บุญสำเร็จแล้วค่ะดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี และที่จะลืมเสียไม่ได้ก็คือผู้ที่คิดบุญดีดีให้คณะบุญของเรานั้นก็ คือ อ.เจนและคุณรุ้ง ที่จัดกิจกรรมดีดีให้กับผู้ร่วมบุญทุกท่านช่วยกันสืบสานพระพุทธศาสนา ซึ่งบุญนี้ดิฉันเชื่อว่า หาทำได้ยาก แต่เมื่อบุญสำเร็จแล้วก็ต้องอิ่มใจได้บุญกลับไป ทุกท่านค่ะและด้วยกิจกรรมที่ค่อนข้างจะล่อแหลม ระหว่าง ดินแดนความชั่ว “นรก” และดินแดนความดี“สวรรค์” ช่างตรงข้ามเสียนี่กระไร และเป็นที่น่าหวาดเสียวเสียนี่กระไร ในแดนสวรรค์ดิฉันยินดีค่ะอารมณ์สบายๆแต่ถ้าเป็นในดินแดนของนรก นี่แหละค่ะ ช่างล่อแหลมและหวาดเสียว เพราะว่า อ.เจน แอบกระซิบว่าที่นี่มีเปรตสิ่งสถิต อยู่ในรูปปั้นบางตน จำเป็นต้องให้ทีมงานที่คุมรถบัสทุกคนมารักษาศีลเพื่อรักษา จิตใจให้เป็นผู้มีสติไม่ให้สิ่งชั่วร้ายใดใดมาดลใจได้ก่อนการเดินทางหนึ่งวัน
วันเสาร์ที่ 5 เม.ย.57 อ.เจน และคุณรุ้งได้นัดทีมงานมาทำบุญเลี้ยงพระที่วัดบางพลัด ด้วยฝีมือแม่ครัวหัวป่าของ อ.เจนลูกมือ ก็สานุศิษย์ ทั้งหลาย ด้วยความคิดเล็ก ๆ ว่า ผัดผักกระเฉดร้อน ๆ และไข่เจียว ถวายพระ ปรากฏว่า งานงอก ปลาทับทิมทอดกรอบก็มา ขนมก็มา ผลไม้ก็มาและอะไรต่อมิอะไรก็มา มา มากเสียจน อ.เจน ให้ดิฉันไป นิมนต์พระไว้ 3 รูปต้องไปนิมนต์เพิ่มอีก 2 รูป เพราะอาหารมากมายเสียจนต้องนิมนต์เพิ่ม แต่พระท่านกิจนิมนต์กันหมดวัดค่ะและบรรดาทีมงานทั้งหมดก็พากันซื้อช้อน ชาม จาน ถ้วย แก้ว โถข้าว ทัพพี ใส่อาหารถวายทั้งหมดไม่นำกลับค่ะเพราะดิฉันเอง ก็ไม่ค่อยได้ถวายก็เลยกลัวว่าจะไม่มีจาน ชาม ช้อน ใช้ในอีกภพภูมิค่ะเพื่อให้เป็นไป ตามความฝันของคุณรุ้ง
ความฝันของ คุณรุ้ง คุณรุ้งฝันว่า ญาติที่เสียชีวิตไปแล้วมาบอกว่า ในดินแดนที่ไปไม่มีช้อน ทัพพี ไว้สำหรับตักกิน คุณรุ้ง จึงถามคุณป้า ว่าเมื่อคุณป้ามีชีวิตอยู่ทำบุญมาก แต่ทำไมไม่มีช้อน ชามกินเล่าท่านจึงบอกว่าใส่บาตรจริงแต่ไม่ได้ทำช้อน ชาม เท่านั้นแหละค่ะ คุณรุ้ง ก็มาบอกดิฉันและสานุศิษย์พวกเราจึงจัดใหญ่กันค่ะ สำหรับคุณรุ้ง ก็ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวซื้อ กระทะใบบัว หม้อเถาช้อน ชาม ทัพพี ตะหลิว มีด เขียง ที่เปิดกระป๋อง ครบค่ะ ส่วนดิฉันก็ได้ร่วมกับคุณรุ้งตามกำลังค่ะ
วัดแรก (วัดบ้านอ้อ) ชาวบ้านมาต้อนรับ พ่อเฒ่าแม่แก่ ต่างมาต้อนรับมีสีหน้ายิ้มแย้มยินดีที่ คณะบุญมาถึงวัด พร้อมข้าวปลาอาหารที่อ.เจน ได้ชำระหนี้สงฆ์ให้กับวัดเพื่อ ชำระเป็นค่าอาหารให้กับผู้ร่วมบุญทั้งหมดค่ะกินไม่อั้น กินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักกินค่ะ เริ่มด้วยการ ทำบุญทอดผ้าป่าเมรุ และเริ่ม พิธีการถวาย ฉัตรใหญ่ ในพระอุโบสถ (เจ้าภาพ คุณศุภศักดิ์ และคุณพัฒนา กิติศาสตรขจร) ถวายฉัตร เล็ก (เจ้าภาพ คุณโชติรส ภักดีวงษ์, คุณธราเทพ แข็งรักษ์สัตว์, คุณอรสุดา ทองสวัสดิ์, คุณปานรดา สุริยะ และเพื่อนๆ) ถวายฉัตรเงิน ฉัตรทอง (เจ้าภาพอ.เจน แม่ตี้ คุณรุ้ง) และถวายฉัตรเงิน ฉัตรทอง (เจ้าภาพ อ.เจน แม่ตี้ คุณรุ้ง) บุญมีจริงค่ะ ขณะที่ อ.เจน กล่าวคำถวายสังฆทานและฉัตร อยู่นั้นจะมีช่วงหนึ่งที่ อ.เจน กล่าวนำซ้ำ ดิฉันก็คิดว่าทำไม อ.เจน ท่องซ้ำ แต่ในภายหลัง อ.เจนบอกกับดิฉันว่า พี่คิดว่าหนูพูดซ้ำผิดหรือไม่ค่ะ ดิฉันว่าค่ะมีอะไรหรือเปล่าทำไมค่ะ อ.เจน บอกว่า ขณะนั้นมีเสียงพูดว่า ช้าก่อน รอก่อนซึ่งก็รู้ว่าต้องรอ ด้วยเห็นในตาทิพย์ว่า มีเหล่าเทพ เทวดา นางฟ้า ต่างมาร่วมอนุโมทนาบุญในมหากุศลในครั้งนี้มากมาย หลายองค์ และเมื่อเดินออกไปก็มีวงดนตรีมาดีด สี ตี เป่า ในขบวนแห่ให้แก่คณะบุญ ของเราอีกด้วย ดิฉันก็อ้าว อาจารย์ ไม่ได้จ้างมาเหรอค่ะอ.เจน บอกว่า ไม่ได้จ้าง เพิ่มมารู้เหมือนกันค่ะบุญจัดสรรให้ค่ะ วงดนตรีที่มางานเรานี้เขามาเยี่ยมดูอ.เจนญาณทิพย์ เพราะได้ยินชาวบ้านบอกว่า อ.เจน อยู่ที่วัดนี้วงดนตรีวงนี้จะกลับบ้านก็เลยแวะมาดู เห็นว่ากำลังมีการแห่ฉัตรจึงมาร่วมงานและบรรเลงเพลงให้กับคณะบุญ อ.เจน ค่ะ เห็นมั้ย บุญเขาจัดสรรมาให้ค่ะ ห่มผ้าพระ บุญมีจริงค่ะขณะที่ อ.เจน กล่าวคำถวาย
วัดที่สอง (วัดป่าหลักร้อย) เริ่มพิธีถวายผ้าป่าสี แล้วต่างก็ไปเบิกสีไปยังขุมนรกที่คิดว่าเราควรจะไป ส่วนมากสีแดง ที่ต้องใช้ในแดนนรก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าค่ะทุกคนต่างสนุกสนานกับการระบายสี ที่พระท่านบอกว่า ไม่ต้องสวยนั้นแหละค่ะ ดิฉันก็เห็นว่า ตัวเองต้องมีหน้าที่ดูแลสีแต่ใจก็อยากจะไปทาสีกะเขาบ้าง แต่เราต้องอดทน ต่อสู้กับความอยากค่ะ คุณรุ้ง บอกว่า เราต้องรับผิดชอบและเสียสละเพื่อให้งานสำเร็จ แต่ด้วยความที่อยากทาสีเป็นกำลัง จึงคิดว่า เอเราก็อยู่ใกล้พระพรหม ก็ทำความสะอาด องค์ท่านแล้วทาสีแถวนี้ดีกว่า ก็เลยนำแปลงลวดไปขัดทำความสะอาดที่เท้าของ พระแม่อุมาแต่เมื่อยิ่งขัด เท้าพระแม่อุมา ท่านก็ยิ่งด่างเป็นรอยไม่สวยงามหนีกลับมา ตั้งหลักก่อนคิดได้ก็นำสีชั้นดีไปทากลบเท้าท่านให้ดีขึ้นมาแล้วก็พร่ำบอกว่า “ขอโทษเจ้าค่ะ” ๆ กราบลาไปทำที่อื่นดีกว่าเกรงท่านจะโกรธที่ทำให้ท่านไม่ สวยเนื้อท่านถลอก รู้สึกผิดจริง ๆ ค่ะ ไปทาสีพระพรหมดีกว่าว่าแล้วก็ผสมสีฟ้าอ่อน ทาสีผ้านุ่งพระพรหม แต่เมื่อทาไปทามา สีกลับไปเลอะกับสร้อยสังวาลของท่านเสีย อีกโอ้ไม่น่ะ ท่านไม่สวยอีกแล้ว รู้สึกผิดมาก ก็เลยกราบลาด้วยคำขอโทษ ที่ว่า “ขอโทษเจ้าค่ะ”ๆ ทำไงดี หันไปหันมา ก็เห็นชะนี ห้อยหัวอยู่ตัวหนึ่ง เอท่าจะดี เพราะ อ.เจน บอกว่าภพชาติหนึ่งดิฉันเป็นชะนี เราไปทาสีพวกเราดีกว่า สรุปที่ ชะนี ค่ะเพราะทาได้สำเร็จสีสดสวย ชะนี สีฟ้า จัดไปค่ะ
เสียงของท่านพระยามัจจุราช อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ไปทาสีรูปปั้น พระยามัจจุราชอยู่นั้น อ.เจน ได้สื่อจิตถึงท่านโดยถามว่า ลูกได้นำพาผู้คนให้ได้รู้ว่า นรกสวรรค์มีจริง ด้วยสื่อการเรียนการสอนนี้ ลูกได้ทำถูกแล้วหรือไม่เจ้าค่ะ ทันใดนั้น ท่านพระยามัจจุราชได้หัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องกังวาน ว่า ทำดี ทำดี ทำดีแล้ว เราจะไม่เหนื่อยเจ้าทำดี
นรก สวรรค์ บันทึกภาพความดี อ.เจน เล่าให้ฟังว่า ที่แดนนรก อ.เจน ได้เดินไปทาสีรูปปั้นหลายตัว ระหว่างนั้น ได้เห็นด้วยตาทิพย์ว่า ในแดนนรกเขาก็มีการบันทึกภาพกันด้วย ได้มีการบันทึกภาพ แต่ไม่ใช่กล้องถ่ายรูป เป็นการบันทึกภาพค่ะดังนั้น อ.เจน จึงยิ้มให้เขาถ่ายภาพค่ะ ที่แดนสวรรค์ ทุกท่านได้พบเจอกับเหล่าเทวดานางฟ้า ด้วยตาเนื้อแล้วใช่มั้ยค่ะ ไม่ใช่ว่าจะมาใส่ชุดกันเป็นลิเกนะค่ะ แต่เนื่องจากว่า อ.เจน ต้องการให้ทีมงานเป็น ตัวแทนของทุกท่านเป็นเทวดา นางฟ้า ซึ่งจริง ๆ แล้ว ณ สถานที่ดินแดนจุฬามณี แห่งนี้เป็นสรวงสวรรค์จริงสามารถเป็นสื่อในภพภูมิสวรรค์ได้ ซึ่งก็จริงค่ะ เพราะระหว่างที่ อ.เจน นำเดินทักษิณาเวียนรอบโบสถ์3 รอบ นั้น เหล่าเทวดานางฟ้า ต่างก็ร้องกันเซงแซ่ ว่ามนุษย์เขาทำอะไรกันเหล่าเทวดานางฟ้า ก็ร้องกันว่า เร็ว ๆ พวกมนุษย์เขาทำความดี ๆๆ
น่าชื่นใจมั้ยค่ะ การทำความดีของเราครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นนรก-สวรรค์ ก็แซ่ซ้องสรรเสริญ เหล่าเทพเทวาก็ยังอำนวยอวยพรให้แก่มวลมนุษย์ที่ทำความดี และดิฉันก็เชื่อว่าพวกเราทุกคนที่มาร่วมงานบุญนี้ต้องได้บันทึกภาพความดีให้ได้เก็บ เป็นความทรงจำและเป็นเครื่องยืนยันว่าครั้งหนึ่งเราได้ทำความดีอะไร ไว้บ้างเผื่อไว้ค่ะเผื่อนำไปเป็นข้อต่อรองดีมั้ยค่ะ
ท้ายนี้ ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับผู้ที่ร่วมบุญทุกท่านค่่่ะ
|