและสำนักต่าง ๆ หยิบยกมาจากพระพุทธศาสนาแล้วเอามาแต่งเติมให้สอดคล้องกับเรื่องราวความเชื่อให้ดูน่าเกรงขาม ให้ดูมีพลังอำนาจ พึ่งพาได้ โดยเข้าใจกันเองว่ามีคุณวิเศษ จริง ๆ แล้ว เราก็มีขันธ์ 5 ตัวอยู่แล้ว (รูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ) ในทางพุทธศาสนาเขามีแต่จะให้ปฏิบัติเพื่อละขันธ์ เพื่อดับขันธ์ ดังนั้น อย่าไปรับขันธ์มาอีกค่ะ อ.เจน บอกว่า คนที่ไปรับขันธ์ส่วนใหญ่จะเจอผีหรือพวกสัมภเวสีได้ช่องใช้ร่างกายสังขารของเราไปทำมาหากิน เราก็คิดไปว่ามีองค์ มีของดีมาประจำตัวที่แท้ไม่ใช้มันจะทำให้เราสติเฟื่องฟุ้งและเป็นบ้าไปค่ะ



เหตุการณ์ที่ 5  ขณะกรวดน้ำ  ถ้าจะจำกันได้ก็ตอนที่พวกเราได้กรวดน้ำกันครั้งแรกไปแล้ว แต่พระท่านนำกรวดน้ำซ้ำใหม่อีกครั้งหนึ่งอย่างนี้ไม่ได้เพราะว่า แสงบุญของเราได้หายไปหมดแล้ว แต่การที่พระท่านนำกรวดน้ำอีกไม่ผิดหรอกค่ะ แต่วิญญาณต่าง ๆ เขามาแล้วแต่เขารับไม่ได้เขาก็จะโกรธเหมือนคนมารับอาหารฟรีมาแล้วไม่ได้รับอาหารนั่นแหละค่ะ  เมื่อ อ.เจน เห็นในตาทิพย์ว่า สรรพวิญญาณมากันมากมายมารอรับบุญจากเสียงกรวดน้ำครั้งที่สอง อ.เจน จึงเบิกบุญของ อ.เจน กรวดน้ำให้กับวิญญาณที่มารับใหม่นั้นอีกค่ะ
อ.เจน พูดให้ฟังต่อไปว่า เมื่อยืนแล้วพระท่านท่องกรวดน้ำเป็นภาษาบาลีเชิญผีมาด้วย ทีนี้ผีก็มากันบึมเลยค่ะ เพราะสถานที่ของวัดนี้เป็นสถานที่โบราณและที่นี่แรงด้วยค่ะ ดังนั้น แสงบุญของพวกเราเยอะ ผีก็อยากได้ คือ ผีเขามาแล้วก็มาอีก พวกเขาอยากได้บุญกัน เพราะไม่เคยมีใครให้บุญกับพวกเขาเลยต่างก็อดอยากและหิวโหยบุญกันค่ะ  ซึ่งพวกเขาก็ได้แค่ละอองบุญชั่วครูแล้วก็ทุกข์ทรมานอีก แต่ยังดีกว่าไม่ได้แสงบุญเลยนั่นเองค่ะ
ตอนที่พระท่านบอกให้ทุกคนยืน แต่ดิฉันไม่ยอมยืนตามที่พระท่านสั่งให้ยืน อ.เจน จึงหันมาบอกให้ดิฉันยืน ซึ่งดิฉันก็ยืนค่ะแล้วก็เดินออกไปเลยค่ะ อ.เจน จึงมาบอกดิฉันทีหลังว่า พี่จะไม่ยอมยืนไม่ได้นะค่ะ เพราะพระท่านมีศีลสูงกว่าเราตามมารยาทต้องยืนค่ะ หนูมองพี่ตั้งหลายครั้งพี่ก็ไม่ยอมยืน ซึ่งก็จริงค่ะก็ไม่อยากยืนเพราะเห็นพระท่านแสดงอาการไม่พอใจหลายครั้งหลายหน เราก็เลยจิตตก จึงไม่อยากจะทำตามสักเท่าไหร่ แต่ตอนที่ทำบุญดิฉันนึกถึงแต่บุญที่ทำอยู่ในขณะนั้น นึกถึงแต่การร่วมสร้างบุญเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจึงไม่คิดเป็นอื่นค่ะ พอพระให้ยืนก็เกรงว่าจะทำพิธีอะไรแปลก ๆ อีก จึงไม่ยินยอมทำตามค่ะ  แต่ก็เกรงใจ อ.เจน เรียกให้ยืนด้วยสายตาหลายครั้งแล้ว จึงยืนตามชั่ววินาที่เดียวก็เดินออกไปเลยค่ะ ซึ่งดิฉันก็เห็นว่า บางท่านก็เห็นว่าผิดปกติต่างก็ทยอยเดินตามออกมาเช่นกัน แต่ อ.เจน เป็นผู้นำจำเป็นต้องยืนอยู่ก่อนค่ะ
....จบพิธีการ....

ดังนั้น ท่านทั้งหลายได้มาทำบุญกับ อ.เจน หลายครั้งต้องเกิดปัญญามีดวงตาเห็นธรรมเป็นแน่ค่ะ เพราะการไปทำบุญที่ใดก็ตามต้องรู้จักคิดพิจารณาด้วยค่ะ ดิฉันเห็นว่า บางท่านก็เห็นถึงความผิดปกติดังกล่าวค่ะ และดิฉันเชื่อว่า มีหลายท่านที่มีดวงตาเห็นธรรมเข้าใจในเรื่องราวนี้ได้เป็นอย่างดี ดิฉันเห็นว่าขณะที่ผู้คนเดินออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนเดินเข้าไปหาพระเพื่อประพรมน้ำมนต์กับท่านอีก เพราะท่านก็จะแสดงฤทธิ์ให้คนชื่นชอบและศรัทธา ท่านรู้จริตของคน โดยใช้เดรัจฉานวิชาในทางที่ผิดค่ะ
อ.เจน จึงพูดว่า พวกเราทุกคนมาทำบุญด้วยกันบ่อยก็ย่อมรู้แล้วว่า คงน่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ และเพื่อต้องการให้ทุกท่านได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จึงได้ให้ดิฉันมาช่วยบอกกล่าวให้ได้รับรู้และให้หายสงสัยกันค่ะ
อ้างอิงจากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
[๑๑๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่าง  สมณพราหมณ์ผู้เจริญ บางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัด รำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอ ปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ
เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ ประการหนึ่ง.

วัดที่ 3 ของวันอาทิตย์   อ.เจน นำพาไปกราบนมัสการหลวงพ่อขาว และนั่งสมาธิ กับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติสุด ๆ อากาศดีมากค่ะ จำได้ว่า วันที่ไปเซอร์เวย์ตอนนั้นยามวิกาลมาก ๆ บรรยากาศหลอนสุด ๆ แล้วเราก็ไปถ่ายรูปในยามวิกาลเยี่ยงนั้นที่ด้านหน้าประตูวัด หมาทั้งเห่าและหอน แถมอยู่ ๆ คุณรุ้ง หันไปเห็นอะไรบางอย่างวิ่งผ่านแว็บ ๆ อยู่ที่ด้านหลัง แต่ก็ยังอุตส่าห์ลงไปถ่ายรูปให้เป็นที่ระทึก ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วค่ะตอนนั้น ในเมื่อ อ.เจน ลงไปได้พวกเราก็ลงไปด้วยค่ะ ทีนี้ตอนที่จะถ่ายรูปลมมาเป็นวูบ ๆ วูบ แบบรุนแรงด้วย บรรยากาศที่น่ากลัวและหลอนที่สุด ส่วนดิฉันนะเหรอใช้สายตากวาดหาอะไรบางอย่างที่อยากเห็น เพราะเข้าใจว่า เสมือนมีสายตาคนจ้องมองอยู่แต่ไม่มีค่ะ อ.เจน ก็ให้กำลังใจมากโดยบอกว่า ถ่ายรูปกันเร็ว ๆ นะค่ะ ที่นี่เยอะเชียวค่ะ ที่ตลกที่สุด รู้ได้ว่ามีหลวงตาพักอยู่ภายในกุฏิด้านในประตูวัด แต่ท่านกลัวขโมยมางัดแงะที่ประตูวัดเพราะเสียงหมาเห่าดังมากเป็นระยะ ๆ ทีนี่ท่านจึงเปิดวิทยุเสียงสวดมนต์ดังมาก ๆ เสียงสวดมนต์นั้นดิฉันยังจำได้ว่า เป็นบทปลงสังขาร ....มนุษย์เราเอย     เกิดมาทำไม     นิพพานมีสุข อยู่ใยมิไป  ตัณหาหน่วงหนัก……ขนคิ้วก็ขาว นัยตาก็มัว เส้นผมบนหัว ดำแล้วกลับหงอก.........แต่วันนั้นเรามาเวลากลางวันกับผู้คนมากมาย บรรยากาศดีค่ะ ไม่หลอนเลยค่ะ
*****ยังไม่จบง่าย ๆ นะค่ะ  เรื่องมันยาว*******ใครอยากจะรู้เรื่องกิจกรรมบันเทิงบุญก็รอหน่อยนะค่ะ....
จี๊ดจ๊าด

แสดงความคิดเห็น

สาธุธรรมกับเรื่องเล่าพี่จี๊ดทั้ง 3 ภาคพร้อมเฝ้าคอยภาค 4 อย่างใจจดจ่อ แล้วธรรมะก็ชนะอธรรมเสมอ  โพสต์เมื่อ 2015-3-24 18:22

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:06:21 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้








































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:08:00 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้


























โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
5#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:09:40 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้























โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
6#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:12:43 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้


































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
7#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:15:44 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนญาณทิพย์ เมื่อ 2015-2-23 16:18











































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
8#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:23:13 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้






































































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

518

กระทู้

2634

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
20123
9#
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2015-2-23 16:27:01 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้








โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2024-5-3 15:30 , Processed in 0.789875 second(s), 22 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้